Blood moon pubเมื่อเดินทางมาถึงผับที่นัดหมายหัวคิ้วของกอหญ้าก็ขมวดเข้าหากันจนแทบผูกโบว์เมื่อผับที่นัดคุยงานมีการ์ดตัวโตเฝ้าอยู่หน้าทางเข้าดูน่ากลัวพอสมควรที่นี่ดูเหมือนถิ่นของมาเฟียมากกว่าที่จะเป็นผับชื่อดังสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาหาความสุขและสนุกจากที่นี่เสียอีก กอหญ้าแอบหันหน้าไปทางด้านหลังเล็กน้อยก่อนที่เธอจะขยิบตาให้จินกับจิโร่ลูกน้องคู่ใจที่คอยตามดูแลเธอมาตลอดคนที่เธอยอมทุ่มเงินมหาศาลเพื่อซื้อตัวพวกเขามาจากมารดาเพียงเพราะไม่ต้องการให้ทั้งคู่รายงานเรื่องของภีมวัจน์ให้มารดารับรู้ซึ่งทั้งคู่ก็ปฏิบัติตามได้เป็นอย่างดีที่เป็นเช่นนี้ไม่ใช่เพราะค่าจ้างมหาศาลที่ได้รับแต่เพราะทั้งคู่คอยตามดูแลกอหญ้ามาตั้งแต่ห้าขวบความรักและความผูกพันที่ทั้งคู่มีให้คุณหนูกอหญ้าจึงมากกว่าความภักดีที่มีให้มารดาของเด็กสาวอย่างแก้มใสอยู่เล็กน้อยความลำเอียงจึงเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัวทำให้ทั้งคู่ยอมทำผิดกฎเพื่อช่วยให้คุณหนูสมหวังในความรักที่แม้อาจจะดูขัดตาขัดใจทั้งคู่ไปบ้างแต่เพื่อความสุขของคุณหนูกอหญ้าแล้วทั้งคู่ยอมทุ่มเทเต็มที่“ทำไมมันดูน่ากลัวลึกลับจังเลยค่ะ พอเมาแล้วจะโดนคนลากไปทำมิดีมิร้ายไหมคะ”กอหญ
เมื่อเข้ามาในห้องภีมวัจน์ก็ปล่อยให้กอหญ้าเป็นอิสระแต่กอหญ้ากลับเข้ามาเกาะแกะเขาไม่หยุดมือเรียวบางพยายามที่จะแกะกระดุมเสื้อเชิ้ตของเขาออกใบหน้าสวยเนียนในยามนี้แดงระเรื่อเต็มไปด้วยอารมณ์กระหายในความใคร่ที่ไม่สามารถควบคุมได้ทั้งๆที่พยายามอย่างสุดความสามารถแล้ว“กอหญ้าไม่เอาแบบนี้ ปล่อยผมก่อนคนดี”ถึงแม้กลิ่นกายที่หอมกรุ่นผสมกลิ่นเหล้าจางๆจะกระตุ้นอารมณ์ดิบของเขาให้พลุ่งพล่านมากแค่ไหนแต่ภีมวัจน์ก็ไม่อาจทำตัวเป็นคนเลวช้าต่ำทรามที่ล่วงเกินสาวงามตอนที่ไม่มีสติไม่ได้หรอก เขาไม่เคยใช้กำลังบังคับใครและก็ไม่เคยนอนกับใครโดยที่ไม่เต็มใจเพราะฉะนั้นในเวลานี้เขาจึงต้องตั้งสติและพยายามประคองความเป็นสุภาพบุรุษของตัวเองเอาไว้สุดกำลัง“อื้อ คุณภีมขา ให้กอหญ้าเถอะนะคะคนดีขอหญ้าขอ”เสียงหวานกระเส่าร้องขอภีมวัจน์อย่างลืมอายเมื่อความต้องการสั่งให้มือของเธอออกแรงดึงกระชากเสื้อของภีมวัจน์ที่ตอนนี้ขาดตามแรงดึงของเธอก่อนที่กอหญ้าจะถูกภีมวัจน์พาตัวเข้ามาในห้องน้ำและยืนอยู่ใต้ฝักบัวเขากดปุ่มปรับอุณหภูมิของน้ำให้อยู่ในระดับที่ไม่เย็นมากจนเกินไปก่อนที่สายน้ำเย็นฉ่ำจะราดรดลงบนตัวของกอหญ้าที่หยุดชะงักมือที่กำลังดึงกระ
