“ทำไมครับ ถ้าได้อยู่ข้างล่างแล้วมันจะตายเหรอ” เขายังท้าไม่หยุด ไม่รู้เพราะตัวเองก็ยอมไม่ได้ หรืออันที่จริงอยากให้ชายหนุ่มสติแตกแล้วลงมือทำสิ่งที่เขาต้องการกันแน่
“ใช่” สีหน้าของปรัชญ์ภูมิดูออกว่าตื่นเต้นและสนใจในร่างกายของเขา ความมึนเมาทำให้ดวงตาที่เคยใสกระจ่างขุ่นมัว เยิ้มนิด ๆ และมีความรู้สึกอื่นเข้ามาแทนที่ ความรู้สึกว่าณภัทรดูเย้ายวนแต่ก็ถือดีจนอยากจะปราบให้ราบคาบ
ชายหนุ่มสอดมือเข้าไปในเสื้อที่เปิดอ้า เคล้นคลึงไปตรงจุดอ่อนไหวทั้งสองข้าง ก้มลงมาจูบแล้วบังคับให้เขาใช้ลิ้นด้วยอย่างคนเอาแต่ใจ การรุกอย่างหนักหน่วงทำเอาอีกฝ่ายตั้งตัวไม่ติด ได้แต่ยอมตามที่ถูกกระทำลงไป ถึงขนาดที่โดนปลดเสื้อและกางเกงออกจากตัวก็ยังไม่เอ่ยปากห้ามแม้สักนิด
“สรุปว่าคุณอยู่ข้างล่างนะ” ปรัชญ์ภูมิพูดพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์อย่างคนเหนือกว่า
ณภัทรเสียหน้าจึงพยายามดันตัวออก แต่ดิ้นได้ไม่นานฝ่ามือหนาที่ลากผ่านลำตัวเปลือยเปล่า ขาแกร่งที่คร่อมอยู่เหนือร่างของเขา ร่างกายบดเบียดเสียดสีกัน โดยเฉพาะตรงจุดสำคัญ มันก็ทำให้เรี่ยวแรงอ่อนลงทุกที
เขารู้สึกเสีย
ณภัทรไม่ได้เจอปรัชญ์ภูมิมาสามสี่วันแล้ว นับตั้งแต่เรื่องนั้นเกิดขึ้น ทุกครั้งที่เขาโทรไป จะต้องได้รับข้ออ้างว่างานยุ่งทุกรอบ เมื่อเขาเอางานมาอ้างบ้าง บอกว่าอยากจะคุยสรุปและจ่ายเงินทั้งหมด ชายหนุ่มก็โยนเรื่องไปให้เลขาฯ จนเขาขี้เกียจจะตาม แต่ถึงอย่างไรคนอย่างเขาไม่เลิกราง่าย ๆ หรอก ไม่ใช่เขาแคร์คนแบบนั้นเสียเมื่อไหร่ แต่เขาแค่หมั่นไส้ ตอนทำละก็สนุกนัก แต่พอได้สติกลับปล่อยเบลอเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ใครจะไปยอมหลังจากนอนพักและผล็อยหลับไป จนกระทั่งตื่นขึ้นมากลางดึก ทั้งคู่ก็ทำกันอีกรอบ เพราะแบบนั้น เขาถึงมั่นใจว่าในครั้งหลัง ปรัชญ์ภูมิมีสติครบถ้วน ถึงจะไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็ไม่สามารถอ้างได้ว่าเมา คนเมามาก ๆ ไม่มีทางตื่นตัวได้หรอก มีแต่ฟุบหลับเท่านั้นแหละแบบนี้ไง เขาถึงได้โกรธตอนชายหนุ่มตื่นขึ้นมาตอนเช้าแล้วเอ่ยแค่คำว่าขอโทษ ก่อนจะผลุนผลันออกไปจากห้อง ขอโทษบ้าบออะไร ตอนทำก็มีความสุขกันทั้งคู่ คนอย่างปรัชญ์ภูมิจึงสมควรโดนเขาดัดนิสัยสักที แต่เขาคงหลงลืมไปข้อหนึ่ง ที่ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นค่อนข้างหนักหนาต่อจิตใจสำหรับผู้ชายแท้ ๆ อย่างปรัชญ
