หน้าหลัก / รักโบราณ / set : เจ้าขา / ตอนที่1 ท่านอ๋องเจ้าขา ชายามาแล้ว

แชร์

ตอนที่1 ท่านอ๋องเจ้าขา ชายามาแล้ว

ผู้เขียน: จิงจิงน่ารัก
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-03-26 01:47:21

"ฮือๆ คุณหนู...ไม่ใช่สิ...พระชายา...ฮือๆ...ท่านฟื้นสิเจ้าคะ" 

"ฮือๆ...พระชายา...ได้โปรดอย่าจากบ่าวไปเลยเพคะ....ฮือๆ" เสียงร่ำไห้ของสตรีดังขึ้น จนทำให้คนที่นอนอยู่บนเตียงขมวดคิ้วหน่อยๆเนื่องจากรำคาญ จึงพูดว่า "ไอ้โบตั๋น ไอ้องุ่น ร้องไห้หาพระแสงอะไรวะ คนจะหลับจะนอน รำคาญโว้ย!" 

สตรีทั้งสองที่กำลังร้องไห้คร่ำครวญ จึงหันมามองหน้ากันด้วยความตกตะลึงก่อนจะส่งเสียงอย่างดีใจว่า "พระชายา ท่านฟื้นแล้ว..ท่านยังไม่ตาย..บ่าวตกใจแทบแย่" 

"ฮึก...ฮือๆ...พระชายาท่านอย่าทรงทำเช่นนี้อีกนะเพคะ ถ้าหากไม่มีท่าน บ่าวก็ไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ต่อแล้วเพคะ" สตรีรูปร่างอวบเอ่ยขึ้น 

"พระชายา...ฮือๆ...ข้าสงสารท่านยิ่งนัก" สตรีร่างบางร่างผอมเอ่ยขึ้น 

"โอ๊ย คนจะหลับจะนอนร้องไห้อยู่ได้ เป็นบ้าอะไรฮะ ญาติใครเสียหรือไง!" ฉันที่นอนหลับอยู่บนเตียงรู้สึกหงุดหงิดสุดๆจึงตะโกนออกมา คนยิ่งแฮงค์ๆอยู่ ยัยสองคนนั้นไม่แฮงค์บ้างหรือไง มาโวยวายอะไรกันแต่เช้าเนี่ย:⁠-⁠( 

"พระชายาเพคะ...ท่านอย่าได้กริ้วเลยเพคะ บ่าวไม่พูดแล้ว" สตรีร่างอวบเอ่ยด้วยน้ำเสียงเสียงสั่นเครือ ก่อนที่สตรีทั้งสองจะเงียบและปล่อยให้นายของตนหลับ 

เวลาต่อมา 

"หาว~" ฉันบิดขี้เกียจก่อนจะลืมตาช้าๆ รู้สึกถึงอาการปวดหัวหน่อยๆ ต้องเป็นเพราะเมื่อคืนดื่มเยอะไปแน่ๆ ฉันจึงค่อยๆพยุงตัวเองลุกขึ้นมานั่ง 

"พระชายาท่านฟื้นแล้ว" สตรีร่างอวบยิ้มแย้มแล้วรีบเดินมาคุกเข่าอยู่ตรงหน้าเตียง

"เธอเป็นใครล่ะเนี่ย" ฉันถามพลางมองสำรวจคนตรงหน้าก่อนจะหัวเราะเบาๆแล้วพูดว่า "เธอเป็นพนักงานของที่นี่เหรอ อืม ชุดสวยดีไม่ไก่กา ที่นี่ใช้ได้แฮะ" 

"พระชายา ท่านตรัสอะไรเพคะ บ่าวไม่เข้าใจ" 

"แน่ะๆ คำพูดคำจาโบราณเสียด้วย...ว่าแต่เธอเห็นเพื่อนของฉันไหม ผู้หญิงสองคนที่นอนอยู่บนเตียง ตรงนั้น" ฉันชี้ไปยังตำแหน่งของเตียงที่เมื่อคืนโบตั๋นกับองุ่นนอนอยู่ แต่ก็พบว่าไม่มีเตียง มีแค่โต๊ะเก้าอี้กับกาน้ำชาที่วางอย่างสวยงามเท่านั้น 

"เฮ้ย!" ฉันลุกพรวดด้วยความตกใจ แล้วหันมาถามพนักงานงานที่อยู่ในชุดจีนโบราณว่า "เพื่อนฉันล่ะ เพื่อนฉันอยู่ที่ไหน!!!"

"พระชายา" สตรีในร่างอวบทำหน้าซีด ก่อนจะลงไปนั่งคุกเข่าแล้วหมอบลงแทบเท้า สตรีร่างผอมที่ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายจึงรีบวิ่งเข้ามาคุกเข่าอยู่ตรงหน้าฉัน 

"พระชายาโปรดระงับโทสะด้วยเพคะ" 

"พระชายาบ้าบออะไรของพวกเธอ เลิกเล่นกันได้แล้ว และบอกฉันมาว่าเพื่อนของฉันอยู่ที่ไหน!!" ฉันตะโกนด้วยความโมโห สองคนตรงหน้าตัวสั่นเทาไม่กล้ามองหน้าไม่กล้าพูดอะไร 

"ถามก็ตอบสิ" 

"พระชายา...."

"โอ๊ย พระชายาอะไรอีกล่ะ เอ๊ะ...." ฉันที่โมโหอยู่หยุดชะงักทันที พลางนึกถึงเรื่องเมื่อคืนที่ฉันได้ป้ายหยกของอ๋องอะไรสักอย่างนั่นมา นี่ต้องเป็นแผนของพวกมันที่แกล้งฉันเล่นแน่เลย เล่นใหญ่ไปไหมเนี่ย ฉันเหลือบมองคนทั้งสองที่กำลังหมอบกราบตัวสั่นเทา ยัยโบตั๋นกับยัยองุ่นไปหานักแสดงมาจากไหนเนี่ย เล่นสมบทบาทจริงๆ จ้างร้อยเล่นล้าน อืม แบบนี้ก็ต้องจ้างท่านอ๋องอะไรนั่นด้วยสิ คิดได้ดังนั้นฉันจึงหัวเราะออกมา "คิกๆ" เล่นตามน้ำหน่อยแล้วกัน เดี๋ยวยัยสองคนนั้นจะเสียใจ 

"พวกเธอสองคนชื่ออะไร" 

"เอ่อ...หม่อมฉันชื่อจู..จู...เจ้าค่ะ...เอ่อ...เพคะสตรีร่างอวบตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเทา 

"หม่อมฉันชื่อ...เสี่ยวฮวาเพคะ" สตรีร่างผอมตอบ 

"โอเค...จูจู เสี่ยวฮวา พวกเจ้าลุกขึ้นเถิด" ฉันลุกขึ้นไปพยุงทั้งสองคน แต่เมื่อไปใกล้ทั้งสองคนสะดุ้งเล็กน้อยและมีท่าทีหวาดระแวง 

"เป็นอะไร หืม กลัวอะไรเหรอ" 

"ไม่มีเพคะ" สองคนตอบพร้อมกัน แล้วลุกขึ้นตามแรงดึงของเจ้านายสาว ทั้งสองลอบส่งสายตาให้กันเพราะรู้สึกว่าเจ้านายของตนดูแปลกไป 

"หิวข้าวแล้วอ่ะ ที่นี่มีร้านสะดวกซื้อไหม อยากกินแฮมเบอร์เกอร์อ่ะ" ฉันถามเสี่ยวฮวากับจูจู ทั้งสองมองหน้าฉันแล้วร้องไห้ออกมาพร้อมกับคุกเข่าลง "ฮือๆ...พระชายา...ท่านพูดจาแปลกๆตั้งแต่เมื่อกี้นี้แล้วนะเพคะ" เสี่ยวฮวาพูด 

