แชร์

ตอนที่5. สุริยุปราคา

ประชาวางปากกาไวท์บอร์ดบนโต๊ะ แล้วเข้าไปลากเพื่อนที่ดูเหมือนคนสติแตกไปแล้ว ออกไปให้พ้นจากสายตาของนักศึกษาที่อยากรู้อยากเห็น

“เฮ้ย ! วิน แกเป็นบ้าไปแล้วรึ ฉันกำลังสอนนักเรียนอยู่”

เขาเป็นฝ่ายลากธาวินออกมา แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นเขาที่ถูกลากไปจนชิดกำแพงมุมตึก

“ประชา เมื่อวานฉันดูสุริยุปราคากับแกบนดาดฟ้าใช่ไหม”

ธาวินละล่ำละลักถาม สีหน้าร้อนรน แววตาภายใต้กรอบแว่นคาดคั้นอยากรู้คำตอบอย่างเต็มที่

“ใช่”

ดร.ประชา พยักหน้ายืนยันคำตอบด้วยอาการงง ๆ ที่ถูกเพื่อนลากออกมาเพราะถามเรื่องแค่นี้

“แล้วหลังจากนั้นล่ะ หลังจากนั้นฉันไปไหน”

ธาวินแทบจะตะโกนถาม สองมือขยุ้มคอเสื้อเพื่อนสนิทอย่าง        ลืมตัว

“เฮ้ย ! แกเป็นอะไรเนี่ย ปล่อยฉันก่อน ถามกันดี ๆ ก็ได้นี่หว่า”

ดร.ประชาผลักเพื่อนเขาออก จ้องมองคนที่ควบคุมตนเองไม่ได้ เกิดอะไรขึ้นกับเพื่อนของเขา ทำไม รศ.ดร.ธาวิน ผู้เงียบขรึมกลับดูตื่นตระหนกจนผิดปกติ

ธาวินถอยห่างออกมาจากเพื่อน กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ยกมือขึ้นกุมศีรษะ ในหัวสับสนไปหมดคล้ายคนถูกค้อนทุบ

“ใจเย็น ๆ ธาวิน เกิดอะไรขึ้นกับแก ทำไมหลังจากไปพบคณบดีแล้วแกดูเหมือนคนสติแตกแบบนี้”

ดร.ประชาตบบ่าเพื่อนสนิท เป็นเชิงปลอบ

“คณบดีตำหนิฉันเพราะมีนักศึกษาฟ้องร้องที่ฉันหนีคาบสอนเมื่อวาน”

“ถ้าแกไม่อยากถูกตำหนิ แกทำไมไม่บอกให้ฉันไปสอนแทนวะ”

ประชาแนะนำตามประสบการณ์ของตนเองที่มักจะหนีคาบสอนบ่อย ๆ โดยใช้กลวิธีต่าง ๆ เพื่อไม่ให้รู้ถึงหูคณบดี

“แกก็รู้ว่าฉันไม่มีทางทิ้งคาบสอนแน่ ๆ เมื่อวานฉันมั่นใจว่าฉันสอนนักศึกษาแน่ ๆ แต่ทำไมฉันจำอะไรไม่ได้เลยหลังจากที่ดูสุริยุปราคากับแกแล้ว”

“เมื่อวานยังดูสุริยุปราคาไม่ทันไร แกบอกฉันว่ามีนัดกับแฟน จากนั้นแกก็เดินหายไปเฉยเลย”

คำบอกเล่าของเพื่อนสนิททำให้หัวใจเขากระตุกวูบ รู้สึกเสียวสันหลังวาบเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ประหลาดที่เกิดขึ้นกับเขา

“แล้วฉันได้บอกไหม ว่าฉันไปกับใคร”

ธาวินจับไหล่เพื่อนเขย่าเต็มแรง

“ฉันจะไปรู้กับแกได้ไง ฉันตะโกนถามแกคอแทบแตกว่าจะไปไหน แกก็ไม่ยอมตอบ เดินลงจากดาดฟ้าไปทื่อ ๆ”

“แกก็รู้ ! ฉันยังไม่มีแฟน เมื่อวานเกิดอะไรขึ้น ฉันก็จำไม่ได้ แต่สิ่งหนึ่งที่ยืนยันได้ว่าฉันไปทะเลจริงคือมีเม็ดทรายที่พื้นรถฉัน ฉันไม่รู้ว่าฉันไปกับใคร วันนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้าง นี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นกับฉันวะ !” 

ธาวินพรั่งพรูคำพูดออกมาด้วยเสียงพร่าสั่นราวกับจะร้องไห้ เขาเคยกำหนดชีวิตของตนเองได้ทุกอย่างให้เป็นไปตามแผนที่วางเอาไว้ แต่เมื่อเจอสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น เขาก็แทบจะทำอะไรไม่ถูก

“เฮ้ยใจเย็น ๆ นะ”

ดร.ประชา ตบบ่าเพื่อนเบา ๆ เป็นเชิงปลอบใจ เป็นครั้งที่สองแล้วที่เขาได้เอ่ยคำคำนี้กับเพื่อนที่ไม่เคยทำอะไรผิดพลาดเลยตั้งแต่คบกันมา

“แกพึ่งจะเคยทำผิด คณบดีก็เลยตำหนิรุนแรงไปสักหน่อย ลองเป็นฉันทำดูสิ คณบดีก็คงเห็นเป็นเรื่องปกติ ฮ่า ๆ”

คนขี้เล่นพยายามพูดให้คนข้างตัวหัวเราะเพื่อหวังว่าเขาจะผ่อนคลายขึ้น  แต่กลับกลายเป็นว่าเพื่อนเขาคิ้วขมวดขึ้นกว่าเดิม หนำซ้ำยังส่งสายตาดุ ๆ มาให้เขาแทนเสียงหัวเราะอีกต่างหาก 