“ผมเปล่า” ปฏิเสธแต่สายตากลับเสไปมองที่อื่น“ผมดูเหมือนเด็กอนุบาลหรือไง” ณภัทรเดินไปดักหน้า“อะไรครับ”“ก็ผมดูเหมือนเด็กห้าหกขวบเหรอ คุณถึงได้ตีหน้าซื่อตอบว่าไม่ได้หลบหน้าผม ทั้งที่จริงคุณทำแบบนั้นมาหลายวันแล้ว ทำไม คุณคิดว่าผมจะพูดเรื่องคืนนั้นหรือไง แล้วถ้าผมพูด มันจะทำไมครับ” เขาร่ายยาวเป็นชุดปรัชญ์ภูมิกะพริบตาถี่ อับจนด้วยคำพูด ใช่ เขาจงใจหลบหน้า เรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างเขากับณภัทรนั้นอยู่เหนือการควบคุม และเขาไม่อยากยอมรับว่าตัวเองได้ทำแบบนั้นลงไปเขาใช้เวลาครุ่นคิดกับตัวเองมาหลายวัน เขาสับสนไปหมด เขาได้แต่ถามตัวเองซ้ำ ๆ ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร เขายอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้ เพราะว่าถ้ายอมรับ มันหมายความว่าเขาไม่ใช่ชายแท้ใช่มั้ย แต่เขามั่นใจว่าตัวเองเป็นผู้ชายแท้ร้อยเปอร์เซ็นต์ เขาไม่เคยมองหรือนึกพิศวาสผู้ชายด้วยกันมาก่อน แต่ทำไม…เขาเองก็หาคำตอบให้กับตัวเองไม่ได้ แต่มีสิ่งหนึ่ง แม้จะไม่อยากยอมรับ แต่เขากลับไม่รังเกียจสิ่งที่เกิดขึ้นเลย“ว่าไงครับ” ณภัทรไม่ยอมเลิก
ที่ห้องวีไอพีในคลับสุดหรูของณภัทร ขณะนี้บรรยากาศออกจะตึงเครียดสักหน่อย ชายหนุ่มกับหญิงสาวกำลังจ้องตากัน แล้วหญิงสาวก็โพล่งถามสิ่งที่ตนสงสัยขึ้น“คุณกับพี่ชายฉันมีอะไรกันหรือเปล่า” พริมามองณภัทรผ่านขอบแก้วเครื่องดื่มที่ถือไว้ในมือ ดวงตาของเธอจ้องเขม็งอย่างคาดคั้น หลังจากที่วันนั้นเข้ามาเจอฉากเด็ดของพี่ชายและผู้ชายที่ตัวเองเคยหวังว่าจะได้ครอบครองความจริงเขาเลือกที่จะไม่ตอบก็ได้ เพราะในชีวิตนี้มันไม่มีใครจะมาบังคับคนอย่างณภัทรได้ แต่เมื่อเรื่องมันเลยเถิดมาจนถึงขั้นนี้ เขาก็คิดว่าเป็นการดีกว่าที่จะบอกเธอตามตรง ไม่แน่ว่าเขาอาจยืมมือเธอทำอะไรได้บ้าง หรือแม้แต่ขอความช่วยเหลือในเรื่องที่เกี่ยวกับปรัชญ์ภูมิ“มันก็อย่างที่คุณคิดนั่นแหละ”“คือคุณคบกับพี่ภูมิ...ไม่ล่ะ เป็นไปไม่ได้” เธอส่ายหน้ารัว ไม่ใช่ว่ารับไม่ได้หรืออะไร แต่…มันน่าเหลือเชื่อเกินไป“ไม่เชิงคบ”“แค่เซ็กซ์เหรอ”“ก็ประมาณนั้นครับ” เขายักไหล่ ด้วยไม่อาจหาคำอธิบายที่ดีกว่านี้ได้
“คุณนี่ร้ายกาจจริง” เหมือนจะเป็นคำชมมากกว่าเพราะมุมปากชายหนุ่มยกขึ้นและระบายยิ้มออกมา“ว่าฉันก็เหมือนการที่คุณว่าตัวเองนั่นแหละ” เธอสวนทันควัน “ฉันยินดีจะช่วยคุณ ถ้าตราบใดที่การช่วยนั้นไม่ทำให้พี่ภูมิเสียใจ คุณก็แค่อย่าเล่นแรง และตกลงกับเขาให้ดีว่าวันนึงคุณจะหมดสนุก หรือไม่แน่พี่ภูมิเองอาจจะเป็นฝ่ายหมดก่อน แล้วทั้งคู่ก็เลิกแล้วต่อกัน ตกลงมั้ย”พริมาดูจะเข้าใจอะไรได้ง่ายอย่างเหลือเชื่อ แต่นั่นก็ดีแล้ว“ตกลงครับ”ทั้งคู่จับมือกันเป็นเชิงสัญญา