กรงรักราชาโจร
ตอนที่ 6-ป่วยหนัก
"จะไปแล้วเหรอจาร์มาล์" เสียงเรียกของผู้เป็นมารดาทักท้วง เมื่อเห็นบุตรชายจ้วงเท้าวิ่งลงบันไดคฤหาสน์ลงมา ดั่งกับว่ารีบร้อนเหลือแสน
"ขอรับท่านแม่ แต่เดี๋ยวเย็นนี้ลูกจะกลับมา ขอออกไปทำธุระก่อน" เพียงเสียงเรียกของมารดา จาร์มาล์ก็รีบเดินในท่วงท่าปกติ แล้วให้คำตอบแก่ผู้เป็นมารดา ที่ตอนนี้ย่างกรายเข้ามาใกล้แล้วหยุดยืนตรงหน้า
"ดูรีบร้อนเหลือเกิน ทานมื้อเช้าก่อนค่อยไปสิลูก" มืออุ่นของมารดาลูบแก้มของบุตรชายด้วยความรัก พร้อมออกปากชวน
"ธุระค่อนข้างด่วน ลูกต้องรีบไป แล้วจะรีบกลับมาทานมื้อเย็นนะขอรับ"
"ก็ได้จาร์มาล์ งั้นก็รีบไป เดินทางปลอดภัยนะ"
"รักท่านแม่นะขอรับ"
"จ้ะ"
ความรีบร้อนไม่ใช่ว่าเพราะเหตุใด แต่มันคือการที่เหล่าบริวารโทรมารายงานในอาการของคนที่ถูกขังต่างหาก ปากแข็งบอกว่าดั่งไม่คิดจะห่วงใย แต่ไฉนเลยถึงทำคนใจแข็งนอนแทบไม่หลับตลอดทั้งคืน จนต้องรีบสั่งการมายังริฏวานให้ทำการเตรียมรถเพื่อการเดินทางแต่เช้า
"ดูท่านจะห่วงนาง" รถยนต์ขับเคลื่อนออกมาไกล แต่อาการของผู้เป็นนายยังดูร้อนรน จนคนสนิทต้องทักท้วง แม้จะรู้ทันเป็นนัยก็ตามที
"ไม่ได้ห่วง แค่ยังไม่อยากให้นางต้องตาย แล้วนี่หมอที่จะไปรักษาจัดการเรียกตัวแล้วใช่ไหมริฏวาน" คำปฏิเสธเสียงกร้าว เมื่อถูกคนสนิทจับได้จึงรีบเฉไฉอย่างวางท่า ก่อนจะเลี่ยงด้วยการถามหาคนที่จะไปรักษาคนป่วยที่อยู่ท่ามกลางทะเลทราย
"จัดการเรียบร้อยขอรับ อยู่ในรถยนต์คันหลังที่ตามติดมา" ริฏวานให้คำตอบ นึกขำในใจกับคำพูดปฏิเสธ แต่แท้จริงแล้วผู้เป็นนายรู้สึกตรงกันข้าม รู้ทันด้วยอุปนิสัยแท้จริง เพราะสนิทกันมาแต่เยาว์วัย จนรู้ใจไปแทบเสียทุกอย่าง
หากคนนั้นผู้เป็นนายอยากให้ตายหรือทรมานจริง ๆ อาการเช่นนี้จะไม่เกิดขึ้น ทุกอย่างจะถูกตัดรอนไปทันที ไม่มีอาการกระวนกระวายดั่งเช่นที่เป็นในตอนนี้อย่างแน่นอน...เบื้องลึกของความรู้สึกจากที่คาดเดาคงจะเริ่มตื้นขึ้นมาเสียแล้ว แต่ระยะเวลาที่ไม่นานก็ยังคาดหมายในความแน่นอนไม่ได้เฉกเช่นเดียวกัน แต่น่าจะไม่เหมือนดังก่อน
กำแพงหนาที่มันขวางกั้น ยากนักที่จะทำลายให้พังลง ความเด็ดเดี่ยวและเข้มแข็ง หัวใจของผู้เป็นนายที่ทะนงดุจหินผา ไม่รู้ว่าจะมีใครสามารถทำลายให้พังลงได้หรือไม่
"อืม" คำตอบรับสั้น ๆ เป็นการรับรู้...ไม่มีผู้ใดพูดเจรจาอะไรกันต่อนับจากนี้ตลอดการเดินทาง
---------
สองเท้าก้าวเดินเข้ามายังเขตบริเวณที่มีอำนาจ เหล่าบริวารก้มหัวคำนับอย่างเคารพและยำเกรง
"นางอยู่ไหน?" เสียงเข้มดุดันเอ่ยถาม หมายถึงนักโทษหญิงที่เขาคุมขังไว้ จัสซีเนีย
"อยู่ในกรงขังสัตว์เหมือนเดิมครับ" คนที่ดูแลรายงาน
จากนั้นจาร์มาล์ก็เดินไปยังกรงขังนั้น จัดการออกคำสั่งให้เปิดประตู สภาพของจัสซีเนียนั้นซีดเซียว นอนตัวสั่นเทิ้มไร้สติ ริมฝีปากขาวเผือดเหมือนขาดน้ำ เขาเอื้อมมือไปจับต้องผิวกาย พบว่ามันร้อนระอุแทบไหม้ ไม่รู้ว่าเธอทานทนมีลมหายใจมาได้อย่างไรตลอดหลายชั่วโมงที่ผ่านมา
"ให้หมอตามไปที่พักของเรา รักษานางที่นั่น" อุ้มเธอแนบอกเดินออกมาจากกรงขังท่ามกลางสายตาของเหล่าบริวาร ที่มองเห็นแล้วเป็นต้องงุนงงกันเป็นแถบ ผู้เป็นนายไม่ดูร้ายกาจดุจเสือร้าย แต่กลับแตะกายนักโทษ เป็นสิ่งที่เหล่าบริวารไม่เคยเห็น
