แชร์

บทที่7

ผู้เขียน: อาภาลดา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-08 23:13:07

"เราเป็นพี่น้องกันถูกมั้ย? ถ้านายหิวขนาดนั้นทำไมไม่มาขอดีๆ ทำไมต้องขโมยด้วยละ"น้ำเสียงคนอายุมากกว่าเต็มไปด้วยความสงสัย บรรยากาศบางอย่างส่งผลให้เด็กชายรู้สึกผิดปกติ...หญิงสาวตรงหน้ายังคงดุร้ายไม่ต่างจากในอดีต แต่ในความดุนั้นยังแฝงด้วยกระแสธารความเมตตา ที่เขาเองก็สัมผัสมันได้

โดยเฉพาะเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ ถ้าเป็นเจ่เจ้จินจินจอมเห็นแก่ตัว เอาแน่เอานอนกับอารมณ์ไม่ได้คนนั้น..คนเป็นพี่คงจะจัดการกับอาซ้อเหมย ด้วยวิธีการ 'ด่า' ทะเลาะเบาะแว้งกันลั่นถนน 

เขารู้ว่าเจ่เจ้ต้องช่วยเขา...แต่เหตุผลที่ช่วยคงไม่ใช่พิศวาสนึกรักน้องชายหรอก แต่เป็นเพราะสำหรับเธอแล้ว น้องชายไม่ต่างจากสิ่งของ หรือสัตว์เลี้ยง... คนเป็นเจ้าของสามารถทิ้งขว้างหรือรังแกได้...แต่หายอมให้คนอื่นรังแกไม่...นั่นแหละ 'จินเยว่' เจ่เจ้คนสวย และแสนดุร้ายของเขา

"ว่าไง ทำไมเงียบ"คนอายุมากกว่ารีบทวนคำถามซ้ำ คนเป็นน้องเม้มปากแน่น ดวงตาชั้นเดียวชี้ขึ้นค้อนควักเต็มไปด้วยความเจ็บใจปนน้อยใจ

"ขออย่างงั้นเหรอ? คนหวงของแบบเจ้จินจินนี้นะ จะยอมแบ่งของกินของใช้..เงินทองให้กับคนอื่น"

"เดี๋ยวนี้ฉันพี่นายจริงๆ ใช่มั้ย?"หญิงสาวชักไม่แน่ใจ แต่ดูจากท่าทีเด็กชายตรงหน้าแล้ว คงไม่ได้โกหก ย้อนกลับมายุคอดีตว่าแย่แล้ว...ยังมาเจอปัญหาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของคนที่ต้องให้ตามแก้ไปอีก ใบหน้าสวยหวานอ้อนล้า ก่อนจะถอนหายใจด้วยความเบื่อหน่าย

"ยังหิวอยู่มั้ย? ตอนนี้ฉันเริ่มหิวแล้ว ไปกินข้าวเป็นเพื่อนหน่อยซิ"

ณ ร้านข้าวมันไก่ หน้าตลาด

สองพี่น้องเลือกนั่งโต๊ะนอกร้าน ร่างผอมเล็กของเด็กชายจ้วงข้าวมันไก่ด้วยความว่องไว ในขณะที่พี่สาวคนสวยนั่งหลังตรงกินไปด้วยมองน้องชายหัวขโมยไปด้วย 

"ค่อยๆ กินก็ได้ กับข้าวไม่หายไปไหนหรอก"

"อั้วหิวนี้ เจ้จินจินไม่เข้าใจหรอก เพราะเจ้ไม่เคยได้อด!"เสียงอู้อี้ของคนตัวเล็ก ทำคนเป็นพี่ชะงักไปเล็กน้อย เป็นไปได้ยังไงที่ตัวเธอในอดีตจะปล่อยให้พี่น้องหิวโหย แต่ตัวเองอยู่สุขสบายนี้นะ? ดวงตาคู่สวยมีความลังเลอยู่ในนั้น ก่อนเสียงหวานจะตั้งคำถามออกไป

"ว่าแต่...นายชื่ออะไร"

"แค่กๆ ๆ"เสียงสำลักของเด็กชายผอมเกร็ง ส่งผลให้คนเป็นพี่รีบเลื่อนถ้วยชาไปให้ 

"เจ้ก็บอกให้ค่อยๆ กินไง จะรีบกินอะไรขนาดนั้น สำลักเลยเห็นมั้ย"เสียงบ่นแต่เต็มไปด้วยความห่วงใย เล่นเอาน้องชายตัวร้ายเงยหน้าขึ้นมองราวกับเห็นตัวประหลาด

"เจ้จินจิน เจ้ไม่สบายหรือเปล่า ทำไมถามอั้วแปลกๆ แบบนั่นละ"

"อื่ม ก็นิดหน่อย คือเมื่อวานเจ้ตกบันได...แล้วจำอะไรไม่ค่อยได้นะ"จินเยว่รับคำเสียงเรียบ

ดวงตาเฉลียวฉลาดของคนเป็นน้องสำรวจคนตรงหน้าด้วยความตั้งใจ ทั้งผมยาวดำสลวยถูกมัดง่ายๆ เป็นหางม้า ใบหน้าสวยคมเจือหวานไร้แป้งหนาเต๊อะ เผยผิวขาวอมชมพู แก้มแดงระเรื่อ รับกับริมฝีปากสีแดงจัดโดยไม่ต้องแต่งแต้ม...เจ่เจ้ของเขาเวลานี้แม้ไม่แต่งหน้าเนี๊ยบตามยุคสมัย แต่ความสวยจัดตามธรรมชาติหาลดลงไม่

"ถึงว่าเจ้เรียกอั้วแปลกๆ แถมพูดจาแปลกๆอีก" ถึงบางคำเขาจะไม่ค่อยเข้าใจก็เถอะ...เด็กชายคิดในใจ ดวงตาดำขลับของคนเป็นพี่หลุบลงปิดบังความรู้สึก ช่างต่างจากเจ่เจ้ตัวแสบจอมโวยวายเสียเหลือเกิน 

"นี้อย่าบอกว่า เจ่เจ้ทะเลาะกับซ้อหมวยอีกแล้ว..ไม่งั้นคนแก่นแก้วแบบเจ้จะตกบันไดได้ยังไง"คนอายุน้อยกว่าพูดไปบ่นไป แต่นัยยะในประโยคทำคนสูงวัยกว่าประมวลผลได้อย่างรวดเร็ว คำว่า 'ซ้อหมวย' น่าจะหมายถึงคนที่แทนตัวเองว่าเป็นพี่สะใภ้

"หมายความว่ายังไง นายจะบอกว่าฉันทะเลาะกับผู้หญิงคนนั้นจนตกบันได?"