นั่งคุยอยู่สักพักเขาก็ลุกเดินไปหาลูกค้าคนอื่น เผื่อว่าเมื่อคนเย็นชาเข้ามาที่ร้าน จะได้เห็นเขาพูดคุยสนิทสนมอยู่กับแขก แล้วถ้าเขาจะรู้สึกอะไรไหม เราก็จะได้รู้กัน“ในที่สุดคุณก็เลิกทำตัวติดหนึบกับแม่นั่นซักที” ลูกค้าสาวที่เขาเคยต้อนรับขับสู้บ่อย ๆ ทำกระเง้ากระงอด เขาเลยรีบนั่งลงข้างเธอบนโซฟาที่ไม่ได้ใหญ่นัก ทั้งคู่จึงใกล้ชิดกันจนร่างเล็กแทบจะเกยขึ้นมาบนตัก เขาไม่ชอบใจแต่ก็ปั้นยิ้มตีเนียนจนคนมองไม่ออกเพราะเธอคนนี้อาจทำให้อะไร ๆ มันง่ายขึ้น“พริ
“ก็สนิทกับพวกนั้นเกินหน้าที่ไง แล้วที่ทำเป็นเมินผมด้วย” ชายหนุ่มย่างสามขุมเข้ามาหาแล้วกดเขาไว้กับโซฟา “อยู่ในห้องแบบนี้ ดูซิว่ายังจะเมินกันได้อยู่มั้ย”ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวซุกเข้ามาตรงซอกคอของเขา ก่อนจะไล่ขบกัดเป็นแนว สลับกับดูดเม้มราวกับเป็นการลงโทษ ณภัทรพยายามพลิกตัวออก แต่อาจเพราะแรงโกรธที่ผลักดันให้อีกฝ่ายมีแรงเหลือเฟือมาทับเขาไว้ไม่ยอมปล่อย ซ้ำยังเปลี่ยนมาจูบแล้วกัดริมฝีปากล่างจนเขาได้รสเลือดในปาก“โอ๊ย” ณภัทรร้องด้วยความหงุดหงิด เขาจะแพ้ปรัชญ์ภูมิอีกรอบหรือไงวะ“ร้องให้ตายไปเลยสิ” ปรัชญ์ภูมิไม่เสียเวลาถอดเสื้อ รีบเอื้อมมือลงไปปลดเข็มขัดแล้วเตรียมจะดึงกางเกงของณภัทรลงทันที“ถ้าอยากนัก ผมเล่นด้วยก็ได้ แต่เลิกอยากเอาชนะซะที” เขากระชากเสื้อปรัชญ์ภูมิจนกระดุมแทบขาดติดมือด้วยความโมโหไม่แพ้กัน“ผมไม่ได้อยากเอาชนะ แต่เพราะคุณแพ้ผมเมื่อครั้งที่แล้ว คุณก็ต้องยอมตลอดไป” คราวนี้เขาถอดกางเกงตัวเองบ้างณภัทรกระถดตัวหนี รู้ว่าถ้าไม่รีบฉวยโอกาสตอนนี้ เขาได้อยู่ใต้ร่า
เหตุการณ์เมื่อคืนกลายเป็นว่าพริมาเห็นพี่ชายตัวเองลากณภัทรออกไป เธอมองดูอยู่ตั้งแต่ต้น แต่ก็ไม่ได้เข้ามาขัด ซ้ำยังรอจนสองคนเสร็จธุระเพื่อที่จะได้คุยซักถามเรื่องราวกับพี่ชายให้รู้เรื่อง เธอตื่นเต้นอยากรู้แทบบ้า แต่เขากลับใช้ไม้ตายเดิม ๆ คือตีหน้าขรึมไม่พูดอะไร ทำเหมือนทุกอย่างไม่เคยเกิดขึ้น แต่พริมาซึ่งรู้นิสัยของเขาดีอยู่แล้วชิงพูดขึ้นมาก่อน“ถ้าพี่ภูมิจะข้องแวะกับภัทรก็ทำได้เลย ไม่ต้องกลัวพริมจะคิดมากหรอกค่ะ”ปรัชญ์ภูมิหยุด มองหน้าน้องสาว แต่ยังไม่พูดอะไรออกมา คล้ายว่าไม่รู้จะพูดอะไร หรือพูดไม่ออกมากกว่า เพราะเขาเองก็แทบตั้งตัวไม่ได้เหมือนกัน เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นสำหรับเขามันยากยอมรับจริง ๆ และเขาก็ไม่อยากยอมรับด้วยเมื่อเห็นว่าพี่ชายหยุดและรอรับฟังคนเป็นน้องจึงพูดต่อ “พริมกับภัทรเป็นแค่เพื่อนกันค่ะ จริงอยู่ที่ตอนแรกพริมถูกใจเขา เพราะเขาน่าสนใจออกขนาดนั้นจริงมั้ยล่ะคะ”เธอขยิบตาให้พี่ชายเล็กน้อยและแอบเห็นว่าใบหูขาวจัดเข้มขึ้น“พริมเลยพยายามเข้าหาเขา แต่พอได้พูดคุยกันบ่อยเข้า และรู้จักกันมากขึ้น พริมไม่คิดว่าจะได้อะไร
