การเริ่มต้นที่โรงเรียนใหม่และสังคมใหม่ของของขวัญค่อนข้างมีอุปสรรคพอสมควร เพราะเด็กส่วนใหญ่คือลูกคุณหนูที่ถูกเลี้ยงมาอย่างตามใจประสาลูกคนรวย ผิดกับของขวัญที่คุณยายรำไพของเธอนั้นอบรมสั่งสอนเธอให้รู้จักแบ่งปัน อดทน และไม่รังแกผู้อื่น หากแต่กลับกลายเป็นว่าเด็กน้อยกลับถูกเพื่อนคนอื่นรังแกเสียอย่างนั้น“อ้าว น้องของขวัญทำไมเดินเท้าเปล่าอย่างนั้นล่ะคะลูก”คุณครูผกามาศถามเด็กน้อยหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มที่กำลังกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ห้องราวกับว่ากำลังหาของอยู่ ก่อนที่ของขวัญจะหันกลับมาหาคุณครูและเดินเข้ามาบอกตามตรงว่ารองเท้าของเธอหายไปโดยที่เธอก็ไม่รู้เช่นกันว่าหายไปได้อย่างไร“คุณครูขา รองเท้าของของขวัญหายไปไหนไม่รู้ค่ะ”เด็กสาวบอกคุณครูที่ถอนหายใจทันทีเมื่อได้ยินอย่างนั้น เพราะผกามาศรู้ได้ในทันทีว่าเป็นฝีมือของใคร ซึ่งก็ไม่พ้นจะเป็นหัวโจกของห้องอย่างฮารุ ที่เธอแอบเหนื่อยใจอยู่บ่อยครั้งกับพฤติกรรมที่ชอบกลั่นแกล้งเพื่อนและเอาแต่ใจตัวเองไม่ยอมลงให้ใครแม้กระทั่งกับเธอเองที่เป็นคุณครูประจำชั้นก็ตาม“มาค่ะคนเก่ง เดี๋ยวคุณครูช่วยตามหารองเท้าของหนูเองนะคะ”ผกามาศบอกหนูน้อยของขวัญก่อนที่เธอจะช่วยเดินตามหาร
เหลือเวลาเพียงสองอาทิตย์ก็ถึงกำหนดคลอดของเจ้าขาแล้วซึ่งช่วงเวลานี้คุณหมอกองทัพที่ไม่เคยเกเรเรื่องการทำงานก็เริ่มจะงอแงไม่อยากไปทำงานเสียอย่างนั้น เพราะเขาเป็นห่วงกลัวว่าถ้าหากเจ้าขาเกิดเจ็บท้องคลอดก่อนกำหนดโดยที่ไม่มีเขาอยู่เธอจะรู้สึกหวาดกลัวเพียงไร“ไปทำงานเถอะค่ะพี่ทัพ เจ้าขาอยู่ได้ อีกอย่างของขวัญก็อยู่ ถ้าเจ้าขาเกิดเจ็บท้องใกล้คลอดขึ้นมา เจ้าขาสัญญาว่าจะรีบโทรบอกพี่ทัพทันทีค่ะ”เจ้าขาบอกสามีที่ยืนทำหน้าอย่างอ้อน ๆ เพราะไม่อยากไปทำงาน ซึ่งช่วงนี้กองทัพว่างเว้นจากการเข้าห้องผ่าตัดเนื่องจากคุณปู่กฤษฎิ์ให้เขาเตรียมพร้อมสำหรับการเป็นคุณพ่อมือใหม่ กฤษฎิ์กลัวว่าหากยังคงให้หลานชายเข้าผ่าตัดเคสผู้ป่วยหนัก ๆ อยู่ วันดีคืนดีเจ้าขาเกิดเจ็บท้องคลอดก่อนกำหนดและกองทัพบังเอิญติดเคสผ่าตัดอาจจะทำให้ว่าที่คุณพ่อพลาดช่วงเวลาที่มีความสุขในชีวิตก็เป็นได้“แต่พี่ทัพเป็นห่วงเจ้าขานี่คะ”คนตัวโตที่ยังคงงอแงไม่ยอมไปทำงานบอกด้วยน้ำเสียงที่ออดอ้อนสุดฤทธิ์ส่วนสองมือนั้นก็เกาะขอบประตูคอนโดเอาไว้โดยที่ไม่ยอมเดินไปที่ลิฟต์สักที ก่อนที่ของขวัญจะยื่นมือเล็ก ๆ มาแตะที่แขนของบิดาเบา ๆ พร้อมกับยิ้มหวานให้ จนทำให้มือ
