ลอรีนรู้สึกเสียใจ และโกรธมากเช่นกัน เธอเป็นลูกสาวของตระกูลโธมัส และไม่มีทางที่เธอจะรับผิดอย่างบริสุทธิ์ใจ เธอจึงผลักประตูลงจากรถทันที และตะโกนกลับไปว่า “นี่ หุบปากไปเลยนะ! นี่มันเป็นความผิดของนายตั้งแต่แรก! นายไม่เห็นเหรอว่า ฉันกำลังถอยหลังเข้าจอด ตาบอดเหรอไง? กล้ามาว่าฉันก่อนได้ยังไงกันฮะ?!”ชายหนุ่มไม่คาดคิดว่า ลอรีนจะตอบกลับใส่เขา เขาตะโกนว่า “โอ้พระเจ้า ให้ตายเถอะคนขับเป็นผู้หญิงโง่อีกคนสินะ! เก้าในสิบของคนขับรถที่โง่ที่สุดบนท้องถนนจะเป็นผู้หญิง! เธอขับรถเป็นหรือเปล่าเนี่ย? ถ้าทำไม่ได้ให้กลับไปอยู่ในท้องของแม่ซะ และเรียนรู้วิธีขับรถก่อนที่จะออกมา ไม่งั้นจะทำให้ตัวเองขายหน้าซะเปล่า ๆ !”จากนั้นเขากล่าวเสริมว่า “ฉันเพิ่งซื้อรถคันนี้มาสิบล้านนะ แล้วเธอก็มาทำรถฉันเป็นรอย เธอจะรับผิดชอบเท่าไหร่ล่ะ?”ลอรีนขมวดคิ้วและโต้กลับ “นี่ ก่อนอื่นนะ! ฉันเห็นที่ว่างก่อน แล้วก็ถอยเข้าไปครึ่งหนึ่งแล้ว ส่วนนายโผล่มาจากไหนก็ไม่รู้ แล้วพยายามแย่งที่จอดฉัน! มันเป็นความผิดของนาย! นายกล้ามาด่าฉันก่อนได้ยังไงกัน?!”ชายหนุ่มคำรามด้วยความตกใจ “อะไรนะ? ฉันจะด่าเธอไม่ได้เหรอไง เพราะเธอเป็นฝ่ายผิดนะ! แล้วฉัน
ชายหนุ่มหันกลับไปหาชาร์ลีด้วยท่าทางดุร้าย และด่าต่อว่า “นี่ ไอ้หนู ในตอนที่ฉันยังถามดี ๆ แกควรจะชดใช้ให้เราดีกว่า แฟนของฉันกับฉันต้องไปที่น้ำพุร้อน ดังนั้นเป็นหมาที่เชื่องหน่อย แล้วออกไปจากที่นี่ซะ!”ชาร์ลีพูดอย่างเย็นชาขึ้นว่า "แล้วถ้าฉันไม่ทำ จะเกิดอะไรขึ้นเหรอ?”ชายหนุ่มยิ้มเยาะ “ไอ้สถุนน่าสมเพช รอเถอะ ฉันจะบอกให้แกรู้ว่าผลของการไม่ชดใช้มันเป็นยังไง”จากนั้นเขาก็หยิบโทรศัพท์ออกมา และโทรหาใครสักคน “นี่ คุณฮิกส์ ผมมาถึงที่รีสอร์ตของคุณแล้ว มีคนงี่เง่าทำให้รถของผมเป็นรอยที่ลานจอดรถเวรนี่ พวกเขาปฏิเสธที่จะชดใช้ให้ผม แล้วยังไม่กวนบาทาผมอีก รีบส่งคนของคุณมาที่นี่เลย!”หลังจากวางสาย ชายหนุ่มยิ้มเยาะ และพูดว่า “ไอ้สถุนน่าสมเพช ฉันจะให้โอกาสครั้งสุดท้าย ชดใช้ค่าเสียหายให้ฉัน ขอโทษฉันในตอนนี้ พอคุณฮิกส์มาที่นี่ แกได้ตายแน่!”ลอรีนกลัวว่าชาร์ลีจะได้รับบาดเจ็บ เธอจึงรีบพูดว่า “ก็ได้ ๆ วันนี้เป็นวันโชคร้ายของฉันเอง ฉันต้องจ่ายเงินให้นายเท่าไหร่?”“เธอทำให้รถของฉันเป็นรอย มันเป็นสีดั้งเดิมของรถ! เธอต้องจ่ายครึ่งราคาของรถ! ฉันจะให้ส่วนลดก็แล้วกัน จ่ายมาสี่ล้าน!”"อะไรนะ? สี่ล้านงั้นเหรอ?!”
