Home / รักโบราณ / กำราบรักท่านหญิงจอมพยศ / ตอนที่11 บุตรสาวอิ่งซื่อลองดี

Share

ตอนที่11 บุตรสาวอิ่งซื่อลองดี

last update Last Updated: 2025-04-11 12:01:55

เวลาไหลไปราวสายน้ำ จากวสันต์สู่คิมหันตฤดู แม้ดวงอาทิตย์จะสาดแสงให้ความอบอุ่นไปทั่วแคว้น ทว่าภายในใจของจ้าวกุ้ยอินยังคงหนาวเหน็บไม่ต่างจากฤดูเหมันต์ แม้ว่ายามนี้บาดแผลของนางจะดีขึ้นมาก แต่ก็ยังรู้สึกเจ็บแปลบในบางครั้ง

แต่เจ็บกาย หรือจะสู้เจ็บในทรวง

จ้าวกุ้ยอินทอดถอนหายใจอย่างไร้สุ้มเสียง ทุกอย่างกลับตาลปัตรไปหมด

ยามนี้สตรีที่ผู้ใหญ่เคยสนับสนุนให้แต่งงานกับฉินอ๋องเช่นนางกำลังนอนป่วยอยู่ในห้องอันอ้างว้าง ในขณะที่บุตรีแม่ทัพใหญ่กลายเป็นฉินหวางเฟย

นี่กระมังที่โบราณกล่าวไว้ว่า ความแน่นอน คือความไม่แน่นอน

ไม่ว่าจะเป็นความงดงาม เสียงชื่นชม และสถานะสูงส่งเหนือสตรีคนอื่น ๆ ไม่ได้ช่วยให้นางได้ร่วมชีวิตกับมู่เลี่ยงหรง

จ้าวกุ้ยอินไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าหากไม่ได้แต่งเข้าจวนฉินตนเองจะเป็นเช่นไร และเมื่อหนทางชีวิตได้เปลี่ยนไปแล้ว นางคงมีแต่ต้องยอมรับใช่หรือไม่

ภายในห้องเงียบงัน ไม่มีเสียงตอบจากสวรรค์ หรือนรก...

มีเพียงร่างบอบบางที่หัวเราะเยาะหยันในความโง่งมของตนเอง

ในขณะที่จ้าวกุ้ยอินกำลังจมจ่อมกับความรู้สึกเศร้าสร้อย บ่าวอาวุโสผู้หนึ่งก็ก้าวเข้ามาภายในห้องแล้วเดินไปเปิดหน้าต่างทุกบาน เสร็จแล้วก็จัดการเก็บม่านกั้นเตียงเกี่ยวไว้บนตะขอ

ใบหน้าที่มีรอยยับย่นแขวนไว้ด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน พอเห็นว่านายหญิงของตนตื่นดีแล้ว ก็ปรบมือสองสามครั้ง ทันใดนั้นชิวสุ่ย ชิวอิง และชิวเยวี่ย ต่างพากันเดินเรียงแถวเข้ามา แล้วหยุดยืนที่หน้าเตียงหลังใหญ่ บ้างถืออ่างน้ำ บ้างก็ถืออาภรณ์สำหรับผลัดเปลี่ยนมาด้วย

“ทูนหัวของบ่าว อย่ามัวแต่นอนอยู่เลย ดูซิ บ่าวไปถือศีลให้เพียงไม่กี่เดือน เด็ก ๆ พวกนี้กลับปล่อยปละให้ท่านนอนบนเตียงอย่างเดียว แบบนี้จะหายป่วยได้อย่างไร”

“แม่นม...” น้ำเสียงสั่นเครือเล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากแห้งแตก

“เจ้าค่ะ บ่าวกลับมาแล้ว”

บ่าวอาวุโส หรือแม่นมจางนั่งลงที่ขอบเตียง ค่อย ๆ ประคองร่างบอบบางที่นอนอยู่ให้ลุกขึ้นนั่ง พอจ้าวกุ้ยอินเห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเมตตาและห่วงใยก็โผเข้ากอดอีกฝ่ายแน่น

นอกจากบิดากับอวี้หรูเหรินแล้ว คนที่นางรักและไว้ใจมากที่สุดคงไม่พ้นแม่นมผู้นี้

“ไม่เป็นไรนะเจ้าค่ะ แม่นมกลับมาแล้ว”

แต่ไหนแต่ไรจ้าวกุ้ยอินไม่ใช่คนขี้แย นั่นยิ่งทำให้แม่นมจางรู้สึกเป็นห่วงอย่างยิ่ง คนเราจะสามารถอดทนกับความเจ็บปวดและเสียใจได้นานเท่าไร

การร้องไห้เพื่อระบายสามารถทำให้จิตใจได้ผ่อนคลายลง ทว่าท่านหญิงเป็นคนมีทิฐิ อีกทั้งยังดื้อดึงนัก หากไม่ถึงที่สุดย่อมไม่มีทางร้องไห้ให้ผู้ใดได้เห็น

ครั้งนี้ก็เช่นกัน แม้ร่างผอมบางจะสั่นสะท้าน แต่กลับไม่มีน้ำตาแม้สักหยด

นายบ่าวกอดกันอยู่พักหนึ่ง เมื่อจ้าวกุ้ยอินสงบใจได้แล้วจึงคลายอ้อมแขนออก จากนั้นค่อยขยับกายไปนั่งหย่อนขาที่ข้างเตียง นางกำนัลคนสนิททั้งสามค่อย ๆ ก้าวเข้ามาปรนนิบัตินางทำธุระเช้าทีละคน

หลังจากผลัดเปลี่ยนอาภรณ์เรียบร้อยแล้ว แม่นมจางก็ให้ชิวสุ่ยประคองนายหญิงไปแต่งหน้าทำผมที่โต๊ะเครื่องแป้ง แต่เวลานี้จ้าวกุ้ยอินไม่มีกะจิตกะใจที่จะแต่งองค์ทรงเครื่องเหมือนเช่นปกติ จึงสั่งให้ชิวสุ่ยทำทรงผมง่าย ๆ กับแต่งหน้าให้นางเล็กน้อยเท่านั้น

ชิวสุ่ยรับคำสั่ง จากนั้นก็ลงมือมวยผมของนายหญิงขึ้นครึ่งศีรษะ ก่อนจะปักปิ่นหยกสลักลายขนนกลงไป ปล่อยให้เส้นผมส่วนที่เหลือทิ้งตัวลงมาดุจม่านน้ำตก

