—- Talk แสนดี —-
ฉันฝันไปใช่มั้ย มันไม่จริงใช่มั้ย ฉันไม่ได้เสียความบริสุทธิ์ให้ใครใช่มั้ย
“ฮึก...” ฉันก้มหน้าร้องไห้สะอื้นออกมา ถึงจะพยายามหลอกตัวเองยังไง สุดท้ายฉันก็หนีความจริงไม่พ้นอยู่ดี ฉันไม่รู้ว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร เขามาย้ำยีฉันทำไม ฉันไปทำอะไรให้เขา หรือว่าเขาจะเป็นเจ้าหนี้ของฉันอีกคน แต่มันไม่มีทางเป็นไปได้ ในเมื่อคุณท่านใช้หนี้ให้ฉันหมดทุกบาททุกสตางค์แล้ว คุณท่านที่ฉันพูดถึงคือคุณดนัย เป็นนักธุรกิจ ฉันรู้แค่คุณท่านรวยมาก รวยถึงขนาดใช้หนี้ให้ฉันตั้งหลายสิบล้านย้อนกลับไปเดือนก่อน
วันงานศพแม่ของฉัน วันนั้นมีเจ้าหนี้มาทวงเงินที่พ่อของฉันเคยกู้ไป ตอนแรกฉันก็ไม่รู้ว่าเท่าไหร่เพราะแม่ไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้ ตั้งแต่พ่อเสียฉันรู้แค่ว่าฉันกับแม่มีหน้าที่หาเงินเพื่อมาใช้หนี้ให้ใครก็ไม่รู้ ฉันรู้แค่ว่าฉันต้องทำงานหนัก ต้องหาเงินได้เยอะๆ ฉันไม่เรียนต่อมหาวิทยาลัยเพื่อที่จะทำงานเก็บเงินช่วยแม่ แต่สุดท้ายแม่ก็จากฉันไป... วันนั้นหลังจากเผาศพแม่ของฉันเสร็จ จู่ๆ ก็มีคนมาจับตัวฉัน ขู่จะเอาเงินจากฉัน ถ้าฉันหาให้ไม่ได้พวกมันก็ขู่ว่าจะข่มขืน จะฆ่าฉัน ฉันคิดว่าตอนนั้นฉันคงไม่รอดแน่ๆ แต่แล้วก็มีคนมาฉุดฉันออกมาจากนรกขุมนั้น...คนที่ช่วยฉันคือคุณท่าน คุณท่านประกาศบอกพวกนั้นไปว่าฉันคือว่าที่ภรรยาของคุณท่าน ถ้าพวกนั้นมาแตะต้องฉันแม้แต่ปลายเล็บคุณท่านจะฆ่าทิ้งให้หมดนี่คือเหตุผลที่ฉันต้องแต่งงานในวันนี้...
ตอนแรกฉันไม่ไว้ใจคุณท่านเลย เพราะคุณท่านบอกว่าฉันคือภรรยาของเขา ซึ่งเขาก็คงไม่ใช่คนดีอะไร แต่คุณท่านก็อธิบายเหตุผลทุกอย่างให้ฉันฟัง คุณท่านบอกว่าฉันไม่ต้องกลัว คุณท่านคือเพื่อนสนิทของแม่ฉัน คุณท่านเอ็นดูฉันเหมือนลูกสาว แต่ที่คุณท่านต้องประกาศไปแบบนั้น เพื่อที่จะได้ไม่มีใครกล้ามาทำร้ายฉันอีก ส่วนงานแต่งงาน มันก็เป็นแค่การจัดฉากเพียงเท่านั้น ฉันกับคุณท่านไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน ทุกอย่างที่ทำเพียงแค่ต้องการตบตาพวกที่ตามรังควานฉันตอนนี้อีกไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงข้างหน้าฉันก็ต้องออกไปพบปะผู้คนในงานแต่งแล้ว แต่ฉันยังไม่ได้ทำอะไรสักอย่าง สภาพของฉันตอนนี้มันไม่น่าดูเท่าไหร่ เพราะฉันพึ่งพ้นจากการโดนผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้ข่มขืนมา ฉันยังคงนั่งตัวสั่นเทาร้องไห้ และวาดระแวงกลัวว่าเขาคนนั้นจะกลับมาอีก
เขาทิ้งท้ายไว้ ว่าเราจะได้เจอกันอีก...ไม่มีทาง ฉันกับเขาไม่มีทางที่จะได้เจอกันอีก— หลังจากจบพิธีแต่งงาน —คุณท่านพ่ฉันมาที่บ้าน เป็นบ้านของคุณท่านหลังใหญ่โตมโหฬารมาก ฉันถึงกับตะลึงตาค้างเลยทีเดียว ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเห็นบ้านหลังใหญ่อย่างกับวังแบบนี้เลย “หนูตามฉันมาเดี๋ยวฉันจะพาไปดูห้องนอน” คุณท่านเอ่ยบอกฉัน คงจะเห็นว่าฉันยืนนิ่งไม่ขยับ ก็ฉันกำลังตะลึงกับความใหญ่โตของบ้านอยู่นี่แหละฉันเดินตามคุณท่านขึ้นไปชั้นบน บ้านหลังนี้มีสามชั้น มันใหญ่โตมาก จริงๆ ตรงทางขึ้นมีรูปผู้หญิงสูงวัยติดอยู่ตรงผนัง ขนาดว่าอายุเยอะแล้วก็ไม่อาจทำรายความสวยของคนในภาพได้เลย ตอนเป็นสาวคงจะสวยมากแน่ๆก็เหมือนกับคุณท่าน ถึงคุณท่านจะอายุเยอะมากแล้วแต่ก็ยังดูดีไม่แก่ตามอายุ “ห้องนี้คือห้องนอนของหนู ส่วนห้องฉันจะอยู่ตรงข้าม” “อ้อ ค่ะๆ” ฉันพยักหน้าหงึกๆพรางปรายตามองไปรอบๆ ไม่คิดไม่ฝันว่าชีวิตฉันจะได้สัมผัสกับบ้านหลังใหญ่โตขนาดนี้ “หนูหน้าเหมือนแม่ตอนเป็นสาวเลยนะรู้มั้ย” คุณท่านพูดพร้อมกับยิ้มจางๆให้ฉัน รอยยิ้มของคุณท่านช่างอบอุ่นจริงๆ “แม่เคยบอกค่ะ ว่าหนูหน้าเหมือนแม่มาก พ่อก็เคยบอกเหมือนกัน” คุณท่านหุบยิ้มทันทีเมื่อฉันเอ่ยถึงพ่อ มีอะไรรึเปล่านะ “ถ้างั้นหนูไปพักผ่อนเถอะ เดี๋ยวถึงเวลาทานอ
“ร้อยวันพันปีแกไม่คิดจะมาอยู่ จู่ๆ ผีตัวไหนเข้าสิงแกถึงคิดจะมาอยู่” คุณท่านพูดท้วง ฉันรีบเดินออกไปจากห้องรับแขกเพราะกลัวว่าจะผิดสังเกต เพราะว่าฉันขอตัวขึ้นไปบนห้องแล้วถ้าจะไปยืนฟังมันคงจะดูไม่ดี เมื่อเข้ามาในห้อง ฉันบอกตามตรงว่าตอนนี้ฉันรู้สึกใจคอไม่ดีเลย ผู้ชายคนนั้นเขาคือลูกชายของคุณท่าน แล้วเขาทำแบบนั้นกับฉันทำไม เขาตั้งใจ เขาจงใจ ฉันควรจะทำยังไงดี ฉันจะอยู่ที่นี่ได้ยังไงถ้าผู้ชายคนนั้นเขาจะมาอยู่บ้านหลังนี้จริงๆ ฉันเดินวนไปทั่วห้องเดินอยู่อย่างนั้นนานนับชั่วโมง ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว ฉันไม่อยากเจอหน้าเขา ถ้าคุณท่านรู้ว่าฉันมีอะไรกับลูกชายของคุณท่านจะเป็นยังไง