แชร์

กลลวง นายสุดเท่ห์ ชาร์ลี เวธ
กลลวง นายสุดเท่ห์ ชาร์ลี เวธ
ผู้แต่ง: ลอร์ด ลีฟ

บทที่ 1

ผู้แต่ง: ลอร์ด ลีฟ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
ไฟประดับและแสงไฟได้ส่องสว่างในคฤหาสน์สุดหรูของครอบครัววิลสัน

คืนนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดปีที่ 70 ของคุณท่านวิลสันผู้ซึ่งเป็นหัวหน้าแห่งตระกูลวิลสัน

เหล่าหลาน ๆ ของเธอพร้อมคู่สมรสต่างก็เตรียมพร้อมมอบของขวัญราคาแพงให้กับเธอ

“คุณย่าคะ หนูได้ยินมาว่าคุณย่าชอบชาจีน หนูได้ไปเสาะหาชาผู่เอ๋ออายุมากกว่าศตวรรษนี้ที่มีมูลค่าห้าล้านบาทมามอบเป็นของขวัญให้กับคุณย่าค่ะ”

“คุณย่าครับ ผมเห็นว่าคุณย่าได้อุทิศตนเข้าทางธรรม ผมได้เตรียมพระพุทธรูปนี้ซึ่งแกะสลักจากหยกเหอเถียนแท้ที่มีมูลค่าถึงเจ็ดล้านบาท...”

เมื่อมองดูของขวัญที่ถูกบรรจงห่อหุ้มอย่างสวยงามตรงหน้าเธอแล้วนั้น คุณท่านวิลสันก็หัวเราะออกมาอย่างมีความสุข บรรยากาศในงานวันเกิดจึงมีความสนุกสนานและผ่อนคลาย

ทันใดนั้นชาร์ลี เวดผู้ซึ่งเป็นหลานเขยคนโตของคุณท่านวิลสันก็พูดขึ้นมาว่า “คุณย่าครับ ผมขอยืมเงินสิบล้านบาทได้ไหมครับ ขอร้องล่ะครับ คุณนายเลวิสจากสถานสงเคราะห์ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นไตวาย และผมต้องการเงินไปรักษาเขา…””

ตระกูลวิลสันทุกคนอ้าปากค้างด้วยความตกใจสุดขีด

ทุกคนต่างก็จ้องไปที่ชาร์ลีด้วยความงงงวยและประหลาดใจ

หลานเขยคนนี้ช่างใจกล้าหน้าด้านเสียจริง! เขาไม่เพียงแค่ไม่ได้เตรียมของขวัญให้คุณท่านวิลสันในวันเกิดของเธอ แต่ยังกล้าที่จะขอยืมเงินสิบล้านบาทจากเธออีกด้วย!

เมื่อสามปีก่อน นายท่าชรานวิลสันซึ่งยังมีชีวิตอยู่และสบายดีได้กลับมาบ้านพร้อมกับชาร์ลี เขาได้ยืนยันที่จะให้ชาร์ลีแต่งงานกับหลานสาวของพวกเขานั้นก็คือ แคลร์ วิลสัน เมื่อย้อนกลับไปตอนนั้นชาร์ลีเป็นเพียงผู้ชายที่ต่ำต้อยและน่าสังเวชเหมือนขอทาน

อดีตนายท่านวิลสันได้เสียชีวิตลงหลังจากที่พวกเขาแต่งงานกัน ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาทุกคนในตระกูลวิลสันก็พยายามที่จะขับไล่เขาออกจากครอบครัว อย่างไรก็ตามชาร์ลีมักเลือกที่จะอยู่นิ่ง ๆ และเฉยเมยกับทุกอย่างราวกับรูปปั้น แม้จะโดนดูถูกและเหยียดหยามแค่ไหนเขาก็ใช้ชีวิตในตระกูลวิลสันอย่างเงียบ ๆ ในฐานะลูกเขยที่อาศัยอยู่เท่านั้น

ในวันนี้เขาจนปัญญาจึงจำเป็นที่ต้องขอยืมเงินจากคุณท่านนวิลสัน

คุณนายเลวิสผู้ซึ่งเคยมีบุญคุณและช่วยชีวิตเขานั้นเป็นโรคไตวาย ซึ่งเธอจำเป็นต้องการเงินอย่างน้อยสิบล้านบาทสำหรับการฟอกไตและการปลูกถ่ายไต เขามองไม่เห็นทางออกใด ๆ นอกจากขอความช่วยเหลือจากคุณนายวิลสัน

เขาแค่รู้สึกว่าเนื่องจากวันนี้เป็นวันเกิดของเธอ เธออาจจะมีความเมตตากรุณาที่จะให้ความช่วยเหลือกับเขา

คุณท่านวิลสันยังคงหัวเราะอย่างสนุกสนาน ไม่นานนักริมฝีปากของเธอโค้งลงอย่างกะทันหันและดวงตาของเธอก็แสดงอาการออกมาอย่างไม่พอใจ

หญิงชราสาดถ้วยน้ำชาในมือลงพื้นแล้วตะโกนดังลั่น “ไอสารเลว แกมาที่นี่เพื่อฉลองวันเกิดของฉันหรือมาเพื่อขอยืมเงิน”

แคลร์ได้รีบวิ่งไปและพูดว่า “คุณย่าคะ ชาร์ลีอาจจะไม่ทันคิดให้ดี โปรดยกโทษให้เขาด้วยเถอะนะคะ” จากนั้นเธอก็ดึงสามีของเธอออกมา

ในขณะเดียวกัน เวนดี้ผู้ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของแคลร์หัวเราะเยาะอย่างดูถูก “โธ่.. แคลร์ ดูเศษขยะที่เธอแต่งงานด้วยนั่นสิ! เจอรัลด์เป็นเพียงคู่หมั้นของฉัน เรายังไม่ได้แต่งงานกันด้วยซ้ำ แต่เขามอบพระพุทธรูปหยกให้คุณย่า ดูสามีสุดประเสริฐของเธอสิ เขามามือเปล่าไม่พอยังจะกล้ายืมเงินคุณย่าอีก!”

"คุณพูดถูกที่รัก! ชาร์ลีเราทั้งคู่เป็นหลานเขยของตระกูลวิลสัน แต่สิ่งทีนายทำมันน่าขายหน้ามาก!”

ชายที่พูดอยู่คือ เจอรัลด์ ไวท์ผู้ซึ่งเป็นคู่หมั้นของเวนดี้ ตระกูลเขานับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งในตระกูลที่ร่ำรวยของเมืองนี้

เมื่อพูดถึงว่าเจอรัลด์กำลังจะแต่งงานกับเวนดี้นั้น สำหรับเขาแล้วแคลร์ก็ยังสวยและสง่างามมากกว่าคู่หมั้นของเขาด้วยซ้ำ

แคลร์ วิลสันเปรียบเสมือนเทพธิดาในโอลรัสฮิลล์ซึ่งทำให้เจอรัลด์รู้สึกหงุดหงิดและโมโหมากเมื่อนางในฝันของเขาได้แต่งงานกับคนที่ไม่คู่ควรกับเธอ

“ถึงเวลาอันสมควรแล้วล่ะ ที่คนไร้ค่าแบบนี้ควรจะออกจากตระกูลพวกเราไปซะ”

“ใช่แล้ว! แกมันเป็นสิ่งที่น่าอับอายที่ทำให้ตระกูลของเราเสื่อมเสีย”

“บางทีแกอาจจะไม่ได้มายืมเงิน แต่มาทำลายบรรยากาศที่สนุกสนานในวันเกิดของคุณย่าเสียมากกว่า!”