เพื่อให้ใบหน้าซูบซีดมีสีสันขึ้นมา ชิวสุ่ยจึงเลือกผัดแป้งและทาชาดบาง ๆ อย่างเป็นธรรมชาติมากที่สุด ส่งผลให้จ้าวกุ้ยอินในเวลานี้ดูอ่อนหวาน และบอบบางราวแก้วเจียระไน

“ท่านหญิง บ่าวว่าอย่ามัวแต่อุดอู้อยู่ในนี้เลย ไม่สู้ออกไปเดินเล่นข้างนอกดีกว่า หากท่านได้ไปสูดอากาศในสวนสุขภาพจะต้องดีวันดีคืนแน่นอนเจ้าค่ะ” ชิวสุ่ยยิ้มเอ่ย นางหวังให้ผู้เป็นนายหญิงรู้สึกดีขึ้น และคิดว่าบรรยากาศสดชื่นรื่นรมย์จากภายนอกจะช่วยได้

“หลังรับประทานอาหารช้าแล้ว ยังต้องดื่มยาอีก สุดท้ายก็ง่วง ข้าว่าอยู่ในห้องนี่แหละดีแล้ว ไม่ต้องเสียเวลาไปไหนหรอก”

“ท่านหมอบอกว่าร่างกายของท่านหญิงแข็งแรงขึ้นมาก หากต้องการเดินเล่น หรืองีบสักพักในสวนก็ไม่เป็นอะไรแล้วเจ้าค่ะ”

“แต่ว่า...”

“ไปเถิดเจ้าค่ะ” ชิวสุ่ยยังคงไม่ยอมแพ้ พยายามชักชวนจ้าวกุ้ยอินด้วยท่าทางกระตือรือร้น เห็นแบบนี้ผู้เป็นนายหญิงจะไม่ใจอ่อนได้อย่างไร

“ก็ได้...ประเดี๋ยวให้ใครเอาเก้าอี้กุ้ยเฟยไปวางไว้ที่ใต้ต้นหลิวก็แล้วกัน ข้าจะไปพักผ่อนตรงนั้นสักหน่อย”

ได้ยินดังนั้นชิวสุ่ยก็หันไปส่งสายตาให้ชิวอิงกับชิวเยวี่ย นางกำนัลผู้รู้งานทั้งสองก็พากันออกไปที่ห้องด้านหน้า ช่วยกันยกเก้าอี้กุ้ยเฟยออกไปตั้งยังบริเวณที่นายหญิงของตนต้องการทันที

ไม่นานนักแม่นมจางก็เข้ามาแจ้งว่าเตรียมสำรับเช้าเรียบร้อยแล้ว วันนี้นางลงมือทำอาหารบำรุงร่างกายให้ท่านหญิงด้วยตนเอง จ้าวกุ้ยอินชอบรสมือของแม่นมผู้นี้ที่สุด ใบหน้างามสะคราญจึงปรากฏรอยยิ้มพึงใจ

เมื่อเห็นความปีติฉายในดวงตาคู่สวย บรรดาสาวใช้ในเรือนอิงฮวาล้วนดีใจกันถ้วนทั่ว ดูท่าอีกไม่นานท่านหญิงคงจะกลับมาร่าเริงดังเก่า

หลังรับประทานอาหารเช้าเสร็จ จ้าวกุ้ยอินที่ทนคำรบเร้าของชิวสุ่ยไม่ไหว จำต้องยินยอมให้อีกฝ่ายประคองตนเองออกมานั่งรับลมที่ใต้ต้นหลิวริมสระน้ำข้างเรือนอิงฮวา

พอได้ออกมาจากห้องนอนจริง ๆ นางถึงได้รู้สึกตัวว่าร่างกายเคลื่อนไหวติดขัด เรี่ยวแรงก็หดหายไปมากเหลือเกิน จึงเห็นควรว่าตนเองต้องมาเดินออกกำลังกายในสวนให้มากหน่อย

ชิวอิงกับชิวเยวี่ยเตรียมทุกอย่างไว้พร้อมสรรพ ใต้ต้นหลิวมีเก้าอี้กุ้ยเฟยกับโต๊ะเล็ก ๆ ที่วางขนมกับป้านชาไว้ ชิวสุ่ยประคองจ้าวกุ้ยอินให้นั่งลง

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • กำราบรักท่านหญิงจอมพยศ   ตอนที่12 ทุ่มหินลงน้ำ

    สายลมโชยปัดผ่านใบหน้าที่ยังดูซีดเซียว เรือนผมมันเงาพลิ้วไหว ชายอาภรณ์สีขาวปักลายดอกโบตั๋นอันประณีตสะบัดเบา ๆ จ้าวกุ้ยอินหลับตาพริ้ม สูดกลิ่นหอมสดชื่นของบุปผาที่ลอยคละเคล้ามาอยู่เงียบ ๆ ทำให้นางในยามนี้ทั้งงดงามและดูเปราะบางยิ่งสตรีร่างอรชรเอนกายลงนอนบนเก้าอี้กุ้ยเฟยในบรรยากาศอันเงียบสงบ ดูงามพิลาสอ่อนหวานราวกับภาพในจินตนาการของเหล่ากวี หากบุรุษใดได้ยลย่อมตกอยู่ในบ่วงเสน่หาบนต้นไม้ แววตาล้ำลึกคู่หนึ่งจดจ้องสตรีที่กำลังม่อยหลับโดยไม่รู้ตัวครั้นเห็นสีหน้าของจ้าวกุ้ยอินดีขึ้นแล้วผู้มาก็แอบโล่งใจ เพราะก่อนหน้านางเอาแต่เก็บตัวอยู่ในเรือน ไม่ยอมพบหน้าผู้ใด ยามนี้ยอมออกมารับสายลมแสงแดด ดูท่าคงทำใจกับเรื่องของฉินอ๋องได้บ้างแล้วกระมังเดิมทีที่ได้ยินข่าวลือว่าธิดาจ้าวอ๋องเคยกระโดดสระบัว เพราะไม่ยอมแต่งงานกับหานอ๋อง สร้างความกังวลให้เขาอย่างมาก กลัวว่านางจะทำอะไรไม่คิดอีก แต่ดูเหมือนว่าตนเองจะประเมินสตรีผู้นี้ผิดไป ครานี้จ้าวกุ้ยอินไม่ได้พยายามฆ่าตัวตาย ไม่แม้จะร้องไห้โวยวาย หรือทำตัวน่าสมเพชในเมื่อนางรู้จักรักตนเองเช่นนี้ เขาก็ควรเลิกห่วงและจากไปเสียทีแม้ว่าจะคิดเช่นนั้น แต่นัยน์ตาเหยี่ยวก

