หลังจากวันนั้นเจ้าขากับกองทัพก็ต่างเติมเต็มความสุขให้กันและกันในทุกค่ำคืน ยกเว้นช่วงไหนที่กองทัพติดงานหรืองานเยอะจนแทบไม่มีเวลาว่างให้เจ้าขาก็เข้าใจไม่งอแงหรือน้อยใจ เพราะสามีของเธอคือศัลยแพทย์มือหนึ่งของทางโรงพยาบาล N ที่คอยช่วยเหลือชีวิตผู้คนเอาไว้มากมาย หากแต่เธอกลับภูมิใจเสียอีกที่สามีทุ่มเทให้กับการทำงานที่คอยช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกันสามีของเธอไม่ได้แค่คอยดูแลและช่วยเหลือคนไข้หรอกนะ หากแต่กองทัพกลับดูแลเจ้าขาและลูกดีมากเช่นกัน กองทัพจะมีวันหยุดทุกอาทิตย์เพื่อใช้เวลาอยู่กับเจ้าขาและลูกน้อยที่อายุครรภ์ตอนนี้ก็ย่างเข้าสัปดาห์ที่ 28 แล้ว แต่กองทัพเลือกที่จะไม่อัลตราซาวนด์เพื่อดูเพศของลูกน้อย เพราะเขาอยากลุ้นตอนที่ลูกคลอดมากกว่าว่า เขาจะได้ลูกสาวหรือลูกชายซึ่งแบบนั้นกองทัพบอกกับเจ้าขาว่ามันน่าตื่นเต้นมากกว่าที่รู้เพศลูกก่อนคลอดเสียอีก“อืม หอมจังเลยเจ้าขาน่ากินด้วย ฝีมือหนูดีขึ้นเยอะมากเลยค่ะลูกสาว”เอมมี่เอ่ยปากชมเจ้าขาไม่หยุดปากเมื่อวันนี้ลูกสาวของเธอโทรหาตั้งแต่เช้าเพื่อให้เธอมาช่วยเป็นลูกมือในการทำขนมอินทนิล ขนมเมนูโปรดของกองทัพที่เจ้าขาตั้งใจทำเพื่อที่จะเอาไปฝากสามีที่โรงพยาบ
พลั่ก“โอ๊ย!!”กองทัพรีบผลักจอมขวัญจนเธอที่ไม่ทันระวังถึงกับร่วงลงไปนั่งบนก้นจ้ำเบ้าอยู่บนพื้น ใบหน้าสวยหวานบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด ในขณะที่กองทัพรีบลุกขึ้นและเดินถอยห่างออกจากน้องเมียทันทีโดยที่ไม่คิดจะช่วยเธอเลยแม้แต่น้อยเพราะสิ่งที่จอมขวัญทำมันทำให้กองทัพรู้สึกขยะแขยงในตัวเธออย่างบอกไม่ถูก“ขวัญเจ็บนะคะพี่ทัพ ทำไมถึงทำกับขวัญแบบนี้”จอมขวัญร้องเสียงดังด้วยความเจ็บปวดก่อนที่เจ้าขาจะเดินเข้ามาในห้องด้วยใบหน้าที่เรียบเฉยไม่แสดงอาการใด ๆ ทั้งสิ้น ส่วนกองทัพรู้สึกเสียวสันหลังอย่างบอกไม่ถูก กับใบหน้าที่เฉยชาไม่แสดงความรู้สึกอะไรเลยของเมียจ๋า มือบางของเจ้าขาถูกยื่นไปตรงหน้าน้องสาวก่อนที่จอมขวัญจะคว้าหมับเข้าที่มือของคนตรงหน้าและพยุงตัวเองลุกขึ้นโดยที่จอมขวัญเข้าใจว่าเป็นมือของกองทัพที่ยื่นมาช่วยพยุงเธอให้ลุกขึ้น แต่เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นฝ่ามือของเจ้าขาก็ฟาดลงบนหน้าเธอเต็มแรง ท่ามกลางความตกใจของกองทัพที่เบิกตากว้างอ้าปากค้าง ด้วยคาดไม่ถึงว่าเจ้าขาจะตบน้องสาวตัวเองแรงขนาดนี้ แต่จะว่าไปแรงอีกนิดก็ได้นะเอาแบบเลือดกลบปากไปเลยแบบนั้นกำลังดีเพียะ!!!“พี่เจ้าขาตบหน้าขวัญทำไม”จอมขวัญหันหน้ากลับมา