ชายหนุ่มรู้สึกเจ็บแค้นทันที เมื่อจู่ ๆ ชาร์ลีก็หยุดลอรีน เขาจึงเดินตรงเข้าไปหาชาร์ลี และคำรามขึ้นว่า “ได้ ไอ้เวร ถ้าแกอยากตายนัก แกมาถูกทางแล้ว! ฉันจะถอดนามสกุลของฉันออกถ้าฉันทำให้แกตายไม่ได้!”ชาร์ลีพูดอย่างเรียบเฉยว่า “ในเมื่อนายชอบอวดมาก ฉันแนะนำนามสกุลใหม่ให้นายได้นะ - โชว์ออฟ ไงล่ะ”“ไอ้บัดซบนี่!” ชายหนุ่มโกรธมากจนเขาอยากจะพุ่งใส่ชาร์ลีทุกวินาทีในขณะนี้ในขณะนี้ชายวัยกลางคนร่างท้วมวิ่งเข้ามาหาพวกเขาพร้อมกับบอดี้การ์ดบึกบึนสองสามคนชายหนุ่มยิ้มทันทีที่สบตากับชายร่างท้วม “ว่าไง คุณฮิกส์ ผมไม่ได้เจอคุณมาสักพัก ตอนนี้คุณดูอ้วนขึ้น ดูเหมือนว่าชีวิตคุณสนุกดีนะครับ!”คุณฮิกส์หัวเราะคิกคัก และพูดว่า “คุณลอยด์ ชีวิตของผมจะเทียบเคียงกับคุณได้ยังไงกันครับ? ผมเป็นเพียงหนึ่งในลูกน้องของคุณคาเมรอนเท่านั้น แตกต่างจากคุณที่มีธุรกิจตระกูลใหญ่โตมากมาย”จากนั้นเขาก็ถามอย่างรวดเร็วว่า “ว่าแต่คุณลอยด์ เกิดอะไรขึ้นครับ?”ชายหนุ่มชี้ไปที่ชาร์ลี และพูดอย่างเย็นชาว่า “ไอ้เวรนี่มันขี้โอ่มาก มันทำรถผมเป็นรอย แต่ไม่อยากจ่ายเงินผม ปากก็ดีนัก พูดพล่ามอะไรอยู่ได้จ้อ ๆ จัดการเขาให้ทีครับ!”คุณฮิกส์พยักหน
"เกิดอะไรขึ้น? เสียงดังอะไรกัน?”คุณฮิกส์ตัวสั่นด้วยความตกใจเมื่อได้ยินเสียง เขาหันกลับมา และพูดด้วยความเคารพว่า “ดอน อัลเบิร์ต คุณแช่น้ำพุร้อนเสร็จแล้วหรือครับ? เป็นยังไงบ้างครับ?”“ก็ดี” อัลเบิร์ตตอบอย่างเฉยเมยแล้วถามว่า “นายกำลังทำอะไรอยู่?”อัลเบิร์ตพูดขึ้น ขณะที่เดินไปที่จอดรถกับคนของเขา“โอ้ มันเป็นแค่พวกขยะที่กล้ามามีปัญหากับคุณลอยด์น่ะครับ ผมกำลังจะล้างแค้นให้เขา ไอ้เด็กคนนี้ไม่ได้มีอะไรเลยนอกจากอวดดี”มาร์คัสจับท้อง "สวัสดีครับลุงโรดส์ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะครับ"อัลเบิร์ตมองเขาแล้วหัวเราะ “โอ้ นายนี่เอง มาร์คัส! แล้วนี่เกิดอะไรขึ้น? นายจะมาแพ้ในโอลรัสฮิลล์ได้ยังไงกัน? เดี๋ยวทำให้ชื่อเสียงของพ่อนายต้องอับอายเอานะ!”อัลเบิร์ตและพ่อของมาร์คัสค่อนข้างสนิทกัน มาร์คัสจึงถือได้ว่าเป็นหลานชายของเขา เขาพูดค่อนข้างตรงไปตรงมา และเป็นผู้ใหญ่มาร์คัสไม่กล้าคุยกับอัลเบิร์ตเขาจึงพูดอย่างอาย ๆ ว่า “ลุงโรดส์ครับ ผมดันไปเจอไอ้ขี้แพ้มา ผมจะสอนให้เขารู้ว่า เขาจะเจออะไรกับการมายุ่งกับผม!”อัลเบิร์ตตอบกลับว่า “ฮ่าฮ่า! ฉันอยากรู้ อยากเห็นจังว่าใครกล้าพอที่จะมามีปัญหากับนาย”อัลเบิร์ตเดินไปข