"เปล่า คืออั้วหมายความว่า..ปกติเจ้ชอบทะเลาะกับอีไง แต่ส่วนใหญ่อาซ้อหมวยจะเจ็บตัวอยู่ฝ่ายเดียว รอบนี้อั้วเลยสงสัย ปกติเจ้แรงเยอะ แถมว่องไว ไม่น่าจะตกใจบันไดเองได้น่ะ"คนตัวเล็กชักเสียววูบ นึกกังวลว่าตัวเองจะสุมไฟให้บ้านคนเป็นพี่สาว แต่เหมือนอดีตคนขี้โวยวาย มาครานี้กับนิ่งเงียบ ดวงตาดำขลับที่ปกติจะฉายแววฉลาดแกมโกง..กับดูมืดสนิทมองไม่เห็นก้น ..สำหรับคนที่เติบโตมาด้วยกัน เขากับกลัวพี่สาวในรูปแบบนี้มากกว่าในอดีต มือเรียวสวยหมุนแก้วชาเล็กไปมา 

"เจ้ ไม่พอใจอะไรหรือเปล่า"เสียงอุบอิบเต็มไปด้วยความกระวนกระวาย ชักกลัวคนเป็นพี่จะโกรธแล้วไม่ยอมจ่ายค่าอาหารให้ 

"อื่ม คราวหลัง..ถ้าลื้อยังไม่รู้ความจริง อย่าพึ่งใส่ความคนอื่นซิ"

"..."

"อย่าลืมเรื่องเมื่อไม่ถึงครึ่งชั่วโมงที่แล้วละ บางที...บางช่วงเวลา สิ่งที่เราเห็นอาจไม่เป็นเหมือนที่เราคิดก็ได้ สงสัยได้ แต่อย่าพึ่งฟันธง เพราะถ้าแบบนั้นนายอาจจะเผลอทำอะไรพลาดไป...เข้าใจที่เจ้พูดมั้ย"น้ำเสียงราบเรียบของคนตรงหน้า ทำคนเป็นน้องชายชะงักไป ดวงตาคมชั้นเดียวเบิกกว้าง ก่อนจะครุ่นคิดตาม

"อื่ม เจ้พูดถูก อั้วอาจตัดสินเร็วเกินไป..เจ้อย่าคิดมากนะ อั้วไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เจ้ไม่สบายใจ"

"ไม่หรอก ต้องขอบใจนายด้วยซ้ำที่ช่วยเตือน สรุปว่านายชื่ออะไร?"

"เฟยเทียน...เฟยที่มาจำคำว่า...โบยบิน...เทียนที่มาจากคำว่าท้องฟ้า ปกติเจ้จะเรียกอั้วว่าอาเทียน"

"เฟยเทียน...อื่ม ชื่อดี"หญิงสาวพึมพำด้วยความพอใจ ก่อนจะส่งคำถามต่อไป

"แล้วนายอายุเท่าไร"

"ปีนี้ย่างสิบขวบ"

"หืม สิบขวบ? ทำไมตัวเล็กอย่างกับเจ็ดแปดขวบละ?"คนที่เคยเลี้ยงน้องในภพปัจจุบันชักตกใจ ดวงตาคมกริบกวาดตามองน้องชายตรงหน้า เล่นเอาคนโดนว่าตัวเล็กหงุดหงิดไม่พอใจ

"อั้วก็อยากตัวโต แต่ทำไงได้ที่บ้านยากจนขนาดนี้ ใครจะใช้ชีวิตสบายแบบเจ้ละ"

"เดี๋ยวนะ ปกติครอบครัวคนจีนมักให้ความสำคัญกับลูกชายไม่ใช่เหรอ ทำไมอั้วอยู่สบาย แล้วลื้อถึง.."

"นี้ เจ้จำอะไรไม่ได้จริงๆ เหรอ?"

"อื่ม"

 ดวงตาตี่เล็กมองมาอย่างเหลือจะเชื่อก่อนจะอธิบายเรื่องของครอบครัวตระกูลตั้งให้คนเป็นพี่ฟัง หญิงสาวต่างภพจึงได้รับรู้ว่า อาม่ากับอากงของเธอเป็นคนจีนแท้อพยพมาจากมณฑลหนึ่งในประเทศจีน ส่วนอาปาของเธอเกิดในประเทศไทย อากงกับอาม่ามีลูกห้าคน เป็นลูกชายสี่ ลูกสาวหนึ่ง...อาปาของเธอเป็นลูกชายคนที่สาม ถึงแม้อาปาจะมีเชื้อสายจีนร้อยเปอร์เซ็น แต่ด้วยเกิดในผืนแผ่นดินไทย จึงรับวัฒนธรรมของคนไทยมาแทบทั้งหมด แม้แต่แนวความคิด หรือแม้แต่ผู้หญิงที่รักยังเป็นผู้หญิงไทยแท้

หรือก็คือแม่แท้ๆ ของเธอนั่นเอง แต่เสียดายที่ครอบครัวคนจีนแท้ โดยเฉพาะอาม่าผู้ยึดติดของเธอนั่น ไม่ยินยอมที่จะให้ลูกชายแต่งงานกับสาวไทย คนเป็นพ่อจึงถูกจับคลุมถุงชนกับลูกสาวชาวจีนที่เป็นเพื่อนสนิท ตระกูลที่อพยพมาพร้อมกัน ด้วยความกตัญญูที่เธอไม่มีวันจะเข้าใจ..สองหนุ่มสาาวที่รักกันมาก..ก็เลิกลากันไป

ความรักที่ไร้ความยินยอมพร้อมใจ แม้จะอยู่ด้วยกันได้ แต่ก็อยู่กันอย่างแกนๆ อาปาของเธอมีลูกกับผู้หญิงคนนั้นสามคน ลูกชายคนโตก็คืออาเฮียของเธออายุห่างกับเธอราวๆ ห้าปี ส่วนลูกสาวคนที่สองอายุห่างจากเธอราวๆ สองปี ก่อนที่อาปาจะใช้ความเห็นแก่ตัวในชีวิตเพียงอย่างเดียว คือการขออาม่าและเมียคนแรก เพื่อแต่งแม่แท้ๆ ของเธอ เพื่อเป็นเมียรอง

สิ่งที่จินเยว่ไม่เข้าใจ ทำไมผู้หญิงดีๆ อย่างแม่ของเธอ ที่ชีวิตดีพร้อม..มีบิดามารดาครอบครัวที่รักใคร่ ชีวิตหาได้ลำบากในข้าวของเงินทอง ทำไมถึงยอมเป็นเมียน้อยของผู้ชายเห็นแก่ตัวคนหนึ่งได้..หรือคือความไร้เดียงสาของผู้หญิงในวัยหนุ่มสาว..ที่ความรักมาเหนือทุกอย่าง

