กรงรักราชาโจร
ตอนที่ 7 - ปากไม่ตรงกับใจ
"ตรวจอาการนางให้ละเอียด" เสียงเข้มออกคำสั่งกับหมอที่พามา ยืนจ้องมองหน้าคนป่วยที่ซีดเซียวอย่างนิ่งขรึม แต่ทว่าหารู้ไม่ในใจพลันนึกหวั่น จากที่เห็นว่าเธอนั้นสั่นเทาดูหนาวเหน็บ ริมฝีปากขาวเผือดสั่นระริกอย่างน่าเป็นห่วง
"ขอรับ" เสียงของหมอตอบรับ พลางตรวจดูอาการของคนที่ป่วยอย่างตั้งใจ
สายตาคมจับจ้องไม่ละสายตาไปไหน ยืนมือไขว้หลังอย่างสังเกตการณ์ ทุกการกระทำจองหมออยู่ในสายตาของจาร์มาล์ตลอดเวลา จนริฏวานที่เฝ้ามองอยู่ด้านหลังจับพิรุธผู้เป็นนายได้อย่างรู้เท่าทัน ด้วยมือแกร่งที่กำแน่นอยู่ด้านหลังของจาร์มาล์ รับรู้ได้ว่าเขากำลังมีความกังวลไม่น้อย เพียงแต่ไม่แสดงความพะวงนั้นออกมาชัดเจน
"หนักหนาแค่ไหน?" สายตาเพ่งพิศจ้องมองไม่วางตา เอ่ยปากถามหมอผู้รักษาด้วยความใคร่รู้
"ร่างกายนางบอบช้ำ และอ่อนเพลียมาก มีไข้สูงน่าจะทรุดตัวอยู่หลายวันถึงตะมีอาการดีขึ้น ต้องเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด ตอนนี้ยังไม่อาจวางใจได้ครับ" หมอที่ทำการรักษาหันมาประจันหน้าและให้คำตอบ
"อืม...ดูแลนาง อย่าให้นางตายเสียล่ะ"
"ครับ"
เป็นการรับรู้อย่างเข้าใจ แต่ปากที่แสนร้ายก็ยังเสียดสีแม้จัสซีเนียจะนอนซมจมที่นอนไร้สติ แสยะยิ้มมุมปากก่อนจะเดินออกมาจากกระโจมที่พักอย่างคนโล่งอก ที่รับรู้ว่าเธอนั้นปลอดภัย มันคือส่วนลึกที่เขารู้สึกอยู่ก้นบึ้งของก้อนเนื้อข้างซ้าย
"ท่านไม่ต้องห่วงนางมากเกินไปหรอกครับ" ริฏวานทักท้วงระหว่างที่เดินเท้า เพื่อจะไปยังที่พักสำรอง
"ไม่ได้ห่วง...แค่ยังไม่อยากให้นางตายตอนนี้ แค้นที่มียังไม่ได้ชำระ นางจะมาตายได้อย่างไร?" สองเท้าหยุดเดินกะทันหัน เมื่อริฏวานนั้นอ้าปากพูดคำที่แสลงหู หันไปประจันหน้าลั่นวาจาด้วยประโยคยาวเหยียด ด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นดุดัน
"อย่างนั้นหรือ?"
"อย่ามายิ้มแบบนั้น เราไม่ได้ห่วง"
"ไม่ห่วงก็ไม่ห่วง"
เมื่อริฏวานเห็นแล้วว่าผู้เป็นนายนั้นคงไม่ยอมรับต่อสิ่งที่รู้สึกเป็นแน่ จึงขอยอมแพ้ไม่ต่อความให้ยืดยาว สองขาของจาร์มาล์ก้าวเดินนำหน้า แผ่นหลังหนาแกร่งค่อย ๆ เดินห่างออกไป ริฏวานได้แต่ส่ายหัวแล้วยิ้มอ่อนต่อการกระทำของจาร์มาล์ ที่ปากช่างแข็งไม่ตรงกับใจ
"สักวันท่านจะกลืนน้ำลายตัวเองสหายรักของข้า" กร่นบ่นเพียงลำพังอย่างหน่ายใจ ก่อนจะก้าวขาย่างกรายตามผู้เป็นนายไปยังที่หมาย
"ถ้าเราไม่กลับไปทานมื้อเย็นกับท่านแม่ตามสัญญา ท่านแม่จะต้องน้อยใจแน่ ๆ ริฏวาน" จาร์มาล์ที่เข้ามาในกระโจมที่พัก เอ่ยทักท้วงขึ้นเมื่อนึกถึงคำมั่นที่ให้ไว้กับมารดา ก่อนจะเดินทางมายังทะเลทรายที่กบดาน
"แล้วเหตุใดท่านถึงต้องการจะผิดสัญญา" ริฏวานเอ่ยถาม แม้จะคาดเดาไว้แล้วอย่างรู้ทัน สาเหตุนั่นคงเป็นเพราะจัสซีเนียที่นอนซมด้วยพิษไข้เป็นแน่
"ระยะทางไกล บางทีเราก็เหนื่อย" เป็นคำตอบที่ไม่น่าเชื่อถือสักเท่าไหร่ ด้วยการตอบที่บ่ายเบี่ยงสายตาไปทางอื่นอย่างต้องการหลบซ่อนความรู้สึก ริฏวานเห็นแล้วนึกขำ แต่ไม่อาจแสดงอาการออกมาได้อย่างให้เกียรติผู้เป็นนาย
"หึ" ความอดทนของริฏวานมีไม่มากพอ จนเขาต้องแค่นเสียงจากลำคอเบา ๆ นั่นทำให้จาร์มาล์หันหน้ามองทันทีทันใด
"ขำอะไร?" และแล้วเขาต้องย้อนถาม ยิ่งสายตาของริฏวานมองมา ยิ่งทำให้จาร์มาล์นึกประหม่า
"ขำท่านที่ปากแข็ง" ริฏวานต้องพูดออกไปตามจริง
"อย่ามาเล่นลิ้นริฏวาน" ย้อนถามเป็นนัยกับอาการที่ลูกน้องเป็น แววตาดุดันจ้องมองเลิ่กลั่ก กิริยาที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แสดงออกมาต่อหน้าจาร์มาล์ นั่นยิ่งทำให้จาร์มาล์กลั้นหัวเราะไม่ไหว
"หึหึ...ปากไม่ตรงกับใจ"
"อยากตายเหรอริฏวาน"
"ท่านพักสักครู่เถิด หากได้เวลาเดินทางกลับคฤหาสน์ กระผมจะมาตาม"
"นาย!!"
