แกรก แอดเจ้าขาเปิดประตูห้องให้บิดาพร้อม ๆ กับใบหน้าที่ยิ้มแย้มค่อย ๆ หุบลง เมื่อพบว่าบิดาไม่ได้แวะมาเยี่ยมเธอเพียงคนเดียว หากแต่ท่านกลับพาคุณดารินแม่เลี้ยงของเธอและจอมขวัญน้องสาวต่างมารดามาด้วย ดารินยิ้มให้เจ้าขาด้วยความดีใจที่ได้แวะมาหาลูกสาวคนโตเด็กสาวที่เธอเลี้ยงมาตั้งแต่เด็กและเจ้าขาก็เรียกเธอว่า “แม่ดา”“สวัสดีค่ะคุณพ่อ แม่ดา”เจ้าขายกมือไหว้บิดากับมารดาเลี้ยง ก่อนที่ท่านอธิปจะเดินเข้ามาในห้องพักของเธอและนั่งลงบนโซฟาตัวใหญ่พร้อมกับมองไปรอบ ๆ ห้องอย่างสำรวจตรวจตรา เพราะนานมากแล้วที่เขาไม่ได้มาเยี่ยมเยียนลูกสาวคนโต เจ้าขารีบเดินไปเปิดตู้เย็นรินน้ำใส่แก้วและยกมาให้ทุกคน ก่อนที่จะนั่งลงตรงข้ามกับบิดา โชคดีที่วันนี้เธอใส่เสื้อไหมพรมที่คอเสื้อปกปิดทั้งลำคอ ไม่อย่างนั้นทุกคนคงตกใจกับรอยแดงที่คอของเธออย่างแน่นอน“สวัสดีค่ะพี่เจ้าขา เมื่อเช้าขวัญโทรมาแล้วแต่เพื่อนพี่เจ้าขาที่ชื่อไทน์นี่เป็นคนรับสาย เขาบอกว่าพี่เจ้าขาหลับอยู่ ขวัญเลยฝากบอกว่าขวัญโทรมา”จอมขวัญแสร้งบอกพี่สาวด้วยรอยยิ้ม ในขณะที่เจ้าขาขมวดคิ้วน้อย ๆ ด้วยความแปลกใจเมื่ออยู่ ๆ จอมขวัญก็บอกว่าเพื่อนของเธอเป็นคนรับสาย แล้วไทน์นี
โรงพยาบาล Nแกรก แอดกองทัพเปิดประตูห้องทำงานออกอย่างอารมณ์ดีพร้อมกับฮัมเพลงเบา ๆ ไปด้วยโดยที่ไม่ทันสังเกตว่า มีใครบางคนมานั่งรอตัวเองอยู่ในห้องทำงานก่อนหน้าแล้ว ร่างสูงเดินเอาของไปเก็บในตู้เสื้อผ้าพร้อมกับหยิบเสื้อกราวน์ออกมาสวมก่อนที่จะหันกลับมาและพบว่า...“อุ้ย!! ตกใจหมดเลย”กฤษฎิ์นั่งอยู่บนเก้าอี้ทำงานของหลานชายพร้อมกับมองคนที่ส่งยิ้มแหย ๆ มาให้ตน ก่อนที่กองทัพจะเดินไปนั่งลงบนโซฟาอย่างสงบเสงี่ยม เพราะสายตาของปู่ที่มองมายังตัวเองเต็มไปด้วยสายตาที่กำลังจับผิดอย่างชัดเจน“เห็นว่าเมื่อวานลาป่วย ปู่ก็รีบมาทำงานแต่เช้าเพื่อมาดูว่าวันนี้หลานปู่หายดีหรือยัง แต่ดูจากท่าทางอารมณ์ดีที่ยิ้มจนปากจะฉีกไปถึงหูแล้ว หลานปู่ท่าทางจะป่วยการเมืองสินะ”คำทักท้วงของผู้เป็นปู่ทำเอากองทัพได้แต่นั่งเม้มปากอย่างรู้สึกผิดเล็กน้อย เพราะตั้งแต่ที่เขาก้าวเข้าสู่อาชีพของหมอกองทัพไม่เคยลาป่วยเลยสักครั้ง เมื่อวานคือครั้งแรกที่การลาป่วยของเขาถูกบันทึกลงในประวัติการทำงานซึ่งมันก็ไม่แปลกที่ปู่จะแวะมาเพื่อจับผิดเขา เพราะสายตาของปู่ไม่ได้บอกเลยสักนิดว่าเป็นห่วงที่เขาป่วย แต่แววตาของปู่กำลังบอกชัดว่า“อย่าคิดว่าปู่ไม่