บทที่เกี่ยวข้อง

  • back to 1950's ย้อนเวลาให้ดอกไม้ผลิบาน   บทที่8

    แต่เธอก็ไม่รู้ว่าสิ่งที่แม่ของเธอเลือกเป็นสิ่งที่ถูกต้อง หรือสิ่งที่ผิด เพราะตั้งแต่อาปา แต่งเมียรองเข้าบ้าน...ผู้สูงวัยก็ทำหน้าที่สามีที่ดี เลิกจากงานเป็นคนขับเรือขนส่งสินค้า ซึ่งเป็นธุรกิจขนาดกลางของที่บ้าน ก็คลุกอยู่กับลูกเล็กซึ่งก็คือเธอ กับเมียรอง ที่น่าแปลกแม่บ้านใหญ่ยังคงหัวอ่อน และปล่อยชีวิตตามน้ำไปเรื่อยๆ เธอไม่เคยวีนเคยเหวี่ยงยังคงทำหน้าที่สะใภ้คนจีนทั้งดูแลพ่อแม่สามี ทำงานบ้าน ไปช่วยธุรกิจกงสีของที่บ้าน ดูแลลูกชายลูกสาวทั้งสองเป็นอย่างดี อาปาของเธอเองเพียงมีหน้าที่ไปกินข้าวเย็นกับที่บ้านใหญ่ ส่วนเวลาที่เหลือก็ดูแลเธอกับแม่หลังจากฟังเรื่องราวที่น้องชายเล่า...ภาพความทรงจำลางๆ บางอย่างกับลอยขึ้นมา ภาพชายร่างสูงใหญ่...แววตาเต็มไปด้วยความรักใคร่เอ็นดู อ้อมกอดอบอุ่นของหญิงสาวคนหนึ่งกับโอบกอดเธอไว้ "แล้ว...อาปากับแม่เจ้ละ ท่านทั้งสองอยู่ไหน"หญิงสาวสอบถามด้วยความสงสัย...ความรู้สึกเศร้าจางๆ วาบเข้ามา ดารินรู้ว่ามันคือความรู้สึกของร่างเดิม... คำถามของคนเป็นพี่ทำเด็กชายเงียบไปชั่วครู่ ก่อนที่เจ้าตัวแสบจะกินข้าวไปด้วยเล่าไปด้วย"เสียทั้งคู่แล้ว แม่ของเจ้ เสียตอนเจ้ห้าขวบ ส่วนอาปาเสี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-08
  • back to 1950's ย้อนเวลาให้ดอกไม้ผลิบาน   บทที่9

    ณ ตึกแถวหัวมุม"เจ่เจ้จินจิน ทำไมต้องซื้อข้าวของเยอะขนาดนี้ด้วย"น้องชายตัวผอมบ่นกระปอดกระแปด มือเล็กแต่หยาบช่วยบรรดาเฮียๆ ผู้ซึ่งเป็นลูกจ้างขนของเข้าบ้านมีทั้งหม้อ กระทะหลายขนาด ตะหลิวทัพพี อะไรที่ควรมียัยเจ่เจ้หน้าสวยตัวแสบขนซื้อมาหมด"ของมันต้องใช้"คนเป็นพี่ตอบเสียงเรียบ มือเรียวสวยจัดแจงแยกผัก แยกหมูไข่ใส่ตู้เย็น เฟยเทียนได้แต่เบ้ปาก...ตั้งแต่จำความได้ชีวิตที่เติบโตมาด้วยกัน..พี่สาวเขาไหนเลยเคยเข้าครัว...ถ้าเป็นเจ่เจ้เซียงเซียงก็ว่าไปอย่าง บ้านตระกูลอื่นลูกสาวเมียรองอาจต้องเก่งงานบ้านงานเรือนงานครัว ดูแลปรนนิบัติผู้สูงวัยในตระกูล ถ้าจะมียกเว้นก็คงเป็นครอบครัวเขานี่แหละ ตั้งแต่อาปาพาลูกสาวอันเกิดจากภรรยาที่รักกลับบ้าน ชีวิตของจินเยว่ก็ราวกับเจ้าหญิง งานบ้านงานเรือนเป็นหน้าที่ของม๊าใหญ่กับพี่สาวคนโต ส่วนอาปากับเฮียคังคือคนหาเงินเข้าบ้าน ส่วนลูกชายคนเล็กแบบเขายังมีหน้าที่ช่วยอาปา อาม๊าหยิบจับงานเล็กๆ น้อย เขายังจำได้ครั้งหนึ่งในวัยแรกรุ่น เจ่เจ้เซียงเซียงมีนัดกิจกรรมในวันหยุดที่โรงเรียนกับเพื่อนๆ ส่งผลให้วันนั้นเจ้ไม่ได้ซักชุดนักเรียน กับถุงเท้าของเจ่เจ้จินจิน...พอเจ่เจ้เซียงเซียงกล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-08
  • back to 1950's ย้อนเวลาให้ดอกไม้ผลิบาน   บทที่10

    บนโต๊ะกลมกลางบ้าน หนึ่งเด็กชาย หนึ่งหญิงสาวนั่งกินข้าวด้วยกันอย่างเอร็ดอร่อย โดยจินเยว่เองเริ่มเนียนสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากน้องชายผู้เฉลียวฉลาด"ว่าแต่ปีนี้ปีพ.ศ.อะไร?""เจ้หมายถึงพุทธศักราช?""อื่อ"คนเป็นพี่รับเสียงเรียบ เฟยเทียนมีสีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย แม้แต่เรื่องชีวิตประจำวัน...พี่สาวเขายังลืม..อาการชักหนักแล้ว แต่ก็ยังคงตอบไป"ปีพุทธศักราช 2493 ครับ""1950?""เจ้หมายความว่ายังไง""แปลว่าตอนนี้เป็นยุคสมัยหลังสงครามโลกครั้งที่สองซินะ"คนเป็นพี่เริ่มพึมพำ..ดวงตาคู่สวยหรี่ลงเล็กน้อย..สมัยเรียนวิชาประวัติศาสตร์เธอจดจำได้ว่าสงครามโลกครั้งที่สองจบในปี 1945 ในความโชคร้ายก็ยังคงมีความโชคดีอยู่บ้าง..เพราะถ้าเธอเกิดดวงซวยต้องไปเกิดในช่วงสงครามเธอนึกสภาพตัวเองออกตัวรอดไม่ออกเลย เด็กชายพยักหน้ารับ ทั้งยังอธิบายเพิ่ม"ใช่เจ้ ข้าวปลาอาหารเลยแพง อั้วกับหลานๆ เลยอยู่กันแบบอดๆ ยากๆ ยิ่งช่วงหลังอาปาเสียครอบครัวเราลำบากกันมาก รายได้ก็ขาด รายจ่ายก็มาก..ช่วงนี้ยังดีที่ราคาสินค้าถูกลงมาเยอะแล้ว"น้ำเสียงแหบพร่าเต็มไปด้วยอารมณ์ของลูกชายคนสุดท้องเศร้าหมอง สำหรับเขาอาปาเป็นผู้ชายที่ขยันอดทน นอกจากงานของกงสี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-08
  • back to 1950's ย้อนเวลาให้ดอกไม้ผลิบาน   บทที่11

