เช้าวันรุ่งขึ้นหลังจากการเตรียมอาหารเช้า ชาร์ลีก็ขี่สกู๊ตเตอร์ไปที่สำนักงานของเอ็มแกรนด์กรุ๊ปเขาจอดสกู๊ตเตอร์ไว้ข้างลานจอดรถของบริษัทเอ็มแกรนด์กรุ๊ปทันทีที่เขาล็อกสกู๊ตเตอร์ รถเบนท์ลีย์สีดำก็ค่อย ๆ จอดในที่จอดตรงข้ามกับเขาเขาเงยหน้าขึ้นมองโดยไม่ได้ตั้งใจและเห็นคู่หนุ่มสาวกำลังลงจากรถชายคนนี้สวมชุดสูทแต่งตัวดูมีรสนิยมอีกทั้งยังดูหล่อและฉลาด ในขณะเดียวกันหญิงสาวคนนั้นก็แต่งตัวมีสไตล์ไม่แพ้กัน แม้ว่าสีอาจจะดูฉูดฉาด แต่เธอก็ยังดูสวยปรากฏว่าผู้หญิงคนนั้นคือเวนดี้ วิลสันลูกพี่ลูกน้องของแคลร์และชายคนนั้นคือเจอรัลด์ ไวท์คู่หมั้นของเธอชาร์ลีไม่รู้ว่าทำไมพวกเขาถึงมาที่นี่ แต่เขารู้ว่าวิธีหลีกเลี่ยงปัญหาคือ ตอนนี้อยู่ให้ห่างจากสองคนนี้จะดีที่สุดอย่างไรก็ตามยิ่งเขาอยากหลบหน้าจากสองคนนั้นมากเท่าไหร่ พวกเขาก็ยิ่งมีโอกาสที่จะได้พบกันมากขึ้นเท่านั้นเวนดี้เห็นเขาจากหางตาเธอจึงตะโกนออกมา “เฮ้ ชาร์ลี!”เวนดี้ขานเรียกชื่อเขาด้วยน้ำเสียงสดใสอย่างเป็นมิตร แต่ชาร์ลีกลับรู้สึกขนลุกซู่ไปทั่วร่างด้วยมารยาทเขาทำได้เพียงแค่ยืนอยู่กับที่และรอให้พวกเขาเดินเข้ามาหา เขายิ้มทักทายและถามว่า“ เวนดี้ ว่า
นี่เป็นครั้งแรกที่ชาร์ลีได้พบกับดอริสเขาต้องยอมรับว่าดอริสเป็นหญิงสาวที่น่าทึ่งและมีเสน่ห์มาก!เธออายุประมาณยี่สิบเจ็ดหรือยี่สิบแปดปี รูปร่างของเธออวบอิ่มมีเสน่ห์และท่าทางที่ดูมีวุฒิภาวะและน่าเคารพชาร์ลีเดินมานั่งที่หน้าโต๊ะทำงานของดอริส “ผมจะไม่เข้ามาในออฟฟิศบ่อย ๆ ดังนั้นผมอยากให้คุณช่วยดูแลบริษัทในนามของผมแล้วกัน อีกอย่างอย่าเปิดเผยตัวตนของผมเด็ดขาด”ดอริสรู้ว่าคุณเวดซึ่งนั่งอยู่ตรงหน้าเธอตอนนี้มาจากตระกูลเวดที่ไม่ธรรมดา สำหรับตระกูลที่มีชื่อเสียงเช่นพวกเขา เอ็มแกรนด์กรุ๊ปนั้นเป็นเพียงแค่ธุรกิจธรรมดาเท่านั้น ดังนั้นจึงเป็นเรื่องปกติที่เขาจะไม่จัดการด้วยตนเอง เธอจึงรีบพูดว่า "รับทราบค่ะคุณเวด หากคุณต้องการอะไรดิฉันพร้อมจะดูแลจัดการให้คุณเสมอค่ะ”ขณะเดียวกัน เลขาคนหนึ่งมาเคาะประตูและพูดว่า “คุณยังคะ มีผู้ชายคนหนึ่งชื่อคุณเจอรัลด์ ไวท์และคู่หมั้นของเขามาที่นี่เพื่อขอพบคุณค่ะ”ดอริสพูดทันทีว่า “ตอนนี้ฉันมีแขกคนสำคัญอยู่ รบกวนบอกให้พวกเขารอก่อนนะคะ”ชาร์ลีถามว่า“คุณรู้จักเจอรัลด์ ไวท์ไหมครับ”"อ๋อค่ะ ตระกูลไวท์เป็นหนึ่งในหุ้นส่วนของเราและโครงการสำคัญหลายโครงการได้เชื่อมโยงกับบร