"ครับ" ริฏวานที่รู้หน้าที่ตอบรับด้วยความเคารพยำเกรง
(ป่วยหนักขนาดนี้เลยหรือ)
ร่างกายที่สั่นเทิ้มได้รับความอบอุ่นจากอ้อมอกของจาร์มาล์ ระหว่างทางเดินมายังที่พัก เธอมีอาการละเมอเพ้อฝัน ส่ายหน้าไปมาเป็นพัลวัน แต่คนที่อุ้มเธอมาทำเพียงจ้องมองเท่านั้น คิดว่าคงเป็นผลที่มาจากพิษไข้
"รักษานางให้หายเป็นปกติ" เสียงเข้มสั่งการกับหมอที่พามา
"ครับ" หมอตอบรับและเริ่มทำหน้าที่ของตนด้วยความตั้งใจ
ส่วนจาร์มาล์และริฏวานก็นั่งดูการรักษาด้วยความเงียบสงบ เขาจดจ้องมองทุกอิริยาบถในการรักษา ไม่ละสายตามองไปทางใดนอกจากสนใจคนที่อยู่บนเตียงเท่านั้น
"ไม่ต้องห่วงมากไป เดี๋ยวนางก็หายเป็นปกติครับ" ริฏวานที่เห็นอาการของผู้เป็นนาย แม้จาร์มาล์จะไม่แสดงให้เห็นถึงความห่วงใย แต่เขาก็รับรู้ได้จากสายตาที่จดจ้องไม่กะพริบแม้จะมีสายลมพัดผ่าน
"ไม่ได้ห่วง!" คำปฏิเสธก็เป็นในรูปแบบเดิม แต่สายตานั้นก็ยังไม่คิดจะละห่างไปไหน
(ท่านปากแข็งเหมือนกับเด็ก...ขอให้นางเป็นผู้พังกำแพงหัวใจของท่านในเร็ววัน) เป็นสิ่งที่ริฏวานพูดในใจ เขาไม่อยากจะให้ผู้เป็นนายนั้นมีทุกข์ และไม่มีความสุขในการดำเนินชีวิต ความเคียดแค้นที่มันครอบงำจนหัวใจของผู้เป็นนายแทบมืดดำ เขาอยากให้หัวใจผู้เป็นนายสุกสกาวด้วยสุขมากกว่าทุกข์ ไม่อยากให้ทำร้ายผู้ใด แต่ก็ไม่สามารถห้ามได้...
กรงรักราชาโจรตอนที่ 7 - ปากไม่ตรงกับใจ"ตรวจอาการนางให้ละเอียด" เสียงเข้มออกคำสั่งกับหมอที่พามา ยืนจ้องมองหน้าคนป่วยที่ซีดเซียวอย่างนิ่งขรึม แต่ทว่าหารู้ไม่ในใจพลันนึกหวั่น จากที่เห็นว่าเธอนั้นสั่นเทาดูหนาวเหน็บ ริมฝีปากขาวเผือดสั่นระริกอย่างน่าเป็นห่วง"ขอรับ" เสียงของหมอตอบรับ พลางตรวจดูอาการของคนที่ป่วยอย่างตั้งใจสายตาคมจับจ้องไม่ละสายตาไปไหน ยืนมือไขว้หลังอย่างสังเกตการณ์ ทุกการกระทำจองหมออยู่ในสายตาของจาร์มาล์ตลอดเวลา จนริฏวานที่เฝ้ามองอยู่ด้านหลังจับพิรุธผู้เป็นนายได้อย่างรู้เท่าทัน ด้วยมือแกร่งที่กำแน่นอยู่ด้านหลังของจาร์มาล์ รับรู้ได้ว่าเขากำลังมีความกังวลไม่น้อย เพียงแต่ไม่แสดงความพะวงนั้นออกมาชัดเจน"หนักหนาแค่ไหน?" สายตาเพ่งพิศจ้องมองไม่วางตา เอ่ยปากถามหมอผู้รักษาด้วยความใคร่รู้"ร่างกายนางบอบช้ำ และอ่อนเพลียมาก มีไข้สูงน่าจะทรุดตัวอยู่หลายวันถึงตะมีอาการดีขึ้น ต้องเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด ตอนนี้ยังไม่อาจวางใจได้ครับ" หมอที่ทำการรักษาหันมาประจันหน้าและให้คำตอบ"อืม...ดูแลนาง อย่าให้นางตายเสียล่ะ""ครับ"เป็นการรับรู้อย่างเข้าใจ แต่ปากที่แสนร้ายก็ยังเสียดสีแม้จัสซีเนียจะนอน
กรงรักราชาโจรตอนที่ 8 (ผิดสัญญา)"รถเตรียมพร้อมออกเดินทางกลับแล้วครับ" เมื่อได้เวลาอันควรแก่การเดินทาง ริฏวานก็ทำหน้าที่ด้วยความตั้งใจ แต่ฉไนเลยผู้เป็นนายกับยังนอนนิ่งอยู่บนเตียง"........" เสียงเรียกของริฏวานดังพอที่จะได้ยินชัดเจน แต่คนเจนจัดเล่ห์เหลี่ยมแสร้งทำเป็นนิ่ง เหมือนกับไม่ได้ยินมัน"ท่านจาร์มาล์" เรียกครั้งแรกไม่สนใจ ริฏวานเลยเดินขยับเข้าไปใกล้อีก".........." จาร์มาล์ก็ยังคงนิ่งเฉยดังเดิม ทำเพียงพลิกกายหันหลังให้ ทำดั่งกับคนหลับสนิทไม่รู้เรื่องราวอันใด"ท่านจะผิดคำสัญญาต่อมารดาอย่างนั้นหรือ?" ริฏวานพูดขึ้นเสียงเรียบเป็นการย้ำเตือน การทำแชเชือนของผู้เป็นนายที่ไม่ต่างจากเด็กในตอนนี้ เป็นท่าทีผิดแปลกจากแต่ก่อนโดยสิ้นเชิง ความเหี้ยมโหดและเด็ดเดี่ยวแทบจางหายไป แม้จะรู้ดีว่าเพราะเหตุผลใดถึงเป็นเฉกเช่นนี้พรึ่บ!! คำว่าสัญญาแว่วเข้ามาในหู ทำให้จาร์มาล์ปัดผ้าห่มผืนหนาออกจากกาย แล้วดีดตัวลุกนั่งอย่างวางท่า เพ่งพิศสายตามองริฏวานอย่างเคร่งขรึม"เราแค่หลับเพื่อพักสายตา แต่ว่าคงจะหลับลึกเกินไป ทำไมไม่เรียกเราดี ๆ""เรียกอยู่หลายที แต่ท่านไม่คิดสนใจ"ทำทีเป็นต่อว่าเสียงเข้ม ทว่านั่นกลับย
กรงรักราชาโจรตอนที่ 9 (เจ้าชีวิต)ยามราตรีผ่านพ้นไป แสงตะวันเจิดจ้าเปล่งรัศมีความร้อน คนที่จับไข้สูงทุเลาเบาลง และเริ่มคงสติรู้สึกตัว แต่ยังไม่หายดี เพราะอาการที่จัสซีเนียเป็นนั้นหนักหนาใช่ย่อย เปลือกตาค่อย ๆ ลืมขึ้น กะพริบปรับรับแสงดวงตะวันที่ ณ ตอนนี้ร้อนระอุแทบหลอมละลาย แต่สำหรับจัสซีเนีย ที่ร่างกายอ่อนเพลียกลับรู้สึกหนาวสั่นด้วยพิษไข้ที่มี หล่อนพยายามเปิดเปลือกตาที่หนักอึ้ง แล้วกวาดสายตามองโดยรอบอาณาบริเวณ จนสายตาบรรจบเข้ากับเขาคนนั้นที่หล่อนเกลียดขี้หน้า เดินเข้ามาในกระโจมที่พักพอดิบพอดี"หึ" ทว่าเสียงนั้นกลับทำให้เธอไม่อยากจะลืมตาตื่นแม้แต่น้อย จนค่อย ๆ เบือนหน้าหนีไปอีกทาง อีกทั้งร่างกายของหล่อนตอนนี้ยังไม่พร้อมที่จะปะทะกับจาร์มาล์ผู้ปากร้ายและป่าเถื่อน"ร่างกายนางดีขึ้นแล้วครับ พักผ่อนอีกสามสี่วันก็หายดีเป็นปกติ" เมื่อหมอตรวจดูอาการก็รีบรายงานจาร์มาล์ทันที"อืม ไม่ต้องดูแลอะไรมากมาย ตอนนี้เราจะส่งหมอกลับ""แต่ว่าอาการของนาง...."แกร๊ก!!เสียงเข้มสั่งการอย่างเอาแต่ใจ แต่ทันใดนั้นเสียงของหมอก็พูดขัดขึ้น หวังจะชี้แจงอาการคนไข้ แต่มันกลับไม่ได้ดั่งใจคนอารมณ์ร้าย ทำให้จาร์มาล์กดปล
กรงรักราชาโจรตอนที่ 10 (ทรมานเจียนตาย)แม้จะเจ็บปวดตามร่างกายที่บอบช้ำ การกระทำที่ป่าเถื่อนไร้ความไยดี ทว่าก็ไม่สามารถสั่งน้ำตาให้รินไหล เพราะมันแสดงถึงความอ่อนแอ หล่อนอดกลั้นอย่างเข้มแข็ง หันไปประจันหน้ากับคนป่าเถื่อน ที่ตอนนี้เพ่งพิศสายตาจดจ้องอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ"เดรัจฉานที่สุด!" หล่อนลุกขึ้นยืนอย่างท้าทาย ไม่ได้คิดเกรงกลัวสายตานั้นแต่อย่างใด พ่นคำด่าทอหยาบโลนใส่หน้า แม้ว่าร่างกายจะได้เรี่ยวแรง แต่หล่อนก็ยังอดทนฝืนกลั้นให้ลุกยืน"เราเป็นได้ยิ่งกว่านั้น!...จัสซีเนีย""อ๊ะ! ฉันเจ็บ...ปล่อย!"เมื่อคำพูดของจัสซีเนียเปล่งออกมา จาร์มาล์ไม่รอช้าปรี่ประชิดตัวของจัสซีเนีย และบีบคอเจ้าหล่อนทันที แววตามีความเกรี้ยวโกรธต่อคำตำหนินั้น แต่ก็ยังกัดฟันยอมผ่อนปรนน้ำหนักมือ การตายที่ง่ายดายมันยังไม่สาแก่ใจของคนเฉกเช่นเขา ในเมื่อเขาทรมานและเจ็บปวดเจียนตาย ผู้ที่กระทำแก่เขาก่อนย่อมได้รับผลที่มากกว่าหลายเท่า"เจ็บแค่นี้มันยังน้อยไป...เพราะสิ่งที่เธอทำกับเรามันหนักหนากว่านี้หลายเท่า!!""กะ แกหมายถึงอะไร แค่ก ๆ...ฉันไม่เข้าใจ"แววตาคมดุเปล่งประกายความแค้น ลงน้ำหนักมือบีบคอของจัสซีเนียแน่นกว่าเดิม