"พระชายา...ฮึก...ท่านไม่สบายตรงไหน...บ่าวจะตามท่านหมอมาให้เพคะ" จูจูพูด 

"อะไรล่ะเนี่ย...พอๆปวดหัว" ฉันห้ามทั้งสองคนที่กำลังร้องไห้ ก่อนจะรีบวิ่งออกมาจากห้องเพราะทนนักแสดงสองคนนี้ไม่ไหว เอะอะก็ร้องไห้ เอะอะก็คุกเข่า และต้องการจะไปหาโบตั๋นกับองุ่นซึ่งต้องซ่อนตัวแอบดูฉันอยู่แน่ๆ

พอวิ่งออกมาก็ต้องประหลาดใจ เมื่อที่พักไม่ได้เป็นแบบเดิมแล้ว ที่นี่แต่งอย่างงดงามหรูหราราวกับวังที่ฉันเห็นในซีรี่ส์ มีสวนดอกไม้ มีศาลาจีน และเรือนต่างๆที่ตกแต่งอย่างสวยงามเป็นระเบียบ 

"พระชายา...ท่านโดนกักบริเวณอยู่นะเพคะ...พระชายา...แฮ่กๆ...ถ้าท่านอ๋องทราบ...เดี๋ยวท่านอ๋องจะกริ้วนะเพคะ" จูจูหอบแฮ่กๆวิ่งตามมาจากด้านหลัง 

"พระชายา...ท่าน...ได้โปรดหยุดวิ่งเถิดเพคะ" 

"โอ๊ย เลิกตามได้แล้ว เลิกเล่นได้แล้ว เหนื่อยโว้ย" ฉันตะโกนลั่น แล้ววิ่งหนี แต่สองคนนั้นยังคงวิ่งตามไม่ หยุด ทุ่มเทกับงานมากจริงๆ ฉันล่ะนับถือ(⁠T⁠T⁠) 

"ไอ้องุ่น ไอ้โบตั๋น พวกแกออกมาเลยนะ ฉันไม่เล่นแล้วโว้ย" ฉันร้องเรียกเพื่อนทั้งสอง 

"พระชายา...ท่านอย่าตะโกน...เดี๋ยวท่านอ๋องได้ยินนะเพคะ...แฮ่กๆ" เสี่ยวฮวาเตือนเจ้านายของตนด้วยเสียงหอบเหนื่อย 

"ท่านอ๋องอะไรอีกล่ะ เล่นไม่เลิกนะพวกเธอเนี่ย ไอ้สองคนนั้นจ้างมาเท่าไหร่ฉันให้สองเท่าเลย" ฉันหันหลังไปตอบเสี่ยวฮวาพร้อมกับวิ่งไปด้วย จากนั้นก็หันมาตะโกนเรียกเพื่อนทั้งสองคนอีกครั้ง "ไอ้องุ่น ไอ้โบตั๋น ถ้าพวกแกยังไม่ออกมา ฉันจะโกรธจริงๆแล้วนะ" 

"ไอ้องุ่น ไอ้โบตั๋น~"  

"พวกแก...ฉันโกรธจริงๆแล้วนะ!!" ฉันพูดด้วยความไม่พอใจ เมื่อเรียกพวกมันเท่าไหร่พวกมันก็ไม่ยอมออกมา 

"พระชายา...โปรดระงับโทสะเพคะ" 

"พระชายา กลับกันเถิดเพคะ เดี๋ยวท่านอ๋องจะทรงกริ้ว" จูจูกับเสี่ยวฮวายังคงวิ่งตามและพูดคำพวกนี้ไม่หยุด 

"ท่านอ๋องอะไรอีกล่ะ จะโกรธก็โกรธไปสิ พูดถึงอยู่ได้ น่ารำคาญ" ฉันหันไปพูดกับจูจูกับเสี่ยวฮวา จากนั้นจึงหันหน้ามาเพื่อวิ่งต่อ "โอ๊ย" ฉันร้องเมื่อรู้สึกว่าตัวเองชนเข้ากับอะไรสักอย่างที่แข็งราวกับหิน จนฉันซวนเซล้มลงที่พื้น

"พวกเจ้าทำอะไรกันอยู่!" เสียงทุ้มที่แฝงไปด้วยความไม่พอใจพูดขึ้น 

"ทะ...ท่านอ๋อง" เสี่ยวฮวาและจูจูร้องเรียก ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสี่ยงสั่นเทาว่า "คะ...คาราวะท่านอ๋องเพคะ" แล้วจากนั้นจึงคุกเข่าหมอบกราบไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมอง 

"หึ...ใครให้เจ้าออกมาเพ่นพ่านอยู่ข้างนอก" เสียงดุดันแต่แฝงไปด้วยอำนาจดังขึ้น บรรยากาศพลันอึมครึม ฉันจึงลุกขึ้นยืนพลันมองหน้าคนพูด 'โอ้ มายก็อด คือมาหล่อคักหล่อแหน่แท้สู ยัยเพื่อนรัก ฉันไม่โกรธพวกแกแล้วค่า อิอิ คิ้วดั่งกระบี่ ตาเรียวแต่แฝงไปด้วยอำนาจ จมูกได้รูป ริมฝีปากหยัก ใบหน้าสันเป็นคม ก็หล่อแบบตะโกนไปเลยสิคะ'

"เปิ่นหวางกำลังถามเจ้าอยู่นะ" เสียงดุดันของบุรุษตรงหน้าพูดขึ้นอีกครั้ง พลางขมวดคิ้วจ้องหน้าสตรีตรงหน้า 

"โธ่...คนหล่อคะ...อย่าดุสิคะ...หลินหลิน...หลินหลิน...กลัวง่า~" ฉันดัดเสียงให้อ่อนหวานพลางบิดตัวไปมา แล้วใช้นิ้วชี้ทั้งสองจิ้มเข้าหากัน 

".........." เขาไม่พูดอะไร ได้แต่มองสตรีตรงหน้าแล้วเหยียดยิ้มดูว่าเจ้าหล่อนจะมาไม้ไหน 

"คุณชื่ออะไรเหรอคะ ฉันชื่อหลินหลินค่ะ" ฉันยื่นมือไปตรงหน้าเขาหวังให้เขาจับมือกลับ แต่เขายังคงเงียบและจ้องหน้าฉันอยู่เหมือนเดิม ฉันจึงถามเขาต่อว่า "มีอะไรติดหน้าหลินหลินเหรอคะ ทำไมคุณถึงเอาแต่มองล่ะ" ฉันพูดจบก็ลูบใบหน้าของตัวเองแล้วทำหน้างง

"หึ" เขาแค่นเสียงให้กับความเสแสร้งของสตรีตรงหน้า 

"ทำแบบนี้หมายความว่าไง" ฉันถามเพราะเริ่มจะไม่พอใจบ้างแล้ว ดูสายตาที่มองด้วยความเหยียดหยามนั้นสิ เหอะ หล่อแต่นิสัยไม่ดี ไม่มีมารยาท ให้ตายอีหลินหลินคนนี้ก็ไม่เอา ชิ มีดีแค่หน้าตาจริงๆ:⁠-⁠( 

"เปิ่นหวางกักบริเวณเจ้าอยู่ เจ้าออกมาเพ่นพ่านเช่นนี้...แม้แต่คำพูดของเปิ่นหวานเจ้าก็ไม่ฟัง เจ้าไม่กลัวเปิ่นหวานลงโทษเจ้าหรือ!" เขาพูดด้วยน้ำเสียงดุดันและยื่นมือมาบีบคอฉัน 