    Last Updated : 2025-04-11
  • กำราบรักท่านหญิงจอมพยศ   ตอนที่13 จะไม่เป็นปัญหาหรือเจ้าค่ะ

    “ว่าแต่...ว่าแต่ หลังของพี่หญิงใหญ่... แบบนี้ จะไม่เป็นปัญหาหรือเจ้าค่ะ” จ้าวกุ้ยหลินยกชายแขนเสื้อขึ้นบังริมฝีปาก ทำราวกับกำลังพูดเรื่องที่ไม่น่าฟังอยู่กระนั้น“นั่นสิ ปกติสตรีที่มีรอยแผลเป็น บุรุษที่ไหนจะกล้ามาสู่ขอกันเล่า” จ้าวกุ้ยชิงเอ่ยออกมาด้วยใบหน้าราวกับเด็กสาวใสซื่อ แต่นัยน์ตาสีอ่อนเจือแววเย้ยหยันบาง ๆ“ดูพูดเข้า พี่หญิงใหญ่ช่วยชีวิตฉินอ๋องเอาไว้เชียวนะ อีกไม่นานคงมีข่าวดีเป็นแน่”“ข้าก็หวังว่าฉินอ๋องจะไม่ถือสาเรื่องแผลเป็นของพี่หญิงใหญ่ แล้วรีบส่งเกี้ยวเจ้าสาวมาในเร็ววัน หาไม่แล้ว...” จ้าวกุ้ยชิงสงวนวาจาไม่กล่าวต่อจนจบ แสดงทีท่าคล้ายห่วงใย แต่แววตาเต็มไปด้วยการเยาะหยัน“เจ้าจะห่วงเรื่องนั้นไปไย พี่หญิงใหญ่เป็นถึงธิดาจ้าวอ๋อง ต่อให้ฉินอ๋องถือสาและบ่ายเบี่ยง ก็คงมีขุนนางขั้นสองขั้นสามที่ไม่ถือสาส่งแม่สื่อมาทาบทามบ้างกระมัง”“หากไม่มีเล่า พี่หญิงใหญ่จะทำเช่นไร”สองพี่น้องธิดาชายารองคนหนึ่งร้องคนหนึ่งรับ ได้มาเห็นจ้าวกุ้ยอินนั่งนิ่งเถียงไม่ออก ก็แทบจะเก็บรอยยิ้มสาแก่ใจเอาไว้ไม่อยู่ ยิ่งพูดเท่าไหร่ ยิ่งไม่น่าฟังเท่านั้น ลืมสถานะของตนเองไปเสียสนิทดี... ดีมาก ที่แท้พวกนางก็ต้องการ

    Last Updated : 2025-04-11
  • กำราบรักท่านหญิงจอมพยศ   ตอนที่14 แล้วข้าเลือกอะไรได้ไหม?

    จวนจ้าวอ๋อง เรือนเหลียนฮวาหลังจากจ้าวกุ้ยอินสั่งลงโทษจ้าวกุ้ยหลินกับจ้าวกุ้ยชิงให้คุกเข่าและคัดบัญญัติสตรีในห้องบูชาบรรพชน ทันทีที่ได้ข่าวเจียงอิ้งซื่อก็รีบแล่นไปขอร้องอวี้หรูเหรินให้ช่วยเหลือ“หลินเอ๋อร์กับชิงเอ๋อร์มีน้ำใจไปเยี่ยมเยียนพี่สาวที่ได้รับบาดเจ็บแท้ ๆ แต่กลับต้องถูกลงโทษ พี่สาวจะต้องช่วยพวกนางนะเจ้าค่ะ” เจียงอิ้งซื้อสะอึกสะอื้น สีหน้าแววตาดั่งผู้ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมอวี้หรูเหรินถอนหายใจเบา ๆ ในส่วนลึกมิได้เห็นใจสตรีที่ทำท่าอ่อนแอตรงหน้าแม้แต่น้อย เพราะรู้นิสัยใจคอของสามแม่ลูกนี้ดี พอเห็นอินเอ๋อร์ของนางกำลังย่ำแย่ จึงคิดเข้าไปซ้ำเติมโดยลืมสถานะของตนเอง เช่นนี้ก็สมควรถูกสั่งสอนแล้วมิใช่หรือ“หากหลินเอ๋อร์กับชิงเอ๋อร์รู้สถานะและวางตัวเหมาะสม ไหนเลยจะถูกลงโทษ เพราะแต่ไหนแต่ไรมาท่านหญิงก็ไม่เคยรังแกบุตรอนุภรรยาในจวน”“พวกนางยังเด็กไม่รู้ความ คงไม่ได้ตั้งใจทำให้ท่านหญิงขุ่นเคือง”“ตั้งใจหรือไม่ไม่สำคัญ ตอนนี้คนก็ถูกสั่งลงโทษไปแล้ว ถึงแม้ท่านอ๋องจะให้อำนาจการจัดการเรือนหลังแก่ข้า แต่ว่าสถานะก็เป็นเพียงหรูเหริน ไหนเลยจะหาญกล้ายับยั้งคำสั่งของท่านหญิง”“พวกนางสองคนเคยได้รับควา