ชาร์ลีกำหมัดแน่นในขณะที่ตระกูลวิลสันทั้งหมดกำลังดูถูกและเหยียดหยามเขา ถ้าไม่ใช่เพราะความจำเป็นนี้เขาคงรีบออกจากบ้านที่น่ารำคาญหลังนี้ไปแล้ว

อย่างไรก็ตามคำพูดของพ่อเขาก็ยังสะท้อนอยู่ในหัว พ่อของเขาสอนให้เขารู้สึกขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือที่ได้รับและต้องตอบแทนบุญคุณที่ได้รับเป็นสิบเท่า ดังนั้นเขาจึงพยายามระงับความโกรธต่าง ๆ ที่ก่อตัวขึ้นภายในตัวเขาอย่างช้า ๆ พร้อมพูดกับคุณท่านวิลสันว่า “คุณย่าครับ ใครก็ตามที่ช่วยชีวิตคนคนเดียวก็สามารถช่วยโลกใบนี้ได้ทั้งหมด ผมขอร้อง ผมขอความเมตตาจากคุณด้วยเถอะนะครับ”

ใครบางคนในห้องส่งเสียงขึ้นมา "ชาร์ลี เลิกพูดจาหว่านล้อมคุณย่าซะทีเถอะ ถ้านายอยากช่วยเหลือใครสักคนนายควรจะหาทางได้ด้วยตนเอง นายคิดว่านายเป็นใครกันถึงกล้ามาขอเงินจากคุณย่าน่ะ?”

ชายผู้นั้นคือพี่ชายของเวนดี้ แฮโรลด์ วิลสัน

ทั้งพี่ชายและน้องสาวมีความอิจฉาและอคติกับแคลร์มาโดยตลอด เพราะแคลร์เหนือกว่าพวกเขาในทุก ๆ ด้าน ดังนั้นพวกเขาจึงมักจะโจมตีชาร์ลีทุกครั้งที่พวกเขาสามารถทำได้

แคลร์ซึ่งมีสีหน้าอึดอัดเล็กน้อยเริ่มกล่าวว่า "คุณย่าคะ พ่อของชาร์ลีจากไปตั้งแต่เขาอายุแปดขวบและคุณนายเลวิสที่สถานสงเคราะห์ก็เป็นคนที่มีบุญคุณเลี้ยงดูเขามา เขารู้สึกขอบคุณและอยากตอบแทนบุญคุณในความเมตตาของเธอมาโดยตลอด และนั่นคือเหตุผลที่เขาต้องการความช่วยเหลือในครั้งนี้ คุณย่าช่วยเขาได้ไหมคะ…”

คุณท่านวิลสันตะโกนขึ้นมาด้วยใบหน้าขุ่นเคือง “แกอยากให้ฉันช่วยมันงั้นหรือ? ได้! งั้นก็ไปหย่ากับมันตอนนี้ซะสิ แล้วแต่งงานกับคุณโจนส์แทน! ถ้าแกทำตามที่ฉันบอก ฉันจะให้มันสิบล้านบาททันทีเลย!”

คุณโจนส์ที่คุณท่านวิลสันกล่าวถึงคือ เวนเดลล์ โจนส์ ชายที่ตามจีบแคลร์มาโดยตลอดแม้แคลร์จะแต่งงานแล้วก็ตาม ตระกูลโจนส์เป็นหนึ่งในครอบครัวที่โดดเด่นในวงสังคมชั้นสูงในโอลรัสฮิลล์ ซึ่งตระกูลนี้มีอำนาจมากกว่าตระกูลวิลสันมาก เช่นนั้นเองคุณท่านวิลสันจึงต้องการที่จะได้ประโยชน์ในครั้งนี้

ในขณะเดียวกันพ่อบ้านได้วิ่งเข้ามาและพูดว่า "คุณโจนส์ส่งของขวัญวันเกิดมาให้คุณท่านวิลสันครับ! เป็นจี้พระที่แกะสลักจากหินหยกมูลค่าสามสิบล้านบาทครับ!”

คุณท่านวิลสันยิ้มกว้างและโพล่งอย่างรวดเร็ว "ไปเอามาสิ! เอามาให้ฉันดู!!"

พ่อบ้านนำจี้พระสีเขียวมรกตมา ทั้งห้องโถงก็ส่งเสียงอุทานกับสิ่งที่เห็น

จี้สีเขียวมรกตนั้นใสแจ๋วด้วยสีสันที่สดใสและคมชัดโดยไม่มีร่องรอยตำหนิใด ๆ เพราะเป็นหยกที่มีคุณภาพดีที่สุด

เจอรัลด์ผู้ซึ่งได้มอบของขวัญเป็นพระพุทธรูปให้กับคุณย่าก่อนหน้านี้ก็รู้สึกหงุดหงิดทันที เขาไม่ได้คาดหวังว่าเวนเดลล์ โจนส์ที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับตระกูลวิลสันจะทุ่มของขวัญได้ขนาดนี้!

คุณท่านวิลสันลูบชมจี้พระอย่างร่าเริงและพูดว่า “โอ้ คุณโจนส์ช่างมีรสนิยมดีมากจริง ๆ ! มันคงจะดีไม่น้อยถ้าเขามาเป็นหลานเขยของฉันนะ!”

จากนั้นเธอก็จ้องมองไปที่แคลร์และถามว่า “สรุปว่ายังไง? แกอยากจะพิจารณาข้อตกลงเงื่อนไขของฉันไหมล่ะ?”

แคลร์ส่ายหัวอย่างมั่นใจ “ไม่ค่ะคุณย่า หนูจะไม่มีวันหย่ากับชาร์ลี”

แววตาของคุณท่านวิลสันราวกับว่ากำลังมีเมฆฝนที่กำลังโหมพายุเข้ามา เธอตะโกนอย่างโมโหว่า “แกมันเนรคุณ! ไอ้ขี้แพ้นั่นมันมีดีอะไร? จะไปเสียเวลากับมันทำไม ไล่ไอ้คนขี้แพ้นั้นออกไปจากบ้านฉันซะ! ฉันไม่อนุญาตให้มันอยู่ในงานเลี้ยงวันเกิดของฉัน! ฉันไม่อยากเห็นหน้ามัน!”

ชาร์ลีถอนหายใจด้วยความตกใจและเสียใจ เขาไม่ต้องการอยู่กับตระกูลวิลสันอีกต่อไป เขาจึงพูดกับแคลร์ว่า “แคลร์ ผมจะไปเยี่ยมคุณนายเลวิส”

แคลร์รีบตอบทันที “ฉันจะไปกับคุณค่ะ”

คุณท่านวิลสันตะโกนขึ้นอีกครั้ง “ถ้าแกเดินออกไปตอนนี้ แกจะไม่ใช่หลานสาวของฉันอีกต่อไป! แล้วแกก็พาแม่พาพ่อและไอ้ขี้แพ้นี่ออกไปจากตระกูลวิลสันซะ!”

แคลร์จ้องไปที่คุณย่าของเธออย่างตกใจ เธอไม่คาดคิดว่าจะได้ยินคำพูดที่รุนแรงจากปากของคุณย่า

ชาร์ลีพูดขึ้นมาว่า “แคลร์ คุณอยู่ที่นี่ดีกว่านะ ไม่ต้องห่วงผม”

ก่อนที่แคลร์จะเรียกตัวเองจากภวังค์เขาก็หันหลังและเดินออกไปแล้ว

แฮโรลด์หัวเราะตามหลังเขา “เฮ้ย ชาร์ลีเพื่อนรัก ถ้านายออกไปแล้วนายหิวนายจะไปขออาหารตามถนนไหม ถ้านายทำแบบนั้นนายจะทำให้ชื่อตระกูลของเราเสื่อมเสียนะ! อะ นี่ ฉันมีเงินสามร้อยบาท ไปซื้อขนมปังหรืออะไรกินซะสิ!”