"ท่านอ๋อง...ท่านอ๋องเพคะ" จูจูร้องเรียกแล้วร้องไห้เสียงดัง 

"ไอ้บ้านี่ จะฆ่ากันให้ตายเหรอไงวะ" ฉันสบถแล้วใช้แรงดึงแขนเขาออก แต่ไอ้คนบ้านี่เหมือนมันจะไม่ขยับเลย และเขาก็ยิ่งบีบแรงขึ้นเมื่อได้ยินฉันสบถใส่ ดวงตาของเขาแฝงไปด้วยโทสะ แล้วพูดด้วยเสียงดุดันว่า"กล้าด่าเปิ่นหวาง...สตรีเช่นเจ้ามีกี่ศีรษะกัน" 

"แค่กๆ...ปล่อยนะโว้ย...ไอ้คนบ้า...จะตายแล้วนะ แค่กๆ...ช่วยด้วย...ช่วยด้วย...เขาจะฆ่าคนแล้ว" ฉันแค่นเสียงออกมา ใบหน้าแดงจนเกือบจะม่วงเพราะหายใจไม่ออก แต่ไม่มีใครสังคนขยับเลย มีแต่เสียงร่ำไห้ของจูจูกับเสี่ยวฮวาที่ร่ำไห้ "ท่านอ๋อง...ฮือๆ...โปรดระงับโทสะด้วยเพคะ" จูจูโขกศรีษะดังโป๊กๆจนมีเลือดไหล  

"ท่านอ๋องเพคะ...ทรงปล่อยพระชายาเถิด...เป็นความผิดของบ่าว...ที่ไม่ได้ดูแลพระชายาให้ดีเพคะ" เสี่ยวฮวาร้องไห้พร้อมกับโขกศีรษะจนมีเลือดไหลเช่นกัน 

"หึ" เขาแค่นเสียงแล้วปล่อยฉัน ฉันยืนสูดหายใจ โอ๊ย จะเล่นใหญ่เกินไปแล้วนะ ฉันโมโหแล้ว 

"ไอ้ชาติชั่ว รังแกผู้หญิง ฉันจะแจ้งตำรวจมาจับแก" ฉันชี้หน้าด่าเขา ก่อนจะเดินเข้าไปตบหน้าเขาแต่เขาจับข้อมือไว้แล้วพูดว่า "บังอาจ!!" 

"ฮือๆ...พระชายา...หยุดเถิดเพคะ" เสี่ยวฮวากับจูจูลุกขึ้นมากอดฉันไว้แล้วพยายามทำให้ฉันคุกเข่าลง "ท่านอ๋องกริ้วแล้ว...พระชายาเพคะ...ท่านรีบสำนึกผิดเถิดเพคะ" เสี่ยวฮวารีบร้องบอก 

"สำนึกผิดบ้าอะไร ไอ้บ้านั่นมันบีบคอฉันนะ" ฉันตะคอกเสียงดังแล้วสะบัดจูจูกับเสี่ยวฮวาออก

"เจ้าอยากโดนตัดศีรษะหรือไร ถึงกล้าหมิ่นเกียรติเปิ่นหวางเช่นนี้" เขาเดินเข้ามาแล้วหยิบดาบขององครักษ์ชี้มาที่ฉัน 

"ฮือๆ...พระชายา...ท่านรีบคุกเข่า...ท่านรีบขอร้องท่านอ๋องสิเพคะ...ฮือๆ..." เสี่ยวฮวากับจูจูร้องไห้รีบมาดึงฉันอีกครั้ง 

"ก็แค่ดาบปลอมๆ คิดว่ากลัวเหรอ" ฉันเท้าสะเอวตะโกนแล้วยื่นมือไปปัดดาบเล่มนั้น "ว้าย" ฉันมองเลือดที่ไหลลงมาจากฝ่ามือของตน 

"นะ...นี่....นี่...ดาบจริง...มันคือดาบจริง..." ฉันเอ่ยด้วยเสียงสั่นเทา

"เสแสร้งอะไรอีก" เขาพูดพร้อมมองสตรีตรงหน้าด้วยแววตาล้ำลึก

"ที่นี่คือที่ไหน...ฮือๆ...ฉันอยู่ที่ไหน..." ความจริงที่ได้รับรู้ทำให้ฉันสับสน ฉันมองผู้คนและสถานการณ์ตรงหน้า พลันรู้สึกว่าโลกทั้งโลกคล้ายจะถล่มลงมา 'นี่ฉันทะลุมิติมาอยู่ในยุคจีนโบราณจริงๆเหรอ' เพราะถ้าจะบอกว่าเพื่อนแกล้ง ยังไงก็คงไม่ใช้ดาบจริงอยู่แล้ว

"ทำไม เจ้าอยากตายไม่ใช่หรือ เปิ่นหวางจะสนองความต้องการให้เจ้าเอง" เขาเหยียดยิ้มมองสตรีตรงหน้าแล้วเดินเข้ามาช้าๆ 

"ตายเหรอ...ถ้าตายแล้ว...ฉันจะได้กลับไปใช่ไหม" ฉันพูดอย่างเหม่อลอย น้ำตาไหลรินๆช้าๆแล้วหลับตา จากนั้นจึงลืมตาแล้วมองเขาด้วยสายตาจริงจัง 'ถ้าฉันตาย ฉันอาจจะได้กลับไป' เมื่อคิดได้อย่างนั้น ฉันจึงยิ้มแล้วยื่นมือไปจับปลายดาบโดยไม่สนว่าดาบจะบาดมือตัวเองจนบาดเจ็บแค่ไหน แล้วดึงดาบแทงเข้ามาที่หัวใจตน

"พระชายา" จูจูกับเสี่ยวฮวาตะโกนลั่น ส่วนเขาก็นิ่งไปเล็กน้อยก่อนจะมองความเปลี่ยนแปลงของสตรีตรงหน้า 

"ไอ้คนสารเลว ชาตินี้อย่าได้เจอกันอีกเลย" นี่คือคำพูดครั้งสุดท้ายของฉัน ก่อนที่สติจะดับวูบไป 

"หึ คิดจะไปจากเปิ่นหวาง...ก็ต้องดูว่าเจ้ามีความสามารถเช่นนั้นหรือไม่" เขาแค่นเสียงแล้วเดินมาสกัดจุดนาง เพื่อไม่ให้เลือดไหลหมดตัวตายเสียก่อน จากนั้นจึงอุ้มนางขึ้น ท่ามกลางความตกตะลึงของพวกบ่าวไพร่ 

"ตามหมอหลวง" เขาเอ่ยด้วยเสียงดุดัน ทุกคนจึงได้สติแล้วรีบย้ายกันไปทำหน้าที่ของตน

 

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • set : เจ้าขา   ตอนที่2 ท่านอ๋องเจ้าขา ชายามาแล้ว

