เดิมทีแคลร์ไม่รู้ว่าจาค็อบนั้นดื่มมาก่อนแต่เมื่อได้เข้าใกล้จาค็อบแล้ว เธอก็ได้กลิ่นแอลกอฮอล์แรง ๆ ออกมาจากร่างกายของเขา เธออดไม่ได้ที่จะรู้สึกโกรธพ่อของเธอในเวลานี้!เธอรู้ว่าปกติแล้วพ่อของเธอชอบดื่มสุรา แต่เธอไม่เคยไม่ก้าวก่ายในประเด็นนี้เลย แต่ประเด็นในครั้งนี้ก็คือพ่อของเธอบอกกับเธอว่าเขาจะไปตระเวนตามร้านเล่นไพ่นกกระจอกหลายแห่งเพื่อตามหาแม่ของเธอ ทำไมเขาถึงกลับมาเมาแบบนี้ล่ะ?นี่… นี่พิสูจน์ได้ว่าเขาไม่ได้ไปตามหาแม่ของเธอเลย! เขาแค่ออกไปเพื่อ… ดื่มเท่านั้น!เมื่อจาค็อบได้ยินแคลร์ถามว่าเขากำลังดื่มมาหรือไม่ จาค็อบก็รีบปิดปากของเขาและถอยกลับไปสองสามก้าวขณะที่เขาเริ่มตื่นตระหนก หลังจากนั้นเขาก็รีบพูดว่า “อย่าพูดไร้สาระ! พ่อไม่ได้ดื่มมาสักหน่อย!”“พ่อนั่นแหละที่พูดเรื่องไร้สาระในตอนนี้!” แคลร์กระทืบเท้าอย่างโกรธจัด “หนูได้กลิ่นแอลกอฮอล์จากร่างกายของพ่อ! พ่อไม่ได้มีกลิ่นแอลกอฮอล์ติดตัวเมื่อตอนพ่อออกจากบ้านก่อนหน้านี้ แต่ตอนนี้มีกลิ่นแอลกอฮอล์ที่แรงมากบนร่างกายของพ่อ! พ่อก็คงเพิ่งไปกื่มมาแน่ ๆ !”ขณะที่เธอกำลังพูด แคลร์จ้องไปที่คอเสื้อของจาค็อบและเธอสังเกตเห็นหยดน้ำมันบนปกเสื้อของเ
แคลร์ไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้เลย เธอโบกมือก่อนจะพูดว่า “ช่างมันเถอะค่ะ ฉันไม่ต้องการพูดถึงปัญหานี้อีก ฉันไปทำให้ตัวเองสงบสติอารมณ์ที่ห้องนอนนะคะ”หลังจากที่เธอพูดจบ แคลร์ก็หันหลังและเดินขึ้นบันไดไปชาร์ลีอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจเมื่อเห็นเธอเดินขึ้นบันไดและจากไปดูเหมือนว่ามันจะเป็นเรื่องยากจริง ๆ ที่จะจัดการกับเอเลนเขาไม่สามารถกำจัดเธอได้และไม่สามารถทำให้เธอหายตัวไปจากโลกนี้โดยไร้ร่องรอยได้เลย เมื่อเธอรับความทุกข์มามากพอแล้ว เขาก็ยังคงต้องพาเธอกลับบ้านอยู่ดีอย่างไรก็ตาม มันจะลำบากมากในการพาเธอกลับมา เขาจะทำให้เธอหุบปากโดยไม่พูดเรื่องที่เกิดขึ้นได้อย่างไร?ผ่านการสะกดจิตดีไหมนะ?นั่นจะไม่น่าเชื่อถือเอาซะเลย!เพราะท้ายที่สุดแล้ว ผลข้างเคียงของการสะกดจิตก็คือเมื่อบุคคลนั้นเริ่มปฏิบัติตัวตามสัญญาณที่ถูกสะกดไว้ของพวกเขาแล้ว บุคคลนั้นก็จะสูญเสียสติไปชั่วขณะมันเป็นสถานการณ์เดียวกันกับตอนที่เขาสะกดจิตเคียน และสดกดจิตแก่เขาว่าเขาจะต้องทานอาหารพิเศษทุก ๆ ชั่วโมง เมื่อใดก็ตามที่เขาทานอาหารมื้อพิเศษ เคียนก็แค่ทำตามที่ชาร์ลีได้สะกดเอาไว้ให้เขา ในเวลานั้นเขาจะสูญเสียสติไปชั่วขณะและสิ่งที่เข