เช้าวันต่อมาลมหายหายใจที่เข้าออกอย่างสม่ำเสมอทำให้กอหญ้าที่แอบมองเสี้ยวหน้าหล่อเหลาของภีมวัจน์เผยรอยยิ้มหวานละมุนออกมาอย่างยากที่ใครจะได้พบเห็นกันง่ายๆเพราะไม่เคยแยแสสิ่งใดและไม่เคยสนใจใครรอยยิ้มที่งดงามในยามนี้ของกอหญ้าจึงมีเพียงแค่ครอบครัวและเพื่อนสนิทเท่านั้นที่มักจะได้เห็นจนชินตาและตอนนี้กอหญ้าก็เพิ่มภีมวัจน์เข้ามาเป็นคนสำคัญอีกคนที่จะได้เห็นรอยยิ้มหวานละมุนเช่นนี้ของเธอในทุกๆวันไปจนตลอดชีวิตของเขา“ขี้เซาจริงๆเลยนะพ่อคุณทูนหัว”กอหญ้ายื่นนิ้วไปจิ้มที่แก้มของภีมวัจน์เบาๆด้วยความเอ็นดูในยามที่ผู้ชายคนนี้หลับเขาก็แค่ชายหนุ่มคนหนึ่งที่ดูไร้พิษสงแต่อย่าให้เขาตื่นขึ้นมาเชียวน้าฝีปากพ่อคมกริบพ่นมลพิษออกมาฆ่าคนตายได้ไม่แพ้เธอเลยทีเดียว หึ ผู้ชายแบบนี้แหละที่คู่ควรกับตำแหน่งสามีของเธอถึงเขาจะไม่ใช่ผู้ชายที่เก่งเรื่องการต่อสู้หรือสืบข่าวเรื่องราวของใครเธอก็ไม่ติดเพราะสิ่งที่พูดมานั้นเธอล้วนเก่งกาจไม่แพ้ผู้ชายอกสามศอกเธอไม่ใช่ผู้หญิงที่คอยพึ่งพาผู้ชายอยู่ฝ่ายเดียวและเธอก็หวังว่าตัวเองจะเป็นที่พึ่งพาให้ผู้ชายที่เป็นคนรักของเธอได้เช่นกันเธอรู้ดีว่าภายใต้ใบหน้าที่เย็นชาไร้รอยยิ้มนั้นซ่อนความ
เสียงกริ๊งที่ดังขึ้นหน้าห้องทำให้มือที่กำลังติดกระดุมเสื้อของภีมวัจน์ถึงกับชะงักไปด้วยความแปลกใจส่วนคนที่อยู่ในชุดเสื้อคลุมอาบน้ำที่กำลังเช็ดผมให้เขากลับเผยรอยยิ้มออกมาด้วยความดีใจเพราะเธอรู้ดีว่าคนที่กำลังยืนกดกริ๊งอยู่หน้าห้องคือจินกับจิโร่บอดี้การ์ดคู่ใจที่น้ำเสื้อผ้าและอาหารสดที่จะใช้ทำอาหารมื้อเที่ยงมาส่งตามคำสั่งของเธอ“เดี๋ยวกอหญ้ามานะคะ อ๊ะ”ภีมวัจน์คว้าเอวบางของคนที่กำลังลุกเดินจากไปได้เพียงแค่สองก้าวให้กลับมานั่งบนตักของเขาทันทีอย่างไม่สบอารมณ์เล็กน้อยเมื่อเธอจะเดินออกไปหน้าห้องทั้ง ๆ ที่สวมเพียงเสื้อคลุมอีกอย่างเขายังไม่รู้เลยว่าใครกันที่เป็นแขกมาเยือนห้องเขาในยามนี้“จะลุกไปไหนครับ หืม?”