นักข่าวพากันวิ่งกรูตามเขาไป โดยทิ้งให้อริศรายืนเท้งเต้ง กำมือแน่นจนแทบจะกรีดร้อง ที่สืบสายกล้าบอกคนอื่นต่อหน้าเธอว่าพระแพงคือภรรยาของเขา
“เดี๋ยวก่อนค่ะ หมายความว่ายังไงคะที่คุณพระแพงคือภรรยาของคุณ” นักข่าวที่วางแผนกับอริศราเริ่มยิงคำถาม
“เธอเป็นภรรยาผมมากว่าสิบปีแล้ว” เขาตอบแค่นั้น
“แสดงว่าคุณคบซ้อน” คำถามพุ่งความผิดไปที่สืบสาย
“คุณสืบสายไม่เคยคบซ้อน เราแค่ให้อิสระซึ่งกันและกัน”
พระแพงออกรับแทนเขา และกำมือสืบสายไว้ เพื่อเป็นการบอกเขาว่าเธอเข้มแข็งพอ และไม่ยอมตกเป็นเหยื่อนักข่าวตามที่อริศราหวังไว้
“เราคบกันตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยปี 3” คำตอบของสืบสายสร้างเสียงฮือฮา
“หลังจากนั้นสืบไปเรียนต่อที่อังกฤษ ฉันได้งานทำที่นี่ เราไม่ได้เลิกกัน ส่วนเขาจะไปมีอะไรกับใครชั่วครั้งชั่วคราวดิฉันไม่ได้สนใจ”
พระแพงทำเสียงเข้ม เพื่อตอกย้ำอริศราว่าเธอเป็นแค่ของชั่วคราว
เนื้อน้องเพลียหลับสนิท ไม่ขยับตัวเลยสักนิด พัศวีไม่รู้ว่าเขาต้องพาเธอไปที่ใด เพราะตั้งแต่คบกับเธอมา เขาไม่เคยรู้จักบ้านของเธอที่นี่เลย แม้แต่ที่ทำงานก็ยังไม่รู้จัก เมื่อทบทวนเหตุการณ์หลายๆ อย่างเขาแทบจะไม่รู้จักหรือสนใจจะรู้จักกับคนในครอบครัวของเธอเลยสักนิด ความรู้สึกผิดที่ประดังประเดเข้ามาพัศวีตัดสินใจว่าเธอไปพักรีสอร์ทขนาดเล็กใกล้ๆ ที่เขาสอบถามจากพนักงานก่อนหน้านี้ เพราะเขาจะไปพักที่นั่นหากขับรถไม่ไหวจริงๆ บ้านพักขนาดย่อมๆ ติดทะเล 5 หลังเป็นสัดส่วนสามารถจอดรถด้านข้างได้สะดวกสบาย แม้ไม่ได้หรูหรานัก แต่ก็สะอาดสะอ้านเหมาะกับการพักชั่วคราวแบบไม่ต้องคิดอะไรมากพัศวีอุ้มเนื้อน้องเข้าไปวางบนที่นอนที่ปูอยู่กับพื้นไม่มีเตียง เธอขยับกายนิดหนึ่งแต่ก็ไม่ยอมตื่น นอนขดตัวทั้งที่ยังอยู่ในชุดทำงานที่ค่อนข้างจะทางการ“เปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนเธอนอนทั้งชุดนี้ไม่ได้”พัศวีดึงเนื้อน้องที่พลิกกายหันหลังให้เขา ร่างที่สูงใหญ่ กับพื้นที่เตี้ย สร้างความลำบากให้เขา