การประกาศทั้งสองฉบับโดยเอ็มแกรนด์กรุ๊ปทำให้โอลรัสฮิลล์สั่นสะเทือนราวกับแผ่นดินไหวเมื่อตระกูลวิลสันรับรู้เรื่องเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของผู้บริการในเอ็มแกรนด์กรุ๊ป พวกเขาก็เกิดความสังสัยว่าทำไมถึงเกิดการยุติความร่วมมือกับตระกูลไวท์ดูเหมือนว่าผู้บริหารคนใหม่ของเอ็มแกรนด์กรุ๊ปจะไม่ได้สนใจตระกูลไวท์เลยแม้แต่น้อยหากมองย้อนกลับไปที่ประเด็นที่ว่า คุณเวดคือใคร? เขาเพิ่งซื้ออาณาจักรเอ็มแกรนด์กรุ๊ปซึ่งมีมูลค่าหลายแสนล้านบาทโดยไม่รู้สึกอะไร เขาคงมีอำนาจและเงินอย่างท่วมล้นสินะ? แม้แต่คนที่รวยที่สุดในโอลรัสฮิลล์ ก็คงไม่กล้าที่จะลงทุนอะไรขนาดนี้หรอก!จากนั้นเหล่าตระกูลชั้นสูงทุกตระกูลก็พยายามดันตัวเองเพื่อที่จะสร้างความสัมพันธ์กับคุณเวดผู้ลึกลับที่ไม่มีแม้แต่ใครรู้จัก ในขณะเดียวกันพวกเขาก็อยากจะแนะนำลูกสาวของพวกเขาให้กับคุณเวดเพื่อที่จะเกี่ยวดองกันยิ่งไปกว่านั้นการประกาศเกี่ยวกับการลงทุนมหาศาลของเอ็มแกรนด์กรุ๊ปที่มีมูลค่าสองหมื่นล้านบาทสำหรับโครงการก่อสร้างโรงแรมยังสั่นสะเทือนอุตสาหกรรมการก่อสร้างและการตกแต่งภายในแห่งโอลรัสฮิลล์อย่างท่วมท้น!สองหมื่นล้าน!พวกเขาสามารถทำเงินได้มากมายแม้กระ
การประกาศของแคลร์ทำให้ทุกคนประหลาดใจสุดขีด!แน่นอนว่าทุกคนในห้องประชุมต่างก็คิดว่าแคลร์ต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ !ช่วงเวลาที่ย่ำแย่ที่สุดคือการตกเป็นจุดสนใจ! นอกจากความล้มเหลวพังไม่เป็นท่าแล้วก็คงไม่มีอะไรที่เธอจะสามารถทำให้สำเร็จลุล่วงได้แน่!เอ็มแกรนด์กรุ๊ปเป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในโอลรัสฮิลล์และตระกูลวิลสันก็ไม่ต่างอะไรกับแมลงตัวเล็ก ๆ สำหรับพวกเขา! ใครก็ตามที่รับคำท้าก็คงลงเอยด้วยความล้มเหลว!แฮโรลด์อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ “แคลร์ เธอคิดว่าจะได้รับข้อตกลงจากเอ็มแกรนด์กรุ๊ปจริง ๆ อย่างนั้นเหรอ?”เวนดี้พูดต่อด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยหลังจากพี่ชายของเธอพูดจบลง “แคลร์ นี่เธอคิดว่าเธอเป็นใคร แล้วเธอคิดว่าเอ็มแกรนด์กรุ๊ปเป็นใคร? การที่เธอบุ่มบ่ามทำอะไรไร้เหตุผลแบบนี้ก็มีแต่จะทำให้ตระกูลของเราต้องอับอาย!”คนอื่นกล่าวเสริมอีกว่า “เวนดี้พูดถูก! ถ้าเธอถูกเอ็มแกรนด์กรุ๊ปไล่ออกมา ตระกูลของเราคงจะขายขี้หน้ามากในโอลรัสฮิลล์!”เลือดพุ่งไปที่ใบหน้าของแคลร์และรู้สึกร้อนด้วยความอับอายสถานะของเธอในตระกูลได้ถูกลดลงไปตั้งแต่เธอแต่งงานกับชาร์ลี สมาชิกในครอบครัวไม่สนใจแม้แต่จะปกป้องเธอ แต่พวกเขายังดูถูกพ่อ
เมื่อมองไปที่พ่อแม่ของเธอที่คอยแต่จะเหยียดหยามชาร์ลีนั้น แคลร์ก็ถอนหายใจและพูดว่า “พ่อคะ แม่คะ อย่าโทษชาร์ลีเรื่องนี้เลยนะคะ มันเป็นความคิดของหนูเอง หนูไม่ต้องการให้ครอบครัวของเราโดนดูถูกอีกต่อไป ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเรายังทุกข์กันไม่มากพออีกเหรอคะ?”