วันเวลาผ่านไปครรภ์ของเจ้าขาเริ่มโตขึ้นเรื่อยจนย่างเข้าสัปดาห์ที่ 36 แล้ว ว่าที่คุณแม่คนสวยก็ท้องใหญ่เสียจนกองทัพให้นึกตกใจว่าเจ้าขาจะได้ลูกแฝดเสียอีก ส่วนตัวเจ้าขาเองก็เริ่มสงสัยตัวเองเช่นกัน เพราะบางครั้งที่ลูกดิ้นก็ราวกับว่ามีเด็กสองคนอยู่ในครรภ์ของเธอ จนกระทั่งถึงวันเกิดของเจ้าขา สองสามีภรรยาก็ตกลงกันว่าจะเป่าเค้กและทำมื้อเย็นกินฉลองวันเกิดโดยที่มีพี่เอมมี่และแม่นับดาวกับป้าแก้มใสมาร่วมฉลองวันเกิดของเจ้าขาด้วย“ขับรถดี ๆ นะคะ เดี๋ยวเย็นนี้เจ้าขากับแม่นับแล้วก็ป้าแก้มจะช่วยกันทำมื้อเย็น รอพี่ทัพกลับมากินด้วยกันนะคะ”เจ้าขาบอกสามีด้วยรอยยิ้มก่อนที่กองทัพจะยิ้มให้ด้วยใบหน้าที่ค่อนข้างอิดโรย เพราะสองสามวันมานี้เขามีคิวผ่าตัดยาวมากจนแทบไม่ได้พักผ่อนกันเลยทีเดียว ซึ่งเจ้าขาก็ท้วงติงให้สามีหยุดพักเสียก่อน แต่เขาก็รักในหน้าที่และห่วงใยชีวิตคนไข้มากกว่าที่จะเป็นห่วงตัวเองที่เริ่มจะพักผ่อนน้อยลงไปทุกวัน“รับทราบครับผม เลิกงานแล้วพี่ทัพจะรีบกลับมากินฝีมือเมียสุดที่รักนะครับ”จบประโยคกองทัพก็ยื่นหน้ามาหอมแก้มเจ้าขาหนัก ๆ ด้วยความชื่นใจก่อนที่เขาจะหันหลังเดินไปเข้าลิฟต์ โดยที่เจ้าขายังคงยืนโบกม
เจ้าขาเดินเข้ามาภายในโรงพยาบาลด้วยความเร่งรีบเท่าที่คนท้องคนหนึ่งจะเดินได้ เมื่อเธอได้รับสายจากคุณปู่กฤษฎิ์ เธอก็รีบเดินทางมาที่โรงพยาบาลทันทีโดยที่พี่เอมมี่ ป้าแก้มใสกับคุณแม่นับดาวต่างก็แยกกันกลับบ้านเมื่อได้ฟังเรื่องราวของกองทัพจากเจ้าขา เมื่อเดินมาจนถึงหน้าห้องทำงานของสามีเจ้าก็ค่อย ๆ เอื้อมมือที่สั่นระริกไปจับลูกบิดก่อนที่เธอจะเปิดประตูเข้าไปอย่างเบามือภายในห้องมืดมิดมีเพียงแสงจันทร์ที่สาดส่องเข้ามาพอให้เห็นภายในห้องอย่างเลือนรางก่อนที่เจ้าขาจะกดเปิดสวิตช์เปิดไฟทำให้ทั้งห้องสว่างขึ้นภายในพริบตา และปรากฏให้เห็นร่างสูงของสามีที่นั่งชันเข่าซบหน้าอยู่บนพื้นข้างโซฟา ที่มีเด็กสาวตัวน้อยนอนหลับไปทั้งน้ำตา เจ้าขาที่เห็นอย่างนั้นรีบสาวเท้าเดินเข้าไปหาพ่อของลูกทันที“พี่ทัพคะ”เสียงหวานที่เอ่ยเรียกเขาทำให้กองทัพที่นั่งก้มหน้าลงซบบนเข่าค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมาด้วยดวงตาที่แดงก่ำ พอเจ้าขาเห็นอย่างนั้นเธอก็ถึงกับน้ำตาคลอเบ้าด้วยความสงสารสามีจับใจ ก่อนที่กองทัพจะโผเข้ากอดภรรยาพร้อมกับไหล่แกร่งที่สั่นสะท้านขึ้นลงไปมาแต่กลับไร้เสียงสะอื้น มีเพียงความเปียกชื้นที่หน้าอกของเธอ บ่งบอกให้รู้ว่าสามีที่มีแ