ยังไม่ทันที่คนปากแข็งจะได้ด่าทอต่อว่า ริฏวานก็โค้งหัวด้วยความเคารพ ก่อนจะเดินออกจากกระโจมที่พักไป ทิ้งไว้เพียงผู้เป็นนายที่กระแทกเสียงเรียกตามหลัง ฟังยังไงก็ดั่งคนเกรี้ยวโกรธ สาเหตุนั่นเพราะถูกลูกน้องคนสนิทจับพิรุธได้ มันทำให้คนที่วางฟอร์มเหี้ยมโหดต้องเสียหน้า
"หึ! ทำเป็นรู้ดี...อย่างเราจะไปห่วงแพศยาแบบนางทำไมกัน ไม่มีทาง!"
กรงรักราชาโจรตอนที่ 8 (ผิดสัญญา)"รถเตรียมพร้อมออกเดินทางกลับแล้วครับ" เมื่อได้เวลาอันควรแก่การเดินทาง ริฏวานก็ทำหน้าที่ด้วยความตั้งใจ แต่ฉไนเลยผู้เป็นนายกับยังนอนนิ่งอยู่บนเตียง"........" เสียงเรียกของริฏวานดังพอที่จะได้ยินชัดเจน แต่คนเจนจัดเล่ห์เหลี่ยมแสร้งทำเป็นนิ่ง เหมือนกับไม่ได้ยินมัน"ท่านจาร์มาล์" เรียกครั้งแรกไม่สนใจ ริฏวานเลยเดินขยับเข้าไปใกล้อีก".........." จาร์มาล์ก็ยังคงนิ่งเฉยดังเดิม ทำเพียงพลิกกายหันหลังให้ ทำดั่งกับคนหลับสนิทไม่รู้เรื่องราวอันใด"ท่านจะผิดคำสัญญาต่อมารดาอย่างนั้นหรือ?" ริฏวานพูดขึ้นเสียงเรียบเป็นการย้ำเตือน การทำแชเชือนของผู้เป็นนายที่ไม่ต่างจากเด็กในตอนนี้ เป็นท่าทีผิดแปลกจากแต่ก่อนโดยสิ้นเชิง ความเหี้ยมโหดและเด็ดเดี่ยวแทบจางหายไป แม้จะรู้ดีว่าเพราะเหตุผลใดถึงเป็นเฉกเช่นนี้พรึ่บ!! คำว่าสัญญาแว่วเข้ามาในหู ทำให้จาร์มาล์ปัดผ้าห่มผืนหนาออกจากกาย แล้วดีดตัวลุกนั่งอย่างวางท่า เพ่งพิศสายตามองริฏวานอย่างเคร่งขรึม"เราแค่หลับเพื่อพักสายตา แต่ว่าคงจะหลับลึกเกินไป ทำไมไม่เรียกเราดี ๆ""เรียกอยู่หลายที แต่ท่านไม่คิดสนใจ"ทำทีเป็นต่อว่าเสียงเข้ม ทว่านั่นกลับย
กรงรักราชาโจรตอนที่ 9 (เจ้าชีวิต)ยามราตรีผ่านพ้นไป แสงตะวันเจิดจ้าเปล่งรัศมีความร้อน คนที่จับไข้สูงทุเลาเบาลง และเริ่มคงสติรู้สึกตัว แต่ยังไม่หายดี เพราะอาการที่จัสซีเนียเป็นนั้นหนักหนาใช่ย่อย เปลือกตาค่อย ๆ ลืมขึ้น กะพริบปรับรับแสงดวงตะวันที่ ณ ตอนนี้ร้อนระอุแทบหลอมละลาย แต่สำหรับจัสซีเนีย ที่ร่างกายอ่อนเพลียกลับรู้สึกหนาวสั่นด้วยพิษไข้ที่มี หล่อนพยายามเปิดเปลือกตาที่หนักอึ้ง แล้วกวาดสายตามองโดยรอบอาณาบริเวณ จนสายตาบรรจบเข้ากับเขาคนนั้นที่หล่อนเกลียดขี้หน้า เดินเข้ามาในกระโจมที่พักพอดิบพอดี"หึ" ทว่าเสียงนั้นกลับทำให้เธอไม่อยากจะลืมตาตื่นแม้แต่น้อย จนค่อย ๆ เบือนหน้าหนีไปอีกทาง อีกทั้งร่างกายของหล่อนตอนนี้ยังไม่พร้อมที่จะปะทะกับจาร์มาล์ผู้ปากร้ายและป่าเถื่อน"ร่างกายนางดีขึ้นแล้วครับ พักผ่อนอีกสามสี่วันก็หายดีเป็นปกติ" เมื่อหมอตรวจดูอาการก็รีบรายงานจาร์มาล์ทันที"อืม ไม่ต้องดูแลอะไรมากมาย ตอนนี้เราจะส่งหมอกลับ""แต่ว่าอาการของนาง...."แกร๊ก!!เสียงเข้มสั่งการอย่างเอาแต่ใจ แต่ทันใดนั้นเสียงของหมอก็พูดขัดขึ้น หวังจะชี้แจงอาการคนไข้ แต่มันกลับไม่ได้ดั่งใจคนอารมณ์ร้าย ทำให้จาร์มาล์กดปล