    Last Updated : 2025-04-11
  • กำราบรักท่านหญิงจอมพยศ   ตอนที่15 อย่าโมโหไปเลย

    เมื่อได้เห็นรอยยิ้มจาง ๆ กับน้ำเสียงใสกระจ่างไร้ความขุ่นเคือง อวี้หรูเหรินจึงคว้ามือขาวผ่องของจ้าวกุ้ยอินมากอบกุมเอาไว้ แล้วตบเบา ๆ จากนั้นจึงชวนสนทนาเข้าเรื่องที่ตนรับปากผู้อื่นมาเป็นธุระจัดการ“มิน่าอินเอ๋อร์ถึงได้ดูอารมณ์ดีเยี่ยงนี้ ที่แท้ก็ออกไปรับอากาศบริสุทธิ์มานี่เอง แต่...เหตุไฉนจึงมีคำสั่งลงโทษคนออกไปได้เล่า?”“เจียงอิ่งซื่อไปรบกวนท่าน?” จ้าวกุ้ยอินเลิกคิ้ว เค้นเสียงหึออกมาทีหนึ่งแล้วกล่าวต่อ “เป็นนางไม่รู้จักอบรมบุตรสาวของตนเองให้ดี จนหลินเอ๋อร์กับชิงเอ๋อร์กลายเป็นคนไม่รู้ความเยี่ยงนี้ ยังมีหน้าไปขอให้ท่านช่วยอีก”“อย่างไรนางก็เป็นมารดาผู้ให้กำเนิด ย่อมต้องห่วงใยบุตรสาวของตนเป็นธรรมดา เจ้าก็อย่าโมโหไปเลย”จ้าวกุ้ยอินหรี่ตา ใบหน้าพลันบูดบึ้ง “หรูเหรินคิดว่าข้าทำเกินไป?”“มิได้ พวกนางเหิมเกริมถึงเพียงนั้น แค่ให้นั่งคุกเข่ากับคัดบัญญัติสตรีก็นับว่าเป็นโทษสถานเบา แต่...” อวี้หรูเหรินหยุดคำพูดไว้เพียงเท่านั้น แล้วก้มหน้าลงประหนึ่งว่าไม่กล้าเอ่ยจ้าวกุ้ยอินเห็นเช่นนั้นก็อดถามออกไปไม่ได้ “แต่อะไร?”อวี้หรูเหรินเงยหน้าขึ้นพลางบีบมือจ้าวกุ้ยอิน แล้วกล่าวเสียงเบา “ห้องนั้นทั้งมืดทึบ อ

    Last Updated : 2025-04-11
  • กำราบรักท่านหญิงจอมพยศ   ตอนที่16 เกลียดไม่ลง

    มู่เลี่ยงหรงโหดร้ายถึงเพียงนี้ เหตุใดจ้าวกุ้ยอินจะไม่คับแค้นเล่า แต่รู้ทั้งรู้ก็ยังเกลียดเขาไม่ลง เพราะที่ทุกอย่างออกมาในรูปนี้ ส่วนหนึ่งก็มาจากความหุนหันพลันแล่นของนางในอดีตฉินอ๋องเป็นบุคคลที่มีความสำคัญอันดับต้น ๆ ของแคว้นหาน เปรียบเสมือนพระเนตรพระกรรณของฮ่องเต้ บุรุษผู้นั้นย่อมต้องพิจารณาสตรีที่จะรับเข้ามาอยู่ข้างกายอย่างละเอียดถี่ถ้วน และสตรีขี้หึงก็ไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีจ้าวกุ้ยอินถอนหายใจแผ่วเบาราวกับไร้เรี่ยวแรงหากในวันวานนางรักษากิริยา ไม่อาละวาดทำร้ายถางซือเซียน ตนเองย่อมเป็นสตรีที่งดงามและเพียบพร้อมในสายตาของบุรุษผู้นั้น หาใช่คนปากคอเราะราย นิสัยร้ายกาจ ไม่เหมาะเป็นพระชายาของจวนฉินอย่างทุกวันนี้“ญาติผู้พี่ต้องการให้อินเอ๋อร์...” รอยยิ้มขมขื่นปรากฏบนดวงหน้า นัยน์ตาประกายหยดน้ำสั่นระริก พยายามยามข่มกลั้นความรู้สึกอัดอั้นอันจุกแน่นอยู่ที่ลำคอ แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาแทบไม่ได้ยิน “ตัด...ตัดใจ”ครั้นเห็นนัยน์ตาพราวระยับไหววูบ ความผิดหวังฉายชัดจนพาให้ปวดใจตาม อวี้หรูเหรินรีบดึงจ้าวกุ้ยอินมากอดปลอบประโลม นึกเกลียดตนเองที่ยามนั้นเห็นดีเห็นงามไปกับไทเฮาและจ้าวอ๋อง ในอดีตหากทุกคน

    Last Updated : 2025-04-11
  • กำราบรักท่านหญิงจอมพยศ   ตอนที่17 ข้าเป็นเพียงแค่...

    ภายในจวนจ้าวอ๋องสงบเป็นอย่างยิ่ง ไม่มีเรื่องใดให้จ้าวกุ้ยอินเคืองใจอีก ยกเว้นเพียงร่างกายที่ไม่แข็งแรงดุจเดิมพิษร้ายส่งผลให้ท่านหญิงป่วยกระเสาะกระแสะ ด้วยเหตุนี้จึงไม่ได้ย่างเท้าออกจากจวนไปร่วมสังสรรค์กับตระกูลไหนทั้งสิ้น รวมไปถึงงานล่าสัตว์ประจำปีของวังหลวงด้วยก่อนเดินทางไปร่วมงานล่าสัตว์ จ้าวเฟิงเหลยสัญญาว่าจะล่าจิ้งจอกสำหรับทำผ้าพันคอมาให้ จ้าวกุ้ยอินยิ้มแย้มประจบประแจง รู้สึกสดชื่นขึ้นทันที เพียงนึกเสียดายที่ปีนี้ไม่มีโอกาสได้ชื่นชมฝีมือการล่าสัตว์ของฉินอ๋อง และเหล่าขุนนางผู้มีฝีมือคนอื่น ๆ ทำได้เพียงยืนส่งบิดากับพี่ชายจากไปตรงหน้าประตูจวนยามนี้จ้าวกุ้ยอินใช้ชีวิตอย่างสงบ ไม่ได้รับรู้ถึงคลื่นลมที่เกิดขึ้นภายนอกแม้แต่น้อยจนกระทั่งจ้าวอ๋องกับจ้าวจวิ้นอ๋องกลับมาจากลานล่าสัตว์ คล้ายกับว่าทุกอย่างรอบกายพวกเขาดูตึงเครียดยิ่งนักทั้งบิดาและพี่ชายทำเหมือนมีเรื่องอยากจะพูดกับจ้าวกุ้ยอิน แต่ก็ไม่เอ่ยออกมา สีหน้าท่าทางราวกับคนที่กำลังกังวลใจแต่แล้วความสงสัยก็ถูกคลี่คลาย เมื่อชิวเยวี่ยสืบข่าวได้ว่าพี่ชายใหญ่ของนางทะเลาะเบาะแว้งกับเยี่ยนจิ้นหลิงเรื่องถางซือเซียน เป็นเหตุให้ฮ่องเต้ทรงไม่พอ