ดวงตาที่แดงช้ำของเด็กสาวของขวัญทำเอากองทัพถึงกับรู้สึกเจ็บหน่วงไปหมดทั้งใจ เพราะเด็กน้อยไม่ยอมปล่อยให้น้ำตาไหลอีกเลยหลังจากที่กองทัพพามารับศพคุณป้ารำไพเพื่อนำไปประกอบพิธีทางศาสนา ในวันนั้นเมื่อของขวัญเห็นศพผู้เป็นยายเธอก็ร้องไห้จนเป็นลมสลบไปด้วยความเสียใจแต่หลังจากที่เธอฟื้นขึ้นมาแล้วเด็กสาวก็ไม่เคยร้องไห้ออกมาให้กองทัพเห็นอีกเลย นั่นอาจจะเป็นเพราะคำพูดของคุณป้ารำไพที่เขามักจะได้ยินจนชินหูเวลาที่ไปช่วยคุณป้าขายขนม คุณป้ามักจะบอกของขวัญเสมอว่าหากวันหนึ่งที่ยายไม่อยู่แล้วของขวัญห้ามร้องไห้เด็ดขาดซึ่งวันนี้เด็กหญิงของขวัญเข้มแข็งกว่าที่เขาคิดเอาไว้มาก เมื่อเด็กสาวไม่ยอมหลั่งน้ำตาออกมาอีกเลยทั้ง ๆ ที่ดวงตานั้นแดงก่ำจนน่าสงสารคงเป็นเพราะว่าเด็กสาวคงไม่อยากให้คุณยายต้องไปโดยที่ยังมีห่วงสินะ“ของขวัญคะ เรามาบอกลาคุณยายกันค่ะ”กองทัพบอกของขวัญที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก่อนที่เด็กสาวจะเดินตามแรงจูงของกองทัพไปที่หน้าเตาเผาเพื่อบอกลาคุณยายรำไพเป็นครั้งสุดท้าย เมื่อสัปเหร่อเปิดฝาโลงออกเด็กหญิงของขวัญที่เข้มแข็งมาโดยตลอดสามวันก็ถึงกับกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ เด็กสาวค่อย ๆ จับมือที่ซีดไร้สีเลือดของผู้เป็นย
ช่วงแรกที่ของขวัญมาอยู่กับเจ้าขาและกองทัพเด็กน้อยแทบจะไม่ต้องปรับตัวอะไรมากนัก เพราะพื้นฐานนิสัยของของขวัญที่คุณป้ารำไพคอยอบรมสั่งสอนเธอให้เป็นคนขยันไม่นอนตื่นสายอีกทั้งงานบ้านทุกอย่างของขวัญก็ช่วยคุณป้าทำทุกอย่างดังนั้นเด็กน้อยจึงไม่เคยตื่นสายเลยสักครั้งตั้งแต่ที่มาอยู่กับกองทัพจนกระทั่งกองทัพจัดการเรื่องโรงเรียนใหม่ให้ของขวัญเรียบร้อยแล้ว และวันนี้เป็นวันแรกที่ของขวัญต้องไปโรงเรียน เพื่อทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่และสังคมใหม่ที่เธอไม่คุ้นเคยเอาเสียเลย“ทานเยอะ ๆ นะคะน้องขวัญ เช้านี้พ่อทัพตั้งใจตื่นมาทำมื้อเช้าให้หนูก่อนไปโรงเรียนเลย”กองทัพบอกลูกสาวคนโตของเขาที่เขาทำเรื่องรับมาเป็นบุตรบุญธรรมเรียบร้อย โดยที่ทุกคนในครอบครัวต่างไม่มีใครคัดค้าน แต่ทุกคนกลับสนับสนุนทุกกระทำและการตัดสินใจของกองทัพเสมอ เพราะว่าสิ่งที่กองทัพได้ตัดสินใจทำลงไป ทุกคนนั้นต่างรู้ดีว่ากองทัพคิดและทบทวนมาดีแล้ว“กับข้าวที่พี่ อุ๊ย แหะ ๆ”เด็กสาวของขวัญยกมือขึ้นป้องปากเมื่อเผลอหลุดเรียกกองทัพว่าพี่ด้วยความเคยชิน ก่อนที่เด็กน้อยจะส่งยิ้มจนตาหยีให้กองทัพที่ยกมือขึ้นมาขยี้ผมลูกสาวตัวน้อยด้วยความเอ็นดู เด็กน้อยที่เคยหม
การเริ่มต้นที่โรงเรียนใหม่และสังคมใหม่ของของขวัญค่อนข้างมีอุปสรรคพอสมควร เพราะเด็กส่วนใหญ่คือลูกคุณหนูที่ถูกเลี้ยงมาอย่างตามใจประสาลูกคนรวย ผิดกับของขวัญที่คุณยายรำไพของเธอนั้นอบรมสั่งสอนเธอให้รู้จักแบ่งปัน อดทน และไม่รังแกผู้อื่น หากแต่กลับกลายเป็นว่าเด็กน้อยกลับถูกเพื่อนคนอื่นรังแกเสียอย่างนั้น“อ้าว