แฮโรลด์ควักเงินสามสิบบาทจากกระเป๋าของเขาและโยนไปที่เท้าของชาร์ลี

เสียงหัวเราะของคนทั้งตระกูลดังกึกก้องไปทั่วบ้าน

ชาร์ลีกัดฟันด้วยความอดทนและออกจากบ้านไปโดยไม่หันกลับมามอง

***

เมื่อชาร์ลีมาถึงโรงพยาบาลเขาก็ไปที่แผนกชำระเงินทันทีเพื่อพยายามเจรจาขอขยายเวลาการชำระเงินออกไปอีกสองวัน

อย่างไรก็ตามเมื่อเขาเข้าไปหาพยาบาลเขาก็ได้รับแจ้งว่า ในชั่วข้ามคืนคุณนายเลวิสได้ถูกย้ายไปที่โรงพยาบาลแฟร์วิวซึ่งเป็นโรงพยาบาลชั้นนำของอีสต์คลิฟฟ์เพื่อรับการรักษาแล้ว

ชาร์ลีอ้าปากค้างด้วยความตกใจและถามอย่างรวดเร็ว “ค่ารักษาเท่าไหร่ครับ? ผมจะหาวิธีจัดการเอง!”

นางพยาบาลกล่าวว่า “ค่าใช้จ่ายทั้งหมดสิบล้านบาทค่ะ จ่ายไปแล้วสี่ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีกหกล้านต้องชำระไม่เกินหนึ่งสัปดาห์ค่ะ”

“ใครเป็นคนจ่ายเงินสี่ล้านบาทเหรอครับ?”

พยาบาลส่ายหัว "ดิฉันก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ"

ชาร์ลีขมวดคิ้วด้วยความสับสนขณะที่เขาหันกลับมาเพื่อคิดหาคำตอบนั้น ชายคนหนึ่งอายุประมาณห้าสิบปีในชุดสูทสีดำผมสีเทากำลังยืนอยู่ข้างหลังเขา

พวกเขาสบตากันและชายคนนั้นก็โค้งคำนับต่อหน้าเขาและพูดว่า "นายน้อย! ในที่สุดเราก็พบคุณแล้ว! ขออภัยสำหรับปัญหาและความลำบากที่คุณต้องทนทุกข์ทรมานมาตลอดหลายปีที่ผ่านมานะครับ!”

ชาร์ลีขมวดคิ้วและถามอย่างเย็นชาราวกับเป็นคนละคน “คุณคือสตีเฟน ทอมป์สันใช่ไหม?”

ชายคนนั้นอ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ “นายน้อย คุณยังจำผมได้!”

ชาร์ลีสะดุ้งเล็กน้อยและพึมพำ “แน่นอน จำได้สิ! ผมจำพวกคุณได้ทุกคน! คุณบังคับพ่อกับแม่ของผมออกจากอีสต์คลิฟฟ์พร้อมกับผมให้หนีออกจากเมือง พ่อแม่ของผมเสียชีวิตระหว่างทาง ส่วนผมก็กลายเป็นเด็กกำพร้า แล้วตอนนี้คุณต้องการอะไรจากผม?”

สตีเฟนยิ้มอย่างเศร้าสร้อยและกล่าวว่า “นายน้อยครับ คุณท่านเวดเสียใจมากเมื่อรู้เรื่องการตายพ่อของคุณ เขาไม่เคยเลิกตามหาคุณ กลับบ้านไปพบท่านกันเถอะครับ!”

ชาร์ลีพูดอย่างเย็นชา“ ไปเถอะ ผมไม่อยากไปเจอเขา”

สตีเฟนพูดว่า “นายน้อย คุณยังโกรธคุณปู่ของคุณอยู่ใช่ไหมครับ?”

"แน่นอน!" ชาร์ลีกล่าวเสียงดัง “ผมจะไม่มีวันให้อภัยเขาตลอดชีวิต!”

สตีเฟนถอนหายใจอย่างหดหู่ “ก่อนที่ผมจะมาที่นี่ คุณท่านบอกว่าคุณจะไม่ให้อภัยเขา”

"ดี! โชคดีที่เขายังมีสมอง!”

สตีเฟนกล่าวต่อว่า “คุณท่านเวดรู้ดีว่าคุณมีชีวิตที่ยากลำบากมาหลายปีและท่านขอให้ผมชดเชยให้คุณ ถ้าคุณไม่ต้องการกลับบ้านท่านจะซื้อบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในโอลรัสฮิลล์และมอบให้กับคุณ แล้วก็ยังมีนี่ด้วยครับ รับบัตรนี่ไปสิครับ ส่วนรหัสคือวันเกิดของคุณ”

สตีเฟนยื่นแบล็กการ์ดพรีเมียมจากซิตี้แบงก์ออกไป

นายน้อยครับ "การ์ดประเภทนี้มีเพียงห้าใบในประเทศ”

ชาร์ลีส่ายหัวอย่างจริงจัง “ไม่ล่ะ ผมไม่ต้องการมัน เอามันกลับไปเถอะ”

“นายน้อยครับ คุณนายเลวิสยังเป็นหนี้อีกหกล้านสำหรับค่ารักษาพยาบาลนะครับ ถ้าเธอไม่จ่ายเงินเธออาจจะแย่…”

"นี่คุณกำลังขู่ผมเหรอ? หรือนี่เป็นส่วนหนึ่งในแผนลวงของคุณล่ะ?”

สตีเฟนโบกมืออย่างลนลาน "ไม่ใช่นะครับ! เราคงไม่กล้าทำแบบนั้นหรอกครับ! เก็บบัตรไว้เถอะครับ แล้วคุณจะมีเงินเพียงพอที่จะจ่ายค่ารักษาพยาบาล”

ชาร์ลีถามต่อว่า “ในบัตรนี่เงินเท่าไร?”

“คุณท่านเวดบอกว่าเขาฝากเงินค่าขนมให้คุณในบัตรนี้ ไม่มากเท่าไหร่หรอกครับ แค่หนึ่งแสนล้านบาท!”

ความคิดเห็น (2)
goodnovel comment avatar
วรชัย
ซื้ออ่านแต่ละเรื่องมันแพงเกินไปหาเป็นหนังสืออ่านไม่มีเหรอ
goodnovel comment avatar
อินู๋ใหม่ พรมบัวศรี
ชื่อมาอ่านไม่ได้เหรอค่ะ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • กลลวง นายสุดเท่ห์ ชาร์ลี เวธ   บทที่ 2