    "ฮือๆ...พระชายาเพคะ...เมื่อไหร่ท่านจะฟื้น...ฮือ" เอาอีกแล้ว ฉันได้ยินเสียงนี้อีกแล้ว ฉันกระพริบตาช้าๆแล้วมองสิ่งที่อยู่ตรงหน้า จูจูกำลังร้องไห้ ส่วนเสี่ยวฮวากำลังนั่งทำหน้าเศร้าและคอยเฝ้าฉันอยู่ "พระชายา...ท่านฟื้นแล้ว" เสี่ยวฮวาพูดพร้อมคุกเข่ามานั่งข้างเตียงด้วยความดีใจ จูจูที่ได้ยินอย่างนั้นจึงหยุดร้องไห้แล้วโถมตัวกอดฉัน "พระชายา...หม่อมฉันดีใจที่พระองค์ไม่เป็นอะไรเพคะ""จูจู...ฉันจะตายเพราะเธอเนี่ยแหละ หนักนะ ลุกออกไป" ฉันนิ่วหน้าร้องโอดโอย"อุ๊ย หม่อมฉันขออภัยเพคะ" "เฮ้อ...หลินหลินเอ๋ย แทงตัวเองทำไมล่ะเนี่ย ไม่ได้กลับบ้านแถมยังต้องมาเจ็บตัวอีก" ฉันบ่นอย่างเซ็งๆ เสี่ยวฮวาจึงถามว่า "พระชายาเพคะ ท่านอยากกลับจวนหรือเจ้าคะ""ใช่" "แต่ถ้าท่านกลับไป ท่านก็จะเจอนางนะเพคะ หม่อมฉันกลัวว่าท่านจะโมโหจนเสียสุขภาพ" เสี่ยวฮวาทำหน้าลำบากใจ "นาง? ใครเหรอ" ฉันทำหน้างง "ก็คุณหนูหลินโหรวไงเพคะ" จูจูตอบ "แล้วหลินโหรวที่ว่าคือใครล่ะ" "พระชายา!!!" เสี่ยวฮวากับจูจูร้องเสียงหลง ตาเบิกโพลงด้วยความตกใจ ก่อนจะจูจูจะพูดด้วยเสียงกระซิบว่า "คุณหนูหลินโหรว น้องสาวต่างมารดาของท่านไงเจ้าคะ นางเป็นลูกสาวขอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-26
  • set : เจ้าขา   ตอนที่3 ท่านอ๋องเจ้าขา ชายามาแล้ว

    ผ่านมาสามวันแล้ว ฉันก็ยังคงอยู่ในเรือน จะก้าวเท้าออกจากตัวเรือนก็ยังทำไม่ได้เพราะคำสั่งของอีตาอ๋องบ้าอำนาจนั่น กินๆนอนๆตอนแรกๆก็สบายอยู่หรอก แต่ทำแบบนี้ทุกวันก็น่าเบื่อ แถมไม่มีซีรี่ส์หรือมือถือให้เล่นอีก วันๆก็เจอแค่จูจูกับเสี่ยวฮวาและบ่าวรับใช้คนอื่นๆที่อยู่ภายในเรือน ไม่เคยเจอคนข้างนอกเลย ชีวิตแบบนี้ช่างน่ารันทดเกินไปแล้ว "เฮ้อ...น่าเบื่อจังเลย" ฉันถอนหายใจพร้อมทำหน้าเซ็งอยู่หน้ากระจก ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือฉันเด็กลง จากอายุ25 กลายเป็นอายุ18 หน้าก็สวยใสไร้สิวดั่งดอกไม้แรกแย้ม แต่...ก็นั่นแหละ มันใช้เป็นประโยชน์ได้ที่ไหนล่ะ...เอ๊ะ ต้องได้สิ ใช้แผนหญิงงามกับอีตาอ๋องบ้าอำนาจนั่นดีไหมน้า~ ถ้าทำได้ เขาจะใจดีกับฉันไหม น่าลองแฮะ"เสี่ยวฮวา" ฉันเรียกเสี่ยวฮวาพร้อมยิ้มอย่างซุกซน "เพคะพระชายา" "เจ้ามาช่วยข้าแต่งหน้าแต่งตัวหน่อยสิ ข้าจะไปหาท่านอ๋อง" "พระชายา...แต่ท่านอ๋องมีคำสั่งกักบริเวณท่านนะเจ้าคะ" เสี่ยวฮวาพูดด้วยสีหน้าไม่สบายใจ "ข้าบอกให้ทำก็ทำเถอะ...จูจูไปบอกห้องครัวต้มน้ำแกงมาให้ด้วย" ฉันยิ้มให้เสี่ยวฮวาและหันไปบอกจูจู "เพคะ" จูจูรับคำและเดินจากไป เสี่ยวฮวาจึงลุกขึ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-26
  • set : เจ้าขา   ตอนที่4 ท่านอ๋องเจ้าขา ชายามาแล้ว

    "ทำไมโรงเตี๊ยมเงียบจัง" ฉันเอ่ยเบาๆพลางเงยหน้าขึ้นมองโรงเตี๊ยมซึ่งอยู่ในสภาพกลางเก่ากลางใหม่ ตกแต่งด้วยโคมไฟ มีจำนวนสองชั้น "เถ้าแก่ เถ้าแก่" ฉันเดินเข้าไปข้างในพร้อมร้องเรียก เพียงไม่นานก็มีชายวัยกลางคนพุงพลุ้ยแต่ใบหน้าเต็มไปด้วยความดีใจรีบวิ่งเข้ามาและตอบว่า"มาแล้วๆ" เสี่ยวฮวาจึงเดินไปจองห้องกับเถ้าแก่ ส่วนฉันก็เดินสำรวจพร้อมกวาดตามองรอบๆบริเวณ"เถ้าแก่ จองแค่คืนเดียวทำไมแพงจัง" เสี่ยวฮวาขมวดคิ้วแล้วถามด้วยความไม่พอใจ"คือ...คือว่า...พวกเจ้าจะพักไหมล่ะ ถ้าไม่พักก็ไปที่อื่น...แต่ข้าบอกไว้ก่อนที่นี่มีโรงเตี๊ยมที่เดียว คือโรงเตี๊ยมของข้า" เถ้าแก่ทำหน้าลังเลก่อนจะตะคอกตอบ "เพ้ย!! ข้าไม่พักหรอก เอาเปรียบกันอย่างนี้ มีเสียที่ไหนจะเอาตั้ง10ตำลึง ฝันไปเถอะ" เสี่ยวฮวายืนเท้าสะเอวแล้วทำท่าถุยน้ำลาย จากนั้นจึงหันมาพูดกับฉันว่า "คุณหนู พวกเราไปกันเถอะเจ้าค่ะ""อืม" ฉันจึงเดินนำหน้าเสี่ยวฮวาออกจากโรงเตี๊ยม "เดี๋ยวสิ" เถ้าแก่รีบวิ่งมาดึงแขนเสี่ยวฮวาไว้ "กรี๊ด~ เจ้าทำบ้าอะไรน่ะ" เสี่ยวฮวากรีดร้อง ชาวบ้านที่ได้ยินจึงแอบมองเหตุการณ์อยู่ในที่ไกลๆ "แม่นาง...พักที่นี่เถอะ...ถือว่าข้าขอ" เถ้าแก่ทำห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-26
  • set : เจ้าขา   ตอนที่5 ท่านอ๋องเจ้าขา ชายามาแล้ว

    ฉันงัวเงียตื่นขึ้นมาบนเตียงโบราณ ค่อยๆนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างช้าๆ "อุ๊บส์" ฉันเอามือปิดปากตัวเองเหมือนจะอาเจียนออกมาเพราะรู้สึกว่าเหมือนได้กลิ่นคาวเลือดอยู่ ภาพที่พ่อบ้านโดนตัดหัวยังคงฉายชัดอยู่ในความทรงจำ เขา...เซียวหรง จิตใจเขาช่างโหดร้ายอำมหิตยิ่งนัก"เจ้าฟื้นแล้วหรือ" เสียงดุดันที่แฝงไปด้วยอำนาจเอ่ยถามขึ้น เล่นเอาฉันที่นั่งเหม่ออยู่บนเตียงสะดุ้งตัวโยนพร้อมกรีดร้องด้วยความตกใจในทันที"ว้าย" "เจ้ามีอะไรอยากจะบอกเปิ่นหวางหรือไม่?" เขาที่นั่งอยู่บนเก้าอี้กลางห้องในคราแรก ค่อยๆเดินเข้ามาหาฉัน ฉันกลืนน้ำลายลงคอแล้วพูดด้วยเสียงสั่นๆว่า "ท่าน...ท่านอย่าเข้ามานะ" "เป็นอะไรไปพระชายา...เจ้ากลัวเปิ่นหวางงั้นหรือ หึหึ" เขายื่นมือมาเชยคางฉันให้สบตากับเขา "ท่าน...ท่านฆ่าคนแล้ว" ฉันชี้มือสั่นเทาไปตรงหน้าเขา "เจ้าตกใจอันใดกัน เจ้าก็เคยฆ่าคนเช่นเดียวกับเปิ่นหวาง" เขาแสยะยิ้ม "มะ...ไม่...ข้าไม่เคย...ข้าไม่เคยฆ่าคน" ฉันส่ายหน้าเป็นพัลวัน ในใจรู้สึกหวาดกลัวเขามากขึ้นไปอีก "น้องสาวเจ้าล่ะ เจ้าเคยฆ่านางมิใช่หรือ?" "ข้าไม่เคยฆ่าใคร" ฉันเถียงเขาด้วยความไม่ยินยอม "แล้วเรื่องที่เจ้าผลักนางตก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-26
  • set : เจ้าขา   ตอนที่6 ท่านอ๋องเจ้าขา ชายามาแล้ว