หลายวันต่อมา“เวียนหัวจังเลย”เจ้าขาตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการปวดหัวและวิงเวียนศีรษะจนแทบลุกไม่ขึ้น แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ฝืนตัวเองลุกขึ้นมาจนได้ วันนี้เจ้าขามีถ่ายรายการตั้งแต่เช้า ซึ่งงานนี้เธอจะไม่ไปก็ไม่ได้เพราะได้รับปากพิธีกรซึ่งเป็นพี่สาวคนสนิทในวงการของเธอเอาไว้ว่า ถ้าคิวว่างเมื่อไหร่เธอต้องไปเยือนรายการอย่างแน่นอนซึ่งก็คือวันนี้นั่นเอง“อุ๊บ อื้อ”อาการเวียนหัวยังไม่ทันหายอาการคลื่นไส้ก็เข้ามาแทรก เจ้าขายกมือขึ้นปิดปากก่อนที่จะลุกพรวดลงจากเตียงแล้ววิ่งไปเข้าห้องน้ำทันที ด้วยเธอไม่สามารถกลั้นอาเจียนเอาไว้ได้จริง ๆ แต่เมื่อเข้าห้องน้ำมาเจ้าขากลับอาเจียนออกมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่อาการพะอืดพะอมก็ยังคงเล่นงานเธอไม่หยุด จนเจ้าขาต้องโก่งคออาเจียนต่อ ทว่าก็ไร้สิ่งใดออกมาก่อนที่เธอจะลุกขึ้นแล้วบ้วนทำความสะอาดช่องปากดวงตากลมโตมองภาพสะท้อนของตัวเองในกระจก ใบหน้าของเธอช่างซีดเซียวไร้เลือดฝาดเพราะอาการนี้ไม่ได้เกิดกับเธอแค่เพียงวันเดียว แต่หลังจากวันนั้นวันที่เจ้าขาได้กลิ่นกุยช่าย ตั้งแต่นั้นอาการนี้ก็ยังคงมีมาเรื่อย ๆ ในทุก ๆ เช้าหรือบางวันที่เธอเพิ่งทานมื้อเช้าได้เพียงคำเดียว ก็ต้องวิ่ง
โรงพยาบาล N“ยินดีด้วยนะคะ คุณแม่ตั้งครรภ์ได้ 8 สัปดาห์แล้วค่ะ”คำบอกเล่าของคุณหมอวัยกลางคนที่อยู่ตรงหน้าทำเอามือของเจ้าขาสั่นระริกอย่างไม่สามารถควบคุมได้ หยาดน้ำตาพลันไหลรินลงมา จนหน้ากากผ้าที่เธอสวมอยู่เปียกชุ่มไปด้วยหยดน้ำตา เมื่อเธอต้องพบเจอกับเรื่องไม่คาดฝัน ที่เกิดขึ้นจากความสะเพร่าและอารมณ์เพียงชั่ววูบของเธอ ถ้าหากคืนนั้นเธอไม่หลงใหลไปกับเจ้าของแววตาสีน้ำตาลคู่นั้น เธอก็คงไม่ต้องมานั่งเสียใจในวันนี้“ฮึก ฮือ”ไหล่บอบบางสะท้านขึ้นลงไปมาพร้อม ๆ กับน้ำตาที่ไหลลงมาอาบแก้มไม่ขาดสาย เจ้าขาเป็นดาราที่ขึ้นชื่อในเรื่องการเข้าถึงอารมณ์การแสดงได้ค่อนข้างดี โดยเฉพาะบทดราม่าเคล้าน้ำตาเธอตีทุกบทแตกได้ทุกบทบาทการแสดง แต่ครั้งนี้เธอกลับไม่ได้กำลังแสดงอยู่ หากแต่เธอกำลังร้องไห้ออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจ เมื่อเรื่องที่ไม่คาดคิดและตั้งรับมาก่อนกำลังเกิดขึ้นกับเธอ“คุณแม่ใจเย็น ๆ ก่อนนะคะ”แพทย์หญิงเจ้าของไข้รีบกุลีกุจอหยิบกระดาษทิชชูยื่นให้คุณแม่มือใหม่ เธอกลั้นสะอื้นพลางยื่นมือที่สั่นเทาไปรับกระดาษมาซับน้ำตาที่ทำอย่างไรก็ไม่ยอมหยุดไหล เพราะความรู้สึกของเจ้าขาในตอนนี้ราวกับโลกแห่งความสุขที่เธอกำลังย