    หนึ่งแสนล้านบาท?!ชาร์ลีตกใจมาก ดวงตาของเขาเบิกกว้างพร้อมกับอ้าปากค้างเขารู้ว่าคุณปู่ของเขาร่ำรวยมากแต่ในตอนนั้นเขายังเด็กเกินไปที่จะเข้าใจแนวคิดเรื่องเงิน เขารู้เพียงว่าตระกูลเวดเป็นหนึ่งในตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในอีสต์คลิฟฟ์และในประเทศด้วยเช่นกัน แต่เขาไม่แน่ใจว่าทรัพย์สินของคุณปู่คือเท่าไรตอนนี้ในที่สุดเขาก็รู้แล้วหากเงินแสนล้านบาทเป็นเพียงแค่เงินค่าขนม นั่นหมายความว่าทั้งตระกูลเวดมีทรัพย์สินมากกว่าร้อยล้านล้านบาท! พูดตามตรงในตอนนี้เขารู้สึกลังเล อย่างไรก็ตามเมื่อเขาคิดถึงพ่อแม่ที่จากไปและคุณปู่ของเขาเป็นส่วนหนึ่งของสาเหตุที่ทำให้พวกเขาเสียชีวิต เขาก็รู้ว่าเขาเองไม่มีทางให้อภัยคุณปู่ได้ง่าย ๆเมื่อรู้สึกได้ถึงความขุ่นมัวของเขา สตีเฟนจึงรีบพูดว่า “นายน้อย คุณเป็นหนึ่งในสมาชิกตระกูลเวด ดังนั้นเงินจึงเป็นของคุณ หรือจะคิดว่ามันเป็นของพ่อคุณก็ได้นะครับ”“คุณท่านบอกว่า เมื่อไหร่ที่นายน้อยเต็มใจที่จะกลับบ้าน เขาจะแต่งตั้งให้คุณสืบทอดอาณาจักรธุรกิจมูลค่าร้อยล้านล้านบาทของตระกูล แต่ถ้าหากคุณยังไม่อยากกลับบ้านคุณก็ใช้เงินนี่ไปก่อนก็ได้ครับ”“โอ้ ใช่สิ ยังมีอีกเรื่องที่ผมอยากจะต้องบอ

  • กลลวง นายสุดเท่ห์ ชาร์ลี เวธ   บทที่ 3

    เช้าวันรุ่งขึ้นหลังจากการเตรียมอาหารเช้า ชาร์ลีก็ขี่สกู๊ตเตอร์ไปที่สำนักงานของเอ็มแกรนด์กรุ๊ปเขาจอดสกู๊ตเตอร์ไว้ข้างลานจอดรถของบริษัทเอ็มแกรนด์กรุ๊ปทันทีที่เขาล็อกสกู๊ตเตอร์ รถเบนท์ลีย์สีดำก็ค่อย ๆ จอดในที่จอดตรงข้ามกับเขาเขาเงยหน้าขึ้นมองโดยไม่ได้ตั้งใจและเห็นคู่หนุ่มสาวกำลังลงจากรถชายคนนี้สวมชุดสูทแต่งตัวดูมีรสนิยมอีกทั้งยังดูหล่อและฉลาด ในขณะเดียวกันหญิงสาวคนนั้นก็แต่งตัวมีสไตล์ไม่แพ้กัน แม้ว่าสีอาจจะดูฉูดฉาด แต่เธอก็ยังดูสวยปรากฏว่าผู้หญิงคนนั้นคือเวนดี้ วิลสันลูกพี่ลูกน้องของแคลร์และชายคนนั้นคือเจอรัลด์ ไวท์คู่หมั้นของเธอชาร์ลีไม่รู้ว่าทำไมพวกเขาถึงมาที่นี่ แต่เขารู้ว่าวิธีหลีกเลี่ยงปัญหาคือ ตอนนี้อยู่ให้ห่างจากสองคนนี้จะดีที่สุดอย่างไรก็ตามยิ่งเขาอยากหลบหน้าจากสองคนนั้นมากเท่าไหร่ พวกเขาก็ยิ่งมีโอกาสที่จะได้พบกันมากขึ้นเท่านั้นเวนดี้เห็นเขาจากหางตาเธอจึงตะโกนออกมา “เฮ้ ชาร์ลี!”เวนดี้ขานเรียกชื่อเขาด้วยน้ำเสียงสดใสอย่างเป็นมิตร แต่ชาร์ลีกลับรู้สึกขนลุกซู่ไปทั่วร่างด้วยมารยาทเขาทำได้เพียงแค่ยืนอยู่กับที่และรอให้พวกเขาเดินเข้ามาหา เขายิ้มทักทายและถามว่า“ เวนดี้ ว่า

  • กลลวง นายสุดเท่ห์ ชาร์ลี เวธ   บทที่ 4

    นี่เป็นครั้งแรกที่ชาร์ลีได้พบกับดอริสเขาต้องยอมรับว่าดอริสเป็นหญิงสาวที่น่าทึ่งและมีเสน่ห์มาก!เธออายุประมาณยี่สิบเจ็ดหรือยี่สิบแปดปี รูปร่างของเธออวบอิ่มมีเสน่ห์และท่าทางที่ดูมีวุฒิภาวะและน่าเคารพชาร์ลีเดินมานั่งที่หน้าโต๊ะทำงานของดอริส “ผมจะไม่เข้ามาในออฟฟิศบ่อย ๆ ดังนั้นผมอยากให้คุณช่วยดูแลบริษัทในนามของผมแล้วกัน อีกอย่างอย่าเปิดเผยตัวตนของผมเด็ดขาด”ดอริสรู้ว่าคุณเวดซึ่งนั่งอยู่ตรงหน้าเธอตอนนี้มาจากตระกูลเวดที่ไม่ธรรมดา สำหรับตระกูลที่มีชื่อเสียงเช่นพวกเขา เอ็มแกรนด์กรุ๊ปนั้นเป็นเพียงแค่ธุรกิจธรรมดาเท่านั้น ดังนั้นจึงเป็นเรื่องปกติที่เขาจะไม่จัดการด้วยตนเอง เธอจึงรีบพูดว่า "รับทราบค่ะคุณเวด หากคุณต้องการอะไรดิฉันพร้อมจะดูแลจัดการให้คุณเสมอค่ะ”ขณะเดียวกัน เลขาคนหนึ่งมาเคาะประตูและพูดว่า “คุณยังคะ มีผู้ชายคนหนึ่งชื่อคุณเจอรัลด์ ไวท์และคู่หมั้นของเขามาที่นี่เพื่อขอพบคุณค่ะ”ดอริสพูดทันทีว่า “ตอนนี้ฉันมีแขกคนสำคัญอยู่ รบกวนบอกให้พวกเขารอก่อนนะคะ”ชาร์ลีถามว่า“คุณรู้จักเจอรัลด์ ไวท์ไหมครับ”"อ๋อค่ะ ตระกูลไวท์เป็นหนึ่งในหุ้นส่วนของเราและโครงการสำคัญหลายโครงการได้เชื่อมโยงกับบร

  • กลลวง นายสุดเท่ห์ ชาร์ลี เวธ   บทที่ 5

    การประกาศทั้งสองฉบับโดยเอ็มแกรนด์กรุ๊ปทำให้โอลรัสฮิลล์สั่นสะเทือนราวกับแผ่นดินไหวเมื่อตระกูลวิลสันรับรู้เรื่องเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของผู้บริการในเอ็มแกรนด์กรุ๊ป พวกเขาก็เกิดความสังสัยว่าทำไมถึงเกิดการยุติความร่วมมือกับตระกูลไวท์ดูเหมือนว่าผู้บริหารคนใหม่ของเอ็มแกรนด์กรุ๊ปจะไม่ได้สนใจตระกูลไวท์เลยแม้แต่น้อยหากมองย้อนกลับไปที่ประเด็นที่ว่า คุณเวดคือใคร? เขาเพิ่งซื้ออาณาจักรเอ็มแกรนด์กรุ๊ปซึ่งมีมูลค่าหลายแสนล้านบาทโดยไม่รู้สึกอะไร เขาคงมีอำนาจและเงินอย่างท่วมล้นสินะ? แม้แต่คนที่รวยที่สุดในโอลรัสฮิลล์ ก็คงไม่กล้าที่จะลงทุนอะไรขนาดนี้หรอก!จากนั้นเหล่าตระกูลชั้นสูงทุกตระกูลก็พยายามดันตัวเองเพื่อที่จะสร้างความสัมพันธ์กับคุณเวดผู้ลึกลับที่ไม่มีแม้แต่ใครรู้จัก ในขณะเดียวกันพวกเขาก็อยากจะแนะนำลูกสาวของพวกเขาให้กับคุณเวดเพื่อที่จะเกี่ยวดองกันยิ่งไปกว่านั้นการประกาศเกี่ยวกับการลงทุนมหาศาลของเอ็มแกรนด์กรุ๊ปที่มีมูลค่าสองหมื่นล้านบาทสำหรับโครงการก่อสร้างโรงแรมยังสั่นสะเทือนอุตสาหกรรมการก่อสร้างและการตกแต่งภายในแห่งโอลรัสฮิลล์อย่างท่วมท้น!สองหมื่นล้าน!พวกเขาสามารถทำเงินได้มากมายแม้กระ

