ไทกิก็จะระวังตัวยามเจอเธอ แต่เมื่อไหร่ที่เป็นเรื่องงาน ผู้หญิงก็ผู้หญิงเถอะ...“เธอนี่มัน... ผมไปก่อนนะครับ” ไทกิค้อมศีรษะให้เมอร์ลินก่อนรีบออกจากห้อง โรมันเองก็ค้อมศีรษะให้ทั้งผู้เป็นนายและภรรยาของนายก่อนตามเพื่อนออกไป ไม่ลืมชี้หน้าคาดโทษเอมี่ แต่คนอย่างเอมี่กลัวที่ไหนกัน“เจ๋งมากเอมี่” เมอร์ลินเอง
เมอร์ลินดูเหมือนจะอุ่นขึ้นบ้าง โจไซอาห์รับรู้ได้ว่าคนบนตักดูผ่อนคลายลงจากเดิม เขาลงมือทำงานอีกครั้งและยังกดจูบลงบนศีรษะภรรยาเหมือนเคย เวลาต่อมางานทั้งหมดก็ถูกเคลียร์เรียบร้อย เขาวางปากกาลงพลางดันเท้าพาเก้าอี้ถอยหลังเล็กน้อย โจไซอาห์เอนหลังพิงพนัก หลับตาลงหวังพักผ่อนสักครู่เดียว แต่กลับกลายเป็นว่าเขา
“หวา ทีหลังหัดเดินเข้ามาดูคนของตัวเองบ้างเถอะครับ” เมอร์ลินส่ายหน้าเอือม ๆ ก่อนผละเดินมาที่ตู้เย็น“คุณชายเมอร์ลินจะเอาอะไรคะ บอกดิฉันก็ได้ค่ะ” สาวใช้รีบเข้ามาหาแต่เมอร์ลิน ยกมือห้ามไว้ก่อน“ฉันบอกไม่ถูกน่ะว่าอยากกินอะไร ขอดูเองดีกว่า” เมอร์ลินหันไปบอกเธอพร้อมรอยยิ้มแล้วหันกลับมาดูของในตู้เย็น ตู้เ
“ใครก็ได้ติดเตาถ่านให้ฉันที แล้วเตรียมไม้เสียบบาร์บีคิวมาให้ฉันสักสี่ถึงห้าอัน” หันไปบอกกับคนในครัวก่อนเดินมาเปิดตู้แล้วมองหาของที่เขาคิดไว้ เมอร์ลินมองสามีอย่างไม่เข้าใจ ทำไมต้องใช้ไม้บาร์บีคิวอะไรนั่นด้วย แต่พอเห็นสิ่งที่สามีหยิบออกมา เมอร์ลินก็ขมวดคิ้วหนัก“จะย่างมาร์ชเมโล่เหรอครับ? ผมไม่อยากนะ”
“นี่ คุณช่วยพูดอะไรหน่อยสิครับ ทุกคนเขารอคุณอยู่นะ” เมอร์ลินกระซิบบอกคนข้างกายที่ยืนนิ่ง พอเหยียบเข้ามาในเต็นท์ ทุกคนก็เหมือนจะรอให้เจ้านายพูดเปิดงาน โจไซอาห์ก้มมองภรรยาที่พยักหน้าหงึกหงักพร้อมกัดมาร์ชเมโล่ไปด้วย เขาถอนหายใจแล้วไล่สายตามองลูกน้องของเขาทั้งชายและหญิง“กินสิ”...เหมือนเวลาหยุดเดิน เม
ปัก!ผู้โชคร้ายที่โดนเข้าไปเต็มหน้าผากถึงกับหน้าหงายจนเซถอยหลังไปสองก้าวสามก้าว ทุกสายตามองมาที่โรมันเป็นตาเดียว ไทกิกับวิลสันถอนหายใจ ไม่ใช่ว่าพวกเขาอับอายที่เล่นปาหิมะ แต่เพราะโรมันมันเล่นปาสุดแรงเลยต่างหาก! ถ้าโดนเข้าหน้าก็หน้าหงายอย่างที่เห็น ถ้าโดนตามตัวก็มีเจ็บจนแปลกใจว่าเอาหินหรือหิมะปาทุกคน