“อะ เอ่อ คุณไค”น้ำเสียงเบาหวิวเอ่ยทักอีกฝ่ายด้วยความตกใจและแปลกใจ เพราะเธอไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าแท้ที่จริงแล้ว ไค แมคคินสัน พ่อของลูกในท้องเธอจะเป็นถึงคุณหมอ ในขณะที่ร่างสูงของกองทัพรีบเดินเข้ามานั่งลงข้าง ๆ เจ้าขาบนเตียงและจับไปตามเนื้อตัวของเธออย่างลืมตัวด้วยความเป็นห่วง“ป่วยเป็นอะไรครับ ทำไมถึงได้เข้าโรงพยาบาล”น้ำเสียงอ่อนโยนที่ถามเจ้าขาทำเอาหัวใจดวงน้อยของเธอสั่นไหว ไหนจะสายตาที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วงเป็นใยอย่างปิดไม่มิดนั่นอีก แต่เธอก็พยายามกล้ำกลืนทุกความรู้สึกที่มีเก็บไว้ในใจ แล้วดึงมือของเขาออกช้า ๆ กองทัพที่เพิ่งรู้ตัวว่าเผลอทำตัวรุ่มร่ามกับเธอก็รีบปล่อยมือบางให้เป็นอิสระทันที แต่ยังคงไม่ยอมลุกจากเตียงคนไข้ทั้ง ๆ ที่ข้างเตียงก็มีเก้าอี้ให้นั่ง“พอดีเจ้าขาตากฝนนิดหน่อยน่ะค่ะเลยรู้สึกไม่สบายตัว อีกอย่างเจ้าขาก็อยากลองเปลี่ยนบรรยากาศมานอนเล่นที่โรงพยาบาลบ้าง อยากลองอู้งานมานานแล้ว”เอ่ยอย่างติดตลกให้คุณหมอหลุดขำออกมา ซึ่งรอยยิ้มนั้นของร่างสูงทำเอาหัวใจดวงน้อยเต้นแรงไม่หยุด เพราะทุกครั้งที่เขายิ้ม มันเหมือนกับโลกทั้งใบสว่างสดใสขึ้นมา ทำเอาเจ้าขาอดที่จะยิ้มตามเขาไม่ได้ผู้ชายคนน
แกรก แอดดึกสงัดคืนนั้นกองทัพเปิดประตูห้องคนไข้ของเจ้าขาเข้ามาอย่างเงียบเชียบ ใบหน้าสวยหวานยามนี้นอนหลับสนิทราวกับเด็กน้อย กองทัพเดินไปยืนข้าง ๆ เตียงและค่อยดึงผ้าห่มที่กองอยู่ตรงเอวบางขึ้นมาห่มให้ร่างเล็กทั้งตัว เพราะช่วงดึกอากาศจะเย็นลงเขากลัวคุณดาราสาวจะหนาวจนนอนไม่สบายตัวคุณหมอที่แอบถือวิสาสะค่อย ๆ ก้มลงไปแตะริมฝีปากประทับบนหน้าผากมนอย่างแผ่วเบา เจ้าขาขยับตัวเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ลืมตาตื่นขึ้นมาแต่อย่างใด ลมหายใจที่เข้าออกอย่างสม่ำเสมอบ่งบอกว่าเธอยังคงหลับสนิท เมื่อเห็นดังนั้นคุณหมอหนุ่มจึงเดินไปล้มตัวลงนอนบนโซฟาเพื่อนอนเฝ้าคนไข้ในค่ำคืนนี้ ดูท่าแล้วเจ้าขาน่าจะไม่ได้บอกพี่เอมมี่ด้วยซ้ำว่าเข้าโรงพยาบาล เพราะอาจจะกลัวพี่เอมมี่ไม่สบายใจแต่ไม่เป็นไร เดี๋ยวคุณหมอ กองทัพคนนี้จะนอนเฝ้าและดูแลเจ้าขาเองเช้าวันต่อมาเจ้าขาลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกวิงเวียนศีรษะและอาการคลื่นไส้ที่มักจะเล่นงานเธอในทุก ๆ เช้า ร่างบางผุดลุกขึ้นแต่กลับติดเข็มน้ำเกลือที่เสียบอยู่ที่มือของเธอ เมื่อรู้สึกพะอืดพะอมจนทนไม่ไหวก็ตัดสินใจดึงเข็มน้ำเกลือออก ทำให้เลือดที่มือไหลหยดลงบนพื้นทันที แต่เจ้าขากลับไม่ได้มีเวลาส
“เข้าโรงพยาบาลทำไมไม่บอกแม่ล่ะคะลูกสาว”เอมมี่ถามเจ้าขาด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงความห่วงใยอย่างชัดเจน แต่ถึงอย่างนั้นใบหน้าก็ยังคงติดจะงอนอยู่สักเล็กน้อยที่น้องสาวคนสนิทเข้าโรงพยาบาลแล้วไม่บอกเธอ เมื่อวานตอนที่แยกกันเธอก็เข้าใจว่าเจ้าขากลับมาพักผ่อนที่ห้องเรียบร้อยแล้ว