กรงรักราชาโจรตอนที่ 10 (ทรมานเจียนตาย)แม้จะเจ็บปวดตามร่างกายที่บอบช้ำ การกระทำที่ป่าเถื่อนไร้ความไยดี ทว่าก็ไม่สามารถสั่งน้ำตาให้รินไหล เพราะมันแสดงถึงความอ่อนแอ หล่อนอดกลั้นอย่างเข้มแข็ง หันไปประจันหน้ากับคนป่าเถื่อน ที่ตอนนี้เพ่งพิศสายตาจดจ้องอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ"เดรัจฉานที่สุด!" หล่อนลุกขึ้นยืนอย่างท้าทาย ไม่ได้คิดเกรงกลัวสายตานั้นแต่อย่างใด พ่นคำด่าทอหยาบโลนใส่หน้า แม้ว่าร่างกายจะได้เรี่ยวแรง แต่หล่อนก็ยังอดทนฝืนกลั้นให้ลุกยืน"เราเป็นได้ยิ่งกว่านั้น!...จัสซีเนีย""อ๊ะ! ฉันเจ็บ...ปล่อย!"เมื่อคำพูดของจัสซีเนียเปล่งออกมา จาร์มาล์ไม่รอช้าปรี่ประชิดตัวของจัสซีเนีย และบีบคอเจ้าหล่อนทันที แววตามีความเกรี้ยวโกรธต่อคำตำหนินั้น แต่ก็ยังกัดฟันยอมผ่อนปรนน้ำหนักมือ การตายที่ง่ายดายมันยังไม่สาแก่ใจของคนเฉกเช่นเขา ในเมื่อเขาทรมานและเจ็บปวดเจียนตาย ผู้ที่กระทำแก่เขาก่อนย่อมได้รับผลที่มากกว่าหลายเท่า"เจ็บแค่นี้มันยังน้อยไป...เพราะสิ่งที่เธอทำกับเรามันหนักหนากว่านี้หลายเท่า!!""กะ แกหมายถึงอะไร แค่ก ๆ...ฉันไม่เข้าใจ"แววตาคมดุเปล่งประกายความแค้น ลงน้ำหนักมือบีบคอของจัสซีเนียแน่นกว่าเดิม
กรงรักราชาโจรตอนที่ 11 (เชลยบนเตียง!)"ฉัน!...ไม่กลัวแกหรอก ไอ้ฆาตกรใจโฉด""อย่าให้เราโกรธมากกว่านี้ เพราะชีวิตของเธออาจจะดับลงก่อนเวลาอันควร"ความแกร่งที่มีเกินหญิง แม้ร่างกายจะไม่เอื้ออำนวย จัสซีเนียก็ยังพยายามหยัดตัวลุกยืนประจันหน้าท้าทาย ไม่ได้กลัวตายแต่อย่างใด ความแค้นที่มันฝังใจ ภาพการตายของบิดาและพี่ชายมันยังติดตาเธอไม่เคยเลือนหาย แถมพี่สาวอีกคนก็ยังหายตัวไป โดยไม่รู้เห็นร่องรอยนับตั้งแต่ที่โจรร้ายป่าเถื่อนจุดไฟเผาบ้านจนวอดวาย และความเกลียดชังยังฝังใจไม่ลดเลือนหายไปแม้แต่น้อย"ตราบใดที่คนชั่วอย่างแกมีลมหายใจ จัสซีเนียคนนี้จะไม่มีวันตาย!" แววตาที่มุ่งมั่น น้ำเสียงที่หนักแน่น เปล่งออกมาอย่างไร้ความกลัว หล่อนค่อย ๆ ขยับขาเดินเข้าไปประจันหน้ากับจาร์มาล์ จ้องมองตาคมดุนั้นอย่างท้าทาย"ปากดี...งั้นก็จงรอรับความทรมานได้เลย!" ร่างกายสูงกำยำก้มมองคนที่ตัวเล็กกว่า ยกยิ้มมุมปากอย่างดูแคลน แม้นคำพูดที่หนักแน่นของหล่อน ก็ไม่อาจจะสะท้อนให้เขากลัว ก็แค่ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ มีหรือจะสู้ชายชาตรีเฉกเช่นเขาได้"โอ๊ะ! กะ แกจะทำอะไร?" จาร์มาล์ผู้โหดร้าย ก้าวขาเดินเผชิญหน้า แววตาเฉี่ยวดุดันเพ่งเพิศมองลึก
กรงรักราชาโจรตอนที่ 12(พรากพรหมจรรย์)ท่ามกลางความร้อนระอุในทะเลทรายที่กว้างใหญ่ไพศาล หนึ่งคนลนลานเพื่อหาทางรอดจากเงื้อมมือของคนใจร้าย หล่อนตะเกียกตะกายหลีกหนี แม้จะไร้ซึ่งเรี่ยวแรง แต่ก็ยังพยายามเหมือนกับปลาน้อยที่ต้องการน้ำเพื่อต่อลมหายใจ แต่ก็ไม่อาจรอดพ้นแรงชายชาตรีที่มีมากกว่า สองขาที่ดันฝืนหนี ถูกมือดีของจาห์มาล์ลากกลับมาดังเดิม และจัดการกับเสื้อผ้าที่ห่อคลุมร่างกายของหล่อนจนขาดวิ่น ไม่เหลือชิ้นดี แล้วจึงงัดความยิ่งใหญ่ที่อยู่ในร่มผ้าออกมา จดจ่อลงตรงรอยแยกความสาว“ว้าย กรี๊ด!! ปล่อยฉันไอ้ระยำ!” “หึ!”กึด!