    ยามซวี (19.00 - 20.59 น.) "โอ๊ย จะทำยังไงดีล่ะเนี่ย" ฉันเดินไปเดินมาอยู่หน้าเตียงนอนจีนโบราณพลางกระสับกระส่ายไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี ตั้งแต่อีตาอ๋องนั่นบอกว่าจะเข้าหอกับฉัน ฉันก็ถูกบ่าวรับใช้จับอาบน้ำ ขัดสีฉวีวรรณ จับแต่งหน้าแต่งตัวแล้วพาฉันเข้ามาในห้องนอนของเขา จะหนีก็ไม่ได้เพราะด้านนอกประตูมีคนเฝ้าอยู่ "โอ๊ย ฉันจะเสียตัวแล้วเหรอเนี่ย เสียตัวให้กับผู้ชายจีนโบราณเสียด้วย" ฉันขยี้ผมตัวเองจนผมยุ่งไม่เป็นทรงพร้อมกับทำหน้าคิดไม่ตก "แต่เขาก็เป็นสามีแกนะหลินหลิน มีอะไรไม่ถูกกันล่ะ" "แต่เขาเป็นสามีของหลินหลินในโลกนี้ ไม่ใช่โลกอนาคตสักหน่อย" "แต่ว่า...ไม่ว่าจะเป็นหลินหลินในโลกไหน ก็คือหลินหลินอยู่ดี" ฉันยืนเถียงกับตัวเองอยู่อย่างนั้น จนได้ยินเสียงคนข้างนอกพูดว่า "คาระวะท่านอ๋องเพคะ" "พระชายาล่ะ" "อยู่ในห้องบรรทมเพคะ" "แอ๊ด~" เสียงประตูเปิดออก ฉันจึงรีบวิ่งขึ้นเตียงแล้วแกล้งหลับ "พระชายา" เขาเดินมาที่เตียงและนั่งลงข้างเตียงจากนั้นจึงสะกิดเรียกฉันแต่ฉันยังคงแกล้งหลับ"นึกว่าเปิ่นหวางไม่รู้หรือว่าเจ้าแกล้งหลับ" "......" "อืม...หรือพระชายาอยากให้เปิ่นหวางลักหลับ...เปิ่นหวางไม่ขัดศรัทธาเจ้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-26
  • set : เจ้าขา   ตอนที่7 ท่านอ๋องเจ้าขา ชายามาแล้ว

    วันต่อมา "ท่านอ๋องเพคะ พวกเราออกไปกันเถิด หม่อมฉันพร้อมแล้ว" ฉันเร่งเขาที่กินข้าวเช้าเสร็จเมื่อครู่ เขาขมวดคิ้วแล้วพูดว่า "เจ้ารีบร้อนอันใดกัน" "หม่อมฉันอยากออกไปเดินเล่น" ฉันทำหน้าสลดใส่เขาเพราะเขาขมวดคิ้วใส่ฉัน"งั้นก็ไปกันเถิด" เขารับคำแล้วเดินนำหน้า ฉันจึงยิ้มด้วยความสมใจและเดินตามหลังเขาไป"ว้าว~บรรยากาศที่แสนสดชื่น" ฉันยืนกางแขนพร้อมสูดบรรยากาศที่คิดว่าจะได้รับในแถบชายแดนซึ่งเป็นชนบทแห่งนี้ "สดชื่นอะไรของเจ้า แดดร้อนขนาดนี้" เขาเอ่ยเสียงเข้มอยู่ด้านข้าง "ท่านอ๋องเพคะ ทำไมถึงได้ร้อนเช่นนี้เล่า หม่อมฉันนึกว่าจะมีลมพัดและได้กลิ่นดินของต้นไม้ทำให้รู้สึกสดชื่นเสียอีก เฮ้อ ความฝันกับความจริงมันช่างกันเหลือเกิน" "เกรงว่าเจ้าต้องผิดหวังแล้ว" เขาหันมายิ้มเยาะให้ฉันที่ทำหน้าม่อยลง "เจ้ากลับวังเสียเถิด" เขาโบกมือเหมือนไล่ฉันกับวัง และตัวเขาก็เดินจากไป "ท่านอ๋องจะเสด็จไปไหนเพคะ" "เปิ่นหวางจะไปทำงาน เจ้าอยากไปหรือไม่?" เขาหันมาถามพร้อมกับเลิกคิ้วหนึ่งข้างใส่ฉัน"ไปสิเพคะ ไหนๆก็ออกมาแล้ว" ฉันตอบและรีบเดินไปหาเขา "หืม เจ้าไม่กลัวร้อนหรืออย่างไร?" "กลัวเพคะ แต่ความอยากรู้มีมีมากกว่า"

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-26
  • set : เจ้าขา   ตอนที่8 ท่านอ๋องเจ้าขา ชายามาแล้ว

    ณ วังผิงอัน เขาอุ้มฉันวางบนเตียงนอนแล้วเอ่ยขึ้นว่า"เจ้าโกรธเปิ่นหวางหรือ?" "ท่านอ๋อง...หม่อมฉันจะทรงโกรธพระองค์ได้อย่างไร หม่อมฉันมีสิทธิ์อันใดโกรธพระองค์ล่ะเพคะ" ฉันตอบเขาด้วยน้ำเสียงที่ติดจะน้อยใจหน่อยๆ ก่อนจะน้ำตาคลอเบ้าแล้วพูดต่อว่า "ท่านอ๋องเพคะ...พระองค์เคยเชื่อใจหรือเคยเชื่อคำพูดของหม่อมฉันบ้างหรือไม่" "........" "ในสายตาของท่านอ๋อง หม่อมฉันเป็นสตรีเช่นใดกัน" พูดจบฉันก็น้อยใจจนน้ำตามันไหลทะลักออกมา เขาตกใจเล็กน้อย ยืนเก้ๆกังอย่างไม่รู้ว่าจะทำยังไง แล้วจึงดึงฉันเข้าไปกอด "เจ้าจะร้องไห้ทำไมกัน" "ฮือๆ" "เอาล่ะๆ เลิกร้องได้แล้ว เรื่องนี้พวกเราก็ไม่ต้องพูดกันอีกดีหรือไม่" "เพคะ" ฉันตอบด้วยเสียงสั่นเครือ "แล้วเจ้าจะทำเยี่ยงไรกับนาง" เขาถามถึงเรื่องของหลินโหรว "แล้วแต่พระองค์เพคะ" "เปิ่นหวางจับนางมาหั่นเนื้อแล้วโยนให้สุนัขกินดีหรือไม่" เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา แววตาเย็นยะเยือกราวกับจะแช่แข็งคนให้ตาย ฉันมองหน้าเขาแล้วอดตัวสั่นขึ้นมาไม่ได้ "น่ากลัวเกินไป" ฉันกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ "กล้าลอบฆ่าคนของเปิ่นหวาง ก็ต้องรู้อยู่แล้วว่ามีจุดจบเช่นไร" เขาเอ่ยด้วยเสียงดุดัน "อย่าถึงกับ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-26
  • set : เจ้าขา   ตอนที่9 ท่านอ๋องเจ้าขา ชายามาแล้ว