    ใช้เวลาสักพักกับข้าวบนโต๊ะก็เกลี้ยง เล่นเอาภรรยาคนสวยมองตาปริบๆ ไหนบอกว่าแค่ 'ก็ดี' ไง.. ใบหน้าหล่อเหลาราวกับหยกชั้นดีมีสีหน้าอิ่มเอมมากกว่าทุกๆ วัน ริมฝีปากแดงหยักเปื้อนด้วยคราบน้ำมัน..เล่นเอาแม่ครัวจำเป็นนิ่วหน้าเล็กน้อย..มือคู่สวยหยิบผ้าเช็ดหน้าผืนน้อยในกระเป๋ากางเกงเอื้อมมาเช็ดให้ ตัวเจ้าหล่อนเอนเข้าหาแทบจะตัวติดกัน..กลิ่นหอมอ่อนๆ บนนวลเนื้อสาว...ทำเอาชายหนุ่มหน้าแดงแปร๊ด"นายนี้นะ ยังเหมือนเดิมเลย...กินก็เลอะ ฉันทำอาหารอร่อยใช่มั้ยละ"คำท้ายมีเย้า ดวงตาได้รูปสวยพราวระยับ ก่อนที่มือใหญ่หันมากุมข้อมือไอ้ต้าวตัวเล็ก เสียงแหบพร่ากระซิบใกล้หูอย่างดุๆ"พูดไม่สุภาพอีกแล้วนะ"อาจเพราะดวงตาคมแวววับคาดโทษ หรือคำพูดที่เขาใช้เตือน..ส่งผลให้หญิงสาวต่างภพได้สติ..เขาไม่ใช่คู่หมั้นผู้คลั่งรักเธอ!! ก่อนที่ไอ้ต้าวตัวเล็กจะทันได้พูดอะไร คุณสามีก็เลือกที่จะเตรียมหนีขึ้นข้างบนอีกตามเคย เล่นเอาจินเยว่นิ่วหน้า"เดี๋ยวนั่น เฮียจะไปไหน?""...""เฮียลืมอะไรหรือเปล่า?""อื่ม ไม่นะ""ช่วยฉันเก็บถ้วยชามบนโต๊ะด้วยค่ะ แล้วก็เอาไปล้าง..ฉันเคยบอกเฮียซานแล้วใช่มั้ย บ้านเราอยู่ด้วยกันต้องช่วยกันดูแล วันนี้ฉันเป็นคน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-08
  • back to 1950's ย้อนเวลาให้ดอกไม้ผลิบาน   บทที่12

    เมื่อเห็นเจ้าของบ้านเงียบไป..คนตัวเล็กกว่าชักหงุดหงิดใจ..แถมไอ้ต้าวหน้าหล่อยังคงทำสีหน้าอ่านไม่ออกด้วยแล้ว..ยิ่งอยากเอาอะไรฟาดให้สักเปรี้ยง..แต่ก็ต้องคอยท่องกับตัวเองในใจว่าเธอยังคงต้องพึ่งพาเขาอยู่..หน้ากากความน่ารักอ่อนหวานจึงถูกยัยตัวแสบหยิบมาใช้ทันที"นะคะเฮียซาน จินจิน..อยากขายของ"เสียงหวานออดอ้อนอย่างที่ใช้นับครั้งได้ แต่สามีตัวโตยังคงมองกลับมาอย่างคนรู้ทัน"...""นะคะ""หึ แล้วแต่เธอซิอยากทำอะไรก็ทำ..ขอแค่อยากสร้างเรื่องให้เฮียต้องมาตามเช็ดขี้เช็ดเยี่ยวให้ก็พอ" คำพูดกระแหนะกระแหนเย็นชาทำคนตัวเล็กกว่าสะอึก..แถมพูดจบชายหนุ่มก็ลุกไปนั่งอ่านหนังสือต่อซะงั้น เล่นเอาหญิงสาวต่างภพมองตามอย่างหงุดหงิดใจเล็กๆ แต่ก็ยังทำอะไรเขามากไม่ได้ ร่างเพรียวระหงจึงลุกขึ้นไปจัดแจงกางมุ้ง..ด้วยความตั้งใจจะนอนตั้งแต่หัวค่ำ..เพราะพรุ่งนี้ยังมีอะไรอีกหลายอย่างที่เธอ 'ต้องทำ'และวันนี้ต่างจากเมื่อคืนวาน..พอหัวถึงหมอนปุ๊บไอ้ต้าวตัวเล็กก็หลับสนิทปั๊บ เรียกสายตาคมปนครุ่นคิดของสามีตัวโต'เธอคิดจะทำอะไรกันแน่นะ จินเยว่'จวบจนรุ่งสางเจ้าของบ้านหนุ่มลุกขึ้นมาก็ไม่เจอภรรยาตัวแสบแล้ว..เล่นเอาเขาประหลาดใจไม่น้อย..ย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-08
  • back to 1950's ย้อนเวลาให้ดอกไม้ผลิบาน   บทที่13

    ณ ตลาด yเวลานี้พระอาทิตย์เริ่มสาดแสงขึ้นมาบ้างแล้ว ผู้คนในตลาดค่อนข้างจอแจ ร่างเพรียวระหงของคนเป็นพี่เดินนำหน้า ในขณะที่คนเป็นน้องเดินตาม..ก่อนที่เจ้าตัวจะแวะบ้านร้านค้าที่ขายเฉพาะข้าว..เสียงหวานใสต่อรองราคาพร้อมสั่งปลายข้าวสารหอมมะลิหลายถังทั้งที่เมื่อวานหญิงสาวพึ่งซื้อข้าวสารไปเอง เล่นเอาคนเป็นน้องชายมองการกระทำตรงหน้าอย่างไม่ค่อยเข้าใจนัก..ในขณะที่ร่างบอบบางยอบตัวลงเล็กน้อย เพื่อตรวจเช็กคุณภาพข้าว..ในความคิดของหญิงสาวข้ามภพนั่นยังถือว่าตัวเองโชคดีนัก ที่ย้อนกลับเข้ามาในช่วงพศ. ที่พ้นจากภาวะผูกขาดการค้าขายข้าวที่แต่เดิมมีเพียงรัฐบาลเท่านั้นที่ทำได้ขณะเดียวกันภาวะเงินเฟ้อที่ก่อนนี้ค่อนข้างรุนแรงกับค่อยๆ ลดลงจนราคาสินค้าทั่วไปอยู่ในระดับที่ไม่สูงเกินไป แต่ราคาข้าวก็ยังอยู่ในระดับที่สูงเกินกว่าความเป็นจริง..ยังดีจากที่เธอสำรวจเมื่อวาน คู่แข่งในชุมชนบริเวณนั้นยังน้อยอยู่..ไม่งั้นการทำอาหารขายอาจไม่คุ้มเหนื่อย“เจ้..ซื้อข้าวไปทำไมเยอะแยะ”เสียงเล็กกระซิบถาม “ทำโจ๊ก”“หืม ทำเยอะขนาดนี้เลยเหรอครับ”“อื่อ ค่อยว่า..ไปร้านอื่นต่อ”คนตัวเล็กชำระเงินเรียบร้อยก็เดินนำน้องชายเข้าร้านเฟอร์นิเจอร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-08
  • back to 1950's ย้อนเวลาให้ดอกไม้ผลิบาน   บทที่14