การดิ้นทุรนทุรายก็ไม่ได้อยู่ในสายตาของจาห์มาล์แม้แต่น้อย เขาจัดการสอดแทรกความเป็นตัวตนอันยิ่งใหญ่ ดั่งกับปีศาจร้ายประทานให้ นำพาเข้าสู่กลางกลายความสาวอย่างไม่ผ่อนปรน จนความสาวของหล่อนนั้นฉีกขาดจนเกิดเสียงแว่วเข้าหู“(เอ๊ะ ทำไมนะ?)”“กรี๊ด!! ไอ้ชั่ว! คนอย่างแกจะไม่มีวันตายดี”“....ดีแต่ปากอย่าบังอาจเหิมเกริมกับเราจัสซีเนีย”ความสาวที่เป็นเหตุให้สงสัย แต่ต้องละทิ้งจากความคิดทิ้งไป เมื่อเสียงแข็งกร้าวของหล่อนดังเข้าส่วนของการรับฟัง ด้วยคำพูดหยาบคายด่าทอทั้งน้ำตา แต่ว่ามีหรือคน
กรงรักราชาโจรตอนที่ 13 (พระจันทร์สีเลือด)"หึ!! นี่มันแค่เริ่มต้นจัสซีเนีย" ร่างกายที่สุขสมเสร็จกิจราคะ ในจังหวะเดียวกันกับที่จัสซีเนียนั้นสลบไป เขาถอดแก่นกายออกจากความสาวที่บวมแดง จากนั้นก็แสยะยิ้มร้าย จ้องมองไปยังคนที่ร่างกายแน่นิ่ง ปล่อยทิ้งหล่อนไว้ในสภาพที่ร่างกายเสลาเปลือยเปล่า แล้วเขาจึงเดินเข้าสู่ห้องอาบน้ำไออุ่นที่ลอยคละคลุ้งจากอ่างน้ำใบใหญ่ ร่างกายล่ำสันเอนพิงกับขอบอ่าง แช่น้ำอย่างสบายกาย มือหนึ่งควงแก้วไวน์แล้วจิบน้ำสีอำพันกลืนลงคอ"ทำไมต้องทรยศเรา...ทั้งที่เรารักเธอสุดหัวใจ" สายตาคมเข้มเพ่งพิศแก้วไวน์ เอ่ยออกไปเพียงลำพัง เมื่อในหัวฉายภาพที่มันบีบรัดหัวใจของเขาให้เจ็บร้าว นึกถึงทีไรก็ยิ่งเจ็บช้ำระทม"ความเจ็บปวดที่เราเจอ...เธอต้องได้รับมันเพิ่มทวี!"เพล้ง!! นึกเกรี้ยวโกรธต่ออดีตที่พบเจอ ความเจ็บปวดที่ผันกลายเป็นความแค้น ทำให้เขาปาแก้วไวน์ในมือกระแทกพื้นห้องน้ำจนแตกกระจาย เสียงดังสนั่นหวั่นไหวกึกก้องเมื่อหนำใจกับการแช่น้ำชำระร่างกาย จาร์มาล์จึงลุกจากอ่าง หยิบผ้าขนหนูพันรอบเอว จากนั้นจึงเดินออกเข้ามายังห้องนอนหรู สายตามองดูคนที่ยังนอนขดตัวไม่ได้สติอยู่บนเตียง ด้วยสภาพเปลือย
กรงรักราชาโจรตอนที่ 14 (ออกล่า)"สั่งคนให้เฝ้านางไว้ให้ดี และให้มีผู้หญิงมาเฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิด จนกว่าเราจะเสร็จกิจกลับมา" ในขณะที่ยืนจัดแต่งชุดที่พร้อมสำหรับปฏิบัติการ พลันสายตาของจาห์มาล์มองเห็นจัสซีเนียที่ยังคงนอนหลับอยู่ฉุกคิดขึ้นมาได้ จึงออกคำสั่งกับคนสนิททันทีทันใด"....ฮึ""อย่ามองเราด้วยสายตาเช่นนั้นริฎวาน มันไม่ได้เป็นอย่างที่นายคิดในหัว เราก็แค่กลัวนางจะหลบหนี ทั้งที่มันยังไม่สาแก่ใจเรา จึงต้องมีคนเฝ้าอย่างใกล้ชิด ก็แค่นั้น"ริฎวานที่จับจ้องมองนายเหนือหัว คำสั่งการที่ฟังแล้วมีเลศนัย ทำให้คนสนิทถึงกับแสยะยิ้มเย้ยทีเล่นทีจริง เลยทำเอาจาห์มาล์ต้องรีบแก้ต่างให้แก่ตัวเอง ด้วยอาการลุกลี้ลุกลนในแววตา แต่ว่ายังวางท่านิ่งขรึมในแบบที่เคยเป็น"ยังไม่ได้ว่าอันใดสักนิดครับ...ท่านอย่าร้อนตัวนักสิ" ริฎวานรีบท้วงทันทีทันใด"หุบปากแล้วเตรียมคนเพื่อออกเดินทางได้ละ" และนั่นเลยทำให้จาห์มาล์รีบตัดบทสนทนาไป เมื่อถูกคนสนิทจับพิรุธได้"ครับ" ริฎวานโค้งหัวตอบรับ ไม่วายทิ้งรอยยิ้มกริ่มก่อกวนผู้เป็นนาย จากนั้นจึงเดินออกจากกระโจมไป เพื่อเตรียมการตามคำสั่งณ เวลานี้มีเพียงจาห์มาล์ที่อยู่จุดเดิม พลันสาย
