Share

บทที่1

last update Last Updated: 2024-10-18 10:36:50

ความรู้สึกเจ็บแปล๊บที่ศีรษะราวกับโดนของแข็งทุบ..ส่งผลให้หญิงสาวครางด้วยความเจ็บ..แสงสว่างจ้าลอดผ่านม่านตา..ดวงตากลมโตกะพริบถี่ๆ อากาศรอบตัวร้อนจนเหงื่อซึม นิ้วมือเรียวสวยราวลำเทียนแตะส่วนที่ได้รับบาดเจ็บ..ความรู้สึกปวดร้าว..ทำให้เธอได้สติ

วูบสุดท้าย ตอนรถใหญ่ปะทะเข้ากับรถของเธอ..ไอ้ต้าวคู่หมั้นจอมวอแวดันหักรถฝั่งตัวเองเข้ารับแรงกระแทก..คิดได้ดังนั้นร่างบอบบางกระเด้งตัวลุกขึ้นทันที

"คีรี!!"เสียงตะโกนดังลั่นของคนเจ็บ..มีผลให้คนในห้องสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ

"ม๊า..ดูอีน่าจะได้สติแล้วนะ"เสียงกระซิบกระซาบไม่ไกลจากเตียงนอน คนที่ถูกเรียกว่า 'ม๊า' ขมวดคิ้วนิ่วหน้า

"แน่ใจนะว่าอีไม่เป็นไร นี้ม๊าพึ่งให้คนไปตามอาซานกลับมา"

"ก็อั้วก็บอกม๊าแล้วไงว่าอย่าไปตามเฮีย อีชอบเรียกร้องความสนใจ อั๊วก็บอกม๊าแล้วลูกสะใภ้คนไทยมันไม่ได้เรื่อง"

"อาหมวย ลื้อก็รู้...ใช่ว่าอั๊วอยากให้อาซานแต่งงานกับอีซะหน่อย..ก็อาปาลื้อนั่นแหละ อยากได้อีมาเป็นสะใภ้"เสียงบ่นกระปอดกระแปดโวยวายจากผู้หญิงวัยกลางคน เล่นเอาดารินปวดหัวตึบ

ดวงตาคมมีเสน่ห์คู่สวยหรี่มองรอบๆ ห้องที่เธออยู่นั่น มีลักษณะเหมือนห้องแถวโบราณ..ข้างในห้องมีตู้เสื้อผ้าไม้..ตรงกันข้ามมีโต๊ะเครื่องแป้งไม้อีกเช่นกัน ทุกอย่างรอบตัวดูแปลกพิกลไปหมด

ยิ่งผู้หญิงสองวัยที่ยืนนินทาเธอในระยะประชิดยิ่งแล้วใหญ่ คนที่ถูกเรียกว่า 'ม๊า' ใส่เสื้อคอจีนกี่เพ้าลายหงสีแดง..ในขณะที่คนอายุน้อยกว่าใส่ชุดแบบเดียวกันเพียงแค่ต่างสี..สองคนนี้..อาจเป็นผู้มีพระคุณ? คิดได้ดังนั้น คนเป็นแขกพยายามประคองตัวลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะพนมมือไหว้อย่างคนที่ถูกสั่งสอนมาอย่างดี

"ขอบคุณ คุณป้ามากนะคะ ที่ช่วยหนูเอาไว้..ว่าแต่ที่นี้ ที่ไหนเหรอคะ"เสียงแหบแห้งของคนป่วย..ที่ถูกส่งมาพร้อมดวงตาคมโรยแสง..เล่นเอาคนในห้องยืนอึ้ง

“อาหมวย..ม๊าว่าจินจิน..อีดูแปลกๆ นะ” คนถูกเรียกว่าป้ารีบกระซิบกับลูกสาวทันควัน..คำว่า ‘จินจิน’ ส่งผลให้หญิงสาวร่างบอบบางนิ่วหน้า..ชื่อเล่นภาษาจีนของเธอมีเพียงไม่กี่คนที่เรียก..มนุษย์ป้าที่แต่งตัวผิดยุคสมัยรู้จักเธอ?

แต่ไม่ทันที่เธอจะได้ถามลูกสาวที่แต่งหน้าจัดรีบเบ้หน้าใส่ทันที

“อีก็แบบนี้แหละม๊า..คงกะเรียกร้องความสนใจ”

“เหอะ อะไรของคุณเนี่ย..แต่งตัวก็พิลึก แต่งหน้าก็ประหลาด ยังพูดจาบ้าบออีก..ถ้าอยากได้เงิน เอามือถือมาให้ฉันซิ เดี๋ยวฉันโอนจ่ายค่าเสียเวลาให้” คนถูกด่าว่า ‘เรียกร้องความสนใจ’ ชักอารมณ์ขึ้น

“หนอย...ปากดีนักนะ..อั้วคือพี่สามีลื้อ..ลื้อควรให้ความเคารพอั้วบ้างซิ”

“พี่สามี? พูดบ้าอะไรของคุณห๊ะ” ดารินชักฉิว..เธอไปแต่งงานตอนไหน..จริงอยู่ถึงเธอจะมีคู่หมั้นเป็นตัวเป็นตนเพื่อตัดความรำคาญ.. แต่เรื่องแต่งงานเธอแทบไม่มีอยู่ในสมอง..บ้านหลังนี้มันประหลาดเกินไป ดูทรงคนที่เก็บเธอมาได้น่าจะเป็นคนโรคจิต คิดได้ดังนั้น ร่างบอบบางพยุงตัวที่กำลังเจ็บลุกขึ้นยืน..โชคยังดีนอกจากศีรษะ แขนขาของเธอยังปกติดี

หญิงสาวพยายามควานหากระเป๋าเงินของตัวเอง..แต่พอสำรวจชุดที่เธอใส่กับเป็นชุดกี่เพ้าสีขาวลายดอกกุหลาบแขนกุด..ริมฝีปากรูปกระจับเม้มแน่น..ดวงตาคมคู่สวยวาวโรจน์

“ป้า..ชุดฉันกับกระเป๋าเงินฉันหายไปไหน!!”

“พูดเพ้อเจ้ออะไรของลื้อ อั้วจะไปรู้ได้ยังไงว่าลื้อเก็บไว้ที่ไหน” น้ำเสียงแหลมเริ่มโวยวาย คิ้วได้รูปของคนเป็นแขกขมวดยุ่ง สถานการณ์ตอนนี้ชักไม่เข้าที..เวลาคนประสบอุบัติเหตุควรเรียกรถโรงพยาบาลไม่ใช่เหรอ? ทำไมสองคนนี้พาเธอกลับบ้าน?