    Last Updated : 2025-04-11
  • กำราบรักท่านหญิงจอมพยศ   ตอนที่18 มีสิ่งใด

    “ลูกไม่เป็นไรแล้วเจ้าค่ะ นอกเสียจากตอนอากาศเย็นจะรู้สึกปวดแผลเล็กน้อย นอกเหนือจากนั้นก็ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงแล้ว”“ดี ในเมื่อแข็งแรงแล้วก็ดี” จ้าวอ๋องฝืนยิ้มกล่าว ขณะวางจอกชาลงบนโต๊ะตัวเล็ก“ท่านพ่อ มีสิ่งใดก็เอ่ยกับลูกมาตามตรงเถิดเจ้าค่ะ” จ้าวกุ้ยอินเอ่ยอย่างรู้ทันจ้าวอ๋องถอนหายใจเฮือกใหญ่ และกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึมเป็นที่สุด “ผลจากการสอบสวน ตระกูลจ้าวพ้นทุกข้อกล่าวหา พวกเรามิได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีลอบสังหารผู้แทนพระองค์” พอถึงตรงนี้จ้าวอ๋องแลเห็นประกายความหวังบนดวงตาคู่สวยของธิดา แม้ไม่อยากทำร้ายใจ ก็ต้องพูดความจริงส่วนที่เหลือออกไป “แต่เนื่องจากเหตุวุ่นวายในจวนฉินอ๋อง เขาจึงประกาศไม่รับพระชายารอง หรืออนุเพิ่มอีกแล้ว”ประกายแสงในดวงตาคู่งามดับวูบ เหลือเพียงความอ้างว้างว่างเปล่า “หมายความว่า...”“ฉินอ๋องไม่มีวาสนาได้ครองคู่กับลูกสาวที่แสนดีของพ่ออย่างไรเล่า” สีหน้าของผู้เป็นบิดาไม่ได้ดีไปกว่าธิดาของตนเองเลยจ้าวกุ้ยอินค้นพบว่าถึงจะรู้สึกผิดหวังอยู่บ้าง แต่ก็ไม่มากเท่าก่อนหน้านี้เมื่อทุกอย่างเป็นไปตามที่ตนเองคาดการณ์ไว้ตั้งแต่แรก จ้าวกุ้ยอินที่ไม่อยากเห็นบิดาทุกข์ใจกับเรื่องของนา

    Last Updated : 2025-04-11
  • กำราบรักท่านหญิงจอมพยศ   ตอนที่19 นี่หมายความว่าอย่างไร

    “ท่านพ่อ พี่ชายใหญ่ นี่หมายความว่าอย่างไร อย่าบอกนะว่าเยี่ยนหยางจงคือบุรุษที่พวกท่านเห็นว่าเหมาะสมคู่ควรกับข้า”“อินเอ๋อร์ใจเย็น ๆ ก่อน เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของท่านพ่อ เวลานั้นพวกเราพยายามทัดทานแล้ว แต่ไม่สามารถขัดพระราชประสงค์ได้” จ้าวเฟิงเหลยรู้ว่าน้องสาวของตนเองรู้สึกเช่นไร จะไม่ให้นางโกรธแค้นคงไม่ได้ แต่งกับผู้ใดไม่แต่ง ดันต้องตกเป็นเจ้าสาวพี่ชายของสตรีที่เปรียบเสมือนศัตรูหัวใจเยี่ยงนี้ เป็นตนเองก็คงเดือดดาลไม่แพ้กัน“เวลานั้น?” คิ้วเรียวพลันขมวดเป็นปม จากคำพูดของพี่ชายแสดงว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้น“พ่อ... พ่อ...” จ้าวอ๋องรู้สึกละอายและเป็นทุกข์ใจอย่างยิ่ง ที่ตนเองไร้สามารถ จนไม่อาจเอ่ยคำใดออกมาได้อีก“ไหน ๆ ราชโองการถูกประกาศออกมาแล้ว พวกท่านก็เล่าความจริงออกมาเถิด อย่างน้อยข้าจะได้รู้ว่าตนเองต้องตกมาอยู่ในสภาพเช่นนี้ได้อย่างไร” ใบหน้างามสะคราญแดงก่ำ ดวงตาฉายแววโทสะเต็มที่ ริมฝีปากเม้มแน่นจนเป็นเส้นตรง นางมองพี่ชายสลับกับผู้เป็นบิดา แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบจ้าวเฟิงเหลยมองหน้าบิดาพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่ จากนั้นจึงก้าวเข้าไปเบื้องหน้าผู้เป็นน้องสาว“งานล่าสัตว์ปีที่ผ่านม

    Last Updated : 2025-04-11

Latest chapter

  • กำราบรักท่านหญิงจอมพยศ   ตอนที่22 แม่ทัพน้อยข่มภรรยา

    “แน่นอนว่าท่านหญิงจะต้องรู้สึกชื่นชมในตัวท่าน ที่สรรหาของหมั้นล้ำค่าเช่นนี้มาเพื่อนางโดยเฉพาะ ซื่อจื่อไม่คิดหรือว่าข้อเสนอของอี้หวายนั้นเทียบไม่ได้กับหนึ่งรอยยิ้มของว่าที่ฮูหยิน” มู่หรงอี้หวายกล่าวต่อด้วยวาจาไหลลื่นดุจวารี ริมฝีปากยกยิ้ม น้ำเสียงนุ่มนวลน่าฟัง“ที่คุณชายพูดมาก็ถูก แต่ว่า...” เยี่ยนหยางจงยังมีท่าทีลังเลเล็กน้อย ถึงแม้จะคล้อยตามไปแล้วถึงเก้าส่วน“ชื่อจื่ออย่าลังเลอีกเลย ไม่มีสตรีใดจะต้านทานความเอาใจใส่ของบุรุษได้ การลงทุนครั้งนี้คุ้มค่าแน่นอน ท่านหญิงจะต้องซาบซึ้งใจ ต่อให้ที่ผ่านมาท่านทำสิ่งใดผิด นางล้วนอภัยได้ทั้งสิ้น”อภัยให้ทุกอย่าง?หากปิ่นชิ้นนี้จะทำให้จ้าวกุ้ยอินที่กำลังโกรธเคืองเขาอยู่รู้สึกดีขึ้นมาบ้าง นั่นก็คุ้มค่ามิใช่หรือเยี่ยนหยางจงครุ่นคิดครู่หนึ่ง เมื่อเห็นว่าไม่มีสิ่งใดเสียหาย ตระกูลมู่หรงสืบทอดตำแหน่งวาณิชหลวงมายาวนาน ขึ้นชื่อเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต หากเขาจะกล่าวสนับสนุนชายผู้นี้ต่อสามีของน้องสาวและว่าที่พ่อภรรยาก็ไม่ผิดอันใด ในที่สุดจึงตกปากรับคำ “ได้ ข้ายินดีสนับสนุนคุณชายมู่หรง”“หยงคัง นำเครื่องประดับเข้าชุดกันให้ซื่อจื่อไปด้วย” มู่หรงอี้หวายหันไปส

  • กำราบรักท่านหญิงจอมพยศ   ตอนที่21 พวกเจ้าเล่ห์!