ดร.ประชา จึงกระแอมขึ้นทีหนึ่งแล้วพูดอย่างเป็นงานเป็นการว่า

 “บางที ช่วงนี้แกอาจจะเครียดเรื่องการทำวิจัยเพื่อขอตำแหน่งศาสตราจารย์ก็ได้ จึงทำให้ความทรงจำเสื่อมชั่วขณะ  ลองคิดดี ๆ เมื่อวานแกอาจจะไปกับหมอเกดก็ได้”

ธาวินมองหน้าเพื่อนอย่างครุ่นคิด  ดร.ประชา จึงยกเหตุผลเพื่อประกอบคำตอบของตนเองให้ดูมีน้ำหนักมากขึ้นว่า

“ก็ช่วงนี้ฉันเห็นแกไปไหนมาไหนกับหมอเกดบ่อย ๆ อย่าบอกนะว่าแกลืมไปแล้วว่าตามจีบหมอเกดอยู่”

คำแนะนำของเพื่อนทำให้เขาเหมือนเห็นแสงสว่างรำไรอยู่ตรงหน้า ดวงตาเขาค่อย ๆ เบิกกว้างออก ก่อนจะหลุดคำออกมาว่า

“จริงด้วย ขอให้ฉันไปกับหมอเกดจริง ๆ เถอะ”

หากเขาไปกับหมอเกดจริง ๆ ก็ถือว่าเขาเครียดจนจำอะไรไม่ได้ชั่วขณะ เขาก็พอจะยอมรับได้

แต่หากไม่ใช่.......  

ชายหนุ่มเมื่อนึกถึงข้อนั้นก็ถึงกับกลืนน้ำลายแข็ง ๆ ลงคออย่างยากลำบาก เขาไม่อยากจะเดาคำตอบต่อจากนั้นแม้แต่น้อย

“งั้นฉันว่า แกลองไปถามหมอเกดดีไหม แกจะได้สบายใจ          ส่วนคาบสอนช่วงบ่ายเดี๋ยวฉันเครียส์ให้ เรื่องแบบนี้ประสบการณ์ฉันเยอะ          ฮ่า ๆ” 

ดร.ประชา ตบไหล่เพื่อน ที่พยายามฝืนยิ้มให้เขา  จากนั้นเขาก็รีบกลับไปสอนต่อ  เมื่อแยกกันกับเพื่อน ธาวินก็โทรศัพท์ไปหาหมอเกดทันที

ธาวินนัดหมอเกดมารับประทานอาหารเที่ยงที่ร้านสเต๊กใกล้ ๆ กับมหาวิทยาลัย เขามานั่งรอที่ร้านก่อน พร้อมกับสั่งสเต๊กและเครื่องดื่มไว้ เหมือนกับที่เคยทำ เมื่ออาหารที่สั่งไว้มาเสิร์ฟ หมอเกดก็มาถึงพอดี

วันนี้เขาเลือกที่นั่งห่างจากโต๊ะอื่น ๆ พอสมควร เพื่อที่จะได้คุยเรื่องที่เขาไม่อยากให้ใครรู้ได้สะดวกมากขึ้น

“สวัสดีค่ะ อาจารย์ธาวิน”

หญิงสาวเอ่ยทักทาย พร้อมกับส่งยิ้มหวานให้ชายหนุ่ม ผมสีน้ำตาลเข้มดัดเป็นรอนสวยรับกับใบหน้ารูปไข่ คิ้วถูกวาดจนโก่งโค้งสวย ดวงตาฉ่ำหวานภายใต้ขนตายาวที่ดูดัดจนงอนเป็นแพขึ้นอย่างสวยงาม

รูปร่างอรชรอ้อนแอ้นราวกับนางแบบนั่งลงฝั่งตรงข้ามกับ            ชายหนุ่มอย่างคนคุ้นเคยกัน โดยที่ไม่ต้องรอให้เขาเชิญนั่ง หากไม่มี        เสื้อกาวน์ตัวสั้นสีขาวที่บ่งบอกว่าเป็นหมอ ใครต่อใครก็คงคิดว่าเธอเป็นนางแบบ หรือไม่ก็คนดังในวงการไฮโซแน่ ๆ เพราะไม่ว่าจะเป็นกระเป๋า รองเท้า หรือแม้แต่เสื้อผ้าที่เธอสวมใส่ล้วนเป็นของแบรนด์เนมทั้งสิ้น ราคาเครื่องประดับและชุดแต่งตัวในแต่วันหลายแสนบาท

“ครับ”

เขารับคำทักทายสั้น ๆ พร้อมกับถามหญิงสาวว่า

“อาหารที่สั่งไว้มาพอดีเลย หมอเกดจะสั่งอะไรเพิ่มไหม ?” 

เขาฝืนยิ้มให้เธอ เพราะในหัวของเขายังมีเรื่องให้กังวลอยู่

“เท่านี้ก็เยอะแล้วค่ะ สเต๊กจานเดียวก็ห้าร้อยกว่าแคลอรีแล้ว         นะคะ ขืนสั่งเพิ่มเย็นนี้เกดต้องออกกำลังกายเบิร์นไขมันจนไม่ได้นอนแน่ ๆ ค่ะ”

หญิงสาวปฏิเสธยิ้ม ๆ เธอเป็นคนรักสวยรักงามและรักสุภาพ ยิ่งเรียนด้านสุภาพเธอยิ่งรู้ว่าอาหารบางชนิดควรกินแต่พอดี

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status