  • กลลวง นายสุดเท่ห์ ชาร์ลี เวธ   บทที่ 6

    การประกาศของแคลร์ทำให้ทุกคนประหลาดใจสุดขีด!แน่นอนว่าทุกคนในห้องประชุมต่างก็คิดว่าแคลร์ต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ !ช่วงเวลาที่ย่ำแย่ที่สุดคือการตกเป็นจุดสนใจ! นอกจากความล้มเหลวพังไม่เป็นท่าแล้วก็คงไม่มีอะไรที่เธอจะสามารถทำให้สำเร็จลุล่วงได้แน่!เอ็มแกรนด์กรุ๊ปเป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในโอลรัสฮิลล์และตระกูลวิลสันก็ไม่ต่างอะไรกับแมลงตัวเล็ก ๆ สำหรับพวกเขา! ใครก็ตามที่รับคำท้าก็คงลงเอยด้วยความล้มเหลว!แฮโรลด์อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ “แคลร์ เธอคิดว่าจะได้รับข้อตกลงจากเอ็มแกรนด์กรุ๊ปจริง ๆ อย่างนั้นเหรอ?”เวนดี้พูดต่อด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยหลังจากพี่ชายของเธอพูดจบลง “แคลร์ นี่เธอคิดว่าเธอเป็นใคร แล้วเธอคิดว่าเอ็มแกรนด์กรุ๊ปเป็นใคร? การที่เธอบุ่มบ่ามทำอะไรไร้เหตุผลแบบนี้ก็มีแต่จะทำให้ตระกูลของเราต้องอับอาย!”คนอื่นกล่าวเสริมอีกว่า “เวนดี้พูดถูก! ถ้าเธอถูกเอ็มแกรนด์กรุ๊ปไล่ออกมา ตระกูลของเราคงจะขายขี้หน้ามากในโอลรัสฮิลล์!”เลือดพุ่งไปที่ใบหน้าของแคลร์และรู้สึกร้อนด้วยความอับอายสถานะของเธอในตระกูลได้ถูกลดลงไปตั้งแต่เธอแต่งงานกับชาร์ลี สมาชิกในครอบครัวไม่สนใจแม้แต่จะปกป้องเธอ แต่พวกเขายังดูถูกพ่อ

  • กลลวง นายสุดเท่ห์ ชาร์ลี เวธ   บทที่ 7

    เมื่อมองไปที่พ่อแม่ของเธอที่คอยแต่จะเหยียดหยามชาร์ลีนั้น แคลร์ก็ถอนหายใจและพูดว่า “พ่อคะ แม่คะ อย่าโทษชาร์ลีเรื่องนี้เลยนะคะ มันเป็นความคิดของหนูเอง หนูไม่ต้องการให้ครอบครัวของเราโดนดูถูกอีกต่อไป ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเรายังทุกข์กันไม่มากพออีกเหรอคะ?”แม่ของแคลร์สวนกลับว่า “แต่ถึงยังไงแกก็ไม่ควรรับงานนี้ ไม่ใช่แค่แกนะ ต่อให้คุณย่าของแกจะไปเอง เอ็มแกรนด์กรุ๊ปก็จะไม่มาต้อนรับอะไรพวกเราหรอก! "ชาร์ลียิ้มอย่างพึงพอใจในขณะเฝ้าดูการถกเถียงกัน เขาพนันได้เลยว่าพวกเขาจะไม่มีทางเชื่อว่าเขาเป็นเจ้าของที่แท้จริงของเอ็มแกรนด์กรุ๊ปในขณะนั้นเอง ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น"กำลังไปค่ะ…"เอเลนถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายในขณะที่เธอเดินไปเปิดประตูชาร์ลีเลื่อนสายตาไปที่ประตูและเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งสวมชุดอาร์มานี่ยืนอยู่ที่ประตู ชายหนุ่มคนนี้ดูมีเสน่ห์และน่าหลงใหลด้วยนาฬิกาสุดหรู ปาเต๊ะ ฟิลลิปที่ข้อมือซึ่งดูเหมือนจะมีมูลค่าไม่ต่ำกว่าสี่สิบล้านบาทเอเลนร้องเสียงหลงอย่างตื่นเต้น “อ้าว เวนเดลล์! ทำไมคุณถึงมาที่นี่ล่ะ?"ชายคนนี้คือเวนเดลล์ โจนส์ ลูกชายของตระกูลโจนส์ที่ตามจีบแคลร์อย่างไม่ลดละเวนเดลล์ยิ้มและพ

  • กลลวง นายสุดเท่ห์ ชาร์ลี เวธ   บทที่ 8

    เช้าวันรุ่งขึ้น แคลร์นำไฟล์งานที่เต็มไปด้วยข้อมูลที่เธอเตรียมไว้ข้ามคืนเพื่อไปที่สำนักงานเอ็มแกรนด์กรุ๊ปพร้อมกับชาร์ลีเมื่อยืนอยู่หน้าตึกสูง 100 ชั้น จู่ ๆ แคลร์ก็รู้สึกราวกับว่าหัวใจว่างเปล่า บริษัทที่ยิ่งใหญ่อย่างเอ็มแกรนด์กรุ๊ปจะร่วมมือกับตระกูลวิลสันได้อย่างไร? ไม่ต้องพูดถึงว่าพวกเขาตั้งเป้าไว้ที่ข้อตกลงสามร้อยล้านบาทมันเหมือนกับขอทานที่พยายามเข้าใกล้คนรวยและขอเงินทอนสามร้อยล้านบาท นี่มันน่าหัวเราะจริง ๆ อย่างไรก็ตามเธอได้สัญญากับคุณย่าของเธอและยอมรับคำท้าทายนี้ต่อหน้าทุกคน ดังนั้นเธอจึงต้องทำให้ได้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม...เมื่อรู้สึกได้ถึงความวิตกกังวล ชาร์ลีจึงลูบหัวของเธออย่างอ่อนโยนและพูดว่า "ที่รัก ไม่ต้องกังวลนะ แค่ทำมัน คุณทำมันได้แน่ เชื่อผมสิ"แคลร์ถอนหายใจอย่างหดหู่และพึมพำ “เอาล่ะ ฉันก็หวังไว้ว่าแบบนั้น! รอฉันอยู่ที่นี่นะคะเดี๋ยวฉันมา”เธอสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วเดินไปที่ประตูขณะที่มองดูเธอเดินเข้าไปในตึก ชาร์ลีก็หยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาดอริส“ดอริส ภรรยาของผมกำลังจะไปเข้าพบคุณนะครับ อย่างที่เราคุยกันไว้ คุณควรรู้ว่าต้องทำยังไง!”“รับทราบค่ะคุณเวด ไม่ต้องก