เมอร์ลินเดินมาหยุดหน้าโต๊ะเครื่องแป้งแล้วหันข้างให้กระจก มือเรียวค่อย ๆ จับชายเสื้อเลิกขึ้นมา ภาพที่สะท้อนทำหัวใจเมอร์ลินเต้นแรง หน้าท้องของเขาเริ่มออกแล้วจริง ๆ ในช่วงท้ายของเดือนที่สาม เมอร์ลินก็เริ่มรู้สึกว่าหน้าท้องมันนูนขึ้นมาบ้างแต่วันนี้มันชัดเจนกว่า ถามว่ากังวลบ้างไหม? ต้องตอบเลยว่ากังวลมาก
เมื่อเริ่มทำการอัลตราซาวด์ เมอร์ลินกับโจไซอาห์ต่างจ้องจอภาพไม่กระพริบตา อิดอนมองจอไปพลางขยับหัวตรวจไปพลาง โจไซอาห์กับเมอร์ลินล้วนตื่นเต้นทั้งคู่แต่ไม่แสดงออกมา อิดอนเองก็เช่นกัน จากตอนแรกที่คิดว่าเป็นเคสพิเศษและมหัศจรรย์ที่ท้าทายอาชีพเขา ทว่า ตอนนี้มันต่างออกไป อิดอนและพยาบาลในทีมเขาต่างรู้สึกว่าเม
ฝ่ามือเรียวที่เหี่ยวย่นตามวัยวางกรอบรูปกรอบใหม่ลงบนโต๊ะที่อัดแน่นด้วยกรอบรูปมากมาย เศษกระดาษที่ถูกตัดถูกขยำรวบใส่ถังขยะ ก่อนจะยกถังขยะนั้นกลับไปไว้ที่ของมัน มารีแอนน์มองภาพเหล่านั้นด้วยรอยยิ้มก่อนจะหันหลังให้เมื่อมีเสียงเรียก ประตูบ้านถูกเปิดออกพร้อมแสงสว่างของช่วงสายสาดส่องเข้ามาด้านในกรอบรูปที่ติ
“พี่เมอร์ลิน เอ่อ ยินดีด้วยนะครับกับการแต่งงาน” อูรีเอลเอ่ยอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ“เออ ขอบใจ” และเมอร์ลินก็ขอบใจห้วน ๆ เพราะยังไม่ชอบหน้าอูรีเอลเหมือนเคย“ผมรู้ว่านายเกลียดผม แต่ช่วยรับของขวัญชิ้นนี้ได้หรือเปล่า?” อิการาชิพูดขึ้นมาก่อนวางกล่องบางอย่างที่มีขนาดเท่าฝ่ามือลง เมอร์ลินไม่ได้แสดงท่าทางรังเกีย
เมื่อได้เวลาอันสมควร เรเธเซียก็ถูกเมอร์ลินอุ้มพามาที่กลางสนาม จากซุ้มแต่งงานกลายเป็นโต๊ะที่มีเค้กช็อกโกแลตและลูกสตอเบอร์รี่วางเรียงเป็นชั้น ๆ บนเค้กมีเทียนเลขสามปักอยู่พร้อมตัวอักษร HBD.SIASIA เขียนอยู่ ผู้คนมากมายที่รายล้อมล้วนเป็นคนที่รักหนูน้อยเรเธเซียคนนี้ แต่เสียใจด้วยที่ในสายตาของเรเธเซียมีแต่
“แต่เรเธเซียคงยังไม่รู้สินะว่าตัวเองจะเป็นพี่สาวแล้ว” พอพูดแล้วก็หันมองเจ้าหญิงน้อยที่สนใจแต่เล่นกับคุณลุงมาเวอริค เมอร์ลินยิ้มบางก่อนสายตาจะสะดุดกับใบหน้าที่ดูซีดเล็กน้อยของอิการาชิ ตามจริงไม่จำเป็นต้องใส่ใจ แต่เขาก็ไม่อยากให้ใครมาตายในที่ของเขา เมอร์ลินจึงขอตัวแล้วเดินเข้ามาหาพี่ชาย“จะตายเหรอ? ถ้