ตอนแรกผู้เป็นบิดาดูท่าจะไม่ยอม แต่พอเห็นท่าทางจริงจังของลูกชาย เขาจึงถอนหายใจ เงยหน้ามองภรรยา “ที่รัก คุณช่วยไปเอาชาให้ผมทีนะ”“ค่ะ” หล่อนตอบพร้อมรอยยิ้ม แต่ดูก็รู้ว่าไม่ได้เต็มใจจะออกจากห้องเลยสักนิด“ผมเพิ่งบอกพ่อไปว่าม่านดาวน่าจะมีส่วนในการโกงบริษัท แต่พ่อกลับมอบอำนาจให้เธอเซ็นเอกสารสำคัญ” เขาตรงเข้าเรื่อง เมื่อเธอออกไปแล้ว“แกแค่สงสัย และฉันก็ให้คนไปตรวจสอบเรื่องนี้มาแล้ว ถึงจะยังไม่ได้เบาะแสอะไรมากกว่าที่แกเอามาให้ แต่ก็ไม่มีชื่อของม่านดาวโผล่ออกมาเลย”“พ่อก็ยอมรับออกมาเองนี่ครับว่ายังไม่ได้เบาะแสมากพอ เพราะงั้นพ่อจะสรุปว่าเธอบริสุทธิ์ไม่ได้”“แกต้องการอะไรจากฉันฮะ ฉันพยายามจะทำให้ครอบครัวของเราเดินหน้าต่อไปได้ แต่แกกับยัยพริมก็คอยแต่จะเอาตัวเองมาขัดขวางทุกอย่าง ตอนนี้แกอยากจะยัดเยียดข้อหาใส่เมียของฉัน แกเป็นอะไรนักหนา” เสียงที่พูดออกมากเกรี้ยวกราดและดังก้องไปทั้งห้องจนเขาแปลกใจที่พ่ออารมณ์เสียง่ายกว่าเมื่อก่อน ราวกับว่าการแตะต้องม่านดาวทำให้พ่อระเบิดง่ายกว่าปกติ“ทั้งสองคนนั้นไม่ใช่ครอบครัวของผม และจะไม่มีวันเป็น” เขาย้อนกลับทันที
“มาแล้ว! สวัสดีจ้ะภูมิ” คนเป็นแม่สาวเท้าถี่ ๆ เข้ามาหา เสียงทักทักทายของนางร่าเริง รอยยิ้มหวานสดใสนั้นเหมือนณภัทรอย่างไม่ผิดเพี้ยนจนเขาถึงกับอึ้งไป“แม่ครับ ภูมิจะตกใจเอานะ” ลูกชายยั้งแม่ตัวเองเอาไว้“สวัสดีครับ” ปรัชญ์ภูมิทักทายเจ้าของบ้านทั้งที่ยังตั้งตัวไม่ได้“หน้าตาดีจริง ๆ คิดว่าดีกว่าลูกชายแม่อีกนะเนี่ย ตาภัทรช่างมีรสนิยม” นางหัวเราะคิกคักเหมือนสาววัยแรกรุ่น“แม่ ผมบอกแล้วไงว่าภูมิไม่ใช่แฟน” เขารีบแก้ความเข้าใจผิดของแม่ก่อนที่จะเลยเถิดไปกันใหญ่ แต่ก็ยังไม่วายลอบมองชายหนุ่มมาดขรึมก่อนหน้าเขาบอกกับแม่ว่าเพื่อนจะแวะมา เพราะเขาชวนให้มาลองชิมขนมที่แม่กำลังทำอยู่ เพียงแค่นั้นผู้เป็นแม่ที่รู้ใจลูกชายดีที่สุดก็พอจะปะติดปะต่อเรื่องราวได้ทันที นางไม่เกี่ยงว่ารสนิยมของลูกชายจะเป็นแบบไหน ขอเพียงลูกชอบและมีความสุขก็เพียงพอแล้ว นับได้ว่านางเป็นแม่ที่รักและเข้าใจลูกมากจริง ๆคำปฏิเสธที่ไม่ค่อยจะเต็มปากของลูกชายทำให้นางมองค้อนอย่างหมั่นไส้ “เหรอ แต่ก็จะเป็นในตอนหลังใช่มั้ย” นางยังไม่ลดความพยายาม ก่อนจะหันมามองหน้าปรัชญ์ภูมิ “ใช่มั้ยภูมิ”คนถู