  • กลลวง นายสุดเท่ห์ ชาร์ลี เวธ   บทที่ 9

    ชั่วขณะนั้นความคิดที่แปลกประหลาดก็พลันผุดขึ้นในใจของแคลร์ท่านประธานเวดที่ดอริสกล่าวถึง ใช่ชาร์ลี เวดสามีของเธอหรือเปล่านะ?เมื่อเธอลองประมวลผลอีกครั้ง เธอพบว่ามันผิดปกติเกินไปมันจะเป็นไปได้อย่างไร!ชาร์ลีเป็นเพียงเด็กกำพร้าที่เติบโตในสถานสงเคราะห์!อย่างไรก็ตามจะมีใครในโลกนี้อีกที่ปฏิบัติกับเธอดีขนาดนี้นอกจากชาร์ลี?เงินสามร้อยล้านเป็นเพียงความหวังลม ๆ แล้ง ๆ แต่พวกเขากลับให้เธอตั้งหกร้อยล้าน...เธออดไม่ได้ที่จะถามต่ออย่างสงสัยว่า “คุณดอริส ยัง ดิฉันขอทราบได้ไหมคะว่า ท่านประธานของคุณใช่ชาร์ลี เวดหรือเปล่าคะ?”หัวใจของดอริสเต้นไม่เป็นจังหวะ เจ้านายของเธอได้สั่งให้เธอปกปิดข้อมูลของเขาไว้เป็นความลับ จะอนุญาตให้เพียงเปิดเผยนามสกุลของเขาต่อสาธารณะเท่านั้น เธอจะถูกตำหนิเป็นแน่ถ้าภรรยาของเขารู้เรื่องนี้!เธอจึงรีบพูดต่อว่า “คุณวิลสันคะ ถ้าเซ็นสัญญาเสร็จแล้วคุณวางไว้ตรงนี้ได้เลยนะคะ ส่วนเรื่องท่านประธาน ท่านเป็นทายาทของตระกูลที่มีชื่อเสียงในอีสต์คลิฟฟ์ ตัวตนของเขาเป็นความลับและดิฉันไม่มีสิทธิ์เปิดเผยข้อมูลค่ะ”แคลร์พยักหน้าเบา ๆ เธอยังคงพยายามปะติดปะต่อเรื่องเกี่ยวกับทายาทในอีสต์คล

บทล่าสุด

  • กลลวง นายสุดเท่ห์ ชาร์ลี เวธ   บทที่ 1600

    “โอเค” ชาร์ลีพยักหน้าก่อนจะพูดว่า “เอาล่ะ ถึงเวลาที่นายต้องออกเดินทางแล้ว”ในเวลานี้จาเวียร์ก็วิ่งเข้าไปหาพวกเขาพร้อมกับแบตเตอรี่สำรองในมือ หลังจากนั้นเขาก็ยื่นแบตเตอรี่สำรองกับสายชาร์จให้กับดีแลนในขณะที่พูดว่า “ดีแลน นี่แบตเตอรี่สำรอง!”ดีแลนหยิบแบตเตอรี่สำรองใส่ไว้ในเป้ หลังจากปาดน้ำตาออกจากใบหน้าแล้ว เขาก็พูดกับทุกคนว่า “คุณยาย คุณตา พ่อ แม่ ลุง อา ผมจะไปแล้วนะคับ…”ทุกคนโบกมือให้เขา “ไปเถอะ อย่าลืมใส่ใจในเรื่องความปลอดภัยบนท้องถนนนะ!”ดีแลนมองไปที่ชาร์ลีอีกครั้งก่อนจะโค้งคำนับแล้วพูดว่า “ผมจะไปแล้วนะครับคุณเวด…”ชาร์ลีส่งเสียงพึมพำในขณะที่พูดว่า “รีบไปเถอะ ไม่งั้นนายจะถูกทำโทษที่ไปถึงช้านะ”ดีแลนรีบพยักหน้าในขณะที่พูดว่า “ไม่ต้องเป็นห่วงครับ! ผมจะทำให้ดีที่สุดครับ!”ชาร์ลีโบกมือแล้วพูดว่า “อืม ไปได้แล้ว!”ดีแลนพยักหน้าก่อนจะหันกลับไปมองเหล่าญาติ ๆ อย่างไม่เต็มใจ จากนั้นเขาก็เริ่มปั่นจักรยาน Phoenix 28 คันใหญ่อย่างหนักหน่วง หลังจากถีบจักรยานไปได้สองสามครั้ง ในที่สุดดีแลนก็ถีบจักรยานจากไปในลักษณะโคลงเคลงซิลเวียเริ่มร้องไห้อย่างขมขื่น ลีโอนาร์ดจึงรีบคว้าเธอมาปลอบโยนอยู่ในอ้อ

  • กลลวง นายสุดเท่ห์ ชาร์ลี เวธ   บทที่ 1599

    เมื่องานเลี้ยงวันเกิดสิ้นสุดลง และแขกคนอื่น ๆ ได้กลับไปแล้ว ดีแลนก็เข็นรถจักรยาน Phoenix 28 คันใหม่ออกมาในเวลานี้จู่ ๆ ดีแลนก็นึกถึงเพลงฮิตที่เขาเคยเห็นในคลิปวิดีโอสั้น ๆ…เพลงนี้ก็คือเพลง ‘ขี่มอเตอร์ไซต์แสนรักของฉัน’...ในขณะที่เขานึกถึงเพลงนี้ เขาก็มองไปที่จักรยาน Phoenix 28 ในสภาพเก่าที่ดูน่าเกลียดนั้น แล้วอดที่จะถอนหายใจไม่ได้ในขณะที่คิดกับตัวเองว่า ‘ถ้าฉันขี่มอเตอร์ไซค์ไปโอลรัสฮิลล์ได้ก็คงจะดีไม่น้อย เพราะจะทำให้ฉันสามารถเดินทางได้ประมาณสามถึงสี่ร้อยกิโลเมตรต่อวัน ซึ่งจะช่วยให้ฉันเดินทางไปถึงโอลรัสฮิลล์ได้เร็วที่สุด จะได้ไม่ต้องทนทุกข์กับความคับข้องใจและความอยุติธรรมมากมายในระหว่างทาง…’แต่ช่างน่าสงสารเหลือเกินที่เขารู้ว่าชาร์จะไม่มีทางเปิดโอกาสให้เขาได้ต่อรองอะไรเลย เขาจึงทำได้แค่เข็นจักรยานออกมาเพื่อเตรียมตัวออกเดินทางเจริล… ลุงของเขาถือหมวกกันน็อกสีเขียวอยู่ในมือ ในขณะที่พยายามจะสวมให้กับดีแลน ดีแลนหลบเลี่ยงหมวกใบนั้นในขณะที่ถามอย่างอึดอัดใจว่า “ทำไมถึงซื้อหมวกกันน็อกสีเขียวมาให้ผมล่ะลุง? หมวกสีเขียวเป็นสัญลักษณ์ของผู้ชายที่โดนสวมเขานะ…”“อย่าพูดถึงเรื่องนั้นเลยน่า” เจร