“แม่นับขา เจ้าขาเจ็บ”เจ้าขาบอกแม่สามีด้วยน้ำเสียงที่สั่นสะท้านด้วยความเจ็บปวดราวกับจะขาดใจ ใบหน้าเนียนสวยในยามนี้เต็มไปด้วยคราบน้ำตา เพราะเจ้าขาร้องไห้ตลอดทางตั้งแต่ที่ออกมาจากคอนโดจนตอนนี้เธอกำลังนอนอยู่บนรถ Ambulance ที่กำลังมุ่งหน้าสู่โรงพยาบาล N“อดทนนะลูกเจ้าขาอีกไม่นานก็ถึงโรงพยาบาลแล้ว”นับดาวบีบมือบางอย่างต้องการให้กำลังใจลูกสะใภ้ที่ตอนนี้ส่ายหน้าไปมาด้วยความเจ็บปวด ซึ่งนับดาวนั้นเข้าใจดีว่าความเจ็บปวดก่อนที่จะคลอดนั้นเจ็บเพียงไร แต่เธอก็ยอมเจ็บเพื่อให้ได้พบกับสิ่งที่มีค่าที่สุดที่เรียกว่า “ลูก” เพียงแรกพบเจอนั้นเธอก็มีความสุขจนถึงกับลืมความเจ็บไปเสียสนิท“แม่นับขา เจ้าขาคิดถึงพี่ทัพ ฮึก ฮือ ๆ คิดถึงพี่ทัพเหลือเกิน”ยามที่ความเจ็บปวดมาเยือนคนแรกที่เจ้าขานึกถึงก็คือกองทัพผู้เป็นสามี ในตอนนี้เธออยากมีเขาคอยอยู่เคียงข้างมากที่สุดเพื่อที่จะผ่านความเจ็บปวดที่แทบขาดใจนี้ไปให้ได้ ส่วนเด็กหญิงของขวัญที่นั่งอยู่ข้าง ๆ มารดาได้แต่จับมือของแม่เจ้าขามากุมเอาไว้พร้อมกับร้องไห้ออกมาด้วยความสงสาร เมื่อแม่เจ้าขาของเธอนั้นร้องไห้น้ำตาไหลพรากด้วยความเจ็บปวดที่เด็กน้อยไม่อาจรู้ได้เลยว่าเจ็บมากเ
เจ้าขาค่อย ๆ ลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความเจ็บแผลผ่าตัด ก่อนที่กองทัพที่นั่งอยู่ข้าง ๆ จะยิ้มออกมาด้วยความดีใจ เมื่อเจ้าขาตื่นขึ้นมาสักทีหลังจากที่นอนหลับพักผ่อนไปหลายชั่วโมงทีเดียวด้วยความเหนื่อยล้า ดวงตากลมโตที่ดูอิดโรยมองไปรอบ ๆ ห้องก่อนที่สายตาของเธอจะปะทะเข้ากับคุณปู่กฤษฎิ์ที่กำลังอุ้มลูกชายฝาแฝดของเธออยู่และข้าง ๆ กันก็มีคุณพ่อเก้าทัพที่อุ้มเด็กชายตัวน้อยเอาไว้ในอ้อมแขนเช่นกันซึ่งวันนี้ทุกคนต่างอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา ไม่ว่าจะเป็นคุณป้าแก้มใสกับคุณลุงวายุผู้เป็นสามี รวมไปถึงรามสูรกับกอหญ้าที่ตามบิดากับมารดามาดูหลานน้อยฝาแฝดด้วย ทั้งคู่รู้สึกตื่นเต้นมากที่ลูกของกองทัพเป็นฝาแฝดเหมือนกับทั้งคู่ เจ้าขาเมื่อได้เห็นความอบอุ่นและเอาใจใส่ของครอบครัวสามีที่มีให้เธอทำเอาเจ้าขาถึงกับน้ำตาคลอเบ้าด้วยความตื้นตันใจพร้อมกับมองไปที่ลูกสาวคนโตของเธอเด็กหญิงของขวัญที่นั่งอยู่ข้าง ๆ คุณแม่นับดาวด้วยรอยยิ้ม“ป้าแก้มดีใจด้วยนะจ๊ะที่ได้ลูกชายฝาแฝดน่าเกลียดน่าชังมาก แต่ขออย่างเดียวอย่าเย็นชาเหมือนพี่รามของป้าแก้มเลยนะ”คำพูดของมารดาทำเอารามสูรที่นั่งอยู่ข้างน้องสาวถึงกับเงยหน้าขึ้นมองมารดาที่ไหวไหล่น้อย ๆ