แม่ของแคลร์สวนกลับว่า “แต่ถึงยังไงแกก็ไม่ควรรับงานนี้ ไม่ใช่แค่แกนะ ต่อให้คุณย่าของแกจะไปเอง เอ็มแกรนด์กรุ๊ปก็จะไม่มาต้อนรับอะไรพวกเราหรอก! "ชาร์ลียิ้มอย่างพึงพอใจในขณะเฝ้าดูการถกเถียงกัน เขาพนันได้เลยว่าพวกเขาจะไม่มีทางเชื่อว่าเขาเป็นเจ้าของที่แท้จริงของเอ็มแกรนด์กรุ๊ปในขณะนั้นเอง ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น"กำลังไปค่ะ…"เอเลนถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายในขณะที่เธอเดินไปเปิดประตูชาร์ลีเลื่อนสายตาไปที่ประตูและเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งสวมชุดอาร์มานี่ยืนอยู่ที่ประตู ชายหนุ่มคนนี้ดูมีเสน่ห์และน่าหลงใหลด้วยนาฬิกาสุดหรู ปาเต๊ะ ฟิลลิปที่ข้อมือซึ่งดูเหมือนจะมีมูลค่าไม่ต่ำกว่าสี่สิบล้านบาทเอเลนร้องเสียงหลงอย่างตื่นเต้น “อ้าว เวนเดลล์! ทำไมคุณถึงมาที่นี่ล่ะ?"ชายคนนี้คือเวนเดลล์ โจนส์ ลูกชายของตระกูลโจนส์ที่ตามจีบแคลร์อย่างไม่ลดละเวนเดลล์ยิ้มและพ
เช้าวันรุ่งขึ้น แคลร์นำไฟล์งานที่เต็มไปด้วยข้อมูลที่เธอเตรียมไว้ข้ามคืนเพื่อไปที่สำนักงานเอ็มแกรนด์กรุ๊ปพร้อมกับชาร์ลีเมื่อยืนอยู่หน้าตึกสูง 100 ชั้น จู่ ๆ แคลร์ก็รู้สึกราวกับว่าหัวใจว่างเปล่า บริษัทที่ยิ่งใหญ่อย่างเอ็มแกรนด์กรุ๊ปจะร่วมมือกับตระกูลวิลสันได้อย่างไร? ไม่ต้องพูดถึงว่าพวกเขาตั้งเป้าไว้ที่ข้อตกลงสามร้อยล้านบาทมันเหมือนกับขอทานที่พยายามเข้าใกล้คนรวยและขอเงินทอนสามร้อยล้านบาท นี่มันน่าหัวเราะจริง ๆ อย่างไรก็ตามเธอได้สัญญากับคุณย่าของเธอและยอมรับคำท้าทายนี้ต่อหน้าทุกคน ดังนั้นเธอจึงต้องทำให้ได้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม...เมื่อรู้สึกได้ถึงความวิตกกังวล ชาร์ลีจึงลูบหัวของเธออย่างอ่อนโยนและพูดว่า "ที่รัก ไม่ต้องกังวลนะ แค่ทำมัน คุณทำมันได้แน่ เชื่อผมสิ"แคลร์ถอนหายใจอย่างหดหู่และพึมพำ “เอาล่ะ ฉันก็หวังไว้ว่าแบบนั้น! รอฉันอยู่ที่นี่นะคะเดี๋ยวฉันมา”เธอสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วเดินไปที่ประตูขณะที่มองดูเธอเดินเข้าไปในตึก ชาร์ลีก็หยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาดอริส“ดอริส ภรรยาของผมกำลังจะไปเข้าพบคุณนะครับ อย่างที่เราคุยกันไว้ คุณควรรู้ว่าต้องทำยังไง!”“รับทราบค่ะคุณเวด ไม่ต้องก
ชั่วขณะนั้นความคิดที่แปลกประหลาดก็พลันผุดขึ้นในใจของแคลร์ท่านประธานเวดที่ดอริสกล่าวถึง ใช่ชาร์ลี เวดสามีของเธอหรือเปล่านะ?เมื่อเธอลองประมวลผลอีกครั้ง เธอพบว่ามันผิดปกติเกินไปมันจะเป็นไปได้อย่างไร!ชาร์ลีเป็นเพียงเด็กกำพร้าที่เติบโตในสถานสงเคราะห์!อย่างไรก็ตามจะมีใครในโลกนี้อีกที่ปฏิบัติกับเธอดีขนาดนี้นอกจากชาร์ลี?เงินสามร้อยล้านเป็นเพียงความหวังลม ๆ แล้ง ๆ แต่พวกเขากลับให้เธอตั้งหกร้อยล้าน...เธออดไม่ได้ที่จะถามต่ออย่างสงสัยว่า “คุณดอริส ยัง ดิฉันขอทราบได้ไหมคะว่า ท่านประธานของคุณใช่ชาร์ลี เวดหรือเปล่าคะ?”