ว่าจบก็ดึงณภัทรเข้าไปประกบปาก จูบหนัก ๆ ทิ้งความวูบวาบไว้ทั่วใบหน้าและลำคอ บางครั้งเมื่อเขาทำท่าจะผละออก ชายหนุ่มก็จะจูบแรงขึ้น เหมือนจะย้ำเตือนว่าไม่มีทางหนีพ้น ส่วนมือก็ปัดป่ายไปทั่ว เดี๋ยวก็สอดเข้ามาในเสื้อ เดี๋ยวก็เลื่อนลงไปด้านล่าง แต่วนอยู่แบบนั้น ไม่ยอมล้วงเข้าไปสักที เสร็จแล้วก็วนกลับมาด้านบนเหมือนจะแกล้งณภัทรเริ่มหงุดหงิด “ไหนบอกว่าจะทำไง”“แล้วไหนบอกว่าไม่เอาไง มาเร่งอะไร”“ภูมิ”“ยอมแล้วใช่มั้ย กลางทะเลเลยนะ”“ยอม”รอยยิ้มแบบผู้ชนะผุดขึ้นบนริมฝีปาก “แต่ผมยังไม่พร้อม”ณภัทรรู้ตัวว่าโดนแกล้ง แต่ทำยังไงได้ ในเมื่อแค่จูบกับสัมผัสเล็ก ๆ น้อย ๆ จากคนคนนี้มันกลับปลุกเขาได้ภายในไม่กี่วินาที เขาจึงเอื้อมมือไปดึงกางเกงปรัชญ์ภูมิลง ดันร่างหนาขึ้นเล็กน้อย แล้วตัวเองก็ขยับให้อยู่ในท่าที่จะใช้ปากได้พอดี“คุณจะ...” พูดไม่ทันจบประโยค เสียงก็หายไปในลำคอเพราะโดนเขาจู่โจมณภัทรจัดการแลบลิ้นเลียตรงส่วนหัวที่ตื่นตัวรออยู่แล้ว มือก็ขยับขึ้นลงอย่างเชื่องช้า ยิ้มเมื่อคนรักครางออกมาเสียงต่ำ ก่อนจะอ้าปากรับแก่นกายที่พองขยายจนเต็มขนาดเ
ท้องฟ้าตัดกับผืนน้ำเบื้องหน้าสะท้อนแสงเป็นประกาย ลมเย็นพัดโดนใบหน้า พาเอากลิ่นเกลือทะเลมาปะทะจมูก และอากาศที่ไม่ร้อนจนเกินไปทำให้วันหยุดของปรัชญ์ภูมิและณภัทรกลายเป็นหนึ่งในวันที่สวยงามเลยทีเดียวณภัทรถอนหายใจอย่างเป็นสุขขณะยืนอยู่ตรงหัวเรือ เฝ้ามองคลื่นที่กระเพื่อมเข้ามาหา นานมากแล้วที่ไม่ได้รู้สึกเป็นอิสระแบบนี้อยู่ดี ๆ ปรัชญ์ภูมิก็ชวนมาล่องเรือเล่นกลางทะเล แล้วบอกว่าถ้าเขาอยากจะตกปลาด้วยก็ยังได้ ไม่ว่าจะอยากทำอะไร เขาก็พร้อมจะบริการและตามใจทุกอย่าง ตัวเขาเองเห็นว่าหลังจากเหตุการณ์เฉียดตายครั้งนั้น ทั้งคู่ก็กลับมาทำงานทันที ยังไม่ได้พักผ่อนอะไรกันเลย จึงชอบใจในไอเดียของคนรักมาก เขาเลยรีบตอบตกลงและขอให้มาเที่ยวด้วยกันโดยเร็วที่สุด แต่ปรัชญ์ภูมิบอกว่าต้องยืมเรือของเพื่อนก่อน แต่เรื่องนั้นไม่ใช่ปัญหา เพราะเขามีเรือของตัวเองอยู่แล้ว ทั้งคู่ก็เลยได้มาอยู่กลางทะเลกันในเวลานี้เขาเดินกลับเข้ามาหาคนขับเรือคนเก่งที่แต่งตัวสบาย ๆ ได้สักที โดยที่เขาไม่ต้องขอหรือบอกให้ทำ ก่อนจะเดินไปยืนซ้อนอยู่ด้านหลัง แล้วเอาคางเกยไหล่“ขอบคุณมากครับ”