    "นี้ตั้งใจจะเปิดร้านขายอาหารเช้าจริงๆเหรอ?""ใช่ซิ ไม่งั้นจินจินจะเสียเงินซื้อโต๊ะเก้าอี้ใหม่ไปทำไมละ"ไอ้ต้าวภรรยาตัวเล็กตอบเสียงเรียบ..แววตามีคำตำหนิกลายๆ..เล่นเอาคนถามรีบแก้ตัว "เปล่า..เฮียไม่ได้จะว่าอะไร แค่เห็นปกติเธออยู่บ้านไปวันๆ ไม่เห็นทำงานบ้าน..งานครัว พอเธอบอกจะเปิดร้านขายอาหารเช้าเฮียเลยคิดว่าเธอพูดเล่น"และใช่! ดูเหมือนคำแก้ตัวของไอ้ต้าวสามีจะดูไม่ได้ผลนัก..เมื่อคนตัวเล็กกว่านิ่วหน้าตอบ"อ๋อ เฮียซานจะบอกว่าฉันขี้เกียจ?""...""สรุปว่ายังไง!!!"เสียงหวานเจือดุชักไม่พอใจ มือน้อยละจากงานตรงหน้าทันที"ก็..ประมาณนั้น"คนไม่ชอบโกหกอุบอิบตอบ"หึ งั้นไม่ต้องกินมันละข้าวชงข้าวเช้าเนี่ย"พูดจบร่างเล็กเตรียมจะดึงชามถ้วยคืน แต่คุณสามีกับยกมันขึ้นอย่างรู้ทัน ลี่ซานรีบเปลี่ยนมุมไปนั่งที่โต๊ะอีกฝั่งที่หญิงสาวเอื้อมมือมาถึง ใบหน้าสวยเจือดุของคนเป็นเมียขบเขี้ยวเคี้ยวฟันมองตามอย่างฉุนๆ แต่ในสายตาของเขากลับน่าเอ็นดูเสียอย่างงั้น ไอ้ต้าวตัวโตรีบจ้วงโจ๊กในถ้วยจนหมด..ในความคิดของคุณหมอจอมซึนไม่ยอมรับว่าเธอทำอาหารอร่อย คิดเพียงแค่ว่าจะให้เขาแบกท้องกลับไปกินที่บ้านม๊าก็กระไรอยู่..ก่อนที่ร่างสูงโปร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-08
  • back to 1950's ย้อนเวลาให้ดอกไม้ผลิบาน   บทที่15

    "ไว้เจ้ขายของได้เยอะกว่านี้ เจ้จะเพิ่มค่าจ้างให้นะ""ขอบคุณครับ""ส่วนตอนนี้ เดี๋ยวตามเจ้ไปซื้อของเข้าร้านก่อนนะ"พูดเสร็จไอ้ต้าวคิดเร็วทำเร็ว รีบคว้ากระเป๋าผ้าที่ใส่สมุด กระเป๋าเงิน และดินสอติดตัว ก่อนร่างเพรียวระหงจะเดินนำออกจากบ้าน ทั้งยังยักคิ้วเรียกคนเป็นน้องให้ตามมาอย่างกวนๆ เล่นเอาใบหน้าตอบหุบยิ้มทันที..ได้แต่นึกว่าเจ่เจ้จอมโหดไม่มีทางใจดีทำงานวันละไม่กี่ชั่วโมง แล้วให้เงินเด็ดขาด!!!คนอยากพักไม่ได้พัก ส่วนไอ้คนที่ตื่นตั้งแต่เช้าทำงานตัวเป็นเกลียวหัวเป็นนอต กลับยิ่งทำงานยิ่งคึก...วันนี้หลังจากที่หญิงสาวสังเกตจำนวนคนงานที่ท่าเรือมีไม่น้อยเลยทีเดียว..เหล่ากงในภพก่อนเคยสอนเธอไว้ว่า..ที่ไหนมีคนที่นั่นมีเงิน!! ซึ่งอาทิตย์นี้ดารินตั้งใจจะขายอาหารปริมาณเท่าเดิมไปก่อน..เพื่อพิสูจน์ว่าคนที่มาซื้อคือ 'ลูกค้าจริงๆ' ไม่ใช่แค่ลูกค้าที่เพียงแค่อยากมาทดลองทานแต่เดิมคนตัวเล็กแต่ใจใหญ่ตั้งใจจะเปิดร้านขายกาแฟโบราณควบคู่ไปด้วย เพราะส่วนต่างกำไรของการขายน้ำนั่นสูงมาก เพียงแต่ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สองราคาน้ำตาลทรายในตลาดค่อนข้างสูง รวมถึงราคาเมล็ดกาแฟด้วย..ส่วนกาแฟสำเร็จรูปนั่นมีนำเข้ามาบ้างแต่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-08