หัวใจของดอริสเต้นไม่เป็นจังหวะ เจ้านายของเธอได้สั่งให้เธอปกปิดข้อมูลของเขาไว้เป็นความลับ จะอนุญาตให้เพียงเปิดเผยนามสกุลของเขาต่อสาธารณะเท่านั้น เธอจะถูกตำหนิเป็นแน่ถ้าภรรยาของเขารู้เรื่องนี้!เธอจึงรีบพูดต่อว่า “คุณวิลสันคะ ถ้าเซ็นสัญญาเสร็จแล้วคุณวางไว้ตรงนี้ได้เลยนะคะ ส่วนเรื่องท่านประธาน ท่านเป็นทายาทของตระกูลที่มีชื่อเสียงในอีสต์คลิฟฟ์ ตัวตนของเขาเป็นความลับและดิฉันไม่มีสิทธิ์เปิดเผยข้อมูลค่ะ”แคลร์พยักหน้าเบา ๆ เธอยังคงพยายามปะติดปะต่อเรื่องเกี่ยวกับทายาทในอีสต์คล
ทุกคนตกตะลึงกับเสียงตะโกนทุกคนรีบหยิบโทรศัพท์ออกมาดูบนสื่อโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ของเอ็มแกรนด์กรุ๊ป!แน่นอน!ทุกสื่อบนหน้าโซเชี่ยลมีเดียที่ได้รับการรับรองของเอ็มแกรนด์กรุ๊ปนั้นได้โพสต์แถลงการณ์ล่าสุด! รองประธาน ดอริส ยังและตัวแทนของวิลสันกรุ๊ป แคลร์ วิลสันได้ลงนามในสัญญาออกแบบตกแต่งภายใน มูลค่าหกร้อยล้านบาท!ทั้งห้องประชุม ตกใจตาแตกและแน่นิ่งทันทีหลังจากเห็นประกาศของเอ็มแกรนด์กรุ๊ป!แคลร์ทำข้อตกลงได้จริง ๆ ! ด้วยมูลค่ารวมมากกว่าที่ตั้งใจไว้ถึงสองเท่า!ใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วโมง!มันเป็นไปได้อย่างไร? มันง่ายขนาดนั้นเลยหรือ?มันไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย!แฮโรลด์รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก!ก่อนหน้านี้แคลร์ วิลสันเปรียบเสมือนคนไร้ตัวตนในตระกูลถ้าเขาตอบรับงานเมื่อวานนี้ เขาจะไม่ให้โอกาสแคลร์ได้ส่องแสงเหมือนในวันนี้แน่!แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ได้ปฏิเสธไป เพราะกลัวว่าจะล้มเหลว!เขาปฏิเสธงานที่คุณย่ามอบหมายให้ แต่ประเด็นสำคัญคือ แคลร์ทำมันสำเร็จ!นี่มันเหมือนเขาโดนตบหน้าจัง ๆ !ทันใดนั้นคุณท่านวิลสันก็หยิ
“โอเค” ชาร์ลีพยักหน้าก่อนจะพูดว่า “เอาล่ะ ถึงเวลาที่นายต้องออกเดินทางแล้ว”ในเวลานี้จาเวียร์ก็วิ่งเข้าไปหาพวกเขาพร้อมกับแบตเตอรี่สำรองในมือ หลังจากนั้นเขาก็ยื่นแบตเตอรี่สำรองกับสายชาร์จให้กับดีแลนในขณะที่พูดว่า “ดีแลน นี่แบตเตอรี่สำรอง!”ดีแลนหยิบแบตเตอรี่สำรองใส่ไว้ในเป้ หลังจากปาดน้ำตาออกจากใบหน้าแล้ว เขาก็พูดกับทุกคนว่า “คุณยาย คุณตา พ่อ แม่ ลุง อา ผมจะไปแล้วนะคับ…”ทุกคนโบกมือให้เขา “ไปเถอะ อย่าลืมใส่ใจในเรื่องความปลอดภัยบนท้องถนนนะ!”ดีแลนมองไปที่ชาร์ลีอีกครั้งก่อนจะโค้งคำนับแล้วพูดว่า “ผมจะไปแล้วนะครับคุณเวด…”ชาร์ลีส่งเสียงพึมพำในขณะที่พูดว่า “รีบไปเถอะ ไม่งั้นนายจะถูกทำโทษที่ไปถึงช้านะ”ดีแลนรีบพยักหน้าในขณะที่พูดว่า “ไม่ต้องเป็นห่วงครับ! ผมจะทำให้ดีที่สุดครับ!”ชาร์ลีโบกมือแล้วพูดว่า “อืม ไปได้แล้ว!”ดีแลนพยักหน้าก่อนจะหันกลับไปมองเหล่าญาติ ๆ อย่างไม่เต็มใจ จากนั้นเขาก็เริ่มปั่นจักรยาน Phoenix 28 คันใหญ่อย่างหนักหน่วง หลังจากถีบจักรยานไปได้สองสามครั้ง ในที่สุดดีแลนก็ถีบจักรยานจากไปในลักษณะโคลงเคลงซิลเวียเริ่มร้องไห้อย่างขมขื่น ลีโอนาร์ดจึงรีบคว้าเธอมาปลอบโยนอยู่ในอ้อ