ก๊อกๆ ก๊อกๆ (เสียงเคาะประตูห้อง) ฉันสะดุ้งตัวโหยงด้วยความตกใจเมื่อเสียงเคาะห้องดังขึ้น เมื่อกี้ฉันกำลังเหม่อ แกร่ก(เสียงเปิดประตูห้อง) “คุณท่านให้ลงมาตามไปทานข้าวค่ะคุณผู้หญิง” “อะ อ้อค่ะๆ” “ดะ เดี๋ยวค่ะป้า” ฉันท้วงป้าแม่บ้านก่อนที่ป้าจะเดินไป “มีอะไรรึเปล่าคะคุณผู้หญิง” “เอ่อคือ ลูกชายของคุณท่านกลับไปแล้วใช่มั้ยคะ” ฉันเม้มปากแน่นด้วยความประหม่าทันทีที่พูดจบ “จะให้กลับไปไหน นี่มันบ้านฉัน” เฮือก!! ใจฉันมันหล่นว
สวัสดีครับผม ‘โชน’ อย่ารู้จักผมมากไปกว่านี้เลยจะดีกว่า เพราะผมไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา —- งานมงคล —- วันนี้เป็นวันดี วันที่เหมาะแก่การจัดงานแต่งงาน วันที่ทุกคนควรจะมีความสุข หึ!! แต่สำหรับผมมันไม่ใช่ นี่ไม่ใช่งานแต่งของผมเพราะผมไม่คิดที่จะแต่งงานอยู่แล้ว แต่นี่เป็นงานแต่งของพ่อผมต่างหาก ไม่รู้ไปคว้าเอาผู้หญิงจากซ่องที่ไหนมา ผู้หญิงคนนั้นก็คงจะเห็นแก่เงินถึงได้ยอมแต่งกับพ่อของผม ถ้าเธอบอกว่ารักพ่อของผม ผมไม่มีทางที่จะเชื่อเด็ดขาด เพราะพ่อของผมอายุจะ60อยู่แล้ว ผู้หญิงที่เข้าหาพ่อของผมก็มีแต่เข้ามาเพราะเงินกันทั้งนั้น แม่ของผมเสียไปเมื่อสองปีที่แล้ว และผมกับพ่อกับก็ไม่ค่อยจะลงลอยกันเท่าไหร่ อยู่ด้วยกันทีไรก็มีแต่จะทะเลาะกันตลอด กับมีบ้านของผมต่างหาก แม้ขนาดจะแต่งงานใหม่ พ่อยังไม่บอกผมสักคำ หึ!! กลัวว่าผมจะมาพังงานแต่งละสิ ผมไม่ทำอย่างนั้นหรอก ทำอย่างอื่นสนุกกว่าเยอะ ลูกน้องผมมันบอกว่าเมียใหม่ของพ่อคนนี้ท่าทางใช้ได้ มันถ่ายรูปมายืนยันให้ผมดู น่าเอาจริงๆ ไม่แปลกใจว่าทำไมพ่อผมถึงหลงจนถึงขั้นคิดที่จะแต่งงานใหม่ โดยไม่สนใจรูปแม่ที่แควนอยู่ในบ้านเลยสักนิด“เมียพ่อกูอยู่ไหน” ผมหันไปถามล
“ถอดชุดเธอออกซะ อย่าให้ฉันต้องฉีกมัน” เธอยืนตัวสั่นเทาและไม่ยอมถอดชุดออกตามคำสั่งของผม สงสัยคงจะชอบความรุนแรง “ยะ อย่าทำอะไรฉันเลยนะ วันนี้เป็นวันแต่งงานของฉัน ถ้าคุณท่านรู้คุณไม่รอดแน่ๆ” ท่าทางของเธอเหมือนจะกลัวผม แต่เธอกลับพูดขู่ผม หึ!! กล้าดีหนิ “คำขู่ของเธอมันใช้กับฉันไม่ได้ผลหรอก...