บทล่าสุด

  • back to 1950's ย้อนเวลาให้ดอกไม้ผลิบาน   บทพิเศษ2

    ณ มหาวิทยาลัย J ชื่อดังระดับต้นๆ ของประเทศหลังตึกคณะบริหารธุรกิจ...หญิงสาวในชุดนักศึกษากำลังยืนรอชายหนุ่มทายาทของตระกูลดังอย่างใจจดใจจ่อ...ท่าทางกระสับกระส่ายพาลให้เพื่อนสาวที่มาด้วยสองคนหัวเราะคึกคัก "ยัยซีลีนเธอจะตื่นเต้นอะไรขนาดนั้นยะ ทำเหมือนไม่เคยอ่อยผู้ไปได้"เพื่อนที่มาด้วยกันแซวเมื่อเห็นดาวคณะนิเทศกระสับกระส่ายใบหน้าสวยเฉี่ยวตามสมัยนิยมถูกแต่งแต้มเป๊ะปัง จนหนุ่มๆ พากันเหลียวหลังมองด้วยความชื่นชม...นอกจากหน้าตาที่ดีเลิศ โปรไฟล์เจ้าหล่อนก็แสนจะไม่ธรรมดา..เพราะเป็นถึงลูกสาวบริษัทรับเหมารายใหญ่ระดับประเทศ คนที่มาจีบมีตั้งแต่ลูกเศรษฐีด้วยกัน ไปจนนักธุรกิจหนุ่มดาวรุ่ง...แต่ชายที่หญิงสาวตกหลุมรักดันเป็นชายหนุ่มสุดหล่อแสนเย็นชาของคณะบริหาร"คีรีมาทางนั้นแล้วยัยซีลีน"เพื่อนอีกคนรีบสะกิด เมื่อเห็นชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง ใบหน้าราวกับหลุดมาจากนิยายจีน..ที่ตอนนี้มีสีหน้าเรียบเฉยติดจะเย็นชาเล็กน้อย..ยิ่งสายตาคมกริบที่กวาดมองยิ่งพาให้หัวใจไฮโซสาวหวั่นไหวร่างอวบอิ่มรีบเดินเข้าไปตรงหน้าตามแรงผลักของคนเป็นเพื่อน"สวัสดีคีรี"เสียงหวานเอ่ยถามขึ้น พร้อมช้อนดวงตากลมโตขึ้นมอง...ชายหนุ่มเพียงหรี่ต

  • back to 1950's ย้อนเวลาให้ดอกไม้ผลิบาน   บทพิเศษ1

    ย้อนไปเมื่อสิบปีก่อนณ MMMO international schoolเด็กหนุ่มชั้นมัธยมปีศึกษาปีที่สี่ผู้มีฐานะเป็นหลานของเจ้าของโรงเรียนเอกชนอันดับหนึ่งของประเทศ..ซึ่งเวลานี้กำลังนั่งอารมณ์ไม่ดีอยู่บริเวณหน้าโถงประชุมของโรงเรียน ใบหน้าหล่อเหลาเริ่มบูดบึ้ง..นัยน์ตาคมกริบกวาดมองหมู่คนที่ผ่านไปผ่านมา..คล้ายกับกำลังใครสักคนอยู่...รุ่นพี่รุ่นน้องผู้หญิงเมื่อสบสายตาเข้าก็แทบเป็นลม..บรรยากาศเย็นชาน่าหลงใหลไม่ได้ทำให้ความนิยมในตัวเด็กหนุ่มน้อยลงเลยไม่ถ้าในโรงเรียนหรือมหาลัยวิทยาลัยมีเดือนคณะ นายคีรี สิริวงษ์ชัย ย่อมเหนือเมนขึ้นไปอีกขั้นแน่ละ ทั้งรูปร่างหน้าตา..รวมถึงฐานะวงศ์ตระกูลที่จัดอยู่ในหนึ่งกลุ่มลูกหลานผู้มีอิทธิพลระดับประเทศ...รวมถึงผลการเรียนอันดับหนึ่งของสายชั้น เมื่อขึ้นเวทีร้องเพลงเสียงก็เพราะเป็นหนักหนา..ต้องเรียกว่า hot ยิ่งกว่า hotดังนั้นตั้งแต่เกิดมาใครๆ ล้วนต่างประจบสอพลอ เชิดชูบูชา ถ้าจะมีคนหนึ่งที่ปฏิเสธมัน ก็คงไม่พ้นนางสาวดาริน กิตติวรชัยกุล เจ้าหล่อนอย่าว่าแต่ประจบเอาใจเขาเลย วันๆ มีแต่ไล่เขาไปให้พ้นๆ หน้าอีกทั้งวันนี้ยัยตัวร้ายยังหลอกให้เขามารอหน้าโถงประชุมใหญ่ได้ครึ่งค่อนชั่วโมง ทั้งๆ

  • back to 1950's ย้อนเวลาให้ดอกไม้ผลิบาน   บทที่81 จบ

    รถสปอร์ตคันหรูยังวิ่งไปตามทางที่คุ้นเคย..เพียงแต่รอบนี้หญิงสาวสายซิ่งกับขับรถด้วยความไวที่ช้าลงกว่าปกติ หลังคารถเปิดประทุนถูกเปิดออก..สายลมยามดึกปะทะหน้าพาให้อารมณ์ดีไม่น้อย..ผมดำสลวยที่เริ่มยาวถูกมัดรวบง่ายๆ ไว้ด้านหลัง น่าแปลกปกติอดีตคู่หมั้นคนสวยจะตัดมันเสียสั้นกุด เพราะเจ้าหล่อนติดนิสัยขี้รำคาญจวบจนรถหรูจอดสนิทตรงลานจอดรถสะพานขึ้น p มันคือสถานที่...ที่หญิงสาวมาทุกครั้งเวลาไม่สบายใจ หรือเวลาที่เขารู้สึกแย่..เธอจะยืนอยู่บนข้างๆ หันมามองหน้าเขา พร้อมเอียงหัวรับฟังเล็กน้อย..แล้วก็ปล่อยเขาพูดไป..แม้จะไม่มีคำแนะนำดีๆ แต่แค่เธอยืนอยู่ตรงนั้น แค่รับฟัง..มันก็ทำให้เขามีความสุข เวลานี้ก็เช่นกัน..ร่างเพรียวระหงยังยืนอยู่ตรงนั้นเงียบ ๆ ดวงตาคู่สวยที่เขานึกรักเหม่อมองออกไปยังแม่น้ำสายใหญ่ประจำประเทศ ใบหน้าด้านข้างของเธอยังงดงามราวกับรูปสลัก..ริมฝีปากที่ถูกเคลือบด้วยสีแดงจัดเหมือนสีเสื้อผยอเล็กน้อย..ก่อนที่เธอจะตัดสินใจผินตากลับมามองเขา..เราต่างก็รู้ถึงนัยยะเดียวกัน..เขารู้ว่าเธอจดจำได้..และอะไรบางอย่างในดวงตาเขาก็บ่งบอกว่าเขาจดจำได้เช่นกัน“นายคีรี”“ว่ายังไงนางสาวดาริน”คำเรียกขานที่ชอบใช้แท