เมื่อประมวลผลได้ร่างสูงระหงยืดตัวตรงทันที บุคลิกน่าเกรงขามชวนให้คนในห้องประหลาดใจกับพฤติกรรมเข้าไปอีก..เสียงหวานใสเปลี่ยนเป็นดุ ราวกับไม่ใช่ 'จินเยว่' คนเดิม

“เอ๊ะ หรือพวกแกเป็นพวกมิจฉาชีพ หึ ต้องการอะไรก็พูดมาตรงๆ เลย อยากได้เงินเท่าไร” คนอายุน้อยสุดในห้องเริ่มต่อรอง..แขนเรียวเสลากอดอก พร้อมหรี่ตามองคนในบ้านหลังนี้อย่างเหยียดๆ เล่นเอาหญิงสาวสองวัยผงะ

“ม๊าว่า..จินจิน นางไม่ปกติจริงๆ นะ อาหมวย” เสียงคนเป็นแม่ชักไม่ดี ร่างอวบอ้วนผิวขาวจัดอย่างจีนแท้เริ่มกระวนกระวาย ต่างจากลูกสาวเพียงคนเดียว..เธอรู้จักน้องสะใภ้ของตัวเองดี โดยเฉพาะนิสัย 'เรียกร้องความสนใจ'

"นี้ จินจิน ลื้อพูดอะไรของลื้อ..ปกติก็ไม่มีสมองอยู่แล้ว..วันนี้เกิดเฮี้ยนอะไรขึ้นมาอีกละ"

"เดี๋ยวนี้คุณว่าใคร..ห๊ะ..ใครนะไม่มีสมอง..ฉันนี้นะ"ดารินพูดพร้อมกับชี้นิ้วมาที่ตัวเอง..ทุกวันนี้เธอหาเงินได้ปีละหลายพันล้าน เป็นทั้งผู้ถือหุ้นรายใหญ่ รวมถึงผู้บริหารระดับสูงของบริษัท..คำว่า 'ไม่มีสมอง..ยัยผู้หญิงปากแจ๋วสองคนนี้ช่างกล้า!'

ความรู้สึกดีๆ ช่วงแรกที่ได้รับการช่วยเหลือ..หายไปเกือบหมด..คติประจำใจของเธอ

'ใครดีมาดีกลับ..ใครร้ายมาร้ายแสน'

ใบหน้าสวยหวานราวกับปั้นเริ่มเย็นชา ดวงตาคมคู่สวยมีเสน่ห์เคลือบด้วยสายตาหยามเหยียด..ริมฝีปากถูกยกยิ้มเพียงข้างเดียว

"นี้ฉันจะบอกอะไรพวกคุณให้ฟังนะ ถ้าพวกคุณพูดดีๆ กับฉัน..ฉันอาจโปรยเศษเงินให้บ้าง แต่ถ้ายังทำตัวแบบนี้อีก..บาทเดียวฉันก็ไม่ให้"พูดจบ..ร่างเพรียวระหงเชิดคอเดินออกจากห้องทันที..ในใจคิดเพียงแต่ว่า..หาโอกาสยืมโทรศัพท์มือถือของใครสักคนเพื่อติดต่อกลับที่บ้านก็พอ

แต่ไม่ทันที่คนเป็นแขกจะได้ออกจากบ้านหลังนี้..ร่างสูงโปร่งผิวขาวจัดของใครบางคนที่คุ้นตามาตลอดชีวิต ก็ก้าวเข้ามา..'คีรี' หรือก็คือคู่หมั้นของเธอนั่นเอง

ดวงตาคู่สวยของดารินมองสำรวจตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า..เสื้อเชิ๊ตสีขาวติดจะหลวมไปซะนิด..กางเกงสีกรมทรงจะดูแก่ไปซะหน่อย แต่พออยู่บนร่างสูงโปร่งกับดูวินเทจซะอย่างงั้น..นอกจากการแต่งตัวที่ผิดแปลกไปบ้าง..สภาพร่างกายของคนเป็นคู่หมั้นยังดูครบ 32 ทุกประการ..และยังหล่อเหลาไม่ต่างจากพระเอกจีนเหมือนเดิม ราวกับอุบัติเหตุที่ผ่านมา เขาไม่ได้รับผลกระทบอะไร..โดยไม่รู้ตัว..ไอ้คนที่ปากบอกปาวๆ ว่า 'ไม่เคยรักใคร' กับดูโล่งอก..ดวงตาคู่สวยมีเสน่ห์มองด้วยความพอใจ

ร่างบอบบางในชุดกี่เพ้ากับกางเกงสีเข้มพอดีตัว...เดินมาอยู่ตรงหน้าคนเป็นคู่หมั้น ก่อนมือเรียวสวยจะจับใบหน้าหล่อเหลาตรงหน้าพลิกซ้ายพลิกขวา เพื่อหารอยแผล..ยังดีไอ้ต้าวตัวโตยังคงปกติดีทุกประการ..ไม่ใช่อะไร เธอกลัวม๊ะม๊าเธอจะบ่นว่าทำว่าที่ลูกเขยคนโปรดเสียโฉม..พฤติกรรมของหญิงสาวทำชายหนุ่มประหลาดใจ ดวงตาสองชั้นคมกริบ..เยียบเย็นกว่าปกติ

"นายไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว ป่ะ กลับบ้านกันเถอะ"คนตัวเล็กกว่าพูดพร้อมกับดึงแขนคู่หมั้นเตรียมจะชิ่งออกจากบ้านหลังนี้ เล่นเอาผู้หญิงสองวัยที่เดินตามมามองตากันอย่างงงงวย..คนที่ถูกดึงแขนเองก็ใช้มือหนาปลดมือน้อยออกอย่างรังเกียจ..เล่นเอาดารินประหลาดใจขั้นสุด และเขายังทำให้เธออึ้งเข้าไปอีก..เมื่อเขาหันไปเรียกผู้หญิงวัยกลางคนว่า 'ม๊า'

"ม๊า..ไหนม๊าว่าจินจิน..อีสลบไปไง แล้วนี้อะไรยังเดินคล่องไม่ได้ต่างจากปกติ"เสียงเย็นชาจากลูกชายคนสุดท้องของบ้าน เล่นเอาคนเป็นแม่หน้าจ๋อย พี่สาวคนเดียวรีบยุส่ง..ท้าวความถึงครั้งอดีตที่หญิงสาวเคยใช้แผนเดิมๆ เรียกสามีกลับบ้าน

"ก็อีตอแหลไง กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้ว..ที่พยายามเรียกร้องความสนใจ รอบก่อนก็แกล้งป่วย..เรียกลื้อกลับบ้านด่วน"และเหมือนจะได้ผล..ชายร่างสูงโปร่งหรี่ตามองร่างเล็กเพียงอกอย่างนึกรังเกียจเดียดฉันท์..ความรู้สึกเจ็บแปล็บ..วิ่งเข้ากลางใจ..อย่างที่เธอเองก็ไม่เข้าใจ