ลอเรนสัมผัสได้ถึงความอ่อนโยนของชาร์ลี เมื่อชาร์ลีปาดน้ำตาออกจากใบหน้าของเธอ ในเวลาเดียวกัน เธอรู้สึกว่าหัวใจของเธอเจ็บปวดอย่างที่สุด ที่เธอฟังคำสารภาพรักที่หนักแน่นและเปี่ยมล้นไปด้วยความรู้สึกที่เขามีต่อแคลร์ในเวลานี้ ลอเรนพูดด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้ง “ชาร์ลี ถ้าแคลร์รักคุณจริง ๆ ฉันจะไม่ทำอะไรเพื่อกวนหรือแทรกแซงความสัมพันธ์ของพวกคุณเลย อย่างไรก็ตาม คุณรู้ดีอยู่แล้ว ว่าเหตุผลเดียวที่แคลร์มาอยู่กับคุณ เป็นเพราะคำสัญญาที่เธอให้ไว้กับปู่ของเธอ คุณคิดว่าอะไรจะเกิดขึ้น ถ้าคุณเป็นคนเดียวที่ทุ่มเทกับความสัมพันธ์นี้? ทำไมคุณไม่ปล่อยเธอไปและคิดถึงตัวคุณเองบ้างสักครั้งล่ะ?”หลังจากที่เธอพูดจบ ลอเรนก็สะอื้นขณะที่เธอถามว่า “ฉันด้อยกว่าแคลร์ตรงไหน? บอกฉันที ฉันจะได้ปรับปรุงตัวเอง ฉันจะได้ตามเธอทัน ได้โปรดอย่าปฏิเสธฉันแบบนี้เลย ทำไมคุณไม่ให้โอกาสฉัน?”ชาร์ลีส่ายหัวเล็กน้อยก่อนจะพูดว่า “ลอเรน บางครั้งคุณไม่เข้าใจความคิดของผู้ชาย เหตุผลที่คุณตกหลุมรักผม เพราะผมใจดีกับคุณ และนี่เป็นเหตุผลว่าทำไมผมถึงตกหลุมรักแคลร์ เพราะเธอก็ใจดีกับผม มันเป็นเหตุผลเพียงพอที่จะทำให้ผมเลือกอยู่เคียงข้างเธอ เพื่อรักเธ
หากแคลร์ไม่มี 'ความโง่เขลา' อันดื้อดึงนี้ เธอคงจะฟังการเกลี้ยกล่อมของทุกคนและกำจัดเขาไปนานแล้วถ้าเป็นเช่นนั้น ชะตากรรมของเขาจะเป็นอย่างไรในตอนนี้?ชาร์ลีไม่กล้าแม้แต่จะคิดเรื่องนี้ชีวิตของเขาลำบากมากก่อนจะแต่งงานกับแคลร์เนื่องจากสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า จะไม่รับเลี้ยงผู้ใหญ่อีกต่อไป ดังนั้น ในวันเกิดปีที่สิบแปดของเขา คุณนายลูอิสจึงซื้อเค้กวันเกิดให้เขาด้วยเงินออมเพียงเล็กน้อยที่เธอมี หลังจากนั้นพวกเขาก็ฉลองวันเกิดให้ชาร์ลี ก่อนที่เธอจะส่งเขาออกจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าด้วยน้ำตาที่เอ่อคลอในตอนนั้น ชาร์ลีต้องกลับมาเป็นคนไร้ที่พึ่งและโดดเดี่ยวบนโลกใบนี้อีกครั้งคุณนายลูอิสอยากจะช่วยเขาและเธอต้องการแนะนำงานให้ชาร์ลี เพื่อที่เขาจะได้หาเงินเลี้ยงชีพได้เอง แต่ชาร์ลีไม่มีหน้าจะไปรับความช่วยเหลือจากคุณนายลูอิสเขาพบเจอกับสถานที่ก่อสร้างด้วยตัวเขาเองและเริ่มที่จะขนย้ายอิฐ ทราย รวมถึงซีเมนต์ตอนอายุได้สิบแปดปีเขาลังเลที่จะเช่าบ้าน ดังนั้นเขาจึงอาศัยในแคมป์คนงานที่ไซต์ก่อสร้างร่วมกับคนงานคนอื่น ๆ เขากินอาหาอย่างถูกที่สุดและทำงานที่เหนื่อยที่สุด หนักที่สุดและสกปรกที่สุดในสถานที่ก่อสร้างช
ขณะที่เขาคิดถึงอดีต ชาร์ลีก็รู้สึกเปี่ยมล้นไปด้วยอารมณ์มีเพียงสองคนในตระกูลวิลสันที่ปฏิบัติต่อเขาเป็นอย่างดีหนึ่งในนั้นคือนายท่านวิลสันซึ่งล่วงลับไปแล้ว และอีกหนึ่งคือ แคลร์ ภรรยาของเขาเนื่องจากนายท่านวิลสันได้เสียชีวิตลงไปแล้ว คนเดียวในตระกูลวิลสันที่ดีกับเขาอย่างแท้จริงก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากแคลร์เมื่อชาร์ลีเห็นแคลร์ยืนอยู่ที่ระเบียงด้วยใบหน้าที่เศร้า เขาจึงเดินเข้าไปหาเธอช้า ๆ ก่อนพูดว่า “แคลร์ คุณไม่ต้องกังวลมากไปหรอก แม่จะกลับบ้านอย่างปลอดภัยแน่นอน ตกลงไหม?”