กรงรักราชาโจรตอนที่ 11 (เชลยบนเตียง!)"ฉัน!...ไม่กลัวแกหรอก ไอ้ฆาตกรใจโฉด""อย่าให้เราโกรธมากกว่านี้ เพราะชีวิตของเธออาจจะดับลงก่อนเวลาอันควร"ความแกร่งที่มีเกินหญิง แม้ร่างกายจะไม่เอื้ออำนวย จัสซีเนียก็ยังพยายามหยัดตัวลุกยืนประจันหน้าท้าทาย ไม่ได้กลัวตายแต่อย่างใด ความแค้นที่มันฝังใจ ภาพการตายของบิดาและพี่ชายมันยังติดตาเธอไม่เคยเลือนหาย แถมพี่สาวอีกคนก็ยังหายตัวไป โดยไม่รู้เห็นร่องรอยนับตั้งแต่ที่โจรร้ายป่าเถื่อนจุดไฟเผาบ้านจนวอดวาย และความเกลียดชังยังฝังใจไม่ลดเลือนหายไปแม้แต่น้อย"ตราบใดที่คนชั่วอย่างแกมีลมหายใจ จัสซีเนียคนนี้จะไม่มีวันตาย!" แววตาที่มุ่งมั่น น้ำเสียงที่หนักแน่น เปล่งออกมาอย่างไร้ความกลัว หล่อนค่อย ๆ ขยับขาเดินเข้าไปประจันหน้ากับจาร์มาล์ จ้องมองตาคมดุนั้นอย่างท้าทาย"ปากดี...งั้นก็จงรอรับความทรมานได้เลย!" ร่างกายสูงกำยำก้มมองคนที่ตัวเล็กกว่า ยกยิ้มมุมปากอย่างดูแคลน แม้นคำพูดที่หนักแน่นของหล่อน ก็ไม่อาจจะสะท้อนให้เขากลัว ก็แค่ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ มีหรือจะสู้ชายชาตรีเฉกเช่นเขาได้"โอ๊ะ! กะ แกจะทำอะไร?" จาร์มาล์ผู้โหดร้าย ก้าวขาเดินเผชิญหน้า แววตาเฉี่ยวดุดันเพ่งเพิศมองลึก
กรงรักราชาโจรตอนที่ 12(พรากพรหมจรรย์)ท่ามกลางความร้อนระอุในทะเลทรายที่กว้างใหญ่ไพศาล หนึ่งคนลนลานเพื่อหาทางรอดจากเงื้อมมือของคนใจร้าย หล่อนตะเกียกตะกายหลีกหนี แม้จะไร้ซึ่งเรี่ยวแรง แต่ก็ยังพยายามเหมือนกับปลาน้อยที่ต้องการน้ำเพื่อต่อลมหายใจ แต่ก็ไม่อาจรอดพ้นแรงชายชาตรีที่มีมากกว่า สองขาที่ดันฝืนหนี ถูกมือดีของจาห์มาล์ลากกลับมาดังเดิม และจัดการกับเสื้อผ้าที่ห่อคลุมร่างกายของหล่อนจนขาดวิ่น ไม่เหลือชิ้นดี แล้วจึงงัดความยิ่งใหญ่ที่อยู่ในร่มผ้าออกมา จดจ่อลงตรงรอยแยกความสาว“ว้าย กรี๊ด!! ปล่อยฉันไอ้ระยำ!” “หึ!”กึด!การดิ้นทุรนทุรายก็ไม่ได้อยู่ในสายตาของจาห์มาล์แม้แต่น้อย เขาจัดการสอดแทรกความเป็นตัวตนอันยิ่งใหญ่ ดั่งกับปีศาจร้ายประทานให้ นำพาเข้าสู่กลางกลายความสาวอย่างไม่ผ่อนปรน จนความสาวของหล่อนนั้นฉีกขาดจนเกิดเสียงแว่วเข้าหู“(เอ๊ะ ทำไมนะ?)”“กรี๊ด!! ไอ้ชั่ว! คนอย่างแกจะไม่มีวันตายดี”“....ดีแต่ปากอย่าบังอาจเหิมเกริมกับเราจัสซีเนีย”ความสาวที่เป็นเหตุให้สงสัย แต่ต้องละทิ้งจากความคิดทิ้งไป เมื่อเสียงแข็งกร้าวของหล่อนดังเข้าส่วนของการรับฟัง ด้วยคำพูดหยาบคายด่าทอทั้งน้ำตา แต่ว่ามีหรือคน
กรงรักราชาโจรตอนที่ 13 (พระจันทร์สีเลือด)"หึ!! นี่มันแค่เริ่มต้นจัสซีเนีย" ร่างกายที่สุขสมเสร็จกิจราคะ ในจังหวะเดียวกันกับที่จัสซีเนียนั้นสลบไป เขาถอดแก่นกายออกจากความสาวที่บวมแดง จากนั้นก็แสยะยิ้มร้าย จ้องมองไปยังคนที่ร่างกายแน่นิ่ง ปล่อยทิ้งหล่อนไว้ในสภาพที่ร่างกายเสลาเปลือยเปล่า แล้วเขาจึงเดินเข้าสู่ห้องอาบน้ำไออุ่นที่ลอยคละคลุ้งจากอ่างน้ำใบใหญ่ ร่างกายล่ำสันเอนพิงกับขอบอ่าง แช่น้ำอย่างสบายกาย มือหนึ่งควงแก้วไวน์แล้วจิบน้ำสีอำพันกลืนลงคอ"ทำไมต้องทรยศเรา...ทั้งที่เรารักเธอสุดหัวใจ" สายตาคมเข้มเพ่งพิศแก้วไวน์ เอ่ยออกไปเพียงลำพัง เมื่อในหัวฉายภาพที่มันบีบรัดหัวใจของเขาให้เจ็บร้าว นึกถึงทีไรก็ยิ่งเจ็บช้ำระทม"ความเจ็บปวดที่เราเจอ...เธอต้องได้รับมันเพิ่มทวี!"เพล้ง!! นึกเกรี้ยวโกรธต่ออดีตที่พบเจอ ความเจ็บปวดที่ผันกลายเป็นความแค้น ทำให้เขาปาแก้วไวน์ในมือกระแทกพื้นห้องน้ำจนแตกกระจาย เสียงดังสนั่นหวั่นไหวกึกก้องเมื่อหนำใจกับการแช่น้ำชำระร่างกาย จาร์มาล์จึงลุกจากอ่าง หยิบผ้าขนหนูพันรอบเอว จากนั้นจึงเดินออกเข้ามายังห้องนอนหรู สายตามองดูคนที่ยังนอนขดตัวไม่ได้สติอยู่บนเตียง ด้วยสภาพเปลือย