น้องของขวัญทำไมเดินเท้าเปล่าอย่างนั้นล่ะคะลูก”คุณครูผกามาศถามเด็กน้อยหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มที่กำลังกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ห้องราวกับว่ากำลังหาของอยู่ ก่อนที่ของขวัญจะหันกลับมาหาคุณครูและเดินเข้ามาบอกตามตรงว่ารองเท้าของเธอหายไปโดยที่เธอก็ไม่รู้เช่นกันว่าหายไปได้อย่างไร“คุณครูขา รองเท้าของของขวัญหายไปไหนไม่รู้ค่ะ”เด็กสาวบอกคุณครูที่ถอนหายใจทันทีเมื่อได้ยินอย่างนั้น เพราะผกามาศรู้ได้ในทันทีว่าเป็นฝีมือของใคร ซึ่งก็ไม่พ้นจะเป็นหัวโจกของห้องอย่างฮารุ ที่เธอแอบเหนื่อยใจอยู่บ่อยครั้งกับพฤติกรรมที่ชอบกลั่นแกล้งเพื่อนและเอาแต่ใจตัวเองไม่ยอมลงให้ใครแม้กระทั่งกับเธอเองที่เป็นคุณครูประจำชั้นก็ตาม“มาค่ะคนเก่ง เดี๋ยวคุณครูช่วยตามหารองเท้าของหนูเองนะคะ”ผกามาศบอกหนูน้อยของขวัญก่อนที่เธอจะช่วยเดินตามหาร
เหลือเวลาเพียงสองอาทิตย์ก็ถึงกำหนดคลอดของเจ้าขาแล้วซึ่งช่วงเวลานี้คุณหมอกองทัพที่ไม่เคยเกเรเรื่องการทำงานก็เริ่มจะงอแงไม่อยากไปทำงานเสียอย่างนั้น เพราะเขาเป็นห่วงกลัวว่าถ้าหากเจ้าขาเกิดเจ็บท้องคลอดก่อนกำหนดโดยที่ไม่มีเขาอยู่เธอจะรู้สึกหวาดกลัวเพียงไร“ไปทำงานเถอะค่ะพี่ทัพ เจ้าขาอยู่ได้ อีกอย่างของขวัญก็อยู่ ถ้าเจ้าขาเกิดเจ็บท้องใกล้คลอดขึ้นมา เจ้าขาสัญญาว่าจะรีบโทรบอกพี่ทัพทันทีค่ะ”เจ้าขาบอกสามีที่ยืนทำหน้าอย่างอ้อน ๆ เพราะไม่อยากไปทำงาน ซึ่งช่วงนี้กองทัพว่างเว้นจากการเข้าห้องผ่าตัดเนื่องจากคุณปู่กฤษฎิ์ให้เขาเตรียมพร้อมสำหรับการเป็นคุณพ่อมือใหม่ กฤษฎิ์กลัวว่าหากยังคงให้หลานชายเข้าผ่าตัดเคสผู้ป่วยหนัก ๆ อยู่ วันดีคืนดีเจ้าขาเกิดเจ็บท้องคลอดก่อนกำหนดและกองทัพบังเอิญติดเคสผ่าตัดอาจจะทำให้ว่าที่คุณพ่อพลาดช่วงเวลาที่มีความสุขในชีวิตก็เป็นได้“แต่พี่ทัพเป็นห่วงเจ้าขานี่คะ”คนตัวโตที่ยังคงงอแงไม่ยอมไปทำงานบอกด้วยน้ำเสียงที่ออดอ้อนสุดฤทธิ์ส่วนสองมือนั้นก็เกาะขอบประตูคอนโดเอาไว้โดยที่ไม่ยอมเดินไปที่ลิฟต์สักที ก่อนที่ของขวัญจะยื่นมือเล็ก ๆ มาแตะที่แขนของบิดาเบา ๆ พร้อมกับยิ้มหวานให้ จนทำให้มือ
ที่รักค่อย ๆ เดินเข้ามาในห้องนอนของสามีโดยที่มีชมพู่เด็กรับใช้คอยช่วยพยุง ก่อนที่เธอจะเดินมานั่งลงบนเตียงใหญ่ที่มีร่างที่ไร้ลมหายใจของคู่ชีวิตนอนอยู่ มือที่สั่นเทาค่อย ๆ เอื้อมไปจับมือของสามีขึ้นมาแนบแก้ม ก่อนที่หยดน้ำตาจะหลั่งรินกระทบฝ่ามือใหญ่ที่เคยตอบรับสัมผัสกัน แต่บัดนี้ไม่มีความรู้สึกใด ๆ อีกต่อไปแล้ว“หลับให้สบายนะคะพี่หมอของที่รัก ไม่ต้องเป็นห่วงลูก ๆ หลาน ๆ แล้วนะ ที่รักสัญญาว่าจะดูแลทุกคนเป็นอย่างดีให้เหมือนตอนที่พี่หมอยังอยู่”น้ำเสียงสั่นเครือเอ่ยขึ้นมาด้วยความรู้สึกที่เจ็บปวดไปทั้งสรรพางค์กาย