“ลงมาสิ”ตรีวิทย์เรียกมินตรา ที่ยังหลับตาปี๋เพราะความกลัว เขาจอดรถนานแล้ว แต่เธอกลับนิ่งอยู่อย่างนั้น จนเขาลงจากรถ และเดินมาเปิดประตูฝั่งของเธอ“ไม่” เธอเสียงแข็งยืนกรานทั้งที่มือยังกำเข็มขัดนิรภัยแน่น ไม่ยอมลืมตา“ตามใจ งั้นก็อยู่ไปคนเดียว” พูดจบตรีวิทย์ก็เดินออกไปโดยไม่เหลียวหลังมองเธอด้วยซ้ำเสียงของตรีวิทย์เงียบไปนานแล้ว มินตรารู้สึกว่ารอบตัวเธอเงียบไปหมด จึงค่อยๆ ลืมตาขึ้นทีละข้าง ก่อนจะปรับสายตาเพ่งมองไปในความมืด ใจของเธอเริ่มเต้นแรง ไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ใดรถของตรีวิทย์เหมือนจะจอดอยู่ในโรงจอดรถที่มิดชิด ประตูม้วนด้านหน้าปิดสนิท ภายในห้องสีเหลี่ยมที่ปิดทึบ มินตรามองไปรอบๆ อย่างหวาดหวั่น เธอก้าวลงจากรถ โดยใช้ไฟฉายจากโทรศัพท์มือถือส่องไปรอบๆ จนพบประตูบานหนึ่งด้านหลัง จึงเปิดมันออก และค่อยๆ ย่องออกไป อย่างกล้าๆ กลัวๆภายในห้องที่เปิดไฟส่องสว่า
ตรีวิทย์เปลี่ยนสวมรองเท้าใส่ในบ้านสีน้ำตาลแดง ที่มินตราหยิบมาให้ มันเป็นรองเท้าของเธอ ในขณะที่มินตราเดินเท้าเปล่า เพราะมีรองเท้าเพียงคู่เดียว เธอไม่เคยมีแขกมาที่ห้องมาก่อน จึงไม่จำเป็นต้องเตรียมไว้เผื่อใคร เขานั่งลงบนโซฟาบุผ้าฝ้ายเนื้อหยาบสีน้ำตาลอ่อน ขนาดย่อม เมื่อมองดูไปรอบๆ มินตราดูจะชอบเฟอร์นิเจอร์ข้าวของเครื่องใช้สีเข้ม ทึบ ออกโทนแดงเสียเป็นส่วนมาก ทำให้เขาถึงกับยิ้มขำออกมา“คุณหัวเราะอะไร เมื่อกี้ก็มองฉันแปลกๆ ไปทีนึงแล้ว” มินตราขมวดคิ้วก่อนจะวางแก้วน้ำดื่มให้เขา“ผมแค่ทึ่งในรสนิยมของคุณ” ตรีวิทย์จิบน้ำ และยิ้มออกมา“มันเป็นยังไง”“คุณเป็นผู้หญิงที่แปลกดี แทนที่จะชอบสีอ่อนๆ สบายตา กลับชอบสีอึมครึม ทึบๆ ส่วนใหญ่สีแบบนี้มีแต่พวกผู้ชายที่ชอบ”ตรีวิทย์เอนหลังเพื่อเหยียดกาย ปกติมินตราจะเปลี่ยนเสื้อผ้าทันทีที่กลับมาถึงห้อง แต่เมื่อเขาอยู่ด้วยแบบนี้ เลยรู้สึกแปลกๆ&nb
เขตรัฐ ปรากฏตัวอีกครั้ง หลังบาร์น้ำ เขาทำงานที่อินดิสมานาน ตั้งแต่สอบเข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำได้ เขาหารายได้พิเศษจากการเป็นเด็กเสิร์ฟ และฝึกฝนจนได้ตำแหน่งบาร์เทนเดอร์ เพราะฝีมือการปรุงเครื่องดื่มอันเป็นที่ถูกอกถูกใจนักดื่มชายหญิงทั้งหลาย ถึงแม้เขาจะเรียนจบ และได้รับโอกาสจากปารวัตรรับเข้าทำงานในรุ่งเรืองเบฟเวอร์เรจ เขาก็ยังไม่ลืมที่จะกลับมาช่วยที่อินดิส เพราะความชอบ และผูกพันกับที่นี่คงทรัพย์เป็นเจ้านายที่ดี แขกที่สนิทกับเขาหลายคนเป็นระดับเศรษฐีมีฐานะ กลับไม่ถือตัวและเต็มใจช่วยเหลือเขามากมาย และยังมองเขาเป็นเหมือนเพื่อน พี่น้อง โดยเฉพาะกลุ่มของณัฐการที่เธอดูแลเขาช่วยเหลือเขาด้วยดีมาตลอด ไม่เว้นแม้แต่สามีของเธอ เพราะความเป็นห่วงณัฐการที่เขาแสดงออกอย่างจริงใจ ทำให้ปารวัตรมองเห็นเขา และชื่นชมเขาและอยากให้โอกาส ยิ่งเมื่อมีโอกาสได้พูดคุยกันถูกคอ และรู้ว่าเขาเรียนสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหาร ยิ่งทำให้ปารวัตรอยากให้โอกาสเขา เริ่มต้นงานประจำที่ดีในอง
เช้าอันสดใสหลังพายุฝนผ่านพ้น ธนัญญาตื่นขึ้นมาด้วยอาการเพลียจากพิษไข้ เขตรัฐไม่ได้อยู่ในห้อง เธอถูกทิ้งไว้โดยลำพัง ธนัญญาหอบร่างที่อิดโรย ห่อด้วยผ้าห่มเดินตรงไปหยิบเสื้อผาของตัวเองที่ยังแห้งไม่สนิทเพราะความชื้นของอากาศ มาสวมใส่ ก่อนจะมองหากระเป๋าถือ และตรวจสอบความเรียบร้อยของตัวเองเธอเห็นรอยช้ำมากมายที่คอ ร่องอก ขา แขน เนื้ออ่อนแดงเป็นจ้ำ เธอต้องใช้แป้งพัฟทาทับกลบมันไว้ แม้ไม่สนิท แต่ก็ช่วยให้เธอผ่านพ้น และเดินออกไปจากตึกคอนโด ห้องพักของเขาจนไม่เป็นที่ผิดสังเกตจนเกินไปปารวัตรมีสีหน้าเคร่งเครียด เมื่อเขาได้รับคำสั่งจากนายพลวัตร ตามสืบหาข้อมูลของเกศิตา เพราะตั้งแต่กลับมา เธอไม่ติดต่อกับครอบครัวเลย และหายไปอย่างไร้ร่องรอย ถึงแม้จะตัดขาดความเป็นพ่อลูกต่อกัน แต่ในใจลึกๆ ก็อดที่จะห่วงเธอไม่ได้เช่นกัน“คุณท่านให้ตามหาคุณเกศ นายช่วยสืบให้หน่อยว่าตอนนี้คุณเกศอยูที่ไหน ทำอะไรอยู่”ปารวัตรมอบ
เอกสารการจดสิทธิบัตร และสัญญาการซื้อขายลิขสิทธิ์การผลิตและจัดจำหน่ายน้ำหอมสูตรใหม่ที่เป็นการคิดค้นระหว่างนับหนึ่งและธนญ นั้น ธนญได้ยกสิทธิ์การครอบครองให้เป็นของนับหนึ่งแต่เพียงผู้เดียว เขาจะทำหน้าที่เป็นเพียงผู้ผลิตและจัดจำหน่ายในนามของ ออลโมส ฟราแกรนซ์ เท่านั้นตรีวิทย์ได้นำเอกสารทั้งหมดมาให้นับหนึ่งเซ็นด้วยตัวเอง ตามขั้นตอนต่างๆ ของฝ่ายกฎหมาย ที่เมื่อดูรายละเอียดภายในแล้ว ต่างได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่ายอย่างเหมาะสมนับหนึ่งอ่านรายละเอียดในเอกสารก่อนอย่างละเอียด ก่อนที่จะลงมือจรดปากกาอย่างยากเย็น เพราะรู้สึกว่าความพิเศษของมันกำลังจะเปลี่ยนไป“เรียบร้อยนะครับ” ตรีวิทย์ยิ้มให้เธอ ที่เธอยอมตัดสินใจ ให้บริษัทได้ผลิตน้ำหอมสูตรพิเศษนี้“ค่ะ” นับหนึ่งรับคำและยิ้มเจื่อนๆ“ผมเชื่อว่าน้ำหอมตัวใหม่ของเราตัวนี้ ในวันที่เปิดตัวแบรนด์ และวางจำหน่ายสินค้าล็อต แรก จะต้องสร้างความฮือฮาเป็นอย่างแน่นอน”ตรีวิทย์พยายามสร้างความเชื่อมั่