กรงรักราชาโจรตอนที่ 14 (ออกล่า)"สั่งคนให้เฝ้านางไว้ให้ดี และให้มีผู้หญิงมาเฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิด จนกว่าเราจะเสร็จกิจกลับมา" ในขณะที่ยืนจัดแต่งชุดที่พร้อมสำหรับปฏิบัติการ พลันสายตาของจาห์มาล์มองเห็นจัสซีเนียที่ยังคงนอนหลับอยู่ฉุกคิดขึ้นมาได้ จึงออกคำสั่งกับคนสนิททันทีทันใด"....ฮึ""อย่ามองเราด้วยสายตาเช่นนั้นริฎวาน มันไม่ได้เป็นอย่างที่นายคิดในหัว เราก็แค่กลัวนางจะหลบหนี ทั้งที่มันยังไม่สาแก่ใจเรา จึงต้องมีคนเฝ้าอย่างใกล้ชิด ก็แค่นั้น"ริฎวานที่จับจ้องมองนายเหนือหัว คำสั่งการที่ฟังแล้วมีเลศนัย ทำให้คนสนิทถึงกับแสยะยิ้มเย้ยทีเล่นทีจริง เลยทำเอาจาห์มาล์ต้องรีบแก้ต่างให้แก่ตัวเอง ด้วยอาการลุกลี้ลุกลนในแววตา แต่ว่ายังวางท่านิ่งขรึมในแบบที่เคยเป็น"ยังไม่ได้ว่าอันใดสักนิดครับ...ท่านอย่าร้อนตัวนักสิ" ริฎวานรีบท้วงทันทีทันใด"หุบปากแล้วเตรียมคนเพื่อออกเดินทางได้ละ" และนั่นเลยทำให้จาห์มาล์รีบตัดบทสนทนาไป เมื่อถูกคนสนิทจับพิรุธได้"ครับ" ริฎวานโค้งหัวตอบรับ ไม่วายทิ้งรอยยิ้มกริ่มก่อกวนผู้เป็นนาย จากนั้นจึงเดินออกจากกระโจมไป เพื่อเตรียมการตามคำสั่งณ เวลานี้มีเพียงจาห์มาล์ที่อยู่จุดเดิม พลันสาย
กรงรักราชาโจรตอนพิเศษ 15(ภาพจำตลอดกาล)ถึงวันเวลาบุตรคนที่สองของจาห์มาล์ถือกำเนิด นับเป็นความยินดีปรีดาที่ได้มาซึ่งบุตรชาย พระโอรสตัวน้อยที่เค้าโครงใบหน้าค่อนไปทางมารดา ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงดีทุกประการ และองค์หญิงจัสทีน่าก็ช่างแสนจะเห่อน้องชายที่เพิ่งคลอดได้ไม่ถึงเดือน"ฮะมีสเรามีน้องแล้วนะ น้องของเราน่ารักเหมือนเราเลย" องค์หญิงจัสทีน่าว่าขึ้นอย่างอวดอ้าง ในขณะที่กำลังนั่งเล่นในสวน มีอัยนูนที่นอนนิ่งอยู่ข้างกาย อีกทั้งยังมีพี่เลี้ยงคอยดูแลปรนนิบัติในทุกย่างก้าว "เราตั้งชื่อน้องชายเองด้วยนะ ให้ชื่อว่าจาห์เนีย""ขอรับ...แล้วจาห์เนียแปลว่าอะไรหรือองค์หญิง" ฮะมีสในวัยเก้าขวบตอบรับอย่างเห็นตาม เขาไม่เคยขัดในสิ่งที่องค์หญิงจัสทีน่าปรารถนา ตามด้วยย้อนถามในพระนามขององค์ชาย"แปลเหรอ? เราก็ไม่รู้เหมือนกัน คิกคิก" องค์หญิงตัวน้อยพูดเจื้อยแจ้ว ทำเอาพี่เลี้ยงที่นั่งฟังถึงกับอมยิ้ม ชอบใจในจินตนาการที่เดียงสาของจัสทีน่า"อ้าว""ก็เราเอาชื่อท่านแม่กับท่านพ่อบวกกัน บวกเหมือนเลขที่โรงเรียนไงครูสอนมา อยากให้มันเยอะต้องบวก มีจาห์เนียมาเพิ่มก็ต้องเป็นบวก...เอ๊ะ! หรือจะบวกกันให้หมดเลยเป็น จัสซีมาล์จาห์เน