    สามวันต่อมา ฉันกับท่านอ๋องและขุนนางคนอื่นๆตามฮ่องเต้เสด็จไปเยี่ยมราษฎร ฝ่าบาททรงถามถึงความเป็นอยู่ อาหารการกินต่างๆ ซึ่งหลังจากที่ฉันฟังแล้วก็รับรู้ได้ว่าฝ่าบาททรงห่วงใยราษฎรอย่างแท้จริง และเป็นผู้ที่มีพระปรีชาสามารถคนหนึ่ง หลังจากกลับวังผิงอันหลังจากเสด็จไปเยี่ยมราษฎรแล้ว ฝ่าบาทกับท่านอ๋องก็คุยเรื่องราชการกันต่อในห้องหนังสือ ฉันจึงเข้าครัวเพื่อทำผลไม้ลอยแก้วให้ฝ่าบาทกับท่านอ๋อง เนื่องจากสภาพอากาศวันนี้ร้อนมากจึงต้องหาของคลายร้อนสักหน่อย ครึ่งชั่วยามต่อมา ฉันเดินออกจากครัวโดยมีเสี่ยวฮวาและจูจูที่อาการเริ่มขึ้นแล้ว ถือถาดที่มีถ้วยผลไม้ลอยแก้วเดินตามฉันอยู่ด้านหลัง "พี่สาว...ท่านจะไปไหนหรือเพคะ" หลินโหรวยิ้มหวานเดินเข้ามาทักฉัน"พี่สาว?" ฉันมองหน้าหลินโหรวพร้อมกับพูดทวนคำ จากนั้นจึงแสยะยิ้มแล้วพูดต่อว่า "เจ้ามีฐานะใด...เปิ่นกงมีฐานะใด คำเรียกขานเช่นนี้เหมาะสมหรือไม่ เจ้ามิรู้หรือ? เอ๋...หรือว่าคุณหนูรองไม่เคยเรียนเรื่องมารยาท"' "พี่...พระชายา...หม่อมฉันขอประทานอภัยเพคะ...หม่อมฉันใจร้อนไปหน่อย" หลินโหรวย่อกายคำนับแล้วตีหน้าเศร้า ที่ดวงตามีน้ำตาคลอเบาเล็กน้อย ราวกับถูกรังแก ฉันเดินเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-26

บทล่าสุด

  • set : เจ้าขา   ตอนที่0 ตอนพิเศษ

    ครึ่งปีต่อมา ราษฎรต่างพากันเดินทางมายังชายแดนของแต่ละแคว้น เนื่องจากในวันนี้จะมีการลงนามสัญญาสงบศึกของทั้งสามแคว้น ซึ่งเริ่มจากแคว้นหลงที่ฮ่องเต้เฟยหรงส่งพระราชสาส์นมายังฮ่องเต้ของแคว้นเว่ยต้าและแคว้นซีฮัน โดยเนื้อหาสำคัญก็คือการที่ราษฎรของทั้งสามแคว้นอยู่เป็นสุข ไม่ต้องรับความเดือดร้อนใดๆจากสงครามระหว่างแคว้นอีกต่อไปแล้ว "ไฮ~" โบตั๋นโบกไม้โบกมือให้ราษฎรที่มารอชมฉากสำคัญของประวัติศาสตร์ระหว่างสามแคว้น โดยตอนนี้ฮ่องเต้เฟยหรงและโบตั๋นยืนอยู่ตรงรอยต่อระหว่างแคว้น แค่ก้าวมาอีกก้าวเดียวก็จะเป็นแคว้นเว่ยต้ากับแคว้นซีฮันแล้ว"โบกมือเป็นนางงามเลยนะแก คิกๆ" หลินหลินที่ยืนอยู่กับท่านอ๋องเซียวหรงอยู่ที่ด้านหลังฮ่องเต้พูดแล้วหัวเราะเบาๆกับท่าทางของเพื่อน"คิกๆ" องุ่นที่ยืนอยู่กับแม่ทัพจางเหว่ย และยืนอยู่ด้านหลังฮ่องเต้แคว้นซีฮันหัวเราะเพื่อนทั้งสองเบาๆ "เริ่มพิธี" เสียงขันทีแคว้นหลงประกาศ ฮ่องเต้เฟยหรงจึงก้าวข้ามเขตแดนของตนมายืนอยู่ในเขตแดนของทั้งสองแคว้น ฮ่องเต้ทั้งสองเห็นอย่างนั้นจึงก้าวข้ามเขตแดนของตนด้วย ทั้งสามแคว้นหยุดอยู่ตรงกลางซึ่งเป็นทางเชื่อมระหว่างแคว้นทั้งสาม ก่อนจะทำการจุดธู

  • set : เจ้าขา   ตอนที่9 ฮ่องเต้เจ้าขา ฮองเฮามาแล้ว

    หลังจากกลับวัง พวกเราก็รีบเข้าห้องมาอาบน้ำ ฉันอาบก่อนแล้วให้เขาอาบทีหลัง โดยฉันไปค้นกระเป๋าแล้วหยิบดิลโด้ที่พกมาด้วยมาเตรียมไว้ จากนั้นจึงแต่งหน้าด้วยความรวดเร็ว ปล่อยผมยาวสยาย แล้วเอาถุงน่องตาข่ายสีดำมาสวมครึ่งขา ก่อนจะมานอนอยู่บนเตียงเพื่อรอเขา "ฝ่าบาทเพคะ~" ฉันร้องเรียกเขาแล้วนอนโพสท่าราวกับนางแบบในนิตยสาร18+ โดยนอนตะแคงข้างพร้อมโชว์ก้นขาวจั๊วแล้วทำสีหน้ายั่วยวน เขาเดินเข้ามาใกล้พร้อมกับกลืนน้ำลายลงหนึ่งอีก แล้วพูดว่า "เจ้ายั่วยวนเราเก่งนัก" เขาพูดจบก็ใช้มือบีบก้นฉันเบาๆ "ฝ่าบาทเคยเห็นสิ่งนี้ไหมเพคะ" ฉันหยิบดิลโด้ขึ้นมาพร้อมเปิดสั่น"อย่าเพิ่งสิเพคะ...ฝ่าบาทดูนี่เสียก่อน" "มันคืออะไร" เขาถามดวยความสงสัย "ฝ่าบาทว่า...สิ่งนี้มันดูเหมือนอะไรหรือเพคะ" ฉันถามยิ้มๆ "Banana ของเรา" "คิกๆ ใช่เพคะ" ฉันหัวเราะ ก่อนหันหน้ามาแยกขาออกกว้างแล้วใช้ดิลโด้ถูไถกลีบกุกลาบ "อ๊ะ...อ๊ะ...อ๊ะ" ฉันครางพร้อมทำหน้ายั่วยวน ก่อนจับนิ้วมือเขามาดูดเลีย "เจ้า" เขาพูดได้แค่นั้นก็ยิ้มมุมปากมองฉันอย่างชอบใจ แล้วจับใบหน้าฉันให้หันมาจูบเขา เข้าใช้ลิ้นสอดเข้ามาดูดรักพันเกี่ยวอย่างเร่าร้อน "จ๊วบๆ จ๊วบ" จากนั้