ดารินพยายามมองสำรวจด้วยแววตาค้นหา..สมองประมวลผลอย่างรวดเร็ว..ไม่ใช่...ผู้ชายคนนี้หน้าตาเหมือนคีรีทุกประการ..แต่ผู้ชายของเธอจะไม่มีวันมองเธอด้วยสายตาแบบนี้เป็นอันขาด..คิดได้ดังนั้น..หญิงสาวรีบเดินจ้ำอ้าวออกจากบ้านทันที

Related chapters

  • back to 1950's ย้อนเวลาให้ดอกไม้ผลิบาน   บทที่2

    แสงสว่างเจิดจ้าสาดเข้าหาหลังเธอเปิดประตู..และสิ่งที่ทำให้หญิงสาวช็อก..คือการที่เห็นผู้คนแต่งตัวไม่ต่างจากคนในบ้าน..บ้านเรือนยังเป็นตึกแถวโบราณมีรูปทรงผสมยุโรป ประดับด้วยลวดลายปูนปั้น..ราวกับเดินหลุดเข้ามาเที่ยวในอีกยุคสมัยหนึ่ง..ร่างเพรียวระหงรีบวิ่งออกจากตรอกหวังจะเจอถนนใหญ่..และใช่เธอเจอมัน..แต่ถนนใหญ่ที่เธอเห็น ก็ช่างต่างจากที่..ที่เธอมา..นอกจากผู้คนที่แตกต่าง..ยังมีรถจิ๊บโบราณ..รถเก๋งวินเทจ แถมยังมีรถรางที่ไม่มีในยุคสมัยของเธอ!!!'บ้าไปแล้ว..นี้มันเรื่องบ้าอะไร'ดวงตาคู่สวยเริ่มตระหนก..ชีวิตนี้..เธอมั่นใจว่าสามารถจัดการ และควบคุมทุกอย่างได้..แต่ ณ เวลานี้ สิ่งที่เธอคิดไว้..มันบอกว่าเธอคิดผิด..โดยเฉพาะ 'ความกลัว' ที่กำลังวิ่งเข้าจู่โจม..กลัวกับสิ่งที่ไม่รู้..ไม่คุ้นเคย"จินเยว่! เธอเป็นบ้าไปแล้วเหรอ"เสียงเข้มขู่ฟ่อ มือหนาใหญ่คว้าแขนคนตัวเล็กให้หันมาประเชิญหน้าเตรียมจะดุด่าชุดใหญ่..แต่พอเห็นสีหน้าซีดเซียวที่แม้แต่แป้งหนาเต๊อะที่คนเป็นเมียนิยมชอบโบกไว้ยังปิดไม่มิด...หลี่ลี่ซาน..ผู้เป็นหมอนิ่วหน้าทันที..ตอนที่บุพการีให้คนไปตามเขานั่น..ข่าวที่ได้รับมาคือเธอตกบันได หัวกระแทกพื้น..ทั้งยั

    Last Updated : 2024-10-18
  • back to 1950's ย้อนเวลาให้ดอกไม้ผลิบาน   บทที่3

    เดิม 'สิงขร' หรือหลี่ลี่ซาน อาบน้ำแต่งตัวเสร็จ..คุณหมอในวัยหนุ่มเตรียมจะนอนพักสายตาสักงีบ ติดแต่ในใจลึกๆ ยังอดห่วงภรรยาตัวร้าย ที่วันนี้มีอาการผิดปกติกว่าทุกๆ วันไม่ได้..ยิ่งนึกถึงดวงตาคู่สวยที่มองมาที่เขาด้วยความว่างเปล่า..ยิ่งรู้สึกประหลาดใจ ตั้งแต่รู้จักกันมาหลายปี..เธอมีแต่หลงใหลคลั่งไคล้เขา ถ้ากลืนเขาลงท้องได้..เธอก็คงทำไปแล้ว หรือเขาควรพาภรรยาไปตรวจสมองกับอาจารย์หมอสักรอบดี คิดได้ดังนั้นคนที่เข้างานทั้งวัน เตรียมจะพาคนตัวเล็กไปโรงพยาบาลครั้นลงมาชั้นล่างของบ้าน..สิ่งสุดท้ายที่ชายหนุ่มจะคาดคิด..คือเห็นภรรยาที่แต่งงานกันมาเกือบปีจับไม้กวาด และไม้ถูพื้น!!!ร่างสูงโปร่งในเสื้อยืดสีขาวแขนสั้น กับกางเกงขาก๊วยสีเข้ม ยืนงงงันเมื่อเห็นเธอกำลังขมีขมันถูพื้นเรือนด้วยความตั้งใจ โต๊ะเก้าอี้ในห้องกว้างที่มีไม่กี่ตัวถูกเช็ดสะอาดแวววับ..บ้านหลังนี้จัดว่าเป็นทำเลที่ดีมากแห่งหนึ่ง ด้วยเป็นบ้านหัวมุม..และเยื้องถัดไปไม่ไกลเป็นท่าเรือขนสินค้า ของแม่น้ำสายหลักในประเทศ มันเป็นเรือนหอที่อาปาของเขาตั้งใจเก็บไว้เพื่อเขา..เสียแต่เขาเองนั่นทำงานยุ่งมาก ส่วนภรรยาที่ถูกยัดเยียดมาให้ตามคำสัญญาในอดีตระหว่างอาป

    Last Updated : 2024-10-18
  • back to 1950's ย้อนเวลาให้ดอกไม้ผลิบาน   บทที่4

    พอโดนดุคนตัวเล็กกว่าเพียงยักไหล่ให้ด้วยความเคยชิน..เล่นเอาคุณสามีหน้าบูดกับกริยาก๋ากั่นของภรรยาตัวร้าย ร่างสูงโปร่งเลือกนั่งโต๊ะตัวหลังสุด..ใบหน้าหล่อเหลาราวกับหยกเนื้อดีเปลี่ยนมาเป็นเรียบเฉย“อาซาน..เอาเหมือนเดิมใช่มั้ย? ต้มขาไก่น้ำแดง หมูสับผัดหนำเลี๊ยบ ผัดกุ้ยช่ายขาวหมูกรอบ..ข้าวต้มสองชาม?”"ครับ...เฮีย"เสียงทุ้มต่ำตอบ...ร่างสูงโปร่งเลือกนั่งเก้าอี้ไม้กลม..เวลานี้พระอาทิตย์เริ่มลาลับฟ้า..ดารินทรุดตัวนั่งฝั่งตรงกันข้าม...ใจเต้นไม่เป็นจังหวะ..เธอสัมผัสถึงความสุขส่งผ่านจากร่างเดิม...ก่อนที่จะทันได้คิดอะไรปากก็เผลอส่งคำถามออกไปจากความทรงจำจางๆ ของร่างเดิม"ไม่สั่งต้มจับฉ่ายของโปรดของเฮียเหรอ?"มือเรียวสวยของคุณหมอหนุ่มชะงักจากเทน้ำชาใส่ถ้วยเล็ก...ดวงตาสองชั้นหลบในหลุบลง..น้ำเสียงที่ตอบไปติดจะเย็นชา"ไม่เป็นไร..เฮียกินอะไรก็ได้ สั่งเยอะเปลืองเงิน"ความหวานประแหล่มเข้าจู่โจม..ดารินรู้ความรู้สึกที่เป็นอยู่มาจากเจ้าของร่างเดิม..ริมฝีปากรูปกระจับเม้มแน่น..เธอหาใช่ผู้หญิงที่พึ่งพิงแต่ผู้ชาย..แถมให้เขาเลี้ยงข้าว..แต่มีเพียงเมนูที่เธอชอบก็กระไรอยู่ร่างเพรียวระหงตัดสินใจเดินไปหาคุณลุงเจ้าของร้าน