    “คุณชายต้องการใช้ปิ่นชิ้นนี้ทดแทนบุญคุณเท่านั้นหรือ แต่ที่ข้าทำลงไปทั้งหมดเป็นเพราะมโนธรรมทั้งสิ้น มิได้ต้องการเรียกร้องสิ่งใดตอบแทน” แม้เหตุผลจะดูฟังขึ้น แต่เยี่ยนหยางจงมิได้โง่เขลา บุรุษตรงหน้าไม่ใช่คนที่จะยอมยกอะไรให้ผู้อื่นโดยไม่คิดถึงส่วนได้ส่วนเสียอย่างแน่นอน จึงบอกปัดอย่างไม่ลังเล“ซื่อจื่อคิดมากไปแล้ว คนตระกูลมู่หรงล้วนยึดถือคติ บุญคุณต้องทดแทน ไหนเลยจะมีจุดประสงค์อื่น” ดวงตาสีนิลฉายแววคล้ายเจ็บปวดใจที่ถูกมองในแง่ร้าย ใบหน้าหล่อเหลาดูสลดหดหู่ ชวนให้เยี่ยนหยางจงรู้สึกผิดเล็กน้อย“แม้ข้าจะไม่สันทัดเรื่องเครื่องประดับของสตรี แต่มั่นใจว่าปิ่นชิ้นนี้เป็นสมบัติล้ำค่า ไหนเลยจะรับไว้เปล่า ๆ ได้”“ซื่อจื่อเป็นคนตรงไปตรงมายิ่งนัก อี้หวายก็คร้านจะอ้อมค้อมแล้ว” บุตรชายคหบดียิ้มกล่าว พลางหัวเราะเบา ๆ “...” เยี่ยนหยางจงจ้องมู่หรงอี้หวายเขม็ง เขารู้สึกว่าไม่อาจประมาทคนตรงหน้าได้อีก ท่าทางสุภาพเรียบร้อย ท่าทีเป็นมิตร ล้วนเป็นหน้ากากที่ถูกสร้างขึ้นมาปกปิดตัวตนอันแท้จริง การกระทำเช่นนี้ไม่ต่างอะไรกับน้องชายเขาเลยสักนิดพวกเจ้าเล่ห์!“ซื่อจื่อคงจะไม่ทราบว่าตระกูลของท่านยายข้าเป็นช่างทองหลวง ปิ่

  • กำราบรักท่านหญิงจอมพยศ   ตอนที่20 ปิ่นล้ำค่ากับบุตรชายคหบดีแห่งแคว้น

    เรือนเจาหยาง จวนไคกั๋วกงภายในห้องหนังสือ เยี่ยนหยางจงในอาภรณ์สีดำสนิทนั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้มาเกือบสองชั่วยามแล้ว แม้ใบหน้าคมสันจะไร้คลื่นอารมณ์ แต่นัยน์ตาเหยี่ยวกลับนิ่งลึกและเยียบเย็น เล่นเอาทหารคนสนิทอย่างหลิวหยงเสียวสันหลังวาบ ไม่รู้ว่าผู้ใดไปยั่วโทสะท่านแม่ทัพเข้าแต่ที่แน่ ๆ ไม่ใช่เขา“หลิวหยง...”“ขะ...ขอรับ” ผู้ถูกขานชื่อพลันสะดุ้งเฮือก“คุณชายมู่หรงยังไม่มาอีกหรือ”“ยังขอรับ”“เขาจะหาของแบบที่ข้าต้องการได้หรือไม่” เยี่ยนหยางจงผินหน้าไปทางหน้าต่าง แล้วพึมพำเมื่อได้ยินคำถามหลิวหยงก็กระจ่างใจทันที ที่แท้ผู้เป็นนายกำลังกังวลเรื่องนี้นี่เอง เช่นนั้นเขาควรจะสร้างบรรยากาศที่ดีสักหน่อย“ย่อมได้อยู่แล้วขอรับ ผู้คนในแคว้นต่างรู้เรื่องนี้ดี ดังคำกล่าวที่ว่า หากต้องการของดีที่สุดในใต้หล้า จงไปร้านรับฝากสินค้าตระกูลมู่หรง” พูดไปก็ยกมือยกไม้ทำท่าทางประกอบ แววตา น้ำเสียงเต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจระหว่างนั้นเสียงบ่าวรับใช้ก็ดังมาจากหน้าประตู“ซื่อจื่อ คุณชายมู่หรงมาแล้วขอรับ”“เชิญเข้ามาได้” เยี่ยนหยางจงเอ่ยอนุญาต เขาละสายตาจากหลิวหยงมองไปยังประตูทางเข้าประตูห้องหนังสือถูกเปิดออก บุรุษในอา

  • กำราบรักท่านหญิงจอมพยศ   ตอนที่19 นี่หมายความว่าอย่างไร

    “ท่านพ่อ พี่ชายใหญ่ นี่หมายความว่าอย่างไร อย่าบอกนะว่าเยี่ยนหยางจงคือบุรุษที่พวกท่านเห็นว่าเหมาะสมคู่ควรกับข้า”“อินเอ๋อร์ใจเย็น ๆ ก่อน เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของท่านพ่อ เวลานั้นพวกเราพยายามทัดทานแล้ว แต่ไม่สามารถขัดพระราชประสงค์ได้” จ้าวเฟิงเหลยรู้ว่าน้องสาวของตนเองรู้สึกเช่นไร จะไม่ให้นางโกรธแค้นคงไม่ได้ แต่งกับผู้ใดไม่แต่ง ดันต้องตกเป็นเจ้าสาวพี่ชายของสตรีที่เปรียบเสมือนศัตรูหัวใจเยี่ยงนี้ เป็นตนเองก็คงเดือดดาลไม่แพ้กัน“เวลานั้น?” คิ้วเรียวพลันขมวดเป็นปม จากคำพูดของพี่ชายแสดงว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้น“พ่อ... พ่อ...” จ้าวอ๋องรู้สึกละอายและเป็นทุกข์ใจอย่างยิ่ง ที่ตนเองไร้สามารถ จนไม่อาจเอ่ยคำใดออกมาได้อีก“ไหน ๆ ราชโองการถูกประกาศออกมาแล้ว พวกท่านก็เล่าความจริงออกมาเถิด อย่างน้อยข้าจะได้รู้ว่าตนเองต้องตกมาอยู่ในสภาพเช่นนี้ได้อย่างไร” ใบหน้างามสะคราญแดงก่ำ ดวงตาฉายแววโทสะเต็มที่ ริมฝีปากเม้มแน่นจนเป็นเส้นตรง นางมองพี่ชายสลับกับผู้เป็นบิดา แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบจ้าวเฟิงเหลยมองหน้าบิดาพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่ จากนั้นจึงก้าวเข้าไปเบื้องหน้าผู้เป็นน้องสาว“งานล่าสัตว์ปีที่ผ่านม