  • set : เจ้าขา   ตอนที่8 ฮ่องเต้เจ้าขา ฮองเฮามาแล้ว

    สองวันต่อมา วันนี้เป็นวันที่เดินทางไปชายแดน โดยการเดินทางครั้งนี้ไปแบบลับๆ มีผู้ติดตามเพียงไม่กี่คนเท่านั้น ในระหว่างทางฝ่าบาทก็จะคอยสอบถามความเป็นอยู่ของชาวบ้านว่าเป็นอย่างไรบ้าง โดยไม่ได้บอกว่าตนเป็นผู้ใด เพียงบอกว่ามาจากพระราชวังเท่านั้น "เราอยากให้สถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสามแคว้นสิ้นสุดลงสักที" เขาเอ่ยด้วยเสียงกลัดกลุ้ม เนื่องจากตลอดทางที่มาแม้จะพูดถึงเรื่องภัยธรรมชาติ แต่ส่วนใหญ่แล้วพูดถึงสถานการณ์ของสามแคว้น "แล้วฝ่าบาทคิดจะทำเช่นใดเพคะ" "ถ้าเป็นไปได้เราก็อยากจะสงบศึก...จะมีอะไรสำคัญไปกว่าราษฎรของเราอีกล่ะ" "ฝ่าบาทก็ทำให้เป็นจริงสิเพคะ ไม่แน่ว่าแคว้นอื่นๆก็อาจจะเช่นเดียวกับฝ่าบาท" ฉันยื่นมือไปกุมมือเขา "หากเป็นเช่นนั้นจริงๆก็ดียิ่ง เราจะเป็นผู้เริ่มส่งหนังสือสัญญาสงบศึกก่อน" "ฝ่าบาททรงพระปรีชายิ่ง" ฉันยิ้มกว้างและเกาะแขนเขาอย่างออดอ้อน หกวันต่อมา เดินทางมาหลายวันในที่สุดพวกเราก็มาถึงชายแดน วังของฝ่าบาทที่ชายแดนก็ยังคงงดงามวิจิตดังเช่นพระราชในเมืองหลวงเพียงแต่เล็กกว่าเท่านั้น ยังมีความสะดวกสบายอยู่เช่นเดิม สิ่งแรกที่ฉันทำคืออาบน้ำเพราะในระหว่างเดินทางได้อาบน้ำไม่กี่ครั

  • set : เจ้าขา   ตอนที่7 ฮ่องเต้เจ้าขา ฮองเฮามาแล้ว

    วันต่อมา ยามอู่ (11.00 - 12.59 น.) ฉันงัวเงียตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกอ่อนเพลีย ถึงจะเป็นอย่างนั้นแต่ก็แฝงไปด้วยความฟิน บอกตรงๆว่าคิดไม่ผิดที่เลือกเขา>⁠.⁠⁠.⁠จากนั้นฉันก็อาบน้ำ แต่งตัว และกินข้าว ก่อนจะเดินออกจากตำหนักของฝ่าบาทและไปตำหนักฮองเฮา ในระหว่างทางที่เดินก็ได้ยินเสียงเหมือนคนกำลังตะโกนโห่ร้อง"นั่นเสียงอะไรน่ะ" ฉันถามหมิงจู "น่าจะเป็นเสียงฝึกยิงธนูของราชองครักษ์เพคะ หม่อมฉันได้ยินว่าฝ่าบาททรงเสด็จไปทอดพระเนตรด้วยเพคะ" "ยิงธนูเหรอ...น่าสนุกแฮะ" ฉันยิ้มกว้าง จากนั้นจึงเดินไปตามเสียง ก็มาถึงลานกว้าง ที่รอบด้านทำเป็นที่นั่งล้อมรอบเหมือนอัฒจันทร์ มีเป้าธนูขนาดกลางวางเร

  • set : เจ้าขา   ตอนที่6 ฮ่องเต้เจ้าขา ฮองเฮามาแล้ว

    ฉันกับองค์หญิงเฟยเจินนั่งรอฝ่าบาทอยู่ในตำหนัก เราต่างก็รู้สึกกังวล กลัวว่าฝ่าบาทจะได้รับบาดเจ็บ เพราะด้านนอกคงมีเสียงของการต่อสู้อยู่"ทำไมเสด็จพี่เฟยฉีต้องคิดก่อกบฏด้วย...ฮือๆ...เสด็จพี่เฟยหรงทรงดีต่อท่านมากแท้ๆ" องค์หญิงเฟยเจินร้องไห้ "เฮ้อ" ฉันถอนหายใจ ไม่รู้ว่าจะปลอบใจอย่างไร จึงได้แต่กอดปลอบองค์หญิงเฟยเจินพร้อมกับลูบหลังเบาๆ "ฮือๆ...ฮือๆ..." สองชั่วยามต่อมา ฝ่าบาทเดินเข้ามาในตำหนักด้วยชุดที่เปื้อนเลือด "เสด็จพี่" องค์หญิงเฟยเจินวิ่งเข้าไปกอดฝ่าบาทพร้อมกับร้องไห้โฮ "เจ้าอย่าร้องไห้เลย พี่ชายอย่างข้าเจ็บปวดหัวใจนัก...องค์หญิงของข้าเหมาะกับรอยยิ้มนะรู้หรือไม่" ฝ่าบาทลูบหัวองค์หญิงเฟยเจินอย่างแผ่วเบา ก่อนจะบอกข้ารับใช้ให้พาตัวองค์หญิงกลับตำหนัก หลังจากที่องค์หญิงเฟยเจินเดินออกไปแล้ว ฉันก็มองสำรวจเขาว่าได้รับบาดเจ็บตรงไหนหรือไม่ "ฝ่าบาท..." ฉันเรียกเขาแล้วกอดเขาไว้ ก่อนจะร้องไห้เสียงดัง"หม่อมฉันกลัวว่าพระองค์จะ...ฮือๆ" "เจ้าห่วงใยเราขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อใดกัน หืม?"เขาถามเสียงเรียบแต่มีแววหยอกล้อในน้ำเสียง "ฮือๆ..." ฉันทุบอกอกเขาแล้วมองเขาด้วยความโกรธแล้วพูดต่อว่า "เมื่อครู่หม

  • set : เจ้าขา   ตอนที่5 ฮ่องเต้เจ้าขา ฮองเฮามาแล้ว

    หนึ่งสัปดาห์ต่อมา ฉันเดินมาหยุดอยู่ที่สระบัวด้านหลังวัง และกำลังยืนรอใครบางคนอยู่ "เจ้ามาแล้ว" เสียงทุ้มเอ่ยด้วยความดีใจ เขาก็คือองค์ชายเฟยฉีนั่นเอง "ข้าจะลงมือคืนนี้" ฉันยิ้มร้ายๆและมองสบตากับองค์ชายเฟยฉี "ดีมาก...ถ้าหากสำเร็จ...เจ้าก็จะเป็นฮองเฮาของข้า" เขาแสยะยิ้ม ใบหน้าที่ดูอ่อนโยนกลับบิดเบี้ยว รอยยิ้มของเขามันดูโรคจิตราวกับฆาตรในภาพยนตร์ที่เคยดู เล่นซะฉันขนลุกเกรียว "อย่าลืมที่สัญญาล่ะ" ฉันยิ้มกว้าง ก่อนจะมองซ้ายขวาแล้วรีบเดินจากมา วันนี้เป็นงานวันเกิดขององค์ชายเฟยฉี จึงมีการจัดงานเลี้ยงเฉลิมฉลองภายในวัง ฉันเห็นพวกนางกำนัลวิ่งวุ่นกันแต่เช้า มองดูแล้วก็รู้สึกเหนื่อยตาม ฉันเดินตามทางไปเรื่อยๆจนมาถึงห้องทรงงานของฝ่าบาทก็พบว่าฝ่าบาทไม่อยู่ "ฝ่าบาทอยู่ที่ใดหรือ" ฉันถามคนที่เฝ้าอยู่ด้านนอก"เสด็จไปที่สวนพะย่ะค่ะ" เมื่อได้ยินอย่างนั้นฉันจึงออกจากห้องทรงงานแล้วเดินไปที่สวน เห็นฝ่าบาทกำลังนั่งจิบชาในศาลาเก๋งจีนพลางชมดอกไม้ และมีบรรดาพระสนมนั่งและข้ารับใช้นั่งอยู่บนพื้นหญ้าด้านข้าง "ฝ่าบาทเพคะ ชาที่หม่อมฉันชงรสชาติดีหรือไม่เพคะ" เสียงออดอ้อนที่ฉันจำได้ว่าเป็นเสียงของพระสนมฉางดังขึ้

