แคลร์ไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้เลย เธอโบกมือก่อนจะพูดว่า “ช่างมันเถอะค่ะ ฉันไม่ต้องการพูดถึงปัญหานี้อีก ฉันไปทำให้ตัวเองสงบสติอารมณ์ที่ห้องนอนนะคะ”หลังจากที่เธอพูดจบ แคลร์ก็หันหลังและเดินขึ้นบันไดไปชาร์ลีอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจเมื่อเห็นเธอเดินขึ้นบันไดและจากไปดูเหมือนว่ามันจะเป็นเรื่องยากจริง ๆ ที่จะจัดการกับเอเลนเขาไม่สามารถกำจัดเธอได้และไม่สามารถทำให้เธอหายตัวไปจากโลกนี้โดยไร้ร่องรอยได้เลย เมื่อเธอรับความทุกข์มามากพอแล้ว เขาก็ยังคงต้องพาเธอกลับบ้านอยู่ดีอย่างไรก็ตาม มันจะลำบากมากในการพาเธอกลับมา เขาจะทำให้เธอหุบปากโดยไม่พูดเรื่องที่เกิดขึ้นได้อย่างไร?ผ่านการสะกดจิตดีไหมนะ?นั่นจะไม่น่าเชื่อถือเอาซะเลย!เพราะท้ายที่สุดแล้ว ผลข้างเคียงของการสะกดจิตก็คือเมื่อบุคคลนั้นเริ่มปฏิบัติตัวตามสัญญาณที่ถูกสะกดไว้ของพวกเขาแล้ว บุคคลนั้นก็จะสูญเสียสติไปชั่วขณะมันเป็นสถานการณ์เดียวกันกับตอนที่เขาสะกดจิตเคียน และสดกดจิตแก่เขาว่าเขาจะต้องทานอาหารพิเศษทุก ๆ ชั่วโมง เมื่อใดก็ตามที่เขาทานอาหารมื้อพิเศษ เคียนก็แค่ทำตามที่ชาร์ลีได้สะกดเอาไว้ให้เขา ในเวลานั้นเขาจะสูญเสียสติไปชั่วขณะและสิ่งที่เข
ลอเรนสัมผัสได้ถึงความอ่อนโยนของชาร์ลี เมื่อชาร์ลีปาดน้ำตาออกจากใบหน้าของเธอ ในเวลาเดียวกัน เธอรู้สึกว่าหัวใจของเธอเจ็บปวดอย่างที่สุด ที่เธอฟังคำสารภาพรักที่หนักแน่นและเปี่ยมล้นไปด้วยความรู้สึกที่เขามีต่อแคลร์ในเวลานี้ ลอเรนพูดด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้ง “ชาร์ลี ถ้าแคลร์รักคุณจริง ๆ ฉันจะไม่ทำอะไรเพื่อกวนหรือแทรกแซงความสัมพันธ์ของพวกคุณเลย อย่างไรก็ตาม คุณรู้ดีอยู่แล้ว ว่าเหตุผลเดียวที่แคลร์มาอยู่กับคุณ เป็นเพราะคำสัญญาที่เธอให้ไว้กับปู่ของเธอ คุณคิดว่าอะไรจะเกิดขึ้น ถ้าคุณเป็นคนเดียวที่ทุ่มเทกับความสัมพันธ์นี้? ทำไมคุณไม่ปล่อยเธอไปและคิดถึงตัวคุณเองบ้างสักครั้งล่ะ?”หลังจากที่เธอพูดจบ ลอเรนก็สะอื้นขณะที่เธอถามว่า “ฉันด้อยกว่าแคลร์ตรงไหน? บอกฉันที ฉันจะได้ปรับปรุงตัวเอง ฉันจะได้ตามเธอทัน ได้โปรดอย่าปฏิเสธฉันแบบนี้เลย ทำไมคุณไม่ให้โอกาสฉัน?”ชาร์ลีส่ายหัวเล็กน้อยก่อนจะพูดว่า “ลอเรน บางครั้งคุณไม่เข้าใจความคิดของผู้ชาย เหตุผลที่คุณตกหลุมรักผม เพราะผมใจดีกับคุณ และนี่เป็นเหตุผลว่าทำไมผมถึงตกหลุมรักแคลร์ เพราะเธอก็ใจดีกับผม มันเป็นเหตุผลเพียงพอที่จะทำให้ผมเลือกอยู่เคียงข้างเธอ เพื่อรักเธ