    Last Updated : 2025-01-08
  • back to 1950's ย้อนเวลาให้ดอกไม้ผลิบาน   บทที่5

    กว่าที่หญิงสาวต่างภพผล่อยหลับ ก็ย่างดึกสงัด และเช่นเคยเจ้าหล่อนก็ยังนอนดิ้น นอกจากจะถีบผ้าห่มผืนน้อยออกจากตัว ยังพลิกมานอนเบียดไอ้ต้าวสามี..จนคนอายุมากกว่าตกใจตื่น..ดวงตาคมกริบฉายแววเหนื่อยล้า ก่อนจะหรี่ตามองยัยตัวเล็กที่นอนคุดตัวในอ้อมกอด..มือใหญ่ค่อยๆ ดันร่างบอบบางไปตรงกลางเตียง..ผ้าห่มผืนบางที่ถูกถีบถูกจัดแจงห่มใหม่อีกรอบ เสียงไก่ขันบ่งบอกเวลาใกล้เช้า ร่างสูงโปร่งตัดสินใจลุกขึ้นอาบน้ำเตรียมไปโรงพยาบาล โดยปล่อยภรรยาตัวร้ายนอนทับตะวันเหมือนเฉกเช่นทุกวัน จวบจนเวลาล่วงเลยเกือบแปดโมง คนที่ตื่นเช้ามาตลอดชีวิตก็สะดุ้งตกใจตื่น มือเรียวสวยขยี้หูขยี้ตาเรียกสติ ดวงตาคมหวานซึ้งกวาดตามองรอบห้องๆ คาดหวังว่าให้เรื่องเมื่อวานเป็นเพียงฝันไป...แต่ความจริงก็ยังเป็นความจริงอยู่วันยังค่ำ เธอได้ย้อนมาอยู่ในอีกยุคสมัยหนึ่งจริงๆ!!เมื่อได้นอนหนึ่งตื่น คนที่ถูกสอนมาให้แก้ปัญหา เริ่มเรียบเรียงความคิด..สิ่งแรกที่เธอควรทำ...คือการพิจารณาสถานการณ์ของตัวเองให้รอบคอบ อาจเพราะความทรงจำของร่างเดิมที่ขาดๆ แหว่งๆ ชวนให้หงุดหงิดใจ..สิ่งที่ทำได้คือการอยู่ปัจจุบันคิดได้ดังนั้น..คนตัวเล็กก็จัดแจงพับผ้าห่ม เก็บที่นอนใ

    Last Updated : 2025-01-08
  • back to 1950's ย้อนเวลาให้ดอกไม้ผลิบาน   บทที่6

    คิ้วได้รูปของดรุณีสาวเพียงยักขึ้น ดวงตาหวานเจือดุหรี่มองพร้อมกอดอก ไอ้ต้าวหัวขโมยตัวเล็กหลุบตาลงอย่างคนไม่กล้าสู้หน้า ในขณะที่ผู้สูงวัยกว่าเตรียมจะฟาดไม่ยั้ง"ลื้อมีปัญหาอะไรหรืออาจินจิน หรือคิดจะเข้าข้างอาตี๋ของลื้อ"น้ำเสียงข่มขู่ ทั้งคำเรียกขานของเจ้าของบ้าน เรียกสายตาประหลาดใจจากหญิงสาวได้ไม่น้อย ดวงตาคู่สวยเต็มไปด้วยความครุ่นคิด..ไอ้ต้าวหัวขโมยรู้จักเธอ?“พวกคุณกล่าวหาว่าเด็กคนนี้เป็นหัวขโมย...มีหลักฐานหรือเปล่า?”“นี้ไง เงินที่อาเทียนขโมยไป..แล้วพวกเพื่อนๆอั้วก็เห็นอีขโมยเงินด้วยจริงมั้ย?”คำท้ายของเด็กชายอายุมากสุดในกลุ่ม หันไปขอความเห็นกับบรรดาพวกลิ้วล้อ พวกนั้นเพียงพยักหน้ารับ แต่หากล้าสู้หน้ากับเจ่เจ้คนสวย..เพราะประวัติความดุร้ายของจินเยว่ขึ้นชื่อลือชาในชุมชนชาวจีนไม่ใช่น้อย“เหรอ แต่เงินไม่ได้อยู่ในมือเด็กนั้นนี้ แต่อยู่ในมือนาย”“นี้อาจินจิน ลื้อจะหาว่าลูกชายอั้วเป็นคนขโมย อาตี๋เล็กบ้านอั้วนี้นะจะขโมย? ถ้าอีอยากได้..อีก็ขออั้วแล้ว ไม่เห็นจำเป็นต้องขโมยเงินเลย...ไม่เหมือนกับไอ้เด็กเหลือขอน้องชายลื้อหรอก ที่บ้านฐานะก็ยาจก ขโมยของชาวบ้านเขาไปทั่ว”คำว่า ‘น้องชาย’ ส่งผลให้คนตัวเ