หลังจากวันที่ครอบครัวพิสิฐกุลวัตรดิลกพากันยกโขยงไปรับขวัญหลานน้อยกันที่โรงพยาบาล วันต่อมาพี่เอมมี่ก็รีบรุดไปเยี่ยมเจ้าขาพร้อมกับรับขวัญหลานด้วยความดีใจ ที่น้องสาวที่เธอคอยดูแลและผลักดันจนประสบความสำเร็จมีครอบครัวที่สมบูรณ์เสียทีส่วนท่านอธิปกับภรรยานั้นต่างก็พากันหอบของบำรุงมาให้ลูกสาวคนโตเยอะแยะเต็มไปหมด โดยเฉพาะอธิปที่ดูจะเป็นห่วงเจ้าขามาก เพราะเขาหอบซื้อของดีและราคาแพงมาเพื่อที่จะบำรุงลูกสาวให้สุขภาพแข็งแรงหลังจากที่คลอดลูกแฝด และหลังจากที่ได้เห็นหน้าหลานอธิปถึงกับหลั่งน้ำตาออกมาด้วยความดีใจที่ได้เป็นตาเสียทีเจ้าขาพักรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลถึงหนึ่งอาทิตย์ เพราะกองทัพอยากให้เธออยู่พักรักษาตัวอย่างเต็มที่ ก่อนที่เธอจะออกจากโรงพยาบาลมาอยู่คฤหาสน์หลังใหญ่ที่คุณปู่กฤษฎิ์ลงทุนออกแบบด้วยตัวเอง เพื่อมอบเป็นของรับขวัญเหลนน้อยโดยเฉพาะ ทำเอาเจ้าขากับกองทัพซาบซึ้งใจมากกับความรักที่ปู่มอบให้เหลนทั้งสองคน“แม่ขา คุณแม่ไปกินข้าวเที่ยงก่อนก็ได้ค่ะ เดี๋ยวของขวัญกับพี่มาลัยจะเป็นคนไกวแปลให้น้องเองค่ะ”เด็กหญิงของขวัญบอกมารดาที่หน้าตาดูอิดโรยอย่างเห็นได้ชัด หลังจากที่อดหลับอดนอนมาหลายคืนตั้งแต่ที่กลับ
เมื่อวันหยุดมาถึงกองทัพดีใจมากที่จะได้ช่วยเจ้าขาเลี้ยงลูกชายตัวน้อย ที่ตอนนี้อายุได้สามเดือนเศษ อยู่ในวัยที่กำลังน่ารักน่าชัง ซึ่งคุณปู่ของเขาดูจะรักเจ้าแฝดมาก ถึงขนาดที่ว่าวันหยุดมักจะชวนคุณย่าที่รักมาขลุกอยู่กับหลานทั้งวัน ทำให้เจ้าขาได้มีเวลาพักบ้าง เพราะคุณปู่คุณย่ารับหน้าที่เลี้ยงหลานให้ตั้งแต่เช้าจนเย็นแต่ในวันที่กองทัพหยุดคุณปู่คุณย่านั้นไม่ได้มา แต่กลับเป็นคุณป้าตัวแสบที่ตั้งใจมาหาหลานชายตั้งแต่เช้าด้วยความคิดถึง โดยที่กองทัพกับเจ้าขายังไม่ทันกินมื้อเช้าเลยด้วยซ้ำ กองทัพมองคุณป้าคนสวยที่ซื้อของเล่นมากมายมาฝากหลานชายทั้งสองคนทั้ง ๆ ที่ลูกชายของเขาเพิ่งอายุได้เพียงสามเดือน แล้วรถยนต์คันใหญ่นั่นคืออะไรกัน ไหนจะรถบังคับนั่นอีกกองทัพอยากจะบ้าตาย นี่ของเล่นเผื่ออนาคตใช่ไหม“เซอร์ไพรส์จ้ะหลานรัก”แก้มใสผายมือไปทางด้านหลังที่เต็มไปด้วยของเล่นมากมายที่สามารถตั้งร้านขายได้เลย เพราะมาครั้งนี้แก้มใสจัดหนักจัดเต็มมาก เธอชวนน้องสะใภ้ไปเดินเลือกซื้อของเล่นด้วยกัน เจออะไรถูกใจแก้มใสก็หยิบขึ้นใส่รถเข็นถึงแม้ว่านับดาวจะพยายามห้ามแล้วก็ตาม เพราะหลานน้อยทั้งสองคนเพิ่งอายุได้สามเดือนไม่ใช่สามขวบ
