ธนญและนับหนึ่งติดต่อรับรถเช่าที่สนามบินตามที่สพลติดต่อไว้ให้ และขับออกมาตามพิกัดสถานที่ ที่ลายน้ำปักหมุดไว้ พวกเขายังไม่ได้ไปหาโรงแรมที่พัก เนื่องจากยังเช้าเกินไป จึงตัดสินใจไปหาลายน้ำก่อน
“คุณลายน้ำคะ ตอนนี้ฉันกับคุณธนญลงเครื่องแล้ว กำลังจะไปหาคุณที่บ้านนะคะ”
“ถึงแล้วหรือค่ะ ได้ค่ะดิฉันจะรอ”
ลายน้ำวางสายจากนับหนึ่ง ขณะที่กำลังร่วมโต๊ะอาหารอยู่กับครอบครัวตฤณโชติ ท่ามกลางบรรยากาศเฉยชาระหว่างเธอและแดนดิน จนเขตรัฐสังเกตเห็น เขาส่งสายตามถามน้องชายว่ายังไม่คุยกับเธออีกหรือ แต่แดนดินกลับทำท่าไม่สนใจ
“ใครกันโทรหาแต่เช้า”
“เอ่อ พอดีมีคนสนใจงานวิจัยของหนูนะค่ะ หนูขออนุญาตให้เขามารับที่นี่นะคะ สักครู่คงจะมาถึง”
“งานหรือ ไหนว่าอีกเดือนถึงจะไปทำงาน ทำไมมีคนมาหาแล้วล่ะ”
ลายน้ำอึกอักนิดหน่อยเมื่อถูกยิงคำถามเป็นชุดจากนางผกาแก้ว เธอรู้สึกเกรงใจพวกเขา พยายามหาคำอธิบายให้นางผกาแก้ว
ชนแดนที่กำลังอ่านชาร์ตบันทึกอาการของเกศิตา เขาสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมอีกนิดหน่อย เพราะอาการของเธอดีขึ้นมาก แม้จะกังวลในช่วงแรก หลังผ่าตัดเสร็จ และเขาไม่ได้อยู่ดูแลเธอต่อเพราะลางานกลับบ้านไว้ก่อนแล้ว แต่บันทึกของเพื่อนหมอท่านอื่นที่ช่วยดูแลแทนไม่บ่งชี้ความผิดปกติใดๆ ทำให้เขาสบายใจขึ้น“คุณเกศเป็นยังไงบ้างครับ มีอะไรผิดปกติไหมครับ”“ถือว่าดีทีเดียวครับ ไม่ต้องเป็นห่วง แค่นอนพักและทานยาให้ตรงเวลา ลดการเคลื่อนไหว หรือกิจกรรมหนักก็จะค่อยๆดีขึ้นเอง”“แล้วจะกลับบ้านได้เมื่อไหร่ครับ”“สัปดาห์หน้าก็สามารถไปพักฟื้นต่อที่บ้านได้ แล้วหมอจะนัดกลับมาดูอาการเป็นระยะ แต่คงต้องงดใช้งานไปก่อนสักพักนะครับ จนกว่าแผลจะหายสนิท ไม่งั้นจะเสี่ยงต่อการติดเชื้อ แม้จะรู้สึกไม่เจ็บไม่ปวดแล้ว ก็ยังไม่สมควรใช้งาน”สหัสวรรษและเกศิตายิ้มแหยๆ ออกมา เมื่อหมอชนแดนพูดถึงเรื่องนั้น ชนแดนแอบเหลือบมองสหัสวรรษด้วยความสนใจในขณะที่จด