เขตรัฐกลับมาถึงห้องของเขาด้วยอารมณ์ที่ฉุนเฉียว เขาทิ้งตัวลงบนโซฟาอย่างอ่อนล้า เพราะเหนื่อยกับกิจกรรมบนเตียงที่ต่อเนื่องยาวนานกับธนัญญา จนถึงช่วงสายของวันนี้ แม้จะได้หลับไปพักนึ่ง ก็ดูจะไม่เพียงพอ เพราะต้องมาตื่นกลางครันเพราะตรีวิทย์นำรถของธนัญญามาส่งคืนให้เธอเขตรัฐหลับตาลงอย่างช้าๆ และกำลังนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างเขากับธนัญญา มันคือความผิดพลาด หรือความตั้งใจกันแน่ เขามีความสุขที่ได้ร่วมรักกับเธอ แต่เขาก็รู้สึกผิดพลาดที่ถลำลึกกับผู้หญิงที่เขาไม่เคยคิดอยากจะมีสัมพันธ์ที่ดีด้วยเลยสักนิด“เขต นายว่างไหม” คงทรัพย์โทรหาเขตรัฐช่วงสามทุ่ม“ครับพี่ จะให้ช่วยอะไรหรือครับ” เขาตอบรับคงทรัพย์ แทบจะไม่เคยปฏิเสธเลยสักครั้ง“พอดีเพื่อนพี่เขาอยากรู้เรื่องของไอ้ทรงกลดกับปารวัตรตอนที่มันกับเพื่อนวางแผนฉุดอิ๋ง นายมาที่อินดิสหน่อยได้ไหม”คงทรัพย์ตามตัวเขาให้มาพบกับธนญ และสืบสาย เพื่อเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่เขารู้ถึง
ธนัญญาเปิดประตูห้องเข้าไป พบเขานั่งอยู่ที่โต๊ะมือประสานกัน ใบหน้าเคร่งเครียด และดูน่ากริ่งเกรง ธนัญญาหันไปมองตรีวิทย์ก่อนจะส่งสายตาถามเขาว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น ตรีวิทย์หลบสายตาเธอ ก่อนจะหลบออกไปจากห้อง ปล่อยให้ธนญเป็นคนเค้นหาคำตอบจากเธอเอง“พี่นญเรียกนัญมาอย่างรีบด่วนด้วยเรื่องอะไรคะ”เธอพยายามข่มน้ำเสียงเอาไว้“แกรู้จักกับเขตรัฐหรือ”เขาถามเธอด้วยน้ำเสียงราบเรียบทุ้มต่ำ“ค่ะ”เธอตอบรับสั้นๆ“ที่ไหน”ธนัญญาเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะตอบเขาตามตรง เธอตระหนักดีว่า ธนญ เป็นคนไม่อ้อมค้อมและค่อนข้างตรงไปตรงมา การพูดคุยกับเขาตรงๆ เป็นเรื่องที่ปลอดภัยที่สุด“เราเรียนที่มหาวิทยาลัยเดียวกัน”“แกนอนกับเขาแล้วใช่ไหม”ธนญยิงคำถามที่เธอกลัวออกมาตรงๆ จนแทบจะล้มทั้งยืน ธนัญญาได้แต่สูดหายใจเข้าแรงๆ เต็มปอด“ค่ะ”“แกเห็นข่