กรงรักราชาโจรตอนที่ 15 (ทำไมดื้อ)"เธอจะบ้าเหรอ!!...หนีไม่ได้ ถ้าเธอหนีฉันก็ถูกอูฐเหยียบตายสิ ห้ามออกจากกระโจมนี้ หัวเด็ดตีนขาดยังไงก็ไม่ให้ไป" ซัลมารีบวิ่งไปกางแขนดักหน้าไว้ทันทีด้วยความตกใจ การที่ได้ยินจัสซีเนียว่าไปแบบนั้นทำให้เธอนึกกลัวกับบทลงโทษที่จาห์มาล์กล่าวทิ้งท้ายไว้ก่อนไป"............" แต่คนดื้อก็ไม่ยอมฟัง ยังดันทุรังเดินหลบไปอีกฝั่ง ไม่พูดจากหรือให้ความสนใจกับซัลมาสักนิด"จัสซีเนีย! ฟังกันบ้างสิ" แต่ด้วยคำสั่งที่น่าเกรงขาม ทำให้ซัลมาต้องใช้ความพยายามเหนี่ยวรั้ง วิ่งไปยังประตูดักทางไว้"หลบไป!" เสียงแข็งกร้าวตะเบ็งขู่ ประกอบด้วยสายตาดุเพ่งพิศจ้องมองอย่างไม่นึกกลัว"ฟังฉันนะจัสซีเนีย...เธอไม่มีทางหนีออกไปจากที่นี่ได้ โดยที่ยังมีลมหายใจ คนมากมายรายล้อมที่นี่อย่างหนาแน่น ถ้าใครจะออกไปจากที่นี่ได้ มันผู้นั้นจะออกไปโดยที่ไร้ลมหายใจ...แม้จะหนีไปพ้นเขตนี้ยังไงก็ถูกตามตัวจนเจออยู่ดี" ซัลมาพยายามหว่านล้อมด้วยคำพูด หวังให้คนดื้อรั้นเข้าใจ"มันต้องมีสักทางให้ฉันหนี.....อยู่ก็เหมือนตายอยู่ดี" แต่มันกลับเหมือนจะไม่เป็นผลเอาเสียเลย"โอ้ย!! ทำไมดื้อแบบนี้นะ" จนซัลมาต้องใช้สองมือกุมหัวด้
กรงรักราชาโจรตอนพิเศษ 15(ภาพจำตลอดกาล)ถึงวันเวลาบุตรคนที่สองของจาห์มาล์ถือกำเนิด นับเป็นความยินดีปรีดาที่ได้มาซึ่งบุตรชาย พระโอรสตัวน้อยที่เค้าโครงใบหน้าค่อนไปทางมารดา ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงดีทุกประการ และองค์หญิงจัสทีน่าก็ช่างแสนจะเห่อน้องชายที่เพิ่งคลอดได้ไม่ถึงเดือน"ฮะมีสเรามีน้องแล้วนะ น้องของเราน่ารักเหมือนเราเลย" องค์หญิงจัสทีน่าว่าขึ้นอย่างอวดอ้าง ในขณะที่กำลังนั่งเล่นในสวน มีอัยนูนที่นอนนิ่งอยู่ข้างกาย อีกทั้งยังมีพี่เลี้ยงคอยดูแลปรนนิบัติในทุกย่างก้าว "เราตั้งชื่อน้องชายเองด้วยนะ ให้ชื่อว่าจาห์เนีย""ขอรับ...แล้วจาห์เนียแปลว่าอะไรหรือองค์หญิง" ฮะมีสในวัยเก้าขวบตอบรับอย่างเห็นตาม เขาไม่เคยขัดในสิ่งที่องค์หญิงจัสทีน่าปรารถนา ตามด้วยย้อนถามในพระนามขององค์ชาย"แปลเหรอ? เราก็ไม่รู้เหมือนกัน คิกคิก" องค์หญิงตัวน้อยพูดเจื้อยแจ้ว ทำเอาพี่เลี้ยงที่นั่งฟังถึงกับอมยิ้ม ชอบใจในจินตนาการที่เดียงสาของจัสทีน่า"อ้าว""ก็เราเอาชื่อท่านแม่กับท่านพ่อบวกกัน บวกเหมือนเลขที่โรงเรียนไงครูสอนมา อยากให้มันเยอะต้องบวก มีจาห์เนียมาเพิ่มก็ต้องเป็นบวก...เอ๊ะ! หรือจะบวกกันให้หมดเลยเป็น จัสซีมาล์จาห์เน
กรงรักราชาโจรตอนพิเศษ 14(สัตว์เลี้ยงขององค์หญิง)"ท่านแม่ขา" เสียงเจื้อยแจ้วขององค์หญิงตัวน้อยที่นอนหนุนขาของมารดาเอ่ยถาม หันหน้าเข้าหาท้องกลมใหญ่ที่ใกล้คลอด มือป้อม ๆ ขององค์หญิงจัสทีน่า ลูบคลำด้วยความแผ่วเบา"ว่าอย่างไรคะองค์หญิงของแม่" ผู้เป็นมารดาที่นั่งเอนหลังพิงกับหัวเตียง มือหนึ่งลูบหัวเพื่อขับกล่อมบุตรสาว ขานรับเมื่อองค์หญิงจัสทีน่าพร่ำเรียก"เมื่อไหร่น้องจะออกมาเล่นเป็นเพื่อนลูกคะ" จินตนาการด้วยการเฝ้ารอน้องที่อยู่ในท้องของมารดา"อยากเจอหน้าน้องแล้วเหรอคะ" ผู้เป็นมารดาเอ่ยถามด้วยความเอ็นดู"อยากเจอแล้วค่ะ" องค์หญิงจัสทีน่าให้คำตอบ พร้อมกับกดปลายจมูกเล็กเชิดรั้นสัมผัสลงท้องกลมของมารดา มีการขยับเคลื่อนไหวของทารกน้อยในครรภ์ เหมือนกับตอบรับพี่สาวที่เฝ้ารออยู่ด้านนอก"รออีกหน่อยนะคะ อีกไม่กี่วันน้องก็จะมาแล้ว องค์หญิงจะเลี้ยงน้องช่วยแม่ไหมคะ" ผู้เป็นมารดาให้คำตอบ จากนั้นจึงเอ่ยถามอย่างลองเชิงบุตรสาวที่ยังไร้เดียงสา"ต้องเลี้ยงค่ะท่านแม่ ลูกรักน้อง พี่น้องต้องรักกันค่ะ ท่านปู่กับท่านย่าบอกแบบนี้" คำสั่งสอนของปู่กับย่า องค์หญิงจัสทีน่าจดจำได้ดี ครั้นเข้าเฝ้าทีไรต้องได้สิ่งที่มีประ
กรงรักราชาโจรตอนพิเศษ 13(วุ่นทั้งวัง)วันเวลาล่วงใหญ่ผ่านไป การใช้ชีวิตคู่ก็ชื่นมื่นสุขสม ทุกอย่างดำเนินไปตามเจตนารมณ์ของคนทั้งสอง ลูกน้อยที่เคยอยู่ในท้อง ออกมาท่องโลกกว้างมาจนอายุครบสี่ปีและยังมีทารกน้อยในท้องอีกหนึ่งคนที่จวนจะคลอดในอีกไม่กี่วันข้างหน้าองค์หญิงตัวน้อยเป็นที่รักของทุกคน ความสดใสเจื้อยแจ้วเดียงสา ทำให้ราชวังที่เงียบเหงามีสีสันสดใส และวุ่นวายในเวลาเดียวกัน“จัสทีน่า! องค์หญิงอยู่ไหนลูก” เสียงของบิดาตะโกนเรียกขาน เมื่อบุตรสาวตัวน้อยไม่รู้ว่าแอบหนีไปเล่นซุกซนที่ไหน“คิก คิก” เสียงหัวเราะชอบใจเมื่อคนที่อยู่บนต้นไม้ มองไปเห็นบิดากำลังเดินตรงมา สายตาก็กวาดมองหา ทว่าก็ไม่เจอคนที่หลบซ่อน มันทำให้หล่อนชอบใจ“องค์หญิงเพคะ องค์หญิง” เสียงของพี่เลี้ยงตะโกนเรียกหา ทว่าจัสทีน่าองค์หญิงตัวน้อยก็ไม่ยักจะขานรับ“จัสทีน่า” เสียงมารดาแว่วดังตามมา ความวุ่นวายในวังมีไม่หยุดหย่อน สีสันที่ทำเอาเหล่านางในถึงกับเหนื่อยหอบได้ทุกวี่วัน ก็องค์หญิงตัวน้อยชอบแอบหนีไปเล่นเพียงลำพัง แล้วให้คนไล่ตามหา เหมือนกับว่าหนูน้อยชอบใจที่ได้กลั่นแกล้งปั่นหัวผู้คน“ท่านพ่อเดินมาทางนี้แล้ว จะเห็นเราไหมนะ” จัสท
กรงรักราชาโจรตอนพิเศษ 12(ยอมป้ะล่ะ?)หลังจากสร้างความสบายใจให้กับจัสซีเนียเสร็จสิ้น จาห์มาล์ก็กลับเข้ามาในห้องทำงานส่วนตัว เพื่อสะสางสิ่งที่ต้องทำ เตรียมพร้อมสำหรับการที่จะพาจัสซีเนียไปพักผ่อนตามคำบัญชาของมารดา ที่ห่วงลูกสะใภ้หนักหนา ทว่ากับมีบางอย่างให้ฉุกคิดขึ้นมาในหัว"ส่งมาหยาเรียบร้อยใช่ไหม?" เขาเอ่ยถามเมื่อรับรู้ถึงการเข้ามาในห้องของริฎวาน"ขอรับ" ตอบรับด้วยน้ำเสียงสุขุม"ได้ไปดูทาเธียน่าบ้างหรือไม่" มันคือสิ่งที่ฉุกคิดขึ้นมาได้เลยเอ่ยถาม ตั้งแต่วันที่เขาสำเร็จโทษของทาเธียน่า ก็ไม่มีทีท่าจะไปพบหน้าหล่อนอีกเลย ได้แต่ถามไถ่จากริฎวานเท่านั้น เป็นครั้งคราวที่นึกถึง"กระผมเพิ่งแวะไปเยี่ยมตอนไปส่งคุณมาหยาขอรับ" ริฎวานให้คำตอบ"นางเป็นอย่างไรบ้าง" จาห์มาล์ยืนมือไขว้หลัง ทอดสายตามองออกไปยังทัศนียภาพเบื้องหน้าอย่างไร้เป้าหมาย ครุ่นคิดถึงเรื่องราวในอดีตที่พบเจอมา ดั่งกับว่าเป็นนิยายปลำปลา ไม่เคยคิดว่าชีวิตหนึ่งจะต้องมาเจอสิ่งเหล่านี้ ไม่เคยคิดว่าจะต้องพบกับความเจ็บปวดและมีปมในใจ ทั้งที่เกิดมาพร้อมศักดินาที่สูงส่งในเชื้อพระวงศ์ คิดแล้วก็ตลกสิ้นดี"เหมือนเดิมขอรับ เซื่องซึม ไม่พูดไม่จาและ