แสนดี” “คะ คุณรู้จักชื่อฉันได้ไง คะ คุณเป็นใครกันแน่” “จะถามให้เสียเวลาทำไม ถอดชุดออก !!” ผมตะคอกใส่เธอ แต่ก็ก็ไม่ยอมถอดชุดของเธอออกอยู่ดี เธอกำลังทำให้ผมหงุดหงิดเล่นตัวเก่งจริงๆ ผมคว้ามือไปจับแขนเธอ ก่อนจะออกแรงกระชากแรงๆให้เธอเดินตามผมออกมาจากห้องน้ำ “อย่านะ อย่าทำอะไรฉันเลยฉันขอร้อง ได้โปรด” “ช่วยด้วยค่ะ ช่วยด้วยใครก็ได้ช่วยฉันด้วย” ผลัก! ตุบ! ผมเหวี่ยงร่างเธอลงเตียงอย่างแรงแบบไม่คิดจะปราณี “หุบปากแล้วเก็บเสียงเอาไว้ครางให้ฉันฟังดีว่า” “ฮึก ยะ อย่าทำอะไรฉันเลย ฮึก” เธอถอยหนีผมไปจนติดขอบเตียง พรางยกมือไหว้ขอร้องอ้อนวอนผม ทำตัวเหมือนไม่เคยผ่านผู้ชายมา คิดว่าผมจะเชื่อผู้หญิงที่แต่งงานกับพ่อผมเพื่อแลกกับเงินอย่างเธอรึไง ผมค่อยๆปลดกระดุมเสื้อของตัวเองออกทีละเม็ดๆ สายตาจ้องมองไปที่แม่เลี้ยงข
“ร้อยวันพันปีแกไม่คิดจะมาอยู่ จู่ๆ ผีตัวไหนเข้าสิงแกถึงคิดจะมาอยู่” คุณท่านพูดท้วง ฉันรีบเดินออกไปจากห้องรับแขกเพราะกลัวว่าจะผิดสังเกต เพราะว่าฉันขอตัวขึ้นไปบนห้องแล้วถ้าจะไปยืนฟังมันคงจะดูไม่ดี เมื่อเข้ามาในห้อง ฉันบอกตามตรงว่าตอนนี้ฉันรู้สึกใจคอไม่ดีเลย ผู้ชายคนนั้นเขาคือลูกชายของคุณท่าน แล้วเขาทำแบบนั้นกับฉันทำไม เขาตั้งใจ เขาจงใจ ฉันควรจะทำยังไงดี ฉันจะอยู่ที่นี่ได้ยังไงถ้าผู้ชายคนนั้นเขาจะมาอยู่บ้านหลังนี้จริงๆ ฉันเดินวนไปทั่วห้องเดินอยู่อย่างนั้นนานนับชั่วโมง ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว ฉันไม่อยากเจอหน้าเขา ถ้าคุณท่านรู้ว่าฉันมีอะไรกับลูกชายของคุณท่านจะเป็นยังไง ก๊อกๆ ก๊อกๆ (เสียงเคาะประตูห้อง) ฉันสะดุ้งตัวโหยงด้วยความตกใจเมื่อเสียงเคาะห้องดังขึ้น เมื่อกี้ฉันกำลังเหม่อ แกร่ก(เสียงเปิดประตูห้อง) “คุณท่านให้ลงมาตามไปทานข้าวค่ะคุณผู้หญิง” “อะ อ้อค่ะๆ” “ดะ เดี๋ยวค่ะป้า” ฉันท้วงป้าแม่บ้านก่อนที่ป้าจะเดินไป “มีอะไรรึเปล่าคะคุณผู้หญิง” “เอ่อคือ ลูกชายของคุณท่านกลับไปแล้วใช่มั้ยคะ” ฉันเม้มปากแน่นด้วยความประหม่าทันทีที่พูดจบ “จะให้กลับไปไหน นี่มันบ้านฉัน” เฮือก!! ใจฉันมันหล่นว
— หลังจากจบพิธีแต่งงาน —คุณท่านพ่ฉันมาที่บ้าน เป็นบ้านของคุณท่านหลังใหญ่โตมโหฬารมาก ฉันถึงกับตะลึงตาค้างเลยทีเดียว ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเห็นบ้านหลังใหญ่อย่างกับวังแบบนี้เลย “หนูตามฉันมาเดี๋ยวฉันจะพาไปดูห้องนอน” คุณท่านเอ่ยบอกฉัน คงจะเห็นว่าฉันยืนนิ่งไม่ขยับ ก็ฉันกำลังตะลึงกับความใหญ่โตของบ้านอยู่นี่แหละฉันเดินตามคุณท่านขึ้นไปชั้นบน บ้านหลังนี้มีสามชั้น มันใหญ่โตมาก จริงๆ ตรงทางขึ้นมีรูปผู้หญิงสูงวัยติดอยู่ตรงผนัง ขนาดว่าอายุเยอะแล้วก็ไม่อาจทำรายความสวยของคนในภาพได้เลย ตอนเป็นสาวคงจะสวยมากแน่ๆก็เหมือนกับคุณท่าน ถึงคุณท่านจะอายุเยอะมากแล้วแต่ก็ยังดูดีไม่แก่ตามอายุ “ห้องนี้คือห้องนอนของหนู ส่วนห้องฉันจะอยู่ตรงข้าม” “อ้อ ค่ะๆ” ฉันพยักหน้าหงึกๆพรางปรายตามองไปรอบๆ ไม่คิดไม่ฝันว่าชีวิตฉันจะได้สัมผัสกับบ้านหลังใหญ่โตขนาดนี้ “หนูหน้าเหมือนแม่ตอนเป็นสาวเลยนะรู้มั้ย” คุณท่านพูดพร้อมกับยิ้มจางๆให้ฉัน รอยยิ้มของคุณท่านช่างอบอุ่นจริงๆ “แม่เคยบอกค่ะ ว่าหนูหน้าเหมือนแม่มาก พ่อก็เคยบอกเหมือนกัน” คุณท่านหุบยิ้มทันทีเมื่อฉันเอ่ยถึงพ่อ มีอะไรรึเปล่านะ “ถ้างั้นหนูไปพักผ่อนเถอะ เดี๋ยวถึงเวลาทานอ
—- Talk แสนดี —-ฉันฝันไปใช่มั้ย มันไม่จริงใช่มั้ย ฉันไม่ได้เสียความบริสุทธิ์ให้ใครใช่มั้ย “ฮึก...” ฉันก้มหน้าร้องไห้สะอื้นออกมา ถึงจะพยายามหลอกตัวเองยังไง สุดท้ายฉันก็หนีความจริงไม่พ้นอยู่ดี ฉันไม่รู้ว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร เขามาย้ำยีฉันทำไม ฉันไปทำอะไรให้เขา หรือว่าเขาจะเป็นเจ้าหนี้ของฉันอีกคน แต่มันไม่มีทางเป็นไปได้ ในเมื่อคุณท่านใช้หนี้ให้ฉันหมดทุกบาททุกสตางค์แล้ว คุณท่านที่ฉันพูดถึงคือคุณดนัย เป็นนักธุรกิจ ฉันรู้แค่คุณท่านรวยมาก รวยถึงขนาดใช้หนี้ให้ฉันตั้งหลายสิบล้าน ย้อนกลับไปเดือนก่อน วันงานศพแม่ของฉัน วันนั้นมีเจ้าหนี้มาทวงเงินที่พ่อของฉันเคยกู้ไป ตอนแรกฉันก็ไม่รู้ว่าเท่าไหร่เพราะแม่ไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้ ตั้งแต่พ่อเสียฉันรู้แค่ว่าฉันกับแม่มีหน้าที่หาเงินเพื่อมาใช้หนี้ให้ใครก็ไม่รู้ ฉันรู้แค่ว่าฉันต้องทำงานหนัก ต้องหาเงินได้เยอะๆ ฉันไม่เรียนต่อมหาวิทยาลัยเพื่อที่จะทำงานเก็บเงินช่วยแม่ แต่สุดท้ายแม่ก็จากฉันไป...วันนั้นหลังจากเผาศพแม่ของฉันเสร็จ จู่ๆ ก็มีคนมาจับตัวฉัน ขู่จะเอาเงินจากฉัน ถ้าฉันหาให้ไม่ได้พวกมันก็ขู่ว่าจะข่มขืน จะฆ่าฉัน ฉันคิดว่าตอนนั้นฉันคงไม่รอดแน่ๆ แต่แล