น้ำเสียงที่เอ่ยถามเธอถึงแม้จะทอดเสียงอย่างอ่อนละมุนแต่กลับแฝงไปด้วยอารมณ์หึงหวงทำเอาคนที่ถูกรั้งตัวให้มานั่งลงบนตักได้แต่ยกมือขึ้นบีบจมูกของภีมวัจน์เบาๆด้วยความเอ็นดูคนที่เพิ่งเลื่อนสถานะสามีของเธอให้ตัวเอง“กอหญ้าแค่จะออกไปเอาเสื้อผ้ากับพวกอาหารสดที่ให้ลูกน้องซื้อเอามาส่งแค่นั้นเองค่ะ”คำว่า ลูกน้อง สะดุดหูภีมวัจน์ไม่น้อยเขาคิดไม่ถึงว่าเด็กสาวที่อยู่ในอ้อมกอดของเขาจะมีลูกน้องกับเขาด้วยหรื
ข่าวลือเรื่องท่านประธานกับเลขาคนใหม่ที่หยุดงานหายไปด้วยกันแพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็วกลายเป็นเรื่องเล่าปากต่อปากของผู้บริหารระดับสูงที่เผลอหลุดพูดออกมาคล้ายไม่ได้ตั้งใจแต่กลับเป็นการเพิ่มข้อสงสัยให้ผู้ร่วมวงสนทนาหยิบยกนำมาพูดคุยนินทาลับหลังกันอย่างสนุกปากโดยที่เจ้าตัวทั้งสองคนไม่เคยรู้เลยว่าตอนนี้ภีมวัจน์ได้กลายเป็นสมภารที่จับไก่วัดอย่างกอหญ้าเคี้ยวกินจนกระดูกแทบละเอียดแล้วพนักงานคนที่ 1 : นี่แกเมื่อวานฉันได้ข่าวมาว่าท่านประธานกับเลขาคนใหม่ไม่มาทำงานแหละคิดว่าวันนี้ก็อาจจะไม่มาเพราะคงกำลังนอนกอดกันยังไม่ตื่น คิก คิก คิกเสียงหัวเราะพูดคุยกระซิบกระซาบของพนักงานที่ยืนอยู่ด้านหน้าทำให้ภีมวัจน์ที่เดินมาหยุดยืนอยู่ด้านหลังของทั้งสองคนถึงกับมุมปากกระตุกดวงตาคู่งามที่ปกติมักจะเย็นชาไร้อารมณ์อยู่เสมอค่อยๆปรากฏร่องรอยของความไม่พอใจขึ้นมาทีละนิดส่วนคนที่ยืนอยู่เคียงข้างกลับยกยิ้มมุมปากอย่างอารมณ์ดีที่เรื่องของตัวเองกับสามีหมาดๆถูกยกขึ้นมาพูดนินทาลับหลังโดยไม่เลือกเวลาและสถานที่เช่นนี้พนักงานคนที่ 2 : แกก็พูดเกินไปท่านประธานของพวกเราไม่ใช่ผู้ชายที่ไม่มีความรับผิดชอบสักหน่อยท่านคงไม่หลงผู้หญิงจนทิ้
“ร้ายกาจไม่เบา”เมื่อเข้ามาในลิฟต์ภีมวัจน์ก็เอ่ยกระเซ้ากอหญ้าที่ยิ้มหวานให้เขาราวกับว่าคำพูดก่อนหน้านี้ของเธอเป็นเรื่องปกติไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรเลยสักนิดนี่ยังถือว่าเบาไปด้วยซ้ำเธอยังร้ายกาจได้มากกว่านี้อีกอยู่ที่ว่าคนที่มาหาเรื่องเธอนั้นเป็นใคร“จะยืนอยู่เฉยๆไม่ตอบโต้ให้คนมาว่าคุณกับกอหญ้าฝ่ายเดียวเหรอคะ? แบบนั้นมันจะไปสนุกได้ยังไงเขาให้อะไรมาเราก็แค่สนองกลับคืนไปแค่นั้น