หากแคลร์ไม่มี 'ความโง่เขลา' อันดื้อดึงนี้ เธอคงจะฟังการเกลี้ยกล่อมของทุกคนและกำจัดเขาไปนานแล้วถ้าเป็นเช่นนั้น ชะตากรรมของเขาจะเป็นอย่างไรในตอนนี้?ชาร์ลีไม่กล้าแม้แต่จะคิดเรื่องนี้ชีวิตของเขาลำบากมากก่อนจะแต่งงานกับแคลร์เนื่องจากสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า จะไม่รับเลี้ยงผู้ใหญ่อีกต่อไป ดังนั้น ในวันเกิดปีที่สิบแปดของเขา คุณนายลูอิสจึงซื้อเค้กวันเกิดให้เขาด้วยเงินออมเพียงเล็กน้อยที่เธอมี หลังจากนั้นพวกเขาก็ฉลองวันเกิดให้ชาร์ลี ก่อนที่เธอจะส่งเขาออกจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าด้วยน้ำตาที่เอ่อคลอในตอนนั้น ชาร์ลีต้องกลับมาเป็นคนไร้ที่พึ่งและโดดเดี่ยวบนโลกใบนี้อีกครั้งคุณนายลูอิสอยากจะช่วยเขาและเธอต้องการแนะนำงานให้ชาร์ลี เพื่อที่เขาจะได้หาเงินเลี้ยงชีพได้เอง แต่ชาร์ลีไม่มีหน้าจะไปรับความช่วยเหลือจากคุณนายลูอิสเขาพบเจอกับสถานที่ก่อสร้างด้วยตัวเขาเองและเริ่มที่จะขนย้ายอิฐ ทราย รวมถึงซีเมนต์ตอนอายุได้สิบแปดปีเขาลังเลที่จะเช่าบ้าน ดังนั้นเขาจึงอาศัยในแคมป์คนงานที่ไซต์ก่อสร้างร่วมกับคนงานคนอื่น ๆ เขากินอาหาอย่างถูกที่สุดและทำงานที่เหนื่อยที่สุด หนักที่สุดและสกปรกที่สุดในสถานที่ก่อสร้างช
ขณะที่เขาคิดถึงอดีต ชาร์ลีก็รู้สึกเปี่ยมล้นไปด้วยอารมณ์มีเพียงสองคนในตระกูลวิลสันที่ปฏิบัติต่อเขาเป็นอย่างดีหนึ่งในนั้นคือนายท่านวิลสันซึ่งล่วงลับไปแล้ว และอีกหนึ่งคือ แคลร์ ภรรยาของเขาเนื่องจากนายท่านวิลสันได้เสียชีวิตลงไปแล้ว คนเดียวในตระกูลวิลสันที่ดีกับเขาอย่างแท้จริงก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากแคลร์เมื่อชาร์ลีเห็นแคลร์ยืนอยู่ที่ระเบียงด้วยใบหน้าที่เศร้า เขาจึงเดินเข้าไปหาเธอช้า ๆ ก่อนพูดว่า “แคลร์ คุณไม่ต้องกังวลมากไปหรอก แม่จะกลับบ้านอย่างปลอดภัยแน่นอน ตกลงไหม?”แคลร์เพิ่งรู้ว่าชาร์ลีเข้ามาในห้อง เมื่อเธอได้ยินเขาพูด เธอหันกลับมามองเขาด้วยสีหน้าหงุดหงิด เธอพูดว่า “คุณไม่ได้สนใจแม่จริง ๆ แน่นอนคุณคิดว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับแม่ และต่อให้มีอะไรเกิดขึ้นกับแม่ คุณก็จะไม่เสียใจหรือกังวลเลย”ชาร์ลีรู้ว่าแคลร์ยังโกรธเขาอยู่ ดังนั้นเขาจึงถอนหายใจเบา ๆ ก่อนเดินไปหาแคลร์และปลอบโยนเธอ “ภรรยาที่รัก ผมรู้ ว่าคุณกังวลว่าแม่ของคุณ อาจจะกำลังทุกข์หรือประสบพบเจอกับอันตรายอยู่ข้างนอกนั่น แต่อย่างไรก็ตาม คุณไม่คิดเหรอว่า มันก็เป็นเรื่องดีที่แม่ของคุณต้องเจอกับความทุกข์บ้าง?”แคลร์ตอบว่า “ฉันเข้