เมื่องานเลี้ยงวันเกิดสิ้นสุดลง และแขกคนอื่น ๆ ได้กลับไปแล้ว ดีแลนก็เข็นรถจักรยาน Phoenix 28 คันใหม่ออกมาในเวลานี้จู่ ๆ ดีแลนก็นึกถึงเพลงฮิตที่เขาเคยเห็นในคลิปวิดีโอสั้น ๆ…เพลงนี้ก็คือเพลง ‘ขี่มอเตอร์ไซต์แสนรักของฉัน’...ในขณะที่เขานึกถึงเพลงนี้ เขาก็มองไปที่จักรยาน Phoenix 28 ในสภาพเก่าที่ดูน่าเกลียดนั้น แล้วอดที่จะถอนหายใจไม่ได้ในขณะที่คิดกับตัวเองว่า ‘ถ้าฉันขี่มอเตอร์ไซค์ไปโอลรัสฮิลล์ได้ก็คงจะดีไม่น้อย เพราะจะทำให้ฉันสามารถเดินทางได้ประมาณสามถึงสี่ร้อยกิโลเมตรต่อวัน ซึ่งจะช่วยให้ฉันเดินทางไปถึงโอลรัสฮิลล์ได้เร็วที่สุด จะได้ไม่ต้องทนทุกข์กับความคับข้องใจและความอยุติธรรมมากมายในระหว่างทาง…’แต่ช่างน่าสงสารเหลือเกินที่เขารู้ว่าชาร์จะไม่มีทางเปิดโอกาสให้เขาได้ต่อรองอะไรเลย เขาจึงทำได้แค่เข็นจักรยานออกมาเพื่อเตรียมตัวออกเดินทางเจริล… ลุงของเขาถือหมวกกันน็อกสีเขียวอยู่ในมือ ในขณะที่พยายามจะสวมให้กับดีแลน ดีแลนหลบเลี่ยงหมวกใบนั้นในขณะที่ถามอย่างอึดอัดใจว่า “ทำไมถึงซื้อหมวกกันน็อกสีเขียวมาให้ผมล่ะลุง? หมวกสีเขียวเป็นสัญลักษณ์ของผู้ชายที่โดนสวมเขานะ…”“อย่าพูดถึงเรื่องนั้นเลยน่า” เจร
"หา? เร็วไปไหม? คุณจะไม่อยู่ที่อีสต์คลิฟฟ์ต่ออีกสักสองสามวันเหรอ?”“ผมทำธุระของผมเสร็จหมดแล้วน่ะ ไม่มีธุระอะไรให้ผมต้องอยู่ที่นี่อีก ผมจะออกเดินทางพรุ่งนี้เลย”เมื่อลอรีนได้ยินดังนี้ เธอก็พูดขึ้นอย่างไม่ลังเลเลยว่า “ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะออกจากอีสต์คลิฟฟ์พรุ่งนี้ด้วย เราเดินทางกลับโอลรัสฮิลล์พร้อมกันดีไหมคะ? เราจะได้นั่งเครื่องบินลำเดียวกันชาร์ลีอยากจะปฏิเสธเธอ แต่เมื่อเขาเห็นสีหน้าที่แสดงความวิงวอนของเธอแล้ว เขาก็ปฏิเสธเธอไม่ลงเพราะไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม… นับเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับคนเป็นเพื่อนกัน ที่ต้องนั่งเครื่องบินลำเดียวกัน ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถหลบเลี่ยงการนั่งเครื่องบินเที่ยวบินเดียวกับเธอได้ชาร์ลีจึงพูดว่า “ได้สิ เรากลับด้วยกันก็ได้”ลอรีนรีบพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวคุณให้รายละเอียดบัตรประจำตัวกับฉันมานะ ฉันจะได้ซื้อตั๋วเครื่องบินของเราพร้อมกัน!”“โอเค”***ในขณะที่งานเลี้ยงวันเกิดยังคงดำเนินอยู่นั้น ลุงและอารองของดีแลนก็ได้ตระเตรียมการเดินทางด้วยการปั่นจักรยานไปยังโอลรัสฮิลล์ให้ดีแลนเรียบร้อยแล้วพวกเขาได้ให้คนไปซื้อจักรยาน Phoenix 28 รุ่นเก่ามา แล้วติดตั้งชั้นวางสัมภา