เมื่อครอบครัวมีสมาชิกเพิ่มขึ้น สิ่งที่ห่างหายไปจากเจ้าขาและกองทัพก็คือเรื่องบนเตียงที่ทั้งคู่แทบจะหลงลืมไป เพราะลำพังแค่เลี้ยงลูกทั้งคู่ก็แทบจะไม่ได้นอนแล้ว ด้วยพี่เกรย์กับน้องกรรฐ์นั้นแสบน่าดู เวลาที่กองทัพคิดว่าสบโอกาสอยากจะจู๋จี๋กับภรรยา เจ้าลูกชายตัวแสบก็พร้อมใจกันร้องขึ้นมาเสียงดังลั่นห้องนอน ราวกับรู้ว่าผู้เป็นแม่กำลังจะโดนรังแกทำเอากองทัพที่กำลังอารมณ์มาเต็มหมดอารมณ์เสียดื้อ ๆ ซะอย่างนั้น ลูกนะลูกไม่ยอมรู้เห็นเป็นใจให้พ่อมีความสุขกับแม่เลยสักนิด“หลับได้แล้วมั้งครับพี่เกรย์”กองทัพนั่งจ้องหน้าลูกชายวัยห้าเดือนที่กำลังดื่มนมจากเต้าของภรรยาคนสวยตาละห้อย เต้าอวบใหญ่ขาวผ่องที่เขาเคยสัมผัสช่างยั่วยวนใจเสียเหลือเกิน แต่พี่เกรย์ที่กำลังดูดนมอยู่กลับจ้องเขม็งมาที่เขาด้วยสายตาที่ดุ ๆ ราวกับว่ารู้ว่าบิดากำลังจ้องจะเคลมมารดา เด็กน้อยเลยจ้องเสียจนกองทัพต้องหันหน้าหนีสายตาของลูกชาย“ท่าจะหลับยากนะคะวันนี้ สงสัยคงอยากจะเล่นกับพ่อก่อนนอน”เจ้าขาเอ่ยแซวกองทัพที่เบะปากหน้าคว่ำทันทีเมื่อได้ยินอย่างนั้นก่อนที่ตั้งท่าจะก้มลงไปหอมแก้มลูกชายตัวดีขี้แกล้ง แต่พี่เกรย์กลับยกเท้าน้อย ๆ ขึ้นเสยคางบิดา จน
เมื่อลิ้นเล็ก ๆ เลียไปตามรอบฐานท่อนเอ็นใหญ่กองทัพก็อดไม่ได้ที่จะขยำผ้าปูที่นอนจนมันยับยู่ยี่ไปหมดด้วยความเสียวซ่าน ก่อนที่เจ้าขาจะอ้าปากครอบครองความใหญ่โตที่เกินมาตรฐานชายไทยจนเกือบสุดความยาวพร้อมกับดูดเลียเล่นลิ้นเพื่อต้องการปรนเปรอสามีให้มีความสุข“อ๊า ที่รักจ๋าพี่ทัพเสียว อูย ตะ ตรงนั้น อ๊า”กองทัพร้องครางเสียงสั่นเมื่อเจ้าขาแกล้งเขาด้วยการเลียวนไปวนมาตรงส่วนหัวเห็ดจุดอ่อนไหวของผู้ชายที่กองทัพไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่าตอนนี้เขาเสียวจนแทบเสร็จ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังพยายามกลั้นเอาไว้สุดฤทธิ์เพราะนี่ก็เพิ่งผ่านพ้นไปได้ไม่ถึงสิบนาทีด้วยซ้ำ“อืม เมียจ๋าดีเหลือเกิน”กองทัพยังคงร้องครางเสียงเบา ๆ ด้วยความเสียวก่อนที่เจ้าขาจะรัวลิ้นใส่ส่วนหัวเห็ดที่ฉ่ำเยิ้มไปด้วยน้ำหวานให้อย่างไม่นึกรังเกียจ เวลาผ่านไปสักพักสุดท้ายกองทัพก็ไม่สามารถต้านทานลิ้นเล็ก ๆ ที่แตะไปตรงไหนก็เสียวตรงนั้นได้อีกต่อไป“อ๊า ที่รักจ๋าพี่ทัพไม่ไหวแล้ว ลิ้นหนูดีเหลือเกิน”จบประโยคกองทัพก็ร้องขึ้นเสียงดังอย่างสุขสมก่อนที่เขาจะเกร็งกระตุกปลดปล่อยน้ำรักใส่ปากของภรรยาจนมันไหลเยิ้มลงมาที่ขอบปาก ก่อนที่กองทัพจะลุกขึ้นนั่งและยื่นมือไป