จาค็อบที่อยู่ชั้นบนบนชั้นสาม ตรงกันข้ามกับชาร์ลีเขาตื่นเต้นมากจนนอนไม่หลับเลยในคืนนั้นเขาไม่สามารถหยุดคิดถึงอดีตที่เขามีร่วมกับมาทิลด้าได้ รวมถึงความทรงจำดี ๆ ทั้งหมดก็วนเวียนอยู่ในหัวของเขา เขาหมกมุ่นอยู่กับความทรงจำที่เขากับมาทิลด้ามีร่วมกันยิ่งเขาคิดถึงมาทิลด้ามากเท่าไร เขาก็ยิ่งตั้งหน้าตั้งตารอที่จะได้พบเธออีกครั้งเช้าวันรุ่งขึ้น จาค็อบที่ไม่ได้นอนตลอดทั้งคืน มีความกระตือรือร้นและอารมณ์ดีมาก เขายิ้มกว้างจนปากแทบถึงหู อย่างมีความสุขในเวลานี้เขาตื่นแต่เช้าเพื่ออาบน้ำและโกนหนวดเคราให้สะอาดโดยไม่เหลือตอแม้แต่น้อย หลังจากนั้นเขาก็หวีผมก่อนจะฉีดสเปรย์จัดแต่งทรงผม หลังจากนั้นเขาก็มองเข้าไปในตู้เพื่อมองหาชุดสูทหรูหราระดับไฮเอนด์ ชุดสูทที่เขารู้สึกไม่เต็มใจที่จะใส่มันมาตลอดชุดนี้ทำขึ้นเป็นพิเศษในฮ่องกง เมื่อครั้งที่ตระกูลวิลสันยังคงรุ่งโรจน์อยู่ ในเวลานั้นเขาเป็นนายน้อยรองของตระกูล พ่อของเขาจึงไม่ลังเลที่จะให้เงินค่าขนมจำนวนมากรวมถึงชุดสูทนี้ เพื่อเป็นหน้าเป็นตาและรักษาชื่อเสียงของตระกูลเมื่อเขาออกไปเที่ยวโชคดีที่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จาค็อบใช้ชีวิตแบบประหยัดมาก น้ำหนักของเข
เมื่อแคลร์ได้ยินว่าพ่อของเธอต้องการให้เธอพาเขาไปพบกับรักแรกของเขา แคลร์ปฏิเสธอย่างไม่ลังเลเลย "หนูไม่ไป!"จาค็อบกางมือออกก่อนจะพูดว่า “ถ้าอย่างนั้น อย่าห้ามชาร์ลีไม่ให้ไปกับพ่อ ไม่ว่าวันนี้จะเป็นอย่างไรไร คนใดคนหนึ่งก็ต้องมากับพ่อ”“พ่อ…” แคลร์โกรธจัดและเธอถามว่า “การทานอาหารกับเพื่อนเก่าของพ่อหรือการที่เราออกไปตามหาแม่ อะไรสำคัญกว่า? พ่อไม่สามารถแยกแยะได้ใช่ไหมว่าอะไรสำคัญ?”จาค็อบโพล่งออกมา “แน่นอน พ่อแยกแยะมันได้ชัดเจนเลย! แน่นอนว่าการทานอาหารกับเพื่อนของพ่อ มันสำคัญกว่ามาก!”“พ่อ…”แม้ว่าแคลร์มักจะเป็นคนอารมณ์ดี แต่ในเวลานี้ เธอก็กำลังจะระเบิดและปะทุด้วยความโกรธจาค็อบตอบอย่างเฉยเมยว่า “แคลร์ ลูกต้องเข้าใจเรื่องหนึ่ง โลกนี้ไม่ได้หมุนรอบแม่คนเดียว ครอบครัวนี้มีสี่คน แม่ของลูกและพ่อต่างก็ต้องการที่แยกทางกัน ลูกสามารถเลือกและตัดสินใจเองว่าชีวิตของลูกจะหมุนรอบแม่ แต่ลูกไม่สามารถบังคับหรือคาดหวังให้ชาร์ลีหรือพ่อไปหมุนรอบแม่ได้แล้ว! ลูกไม่คิดว่าเราควรมีชีวิตของเราเองเหรอ? เราไม่มีความต้องการใด ๆ ของตัวเราเองบ้างเลยเหรอ?”ขณะที่เขาพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ จาค็อบรู้สึกกระวนกระวายเล็ก