  • กำราบรักท่านหญิงจอมพยศ   ตอนที่18 มีสิ่งใด

    “ลูกไม่เป็นไรแล้วเจ้าค่ะ นอกเสียจากตอนอากาศเย็นจะรู้สึกปวดแผลเล็กน้อย นอกเหนือจากนั้นก็ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงแล้ว”“ดี ในเมื่อแข็งแรงแล้วก็ดี” จ้าวอ๋องฝืนยิ้มกล่าว ขณะวางจอกชาลงบนโต๊ะตัวเล็ก“ท่านพ่อ มีสิ่งใดก็เอ่ยกับลูกมาตามตรงเถิดเจ้าค่ะ” จ้าวกุ้ยอินเอ่ยอย่างรู้ทันจ้าวอ๋องถอนหายใจเฮือกใหญ่ และกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึมเป็นที่สุด “ผลจากการสอบสวน ตระกูลจ้าวพ้นทุกข้อกล่าวหา พวกเรามิได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีลอบสังหารผู้แทนพระองค์” พอถึงตรงนี้จ้าวอ๋องแลเห็นประกายความหวังบนดวงตาคู่สวยของธิดา แม้ไม่อยากทำร้ายใจ ก็ต้องพูดความจริงส่วนที่เหลือออกไป “แต่เนื่องจากเหตุวุ่นวายในจวนฉินอ๋อง เขาจึงประกาศไม่รับพระชายารอง หรืออนุเพิ่มอีกแล้ว”ประกายแสงในดวงตาคู่งามดับวูบ เหลือเพียงความอ้างว้างว่างเปล่า “หมายความว่า...”“ฉินอ๋องไม่มีวาสนาได้ครองคู่กับลูกสาวที่แสนดีของพ่ออย่างไรเล่า” สีหน้าของผู้เป็นบิดาไม่ได้ดีไปกว่าธิดาของตนเองเลยจ้าวกุ้ยอินค้นพบว่าถึงจะรู้สึกผิดหวังอยู่บ้าง แต่ก็ไม่มากเท่าก่อนหน้านี้เมื่อทุกอย่างเป็นไปตามที่ตนเองคาดการณ์ไว้ตั้งแต่แรก จ้าวกุ้ยอินที่ไม่อยากเห็นบิดาทุกข์ใจกับเรื่องของนา

  • กำราบรักท่านหญิงจอมพยศ   ตอนที่17 ข้าเป็นเพียงแค่...

    ภายในจวนจ้าวอ๋องสงบเป็นอย่างยิ่ง ไม่มีเรื่องใดให้จ้าวกุ้ยอินเคืองใจอีก ยกเว้นเพียงร่างกายที่ไม่แข็งแรงดุจเดิมพิษร้ายส่งผลให้ท่านหญิงป่วยกระเสาะกระแสะ ด้วยเหตุนี้จึงไม่ได้ย่างเท้าออกจากจวนไปร่วมสังสรรค์กับตระกูลไหนทั้งสิ้น รวมไปถึงงานล่าสัตว์ประจำปีของวังหลวงด้วยก่อนเดินทางไปร่วมงานล่าสัตว์ จ้าวเฟิงเหลยสัญญาว่าจะล่าจิ้งจอกสำหรับทำผ้าพันคอมาให้ จ้าวกุ้ยอินยิ้มแย้มประจบประแจง รู้สึกสดชื่นขึ้นทันที เพียงนึกเสียดายที่ปีนี้ไม่มีโอกาสได้ชื่นชมฝีมือการล่าสัตว์ของฉินอ๋อง และเหล่าขุนนางผู้มีฝีมือคนอื่น ๆ ทำได้เพียงยืนส่งบิดากับพี่ชายจากไปตรงหน้าประตูจวนยามนี้จ้าวกุ้ยอินใช้ชีวิตอย่างสงบ ไม่ได้รับรู้ถึงคลื่นลมที่เกิดขึ้นภายนอกแม้แต่น้อยจนกระทั่งจ้าวอ๋องกับจ้าวจวิ้นอ๋องกลับมาจากลานล่าสัตว์ คล้ายกับว่าทุกอย่างรอบกายพวกเขาดูตึงเครียดยิ่งนักทั้งบิดาและพี่ชายทำเหมือนมีเรื่องอยากจะพูดกับจ้าวกุ้ยอิน แต่ก็ไม่เอ่ยออกมา สีหน้าท่าทางราวกับคนที่กำลังกังวลใจแต่แล้วความสงสัยก็ถูกคลี่คลาย เมื่อชิวเยวี่ยสืบข่าวได้ว่าพี่ชายใหญ่ของนางทะเลาะเบาะแว้งกับเยี่ยนจิ้นหลิงเรื่องถางซือเซียน เป็นเหตุให้ฮ่องเต้ทรงไม่พอ