แคลร์เพิ่งรู้ว่าชาร์ลีเข้ามาในห้อง เมื่อเธอได้ยินเขาพูด เธอหันกลับมามองเขาด้วยสีหน้าหงุดหงิด เธอพูดว่า “คุณไม่ได้สนใจแม่จริง ๆ แน่นอนคุณคิดว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับแม่ และต่อให้มีอะไรเกิดขึ้นกับแม่ คุณก็จะไม่เสียใจหรือกังวลเลย”ชาร์ลีรู้ว่าแคลร์ยังโกรธเขาอยู่ ดังนั้นเขาจึงถอนหายใจเบา ๆ ก่อนเดินไปหาแคลร์และปลอบโยนเธอ “ภรรยาที่รัก ผมรู้ ว่าคุณกังวลว่าแม่ของคุณ อาจจะกำลังทุกข์หรือประสบพบเจอกับอันตรายอยู่ข้างนอกนั่น แต่อย่างไรก็ตาม คุณไม่คิดเหรอว่า มันก็เป็นเรื่องดีที่แม่ของคุณต้องเจอกับความทุกข์บ้าง?”แคลร์ตอบว่า “ฉันเข้
จาค็อบที่อยู่ชั้นบนบนชั้นสาม ตรงกันข้ามกับชาร์ลีเขาตื่นเต้นมากจนนอนไม่หลับเลยในคืนนั้นเขาไม่สามารถหยุดคิดถึงอดีตที่เขามีร่วมกับมาทิลด้าได้ รวมถึงความทรงจำดี ๆ ทั้งหมดก็วนเวียนอยู่ในหัวของเขา เขาหมกมุ่นอยู่กับความทรงจำที่เขากับมาทิลด้ามีร่วมกันยิ่งเขาคิดถึงมาทิลด้ามากเท่าไร เขาก็ยิ่งตั้งหน้าตั้งตารอที่จะได้พบเธออีกครั้งเช้าวันรุ่งขึ้น จาค็อบที่ไม่ได้นอนตลอดทั้งคืน มีความกระตือรือร้นและอารมณ์ดีมาก เขายิ้มกว้างจนปากแทบถึงหู อย่างมีความสุขในเวลานี้เขาตื่นแต่เช้าเพื่ออาบน้ำและโกนหนวดเคราให้สะอาดโดยไม่เหลือตอแม้แต่น้อย หลังจากนั้นเขาก็หวีผมก่อนจะฉีดสเปรย์จัดแต่งทรงผม หลังจากนั้นเขาก็มองเข้าไปในตู้เพื่อมองหาชุดสูทหรูหราระดับไฮเอนด์ ชุดสูทที่เขารู้สึกไม่เต็มใจที่จะใส่มันมาตลอดชุดนี้ทำขึ้นเป็นพิเศษในฮ่องกง เมื่อครั้งที่ตระกูลวิลสันยังคงรุ่งโรจน์อยู่ ในเวลานั้นเขาเป็นนายน้อยรองของตระกูล พ่อของเขาจึงไม่ลังเลที่จะให้เงินค่าขนมจำนวนมากรวมถึงชุดสูทนี้ เพื่อเป็นหน้าเป็นตาและรักษาชื่อเสียงของตระกูลเมื่อเขาออกไปเที่ยวโชคดีที่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จาค็อบใช้ชีวิตแบบประหยัดมาก น้ำหนักของเข
เมื่อแคลร์ได้ยินว่าพ่อของเธอต้องการให้เธอพาเขาไปพบกับรักแรกของเขา แคลร์ปฏิเสธอย่างไม่ลังเลเลย "หนูไม่ไป!"จาค็อบกางมือออกก่อนจะพูดว่า “ถ้าอย่างนั้น อย่าห้ามชาร์ลีไม่ให้ไปกับพ่อ ไม่ว่าวันนี้จะเป็นอย่างไรไร คนใดคนหนึ่งก็ต้องมากับพ่อ”“พ่อ…” แคลร์โกรธจัดและเธอถามว่า “การทานอาหารกับเพื่อนเก่าของพ่อหรือการที่เราออกไปตามหาแม่ อะไรสำคัญกว่า? พ่อไม่สามารถแยกแยะได้ใช่ไหมว่าอะไรสำคัญ?”จาค็อบโพล่งออกมา “แน่นอน พ่อแยกแยะมันได้ชัดเจนเลย! แน่นอนว่าการทานอาหารกับเพื่อนของพ่อ มันสำคัญกว่ามาก!”