หลังจากนั้นงานเลี้ยงวันเกิดก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการมีการจัดที่นั่งให้กับชาร์ลีเป็นพิเศษในฐานะที่เขาเป็นแขกผู้มีเกียรติสูงสุด โดยเขาได้นั่งอยู่ข้างนายท่านโธมัสกับลอรีนและริกลีย์หลังจากนั้นสมาชิกของตระกูลโธมัสก็ผลัดกันดื่มอวยพรให้เขา โดยทั้งการแสดงออกทางสีหน้า น้ำเสียง และการกระทำล้วนเต็มไปด้วยการสรรเสริญเยินยอ ชาร์ลีไม่มีอะไรจะพูดมากนัก เมื่อมีคนมาดื่มอวยพรให้เขา เขาก็แค่ดื่มอวยพรกลับไป ซึ่งถึงแม้ดีแลนจะเป็นคนมาดื่มอวยพรให้เขา เขาก็ดื่มอวยพรกลับไปอย่างง่ายดายในเวลานี้ริกลีย์ก็ยังมาดื่มอวยพรให้กับชาร์ลีอย่างระมัดระวังด้วย โดยเขาได้เยินยอแล้วพูดว่า “คุณเวดครับ ผมมีเรื่องจะถามคุณหน่อยครับ…”ชาร์ลีรู้อยู่แล้วว่าเขาจะถามอะไรก่อนที่เขาจะเริ่มพูดออกมาด้วยซ้ำไป เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการให้ชาร์ลีช่วยฟื้นคืนสมรรถภาพ เพื่อให้เขากลับมาแข็งแกร่งได้อีกครั้งแต่เมื่อพิจารณาถึงเรื่องเลวร้ายทั้งหมดที่ครอบครัวของพวกเขาได้ทำกับครอบครัวของยูลแล้ว ชาร์ลีก็ยังแน่ใจว่าเขาจะไม่ยอมฟื้นคืนสมรรถภาพให้พวกเขาในตอนนี้ผู้ที่เป็นผู้ใหญ่แล้วจะต้องชดใช้และรับผิดชอบต่อการกระทำของพวกเขา ไม่อย่างนั้นแล้วพวกเขาจะได้บทเ
ชาร์ลีหยิบภาพวาดที่ยูลมอบให้เขาจากมือของดีแลน ก่อนจะยื่นให้กับยายของลอรีนด้วยตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็พูดว่า “คุณยายโธมัสครับ นี่เป็นของเล็ก ๆ น้อย ๆ จากแคลร์และผมครับ ผมหวังว่าคุณยายจะรับมันไว้ และผมอยากจะขอโทษกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นไปเมื่อกี้นี้ ด้วยวันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณยาย ผมหวังว่าคุณยายคงจะให้อภัยผมนะครับ”คุณท่านโธมัสรู้สึกปลื้มใจแล้วรีบพูดขึ้นว่า “คุณเวด ไม่ต้องเกรงใจหรอกค่ะ จริง ๆ แล้วเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อกี้นี้เป็นเพราะหลานชายของฉันทำอะไรผิดไป ฉันมาคิดดูแล้ว… ทั้งหมดนั้นเป็นเพราะเราละเลยในการอบรมสั่งสอนหลานของเรา จึงทำให้คุณเวดต้องเดือดร้อน”ในขณะที่เธอพูดอยู่นั้น เธอก็มองดูภาพวาดก่อนจะพูดว่า “คุณเวดคะ ภาพวาดนี้มีมูลค่ามากเหลือเกิน ฉันคงรับของขวัญชิ้นนี้ไว้ไม่ได้หรอกค่ะ!”ชาร์ลีรีบพูดว่า “คุณยายโธมัสครับ ของขวัญชิ้นนี้เป็นเพียงของเล็ก ๆ น้อย ๆ จากแคลร์และผม มูลค่าของของขวัญชิ้นนี้ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรเลย คุณยายไม่ต้องเกรงใจผมหรอกครับ พูดตามตรงนะครับ ผมไม่ได้ใช้จ่ายเงินกับของขวัญชิ้นนี้เลยด้วยซ้ำ เพราะคุณโกลดิ้งจากโกลดิ้งกรุ๊ปมอบภาพวาดนี้ให้ผม แล้วผมก็นำมา