จนกระทั่งวันนี้ที่เธอแวะมาหาเพื่อคุยรายละเอียดเรื่องงานที่เธอไปคุยมาเมื่อวานถึงได้รู้ลูกสาวของเธอไม่ได้อยู่ห้อง สภาพที่นอนผ้าห่มถูกพับเก็บอย่างเรียบร้อยราวกับว่าเจ้าขาไม่ได้กลับมานอน ทำให้เธอรู้สึกร้อนใจและเป็นกังวล พยายามกดโทรออกหาเจ้าขาก็ไม่ยอมรับสาย ที่ไหนได้ลูกสาวเธอเพิ่งกลับเข้าห้องมาวันนี้ นี่ถ้าเธอไม่แอบเห็นถุงยาในกระเป๋า ยัยตัวดื้อคนนี้ก็คงไม่ยอมสารภาพอย่างแน่นอนว่าแอบไปแอดมิดที่โรงพยาบาลมา“เจ้าขาขอโทษนะคะพี่เอมมี่ เจ้าขาไม่อยากให้พี่เอมมี่เป็นห่วง อีกอย่างแค่เป็นไข้และก็อ่อนเพลียเพราะพักผ่อนไม่เพียงพอแค่นั้นเอง อย่าโกรธเจ้าขาเลยนะคะ นะ ๆ พี่เอมมี่คนสวยของเจ้าขา”เจ้าขาขยับเข้ามากอดเอมมี่ไว้พร้อมกับใบหน้าสวยที่ถูไถแขนเล็กของเอมมี่อย่างอ้อน ๆ แต่พี่สาวสุดที่รักกลับสะบัดหน้าไปอีกทางด้วยความรู้สึกที่ทั้งเป็นห่วงและโ
“เจ้าขาของคุณแม่สวยมาก ๆ เลยค่ะ”เอมมี่ยกนิ้วให้เจ้าขาอย่างชื่นชม วันนี้เจ้าขาสวยมากสวยราวกับเทพธิดานางฟ้าบนสวรรค์ที่แอบมาวิ่งเล่นยังโลกมนุษย์ เจ้าขาได้แต่ยิ้มรับคำชมของพี่เอมมี่ก่อนที่จะหันไปมองตัวเองที่อยู่ในกระจก ชุดที่พี่เอมมี่เลือกให้เธอในวันนี้สวยจริง ๆ เหมาะสำหรับงานประกาศรางวัลในค่ำคืนนี้ ซึ่งมีชื่อเธอเข้าชิงรางวัลนักแสดงนำหญิงดีเด่นประจำปีนี้ตั้งแต่เข้าวงการมาเธอได้รับรางวัลมาแล้วหลายรางวัล แต่รางวัลนักแสดงนำหญิงดีเด่นเธอเพิ่งได้รับปีที่แล้วเป็นปีแรก และปีนี้ก็มีรายชื่อของเธอเข้าชิงเหมือนเช่นเคย เพราะละครเรื่องล่าสุดของเธอที่กำลังฉายอยู่บนจอแก้วกำลังดังและเรตติ้งดีมาก ๆ ซึ่งเจ้าขาเองก็ปลาบปลื้มใจไม่น้อยที่ทุกคนต่างเอ็นดูตัวละครที่เธอเล่น“งานนี้หนุ่ม ๆ คงมากันเยอะทีเดียว โอ๊ยคุณแม่ตื่นเต้นจังเลย จะได้เห็นคนหล่อมารวมตัวกันให้เป็นบุญตาอีกแล้ว”เอมมี่วี้ดว้ายด้วยความตื่นเต้นเพราะเวลาที่มีงานประกาศรางวัลทีไรทั้ง นักแสดง นายแบบ นางแบบ รวมถึงนักร้อง ทุกคนจะมารวมตัวกันที่งานนี้เพื่อลุ้นผลประกาศรางวัล มันทำให้เอมมี่ได้เจอทั้งคนสวยและคนหล่อมากหน้าหลายตาในเวลาเดียวกัน ผิดกับเจ้าขาที่ร
ที่รักค่อย ๆ เดินเข้ามาในห้องนอนของสามีโดยที่มีชมพู่เด็กรับใช้คอยช่วยพยุง ก่อนที่เธอจะเดินมานั่งลงบนเตียงใหญ่ที่มีร่างที่ไร้ลมหายใจของคู่ชีวิตนอนอยู่ มือที่สั่นเทาค่อย ๆ เอื้อมไปจับมือของสามีขึ้นมาแนบแก้ม ก่อนที่หยดน้ำตาจะหลั่งรินกระทบฝ่ามือใหญ่ที่เคยตอบรับสัมผัสกัน แต่บัดนี้ไม่มีความรู้สึกใด ๆ อีกต่อไปแล้ว“หลับให้สบายนะคะพี่หมอของที่รัก ไม่ต้องเป็นห่วงลูก ๆ หลาน ๆ แล้วนะ ที่รักสัญญาว่าจะดูแลทุกคนเป็นอย่างดีให้เหมือนตอนที่พี่หมอยังอยู่”น้ำเสียงสั่นเครือเอ่ยขึ้นมาด้วยความรู้สึกที่เจ็บปวดไปทั้งสรรพางค์กาย