“พ่อ…”แม้ว่าแคลร์มักจะเป็นคนอารมณ์ดี แต่ในเวลานี้ เธอก็กำลังจะระเบิดและปะทุด้วยความโกรธจาค็อบตอบอย่างเฉยเมยว่า “แคลร์ ลูกต้องเข้าใจเรื่องหนึ่ง โลกนี้ไม่ได้หมุนรอบแม่คนเดียว ครอบครัวนี้มีสี่คน แม่ของลูกและพ่อต่างก็ต้องการที่แยกทางกัน ลูกสามารถเลือกและตัดสินใจเองว่าชีวิตของลูกจะหมุนรอบแม่ แต่ลูกไม่สามารถบังคับหรือคาดหวังให้ชาร์ลีหรือพ่อไปหมุนรอบแม่ได้แล้ว! ลูกไม่คิดว่าเราควรมีชีวิตของเราเองเหรอ? เราไม่มีความต้องการใด ๆ ของตัวเราเองบ้างเลยเหรอ?”ขณะที่เขาพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ จาค็อบรู้สึกกระวนกระวายเล็ก
เอเลนรู้ดีว่านี่เป็นการข่มขู่ ตราบใดที่เธอเริ่มที่จะกินและตราบใดที่เธอเอื้อมมือไปแตะกล่องอาหาร เธออาจจะต้องทนกับการถูกทุบตีดังนั้น เอเลนจึงร้องไห้ออกมา เธออ้อนวอนขอร้อง “พี่เจนนิเฟอร์ พี่ทุบตีและดุด่าฉันไปมากเท่าที่พี่ต้องการเมื่อวานนี้แล้ว ได้โปรดเมตตาฉันและปล่อยฉันไปในวันนี้ได้ไหม?”เจนนิเฟอร์ยักคิ้วก่อนจะพูดว่า “คือถ้าฉันปล่อยแกไป แม่ที่ตายของฉันจะฟื้นขึ้นมาเหรอ? แกรู้ไหม ว่าแม่ของฉันต้องทรมานแค่ไหนตอนที่แม่กินยาฆ่าแมลงและนอนหายใจไม่ออกตายอยู่บนเตียงในโรงพยาบาล”เอเลนร้องไห้ขณะที่เธอพูดว่า “พี่เจนนิเฟอร์…ฉันรู้ว่าพี่เป็นลูกสาวที่กตัญญู แต่ฉันไม่ได้ทำร้ายแม่ของพี่แต่อย่างใดเลย…”เจนนิเฟอร์ตอบอย่างโกรธเคือง “แกยังจะพูดเรื่องไร้สาระกับฉันอยู่อีกเหรอ? ให้ฉันบอกอะไรแกสักอย่างเถอะ แม่ของฉันถูกฆ่าตายเพราะลูกสะใภ้เนรคุณ! นั่นคือเหตุผลที่ฉันรู้สึกแย่เมื่อเจอคนแบบแก! แกควรจะดีใจที่ในตอนนี้ เราไม่ได้อยู่ในสมัยโบราณ ไม่อย่างนั้นฉันคงจะสับแกเป็นชิ้น ๆ แล้ว!”คุณท่านวิลสันตอบอย่างอิ่มอกอิ่มใจ “เจนนิเฟอร์ คุณพูดถูก! ผู้หญิงแบบนี้ในสมัยโบราณจะถูกขังอยู่ในกรงหมู! เราควรขังเธอไว้ในกรงไม้ไผ่ที่ม
“โอเค” ชาร์ลีพยักหน้าก่อนจะพูดว่า “เอาล่ะ ถึงเวลาที่นายต้องออกเดินทางแล้ว”ในเวลานี้จาเวียร์ก็วิ่งเข้าไปหาพวกเขาพร้อมกับแบตเตอรี่สำรองในมือ หลังจากนั้นเขาก็ยื่นแบตเตอรี่สำรองกับสายชาร์จให้กับดีแลนในขณะที่พูดว่า “ดีแลน นี่แบตเตอรี่สำรอง!”ดีแลนหยิบแบตเตอรี่สำรองใส่ไว้ในเป้ หลังจากปาดน้ำตาออกจากใบหน้าแล้ว เขาก็พูดกับทุกคนว่า “คุณยาย คุณตา พ่อ แม่ ลุง อา ผมจะไปแล้วนะคับ…”ทุกคนโบกมือให้เขา “ไปเถอะ อย่าลืมใส่ใจในเรื่องความปลอดภัยบนท้องถนนนะ!”ดีแลนมองไปที่ชาร์ลีอีกครั้งก่อนจะโค้งคำนับแล้วพูดว่า “ผมจะไปแล้วนะครับคุณเวด…”ชาร์ลีส่งเสียงพึมพำในขณะที่พูดว่า “รีบไปเถอะ ไม่งั้นนายจะถูกทำโทษที่ไปถึงช้านะ”ดีแลนรีบพยักหน้าในขณะที่พูดว่า “ไม่ต้องเป็นห่วงครับ! ผมจะทำให้ดีที่สุดครับ!”ชาร์ลีโบกมือแล้วพูดว่า “อืม ไปได้แล้ว!”ดีแลนพยักหน้าก่อนจะหันกลับไปมองเหล่าญาติ ๆ อย่างไม่เต็มใจ จากนั้นเขาก็เริ่มปั่นจักรยาน Phoenix 28 คันใหญ่อย่างหนักหน่วง หลังจากถีบจักรยานไปได้สองสามครั้ง ในที่สุดดีแลนก็ถีบจักรยานจากไปในลักษณะโคลงเคลงซิลเวียเริ่มร้องไห้อย่างขมขื่น ลีโอนาร์ดจึงรีบคว้าเธอมาปลอบโยนอยู่ในอ้อ