เอเลนรู้ดีว่านี่เป็นการข่มขู่ ตราบใดที่เธอเริ่มที่จะกินและตราบใดที่เธอเอื้อมมือไปแตะกล่องอาหาร เธออาจจะต้องทนกับการถูกทุบตีดังนั้น เอเลนจึงร้องไห้ออกมา เธออ้อนวอนขอร้อง “พี่เจนนิเฟอร์ พี่ทุบตีและดุด่าฉันไปมากเท่าที่พี่ต้องการเมื่อวานนี้แล้ว ได้โปรดเมตตาฉันและปล่อยฉันไปในวันนี้ได้ไหม?”เจนนิเฟอร์ยักคิ้วก่อนจะพูดว่า “คือถ้าฉันปล่อยแกไป แม่ที่ตายของฉันจะฟื้นขึ้นมาเหรอ? แกรู้ไหม ว่าแม่ของฉันต้องทรมานแค่ไหนตอนที่แม่กินยาฆ่าแมลงและนอนหายใจไม่ออกตายอยู่บนเตียงในโรงพยาบาล”เอเลนร้องไห้ขณะที่เธอพูดว่า “พี่เจนนิเฟอร์…ฉันรู้ว่าพี่เป็นลูกสาวที่กตัญญู แต่ฉันไม่ได้ทำร้ายแม่ของพี่แต่อย่างใดเลย…”เจนนิเฟอร์ตอบอย่างโกรธเคือง “แกยังจะพูดเรื่องไร้สาระกับฉันอยู่อีกเหรอ? ให้ฉันบอกอะไรแกสักอย่างเถอะ แม่ของฉันถูกฆ่าตายเพราะลูกสะใภ้เนรคุณ! นั่นคือเหตุผลที่ฉันรู้สึกแย่เมื่อเจอคนแบบแก! แกควรจะดีใจที่ในตอนนี้ เราไม่ได้อยู่ในสมัยโบราณ ไม่อย่างนั้นฉันคงจะสับแกเป็นชิ้น ๆ แล้ว!”คุณท่านวิลสันตอบอย่างอิ่มอกอิ่มใจ “เจนนิเฟอร์ คุณพูดถูก! ผู้หญิงแบบนี้ในสมัยโบราณจะถูกขังอยู่ในกรงหมู! เราควรขังเธอไว้ในกรงไม้ไผ่ที่ม
เลยเวลาแปดโมงเช้ามาเล็กน้อย ชาร์ลีก็ขับรถพาชายชราออกจากวิลล่ายังมีเวลามากกว่าสองชั่วโมงก่อนที่เครื่องบินจะลงจอด แต่จาค็อบทนรอไม่ไหวอีกต่อไปแล้วหลังจากออกจากวิลล่าที่ ธอมป์สัน เฟิร์ส จาค็อบก็รีบถามชาร์ลีว่า “ลูกเขยที่รัก รู้ไหมว่าพ่อสามารถซื้อช่อดอกไม้ได้ที่ไหน? พ่ออยากซื้อช่อกุหลาบเพื่อมอบให้มาทิลด้า”ชาร์ลีตอบว่า “พ่อครับ เพื่อนของพ่อพาลูกชายมาด้วยในวันนี้ พ่อคิดว่ามันเหมาะสมเหรอครับ ที่จะมอบกุหลาบให้เธอต่อหน้าลูกชายของเธอ?”จาค็อบคิดกับตัวเองครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้าและพูดว่า “ลูกพูดถูก พ่อควรจะมอบช่อดอกไม้ธรรมดาให้เธอ”ชาร์ลีตอบว่า “ผมรู้จักร้านดอกไม้ใกล้ ๆ เราจะไปที่นั่นเพื่อซื้อดอกไม้กันก่อน”ทันทีที่พวกเขามาถึงร้านดอกไม้ ชาร์ลีใช้เงินห้าร้อยเหรียญ เพื่อขอให้ร้านดอกไม้ช่วยเขาเตรียมช่อดอกไม้ที่เป็นสัญลักษณ์ของมิตรภาพ หลังจากนั้นเขาก็นำช่อดอกไม้กลับไปให้จาค็อบซึ่งรออยู่อยู่ในรถ จาค็อบตื่นเต้นมากเมื่อถือช่อดอกไม้ไว้ในมือ เขายิ้มพร้อมกับพูดว่า “ร้านดอกไม้นี้เป็นมืออาชีพมากจริง ๆ ! ช่อดอกไม้นี้ดูน่าประทับใจและดูมีน้ำใจมาก! พ่อเชื่อว่ามาทิลด้าจะต้องชอบมันอย่างแน่นอน!”ชาร์ลียิ้