  • set : เจ้าขา   ตอนที่4 ฮ่องเต้เจ้าขา ฮองเฮามาแล้ว

    วันต่อมา องค์หญิงเฟยเจินรีบมาหาฉันตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่าง และยังเตรียมของมาให้ฉันพอกหน้าให้อีกด้วย ฉันจึงสอนนางกำนัลขององค์หญิงและทำให้ดูเป็นตัวอย่าง "ต่อไปนี้ก็ทำเองได้แล้ว" "ขอบพระทัยเพคะ" องค์หญิงเฟยเจินย่อกายคาระวะ จากนั้นก็พูดว่า "จริงสิเพคะ วันนี้เสด็จพี่เฟยฉีจะกลับมาจากชายแดนเพคะ" "เฟยฉี?" ฉันทำท่านึกก่อนจะนึกออกว่าเขาคือคนที่แอบลอบพบกับฉันก่อนที่ฉันจะทะลุมิติมาที่นี่"พี่สะใภ้...หม่อมฉันทูลด้วยความหวังดี อันที่จริงฝ่าบาท...เสด็จพี่เฟยหรงทรงอบอุ่น ใจดีมากนะเพคะ เพียงแต่แสดงออกไม่เป็นเท่าใดนัก" องค์หญิงเฟยเจินกระซิบที่ข้างหูของฉัน ฉันจึงมองหน้าองค์หญิงเฟยเจินก็พลันเข้าใจในสิ่งที่นางต้องการจะสื่อ "เจ้าไม่ต้องกังวลหรอก ข้าไม่ไม่มีวันผิดพลาดซ้ำสองแน่" ฉันยิ้มบางๆให้องค์หญิงเฟยเจิน "เฮ้อ~ หม่อมฉันค่อยโล่งใจหน่อย หากหม่อมฉันสมรสจะได้ไม่ต้องห่วงเสด็จพี่เฟยหรง" องค์หญิงเฟยเจินถอนหายใจอย่างโล่งอก "เจ้าจะสมรสกับผู้ใดหรือ?" "พี่สะใภ้ท่านไม่รู้หรือ...เสด็จพี่จะให้หม่อมฉันสมรสเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างแคว้น แต่หม่อมฉันยังคงคิดอยู่ว่าจะเลือกสมรสกับผู้ใดระหว่างฮ่องเต้แคว้นซีฮัน ท่านอ๋อง

  • set : เจ้าขา   ตอนที่3 ฮ่องเต้เจ้าขา ฮองเฮามาแล้ว

    วันต่อมา ยามซื่อ (09.00 - 10.59 น.) ฉันตื่นนอนและลุกขึ้นมาบิดขี้เกียจ อันที่จริงโดนกักบริเวณก็ไม่แย่สักเท่าไหร่ จะตื่นหรือจะกินข้าวตอนไหนก็ได้ แถมไม่มีผู้ใดมายุ่งอีก อันที่จริงในตำหนักนี้ยังมีนางกำนัลคนอื่นๆอีกแต่ฉันไม่อยากให้ใครมาวุ่นวาย มากคนก็มากความ "พระองค์จะอาบน้ำเลยหรือไม่เพคะ" หมิงจูที่ยืนเฝ้าอยู่หน้าประตูได้ยินเสียงสวบสาบภายในห้องจึงรีบเข้ามาปรนนิบัติ "อาบเลย" ฉันพูดแล้วลุกจากเตียงโดยมีหมิงจูช่วยพยุง "ข้าอาบคนเดียว เจ้าออกไปเถอะ" "เพคะ" หมิงจูรับคำแล้วย่อทำความเคารพ ก่อนจะเดินออกไป "ลา~ลา~" ฉันฮัมเพลงพร้อมกับถูสบู่ที่เอามาจากยุคปัจจุบันก็กระเป๋าที่ฉันให้หลินหลินกับองุ่นนั่นแหละ ดีนะที่ฉันฉลาดเตรียมไว้ อันที่จริงไม่ได้เตรียมไว้เพื่อทะลุมิติหรอกนะ ฉันเตรียมไว้เผื่อฉุกเฉิน ในนั้นมีไฟฉาย เซ็ตยา ผงป้องกันแมลง ผงป้องกันงู สารพัดอย่าง และที่สำคัญคือดิลโด้ ฉันใส่ในกระเป๋าเอาฮาเฉยๆ ไม่รู้ว่าพวกมันจะเอาไปทำอะไรกันบ้าง "จริงสิ...ฉันต้องสืบว่าท่านอ๋องกับท่านแม่ทัพที่หลินหลินกับองุ่นเลือกอยู่ที่ไหน ฉันจะได้ไปหาพวกมันไง อิอิ" ฉันยิ้มกว้างอย่างมีความสุข เมื่อคิดว่าจะได้เจอเพื่อนๆ เด

  • set : เจ้าขา   ตอนที่2 ฮ่องเต้เจ้าขา ฮองเฮามาแล้ว

    สามวันต่อมา ฉันนั่งเท้าคางด้วยความเบื่ออยู่ในสวนภายในตำหนักฮองเฮา "เฮ้อ~" ฉันถอนหายใจด้วยความเบื่อหน่าย "ทรงเป็นอันใดเพคะ" หมิงจูนางกำนัลที่คอยรับใช้ฉันถามด้วยความเป็นห่วง "เบื่อ" ฉันตอบพร้อมกับฟุบหน้าลงบนโต๊ะ หลังจากที่มีคำสั่งจากฮ่องเต้ให้กักบริเวณฉัน ฉันก็ได้สอบถามกับหมิงจูว่าเรื่องราวมันเป็นยังไง ฉันถึงได้โดนขังอยู่ในตำหนัก เค้นอยู่ตั้งนานกว่าหมิงจูจะยอมบอกหมิงจูบอกว่าเพราะฉันลอบพบบุรุษ และบุรุษผู้นั้นไม่ใช่คนอื่นไกล เพราะเขาคือน้องชายร่วมสายเลือดเดียวกับฮ่องเต้เฟยหรงมีนามว่าเฟยฉี พอฉันได้ฟังเรื่องราวแล้วก็อยากจะตายไปให้รู้แล้วรู้รอด พี่สะใภ้พบกับน้องชายของสามีลอบพบกัน แค่ได้ฟังก็ได้รู้ว่าฮ่องเต้ผู้นั้นโดยสวมหมวกเขียวเข้าแล้ว ฉันที่เพิ่งทะลุมิติมาก็ต้องชดใช้กับสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ทำ...โคตรซวยเลย(⁠T⁠T⁠) และหมิงจูก็เล่าอีกว่าฮ่องเต้องค์นี้อยากจะปลดสตรีหลังวังให้เหลือเพียงตำแหน่งฮองเฮาเท่านั้น แต่โดนพวกขุนนางคัดค้าน และเขาเห็นพฤติกรรมของฉัน เขาจึงพักเรื่องนี้เอาไว้ก่อน จากการไตร่ตรองจากสมองอันชาญฉลาดของฉันแล้ว ฉันคิดว่าฮ่องเต้ต้องมีใจให้ฉันชัวร์ๆ โดนสวมหมวกเขียวขนาดนี้ยังทำแค่กั

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status