หัวใจที่เคยมีความสุขก่อนหน้านี้กลับเศร้าหมอง ทั้ง ๆ ที่ทำใจมาบ้างแล้ว เพราะสามีของเธอนั้นบอกกับเธอเสมอว่า เขาอายุมากแล้วและอาจจะอยู่ได้อีกไม่นาน ขอให้เธอเข้มแข็งและทำใจให้ได้ แต่พอเอาเข้าจริง เวลาที่เธอไม่อยากให้เดินทางมาถึง กลับมาถึงเร็วกว่าที่คิดมันเลยทำให้เธอนั้นทำใจยากเหลือเกิน“หากชาติหน้ามีจริง ขอให้เราสองคนได้เกิดมาคู่กันและเป็นสามีภรรยากันแบบนี้ตลอดไป แต่ชาติหน้าอย่าทำให้ที่รักเสียใจอีกนะคะ ชาตินี้ที่รักรักพี่หมอก่อน ชาติหน้าขอให้พี่หมอรักที่รักก่อนนะคะ ที่รักสัญญาว่าจะรักพี่
วันหยุดสุดสัปดาห์คฤหาสน์พิสิฐกุลวัตรดิลก“กราบครับคุณทวด”น้องเกรย์กับน้องกรรฐ์ประนมมือขึ้นก่อนที่จะก้มลงกราบบนตักของคุณทวดที่รัก ที่ยกมือขึ้นลูบหัวของเหลนชายฝาแฝดทั้งสองคนด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน ก่อนที่เหลนทั้งสองคนจะเงยหน้าพร้อมกับลุกขึ้นไปนั่งข้าง ๆ คุณทวดเมื่อท่านพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาต“พี่ขวัญล่ะครับ ทำไมถึงไม่มากับพวกเราด้วย”ที่รักถามเหลนทั้งสองด้วยน้ำเสียงที่ยังคงความอ่อนหวานเช่นเคย ก่อนที่น้องเกรย์จะหยิบตะกร้าที่บรรจุด้วยขนมหวานขึ้นมาวางเอาไว้บนตักและตอบคำถามของคุณทวดด้วยรอยยิ้มที่สดใส“พ่อทัพพาพี่ขวัญไปส่งที่บ้านย่าแก้มครับ คุณย่าโทรมาหาตั้งแต่เช้า บอกว่าคิดถึงพี่ขวัญมากไม่มีเพื่อนเล่นไพ่นกกระจอก พ่อทัพก็เลยพาพี่ขวัญไปหาคุณย่าครับ ส่วนพวกเราสองคนวันนี้ตั้งใจมาหาคุณทวดครับ นี่ครับคุณทวด ขนมที่พ่อทัพกับพี่ขวัญตื่นมาช่วยกันทำตั้งแต่เช้า กำชับแล้วกำชับอีกว่าให้แฝดนำมาให้ทวดชิม พ่อทัพบอกว่าคุณทวดชอบกินขนมเทียนแก้วมาก ตอนเด็ก ๆ ก็ชอบทำให้พ่อทัพกินบ่อย ๆ”น้องเกรย์ตอบคำถามคุณทวดจบก็หยิบขนมขึ้นมาหนึ่งชิ้นและแกะออกจากห่อใบตองที่ห่ออย่างประณีตสวยงาม ก่อนที่จะยื่นไปตรงหน้าของคุณทวดที่อ้
ก๊อก ก๊อก ก๊อกเสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นทำให้ของขวัญที่กำลังนอนอ่านหนังสืออยู่บนเตียงนอนใหญ่ค่อย ๆ หันไปมองประตูที่ถูกเปิดเข้ามา ดวงตากลมโตพลันเบิกกว้างด้วยความดีใจ เพราะคนที่กำลังวิ่งดุกดิกเข้ามาหาเธอก็คือน้องชายฝาแฝดตัวแสบนั่นเอง“ดึกแล้วทำไมยังไม่พากันนอนอีกครับ พี่เกรย์น้องกรรฐ์”ของขวัญถามน้องชายทั้งสองคนที่กำลังกระโดดขึ้นมาบนเตียงนอนของเธอคนละฝั่ง พร้อมกับทิ้งตัวลงนอนบนเตียงใหญ่ด้วยรอยยิ้มทั้งคู่ ก่อนที่เกรย์จะตบหมอนของพี่สาวเบา ๆ ของขวัญก็ทิ้งตัวลงนอนข้าง ๆ น้องชายทั้งสองคนด้วยรอยยิ้มอย่างมีความสุข“พี่เกรย์ชวนน้องกรรฐ์มานอนเป็นเพื่อนพี่ขวัญครับ”คำตอบของน้องชายคนเล็กทำเอาของขวัญถึงกับเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจ เพราะตั้งแต่ที่เธอขึ้นชั้นมัธยม สองแฝดก็ไม่เคยมานอนกับเธออีกเลย ไม่รู้ว่าพอโตขึ้นเป็นหนุ่มแล้วเขินเธอหรือเปล่า ทั้งคู่ถึงไม่ยอมมานอนด้วยกันเหมือนเมื่อครั้งยังเป็นเด็กตัวเล็ก ๆ“เกรย์ไม่อยากให้พี่ขวัญต้องนอนเหงาคนเดียวครับ อย่างน้อย ๆ มีน้องกรรฐ์กับเกรย์มานอนด้วยคืนนี้จะได้นอนหลับฝันดี”ประโยคที่แฝงไปด้วยความห่วงใยจากน้องชายคนโต ทำเอาของขวัญถึงกับน้ำตารื้นด้วยความซาบซึ้งใจกับค
5 ปีผ่านไปห้องเรียน“โอเคค่ะทุกคน วันนี้คุณครูก็ขอจบการสอนไว้เพียงเท่านี้ พรุ่งนี้เจอกันใหม่ อย่าลืมเอาการบ้านไปส่งคุณครูด้วยนะคะ ใครช้าได้ออกมาแก้โจทย์ให้เพื่อน ๆ ดูแน่ ๆ”เมื่อคุณครูสาวกล่าวจบและเก็บของออกจากห้องเรียนไปแล้วพี่เกรย์กับน้องกรรฐ์ที่นั่งอยู่ข้าง ๆ กันก็รีบเก็บสมุดหนังสือลงใต้โต๊ะเรียนทันที ก่อนที่สองพี่น้องจะหันมาพยักหน้าอย่างรู้กัน พร้อมกับลุกขึ้นเตรียมที่จะเดินออกไปจากห้องเรียนเพื่อไปทานมื้อเที่ยงที่โรงอาหารแต่ยังไม่ทันที่สองหนุ่มจะเดินไปถึงหน้าห้องเรียน เด็กหญิงน้ำหวานกับเด็กหญิงลูกพีช เพื่อนร่วมห้องที่แอบชอบสองแฝดก็รีบวิ่งมายืนดักหน้าทั้งสองหนุ่มทันที ทำเอาสองพี่น้องรีบกระโดดถอยหลัง ราวกับว่าสองสาวตรงหน้า คือตัวเชื้อโรคที่ทั้งสองคนไม่อยากอยู่ใกล้อย่างไรอย่างนั้น“เกรย์ กรรฐ์วันนี้ไปกินข้าวกับพวกเรานะ”น้ำหวานเอ่ยปากชวนสองหนุ่มด้วยรอยยิ้ม แต่สองแฝดกลับส่ายหน้าไปมาพร้อม ๆ กันราวกับนัดหมาย ทำเอารอยยิ้มของเด็กหญิงน้ำหวานค่อย ๆ จางหายไปจากใบหน้าสวยหวานของเด็กหญิงวัยสิบขวบ เมื่อเพื่อนชายที่เธอแอบชอบมาตลอดปฏิเสธที่จะไปทานมื้อเที่ยงด้วยกัน“แต่พวกเราสองคนชวนกรรฐ์กับเกรย์ท
โรงพยาบาล Nวันหยุดสุดสัปดาห์กองทัพจูงมือลูกชายทั้งสองคนมาตามทางเดินของโรงพยาบาลของครอบครัว เนื่องจากวันนี้เขากับเจ้าขาต้องออกงานสังคม จึงพาลูกชายทั้งสองคนมาหาคุณทวดที่โรงพยาบาล เพราะพอถึงวันหยุดทีไรพี่เกรย์มักจะชอบมาขลุกอยู่ที่นี่ เพื่อดูคุณทวดทำงานและนั่งอ่านหนังสือเงียบ ๆ อยู่เสมอ ส่วนน้องกรรฐ์ส่วนใหญ่แล้วจะชอบไปเล่นกับคุณปู่คุณย่า แต่วันนี้น้องชายฝาแฝดกลับอยากมาหาคุณทวดที่โรงพยาบาลกับพี่ชายมากกว่าที่จะไปเล่นกับคุณปู่คุณย่าที่บ้านใหญ่“’งื้อ เลือดเต็มเลยอะ พี่เกรย์น้องกรรฐ์กลัว”แฝดน้องยกมือขึ้นปิดตาก่อนจะโผเข้ากอดพี่ชายที่เดินจูงมือกันมาด้วยความกลัว เพราะเด็กชายตัวน้อยนั้นไม่ชอบเลือดเป็นที่สุด ถึงแม้ว่าบางครั้งจะหกล้มจนได้เลือด เจ้าคนเล็กของบ้านก็จะไม่ยอมมองแผลของตนเองเลย ในขณะที่แฝดพี่ยกมือขึ้นกอดน้องชายเอาไว้หลวม ๆ ทำเอาคุณพ่อยิ้มออกมาน้อย ๆ กับความรักของสองพี่น้อง ที่พี่เกรย์นั้นมักจะเป็นที่พึ่งพิงให้น้องชายเสมอ“ไม่เห็นน่ากลัวเลยน้องกรรฐ์ มันก็แค่เลือดเอง”เกรย์บอกน้องชายเมื่อรถเข็นเตียงพยาบาลวิ่งผ่านไปแล้ว ก่อนที่น้องกรรฐ์จะค่อย ๆ หันหน้ากลับมาแล้วส่งยิ้มแหย ๆ ให้บิดาที่กำลัง