หัวใจที่เคยมีความสุขก่อนหน้านี้กลับเศร้าหมอง ทั้ง ๆ ที่ทำใจมาบ้างแล้ว เพราะสามีของเธอนั้นบอกกับเธอเสมอว่า เขาอายุมากแล้วและอาจจะอยู่ได้อีกไม่นาน ขอให้เธอเข้มแข็งและทำใจให้ได้ แต่พอเอาเข้าจริง เวลาที่เธอไม่อยากให้เดินทางมาถึง กลับมาถึงเร็วกว่าที่คิดมันเลยทำให้เธอนั้นทำใจยากเหลือเกิน“หากชาติหน้ามีจริง ขอให้เราสองคนได้เกิดมาคู่กันและเป็นสามีภรรยากันแบบนี้ตลอดไป แต่ชาติหน้าอย่าทำให้ที่รักเสียใจอีกนะคะ ชาตินี้ที่รักรักพี่หมอก่อน ชาติหน้าขอให้พี่หมอรักที่รักก่อนนะคะ ที่รักสัญญาว่าจะรักพี่
วันหยุดสุดสัปดาห์คฤหาสน์พิสิฐกุลวัตรดิลก“กราบครับคุณทวด”น้องเกรย์กับน้องกรรฐ์ประนมมือขึ้นก่อนที่จะก้มลงกราบบนตักของคุณทวดที่รัก ที่ยกมือขึ้นลูบหัวของเหลนชายฝาแฝดทั้งสองคนด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน ก่อนที่เหลนทั้งสองคนจะเงยหน้าพร้อมกับลุกขึ้นไปนั่งข้าง ๆ คุณทวดเมื่อท่านพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาต“พี่ขวัญล่ะครับ ทำไมถึงไม่มากับพวกเราด้วย”ที่รักถามเหลนทั้งสองด้วยน้ำเสียงที่ยังคงความอ่อนหวานเช่นเคย ก่อนที่น้องเกรย์จะหยิบตะกร้าที่บรรจุด้วยขนมหวานขึ้นมาวางเอาไว้บนตักและตอบคำถามของคุณทวดด้วยรอยยิ้มที่สดใส“พ่อทัพพาพี่ขวัญไปส่งที่บ้านย่าแก้มครับ คุณย่าโทรมาหาตั้งแต่เช้า บอกว่าคิดถึงพี่ขวัญมากไม่มีเพื่อนเล่นไพ่นกกระจอก พ่อทัพก็เลยพาพี่ขวัญไปหาคุณย่าครับ ส่วนพวกเราสองคนวันนี้ตั้งใจมาหาคุณทวดครับ นี่ครับคุณทวด ขนมที่พ่อทัพกับพี่ขวัญตื่นมาช่วยกันทำตั้งแต่เช้า กำชับแล้วกำชับอีกว่าให้แฝดนำมาให้ทวดชิม พ่อทัพบอกว่าคุณทวดชอบกินขนมเทียนแก้วมาก ตอนเด็ก ๆ ก็ชอบทำให้พ่อทัพกินบ่อย ๆ”น้องเกรย์ตอบคำถามคุณทวดจบก็หยิบขนมขึ้นมาหนึ่งชิ้นและแกะออกจากห่อใบตองที่ห่ออย่างประณีตสวยงาม ก่อนที่จะยื่นไปตรงหน้าของคุณทวดที่อ้
ก๊อก ก๊อก ก๊อกเสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นทำให้ของขวัญที่กำลังนอนอ่านหนังสืออยู่บนเตียงนอนใหญ่ค่อย ๆ หันไปมองประตูที่ถูกเปิดเข้ามา ดวงตากลมโตพลันเบิกกว้างด้วยความดีใจ เพราะคนที่กำลังวิ่งดุกดิกเข้ามาหาเธอก็คือน้องชายฝาแฝดตัวแสบนั่นเอง“ดึกแล้วทำไมยังไม่พากันนอนอีกครับ พี่เกรย์น้องกรรฐ์”ของขวัญถามน้องชายทั้งสองคนที่กำลังกระโดดขึ้นมาบนเตียงนอนของเธอคนละฝั่ง พร้อมกับทิ้งตัวลงนอนบนเตียงใหญ่ด้วยรอยยิ้มทั้งคู่ ก่อนที่เกรย์จะตบหมอนของพี่สาวเบา ๆ ของขวัญก็ทิ้งตัวลงนอนข้าง ๆ น้องชายทั้งสองคนด้วยรอยยิ้มอย่างมีความสุข“พี่เกรย์ชวนน้องกรรฐ์มานอนเป็นเพื่อนพี่ขวัญครับ”คำตอบของน้องชายคนเล็กทำเอาของขวัญถึงกับเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจ เพราะตั้งแต่ที่เธอขึ้นชั้นมัธยม สองแฝดก็ไม่เคยมานอนกับเธออีกเลย ไม่รู้ว่าพอโตขึ้นเป็นหนุ่มแล้วเขินเธอหรือเปล่า ทั้งคู่ถึงไม่ยอมมานอนด้วยกันเหมือนเมื่อครั้งยังเป็นเด็กตัวเล็ก ๆ“เกรย์ไม่อยากให้พี่ขวัญต้องนอนเหงาคนเดียวครับ อย่างน้อย ๆ มีน้องกรรฐ์กับเกรย์มานอนด้วยคืนนี้จะได้นอนหลับฝันดี”ประโยคที่แฝงไปด้วยความห่วงใยจากน้องชายคนโต ทำเอาของขวัญถึงกับน้ำตารื้นด้วยความซาบซึ้งใจกับค
5 ปีผ่านไปห้องเรียน“โอเคค่ะทุกคน วันนี้คุณครูก็ขอจบการสอนไว้เพียงเท่านี้ พรุ่งนี้เจอกันใหม่ อย่าลืมเอาการบ้านไปส่งคุณครูด้วยนะคะ ใครช้าได้ออกมาแก้โจทย์ให้เพื่อน ๆ ดูแน่ ๆ”เมื่อคุณครูสาวกล่าวจบและเก็บของออกจากห้องเรียนไปแล้วพี่เกรย์กับน้องกรรฐ์ที่นั่งอยู่ข้าง ๆ กันก็รีบเก็บสมุดหนังสือลงใต้โต๊ะเรียนทันที ก่อนที่สองพี่น้องจะหันมาพยักหน้าอย่างรู้กัน พร้อมกับลุกขึ้นเตรียมที่จะเดินออกไปจากห้องเรียนเพื่อไปทานมื้อเที่ยงที่โรงอาหารแต่ยังไม่ทันที่สองหนุ่มจะเดินไปถึงหน้าห้องเรียน เด็กหญิงน้ำหวานกับเด็กหญิงลูกพีช เพื่อนร่วมห้องที่แอบชอบสองแฝดก็รีบวิ่งมายืนดักหน้าทั้งสองหนุ่มทันที ทำเอาสองพี่น้องรีบกระโดดถอยหลัง ราวกับว่าสองสาวตรงหน้า คือตัวเชื้อโรคที่ทั้งสองคนไม่อยากอยู่ใกล้อย่างไรอย่างนั้น“เกรย์ กรรฐ์วันนี้ไปกินข้าวกับพวกเรานะ”น้ำหวานเอ่ยปากชวนสองหนุ่มด้วยรอยยิ้ม แต่สองแฝดกลับส่ายหน้าไปมาพร้อม ๆ กันราวกับนัดหมาย ทำเอารอยยิ้มของเด็กหญิงน้ำหวานค่อย ๆ จางหายไปจากใบหน้าสวยหวานของเด็กหญิงวัยสิบขวบ เมื่อเพื่อนชายที่เธอแอบชอบมาตลอดปฏิเสธที่จะไปทานมื้อเที่ยงด้วยกัน“แต่พวกเราสองคนชวนกรรฐ์กับเกรย์ท
โรงพยาบาล Nวันหยุดสุดสัปดาห์กองทัพจูงมือลูกชายทั้งสองคนมาตามทางเดินของโรงพยาบาลของครอบครัว เนื่องจากวันนี้เขากับเจ้าขาต้องออกงานสังคม จึงพาลูกชายทั้งสองคนมาหาคุณทวดที่โรงพยาบาล เพราะพอถึงวันหยุดทีไรพี่เกรย์มักจะชอบมาขลุกอยู่ที่นี่ เพื่อดูคุณทวดทำงานและนั่งอ่านหนังสือเงียบ ๆ อยู่เสมอ ส่วนน้องกรรฐ์ส่วนใหญ่แล้วจะชอบไปเล่นกับคุณปู่คุณย่า แต่วันนี้น้องชายฝาแฝดกลับอยากมาหาคุณทวดที่โรงพยาบาลกับพี่ชายมากกว่าที่จะไปเล่นกับคุณปู่คุณย่าที่บ้านใหญ่“’งื้อ เลือดเต็มเลยอะ พี่เกรย์น้องกรรฐ์กลัว”แฝดน้องยกมือขึ้นปิดตาก่อนจะโผเข้ากอดพี่ชายที่เดินจูงมือกันมาด้วยความกลัว เพราะเด็กชายตัวน้อยนั้นไม่ชอบเลือดเป็นที่สุด ถึงแม้ว่าบางครั้งจะหกล้มจนได้เลือด เจ้าคนเล็กของบ้านก็จะไม่ยอมมองแผลของตนเองเลย ในขณะที่แฝดพี่ยกมือขึ้นกอดน้องชายเอาไว้หลวม ๆ ทำเอาคุณพ่อยิ้มออกมาน้อย ๆ กับความรักของสองพี่น้อง ที่พี่เกรย์นั้นมักจะเป็นที่พึ่งพิงให้น้องชายเสมอ“ไม่เห็นน่ากลัวเลยน้องกรรฐ์ มันก็แค่เลือดเอง”เกรย์บอกน้องชายเมื่อรถเข็นเตียงพยาบาลวิ่งผ่านไปแล้ว ก่อนที่น้องกรรฐ์จะค่อย ๆ หันหน้ากลับมาแล้วส่งยิ้มแหย ๆ ให้บิดาที่กำลัง