“สวัสดีค่ะ” เธอกล่าวทัก“ผมไม่ใช่โฮสต์ครับ” เขาตอบปฏิเสธ เหตุการณ์นี้เคยเกิดกับเขาอยู่หลายครั้งเหมือนกัน ซึ่งมันก็ทำให้รู้สึกขำมากกว่าจะรำคาญ“ถึงว่าสิ ท่าทางของคุณไม่เหมือนคนที่จะมาเอาใจคนอื่นเลย”“คุณเพิ่งมาที่คลับนี้เหรอ” ไหน ๆ ก็ไม่มีอะไรจะทำอยู่แล้ว กว่าณภัทรจะมาก็คงอีกนาน เขาเลยชวนเธอคุยแก้เบื่อ“รู้เลยเหรอคะ”“ผมมาที่นี่บ่อย เห็นผู้คนมากมาย ก็เลยพอจะดูออก”“มีแต่คนแนะนำให้ฉันมาที่นี่ บอกว่าเพลงเพราะ โฮสต์หน้าตาดี เอาใจเก่ง การบริการก็ดี แต่พอฉันมา เด็กโฮสต์กลับไม่ว่างเลยสักคน ฉันก็ไม่พ้นต้องเหงาเหมือนเดิม”“งั้นนั่งอยู่นี่ รอเด็กโฮสต์ไปพลาง ๆ นะครับ” เขากวักมือเรียกพนักงาน “คุณดื่มอะไรดี”“เอาเหล้าแรง ๆ มาเลยค่ะ ไม่ผสม”เขาเลยสั่งวอดก้าให้เธอ แต่ก็กระซิบบอกให้เอาเบียร์มาเผื่อด้วย เธอจะได้ไม่เมาเกินไป“ทำไมคุณถึงยอมคุยกับฉันล่ะคะ ในเมื่อไม่ได้เป็นโฮสต์”“ผมมีน้องสาวอยู่คนนึง ท่าทางเหมือนคุณเลย เธอก็ขี้เหงาเหมือนกัน และชอบมาที่นี่มาก ผมเคยมาตามเธอหลายครั้งเพราะเป็นห่วงตามประสาพี่ชาย”หญิงส
ณภัทรออกจากโรงพยาบาลหลังจากใช้เวลาเป็นเดือนไปกับการรักษาตัว เจ้าตัวยืนยันว่าแผลหายสนิทดีแล้ว แต่ปรัชญ์ภูมิก็ยังไม่วางใจ ปฏิบัติต่อคนที่เจ็บแทนเขาด้วยความระมัดระวังและนุ่มนวลอยู่เสมอ ทั้งยังคอยตามทุกฝีก้าว ไม่ว่าจะกิน นอน นั่ง เดิน เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุอย่างการลื่นล้ม หรือป้องกันการลืมกินยา มันเลยกลายเป็นว่า คนบ้างานตอนนี้กลับยินดีจะไม่ไปทำงาน หรือยอมกลับบ้านเร็วเพื่อจะมาดูแล ‘แฟน’ ของตัวเอง โชคดีที่พ่อเข้ามาบริหารบริษัทอีกครั้งหลังจากร่างกายแข็งแรงดีแล้ว และยัยพริมก็เอาการเอางานมากขึ้น จึงช่วยแบ่งเบาภาระเขาลงไปมาก“คุณค้าบ ผมโอเคแล้วจริง ๆ ไม่ต้องมาเฝ้าหน้าห้องน้ำแล้วนะ”“ใครจะไปรู้ล่ะ เผื่อคุณลื่นล้มหัวฟาด ผมจะได้ช่วยทันไง” ตอบก่อนจะยื่นมือให้ “มา”ณภัทรวางมือบนมือเขา ก่อนจะใช้มืออีกข้างจับปมผ้าเช็ดตัวเอาไว้เมื่อมันทำท่าจะหลุด“ปล่อยมันหลุดไปเหอะ ผมเห็นอยู่เป็นประจำ”“เกินไปแล้วนะครับภูมิ”เขาตอบคำพูดนั้นด้วยรอยยิ้มไม่สะทกสะท้าน “ผมชอบตัวเองเวอร์ชันนี้นะ ทำให้คุณนิ่งไปเลย”“ความจริงแล้วคุณมันก
ณภัทรพยายามดันร่างหนาออก แต่กลายเป็นว่าชายหนุ่มโอบเขาเอาไว้ไม่ให้ผละหนีแล้วเริ่มจูบด้วยความหนักหน่วง ถ่ายทอดความร้อนรุ่มผ่านลิ้นที่แทรกเข้ามาเกี่ยวกระหวัดลิ้นเขาเอาไว้แล้วดูดดึงไปตามอารมณ์ณภัทรแปลกใจกับความกระหายอยากของอีกฝ่าย แต่ก็คล้อยตามไปโดยไม่ขัดขืน เมื่อถูกดันลงให้นอนราบกับเตียงแล้วปรัชญ์ภูมิก็คร่อมร่างเขาเอาไว้ พอมองจากมุมนี้ ก็ต้องยอมรับว่าตัวเองแพ้ให้กับคนคนนี้อีกครั้ง“ถ้าเจ็บบอกนะ แต่...