กรงรักราชาโจรตอนพิเศษ 11(อธิบาย)"เธอ!""พระชายา"จัสซีเนียที่เดินมาหวังจะเข้าพบพระสวามี บรรจบพบเข้ากับมาหยาพอดิบพอดี กับที่หล่อนนั้นเปิดประตูออกมา มาหยาฉีกยิ้มให้แล้วโค้งตัวทำความเคารพ แต่กับจัสซีเนียหล่อนคิ้วขมวดชนกัน งุนงงกับการที่มาหยาเดินออกมาจากห้องทำงานของพระสวามีในยามนี้เพี๊ยะ! ไม่ทันจะได้ถามหาความจริง สิ่งที่เห็นทำให้จัสซีเนียเลือดขึ้นหน้า ปรี่ประชิดตัวมาหยาแล้วกระแทกฝ่ามือใส่จนใบหน้าสวยของมาหยาหันไปตามแรง ทำเอาคนสนิทที่เดินประกบหลังมาถึงกับเบิกตากว้างตกใจ ไม่คิดว่าพระชายาที่กำลังอารมณ์ดี จะมีความโมโหรุนแรงเช่นนี้เพียงชั่วพริบตาเดียว มันทำให้พวกหล่อนตั้งหลักไม่ทัน"ท่านพี่!" และสิ่งที่ทำให้ตะลึงยิ่งกว่านั้น คือจาห์มาล์เปิดประตูออกมาในเวลาไล่เลี่ยกัน มันทำให้หัวใจของจัสซีเนียวูบไหว คาดหวังว่าพระสวามีคงไม่ตลบหลังหล่อนใช่ไหม? ภาพที่เห็นทำให้คิดไกล ดวงตาสั่นไหวด้วยความหวาดหวั่น กระนั้นก็ย่างสามขุมเข้าหาจาห์มาล์ที่ยืนทำหน้างุนงง"โอ๊ย ๆ น้องใจเย็น ฟังพี่ก่อน...จัส จัส พี่เจ็บ ท้องอยู่นะ" แต่ต้องร้องโอดครวญด้วยความเจ็บแสบ จนเรียกชื่อของจัสซเนียเพียงพยางค์เดียว เมื่อหล่อนฟาดฝ่ามื
กรงรักราชาโจรตอนพิเศษ 10(ทางแยก)"คิดจะกำจัดฉันเหรอ มันไม่ง่ายแบบนั้นหรอก กว่าจะได้เข้ามาในนี้ไม่ใช่ง่าย ๆ ฉันต้องทำอะไรสักอย่างแล้วล่ะ" มาหยาที่เผลอมาได้ยิน สิ่งที่พระนางเอื้อนเอ่ยทำให้มาหยากำมือแน่นด้วยความแค้นใจเรื่องราวที่องค์รัชทายาทบาดหมางกับพระชายานับว่าเป็นข่าวดีไม่น้อยที่จาห์มาล์พูดระบายตอนเมา เพราะมันทำให้หล่อนตะล่อมจาห์มาล์ได้ง่ายขึ้น จนเขายอมพาหล่อนเข้ามาในวัง นานทีเขาจะไปหาที่ฮาเร็ม หล่อนจะทิ้งโอกาสไปได้อย่างไรความว้าวุ่นก่อเกิดทำให้มาหยาถึงกับนั่งไม่ติดที่ เดินวนอย่างใช้ความคิด เพื่อหาทางได้อยู่ในวังต่อ เดินคิดทวนอยู่นานหลายนาที ความคิดมาดร้ายจึงบังเกิด"ฮึ! พระชายาคงไม่ถือสาหรอกมั้งที่จะใช้สามีร่วมกัน เพราะที่ผ่านมาองค์รัชทายาทก็เคยร่วมเตียงกับหม่อมฉันนะเพคะ" มาหยาที่มีความคิดมาดร้ายในหัว หล่อนยืนพร่ำคนเดียวในห้องนอนรับรอง มโนภาพใบหน้าของพระชายาด้วยความปรีดา หากว่าได้เห็นในสิ่งที่จะผูกมัดให้ตนได้อยู่ต่อก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูทำให้มาหยาสะดุ้งตัวหลุดจากภวังค์ความคิด ไม่สบอารมณ์เมื่อมันเป็นการรบกวนสิ่งที่จินตนาการไว้อย่างสวยหรู"มีอะไรคะ" มาหยาเปิดประตูออกมา แล้
กรงรักราชาโจรตอนพิเศษ(คำบัญชา)"เป็นอย่างไรกันบ้าง แม่ได้ข่าวว่ามีปากเสียงกันหนักเลย" องค์ราชินีที่คอยดูบุตรชายและสะใภ้อยู่ห่าง รู้เห็นทุกอย่างแต่ไม่อยากก้าวก่าย พระนางเอ่ยถามเมื่อพบเจอกับลูกทั้งสองในสวนยามเย็น"ขอรับ" จาห์มาล์ขานรับ"แล้วทำไมต้องทะเลาะขนาดนั้น มันหนักหนามากมายเลยหรือจาห์มาล์" พระนางเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสุขุม จ้องมองไปยังบุตรชายและสะใภ้ ที่ตอนนี้มีสีหน้าแห่งความรู้สึกผิด กระนั้นก็ยังจับมือกันไม่ปล่อยห่าง ทุกความรู้สึกเผยแก่สายตาของมารดา ความรักที่ให้แก่กันยังแน่นแฟ้น