  • กลลวง นายสุดเท่ห์ ชาร์ลี เวธ   บทที่ 1598

    "หา? เร็วไปไหม? คุณจะไม่อยู่ที่อีสต์คลิฟฟ์ต่ออีกสักสองสามวันเหรอ?”“ผมทำธุระของผมเสร็จหมดแล้วน่ะ ไม่มีธุระอะไรให้ผมต้องอยู่ที่นี่อีก ผมจะออกเดินทางพรุ่งนี้เลย”เมื่อลอรีนได้ยินดังนี้ เธอก็พูดขึ้นอย่างไม่ลังเลเลยว่า “ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะออกจากอีสต์คลิฟฟ์พรุ่งนี้ด้วย เราเดินทางกลับโอลรัสฮิลล์พร้อมกันดีไหมคะ? เราจะได้นั่งเครื่องบินลำเดียวกันชาร์ลีอยากจะปฏิเสธเธอ แต่เมื่อเขาเห็นสีหน้าที่แสดงความวิงวอนของเธอแล้ว เขาก็ปฏิเสธเธอไม่ลงเพราะไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม… นับเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับคนเป็นเพื่อนกัน ที่ต้องนั่งเครื่องบินลำเดียวกัน ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถหลบเลี่ยงการนั่งเครื่องบินเที่ยวบินเดียวกับเธอได้ชาร์ลีจึงพูดว่า “ได้สิ เรากลับด้วยกันก็ได้”ลอรีนรีบพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวคุณให้รายละเอียดบัตรประจำตัวกับฉันมานะ ฉันจะได้ซื้อตั๋วเครื่องบินของเราพร้อมกัน!”“โอเค”***ในขณะที่งานเลี้ยงวันเกิดยังคงดำเนินอยู่นั้น ลุงและอารองของดีแลนก็ได้ตระเตรียมการเดินทางด้วยการปั่นจักรยานไปยังโอลรัสฮิลล์ให้ดีแลนเรียบร้อยแล้วพวกเขาได้ให้คนไปซื้อจักรยาน Phoenix 28 รุ่นเก่ามา แล้วติดตั้งชั้นวางสัมภา

  • กลลวง นายสุดเท่ห์ ชาร์ลี เวธ   บทที่ 1597

    หลังจากนั้นงานเลี้ยงวันเกิดก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการมีการจัดที่นั่งให้กับชาร์ลีเป็นพิเศษในฐานะที่เขาเป็นแขกผู้มีเกียรติสูงสุด โดยเขาได้นั่งอยู่ข้างนายท่านโธมัสกับลอรีนและริกลีย์หลังจากนั้นสมาชิกของตระกูลโธมัสก็ผลัดกันดื่มอวยพรให้เขา โดยทั้งการแสดงออกทางสีหน้า น้ำเสียง และการกระทำล้วนเต็มไปด้วยการสรรเสริญเยินยอ ชาร์ลีไม่มีอะไรจะพูดมากนัก เมื่อมีคนมาดื่มอวยพรให้เขา เขาก็แค่ดื่มอวยพรกลับไป ซึ่งถึงแม้ดีแลนจะเป็นคนมาดื่มอวยพรให้เขา เขาก็ดื่มอวยพรกลับไปอย่างง่ายดายในเวลานี้ริกลีย์ก็ยังมาดื่มอวยพรให้กับชาร์ลีอย่างระมัดระวังด้วย โดยเขาได้เยินยอแล้วพูดว่า “คุณเวดครับ ผมมีเรื่องจะถามคุณหน่อยครับ…”ชาร์ลีรู้อยู่แล้วว่าเขาจะถามอะไรก่อนที่เขาจะเริ่มพูดออกมาด้วยซ้ำไป เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการให้ชาร์ลีช่วยฟื้นคืนสมรรถภาพ เพื่อให้เขากลับมาแข็งแกร่งได้อีกครั้งแต่เมื่อพิจารณาถึงเรื่องเลวร้ายทั้งหมดที่ครอบครัวของพวกเขาได้ทำกับครอบครัวของยูลแล้ว ชาร์ลีก็ยังแน่ใจว่าเขาจะไม่ยอมฟื้นคืนสมรรถภาพให้พวกเขาในตอนนี้ผู้ที่เป็นผู้ใหญ่แล้วจะต้องชดใช้และรับผิดชอบต่อการกระทำของพวกเขา ไม่อย่างนั้นแล้วพวกเขาจะได้บทเ

  • กลลวง นายสุดเท่ห์ ชาร์ลี เวธ   บทที่ 1596

    ชาร์ลีหยิบภาพวาดที่ยูลมอบให้เขาจากมือของดีแลน ก่อนจะยื่นให้กับยายของลอรีนด้วยตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็พูดว่า “คุณยายโธมัสครับ นี่เป็นของเล็ก ๆ น้อย ๆ จากแคลร์และผมครับ ผมหวังว่าคุณยายจะรับมันไว้ และผมอยากจะขอโทษกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นไปเมื่อกี้นี้ ด้วยวันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณยาย ผมหวังว่าคุณยายคงจะให้อภัยผมนะครับ”คุณท่านโธมัสรู้สึกปลื้มใจแล้วรีบพูดขึ้นว่า “คุณเวด ไม่ต้องเกรงใจหรอกค่ะ จริง ๆ แล้วเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อกี้นี้เป็นเพราะหลานชายของฉันทำอะไรผิดไป ฉันมาคิดดูแล้ว… ทั้งหมดนั้นเป็นเพราะเราละเลยในการอบรมสั่งสอนหลานของเรา จึงทำให้คุณเวดต้องเดือดร้อน”ในขณะที่เธอพูดอยู่นั้น เธอก็มองดูภาพวาดก่อนจะพูดว่า “คุณเวดคะ ภาพวาดนี้มีมูลค่ามากเหลือเกิน ฉันคงรับของขวัญชิ้นนี้ไว้ไม่ได้หรอกค่ะ!”ชาร์ลีรีบพูดว่า “คุณยายโธมัสครับ ของขวัญชิ้นนี้เป็นเพียงของเล็ก ๆ น้อย ๆ จากแคลร์และผม มูลค่าของของขวัญชิ้นนี้ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรเลย คุณยายไม่ต้องเกรงใจผมหรอกครับ พูดตามตรงนะครับ ผมไม่ได้ใช้จ่ายเงินกับของขวัญชิ้นนี้เลยด้วยซ้ำ เพราะคุณโกลดิ้งจากโกลดิ้งกรุ๊ปมอบภาพวาดนี้ให้ผม แล้วผมก็นำมา

  • กลลวง นายสุดเท่ห์ ชาร์ลี เวธ   บทที่ 1595

    เมื่อได้ยินว่าเขาจะต้องไปขนปูนซีเมนต์ในไซต์ก่อสร้าง ดีแลนก็ส่ายหัวอย่างบ้าคลั่งทันที!เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว เขาคงต้องทนทุกข์ทรมานและรู้สึกคับข้องใจเพียงเล็กน้อย ถ้าเขาต้องอาศัยอยู่ในชุมชนแออัด โดยมีค่าครองชีพเดือนละหนึ่งหมื่นบาท แต่ถ้าเขาต้องไปขนปูนซีเมนต์ในไซต์ก่อสร้าง เขาก็คงต้องทนทุกข์ทรมานอย่างมาก และต้องเจอะเจอความยากลำบากมากมายในไซต์ก่อสร้างแห่งนั้นเขาจึงพยักหน้าแบบไม่คิดอะไรทันที “คุณเวดครับ ผมยอมรับเงื่อนไขทั้งหมดของคุณแล้ว ผมจะไม่ต่อรองอะไรกับคุณแล้วครับ! ขอแค่อย่าส่งผมไปไซต์ก่อสร้างนั้นเลยนะครับ…”ชาร์ลีรู้สึกพอใจมากแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “อย่าลืมปรับปรุงเปลี่ยนแปลงและกลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดีหลังจากนายไปถึงที่โอลรัสฮิลล์แล้ว อย่าสร้างปัญหาอะไรเพิ่มขึ้นมาอีกล่ะ ถ้านายยังคงอยู่ที่อีสต์คลิฟฟ์ต่อไป ทายาทที่ชอบเยาะเย้ยถากถางคนอื่นอย่างนาย ก็อาจก่อให้เกิดหายนะที่ร้ายแรงกว่านี้ได้ในสักวันหนึ่ง นายอาจเข้าไปพัวพันและทำให้ให้ตระกูลโธมัสและตระกูลโคชต้องเดือดร้อนได้!”ในเวลานี้สองพี่น้องอย่างเจริลและจาเวีย์ก็อดที่จะตัวสั่นขึ้นมาเล็กน้อยไม่ได้ดูเหมือนคำพูดของชาร์ลีจะทำให้คนทั้งคู่