มินตราและนับหนึ่งช่วยกันล้างจาน แต่ก็แอบสงสัยที่เห็นสามพี่น้องกำลังคุยกันอยู่มุมหนึ่งด้วยสีหน้าเคร่งเครียด มินตราแอบลอบมองสังเกตตั้งแต่ตอนที่ธนัญญานั้นแยกไปคุยกับตรีวิทย์ ตอนที่ทุกคนกำลังงุนงงกับแดนดินที่พาลายน้ำกลับเรือนเล็กโดยไม่บอกไม่กล่าว“มีอะไรหรือมิน”“เปล่าค่ะ แค่มินสงสัยว่าสามพี่น้องเขาคุยอะไรกัน”นับหนึ่งหันไปมองตาม เมื่อเห็นสีหน้าของธนญ นับหนึ่งเองก็เริ่มหวั่นในใจ ก่อนจะหันเหความสนใจของมินตรามาที่อาหารที่เหลือบนโต๊ะ เพื่อไม่เธอคิดมากเกินไปธนญที่หลังจาก นางผกาแก้วแม่ของเขตรัฐและแดนดิน ขอแยกตัวไปเข้านอนก่อน จึงได้โอกาสเดินเข้าไปคุยกับน้องสาวน้องชาย เพื่อไขข้อข้องใจของเขา“ฉันเห็นพวกนายตั้งแต่ตอนที่คุณดินพาคุณน้ำกลับไป มีอะไรหรือ”“ม่ะไม่มีอะไรครับพี่นญ”สีหน้าตกใจและวิตกกังวลของตรีวิทย์ ทันทีที่ธนญเอ่ยถามจากด้านหลัง เขาตกใจจนสะดุ้งโหยง ก่อนที่ธนญจะหันไปทางธนัญญา“ยายนัญ&
น้ำรินที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการโน้มน้าวเมืองนาย ในการร่วมลงทุนในธุรกิจร่วมกับทรงกลด แต่กลับเป็นที่ถูกอกถูกใจ ติดใจในรสชาติเซ็กส์ของกันและกัน น้ำรินและเมืองนายแอบติดต่อสานต่อกิจกรรมหฤหรรษ์บนเตียง พ่วงผลประโยชน์แอบแฝงที่น้ำรินไม่ปฏิเสธ โดยปิดบังไม่ให้ทรงกลดได้รู้น้ำรินพาเมืองนายมาที่อินดีสเป็นครั้งแรก เธอได้อานิสงส์จากการติดตามทรงกรดและอัญชิสามาที่นี่บ่อยๆ ทำให้เป็นที่คุ้นเคยและจดจำ เธอใช้สิทธิ์การเป็นสมาชิกของอัญชิสามันสะดวกใจมากกว่า และหากภายหลังทรงกลดรู้เรื่องนี้ มันก็ไม่เป็นการหักหน้าเขา“คุณมาที่นี่บ่อยหรือ ผมมากรุงเทพฯ บ่อย แต่ไม่เคยมาที่นี่ เห็นเขาว่าคนมาที่นี่ได้ส่วนใหญ่จะเป็นระดับ VIP ทั้งนั้น ต้องเป็นสมาชิกด้วยใช่ไหม”“ค่ะ นี่รินขอยืมสมาชิกของเพื่อนมา เพราะมากับเพื่อนบ่อย พนักงานที่นี่เลยจำรินได้”“คุณทรงกลดเป็นสมาชิกที่นี่ด้วยไหมครับ”“เป็นค่ะ แต่รินมากับคุณส่วนตัวคงไม่ดีมังคะที่จะสิทธิ์ของเขา”
พัศวีหยิบแส้หางม้าขึ้นมา ใช้ด้ามจับสอดไปที่ใต้กระโปรงสั้นแค่คืบตรงหว่างขาเขาถูมันไปมา จนพรีมถึงกับคราง เพราะเนื้อแข็งของวัตถุที่สัมผัสถูเนื้ออ่อนนุ่ม มันทำให้รับรู้ถึงความเสียวซ่านได้อย่างรวดเร็ว แต่ก็เจ็บแสบไปพร้อมกัน เขากดร่างพรีมลงบนโต๊ะตัวกว้างที่เก็บข้าวของที่ไม่ได้ใช้ออกจนหมด พรีมนอน คว่ำ มือถูกไพ่หลังพร้อมใส่กุญแจมือ ทำให้พรีมใจเต้นแรงและเริ่มกลัว ก่อนที่พัศวีจะใช้ขาเตะเท้าของเธอ วาดออกให้กว้าง พร้อมถกกระโปรงเปิดเผยสะโพกเย้ายวน เขาใช้แส้ฟาดลงบนเนื้อขาวของพรีมเบาๆ จนพรีมร้องออกมา “เจ็บใช่ไหม” “พรีมเจ็บนะวี” พัศวีวางแส้ และนำวัตถุบางอย่างที่สามารถเคลื่อนไหวได้มาจ่อตรงปากปล่องทั้งที่ยังมีชั้นในบางขวางกั้น มันทำให้ร่างของพรีมกระตุก “เสียวไหม” “มันคืออะไร” “เซ็กซ์ทรอย แบบเดียวกับในหนังอย่างว่า วีรู้ ว่าพรีมต้องเคยสงสัยว่ามันรู้สึกยังไง ลองดูนะ” พัศวีดึงชั้นในออกพร้อมสอดมันเข้าไป ปุ่มถูกกดให้ทำงาน ทำให้เธอเสียว
คงทรัพย์นั่งดูโทรศัพท์มือถือของตัวเอง ใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กเช็ดผมที่เปียกไปมา ให้แห้งอย่างรวดเร็ว เขาดูข่าวที่ตีสีใส่ไข่เกี่ยวกับเขาและอังคณา ที่เกินเลยออกรสชาติเกินบรรยาย จินตนาการมากมายผุดมาตามกระแส เสียงวิพากษ์วิจารณ์และการขุดคุ้ยประวัติและพฤติกรรม ที่น่ารังเกียจของอังคณา ทำให้เขายังสนใจ หลายๆ เรื่องเกี่ยวกับอังคณาที่เขาไม่เคยรู้ แค่ภาพไม่กี่ภาพที่เขาปล่อยออกไป กลับรู้เรื่องราวอื่นๆ ของเธออีกมากมาย สายตาและรอยยิ้มเหยียดที่มองอังคณา แม้เธอไม่รู้ว่าเขาอ่านหรือดูอะไรอยู่ แต่เชื่อว่ามันล้วนแต่เกี่ยวกับเธอ แม้คงทรัพย์ไม่ใช่ผู้ชายหน้าตาดีอะไรมากมาย แต่รูปร่างของเขากลับทำให้คนหน้าธรรมดาดูหล่อเหลาขึ้นมาได้ ร่างกายที่แข็งแรงเต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อ อกผาย ไหล่ผึ่ง หน้าท้องแบนราบเป็นสันนูนตามริ้วมัดกล้ามเนื้อที่ท้อง อังคณาแอบรอบมองเขาอยู่นาน ก่อนจะตัดสินใจเอ่ยปาก “ฉันปวดท้อง” คงทรัพย์เหลือบมอง แต่กลับไม่สนใจและนิ่งเฉย อาการปวดท้องจนขนลุกทำให
หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ อังคณาที่ไม่สามารถเดินไปไหนได้ เพราะบาดแผลที่หนักหนาสาหัสที่เท้าของเธอ ทุกย่างก้าวแสนเจ็บแสบและทรมาน เธอคงนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารนั้น มองดูหญิงกลางคนที่เข้ามาเก็บจานอย่างมีความหวัง หากแต่ป้าศรกลับไม่ยอมมองหรือสบตากับเธอ และจากไปอย่างรวดเร็วอังคณาพอมีความหวังอยู่บ้าง เธอมองออกไปนอกหน้าต่างที่มีเม็ดฝนโปรยปรายอยู่ เธอและคงทรัพย์ทรัพย์โชคดีที่เดินทางมาถึงที่นี่ก่อนที่พายุฝนจะมา เรือนหลังใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่ริมผา สวยงามแต่ดูน่ากลัว เพราะเป็นเรือนไม้ทั้งหลังดูถมึงทึงมืดดำท่ามกลางป่าเขา ปิดตายจะเปิดใช้เฉพาะเวลาที่เจ้าของมาพักผ่อน