แม้นจะมีปากเสียงกันลูกทั้งสองก็รีบเคลียร์ใจ ไม่ปล่อยไว้ให้มันยืดเยื้อ"ไม่ขอรับ" จาห์มาล์ขานรับ แต่จัสซีเนียนั้นยังเงียบ ใบหน้ายังมีความเศร้าที่ปะปนความรู้สึกผิด"อดทนข่มอารมณ์ไม่ได้เลยหรือลูกแม่ ลูกไม่ได้ตัวคนเดียวเหมือนแต่ก่อน ตอนนี้กำลังจะเป็นพ่อคนแล้ว หากวุฒิภาวะในการควบคุมอารมณ์ยังน้อยนิด ลูกจะเป็นพ่อที่ดีได้อย่างไร จะให้ลูกดูใครเป็นเยี่ยงอย่างถ้าไม่ใช่พ่อกับแม่" พระนางว่าขึ้นตักเตือนบุตรชาย"อย่าทรงตำหนิท่านพี่เลยนะเพคะ...หม่อมฉันผิดเองที่ดื้อรั้น ไม่ฟังสิ่งที่ท่านพี่ปรามด้วยความหวังดี ไม่รักษาความร
กรงรักราชาโจรตอนพิเศษ 8(ผิดทั้งคู่)กลางดึกที่ผู้คนในวังนอนหลับใหล แสงไฟที่เคยเจิดจ้าสว่างไสวดับมอดลง มีเพียงแสงสีนวลจากดวงจันทร์ทอแสงสว่างเลือนลาง เพื่อให้คนที่กำลังเดินกลับเข้ามาในตำหนักได้เห็นทางจาห์มาล์ค่อย ๆ ผลักประตูห้องนอนแผ่วเบา เขาไม่อยากให้จัสซีเนียรู้สึกตัวตื่น แสงจันทร์ที่สาดส่องกระทบกับใบหน้าคนที่นอนหลับ ทำให้เขาลอบยิ้มหากอยู่นิ่งก็ดูว่านอนสอนง่าย แต่พอรู้สึกตัวตื่นไฉนเลยถึงดื้อรั้นเอาแต่ใจ"ฝันดีนะจัสซีเนีย" จาห์มาล์ไล้ใบหน้าเนียนนั้นอย่างเบามือ โน้มตัวจูบลงกลางหน้าผากนูนนั้นด้วยความอ่อนโยน แตะริมฝีปากจูบซับบางเบา เพราะเขาห่วงว่าหล่อนจะสะดุ้งตื่น...แม้ปากจะไวแต่ถึงอย่างไรเขาก็ทำร้ายคนที่รักมากกว่านี้ไม่ลง"ฝันดีนะเจ้าตัวน้อย..." ตามด้วยแตะจูบลงหน้าท้องที่นูนออกมาเล็กน้อย ที่มีกลอยใจอาศัยอยู่ด้านในจากนั้นจึงเอนตัวนอนเคียงข้าง แทรกร่างกายหนาอุ่นในผ้าห่มผืนเดียวกัน สอดแขนให้จัสซีเนียนอนหนุน กระชับโอบกอดคนที่นอนนิ่งไม่รู้สึกตัว ได้ยินเพียงเสียงของลมหายใจที่พ่นเข้าออกเป็นจังหวะ"อื้อ~~" การถูกรบกวนทำให้คนที่อ่อนล้านอนหลับสนิท มีเพียงเสียงอู้อี้ในลำคอเล็ดลอดออกมาบางเบา แต่
กรงรักราชาโจรตอนพิเศษ 7(ที่หนึ่งไม่ไหว)นานราวยี่สิบนาทีตั้งแต่ที่จาห์มาล์ทิ้งหล่อนไว้ข้างหลังให้ร้องไห้น้ำตาไหลเพียงลำพัง จัสซีเนียก็ยังไม่ขยับขาก้าวเดินไปไหน มันจุกในอก มันเจ็บปวดเหมือนหัวใจตกหล่นลงสู่พื้นที่เต็มไปด้วยหนามแหลม ทิ่มแทงลงก้อนเนื้อหัวใจให้เจ็บร้าว ยิ่งเขาเมินเฉยใส่ ยิ่งสร้างความทรมานหัวใจแก่จัสซีเนียผู้มีความผิด"พระชายาเพคะ" ซัลมาเดินเข้าไปใกล้ เรียกขานคนที่เอาแต่ยืนร้องไห้หวังให้รู้สึกตัว"เสด็จเข้าด้านในเถิดเพคะ อากาศตอนนี้หนาวเย็นแล้วเพคะ" ลีนาว่าขึ้นอย่างนึกสงสาร สิ่งที่เห็นทำเอาหญิงรับใช้ทั้งสองน้ำตาซึมตามอย่างไม่อาจหักห้าม"ฉันไม่เคยแคร์ความรู้สึกของท่านพี่เลย ไม่เคยฟังในสิ่งที่เขาห้าม...ฉันเป็นคนที่แย่มาก ฮึก ฮึก ใช่ไหม?" จากที่เงียบอยู่นานก็เอ่ยวาจาขึ้นถามความเห็นด้วยน้ำเสียงสะอื้น น้ำตารื้นขอบตาจนมาไหลรดอาบแก้มเป็นทางยาว"ที่องค์รัชทายาททรงห้ามปรามนั่นก็เพราะทรงห่วงพระชายานะเพคะ หม่อมฉันอยู่ในวังมาหลายปี ไม่เคยมีหญิงใดที่พระองค์จะทรงห่วงใยถึงเพียงนี้...ไม่ใช่สิเพคะ องค์รัชทายาทดูเหมือนจะแทบไม่มีใครเลยด้วยซ้ำไป" ลีนาคุกเข่ากับพื้นแล้วจับมือของจัสซีเนียแนบแก้