  • back to 1950's ย้อนเวลาให้ดอกไม้ผลิบาน   บทที่80

    "หมายความว่ายังไงคะ!!!"คำตอบของคนเป็นพ่อ ส่งผลให้ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างด้วยความตกใจ...หัวใจดวงน้อยเต้นช้าลง..ความรู้สึกสูญเสียบางอย่างเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว"ป๊ะป๋าก็หมายความตามนั้น ป๊ะป๋าเป็นคนขอถอนหมั้นเอง""อ้าว ได้ยังไงคะ แล้วแบบนี้นายคีรีไม่เสียใจแย่เหรอ""ถ้านายคีรีจะเสียใจก็เป็นปัญหาของนายคีรีซิ เกี่ยวอะไรกับบ้านเราด้วยล่ะแค่วันนั้นขับรถพาอายไปลงเขา...ป๋าก็แทบจะฆ่ามันทิ้งแล้ว..ถอนหมั้นๆ ไปก็ดีแล้ว อีกอย่างหนูก็ไม่เคยชอบพันธะนี้อยู่แล้วนี่""ป๊ะป๋า!!! มันไม่ใช่ความผิดของนายคีรี วันนั้นมันเป็นอุบัติเหตุ..นายคีรีเขาปกป้องอายด้วยซ้ำ""ไม่รู้ ถอนหมั้นแล้วก็คือถอนหมั้น อย่าไปพูดถึงผู้ชายคนนั้นอีกเลย"คนเป็นพ่อผู้หวงลูกสาวรีบตัดจบอารมณ์ดี ก่อนจะหยิบมือถือมาไล่อ่านข่าว ไม่สังเกตสีหน้าซีดเซียวของคนเป็นลูกแม้แต่นิด'เผด็จการชะมัด..เผด็จการเหมือนใครกันนะ ก็เหมือนตัวเธอนะซิ!!'เมื่อออกจากโรงพยาบาลได้สองอาทิตย์คนป่วยเริ่มอาการดีขึ้น...อีกทั้งได้สรุปในใจอีกหลายอย่าง ดังนั้นไอ้คนที่ไม่ชอบออกงานเลี้ยงสังคมหรูหราก็กลับมาออก...เพื่อจะเห็นหน้าใครบางคนและยังสามารถใช้เหตุผลประมาณว่า 'บังเอิญเจอกัน เลยไ

  • back to 1950's ย้อนเวลาให้ดอกไม้ผลิบาน   บทที่79

    เมื่อคนเป็นพี่กลับบ้านมาแล้วพบน้องชายทำหน้าเครียด ในมือของเขามีสมุดเบิกถอนสมุนไพร ส่งผลให้คนมีชนักติดหลังเสียววาบในใจ...ดวงตาคมกริบหรี่มอง พร้อมโยนสมุดในมือลงบนโต๊ะ"มีอะไรจะแก้ตัวมั้ย?""...""ทำไมเจ้ทำแบบนี้ เจ้ทำมันลงไปได้ยังไง""ลื้อมันบ้าอาซาน อีฮวงนั้งไม่สมควรให้กำเนิดลูกหลานตระกูลหลี่!!""คนที่ไม่สมควรเกิดมาเป็นลูกหลานตระกูลหลี่คือเจ้ต่างหาก ส่วนจินจินเธอดีเกินกว่าผู้หญิงหลงท่ก สันดานเลวอย่างเจ้มาก""อาซาน นี้ลื้อ นี้ลื้อด่าอั๊ว""เออ อั๊วด่าเจ้นี้แหละ เรื่องนี้มันไม่จบแน่ เจ้เตรียมใจไว้ได้เลย"คนเป็นน้องพูดพร้อมกับเก็บสมุดเบิกจ่ายสมุนไพรติดมือไปด้วย เล่นเอาพี่สาวเหงื่อตก แต่หล่อนรู้น้องชายนั้นแสนดีขี้ใจอ่อนมากแค่ไหน...อีกอย่างจินเยว่ก็เสียไปหลายปีแล้ว...ไหนเลยจะมาเอาผิดเธอได้แต่ไอ้คนใจดีมาตลอดชีวิต กับเลือกนำเรื่องไปฟ้องอาปามู่เฉิน กับอาม๊าด้วยรู้ว่าท่านทั้งสองเป็นคนยุติธรรม...เมื่อบุพการีรับรู้เรื่องทุกอย่างก็ถึงกับตกใจ...เพราะสิ่งที่ลูกสาวคนเดียวกระทำเป็นสิ่งที่เลวร้ายมาก มันไม่ต่างทำจากการทำร้ายสายเลือดครอบครัวตระกูลหลี่ดังนั้นตอนหลี่หนิงเกอเดินเข้าห้องทำงานของอาปามู่เฉิน

  • back to 1950's ย้อนเวลาให้ดอกไม้ผลิบาน   บทที่78

    ระหว่างที่ชายหนุ่มลงมือทำความสะอาดหลุมศพของภรรยา...หลี่มู่เฉินที่เดาไว้แล้วว่าลูกชายจะมาที่นี้ ก็เดินเข้ามาหาทันที หลังจากที่ยัยหนูจินเยว่เสียไปได้สองเดือน..ลูกชายของเขามักมาทำความสะอาด เอาดอกไม้มาวาง “อาซาน”“อ้าว อาปา มาได้ยังไงครับ”เสียงแห้งถามกลับ พร้อมส่งรอยยิ้มเศร้าหมองไปให้..ใบหน้าภายใต้หมวกสานกันแดด แดงขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากอยู่ด้านนอกเป็นระยะเวลานาน“อื่ม อาปามีเรื่องจะคุยกับลื้อ”หลังจบคำผู้ชายสองวัยจึงเดินไปนั่งใต้ร่มไม้ที่อยู่ไม่ไกลจากหลุมฝังศพจินเยว่นัก“ลื้อแน่ใจแล้วรึ ที่จะลาออกจากโรงพยาบาล”“ครับ”“เห้อ อาซาน..ฟังอาปานะ จินจินอีตายไปแล้ว แต่ลื้อยังมีชีวิตอยู่”“อื่ม ผมรู้..ผมเองก็กำลังใช้ชีวิตอยู่นี้ไง”“แบบที่ลื้อทำอยู่ เขาไม่ได้เรียกว่าการใช้ชีวิตนะอาซาน”เสียงอาปาอ่อนล้า มือหนาหยาบตบหลังลูกชายเบาๆ เพื่อปลอบประโลม“อาปารู้ว่าลื้อรักจินจินมาก”“...”“ไม่งั้นอาปาคงไม่หมั้นหมายลื้อให้จินจินหรอก”“ทำไม...อาปารู้ละครับว่าผมรักจินจิน”น้ำเสียงลูกชายโตเริ่มพร่า..เพราะตัวเขาเองยังไม่รู้ตัวเลยว่ารักเธอตั้งแต่เมื่อไร“จำได้มั้ย ว่าปีหลังๆ มานี้ ลื้อชอบบ่นว่าน้อง..แต่พอกลับมาทีไ