คุณฮิกส์ผู้จัดการของช็องลาลีเซรีสอร์ต ต่างก็รู้สึกตะลึงอย่างยิ่งกับภาพที่เห็นเขาไม่สามารถเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น แม้แต่คนของเขาก็ไม่เข้าใจเช่นเดียวกัน ไม่มีใครกล้าขยับเลยแม้แต่นิดเดียวมาร์คัสคร่ำครวญเสียงดัง “ลุงโรดส์ หยุดเถอะครับ! นี่มันเกิดอะไรขึ้นวะเนี่ย?”อัลเบิร์ตกระทืบหน้ามาร์คัสพร้อมกับคำราม “มาร์คัส ลอยด์ แกรู้สึกว่าแกอำนาจใหญ่นัก เพราะฉันดูแลแกเหมือนหลานชายใช่ไหม? ฮะ! ใครใช้ให้แกมาอวดดีข้างนอก?!”มาร์คัสร้องไห้อย่างตกใจ “ลุงโรดส์ ทำไมลุงถึงโกรธขนาดนี้ล่ะ? บอกผมมาหน่อย แล้วผมจะแก้ไขเอง!”อัลเบิร์ตเตะเขาพร้อมกับสาปแช่ง “ปรมาจารย์เวดเป็นผู้ช่วยชีวิตของฉัน เป็นฮีโร่ของฉัน แต่แก ไอ้เด็กเวร แกไปดูถูกเขา! ไปตายซะเถอะ!"มาร์คัสเพิ่งจะตระหนักว่า เขายุ่งกับคนที่เขาไม่ควรยุ่ง เขาโอดครวญขอร้องว่า “ผมขอโทษลุงโรดส์ ผมขอโทษจริง ๆ ! ผมขอโทษปรมาจารย์เวด ช่วย… ช่วยยกโทษให้ผมด้วย! มันเป็นความผิดของผมเอง! ขอร้องนะครับ! ผมจะชดใช้ให้!”อัลเบิร์ตมองมาเซราติของเขาอย่างดูถูกเหยียดหยาม และหัวเราะเยาะ “โอ้ นี่แกกำลังขับรถคันใหม่สินะ ฉันเข้าใจแล้ว แกมันอวดดี และภาคภูมิใจเพราะเรื่องนี้ใช่ไหม? เด็ก
วิธีนี้เธอไม่สามารถลบมันได้แม้ว่าเธอจะต้องการลบมันก็ตามหลังจากนั้น เสียงของแตกและการทุบก็ดังขึ้นไม่หยุด รถมาเซราติคันใหม่เอี่ยมถูกทุบลงกลายเป็นกองเศษเหล็กอย่างรวดเร็วมาร์คัสตัวสั่น เขารู้ว่าครั้งนี้เขาทำผิดพลาดครั้งใหญ่เขาจึงกอดแขนกอดขาของอัลเบิร์ต และขอร้องว่า “ลุงโรดส์ ผมขอโทษจริง ๆ ยกโทษให้ผมเถอะครับ!”“ยกโทษให้บ้านแกสิ!” อัลเบิร์ตเตะเข้าที่อกเขาอย่างแรง เขาหันไปหาชาร์ลี และถามว่า “ปรมาจารย์เวด คุณอยากให้ผมจัดการกับพวกเขายังไงดีครับ?”ชาร์ลีเหลือบมองมาร์คัส และแสยะยิ้ม “อืม เด็กคนนี้น่าสนใจมาก เขาชอบที่จะด่า และพูดเรื่องไร้สาระด้วยปากสกปรก ๆ อ้อ ใช่แล้ว ผมได้ยินมาว่า มีผู้ชายบางคนถูกลากไปเลียโถฉี่ในห้องน้ำเมื่อสองวันก่อนด้วยเหตุผลเดียวกัน คุณรู้เรื่องนี้หรือไม่?”แน่นอน!มันเกิดขึ้นที่คลับกลอเรียส เจฟฟรีย์ วีเวอร์พาสาวของเขามาด้วย และทำให้ปรมาจารย์เวดขุ่นเคือง จากนั้นออสการ์หัวหน้าพ่อบ้านตระกูลมัวร์ก็บังคับให้พวกเขาเลียโถฉี่แปดโถ ข่าวแพร่กระจายในโอลรัสฮิลล์ราวกับไฟป่า และกลายเป็นเรื่องตลกขบขันในหมู่ผู้คนออสการ์ไม่กล้าเปิดเผยตัวตนของชาร์ลีดังนั้นจึงไม่มีใครรู้ว่า เจฟฟรีย์ แ