เวลาที่ผ่านไปเรื่อย ๆ จากเด็กน้อยวัยหนึ่งขวบเติบโตขึ้นเป็นเด็กชายตัวน้อยวัยห้าขวบที่บุคลิกของทั้งสองคนนั้นแตกต่างกันอย่างชัดเจน โดยที่พี่เกรย์นั้นนิ่งมากขึ้นไม่ซุกซน เป็นเด็กว่านอนสอนง่ายในขณะที่น้องกรรฐ์นั้นดื้อและซนจนกองทัพกับเจ้าขาถึงกับกุมขมับแทบจะทุกวัน“อะ เราให้”เด็กชายกรรฐ์ยื่นอมยิ้มรสโปรดให้กับชมพูเพื่อนสาวต่างห้องที่น้องกรรฐ์แอบปลื้มอยู่ในระหว่างที่รอบิดากับมารดามารับหลังเลิกเรียน ชมพูมองอมยิ้มของเพื่อนต่างห้องที่ยื่นมาให้เธอ พร้อมกับรอยยิ้มที่สาวน้อยมองว่าน่ารักมาก ก่อนที่ชมพูจะยื่นมือไปหยิบอมยิ้มมาจากมือของกรรฐ์“ขอบใจนะ”เด็กหญิงชมพูเอ่ยขอบคุณเพื่อนต่างห้องก่อนที่เด็กน้อยจะเปิดกระเป๋านักเรียนและเก็บอมยิ้มเอาไว้ในนั้นพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมาส่งยิ้มขอบคุณเพื่อนต่างห้องอีกครั้ง “ถ้าชมพูชอบกรรฐ์จะเอามาฝากทุกวันเลย”เด็กชายกรรฐ์บอกเพื่อนตัวเล็กด้วยรอยยิ้ม ก่อนที่มือเล็กของ ๆ พี่เกรย์จะบิดเข้าที่หูของน้องชายทำเอาน้องกรรฐ์ถึงกับร้องเสียงหลงด้วยความเจ็บ เพราะแรงบิดของพี่ชายนั้นไม่ใช่เบา ๆ เลยสักนิด ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเกือบทุกวันที่น้องกรรฐ์หนีพี่ชายมาเต๊าะสาว ๆ ในระหว่างที
หลังกลับมาจากท่องเที่ยวสองแฝดที่ไม่รู้จักคำว่าเหน็ดเหนื่อยก็พากันนั่งเล่นของเล่นไม่ยอมหลับไม่ยอมนอน ทำเอากองทัพที่วางแผนจะแอบแซ่บกับเมียจ๋าต้องหันไปมองลูกชายด้วยสายตาตัดพ้อ ส่วนน้องกรรฐ์กับพี่เกรย์ที่ไม่รู้เท่าทันแผนของบิดาได้แต่หันมายิ้มร่าให้กับกองทัพอย่างไร้เดียงสา“ไม่ต้องมายิ้มให้พ่อเลยนะเจ้าแฝด นี่ก็สี่ทุ่มแล้วทำไมตาใสแจ๋วแบบนี้ ง่วงบ้างไหมลูก ง่วงหน่อยนะ ง่วงสักนิดก็ยังดีลูกจ๋า ไปนอนกันดีไหมเดี๋ยวพ่อร้องเพลงกล่อมนอน”กองทัพถามลูกชายที่มองหน้าบิดาพร้อมกับกะพริบตาปริบ ๆ ด้วยไม่เข้าใจในสิ่งที่บิดากำลังพูดกับตนเอง ก่อนที่เด็กชายทั้งสองคนจะเมินพ่อและหันกลับไปนั่งเล่นของเล่นกันต่อทำเอาคุณพ่อได้แต่ทำหน้าคล้ายจะร้องไห้ที่สองแฝดไม่ยอมง่วงนอนสักทีจันทร์กนกที่เดินลงบันไดมามองลูกเขยด้วยความเห็นใจ ดูเหมือนว่าค่ำคืนนี้ลูกเขยน่าจะอยากใช้เวลากับลูกสาวของเธอสองต่อสองสินะ คิดได้ดังนั้นสองเท้าก็ไม่รอช้าที่จะเดินลงมาหาหลานชายทั้งสองที่พากันเล่นของเล่นอย่างไม่รู้สึกเหนื่อยหรือง่วงเลยแม้แต่น้อย พลังเยอะเหลือเกินนะหลานยาย“ทัพไปนอนเถอะลูก เดี๋ยววันนี้สองแฝดปล่อยให้เป็นหน้าที่ของแม่เองอยู่กับยายเจ้าแ