เวลาที่ผ่านไปเรื่อย ๆ จากเด็กน้อยวัยหนึ่งขวบเติบโตขึ้นเป็นเด็กชายตัวน้อยวัยห้าขวบที่บุคลิกของทั้งสองคนนั้นแตกต่างกันอย่างชัดเจน โดยที่พี่เกรย์นั้นนิ่งมากขึ้นไม่ซุกซน เป็นเด็กว่านอนสอนง่ายในขณะที่น้องกรรฐ์นั้นดื้อและซนจนกองทัพกับเจ้าขาถึงกับกุมขมับแทบจะทุกวัน“อะ เราให้”เด็กชายกรรฐ์ยื่นอมยิ้มรสโปรดให้กับชมพูเพื่อนสาวต่างห้องที่น้องกรรฐ์แอบปลื้มอยู่ในระหว่างที่รอบิดากับมารดามารับหลังเลิกเรียน ชมพูมองอมยิ้มของเพื่อนต่างห้องที่ยื่นมาให้เธอ พร้อมกับรอยยิ้มที่สาวน้อยมองว่าน่ารักมาก ก่อนที่ชมพูจะยื่นมือไปหยิบอมยิ้มมาจากมือของกรรฐ์“ขอบใจนะ”เด็กหญิงชมพูเอ่ยขอบคุณเพื่อนต่างห้องก่อนที่เด็กน้อยจะเปิดกระเป๋านักเรียนและเก็บอมยิ้มเอาไว้ในนั้นพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมาส่งยิ้มขอบคุณเพื่อนต่างห้องอีกครั้ง “ถ้าชมพูชอบกรรฐ์จะเอามาฝากทุกวันเลย”เด็กชายกรรฐ์บอกเพื่อนตัวเล็กด้วยรอยยิ้ม ก่อนที่มือเล็กของ ๆ พี่เกรย์จะบิดเข้าที่หูของน้องชายทำเอาน้องกรรฐ์ถึงกับร้องเสียงหลงด้วยความเจ็บ เพราะแรงบิดของพี่ชายนั้นไม่ใช่เบา ๆ เลยสักนิด ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเกือบทุกวันที่น้องกรรฐ์หนีพี่ชายมาเต๊าะสาว ๆ ในระหว่างที
หลังกลับมาจากท่องเที่ยวสองแฝดที่ไม่รู้จักคำว่าเหน็ดเหนื่อยก็พากันนั่งเล่นของเล่นไม่ยอมหลับไม่ยอมนอน ทำเอากองทัพที่วางแผนจะแอบแซ่บกับเมียจ๋าต้องหันไปมองลูกชายด้วยสายตาตัดพ้อ ส่วนน้องกรรฐ์กับพี่เกรย์ที่ไม่รู้เท่าทันแผนของบิดาได้แต่หันมายิ้มร่าให้กับกองทัพอย่างไร้เดียงสา“ไม่ต้องมายิ้มให้พ่อเลยนะเจ้าแฝด นี่ก็สี่ทุ่มแล้วทำไมตาใสแจ๋วแบบนี้ ง่วงบ้างไหมลูก ง่วงหน่อยนะ ง่วงสักนิดก็ยังดีลูกจ๋า ไปนอนกันดีไหมเดี๋ยวพ่อร้องเพลงกล่อมนอน”กองทัพถามลูกชายที่มองหน้าบิดาพร้อมกับกะพริบตาปริบ ๆ ด้วยไม่เข้าใจในสิ่งที่บิดากำลังพูดกับตนเอง ก่อนที่เด็กชายทั้งสองคนจะเมินพ่อและหันกลับไปนั่งเล่นของเล่นกันต่อทำเอาคุณพ่อได้แต่ทำหน้าคล้ายจะร้องไห้ที่สองแฝดไม่ยอมง่วงนอนสักทีจันทร์กนกที่เดินลงบันไดมามองลูกเขยด้วยความเห็นใจ ดูเหมือนว่าค่ำคืนนี้ลูกเขยน่าจะอยากใช้เวลากับลูกสาวของเธอสองต่อสองสินะ คิดได้ดังนั้นสองเท้าก็ไม่รอช้าที่จะเดินลงมาหาหลานชายทั้งสองที่พากันเล่นของเล่นอย่างไม่รู้สึกเหนื่อยหรือง่วงเลยแม้แต่น้อย พลังเยอะเหลือเกินนะหลานยาย“ทัพไปนอนเถอะลูก เดี๋ยววันนี้สองแฝดปล่อยให้เป็นหน้าที่ของแม่เองอยู่กับยายเจ้าแ