    Last Updated : 2025-01-08
  • back to 1950's ย้อนเวลาให้ดอกไม้ผลิบาน   บทที่7

    "เราเป็นพี่น้องกันถูกมั้ย? ถ้านายหิวขนาดนั้นทำไมไม่มาขอดีๆ ทำไมต้องขโมยด้วยละ"น้ำเสียงคนอายุมากกว่าเต็มไปด้วยความสงสัย บรรยากาศบางอย่างส่งผลให้เด็กชายรู้สึกผิดปกติ...หญิงสาวตรงหน้ายังคงดุร้ายไม่ต่างจากในอดีต แต่ในความดุนั้นยังแฝงด้วยกระแสธารความเมตตา ที่เขาเองก็สัมผัสมันได้โดยเฉพาะเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ ถ้าเป็นเจ่เจ้จินจินจอมเห็นแก่ตัว เอาแน่เอานอนกับอารมณ์ไม่ได้คนนั้น..คนเป็นพี่คงจะจัดการกับอาซ้อเหมย ด้วยวิธีการ 'ด่า' ทะเลาะเบาะแว้งกันลั่นถนน เขารู้ว่าเจ่เจ้ต้องช่วยเขา...แต่เหตุผลที่ช่วยคงไม่ใช่พิศวาสนึกรักน้องชายหรอก แต่เป็นเพราะสำหรับเธอแล้ว น้องชายไม่ต่างจากสิ่งของ หรือสัตว์เลี้ยง... คนเป็นเจ้าของสามารถทิ้งขว้างหรือรังแกได้...แต่หายอมให้คนอื่นรังแกไม่...นั่นแหละ 'จินเยว่' เจ่เจ้คนสวย และแสนดุร้ายของเขา"ว่าไง ทำไมเงียบ"คนอายุมากกว่ารีบทวนคำถามซ้ำ คนเป็นน้องเม้มปากแน่น ดวงตาชั้นเดียวชี้ขึ้นค้อนควักเต็มไปด้วยความเจ็บใจปนน้อยใจ"ขออย่างงั้นเหรอ? คนหวงของแบบเจ้จินจินนี้นะ จะยอมแบ่งของกินของใช้..เงินทองให้กับคนอื่น""เดี๋ยวนี้ฉันพี่นายจริงๆ ใช่มั้ย?"หญิงสาวชักไม่แน่ใจ แต่ดูจากท่าทีเด็ก

    Last Updated : 2025-01-08
  • back to 1950's ย้อนเวลาให้ดอกไม้ผลิบาน   บทที่8

    แต่เธอก็ไม่รู้ว่าสิ่งที่แม่ของเธอเลือกเป็นสิ่งที่ถูกต้อง หรือสิ่งที่ผิด เพราะตั้งแต่อาปา แต่งเมียรองเข้าบ้าน...ผู้สูงวัยก็ทำหน้าที่สามีที่ดี เลิกจากงานเป็นคนขับเรือขนส่งสินค้า ซึ่งเป็นธุรกิจขนาดกลางของที่บ้าน ก็คลุกอยู่กับลูกเล็กซึ่งก็คือเธอ กับเมียรอง ที่น่าแปลกแม่บ้านใหญ่ยังคงหัวอ่อน และปล่อยชีวิตตามน้ำไปเรื่อยๆ เธอไม่เคยวีนเคยเหวี่ยงยังคงทำหน้าที่สะใภ้คนจีนทั้งดูแลพ่อแม่สามี ทำงานบ้าน ไปช่วยธุรกิจกงสีของที่บ้าน ดูแลลูกชายลูกสาวทั้งสองเป็นอย่างดี อาปาของเธอเองเพียงมีหน้าที่ไปกินข้าวเย็นกับที่บ้านใหญ่ ส่วนเวลาที่เหลือก็ดูแลเธอกับแม่หลังจากฟังเรื่องราวที่น้องชายเล่า...ภาพความทรงจำลางๆ บางอย่างกับลอยขึ้นมา ภาพชายร่างสูงใหญ่...แววตาเต็มไปด้วยความรักใคร่เอ็นดู อ้อมกอดอบอุ่นของหญิงสาวคนหนึ่งกับโอบกอดเธอไว้ "แล้ว...อาปากับแม่เจ้ละ ท่านทั้งสองอยู่ไหน"หญิงสาวสอบถามด้วยความสงสัย...ความรู้สึกเศร้าจางๆ วาบเข้ามา ดารินรู้ว่ามันคือความรู้สึกของร่างเดิม... คำถามของคนเป็นพี่ทำเด็กชายเงียบไปชั่วครู่ ก่อนที่เจ้าตัวแสบจะกินข้าวไปด้วยเล่าไปด้วย"เสียทั้งคู่แล้ว แม่ของเจ้ เสียตอนเจ้ห้าขวบ ส่วนอาปาเสี

    Last Updated : 2025-01-08
  • back to 1950's ย้อนเวลาให้ดอกไม้ผลิบาน   บทที่9

    ณ ตึกแถวหัวมุม"เจ่เจ้จินจิน ทำไมต้องซื้อข้าวของเยอะขนาดนี้ด้วย"น้องชายตัวผอมบ่นกระปอดกระแปด มือเล็กแต่หยาบช่วยบรรดาเฮียๆ ผู้ซึ่งเป็นลูกจ้างขนของเข้าบ้านมีทั้งหม้อ กระทะหลายขนาด ตะหลิวทัพพี อะไรที่ควรมียัยเจ่เจ้หน้าสวยตัวแสบขนซื้อมาหมด"ของมันต้องใช้"คนเป็นพี่ตอบเสียงเรียบ มือเรียวสวยจัดแจงแยกผัก แยกหมูไข่ใส่ตู้เย็น เฟยเทียนได้แต่เบ้ปาก...ตั้งแต่จำความได้ชีวิตที่เติบโตมาด้วยกัน..พี่สาวเขาไหนเลยเคยเข้าครัว...ถ้าเป็นเจ่เจ้เซียงเซียงก็ว่าไปอย่าง บ้านตระกูลอื่นลูกสาวเมียรองอาจต้องเก่งงานบ้านงานเรือนงานครัว ดูแลปรนนิบัติผู้สูงวัยในตระกูล ถ้าจะมียกเว้นก็คงเป็นครอบครัวเขานี่แหละ ตั้งแต่อาปาพาลูกสาวอันเกิดจากภรรยาที่รักกลับบ้าน ชีวิตของจินเยว่ก็ราวกับเจ้าหญิง งานบ้านงานเรือนเป็นหน้าที่ของม๊าใหญ่กับพี่สาวคนโต ส่วนอาปากับเฮียคังคือคนหาเงินเข้าบ้าน ส่วนลูกชายคนเล็กแบบเขายังมีหน้าที่ช่วยอาปา อาม๊าหยิบจับงานเล็กๆ น้อย เขายังจำได้ครั้งหนึ่งในวัยแรกรุ่น เจ่เจ้เซียงเซียงมีนัดกิจกรรมในวันหยุดที่โรงเรียนกับเพื่อนๆ ส่งผลให้วันนั้นเจ้ไม่ได้ซักชุดนักเรียน กับถุงเท้าของเจ่เจ้จินจิน...พอเจ่เจ้เซียงเซียงกล