  • back to 1950's ย้อนเวลาให้ดอกไม้ผลิบาน   บทที่77

    ชาตินี้น้องตามพี่มา ชาติหน้าพี่ยาตามน้องไปความรู้สึกเจ็บปวดเกาะกินทั้งแก่นกระดูก ลามไปยังเนื้อหนังมังสาทุกส่วนก่อนสติสุดท้ายจบลง..ร่างเพรียวระหงสะดุ้งตกใจตื่น..น้ำตาหยดใสไหลลงจากหางตาทั้งสองข้าง..เสียงสะอื้นไห้เจ็บปวด..ก่อนดวงตาดำคู่สวยจะจับโฟกัสทุกอย่างได้..มือเรียวเล็กข้างซ้ายร้อนชื้น..คนที่กุมมือไว้ไม่ปล่อย...ไม่ใช่ใครที่ไหน คือนายคีรี ผู้ที่ทั้งชีวิตไม่เคยปล่อยมือเธอเลยสักครั้งในอดีตวันที่เธอตื่นฟื้นจากอุบัติเหตุครั้งแรก...ความรู้สึกเจ็บปวดไม่ต่างจากตอนนี้แม้แต่น้อย..แต่สิ่งที่ต่างมีเพียงแค่ว่า..เธอจำเรื่องราวในอดีตไม่ได้...มีเพียงความรู้สึกเจ็บปวดเคียดแค้นที่เกาะกินจิตวิญญาณ.. เธอเกลียดผู้ชายคนนั้นจับใจแต่ครั้งนี้นั้นแตกต่าง..ดารินในวัยสิบสามขวบ ยังคงไร้เดียงสาในเรื่องความรัก กับนางสาวจินเยว่ในวัยยี่สิบผู้ถูกเลี้ยงดูมาอย่างปล่อยปละละเลย และยึดติด รวมถึงดารินหรือจินเยว่ในปัจจุบันที่ทะลุเข้าไปในอดีตเหตุการณ์เดียวกัน...แต่ความเข้าใจต่างกันในครั้งหนึ่งเธอเคยคิดแค่ว่า..ทุกสิ่งทุกอย่างเมื่อทุ่มเทไป ย่อมสมควรได้คืนกลับมา..มีแต่คำถามว่าทำไมเขาไม่เข้าใจ ทำไมเขาไม่ตามใจเธอ...เธอเป็นเม

  • back to 1950's ย้อนเวลาให้ดอกไม้ผลิบาน   บทที่76

    ร่างเพรียวระหงซุกตัวกอดสามีตัวโตไว้แน่น..หลี่ลี่ซานเองก็เต็มไปด้วยความไม่สบายใจ..เลือกทางไหนก็ผิดทั้งนั้น..มือเรียวได้รูปปัดลูกผมที่ระหน้าด้วยความทะนุถนอม“จินจินแน่ใจนะคะ ที่ทำแบบนี้”“ค่ะ มันเป็นทางเลือกเดียวที่เรามี...ถ้าสมมติวันนี้เฮียซานไม่ไปช่วยเจ้เซียงเซียง.. ถ้าเกิดเจ่เจ้แกเป็นอะไรขึ้นมาจริงๆ เราคงเหมือนมีตราบาปไปตลอดชีวิต อีกอย่างจินจินมีเรื่องจะสารภาพค่ะ”ปลายเสียงเธอแผ่วเบา..ริมฝีปากรูปกระจับถูกกัด“สารภาพเรื่องอะไรครับ”“ผู้ชายคนนั้น...เจ้าน้อยแสนอะไรนั้น...จินจินเป็นคนแนะนำให้ไปจีบเจ่เจ้เซียงเซียงเองค่ะ”“…”“แต่จินจินไม่รู้หรอกนะคะ ว่าผู้ชายคนนั้นเป็นพวกชอบทุบตีผู้หญิง”น้ำเสียงคนตัวเล็กติดประหม่า ดวงตาคู่สวยช้อนมองสำรวจนึกกลัวว่าเขาจะรังเกียจ..เพียงแต่แววตาใสกระจ่างที่มองมาเต็มไปด้วยความเข้าใจ“จินจินอย่าคิดมากเลยนะคะ เซียงเซียงเลือกของตัวเธอเอง ไม่เกี่ยวกับจินจินเลย”“แล้วเฮียไม่คิดว่าจินจินร้ายเหรอคะ”“อื่อ ร้ายแต่น่ารัก เฮียชอบ”เขาพึมพำตอบ ก่อนจมูกโด่งสวยจะฝังลงไปตรงซอกคอภรรยาตัวน้อยอย่างหลงใหล..ในชีวิตเขาล้วนต้องการเพียงเธอ...แค่เธอก็พอแล้วเช้าวันต่อมาคุณหมอหนุ่มจำต้

  • back to 1950's ย้อนเวลาให้ดอกไม้ผลิบาน   บทที่75

    ตกเย็นวันนี้โชคดีที่เคลียงานได้เร็ว หญิงสาวจึงได้กลับบ้านก่อน เธอลงมือเข้าครัวทำอาหารเย็นเอง เมนูวันนี้เป็นอาหารไทยง่ายๆ อย่างต้มยำกุ้งน้ำข้น ผัดโป้ยเซียง และไก่กรอบชุบแป้งทอด โดยไม่คิดว่าจะมีแขกผู้ไม่ได้รับเชิญ บุกขึ้นมาถึงบ้าน...คุณนายเหวินผู้เป็นแม่สามี จูงลูกสาวคนเดียวเข้ามาด้วยท่าทางร้อนรน ด้านหลังเองมีเด็กในบ้านเดินตามมาด้วย“สวัสดีค่ะ ม๊า มาได้ยังไงคะ”“จินจิน อาซานกลับมาหรือยัง อั๊วมีเรื่องจะคุยกับอี”แม่สามีตั้งคำถามขึ้นมาแทน“น่าจะใกล้แล้วนะคะ ม๊านั่งรอก่อนนะคะ เดี๋ยวจินจินชงชามาให้”เจ้าของบ้านเชื้อเชิญ ก่อนจะหายเข้าไปในครัว ชงชารสโปรดให้ด้วยความใส่ใจ แต่พอออกมาต้องประหลาดใจ นอกจากแม่สามีที่นั่งรอ ยังมีซุนเหยียนแม่เลี้ยงที่นั่งงงๆ อยู่ด้านข้าง ซึ่งเวลานี้ส่วนใหญ่ม๊ามักจะดูแลอาบน้ำ ป้อนข้าวหลานอยู่ตึกด้านข้าง“อ้าว ม๊าใหญ่ มีธุระอะไรหรือเปล่าคะ”“พอดีหนิงเกอไปตามม๊ามา..ม๊าก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามีเรื่องอะไร” คำตอบของคนเป็นแม่เลี้ยง คล้ายสัญญาณเตือนอะไรบางอย่างที่ ‘ผิดปกติ’ดวงตาคมคู่สวยหลุบลง ก่อนจะเลือกเก้าอี้ตัวข้างๆ แม่สามี..บุคลิกหลังตรง งามสง่า..บรรยากาศสงบนิ่งเป็นนักหนา

DMCA.com Protection Status