‘ถ้าเซียเซียเห็นดาดี๊กับมามี๊จุ๊บ ๆ กัน เซียเซียต้องปิดตาแบบนี้นะคะ’ทั้งบอกและทำให้ดูเป็นตัวอย่าง การอบรมของคุณอาฝาแฝดก็เลยประสบความสำเร็จ ยกเว้นโอนิกซ์ที่ยืนจ้องตาแป๋ว ซึ่งแน่นอนว่ารามิเอลกับอิดอนได้แต่กำหมัดอยากซัดหน้าโจไซอาห์เหลือเกินช่วงเวลานี้นับเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขรองลงมาจากตอนเห็นหน้าลู
โจไซอาห์ทำให้พี่ชายอย่างมาเวอริครู้สึกอุ่นใจที่จะฝากน้องชาย แม้ความเป็นจริงเขาจะไม่มีสิทธิ์เข้ายุ่งเพราะทั้งคู่เคยแต่งงานกันแล้ว แต่พอได้รับหน้าที่พี่ชายจากเมอร์ลิน ความหวงน้องมันก็ทำงานเกินหน้าตาทันที“พ่อได้ยินและได้รับรู้ถึงความรักที่ลูกมีต่อภรรยา ขอให้พระเจ้าทรงมอบพรแด่ลูก” บาทหลวงกล่าวขึ้นพร้อม
เมอร์ลินอยากจะจับมาฟัดให้รู้แล้วรู้รอดเพราะความน่ารักของลูกสาวและอยากขอบคุณฝาแฝด เพราะฝาแฝดเลยนะ เรเธเซียถึงได้น่ารักน่าชังและสวยสมเป็นเจ้าหญิงน้อย ส่วนมงกุฎดอกไม้นี้สองสาวก็คงร่วมแรงด้วยแต่น่าจะให้เรเธเซียได้มีส่วนทำมากกว่า คนที่บอกให้เอามาให้ก็คงเป็นสองคนนั้นอีก ซึ่งความเป็นจริงก็ตรงตามที่เมอร์ลิน
“อะไรล่ะ ว่ามาเลย พี่ให้เราได้ทุกอย่าง” มาเวอริคยกมือจับไหล่น้องชายแล้วบีบเบา ๆ หวังให้เมอร์ลินได้ใจเย็นลง“มันไม่มีโอกาสพูดแล้วนอกจากวันนี้เท่านั้น ผมเลยจะขอทำตัวเป็นน้องชายขี้แยครั้งแรกและครั้งสุดท้ายนะครับ” สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนยกมือทาบทับลงบนหลังมือพี่ชายที่บีบไหล่ตน “ตั้งแต่เกิดจนออกจากตระกู
เมื่อครอบครัวทางฝ่ายเจ้าสาวมาครบ ต่อไปก็เป็นครอบครัวทางฝ่ายเจ้าบ่าว รถเบนซ์วิ่งยาวมาเป็นขบวน คันแรกที่จอดเป็นของผู้นำตระกูลและภรรยาฝาแฝดที่ขนาบข้าง ตามด้วยลูกชายคนโต คนรอง คนกลางและลูกสาวฝาแฝด เป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่าครอบครัวนี้ไม่จำเป็นต้องบรรยายความหรูหราและความดูดีใด ๆ หากไม่นับเรื่องความดีของพ