    Last Updated : 2025-01-08

Latest chapter

  • back to 1950's ย้อนเวลาให้ดอกไม้ผลิบาน   บทพิเศษ2

    ณ มหาวิทยาลัย J ชื่อดังระดับต้นๆ ของประเทศหลังตึกคณะบริหารธุรกิจ...หญิงสาวในชุดนักศึกษากำลังยืนรอชายหนุ่มทายาทของตระกูลดังอย่างใจจดใจจ่อ...ท่าทางกระสับกระส่ายพาลให้เพื่อนสาวที่มาด้วยสองคนหัวเราะคึกคัก "ยัยซีลีนเธอจะตื่นเต้นอะไรขนาดนั้นยะ ทำเหมือนไม่เคยอ่อยผู้ไปได้"เพื่อนที่มาด้วยกันแซวเมื่อเห็นดาวคณะนิเทศกระสับกระส่ายใบหน้าสวยเฉี่ยวตามสมัยนิยมถูกแต่งแต้มเป๊ะปัง จนหนุ่มๆ พากันเหลียวหลังมองด้วยความชื่นชม...นอกจากหน้าตาที่ดีเลิศ โปรไฟล์เจ้าหล่อนก็แสนจะไม่ธรรมดา..เพราะเป็นถึงลูกสาวบริษัทรับเหมารายใหญ่ระดับประเทศ คนที่มาจีบมีตั้งแต่ลูกเศรษฐีด้วยกัน ไปจนนักธุรกิจหนุ่มดาวรุ่ง...แต่ชายที่หญิงสาวตกหลุมรักดันเป็นชายหนุ่มสุดหล่อแสนเย็นชาของคณะบริหาร"คีรีมาทางนั้นแล้วยัยซีลีน"เพื่อนอีกคนรีบสะกิด เมื่อเห็นชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง ใบหน้าราวกับหลุดมาจากนิยายจีน..ที่ตอนนี้มีสีหน้าเรียบเฉยติดจะเย็นชาเล็กน้อย..ยิ่งสายตาคมกริบที่กวาดมองยิ่งพาให้หัวใจไฮโซสาวหวั่นไหวร่างอวบอิ่มรีบเดินเข้าไปตรงหน้าตามแรงผลักของคนเป็นเพื่อน"สวัสดีคีรี"เสียงหวานเอ่ยถามขึ้น พร้อมช้อนดวงตากลมโตขึ้นมอง...ชายหนุ่มเพียงหรี่ต

  • back to 1950's ย้อนเวลาให้ดอกไม้ผลิบาน   บทพิเศษ1

    ย้อนไปเมื่อสิบปีก่อนณ MMMO international schoolเด็กหนุ่มชั้นมัธยมปีศึกษาปีที่สี่ผู้มีฐานะเป็นหลานของเจ้าของโรงเรียนเอกชนอันดับหนึ่งของประเทศ..ซึ่งเวลานี้กำลังนั่งอารมณ์ไม่ดีอยู่บริเวณหน้าโถงประชุมของโรงเรียน ใบหน้าหล่อเหลาเริ่มบูดบึ้ง..นัยน์ตาคมกริบกวาดมองหมู่คนที่ผ่านไปผ่านมา..คล้ายกับกำลังใครสักคนอยู่...รุ่นพี่รุ่นน้องผู้หญิงเมื่อสบสายตาเข้าก็แทบเป็นลม..บรรยากาศเย็นชาน่าหลงใหลไม่ได้ทำให้ความนิยมในตัวเด็กหนุ่มน้อยลงเลยไม่ถ้าในโรงเรียนหรือมหาลัยวิทยาลัยมีเดือนคณะ นายคีรี สิริวงษ์ชัย ย่อมเหนือเมนขึ้นไปอีกขั้นแน่ละ ทั้งรูปร่างหน้าตา..รวมถึงฐานะวงศ์ตระกูลที่จัดอยู่ในหนึ่งกลุ่มลูกหลานผู้มีอิทธิพลระดับประเทศ...รวมถึงผลการเรียนอันดับหนึ่งของสายชั้น เมื่อขึ้นเวทีร้องเพลงเสียงก็เพราะเป็นหนักหนา..ต้องเรียกว่า hot ยิ่งกว่า hotดังนั้นตั้งแต่เกิดมาใครๆ ล้วนต่างประจบสอพลอ เชิดชูบูชา ถ้าจะมีคนหนึ่งที่ปฏิเสธมัน ก็คงไม่พ้นนางสาวดาริน กิตติวรชัยกุล เจ้าหล่อนอย่าว่าแต่ประจบเอาใจเขาเลย วันๆ มีแต่ไล่เขาไปให้พ้นๆ หน้าอีกทั้งวันนี้ยัยตัวร้ายยังหลอกให้เขามารอหน้าโถงประชุมใหญ่ได้ครึ่งค่อนชั่วโมง ทั้งๆ

  • back to 1950's ย้อนเวลาให้ดอกไม้ผลิบาน   บทที่81 จบ

    รถสปอร์ตคันหรูยังวิ่งไปตามทางที่คุ้นเคย..เพียงแต่รอบนี้หญิงสาวสายซิ่งกับขับรถด้วยความไวที่ช้าลงกว่าปกติ หลังคารถเปิดประทุนถูกเปิดออก..สายลมยามดึกปะทะหน้าพาให้อารมณ์ดีไม่น้อย..ผมดำสลวยที่เริ่มยาวถูกมัดรวบง่ายๆ ไว้ด้านหลัง น่าแปลกปกติอดีตคู่หมั้นคนสวยจะตัดมันเสียสั้นกุด เพราะเจ้าหล่อนติดนิสัยขี้รำคาญจวบจนรถหรูจอดสนิทตรงลานจอดรถสะพานขึ้น p มันคือสถานที่...ที่หญิงสาวมาทุกครั้งเวลาไม่สบายใจ หรือเวลาที่เขารู้สึกแย่..เธอจะยืนอยู่บนข้างๆ หันมามองหน้าเขา พร้อมเอียงหัวรับฟังเล็กน้อย..แล้วก็ปล่อยเขาพูดไป..แม้จะไม่มีคำแนะนำดีๆ แต่แค่เธอยืนอยู่ตรงนั้น แค่รับฟัง..มันก็ทำให้เขามีความสุข เวลานี้ก็เช่นกัน..ร่างเพรียวระหงยังยืนอยู่ตรงนั้นเงียบ ๆ ดวงตาคู่สวยที่เขานึกรักเหม่อมองออกไปยังแม่น้ำสายใหญ่ประจำประเทศ ใบหน้าด้านข้างของเธอยังงดงามราวกับรูปสลัก..ริมฝีปากที่ถูกเคลือบด้วยสีแดงจัดเหมือนสีเสื้อผยอเล็กน้อย..ก่อนที่เธอจะตัดสินใจผินตากลับมามองเขา..เราต่างก็รู้ถึงนัยยะเดียวกัน..เขารู้ว่าเธอจดจำได้..และอะไรบางอย่างในดวงตาเขาก็บ่งบอกว่าเขาจดจำได้เช่นกัน“นายคีรี”“ว่ายังไงนางสาวดาริน”คำเรียกขานที่ชอบใช้แท