  • กำราบรักท่านหญิงจอมพยศ   ตอนที่16 เกลียดไม่ลง

    มู่เลี่ยงหรงโหดร้ายถึงเพียงนี้ เหตุใดจ้าวกุ้ยอินจะไม่คับแค้นเล่า แต่รู้ทั้งรู้ก็ยังเกลียดเขาไม่ลง เพราะที่ทุกอย่างออกมาในรูปนี้ ส่วนหนึ่งก็มาจากความหุนหันพลันแล่นของนางในอดีตฉินอ๋องเป็นบุคคลที่มีความสำคัญอันดับต้น ๆ ของแคว้นหาน เปรียบเสมือนพระเนตรพระกรรณของฮ่องเต้ บุรุษผู้นั้นย่อมต้องพิจารณาสตรีที่จะรับเข้ามาอยู่ข้างกายอย่างละเอียดถี่ถ้วน และสตรีขี้หึงก็ไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีจ้าวกุ้ยอินถอนหายใจแผ่วเบาราวกับไร้เรี่ยวแรงหากในวันวานนางรักษากิริยา ไม่อาละวาดทำร้ายถางซือเซียน ตนเองย่อมเป็นสตรีที่งดงามและเพียบพร้อมในสายตาของบุรุษผู้นั้น หาใช่คนปากคอเราะราย นิสัยร้ายกาจ ไม่เหมาะเป็นพระชายาของจวนฉินอย่างทุกวันนี้“ญาติผู้พี่ต้องการให้อินเอ๋อร์...” รอยยิ้มขมขื่นปรากฏบนดวงหน้า นัยน์ตาประกายหยดน้ำสั่นระริก พยายามยามข่มกลั้นความรู้สึกอัดอั้นอันจุกแน่นอยู่ที่ลำคอ แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาแทบไม่ได้ยิน “ตัด...ตัดใจ”ครั้นเห็นนัยน์ตาพราวระยับไหววูบ ความผิดหวังฉายชัดจนพาให้ปวดใจตาม อวี้หรูเหรินรีบดึงจ้าวกุ้ยอินมากอดปลอบประโลม นึกเกลียดตนเองที่ยามนั้นเห็นดีเห็นงามไปกับไทเฮาและจ้าวอ๋อง ในอดีตหากทุกคน

  • กำราบรักท่านหญิงจอมพยศ   ตอนที่15 อย่าโมโหไปเลย

    เมื่อได้เห็นรอยยิ้มจาง ๆ กับน้ำเสียงใสกระจ่างไร้ความขุ่นเคือง อวี้หรูเหรินจึงคว้ามือขาวผ่องของจ้าวกุ้ยอินมากอบกุมเอาไว้ แล้วตบเบา ๆ จากนั้นจึงชวนสนทนาเข้าเรื่องที่ตนรับปากผู้อื่นมาเป็นธุระจัดการ“มิน่าอินเอ๋อร์ถึงได้ดูอารมณ์ดีเยี่ยงนี้ ที่แท้ก็ออกไปรับอากาศบริสุทธิ์มานี่เอง แต่...เหตุไฉนจึงมีคำสั่งลงโทษคนออกไปได้เล่า?”“เจียงอิ่งซื่อไปรบกวนท่าน?” จ้าวกุ้ยอินเลิกคิ้ว เค้นเสียงหึออกมาทีหนึ่งแล้วกล่าวต่อ “เป็นนางไม่รู้จักอบรมบุตรสาวของตนเองให้ดี จนหลินเอ๋อร์กับชิงเอ๋อร์กลายเป็นคนไม่รู้ความเยี่ยงนี้ ยังมีหน้าไปขอให้ท่านช่วยอีก”“อย่างไรนางก็เป็นมารดาผู้ให้กำเนิด ย่อมต้องห่วงใยบุตรสาวของตนเป็นธรรมดา เจ้าก็อย่าโมโหไปเลย”จ้าวกุ้ยอินหรี่ตา ใบหน้าพลันบูดบึ้ง “หรูเหรินคิดว่าข้าทำเกินไป?”“มิได้ พวกนางเหิมเกริมถึงเพียงนั้น แค่ให้นั่งคุกเข่ากับคัดบัญญัติสตรีก็นับว่าเป็นโทษสถานเบา แต่...” อวี้หรูเหรินหยุดคำพูดไว้เพียงเท่านั้น แล้วก้มหน้าลงประหนึ่งว่าไม่กล้าเอ่ยจ้าวกุ้ยอินเห็นเช่นนั้นก็อดถามออกไปไม่ได้ “แต่อะไร?”อวี้หรูเหรินเงยหน้าขึ้นพลางบีบมือจ้าวกุ้ยอิน แล้วกล่าวเสียงเบา “ห้องนั้นทั้งมืดทึบ อ

  • กำราบรักท่านหญิงจอมพยศ   ตอนที่14 แล้วข้าเลือกอะไรได้ไหม?

    จวนจ้าวอ๋อง เรือนเหลียนฮวาหลังจากจ้าวกุ้ยอินสั่งลงโทษจ้าวกุ้ยหลินกับจ้าวกุ้ยชิงให้คุกเข่าและคัดบัญญัติสตรีในห้องบูชาบรรพชน ทันทีที่ได้ข่าวเจียงอิ้งซื่อก็รีบแล่นไปขอร้องอวี้หรูเหรินให้ช่วยเหลือ“หลินเอ๋อร์กับชิงเอ๋อร์มีน้ำใจไปเยี่ยมเยียนพี่สาวที่ได้รับบาดเจ็บแท้ ๆ แต่กลับต้องถูกลงโทษ พี่สาวจะต้องช่วยพวกนางนะเจ้าค่ะ” เจียงอิ้งซื้อสะอึกสะอื้น สีหน้าแววตาดั่งผู้ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมอวี้หรูเหรินถอนหายใจเบา ๆ ในส่วนลึกมิได้เห็นใจสตรีที่ทำท่าอ่อนแอตรงหน้าแม้แต่น้อย เพราะรู้นิสัยใจคอของสามแม่ลูกนี้ดี พอเห็นอินเอ๋อร์ของนางกำลังย่ำแย่ จึงคิดเข้าไปซ้ำเติมโดยลืมสถานะของตนเอง เช่นนี้ก็สมควรถูกสั่งสอนแล้วมิใช่หรือ“หากหลินเอ๋อร์กับชิงเอ๋อร์รู้สถานะและวางตัวเหมาะสม ไหนเลยจะถูกลงโทษ เพราะแต่ไหนแต่ไรมาท่านหญิงก็ไม่เคยรังแกบุตรอนุภรรยาในจวน”“พวกนางยังเด็กไม่รู้ความ คงไม่ได้ตั้งใจทำให้ท่านหญิงขุ่นเคือง”“ตั้งใจหรือไม่ไม่สำคัญ ตอนนี้คนก็ถูกสั่งลงโทษไปแล้ว ถึงแม้ท่านอ๋องจะให้อำนาจการจัดการเรือนหลังแก่ข้า แต่ว่าสถานะก็เป็นเพียงหรูเหริน ไหนเลยจะหาญกล้ายับยั้งคำสั่งของท่านหญิง”“พวกนางสองคนเคยได้รับควา

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status