อัลเบิร์ตตะลึงเมื่อได้ยินคำสั่งของชาร์ลี เขาหยิบมีดขึ้นมาทันทีก่อนจะสั่งคนของเขาว่า “พวกแกมานี่ แล้วจับหัวมันไว้”มาร์คัสรู้สึกหวาดกลัวอย่างมากในเวลานี้ และพยายามดิ้นรนส่ายหัวอย่างสิ้นหวัง ในขณะที่เขาไม่เต็มใจที่จะให้ใครสักคนสลักคำว่า 'ไอ้สถุนน่าสมเพช' บนหน้าผากของเขา นี่เป็นคำสองคำที่เขามักจะใช้ด่า และพูดจาไม่ดีใส่ผู้อื่นทุกวัน!ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาตระกูลของมาร์คัสเพิ่งจะมีเงิน และนับตั้งแต่ที่เขาร่ำรวยขึ้นเขาก็ทำตัวขี้โอ่อวดดีมากขึ้นเรื่อย ๆเมื่อใดก็ตามที่เขาออกไปข้างนอก และเห็นคนเก็บขยะเขาจะเรียกพวกเขาว่าไอ้สถุนน่าสมเพชเมื่อเขาออกไปข้างนอก และเห็นว่ารถของคนอื่นไม่ดีเท่ารถของเขา เขาก็จะเรียกรถเหล่านั้นว่ารถสถุนเมื่อไม่นานมานี้ นักเรียนมัธยมปลายคนหนึ่งได้ทำถ้วยหกลงบนเสื้อแจ็คเก็ต Dior ของเขาโดยไม่ได้ตั้งใจ หลังจากนั้นด้วยความโกรธ มาร์คัสได้ทุบตีนักเรียนมัธยมปลายจนนักเรียนได้รับบาดเจ็บ และหมดสติไป เมื่อพ่อแม่ของนักเรียนมัธยมปลายมาถึง มาร์คัสยังด่าพวกเขาอีกว่า“ครอบครัวแกมันยาจกน่าสมเพช! แม้ว่าฉันจะเอาพวกแกทั้งหมดไปขายเป็นทาส ก็ไม่พอค่าแจ็คเก็ต Dior ตัวใหม่!”หลังจากที่เขาพู
ดังนั้นอัลเบิร์ตจึงสลักคำให้ใหญ่ และลึกที่สุดเท่าที่จะทำได้!คำว่า "ไอ้สถุน" ติดอยู่ครึ่งหนึ่งของหน้าผากของมาร์คัสยิ่งไปกว่านั้นอัลเบิร์ตยังเขียนคำนี้ได้แย่มาก! มันดูน่าเกลียดมาก!วิธีการที่เขาเขียนคำว่า ‘ไอ้สถุน’ นั้นไม่ได้อยู่ในระดับมาตรฐานของนักเรียนชั้นประถมเลยด้วยซ้ำ!เมื่ออัลเบิร์ตมองไปที่คำที่เขาสลักไว้บนหน้าผากของมาร์คัสแล้ว เขาก็หัวเราะก่อนจะพูดว่า “ขอโทษครับคุณเวด ที่จริงผมไม่คุ้นเคยกับการเขียนคำด้วยมีด มันน่าเกลียดจริง ๆ …”ชาร์ลีหัวเราะเบา ๆ ก่อนที่เขาจะถามว่า “บอกความจริงกับผมมาเถอะอัลเบิร์ต คุณเรียนมากี่ปีกันแน่?”อัลเบิร์ตหัวเราะอีกครั้งก่อนที่เขาจะตอบว่า “ผมเรียนมาหลายปีแล้วครับคุณเวด ผมเรียนจบชั้นประถมแล้วด้วยซ้ำ! แต่ผมต้องยอมรับว่า ผมไม่ได้เรียนหนักในช่วงหกปีที่ผมอยู่ชั้นประถม…”ชาร์ลีพยักหน้าก่อนที่เขาจะตอบว่า “ไม่เป็นไร ถ้าคุณแกะสลักคำให้สวยมากไป คุณคงจะปล่อยเขาไปง่ายเกิน”มาร์คัสรู้สึกราวกับว่า เขาหายใจไม่ออกเมื่อได้ยินบทสนทนาของพวกเขาความเจ็บปวดที่เขารู้สึกบนหน้าผากตอนนี้ไม่สำคัญเลย สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือ ความจริงที่ว่าเขาเสียโฉมแล้ว!อัลเบิร์ตม