เวลาผ่านไปเรื่อย ๆ จากหนึ่งวันสู่หนึ่งเดือนและหนึ่งเดือนเดินทางมาจนครบหนึ่งปี พี่เกรย์กับน้องกรรฐ์ต่างได้รับการเลี้ยงดูและเอาใจใส่เป็นอย่างดีจากกองทัพและเจ้าขา รวมไปถึงเด็กหญิงของขวัญที่รักและเอ็นดูน้องชายฝาแฝดทั้งสองคนมากระหว่างทางของการเติบโตจากวัยทารกก้าวไปสู่วัยหนึ่งขวบ เด็กชายฝาแฝดทั้งสองคนต่างได้รับความรักจากคุณทวดทั้งสองคนที่หลงรักหลานชายที่ขี้อ้อนจนหมดใจ หากแต่เมื่อไหร่ที่แฝดอยู่กับย่าแก้มแล้วนั้น เด็กชายทั้งสองคนเป็นต้องหาเรื่องงอแงใส่ผู้เป็นย่าจนแก้มใสถึงกับกุมขมับทุกครั้งที่แวะมาหาหลานรักทั้งสองคน พร้อมกับตบท้ายด้วยการงอนหลานกลับบ้านทุกครั้งอยู่ร่ำไปเมื่อเด็ก ๆ เติบโตพอที่จะสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้แล้ว กองทัพกับเจ้าขาก็พาลูกชายทั้งสองคนกับลูกสาวคนโตบินมาเที่ยวที่ประเทศอิตาลีอีกครั้ง และถือโอกาสแวะมาเยี่ยมคุณยายจันทร์กนกที่ตอนนี้มีคนรู้ใจไม่ต้องอยู่คนเดียวอย่างเหงา ๆ อีกต่อไป “น้องกรรฐ์ครับมาใส่เสื้อผ้าก่อนเร็ว”กองทัพร้องเรียกลูกชายตัวน้อยที่วิ่งเล่นไปทั่วห้องด้วยความเหนื่อยใจ เพราะกว่าที่เขาจะจับสองแฝดอาบน้ำได้ก็แทบหมดแรงเพราะลูกชายทั้งสองคนของเขานั้นซนมาก ถ้าเทียบกับ
เมื่อลิ้นเล็ก ๆ เลียไปตามรอบฐานท่อนเอ็นใหญ่กองทัพก็อดไม่ได้ที่จะขยำผ้าปูที่นอนจนมันยับยู่ยี่ไปหมดด้วยความเสียวซ่าน ก่อนที่เจ้าขาจะอ้าปากครอบครองความใหญ่โตที่เกินมาตรฐานชายไทยจนเกือบสุดความยาวพร้อมกับดูดเลียเล่นลิ้นเพื่อต้องการปรนเปรอสามีให้มีความสุข“อ๊า ที่รักจ๋าพี่ทัพเสียว อูย ตะ ตรงนั้น อ๊า”กองทัพร้องครางเสียงสั่นเมื่อเจ้าขาแกล้งเขาด้วยการเลียวนไปวนมาตรงส่วนหัวเห็ดจุดอ่อนไหวของผู้ชายที่กองทัพไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่าตอนนี้เขาเสียวจนแทบเสร็จ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังพยายามกลั้นเอาไว้สุดฤทธิ์เพราะนี่ก็เพิ่งผ่านพ้นไปได้ไม่ถึงสิบนาทีด้วยซ้ำ“อืม เมียจ๋าดีเหลือเกิน”กองทัพยังคงร้องครางเสียงเบา ๆ ด้วยความเสียวก่อนที่เจ้าขาจะรัวลิ้นใส่ส่วนหัวเห็ดที่ฉ่ำเยิ้มไปด้วยน้ำหวานให้อย่างไม่นึกรังเกียจ เวลาผ่านไปสักพักสุดท้ายกองทัพก็ไม่สามารถต้านทานลิ้นเล็ก ๆ ที่แตะไปตรงไหนก็เสียวตรงนั้นได้อีกต่อไป“อ๊า ที่รักจ๋าพี่ทัพไม่ไหวแล้ว ลิ้นหนูดีเหลือเกิน”จบประโยคกองทัพก็ร้องขึ้นเสียงดังอย่างสุขสมก่อนที่เขาจะเกร็งกระตุกปลดปล่อยน้ำรักใส่ปากของภรรยาจนมันไหลเยิ้มลงมาที่ขอบปาก ก่อนที่กองทัพจะลุกขึ้นนั่งและยื่นมือไป