เมื่อวานคุณบอกเองว่าแผลใกล้จะหายแล้ว ก็คงทำได้แหละเนอะ”“จะมาพูดทำไมอีกล่ะ ถ้าขึ้นมาอยู่บนตัวผมขนาดนี้แล้ว”“พูดให้ดูดีไปงั้นแหละ เพราะถึงเวลาทำจริง คุณก็ต้องมาร้องขอให้ผมทำแรง ๆ อยู่ดี”เขาอยากจะเตะคนหลงตัวเองตกจากเตียงไม่ก็ฟาดสักที แต่เมื่อชายหนุ่มก้มลงมาจูบต่อ เขากลับเผลอเอามือคล้องเกี่ยวคอแกร่งเอาไว้ เคลิบเคลิ้มไปกับความนุ่มหยุ่นของริมฝีปาก ลิ้นอันซุกซนและช่างหยอกล้อ ทำให้เขาปล่อยตัวปล่อยใจไปตามการชักนำของปรัชญ์ภูมิอย่างง่ายดายจากนั้นเสื้อก็ถูกดึงขึ้นเพื่อจะได้จูบไปตามร่างกายของเขาทุกส่วน คนทำค่อย ๆ เคลื่อนตัวต่ำลงไป เมื่อถูกจูบเน้น ๆ ตรงหน้า
โรงพยาบาลซึ่งปรัชญ์ภูมิบ่นนักบ่นหนาว่าไม่อยากมาได้กลายเป็นสถานที่ซึ่งทั้งสองใช้เวลาส่วนใหญ่ด้วยกัน แม้จะบ่นที่ตัวเองได้กลับไปพักฟื้นที่บ้านตั้งหลายวันแล้ว แต่ยังต้องคอยมาเยี่ยมและอยู่เฝ้าเขาในทุก ๆ วัน แต่มันก็ไม่มีวันไหนเลย ที่ณภัทรจะไม่เห็นชายหนุ่มร่างสูง เส้นผมสีเข้มจัดทรงอย่างดี และแต่งตัวเหมือนนักธุรกิจกลับจากตีกอล์ฟหรือไม่ก็คลับเฮาส์ เดินเข้ามาในห้องด้วยถุงของกิน ไม่ก็เสื้อผ้าหรือแฟ้มงานของตัวเอง“สวัสดีครับคุณนักธุรกิจ” ณภัทรกล่าวทักพลางตบที่นั่งข้างตัว ด้วยความที่เตียงใหญ่มาก เขาเลยชอบชวนให้ปรัชญ์ภูมิขึ้นมานั่งบนนี้ จะได้อ่านหนังสือ เล่นเกมหรือดูหนังด้วยกันได้“คุณนักธุรกิจเบี้ยวงานเกือบทุกวันเลย แถมวันนี้ยังไม่ได้หอบงานกลับมาด้วยนะ เพราะมีคนบ่น”“ก็ต้องบ่นสิผมนอนเป็นผักอยู่นี่ คุณจะมานั่งทำงานอยู่ได้ไง ต้องคอยดูแลผมสิ” คนป่วยว่าอย่างเอาแต่ใจ“คร้าบบ ผมถึงได้มานี่ไง”ปรัชญ์ภูมิเลิกงานเร็วกว่าปกติเพื่อจะได้มาทันก่อนที่พยาบาลจะเข้ามาเสิร์ฟอาหาร ให้ยาและทำแผล นอกจากนั้นเขาจะเป็นคนดูแลณภัทรเองทั้งหมด แม้แต่ช่วยพาไปเข้า
ปรัชญ์ภูมิถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมาอีกทีเพื่อรับประทานอาหารเย็น เมื่อทานเสร็จเรียบร้อย พริมาอาสามาส่งเขาที่ห้องของณภัทร พอเปิดประตูเข้าไป เขาก็เห็นชายหนุ่มนอนดูทีวี ท่าทางเบื่อหน่าย จึงเผลอยิ้มออกมา“ภัทร” เขาส่งเสียงเรียก ทำมือให้พริมหยุดรถไว้ข้างเตียง“ภูมิมาได้จังหวะเลย ผมกำลังเบื่ออยู่พอดี” คนป่วยทำท่าจะลุกขึ้นนั่ง “โอ๊ย!” แต่เจ็บแผลจนต้องนอนลงไปเหมือนเดิม“ระวังหน่อยสิ” คนเจ็บน้อยกว่าดุ“นี่ ภัทรอย่าทำตัวให้พี่ภูมิห่วงไปมากกว่านี้เลย ตั้งแต่ออกมาจากห้องฉุกเฉินจนถึงตอนนี้ พี่ภูมิเอาแต่ถามถึงคุณนะ” พริมาได้ทีรีบพูด ก่อนจะโดนพี่ชายดุแล้วไล่ออกจากห้อง“ไปเลยพริม พูดอะไรเรื่อยเปื่อย กลับบ้านไปเลยก็ได้”“พริมพูดเรื่องจริงนี่”“จริงเหรอครับ” ณภัทรถามยิ้ม ๆ แต่เขาเลือกที่จะไม่ตอบและเบือนหน้าหนี“พริมไปก่อนดีกว่า เผื่อพี่ภูมิจะเขินน้อยลง” หญิงสาวทิ้งท้ายก่อนจะรีบเดินออกไป ไม่อย่างนั้นได้โดนพี่ชายเขกหัวโนจริง ๆ“ทำไมคุณมาช้า” ณภัทรถามหลังจากอยู่กันสองคนแล้ว“พริมบอกว่าหมอให้คุณพักผ่อน และไม่มีใครยอมพาผมมา” เขาตอบตามจ