“ถอดชุดเธอออกซะ อย่าให้ฉันต้องฉีกมัน” เธอยืนตัวสั่นเทาและไม่ยอมถอดชุดออกตามคำสั่งของผม สงสัยคงจะชอบความรุนแรง “ยะ อย่าทำอะไรฉันเลยนะ วันนี้เป็นวันแต่งงานของฉัน ถ้าคุณท่านรู้คุณไม่รอดแน่ๆ” ท่าทางของเธอเหมือนจะกลัวผม แต่เธอกลับพูดขู่ผม หึ!! กล้าดีหนิ “คำขู่ของเธอมันใช้กับฉันไม่ได้ผลหรอก...แสนดี” “คะ คุณรู้จักชื่อฉันได้ไง คะ คุณเป็นใครกันแน่” “จะถามให้เสียเวลาทำไม ถอดชุดออก !!” ผมตะคอกใส่เธอ แต่ก็ก็ไม่ยอมถอดชุดของเธอออกอยู่ดี เธอกำลังทำให้ผมหงุดหงิดเล่นตัวเก่งจริงๆ ผมคว้ามือไปจับแขนเธอ ก่อนจะออกแรงกระชากแรงๆให้เธอเดินตามผมออกมาจากห้องน้ำ “อย่านะ อย่าทำอะไรฉันเลยฉันขอร้อง ได้โปรด” “ช่วยด้วยค่ะ ช่วยด้วยใครก็ได้ช่วยฉันด้วย” ผลัก! ตุบ! ผมเหวี่ยงร่างเธอลงเตียงอย่างแรงแบบไม่คิดจะปราณี “หุบปากแล้วเก็บเสียงเอาไว้ครางให้ฉันฟังดีว่า” “ฮึก ยะ อย่าทำอะไรฉันเลย ฮึก” เธอถอยหนีผมไปจนติดขอบเตียง พรางยกมือไหว้ขอร้องอ้อนวอนผม ทำตัวเหมือนไม่เคยผ่านผู้ชายมา คิดว่าผมจะเชื่อผู้หญิงที่แต่งงานกับพ่อผมเพื่อแลกกับเงินอย่างเธอรึไง ผมค่อยๆปลดกระดุมเสื้อของตัวเองออกทีละเม็ดๆ สายตาจ้องมองไปที่แม่เลี้ยงข
สวัสดีครับผม ‘โชน’ อย่ารู้จักผมมากไปกว่านี้เลยจะดีกว่า เพราะผมไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา —- งานมงคล —- วันนี้เป็นวันดี วันที่เหมาะแก่การจัดงานแต่งงาน วันที่ทุกคนควรจะมีความสุข หึ!! แต่สำหรับผมมันไม่ใช่ นี่ไม่ใช่งานแต่งของผมเพราะผมไม่คิดที่จะแต่งงานอยู่แล้ว แต่นี่เป็นงานแต่งของพ่อผมต่างหาก ไม่รู้ไปคว้าเอาผู้หญิงจากซ่องที่ไหนมา ผู้หญิงคนนั้นก็คงจะเห็นแก่เงินถึงได้ยอมแต่งกับพ่อของผม ถ้าเธอบอกว่ารักพ่อของผม ผมไม่มีทางที่จะเชื่อเด็ดขาด เพราะพ่อของผมอายุจะ60อยู่แล้ว ผู้หญิงที่เข้าหาพ่อของผมก็มีแต่เข้ามาเพราะเงินกันทั้งนั้น แม่ของผมเสียไปเมื่อสองปีที่แล้ว และผมกับพ่อกับก็ไม่ค่อยจะลงลอยกันเท่าไหร่ อยู่ด้วยกันทีไรก็มีแต่จะทะเลาะกันตลอด กับมีบ้านของผมต่างหาก แม้ขนาดจะแต่งงานใหม่ พ่อยังไม่บอกผมสักคำ หึ!! กลัวว่าผมจะมาพังงานแต่งละสิ ผมไม่ทำอย่างนั้นหรอก ทำอย่างอื่นสนุกกว่าเยอะ ลูกน้องผมมันบอกว่าเมียใหม่ของพ่อคนนี้ท่าทางใช้ได้ มันถ่ายรูปมายืนยันให้ผมดู น่าเอาจริงๆ ไม่แปลกใจว่าทำไมพ่อผมถึงหลงจนถึงขั้นคิดที่จะแต่งงานใหม่ โดยไม่สนใจรูปแม่ที่แควนอยู่ในบ้านเลยสักนิด“เมียพ่อกูอยู่ไหน” ผมหันไปถามล