เมื่อได้ยินว่าเขาจะต้องไปขนปูนซีเมนต์ในไซต์ก่อสร้าง ดีแลนก็ส่ายหัวอย่างบ้าคลั่งทันที!เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว เขาคงต้องทนทุกข์ทรมานและรู้สึกคับข้องใจเพียงเล็กน้อย ถ้าเขาต้องอาศัยอยู่ในชุมชนแออัด โดยมีค่าครองชีพเดือนละหนึ่งหมื่นบาท แต่ถ้าเขาต้องไปขนปูนซีเมนต์ในไซต์ก่อสร้าง เขาก็คงต้องทนทุกข์ทรมานอย่างมาก และต้องเจอะเจอความยากลำบากมากมายในไซต์ก่อสร้างแห่งนั้นเขาจึงพยักหน้าแบบไม่คิดอะไรทันที “คุณเวดครับ ผมยอมรับเงื่อนไขทั้งหมดของคุณแล้ว ผมจะไม่ต่อรองอะไรกับคุณแล้วครับ! ขอแค่อย่าส่งผมไปไซต์ก่อสร้างนั้นเลยนะครับ…”ชาร์ลีรู้สึกพอใจมากแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “อย่าลืมปรับปรุงเปลี่ยนแปลงและกลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดีหลังจากนายไปถึงที่โอลรัสฮิลล์แล้ว อย่าสร้างปัญหาอะไรเพิ่มขึ้นมาอีกล่ะ ถ้านายยังคงอยู่ที่อีสต์คลิฟฟ์ต่อไป ทายาทที่ชอบเยาะเย้ยถากถางคนอื่นอย่างนาย ก็อาจก่อให้เกิดหายนะที่ร้ายแรงกว่านี้ได้ในสักวันหนึ่ง นายอาจเข้าไปพัวพันและทำให้ให้ตระกูลโธมัสและตระกูลโคชต้องเดือดร้อนได้!”ในเวลานี้สองพี่น้องอย่างเจริลและจาเวีย์ก็อดที่จะตัวสั่นขึ้นมาเล็กน้อยไม่ได้ดูเหมือนคำพูดของชาร์ลีจะทำให้คนทั้งคู่
สิ่งที่เจ็บปวดที่สุดก็คือ การปั่นจักรยานอย่างยากลำบากจากอีสต์คลิฟฟ์ไปยังโอลรัสฮิลล์แต่นั่นก็เป็นเรื่องที่ยังพอรับได้ การที่ต้องปั่นจักรยานเป็นเวลาครึ่งเดือน ก็ยังดีเสียกว่าการนอนบนเตียงอยู่ครึ่งเดือนหลังผ่าตัดนอกจากนี้เขายังรู้สึกคับข้องใจอย่างมากในระหว่างการผ่าตัดครั้งล่าสุด ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ยังไม่หายดีเลย ถ้าเขาต้องเข้ารับการผ่าตัดแบบเดิมอีกครั้งในเร็ว ๆ นี้ เขาก็จะต้องได้รับความเจ็บปวดเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าอย่างแน่นอนในเวลานี้ชาร์ลีพูดขึ้นมาว่า “ฉันให้นายไปที่โอลรัสฮิลล์ก็เพื่อให้นายได้ไปปรับปรุงตัวและกลับเนื้อกลับตัวใหม่ นายคิดว่า การที่ฉันให้นายไปที่โอลรัสฮิลล์เพื่อให้ไปสนุกสนานกับชีวิตที่นั่นเหรอ? จะบอกอะไรให้นะ นายจะต้องปั่นจักรยานธรรมดา ๆ อย่าง Phoenix 28 เท่านั้น ใช้อย่างอื่นไม่ได้เลย! ไม่งั้นฉันจะให้นายปั่นจักรยานไปโอลรัสฮิลล์พร้อมกับเกวียนที่บรรทุกก้อนอิฐไปจนเต็มคัน!”“แล้วหลังจากนายไปถึงโอลรัสฮิลล์ นอกจากนายจะต้องคอยขับรถรับส่งให้กับลอรีนแล้ว นายต้องเช่าห้องเดี่ยวในชุมชนแออัดคลิฟฟ์คูลส์ด้วย ค่าใช้จ่ายรายเดือนรวมถึงค่าเช่าบ้านของนายจะต้องไม่เกินเดือนละหนึ่งหมื่นบาท!”