เวลาผ่านไปเรื่อย ๆ จากหนึ่งวันสู่หนึ่งเดือนและหนึ่งเดือนเดินทางมาจนครบหนึ่งปี พี่เกรย์กับน้องกรรฐ์ต่างได้รับการเลี้ยงดูและเอาใจใส่เป็นอย่างดีจากกองทัพและเจ้าขา รวมไปถึงเด็กหญิงของขวัญที่รักและเอ็นดูน้องชายฝาแฝดทั้งสองคนมากระหว่างทางของการเติบโตจากวัยทารกก้าวไปสู่วัยหนึ่งขวบ เด็กชายฝาแฝดทั้งสองคนต่างได้รับความรักจากคุณทวดทั้งสองคนที่หลงรักหลานชายที่ขี้อ้อนจนหมดใจ หากแต่เมื่อไหร่ที่แฝดอยู่กับย่าแก้มแล้วนั้น เด็กชายทั้งสองคนเป็นต้องหาเรื่องงอแงใส่ผู้เป็นย่าจนแก้มใสถึงกับกุมขมับทุกครั้งที่แวะมาหาหลานรักทั้งสองคน พร้อมกับตบท้ายด้วยการงอนหลานกลับบ้านทุกครั้งอยู่ร่ำไปเมื่อเด็ก ๆ เติบโตพอที่จะสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้แล้ว กองทัพกับเจ้าขาก็พาลูกชายทั้งสองคนกับลูกสาวคนโตบินมาเที่ยวที่ประเทศอิตาลีอีกครั้ง และถือโอกาสแวะมาเยี่ยมคุณยายจันทร์กนกที่ตอนนี้มีคนรู้ใจไม่ต้องอยู่คนเดียวอย่างเหงา ๆ อีกต่อไป “น้องกรรฐ์ครับมาใส่เสื้อผ้าก่อนเร็ว”กองทัพร้องเรียกลูกชายตัวน้อยที่วิ่งเล่นไปทั่วห้องด้วยความเหนื่อยใจ เพราะกว่าที่เขาจะจับสองแฝดอาบน้ำได้ก็แทบหมดแรงเพราะลูกชายทั้งสองคนของเขานั้นซนมาก ถ้าเทียบกับ
เมื่อลิ้นเล็ก ๆ เลียไปตามรอบฐานท่อนเอ็นใหญ่กองทัพก็อดไม่ได้ที่จะขยำผ้าปูที่นอนจนมันยับยู่ยี่ไปหมดด้วยความเสียวซ่าน ก่อนที่เจ้าขาจะอ้าปากครอบครองความใหญ่โตที่เกินมาตรฐานชายไทยจนเกือบสุดความยาวพร้อมกับดูดเลียเล่นลิ้นเพื่อต้องการปรนเปรอสามีให้มีความสุข“อ๊า ที่รักจ๋าพี่ทัพเสียว อูย ตะ ตรงนั้น อ๊า”กองทัพร้องครางเสียงสั่นเมื่อเจ้าขาแกล้งเขาด้วยการเลียวนไปวนมาตรงส่วนหัวเห็ดจุดอ่อนไหวของผู้ชายที่กองทัพไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่าตอนนี้เขาเสียวจนแทบเสร็จ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังพยายามกลั้นเอาไว้สุดฤทธิ์เพราะนี่ก็เพิ่งผ่านพ้นไปได้ไม่ถึงสิบนาทีด้วยซ้ำ“อืม เมียจ๋าดีเหลือเกิน”กองทัพยังคงร้องครางเสียงเบา ๆ ด้วยความเสียวก่อนที่เจ้าขาจะรัวลิ้นใส่ส่วนหัวเห็ดที่ฉ่ำเยิ้มไปด้วยน้ำหวานให้อย่างไม่นึกรังเกียจ เวลาผ่านไปสักพักสุดท้ายกองทัพก็ไม่สามารถต้านทานลิ้นเล็ก ๆ ที่แตะไปตรงไหนก็เสียวตรงนั้นได้อีกต่อไป“อ๊า ที่รักจ๋าพี่ทัพไม่ไหวแล้ว ลิ้นหนูดีเหลือเกิน”จบประโยคกองทัพก็ร้องขึ้นเสียงดังอย่างสุขสมก่อนที่เขาจะเกร็งกระตุกปลดปล่อยน้ำรักใส่ปากของภรรยาจนมันไหลเยิ้มลงมาที่ขอบปาก ก่อนที่กองทัพจะลุกขึ้นนั่งและยื่นมือไป