  • back to 1950's ย้อนเวลาให้ดอกไม้ผลิบาน   บทที่80

    "หมายความว่ายังไงคะ!!!"คำตอบของคนเป็นพ่อ ส่งผลให้ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างด้วยความตกใจ...หัวใจดวงน้อยเต้นช้าลง..ความรู้สึกสูญเสียบางอย่างเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว"ป๊ะป๋าก็หมายความตามนั้น ป๊ะป๋าเป็นคนขอถอนหมั้นเอง""อ้าว ได้ยังไงคะ แล้วแบบนี้นายคีรีไม่เสียใจแย่เหรอ""ถ้านายคีรีจะเสียใจก็เป็นปัญหาของนายคีรีซิ เกี่ยวอะไรกับบ้านเราด้วยล่ะแค่วันนั้นขับรถพาอายไปลงเขา...ป๋าก็แทบจะฆ่ามันทิ้งแล้ว..ถอนหมั้นๆ ไปก็ดีแล้ว อีกอย่างหนูก็ไม่เคยชอบพันธะนี้อยู่แล้วนี่""ป๊ะป๋า!!! มันไม่ใช่ความผิดของนายคีรี วันนั้นมันเป็นอุบัติเหตุ..นายคีรีเขาปกป้องอายด้วยซ้ำ""ไม่รู้ ถอนหมั้นแล้วก็คือถอนหมั้น อย่าไปพูดถึงผู้ชายคนนั้นอีกเลย"คนเป็นพ่อผู้หวงลูกสาวรีบตัดจบอารมณ์ดี ก่อนจะหยิบมือถือมาไล่อ่านข่าว ไม่สังเกตสีหน้าซีดเซียวของคนเป็นลูกแม้แต่นิด'เผด็จการชะมัด..เผด็จการเหมือนใครกันนะ ก็เหมือนตัวเธอนะซิ!!'เมื่อออกจากโรงพยาบาลได้สองอาทิตย์คนป่วยเริ่มอาการดีขึ้น...อีกทั้งได้สรุปในใจอีกหลายอย่าง ดังนั้นไอ้คนที่ไม่ชอบออกงานเลี้ยงสังคมหรูหราก็กลับมาออก...เพื่อจะเห็นหน้าใครบางคนและยังสามารถใช้เหตุผลประมาณว่า 'บังเอิญเจอกัน เลยไ

  • back to 1950's ย้อนเวลาให้ดอกไม้ผลิบาน   บทที่79

    เมื่อคนเป็นพี่กลับบ้านมาแล้วพบน้องชายทำหน้าเครียด ในมือของเขามีสมุดเบิกถอนสมุนไพร ส่งผลให้คนมีชนักติดหลังเสียววาบในใจ...ดวงตาคมกริบหรี่มอง พร้อมโยนสมุดในมือลงบนโต๊ะ"มีอะไรจะแก้ตัวมั้ย?""...""ทำไมเจ้ทำแบบนี้ เจ้ทำมันลงไปได้ยังไง""ลื้อมันบ้าอาซาน อีฮวงนั้งไม่สมควรให้กำเนิดลูกหลานตระกูลหลี่!!""คนที่ไม่สมควรเกิดมาเป็นลูกหลานตระกูลหลี่คือเจ้ต่างหาก ส่วนจินจินเธอดีเกินกว่าผู้หญิงหลงท่ก สันดานเลวอย่างเจ้มาก""อาซาน นี้ลื้อ นี้ลื้อด่าอั๊ว""เออ อั๊วด่าเจ้นี้แหละ เรื่องนี้มันไม่จบแน่ เจ้เตรียมใจไว้ได้เลย"คนเป็นน้องพูดพร้อมกับเก็บสมุดเบิกจ่ายสมุนไพรติดมือไปด้วย เล่นเอาพี่สาวเหงื่อตก แต่หล่อนรู้น้องชายนั้นแสนดีขี้ใจอ่อนมากแค่ไหน...อีกอย่างจินเยว่ก็เสียไปหลายปีแล้ว...ไหนเลยจะมาเอาผิดเธอได้แต่ไอ้คนใจดีมาตลอดชีวิต กับเลือกนำเรื่องไปฟ้องอาปามู่เฉิน กับอาม๊าด้วยรู้ว่าท่านทั้งสองเป็นคนยุติธรรม...เมื่อบุพการีรับรู้เรื่องทุกอย่างก็ถึงกับตกใจ...เพราะสิ่งที่ลูกสาวคนเดียวกระทำเป็นสิ่งที่เลวร้ายมาก มันไม่ต่างทำจากการทำร้ายสายเลือดครอบครัวตระกูลหลี่ดังนั้นตอนหลี่หนิงเกอเดินเข้าห้องทำงานของอาปามู่เฉิน

  • back to 1950's ย้อนเวลาให้ดอกไม้ผลิบาน   บทที่78

    ระหว่างที่ชายหนุ่มลงมือทำความสะอาดหลุมศพของภรรยา...หลี่มู่เฉินที่เดาไว้แล้วว่าลูกชายจะมาที่นี้ ก็เดินเข้ามาหาทันที หลังจากที่ยัยหนูจินเยว่เสียไปได้สองเดือน..ลูกชายของเขามักมาทำความสะอาด เอาดอกไม้มาวาง “อาซาน”“อ้าว อาปา มาได้ยังไงครับ”เสียงแห้งถามกลับ พร้อมส่งรอยยิ้มเศร้าหมองไปให้..ใบหน้าภายใต้หมวกสานกันแดด แดงขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากอยู่ด้านนอกเป็นระยะเวลานาน“อื่ม อาปามีเรื่องจะคุยกับลื้อ”หลังจบคำผู้ชายสองวัยจึงเดินไปนั่งใต้ร่มไม้ที่อยู่ไม่ไกลจากหลุมฝังศพจินเยว่นัก“ลื้อแน่ใจแล้วรึ ที่จะลาออกจากโรงพยาบาล”“ครับ”“เห้อ อาซาน..ฟังอาปานะ จินจินอีตายไปแล้ว แต่ลื้อยังมีชีวิตอยู่”“อื่ม ผมรู้..ผมเองก็กำลังใช้ชีวิตอยู่นี้ไง”“แบบที่ลื้อทำอยู่ เขาไม่ได้เรียกว่าการใช้ชีวิตนะอาซาน”เสียงอาปาอ่อนล้า มือหนาหยาบตบหลังลูกชายเบาๆ เพื่อปลอบประโลม“อาปารู้ว่าลื้อรักจินจินมาก”“...”“ไม่งั้นอาปาคงไม่หมั้นหมายลื้อให้จินจินหรอก”“ทำไม...อาปารู้ละครับว่าผมรักจินจิน”น้ำเสียงลูกชายโตเริ่มพร่า..เพราะตัวเขาเองยังไม่รู้ตัวเลยว่ารักเธอตั้งแต่เมื่อไร“จำได้มั้ย ว่าปีหลังๆ มานี้ ลื้อชอบบ่นว่าน้อง..แต่พอกลับมาทีไ