กรงรักราชาโจรตอนพิเศษ 14(สัตว์เลี้ยงขององค์หญิง)"ท่านแม่ขา" เสียงเจื้อยแจ้วขององค์หญิงตัวน้อยที่นอนหนุนขาของมารดาเอ่ยถาม หันหน้าเข้าหาท้องกลมใหญ่ที่ใกล้คลอด มือป้อม ๆ ขององค์หญิงจัสทีน่า ลูบคลำด้วยความแผ่วเบา"ว่าอย่างไรคะองค์หญิงของแม่" ผู้เป็นมารดาที่นั่งเอนหลังพิงกับหัวเตียง มือหนึ่งลูบหัวเพื่อขับกล่อมบุตรสาว ขานรับเมื่อองค์หญิงจัสทีน่าพร่ำเรียก"เมื่อไหร่น้องจะออกมาเล่นเป็นเพื่อนลูกคะ" จินตนาการด้วยการเฝ้ารอน้องที่อยู่ในท้องของมารดา"อยากเจอหน้าน้องแล้วเหรอคะ" ผู้เป็นมารดาเอ่ยถามด้วยความเอ็นดู"อยากเจอแล้วค่ะ" องค์หญิงจัสทีน่าให้คำตอบ พร้อมกับกดปลายจมูกเล็กเชิดรั้นสัมผัสลงท้องกลมของมารดา มีการขยับเคลื่อนไหวของทารกน้อยในครรภ์ เหมือนกับตอบรับพี่สาวที่เฝ้ารออยู่ด้านนอก"รออีกหน่อยนะคะ อีกไม่กี่วันน้องก็จะมาแล้ว องค์หญิงจะเลี้ยงน้องช่วยแม่ไหมคะ" ผู้เป็นมารดาให้คำตอบ จากนั้นจึงเอ่ยถามอย่างลองเชิงบุตรสาวที่ยังไร้เดียงสา"ต้องเลี้ยงค่ะท่านแม่ ลูกรักน้อง พี่น้องต้องรักกันค่ะ ท่านปู่กับท่านย่าบอกแบบนี้" คำสั่งสอนของปู่กับย่า องค์หญิงจัสทีน่าจดจำได้ดี ครั้นเข้าเฝ้าทีไรต้องได้สิ่งที่มีประ
กรงรักราชาโจรตอนพิเศษ 13(วุ่นทั้งวัง)วันเวลาล่วงใหญ่ผ่านไป การใช้ชีวิตคู่ก็ชื่นมื่นสุขสม ทุกอย่างดำเนินไปตามเจตนารมณ์ของคนทั้งสอง ลูกน้อยที่เคยอยู่ในท้อง ออกมาท่องโลกกว้างมาจนอายุครบสี่ปีและยังมีทารกน้อยในท้องอีกหนึ่งคนที่จวนจะคลอดในอีกไม่กี่วันข้างหน้าองค์หญิงตัวน้อยเป็นที่รักของทุกคน ความสดใสเจื้อยแจ้วเดียงสา ทำให้ราชวังที่เงียบเหงามีสีสันสดใส และวุ่นวายในเวลาเดียวกัน“จัสทีน่า! องค์หญิงอยู่ไหนลูก” เสียงของบิดาตะโกนเรียกขาน เมื่อบุตรสาวตัวน้อยไม่รู้ว่าแอบหนีไปเล่นซุกซนที่ไหน“คิก คิก” เสียงหัวเราะชอบใจเมื่อคนที่อยู่บนต้นไม้ มองไปเห็นบิดากำลังเดินตรงมา สายตาก็กวาดมองหา ทว่าก็ไม่เจอคนที่หลบซ่อน มันทำให้หล่อนชอบใจ“องค์หญิงเพคะ องค์หญิง” เสียงของพี่เลี้ยงตะโกนเรียกหา ทว่าจัสทีน่าองค์หญิงตัวน้อยก็ไม่ยักจะขานรับ“จัสทีน่า” เสียงมารดาแว่วดังตามมา ความวุ่นวายในวังมีไม่หยุดหย่อน สีสันที่ทำเอาเหล่านางในถึงกับเหนื่อยหอบได้ทุกวี่วัน ก็องค์หญิงตัวน้อยชอบแอบหนีไปเล่นเพียงลำพัง แล้วให้คนไล่ตามหา เหมือนกับว่าหนูน้อยชอบใจที่ได้กลั่นแกล้งปั่นหัวผู้คน“ท่านพ่อเดินมาทางนี้แล้ว จะเห็นเราไหมนะ” จัสท
กรงรักราชาโจรตอนพิเศษ 12(ยอมป้ะล่ะ?)หลังจากสร้างความสบายใจให้กับจัสซีเนียเสร็จสิ้น จาห์มาล์ก็กลับเข้ามาในห้องทำงานส่วนตัว เพื่อสะสางสิ่งที่ต้องทำ เตรียมพร้อมสำหรับการที่จะพาจัสซีเนียไปพักผ่อนตามคำบัญชาของมารดา ที่ห่วงลูกสะใภ้หนักหนา ทว่ากับมีบางอย่างให้ฉุกคิดขึ้นมาในหัว"ส่งมาหยาเรียบร้อยใช่ไหม?" เขาเอ่ยถามเมื่อรับรู้ถึงการเข้ามาในห้องของริฎวาน"ขอรับ" ตอบรับด้วยน้ำเสียงสุขุม"ได้ไปดูทาเธียน่าบ้างหรือไม่" มันคือสิ่งที่ฉุกคิดขึ้นมาได้เลยเอ่ยถาม ตั้งแต่วันที่เขาสำเร็จโทษของทาเธียน่า ก็ไม่มีทีท่าจะไปพบหน้าหล่อนอีกเลย ได้แต่ถามไถ่จากริฎวานเท่านั้น เป็นครั้งคราวที่นึกถึง"กระผมเพิ่งแวะไปเยี่ยมตอนไปส่งคุณมาหยาขอรับ" ริฎวานให้คำตอบ"นางเป็นอย่างไรบ้าง" จาห์มาล์ยืนมือไขว้หลัง ทอดสายตามองออกไปยังทัศนียภาพเบื้องหน้าอย่างไร้เป้าหมาย ครุ่นคิดถึงเรื่องราวในอดีตที่พบเจอมา ดั่งกับว่าเป็นนิยายปลำปลา ไม่เคยคิดว่าชีวิตหนึ่งจะต้องมาเจอสิ่งเหล่านี้ ไม่เคยคิดว่าจะต้องพบกับความเจ็บปวดและมีปมในใจ ทั้งที่เกิดมาพร้อมศักดินาที่สูงส่งในเชื้อพระวงศ์ คิดแล้วก็ตลกสิ้นดี"เหมือนเดิมขอรับ เซื่องซึม ไม่พูดไม่จาและ