“พ่อคะทำไมถึงห้ามพริม” เธอถามถึงตอนที่พ่อหยุดเธอไว้ก่อนที่เธอจะเล่าความจริงอีกเรื่องให้พี่ชายฟัง“ตอนนี้เรื่องนั้นยังไม่สำคัญ ให้พี่เราได้พักผ่อนแล้วฟื้นตัวได้เต็มที่ก่อน”“แต่ว่าพ่อ…”“พ่อไม่เป็นไร ยังมีเรื่องที่ต้องจัดการอีกเยอะ”พริมามองสภาพร่างกายที่ทรุดโทรมลงไปมากของบิดา ตอนแรกเธอนึกว่าเป็นเพราะสังขารที่ร่วงโรยไปตามไว แต่มันไม่ใช่ พ่อถูกนังปีศาจวางยาพิษสะสมจนร่างกายอ่อนแรง นอกตากนี้ยังวางยากล่อมประสาทอ่อน ๆ ด้วยเหตุนี้กระมังที่ทำให้พ่อเกรี้ยวกราดใส่พวกเธอที่เป็นลูกแท้ ๆ และเห็นดีเห็นงามกับนังนั่นเสมอ มันทำอย่างแนบเนียนกะรอวันที่กำจัดเธอและพี่ออกไปได้ และพ่อตายลง พวกมันจะได้เสวยสุขบนทรัพย์สมบัติทั้งหมด นึกแล้วยิ่งแค้นไม่รู้ว่าเป็นโชคดีหรือโชคร้ายที่เมื่อสองวันก่อนอาการของพ่อกำเริบจนต้องนำตัวส่งโรงพยาบาล นังนั่นยังมีหน้าทำเป็นเสแสร้งเข้าไปดูแลเอาอกเอาใจพ่อ และใส่ไฟเธอกับพี่ชายเป็นการใหญ่ แค่ความจริงแล้วคงลุ้นอยากให้พ่อตายจนตัวสั่น มันเห็นว่าเป็นโอกาสเหมาะเลยเริ่มแผนการขั้นสอง คือการกำจัดพี่ชาย หลังจากนั้นคงไม่พ้นตัวเธอ แต่แผนที่วางไว้เสียดิบดีก
ขึ้นชื่อว่าโรงพยาบาลย่อมเป็นสถานที่ไม่น่าพิสมัยเท่าไรนัก ปรัชญ์ภูมินั่งอยู่บนเตียง ความรู้สึกยังไม่เข้าที่เข้าทางนัก หลังออกมาจากห้องที่ถูกพยาบาลเข็นเข้าไปและทำอะไรมากมายบนตัวเขา ในขณะที่ความคิดก็จดจ่ออยู่กับเรื่องเดียวว่าณภัทรเป็นอย่างไรบ้าง ถึงแม้เขาจะถูกตีหลายแผล หมอบอกว่ามีอาการช้ำใน แต่โชคดีไม่มีกระดูกตรงไหนหัก และก็ไม่ได้เลือดไหลจนหมดตัวเหมือนกับที่ณภัทรเป็นเขานั่งมองจอโทรทัศน์ที่พริมาเปิดไว้ให้ สรุปแล้วเธอถูกจับไปจริง แต่ขังไว้ในตู้คอนเทนเนอร์ คนร้ายพยายามให้เธอคิดว่ามันคือโกดังร้างแล้วพูดออกมาให้เขาเข้าใจผิด เมื่อเขาออกมาตามน้อง มันจะได้ล่อจับแล้วจัดฉากให้เขาขับรถด้วยความเร็วจนประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตโชคยังดีที่เขาไม่ได้ถูดยัดเข้าไปในรถทั้งที่ยังโดนมัดมือเพราะณภัทรให้เพื่อนตำรวจหาพริมาเจอก่อน แล้วตัวเองก็รีบออกมาตามหาเขาเพื่อส่งข่าว ความจริงแล้วถ้าเขาไม่รีบร้อนลงจากรถ ก็คงจะได้รับข้อความของณภัทรแล้วขับรถกลับบ้านด้วยความปลอดภัย แทนที่จะตกเป็นเหยื่อง่าย ๆ และที่สำคัญณภัทรคงไม่ต้องโดนแทงเลือดท่วมขนาดนี้จากความพยายามที่จะช่วยเขา“