เมื่องานเลี้ยงวันเกิดสิ้นสุดลง และแขกคนอื่น ๆ ได้กลับไปแล้ว ดีแลนก็เข็นรถจักรยาน Phoenix 28 คันใหม่ออกมาในเวลานี้จู่ ๆ ดีแลนก็นึกถึงเพลงฮิตที่เขาเคยเห็นในคลิปวิดีโอสั้น ๆ…เพลงนี้ก็คือเพลง ‘ขี่มอเตอร์ไซต์แสนรักของฉัน’...ในขณะที่เขานึกถึงเพลงนี้ เขาก็มองไปที่จักรยาน Phoenix 28 ในสภาพเก่าที่ดูน่าเกลียดนั้น แล้วอดที่จะถอนหายใจไม่ได้ในขณะที่คิดกับตัวเองว่า ‘ถ้าฉันขี่มอเตอร์ไซค์ไปโอลรัสฮิลล์ได้ก็คงจะดีไม่น้อย เพราะจะทำให้ฉันสามารถเดินทางได้ประมาณสามถึงสี่ร้อยกิโลเมตรต่อวัน ซึ่งจะช่วยให้ฉันเดินทางไปถึงโอลรัสฮิลล์ได้เร็วที่สุด จะได้ไม่ต้องทนทุกข์กับความคับข้องใจและความอยุติธรรมมากมายในระหว่างทาง…’แต่ช่างน่าสงสารเหลือเกินที่เขารู้ว่าชาร์จะไม่มีทางเปิดโอกาสให้เขาได้ต่อรองอะไรเลย เขาจึงทำได้แค่เข็นจักรยานออกมาเพื่อเตรียมตัวออกเดินทางเจริล… ลุงของเขาถือหมวกกันน็อกสีเขียวอยู่ในมือ ในขณะที่พยายามจะสวมให้กับดีแลน ดีแลนหลบเลี่ยงหมวกใบนั้นในขณะที่ถามอย่างอึดอัดใจว่า “ทำไมถึงซื้อหมวกกันน็อกสีเขียวมาให้ผมล่ะลุง? หมวกสีเขียวเป็นสัญลักษณ์ของผู้ชายที่โดนสวมเขานะ…”“อย่าพูดถึงเรื่องนั้นเลยน่า” เจร
"หา? เร็วไปไหม? คุณจะไม่อยู่ที่อีสต์คลิฟฟ์ต่ออีกสักสองสามวันเหรอ?”“ผมทำธุระของผมเสร็จหมดแล้วน่ะ ไม่มีธุระอะไรให้ผมต้องอยู่ที่นี่อีก ผมจะออกเดินทางพรุ่งนี้เลย”เมื่อลอรีนได้ยินดังนี้ เธอก็พูดขึ้นอย่างไม่ลังเลเลยว่า “ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะออกจากอีสต์คลิฟฟ์พรุ่งนี้ด้วย เราเดินทางกลับโอลรัสฮิลล์พร้อมกันดีไหมคะ? เราจะได้นั่งเครื่องบินลำเดียวกันชาร์ลีอยากจะปฏิเสธเธอ แต่เมื่อเขาเห็นสีหน้าที่แสดงความวิงวอนของเธอแล้ว เขาก็ปฏิเสธเธอไม่ลงเพราะไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม… นับเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับคนเป็นเพื่อนกัน ที่ต้องนั่งเครื่องบินลำเดียวกัน ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถหลบเลี่ยงการนั่งเครื่องบินเที่ยวบินเดียวกับเธอได้ชาร์ลีจึงพูดว่า “ได้สิ เรากลับด้วยกันก็ได้”ลอรีนรีบพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวคุณให้รายละเอียดบัตรประจำตัวกับฉันมานะ ฉันจะได้ซื้อตั๋วเครื่องบินของเราพร้อมกัน!”“โอเค”***ในขณะที่งานเลี้ยงวันเกิดยังคงดำเนินอยู่นั้น ลุงและอารองของดีแลนก็ได้ตระเตรียมการเดินทางด้วยการปั่นจักรยานไปยังโอลรัสฮิลล์ให้ดีแลนเรียบร้อยแล้วพวกเขาได้ให้คนไปซื้อจักรยาน Phoenix 28 รุ่นเก่ามา แล้วติดตั้งชั้นวางสัมภา
หลังจากนั้นงานเลี้ยงวันเกิดก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการมีการจัดที่นั่งให้กับชาร์ลีเป็นพิเศษในฐานะที่เขาเป็นแขกผู้มีเกียรติสูงสุด โดยเขาได้นั่งอยู่ข้างนายท่านโธมัสกับลอรีนและริกลีย์หลังจากนั้นสมาชิกของตระกูลโธมัสก็ผลัดกันดื่มอวยพรให้เขา โดยทั้งการแสดงออกทางสีหน้า น้ำเสียง และการกระทำล้วนเต็มไปด้วยการสรรเสริญเยินยอ ชาร์ลีไม่มีอะไรจะพูดมากนัก เมื่อมีคนมาดื่มอวยพรให้เขา เขาก็แค่ดื่มอวยพรกลับไป ซึ่งถึงแม้ดีแลนจะเป็นคนมาดื่มอวยพรให้เขา เขาก็ดื่มอวยพรกลับไปอย่างง่ายดายในเวลานี้ริกลีย์ก็ยังมาดื่มอวยพรให้กับชาร์ลีอย่างระมัดระวังด้วย โดยเขาได้เยินยอแล้วพูดว่า “คุณเวดครับ ผมมีเรื่องจะถามคุณหน่อยครับ…”ชาร์ลีรู้อยู่แล้วว่าเขาจะถามอะไรก่อนที่เขาจะเริ่มพูดออกมาด้วยซ้ำไป เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการให้ชาร์ลีช่วยฟื้นคืนสมรรถภาพ เพื่อให้เขากลับมาแข็งแกร่งได้อีกครั้งแต่เมื่อพิจารณาถึงเรื่องเลวร้ายทั้งหมดที่ครอบครัวของพวกเขาได้ทำกับครอบครัวของยูลแล้ว ชาร์ลีก็ยังแน่ใจว่าเขาจะไม่ยอมฟื้นคืนสมรรถภาพให้พวกเขาในตอนนี้ผู้ที่เป็นผู้ใหญ่แล้วจะต้องชดใช้และรับผิดชอบต่อการกระทำของพวกเขา ไม่อย่างนั้นแล้วพวกเขาจะได้บทเ
ชาร์ลีหยิบภาพวาดที่ยูลมอบให้เขาจากมือของดีแลน ก่อนจะยื่นให้กับยายของลอรีนด้วยตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็พูดว่า “คุณยายโธมัสครับ นี่เป็นของเล็ก ๆ น้อย ๆ จากแคลร์และผมครับ ผมหวังว่าคุณยายจะรับมันไว้ และผมอยากจะขอโทษกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นไปเมื่อกี้นี้ ด้วยวันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณยาย ผมหวังว่าคุณยายคงจะให้อภัยผมนะครับ”คุณท่านโธมัสรู้สึกปลื้มใจแล้วรีบพูดขึ้นว่า “คุณเวด ไม่ต้องเกรงใจหรอกค่ะ จริง ๆ แล้วเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อกี้นี้เป็นเพราะหลานชายของฉันทำอะไรผิดไป ฉันมาคิดดูแล้ว… ทั้งหมดนั้นเป็นเพราะเราละเลยในการอบรมสั่งสอนหลานของเรา จึงทำให้คุณเวดต้องเดือดร้อน”ในขณะที่เธอพูดอยู่นั้น เธอก็มองดูภาพวาดก่อนจะพูดว่า “คุณเวดคะ ภาพวาดนี้มีมูลค่ามากเหลือเกิน ฉันคงรับของขวัญชิ้นนี้ไว้ไม่ได้หรอกค่ะ!”ชาร์ลีรีบพูดว่า “คุณยายโธมัสครับ ของขวัญชิ้นนี้เป็นเพียงของเล็ก ๆ น้อย ๆ จากแคลร์และผม มูลค่าของของขวัญชิ้นนี้ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรเลย คุณยายไม่ต้องเกรงใจผมหรอกครับ พูดตามตรงนะครับ ผมไม่ได้ใช้จ่ายเงินกับของขวัญชิ้นนี้เลยด้วยซ้ำ เพราะคุณโกลดิ้งจากโกลดิ้งกรุ๊ปมอบภาพวาดนี้ให้ผม แล้วผมก็นำมา