กรงรักราชาโจรตอนพิเศษ 11(อธิบาย)"เธอ!""พระชายา"จัสซีเนียที่เดินมาหวังจะเข้าพบพระสวามี บรรจบพบเข้ากับมาหยาพอดิบพอดี กับที่หล่อนนั้นเปิดประตูออกมา มาหยาฉีกยิ้มให้แล้วโค้งตัวทำความเคารพ แต่กับจัสซีเนียหล่อนคิ้วขมวดชนกัน งุนงงกับการที่มาหยาเดินออกมาจากห้องทำงานของพระสวามีในยามนี้เพี๊ยะ! ไม่ทันจะได้ถามหาความจริง สิ่งที่เห็นทำให้จัสซีเนียเลือดขึ้นหน้า ปรี่ประชิดตัวมาหยาแล้วกระแทกฝ่ามือใส่จนใบหน้าสวยของมาหยาหันไปตามแรง ทำเอาคนสนิทที่เดินประกบหลังมาถึงกับเบิกตากว้างตกใจ ไม่คิดว่าพระชายาที่กำลังอารมณ์ดี จะมีความโมโหรุนแรงเช่นนี้เพียงชั่วพริบตาเดียว มันทำให้พวกหล่อนตั้งหลักไม่ทัน"ท่านพี่!" และสิ่งที่ทำให้ตะลึงยิ่งกว่านั้น คือจาห์มาล์เปิดประตูออกมาในเวลาไล่เลี่ยกัน มันทำให้หัวใจของจัสซีเนียวูบไหว คาดหวังว่าพระสวามีคงไม่ตลบหลังหล่อนใช่ไหม? ภาพที่เห็นทำให้คิดไกล ดวงตาสั่นไหวด้วยความหวาดหวั่น กระนั้นก็ย่างสามขุมเข้าหาจาห์มาล์ที่ยืนทำหน้างุนงง"โอ๊ย ๆ น้องใจเย็น ฟังพี่ก่อน...จัส จัส พี่เจ็บ ท้องอยู่นะ" แต่ต้องร้องโอดครวญด้วยความเจ็บแสบ จนเรียกชื่อของจัสซเนียเพียงพยางค์เดียว เมื่อหล่อนฟาดฝ่ามื
กรงรักราชาโจรตอนพิเศษ 10(ทางแยก)"คิดจะกำจัดฉันเหรอ มันไม่ง่ายแบบนั้นหรอก กว่าจะได้เข้ามาในนี้ไม่ใช่ง่าย ๆ ฉันต้องทำอะไรสักอย่างแล้วล่ะ" มาหยาที่เผลอมาได้ยิน สิ่งที่พระนางเอื้อนเอ่ยทำให้มาหยากำมือแน่นด้วยความแค้นใจเรื่องราวที่องค์รัชทายาทบาดหมางกับพระชายานับว่าเป็นข่าวดีไม่น้อยที่จาห์มาล์พูดระบายตอนเมา เพราะมันทำให้หล่อนตะล่อมจาห์มาล์ได้ง่ายขึ้น จนเขายอมพาหล่อนเข้ามาในวัง นานทีเขาจะไปหาที่ฮาเร็ม หล่อนจะทิ้งโอกาสไปได้อย่างไรความว้าวุ่นก่อเกิดทำให้มาหยาถึงกับนั่งไม่ติดที่ เดินวนอย่างใช้ความคิด เพื่อหาทางได้อยู่ในวังต่อ เดินคิดทวนอยู่นานหลายนาที ความคิดมาดร้ายจึงบังเกิด"ฮึ! พระชายาคงไม่ถือสาหรอกมั้งที่จะใช้สามีร่วมกัน เพราะที่ผ่านมาองค์รัชทายาทก็เคยร่วมเตียงกับหม่อมฉันนะเพคะ" มาหยาที่มีความคิดมาดร้ายในหัว หล่อนยืนพร่ำคนเดียวในห้องนอนรับรอง มโนภาพใบหน้าของพระชายาด้วยความปรีดา หากว่าได้เห็นในสิ่งที่จะผูกมัดให้ตนได้อยู่ต่อก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูทำให้มาหยาสะดุ้งตัวหลุดจากภวังค์ความคิด ไม่สบอารมณ์เมื่อมันเป็นการรบกวนสิ่งที่จินตนาการไว้อย่างสวยหรู"มีอะไรคะ" มาหยาเปิดประตูออกมา แล้
กรงรักราชาโจรตอนพิเศษ(คำบัญชา)"เป็นอย่างไรกันบ้าง แม่ได้ข่าวว่ามีปากเสียงกันหนักเลย" องค์ราชินีที่คอยดูบุตรชายและสะใภ้อยู่ห่าง รู้เห็นทุกอย่างแต่ไม่อยากก้าวก่าย พระนางเอ่ยถามเมื่อพบเจอกับลูกทั้งสองในสวนยามเย็น"ขอรับ" จาห์มาล์ขานรับ"แล้วทำไมต้องทะเลาะขนาดนั้น มันหนักหนามากมายเลยหรือจาห์มาล์" พระนางเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสุขุม จ้องมองไปยังบุตรชายและสะใภ้ ที่ตอนนี้มีสีหน้าแห่งความรู้สึกผิด