เมื่อเขาได้ยินว่า จะต้องขี่จักรยานจากอีสต์คลิฟฟ์ไปยังโอลรัสฮิลล์ตลอดทาง และต้องอยู่ในโอลรัสฮิลล์ในฐานะคนขับรถเป็นเวลาหนึ่งปี ดีแลนก็รู้เหมือนกำลังจะตายไปแล้วจริง ๆ ประเด็นก็คือระยะทางจากอีสต์คลิฟฟ์ไปโอลรัสฮิลล์นั้น มีระยะทางมากกว่า 1,200 กิโลเมตร เขาจะไม่ตายเพราะหมดแรงถ้าต้องปั่นจักรยานไปตลอดทางจริง ๆ เหรอ?แล้วตอนนี้ก็อยู่ในเดือนธันวาคมซึ่งเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว เขาจะต้องขี่จักรยานตลอดทางไปจนถึงภาคใต้ แล้วไม่ได้รับอนุญาตให้พักในโรงแรมเลยด้วย ข้อกำหนดเหล่านี้รุนแรงเกินไปไม่ใช่เหรอ?ดีแลนรู้สึกเสียใจมากและน้ำตาก็เริ่มไหลอาบใบหน้านี่มันเรื่องบ้าบออะไรกันเนี่ย… เขาเป็นนายน้อยคนที่สามของตระกูลโคช แต่จะต้องขี่จักรยานไปจนถึงโอลรัสฮิลล์? เขาจะไม่ล้มตายไปในระหว่างทางหรอกเหรอ?คงจะน่าทึ่งมากถ้าเขาสามารถปั่นจักรยานได้วันละห้าสิบ หรือหกสิบกิโลเมตรระยะทางกว่า 1,200 กิโลเมตร เขาจะต้องปั่นจักรยานไปประมาณยี่สิบวัน!แต่นี่มันเดือนธันวาคมแล้วนะ!เขาสะอึกสะอื้นพร้อมกับพูดว่า “คุณเวดครับ ถ้าผมเริ่มปั่นจักรยานไปโอลรัสฮิลล์ กว่าจะถึงที่นั่นก็คงเป็นเดือนมกราคมแล้ว น้องสาวผมจะต้องกลับมาฉลองปีใหม่ที่
ลอรีนดีใจมากแล้วพูดอย่างตื่นเต้นว่า “ขอบคุณมากนะคะชาร์ลี!”ชาร์ลีรีบพูดว่า “รอเดี๋ยวนะ ผมจะไม่บังคับให้เขากลืนจี้หยกเข้าไป แต่ยังต้องลงโทษเขาด้วยวิธีอื่น ไม่งั้นเขาคงไม่จดจำไว้เป็นบทเรียน”ลอรีนรีบถามว่า “คุณจะลงโทษเขาด้วยวิธีไหนคะ ชาร์ลี? คงไม่ร้ายแรงไปกว่าการกลืนจี้หยกเข้าไปแล้วใช่ไหมคะ?”“ไม่หรอกครับ ชาร์ลียิ้มเบา ๆ ก่อนจะพูดว่า “คุณมั่นใจได้เลยว่า การลงโทษครั้งนี้จะส่งผลดีกับตัวเขาอย่างแน่นอน”ในที่สุดลอรีนก็รู้สึกสบายใจในขณะที่พูดอย่างเสน่หาว่า “ขอบคุณนะคะชาร์ลี ขอบคุณที่ให้อภัยพี่ชายของฉัน และปล่อยเขาไปเพราะเห็นแก่ฉัน ถ้าอย่างนั้น คุณให้โอกาสฉันได้ตอบแทนคุณดีไหมคะ…”ชาร์ลีถามด้วยความประหลาดใจ “คุณจะตอบแทนผมยังไงเหรอ?”ลอรีนกะพริบตาในขณะที่ยิ้มและพูดอย่างตั้งใจว่า “ฉันสัญญาว่าจะแต่งงานกับคุณ และให้กำเนิดลูกชายตัวอ้วน ๆ เพื่อคุณ! คุณคิดว่ายังไงคะ?”ชาร์ลีตอบด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “อย่าพูดอะไรแบบนี้อีก ผมเป็นสามีของเพื่อนสนิทของคุณนะ!”ลอรีนพยักหน้าก่อนจะพูดอย่างจริงจังว่า “ฉันรู้ค่ะ แต่คุณทั้งคู่แต่งงานกันแบบปลอม ๆ นี่! ก็ยังไม่ถือว่าเป็นการแต่งงานกันอย่างแท้จริง! จริง ๆ แล