เมื่อได้ยินว่าเขาจะต้องไปขนปูนซีเมนต์ในไซต์ก่อสร้าง ดีแลนก็ส่ายหัวอย่างบ้าคลั่งทันที!เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว เขาคงต้องทนทุกข์ทรมานและรู้สึกคับข้องใจเพียงเล็กน้อย ถ้าเขาต้องอาศัยอยู่ในชุมชนแออัด โดยมีค่าครองชีพเดือนละหนึ่งหมื่นบาท แต่ถ้าเขาต้องไปขนปูนซีเมนต์ในไซต์ก่อสร้าง เขาก็คงต้องทนทุกข์ทรมานอย่างมาก และต้องเจอะเจอความยากลำบากมากมายในไซต์ก่อสร้างแห่งนั้นเขาจึงพยักหน้าแบบไม่คิดอะไรทันที “คุณเวดครับ ผมยอมรับเงื่อนไขทั้งหมดของคุณแล้ว ผมจะไม่ต่อรองอะไรกับคุณแล้วครับ! ขอแค่อย่าส่งผมไปไซต์ก่อสร้างนั้นเลยนะครับ…”ชาร์ลีรู้สึกพอใจมากแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “อย่าลืมปรับปรุงเปลี่ยนแปลงและกลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดีหลังจากนายไปถึงที่โอลรัสฮิลล์แล้ว อย่าสร้างปัญหาอะไรเพิ่มขึ้นมาอีกล่ะ ถ้านายยังคงอยู่ที่อีสต์คลิฟฟ์ต่อไป ทายาทที่ชอบเยาะเย้ยถากถางคนอื่นอย่างนาย ก็อาจก่อให้เกิดหายนะที่ร้ายแรงกว่านี้ได้ในสักวันหนึ่ง นายอาจเข้าไปพัวพันและทำให้ให้ตระกูลโธมัสและตระกูลโคชต้องเดือดร้อนได้!”ในเวลานี้สองพี่น้องอย่างเจริลและจาเวีย์ก็อดที่จะตัวสั่นขึ้นมาเล็กน้อยไม่ได้ดูเหมือนคำพูดของชาร์ลีจะทำให้คนทั้งคู่
สิ่งที่เจ็บปวดที่สุดก็คือ การปั่นจักรยานอย่างยากลำบากจากอีสต์คลิฟฟ์ไปยังโอลรัสฮิลล์แต่นั่นก็เป็นเรื่องที่ยังพอรับได้ การที่ต้องปั่นจักรยานเป็นเวลาครึ่งเดือน ก็ยังดีเสียกว่าการนอนบนเตียงอยู่ครึ่งเดือนหลังผ่าตัดนอกจากนี้เขายังรู้สึกคับข้องใจอย่างมากในระหว่างการผ่าตัดครั้งล่าสุด ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ยังไม่หายดีเลย ถ้าเขาต้องเข้ารับการผ่าตัดแบบเดิมอีกครั้งในเร็ว ๆ นี้ เขาก็จะต้องได้รับความเจ็บปวดเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าอย่างแน่นอนในเวลานี้ชาร์ลีพูดขึ้นมาว่า “ฉันให้นายไปที่โอลรัสฮิลล์ก็เพื่อให้นายได้ไปปรับปรุงตัวและกลับเนื้อกลับตัวใหม่ นายคิดว่า การที่ฉันให้นายไปที่โอลรัสฮิลล์เพื่อให้ไปสนุกสนานกับชีวิตที่นั่นเหรอ? จะบอกอะไรให้นะ นายจะต้องปั่นจักรยานธรรมดา ๆ อย่าง Phoenix 28 เท่านั้น ใช้อย่างอื่นไม่ได้เลย! ไม่งั้นฉันจะให้นายปั่นจักรยานไปโอลรัสฮิลล์พร้อมกับเกวียนที่บรรทุกก้อนอิฐไปจนเต็มคัน!”“แล้วหลังจากนายไปถึงโอลรัสฮิลล์ นอกจากนายจะต้องคอยขับรถรับส่งให้กับลอรีนแล้ว นายต้องเช่าห้องเดี่ยวในชุมชนแออัดคลิฟฟ์คูลส์ด้วย ค่าใช้จ่ายรายเดือนรวมถึงค่าเช่าบ้านของนายจะต้องไม่เกินเดือนละหนึ่งหมื่นบาท!”