ครั้งสุดท้ายที่ผ่านมาก็สิบกว่าปีที่พัศวีพาเกศิตาไปที่นั่นแต่เรือนที่เธอและคงทรัพย์พักอยู่ไม่ได้ใหญ่โตเหมือนเรือนหลังนั้น แต่ก็กว้างขวางและสะดวกสบายเช่นกัน ที่สำคัญมันหลบอยู่อีกมุมหนึ่งที่ไม่สามารถมองเห็นจากประตูทางเข้าด้านหน้าที่ติดกับถนนหลัก จึงไม่มีทางที่บุคคลภายนอกจะรู้ความเคลื่อนไหวของพวกเขา“เราจะอยู่ที่นี่นานแค่ไหน
หลังจากที่นายวิกรมและพวกได้กลับไปแล้ว คงทรัพย์เอาแต่นั่งดื่มด้วยความโกรธ ที่พวกของวิกรมอุกอาจมาบุกผับของเขาอย่างไม่ยำเกรงเช่นนี้ เขาจะต้องเอาคืนให้ได้ อาชานั่งดื่มเป็นเพื่อน หลังจากที่สถานการณ์คลี่คลาย“พี่จะให้ผมกลับไปส่งที่เขาใหญ่ไหม”“ไม่ต้อง ในเมื่อมันเปิดหน้ากับฉันแบบ นี้จะเอาคืนซึ่งหน้าเหมือนกัน”“แล้วจะปล่อยคุณอังคณาไว้ที่นั่นแบบนั้นจะดีหรือ”“ยายนั่นหนีไปไหนไม่รอดหรอก ทิ้งไว้นั่นแหละ”คำตอบของคงทรัพย์ เป็นการจบประโยคสนทนา เกี่ยวกับอังคณาโดยสิ้นเชิงอาชาไปส่งคงทรัพย์ที่บ้านของคงกระพัน เขาต้องไปอยู่ที่บ้านพ่อก่อน เพราะพวกของนายวิกรมยังไม่ยอมเลิกตอแยกับเขาได้โดยง่าย ยิ่งเขาหักหน้านายวิกรมเช่นนั้นทั้งที่อุตส่าห์พานายตำรวจใหญ่มาข่มขู่เขาให้เกรงกลัวแท้ๆ การอยู่คนเดียวลำพังเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย อีกทั้งร่างกายเขาเองก็ยังไม่สมบูรณ์พอ“ไอ้วิกรมมันพาพวกไปบุกผับแกงั้นหรือ”“
มินตราที่นอนหลับสนิท ลืมตาตื่น เมื่อรู้สึกว่าใครสักคนกำลังจับมือเธออยู่ ตรีวิทย์กุมเมือเธอแนบที่หน้าผากของเขา เพราะความเครียดและคิดหนัก สับสนและเป็นห่วงเธอ ทันทีที่รู้ว่าเป็นเขา มินตรารีบดึงมันออกจากการเกาะกุมของเขา“ตื่นแล้วหรือ”ตรีวิทย์ยิ้ม และรีบถามเมื่อเธอดึงมือออก นั่นเพราะเธอเพิ่งรู้สึกตัว“คุณมาที่นี่ได้ยังไง”“วันนี้ที่บริษัทมีประชุม เจ้านายคุณบอกว่าคุณนอนโรงพยาบาล”“คุณกลับไปเถอะ ฉันไม่เป็นไร”“ไม่เป็นไร ผมจะอยู่ดูแลคุณเอง”“เราเลิกกันแล้ว”“แต่ผมก็ยังเป็นพ่อเด็กอยู่ อีกอย่างคุณคงไม่อยากให้คนอื่นสงสัย”มินตราเงียบไป มันจุกแน่นที่หน้าอก“แต่สักวันพวกเขาก็ต้องรู้”“มันไม่เร็วไปหรือ”คำถามของเขามาพร้อมกับเสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่“มันก็เร็วพอๆ กับที่คุณขอเลิก เมื่อเจอแฟนเก่านั่นแหละ”