  • back to 1950's ย้อนเวลาให้ดอกไม้ผลิบาน   บทที่77

    ชาตินี้น้องตามพี่มา ชาติหน้าพี่ยาตามน้องไปความรู้สึกเจ็บปวดเกาะกินทั้งแก่นกระดูก ลามไปยังเนื้อหนังมังสาทุกส่วนก่อนสติสุดท้ายจบลง..ร่างเพรียวระหงสะดุ้งตกใจตื่น..น้ำตาหยดใสไหลลงจากหางตาทั้งสองข้าง..เสียงสะอื้นไห้เจ็บปวด..ก่อนดวงตาดำคู่สวยจะจับโฟกัสทุกอย่างได้..มือเรียวเล็กข้างซ้ายร้อนชื้น..คนที่กุมมือไว้ไม่ปล่อย...ไม่ใช่ใครที่ไหน คือนายคีรี ผู้ที่ทั้งชีวิตไม่เคยปล่อยมือเธอเลยสักครั้งในอดีตวันที่เธอตื่นฟื้นจากอุบัติเหตุครั้งแรก...ความรู้สึกเจ็บปวดไม่ต่างจากตอนนี้แม้แต่น้อย..แต่สิ่งที่ต่างมีเพียงแค่ว่า..เธอจำเรื่องราวในอดีตไม่ได้...มีเพียงความรู้สึกเจ็บปวดเคียดแค้นที่เกาะกินจิตวิญญาณ.. เธอเกลียดผู้ชายคนนั้นจับใจแต่ครั้งนี้นั้นแตกต่าง..ดารินในวัยสิบสามขวบ ยังคงไร้เดียงสาในเรื่องความรัก กับนางสาวจินเยว่ในวัยยี่สิบผู้ถูกเลี้ยงดูมาอย่างปล่อยปละละเลย และยึดติด รวมถึงดารินหรือจินเยว่ในปัจจุบันที่ทะลุเข้าไปในอดีตเหตุการณ์เดียวกัน...แต่ความเข้าใจต่างกันในครั้งหนึ่งเธอเคยคิดแค่ว่า..ทุกสิ่งทุกอย่างเมื่อทุ่มเทไป ย่อมสมควรได้คืนกลับมา..มีแต่คำถามว่าทำไมเขาไม่เข้าใจ ทำไมเขาไม่ตามใจเธอ...เธอเป็นเม

  • back to 1950's ย้อนเวลาให้ดอกไม้ผลิบาน   บทที่76

    ร่างเพรียวระหงซุกตัวกอดสามีตัวโตไว้แน่น..หลี่ลี่ซานเองก็เต็มไปด้วยความไม่สบายใจ..เลือกทางไหนก็ผิดทั้งนั้น..มือเรียวได้รูปปัดลูกผมที่ระหน้าด้วยความทะนุถนอม“จินจินแน่ใจนะคะ ที่ทำแบบนี้”“ค่ะ มันเป็นทางเลือกเดียวที่เรามี...ถ้าสมมติวันนี้เฮียซานไม่ไปช่วยเจ้เซียงเซียง.. ถ้าเกิดเจ่เจ้แกเป็นอะไรขึ้นมาจริงๆ เราคงเหมือนมีตราบาปไปตลอดชีวิต อีกอย่างจินจินมีเรื่องจะสารภาพค่ะ”ปลายเสียงเธอแผ่วเบา..ริมฝีปากรูปกระจับถูกกัด“สารภาพเรื่องอะไรครับ”“ผู้ชายคนนั้น...เจ้าน้อยแสนอะไรนั้น...จินจินเป็นคนแนะนำให้ไปจีบเจ่เจ้เซียงเซียงเองค่ะ”“…”“แต่จินจินไม่รู้หรอกนะคะ ว่าผู้ชายคนนั้นเป็นพวกชอบทุบตีผู้หญิง”น้ำเสียงคนตัวเล็กติดประหม่า ดวงตาคู่สวยช้อนมองสำรวจนึกกลัวว่าเขาจะรังเกียจ..เพียงแต่แววตาใสกระจ่างที่มองมาเต็มไปด้วยความเข้าใจ“จินจินอย่าคิดมากเลยนะคะ เซียงเซียงเลือกของตัวเธอเอง ไม่เกี่ยวกับจินจินเลย”“แล้วเฮียไม่คิดว่าจินจินร้ายเหรอคะ”“อื่อ ร้ายแต่น่ารัก เฮียชอบ”เขาพึมพำตอบ ก่อนจมูกโด่งสวยจะฝังลงไปตรงซอกคอภรรยาตัวน้อยอย่างหลงใหล..ในชีวิตเขาล้วนต้องการเพียงเธอ...แค่เธอก็พอแล้วเช้าวันต่อมาคุณหมอหนุ่มจำต้

  • back to 1950's ย้อนเวลาให้ดอกไม้ผลิบาน   บทที่75

    ตกเย็นวันนี้โชคดีที่เคลียงานได้เร็ว หญิงสาวจึงได้กลับบ้านก่อน เธอลงมือเข้าครัวทำอาหารเย็นเอง เมนูวันนี้เป็นอาหารไทยง่ายๆ อย่างต้มยำกุ้งน้ำข้น ผัดโป้ยเซียง และไก่กรอบชุบแป้งทอด โดยไม่คิดว่าจะมีแขกผู้ไม่ได้รับเชิญ บุกขึ้นมาถึงบ้าน...คุณนายเหวินผู้เป็นแม่สามี จูงลูกสาวคนเดียวเข้ามาด้วยท่าทางร้อนรน ด้านหลังเองมีเด็กในบ้านเดินตามมาด้วย“สวัสดีค่ะ ม๊า มาได้ยังไงคะ”“จินจิน อาซานกลับมาหรือยัง อั๊วมีเรื่องจะคุยกับอี”แม่สามีตั้งคำถามขึ้นมาแทน“น่าจะใกล้แล้วนะคะ ม๊านั่งรอก่อนนะคะ เดี๋ยวจินจินชงชามาให้”เจ้าของบ้านเชื้อเชิญ ก่อนจะหายเข้าไปในครัว ชงชารสโปรดให้ด้วยความใส่ใจ แต่พอออกมาต้องประหลาดใจ นอกจากแม่สามีที่นั่งรอ ยังมีซุนเหยียนแม่เลี้ยงที่นั่งงงๆ อยู่ด้านข้าง ซึ่งเวลานี้ส่วนใหญ่ม๊ามักจะดูแลอาบน้ำ ป้อนข้าวหลานอยู่ตึกด้านข้าง“อ้าว ม๊าใหญ่ มีธุระอะไรหรือเปล่าคะ”“พอดีหนิงเกอไปตามม๊ามา..ม๊าก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามีเรื่องอะไร” คำตอบของคนเป็นแม่เลี้ยง คล้ายสัญญาณเตือนอะไรบางอย่างที่ ‘ผิดปกติ’ดวงตาคมคู่สวยหลุบลง ก่อนจะเลือกเก้าอี้ตัวข้างๆ แม่สามี..บุคลิกหลังตรง งามสง่า..บรรยากาศสงบนิ่งเป็นนักหนา

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status