เมื่อเขาได้ยินว่า จะต้องขี่จักรยานจากอีสต์คลิฟฟ์ไปยังโอลรัสฮิลล์ตลอดทาง และต้องอยู่ในโอลรัสฮิลล์ในฐานะคนขับรถเป็นเวลาหนึ่งปี ดีแลนก็รู้เหมือนกำลังจะตายไปแล้วจริง ๆ ประเด็นก็คือระยะทางจากอีสต์คลิฟฟ์ไปโอลรัสฮิลล์นั้น มีระยะทางมากกว่า 1,200 กิโลเมตร เขาจะไม่ตายเพราะหมดแรงถ้าต้องปั่นจักรยานไปตลอดทางจริง ๆ เหรอ?แล้วตอนนี้ก็อยู่ในเดือนธันวาคมซึ่งเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว เขาจะต้องขี่จักรยานตลอดทางไปจนถึงภาคใต้ แล้วไม่ได้รับอนุญาตให้พักในโรงแรมเลยด้วย ข้อกำหนดเหล่านี้รุนแรงเกินไปไม่ใช่เหรอ?ดีแลนรู้สึกเสียใจมากและน้ำตาก็เริ่มไหลอาบใบหน้านี่มันเรื่องบ้าบออะไรกันเนี่ย… เขาเป็นนายน้อยคนที่สามของตระกูลโคช แต่จะต้องขี่จักรยานไปจนถึงโอลรัสฮิลล์? เขาจะไม่ล้มตายไปในระหว่างทางหรอกเหรอ?คงจะน่าทึ่งมากถ้าเขาสามารถปั่นจักรยานได้วันละห้าสิบ หรือหกสิบกิโลเมตรระยะทางกว่า 1,200 กิโลเมตร เขาจะต้องปั่นจักรยานไปประมาณยี่สิบวัน!แต่นี่มันเดือนธันวาคมแล้วนะ!เขาสะอึกสะอื้นพร้อมกับพูดว่า “คุณเวดครับ ถ้าผมเริ่มปั่นจักรยานไปโอลรัสฮิลล์ กว่าจะถึงที่นั่นก็คงเป็นเดือนมกราคมแล้ว น้องสาวผมจะต้องกลับมาฉลองปีใหม่ที่
ลอรีนดีใจมากแล้วพูดอย่างตื่นเต้นว่า “ขอบคุณมากนะคะชาร์ลี!”ชาร์ลีรีบพูดว่า “รอเดี๋ยวนะ ผมจะไม่บังคับให้เขากลืนจี้หยกเข้าไป แต่ยังต้องลงโทษเขาด้วยวิธีอื่น ไม่งั้นเขาคงไม่จดจำไว้เป็นบทเรียน”ลอรีนรีบถามว่า “คุณจะลงโทษเขาด้วยวิธีไหนคะ ชาร์ลี? คงไม่ร้ายแรงไปกว่าการกลืนจี้หยกเข้าไปแล้วใช่ไหมคะ?”“ไม่หรอกครับ ชาร์ลียิ้มเบา ๆ ก่อนจะพูดว่า “คุณมั่นใจได้เลยว่า การลงโทษครั้งนี้จะส่งผลดีกับตัวเขาอย่างแน่นอน”ในที่สุดลอรีนก็รู้สึกสบายใจในขณะที่พูดอย่างเสน่หาว่า “ขอบคุณนะคะชาร์ลี ขอบคุณที่ให้อภัยพี่ชายของฉัน และปล่อยเขาไปเพราะเห็นแก่ฉัน ถ้าอย่างนั้น คุณให้โอกาสฉันได้ตอบแทนคุณดีไหมคะ…”ชาร์ลีถามด้วยความประหลาดใจ “คุณจะตอบแทนผมยังไงเหรอ?”ลอรีนกะพริบตาในขณะที่ยิ้มและพูดอย่างตั้งใจว่า “ฉันสัญญาว่าจะแต่งงานกับคุณ และให้กำเนิดลูกชายตัวอ้วน ๆ เพื่อคุณ! คุณคิดว่ายังไงคะ?”ชาร์ลีตอบด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “อย่าพูดอะไรแบบนี้อีก ผมเป็นสามีของเพื่อนสนิทของคุณนะ!”ลอรีนพยักหน้าก่อนจะพูดอย่างจริงจังว่า “ฉันรู้ค่ะ แต่คุณทั้งคู่แต่งงานกันแบบปลอม ๆ นี่! ก็ยังไม่ถือว่าเป็นการแต่งงานกันอย่างแท้จริง! จริง ๆ แล