กระนั้นก็ยังจับมือกันไม่ปล่อยห่าง ทุกความรู้สึกเผยแก่สายตาของมารดา ความรักที่ให้แก่กันยังแน่นแฟ้น แม้นจะมีปากเสียงกันลูกทั้งสองก็รีบเคลียร์ใจ ไม่ปล่อยไว้ให้มันยืดเยื้อ"ไม่ขอรับ" จาห์มาล์ขานรับ แต่จัสซีเนียนั้นยังเงียบ ใบหน้ายังมีความเศร้าที่ปะปนความรู้สึกผิด"อดทนข่มอารมณ์ไม่ได้เลยหรือลูกแม่ ลูกไม่ได้ตัวคนเดียวเหมือนแต่ก่อน ตอนนี้กำลังจะเป็นพ่อคนแล้ว หากวุฒิภาวะในการควบคุมอารมณ์ยังน้อยนิด ลูกจะเป็นพ่อที่ดีได้อย่างไร จะให้ลูกดูใครเป็นเยี่ยงอย่างถ้าไม่ใช่พ่อกับแม่" พระนางว่าขึ้นตักเตือนบุตรชาย"อย่าทรงตำหนิท่านพี่เลยนะเพคะ...หม่อมฉันผิดเองที่ดื้อรั้น ไม่ฟังสิ่งที่ท่านพี่ปรามด้วยความหวังดี ไม่รักษาความร
กรงรักราชาโจรตอนพิเศษ 8(ผิดทั้งคู่)กลางดึกที่ผู้คนในวังนอนหลับใหล แสงไฟที่เคยเจิดจ้าสว่างไสวดับมอดลง มีเพียงแสงสีนวลจากดวงจันทร์ทอแสงสว่างเลือนลาง เพื่อให้คนที่กำลังเดินกลับเข้ามาในตำหนักได้เห็นทางจาห์มาล์ค่อย ๆ ผลักประตูห้องนอนแผ่วเบา เขาไม่อยากให้จัสซีเนียรู้สึกตัวตื่น แสงจันทร์ที่สาดส่องกระทบกับใบหน้าคนที่นอนหลับ ทำให้เขาลอบยิ้มหากอยู่นิ่งก็ดูว่านอนสอนง่าย แต่พอรู้สึกตัวตื่นไฉนเลยถึงดื้อรั้นเอาแต่ใจ"ฝันดีนะจัสซีเนีย" จาห์มาล์ไล้ใบหน้าเนียนนั้นอย่างเบามือ โน้มตัวจูบลงกลางหน้าผากนูนนั้นด้วยความอ่อนโยน แตะริมฝีปากจูบซับบางเบา เพราะเขาห่วงว่าหล่อนจะสะดุ้งตื่น...แม้ปากจะไวแต่ถึงอย่างไรเขาก็ทำร้ายคนที่รักมากกว่านี้ไม่ลง"ฝันดีนะเจ้าตัวน้อย..." ตามด้วยแตะจูบลงหน้าท้องที่นูนออกมาเล็กน้อย ที่มีกลอยใจอาศัยอยู่ด้านในจากนั้นจึงเอนตัวนอนเคียงข้าง แทรกร่างกายหนาอุ่นในผ้าห่มผืนเดียวกัน สอดแขนให้จัสซีเนียนอนหนุน กระชับโอบกอดคนที่นอนนิ่งไม่รู้สึกตัว ได้ยินเพียงเสียงของลมหายใจที่พ่นเข้าออกเป็นจังหวะ"อื้อ~~" การถูกรบกวนทำให้คนที่อ่อนล้านอนหลับสนิท มีเพียงเสียงอู้อี้ในลำคอเล็ดลอดออกมาบางเบา แต่
กรงรักราชาโจรตอนพิเศษ 7(ที่หนึ่งไม่ไหว)นานราวยี่สิบนาทีตั้งแต่ที่จาห์มาล์ทิ้งหล่อนไว้ข้างหลังให้ร้องไห้น้ำตาไหลเพียงลำพัง จัสซีเนียก็ยังไม่ขยับขาก้าวเดินไปไหน มันจุกในอก มันเจ็บปวดเหมือนหัวใจตกหล่นลงสู่พื้นที่เต็มไปด้วยหนามแหลม ทิ่มแทงลงก้อนเนื้อหัวใจให้เจ็บร้าว ยิ่งเขาเมินเฉยใส่ ยิ่งสร้างความทรมานหัวใจแก่จัสซีเนียผู้มีความผิด"พระชายาเพคะ" ซัลมาเดินเข้าไปใกล้ เรียกขานคนที่เอาแต่ยืนร้องไห้หวังให้รู้สึกตัว"เสด็จเข้าด้านในเถิดเพคะ อากาศตอนนี้หนาวเย็นแล้วเพคะ" ลีนาว่าขึ้นอย่างนึกสงสาร สิ่งที่เห็นทำเอาหญิงรับใช้ทั้งสองน้ำตาซึมตามอย่างไม่อาจหักห้าม"ฉันไม่เคยแคร์ความรู้สึกของท่านพี่เลย ไม่เคยฟังในสิ่งที่เขาห้าม...ฉันเป็นคนที่แย่มาก ฮึก ฮึก ใช่ไหม?" จากที่เงียบอยู่นานก็เอ่ยวาจาขึ้นถามความเห็นด้วยน้ำเสียงสะอื้น น้ำตารื้นขอบตาจนมาไหลรดอาบแก้มเป็นทางยาว"ที่องค์รัชทายาททรงห้ามปรามนั่นก็เพราะทรงห่วงพระชายานะเพคะ หม่อมฉันอยู่ในวังมาหลายปี ไม่เคยมีหญิงใดที่พระองค์จะทรงห่วงใยถึงเพียงนี้...ไม่ใช่สิเพคะ องค์รัชทายาทดูเหมือนจะแทบไม่มีใครเลยด้วยซ้ำไป" ลีนาคุกเข่ากับพื้นแล้วจับมือของจัสซีเนียแนบแก้