  • กลลวง นายสุดเท่ห์ ชาร์ลี เวธ   บทที่ 1594

    สิ่งที่เจ็บปวดที่สุดก็คือ การปั่นจักรยานอย่างยากลำบากจากอีสต์คลิฟฟ์ไปยังโอลรัสฮิลล์แต่นั่นก็เป็นเรื่องที่ยังพอรับได้ การที่ต้องปั่นจักรยานเป็นเวลาครึ่งเดือน ก็ยังดีเสียกว่าการนอนบนเตียงอยู่ครึ่งเดือนหลังผ่าตัดนอกจากนี้เขายังรู้สึกคับข้องใจอย่างมากในระหว่างการผ่าตัดครั้งล่าสุด ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ยังไม่หายดีเลย ถ้าเขาต้องเข้ารับการผ่าตัดแบบเดิมอีกครั้งในเร็ว ๆ นี้ เขาก็จะต้องได้รับความเจ็บปวดเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าอย่างแน่นอนในเวลานี้ชาร์ลีพูดขึ้นมาว่า “ฉันให้นายไปที่โอลรัสฮิลล์ก็เพื่อให้นายได้ไปปรับปรุงตัวและกลับเนื้อกลับตัวใหม่ นายคิดว่า การที่ฉันให้นายไปที่โอลรัสฮิลล์เพื่อให้ไปสนุกสนานกับชีวิตที่นั่นเหรอ? จะบอกอะไรให้นะ นายจะต้องปั่นจักรยานธรรมดา ๆ อย่าง Phoenix 28 เท่านั้น ใช้อย่างอื่นไม่ได้เลย! ไม่งั้นฉันจะให้นายปั่นจักรยานไปโอลรัสฮิลล์พร้อมกับเกวียนที่บรรทุกก้อนอิฐไปจนเต็มคัน!”“แล้วหลังจากนายไปถึงโอลรัสฮิลล์ นอกจากนายจะต้องคอยขับรถรับส่งให้กับลอรีนแล้ว นายต้องเช่าห้องเดี่ยวในชุมชนแออัดคลิฟฟ์คูลส์ด้วย ค่าใช้จ่ายรายเดือนรวมถึงค่าเช่าบ้านของนายจะต้องไม่เกินเดือนละหนึ่งหมื่นบาท!”

  • กลลวง นายสุดเท่ห์ ชาร์ลี เวธ   บทที่ 1593

    เมื่อเขาได้ยินว่า จะต้องขี่จักรยานจากอีสต์คลิฟฟ์ไปยังโอลรัสฮิลล์ตลอดทาง และต้องอยู่ในโอลรัสฮิลล์ในฐานะคนขับรถเป็นเวลาหนึ่งปี ดีแลนก็รู้เหมือนกำลังจะตายไปแล้วจริง ๆ ประเด็นก็คือระยะทางจากอีสต์คลิฟฟ์ไปโอลรัสฮิลล์นั้น มีระยะทางมากกว่า 1,200 กิโลเมตร เขาจะไม่ตายเพราะหมดแรงถ้าต้องปั่นจักรยานไปตลอดทางจริง ๆ เหรอ?แล้วตอนนี้ก็อยู่ในเดือนธันวาคมซึ่งเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว เขาจะต้องขี่จักรยานตลอดทางไปจนถึงภาคใต้ แล้วไม่ได้รับอนุญาตให้พักในโรงแรมเลยด้วย ข้อกำหนดเหล่านี้รุนแรงเกินไปไม่ใช่เหรอ?ดีแลนรู้สึกเสียใจมากและน้ำตาก็เริ่มไหลอาบใบหน้านี่มันเรื่องบ้าบออะไรกันเนี่ย… เขาเป็นนายน้อยคนที่สามของตระกูลโคช แต่จะต้องขี่จักรยานไปจนถึงโอลรัสฮิลล์? เขาจะไม่ล้มตายไปในระหว่างทางหรอกเหรอ?คงจะน่าทึ่งมากถ้าเขาสามารถปั่นจักรยานได้วันละห้าสิบ หรือหกสิบกิโลเมตรระยะทางกว่า 1,200 กิโลเมตร เขาจะต้องปั่นจักรยานไปประมาณยี่สิบวัน!แต่นี่มันเดือนธันวาคมแล้วนะ!เขาสะอึกสะอื้นพร้อมกับพูดว่า “คุณเวดครับ ถ้าผมเริ่มปั่นจักรยานไปโอลรัสฮิลล์ กว่าจะถึงที่นั่นก็คงเป็นเดือนมกราคมแล้ว น้องสาวผมจะต้องกลับมาฉลองปีใหม่ที่

  • กลลวง นายสุดเท่ห์ ชาร์ลี เวธ   บทที่ 1592

    ลอรีนดีใจมากแล้วพูดอย่างตื่นเต้นว่า “ขอบคุณมากนะคะชาร์ลี!”ชาร์ลีรีบพูดว่า “รอเดี๋ยวนะ ผมจะไม่บังคับให้เขากลืนจี้หยกเข้าไป แต่ยังต้องลงโทษเขาด้วยวิธีอื่น ไม่งั้นเขาคงไม่จดจำไว้เป็นบทเรียน”ลอรีนรีบถามว่า “คุณจะลงโทษเขาด้วยวิธีไหนคะ ชาร์ลี? คงไม่ร้ายแรงไปกว่าการกลืนจี้หยกเข้าไปแล้วใช่ไหมคะ?”“ไม่หรอกครับ ชาร์ลียิ้มเบา ๆ ก่อนจะพูดว่า “คุณมั่นใจได้เลยว่า การลงโทษครั้งนี้จะส่งผลดีกับตัวเขาอย่างแน่นอน”ในที่สุดลอรีนก็รู้สึกสบายใจในขณะที่พูดอย่างเสน่หาว่า “ขอบคุณนะคะชาร์ลี ขอบคุณที่ให้อภัยพี่ชายของฉัน และปล่อยเขาไปเพราะเห็นแก่ฉัน ถ้าอย่างนั้น คุณให้โอกาสฉันได้ตอบแทนคุณดีไหมคะ…”ชาร์ลีถามด้วยความประหลาดใจ “คุณจะตอบแทนผมยังไงเหรอ?”ลอรีนกะพริบตาในขณะที่ยิ้มและพูดอย่างตั้งใจว่า “ฉันสัญญาว่าจะแต่งงานกับคุณ และให้กำเนิดลูกชายตัวอ้วน ๆ เพื่อคุณ! คุณคิดว่ายังไงคะ?”ชาร์ลีตอบด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “อย่าพูดอะไรแบบนี้อีก ผมเป็นสามีของเพื่อนสนิทของคุณนะ!”ลอรีนพยักหน้าก่อนจะพูดอย่างจริงจังว่า “ฉันรู้ค่ะ แต่คุณทั้งคู่แต่งงานกันแบบปลอม ๆ นี่! ก็ยังไม่ถือว่าเป็นการแต่งงานกันอย่างแท้จริง! จริง ๆ แล

DMCA.com Protection Status