อีกอย่างกอหญ้าไม่ชอบให้ใครมาว่าคุณในทางที่ไม่ดีมันค่อนข้างระคายหูจนแทบไม่อยากจะทนฟัง”คำพูดของคนที่ยืนอยู่ข้างกายทำให้มือของภีมวัจน์ค่อย ๆ เลื่อนไปโอบเอวเธอเข้ามาหาเขาอย่างแนบชิดกอหญ้าเองก็ตอบสนองเขาทันทีด้วยการยกสองมือขึ้นโอบกอดเขาตอบกลับไปอย่างเท่าเทียมกันการแสดงความรักถึงแม้ว่าเราจะเป็นผู้หญิงแต่อย่าได้น้อยหน้าผู้ชายเชียวน้าเขากอดมาเราก็กอดตอบเขาจูบเราเราก็จูบตอบเพียงแค่นี้ความสุขก็อยู่แค่เอื้อมแล้ว“ขอบคุณนะครับที่ปกป้องสามีมือใหม่คนนี้”แก้มของกอหญ้าพลันขึ้นสีแดงระเรื่อชวนให้คนพบเห็นรู้สึกเอ็นดูทันทีเมื่อได้ยินคำว่า สามีมือใหม่ ที่ผ่านมาสิ่งที่เธอตามคว้ามีเพียงแค่สถานะคนรักเท่านั้นแต่ผู้ชายคนนี้กลับใจกว้าง
ชายหนุ่มใส่แว่นท่าทางใสซื่อที่เดินเข้ามาภายในร้านหนังสือชื่อดังเรียกสายตาของใครหลายคนให้หันมามองด้วยความสนใจใบหน้าหล่อเหลาที่ราวกับรูปปั้นแกะสลัก จมูกโด่งที่รับกันพอดีกับรูปหน้า ริมฝีปากบางสีชมพูระเรื่อที่เพียงมองก็รู้ว่าเจ้าตัวนั้นดูแลสุขภาพตัวเองเป็นอย่างดีทำให้บรรดาหญิงสาวทั้งหลายที่อยู่ภายในร้านต่างพากันจ้องมองตาไม่กระพริบด้วยความรู้สึกหลงใหลตั้งแต่แรกพบส่วนคนที่กำลังถูกจ้องมองตาไม่กระพริบกลับค่อยๆเดินมองหาหนังสือที่ต้องการด้วยความรู้สึกประหม่าเล็กน้อยดูคล้ายเด็กหนุ่มที่กำลังริเริ่มจะมีความรักแต่ไม่รู้ว่าต้องเริ่มต้นอย่างไรจึงได้พาตัวเองมาเยือนยังสถานที่ที่เรียกว่าขุมทรัพย์แห่งความรู้จนกระทั่งสายตาของเขาปะทะเข้ากับหมวดหนังสือที่ต้องการสองเท้าจึงรีบก้าวเดินไปทางด้านนั้นทันที ฟึบจู่ ๆ หนังสือที่เล็งเอาไว้ก็ถูกมือขาวสะอาดสะอ้านของใครบางคนหยิบตัดหน้าไปโดยไร้สุ้มเสียงส่งผลให้ภีมวัจน์ตวัดสายตาเย็นเยียบมองคนไร้มารยาทที่ยืนอยู่ข้างๆด้วยความหงุดหงิดใจทันทีเด็กเปรต คำด่าที่แสนหยาบคายผุดขึ้นมาในหัวทันทีเมื่อภาพเด็กหนุ่มที่อยู่ในชุดนักศึกษามหาวิทยาลัยสะท้อนเข้าสู่สายตารอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที
ป๊อกทันทีที่กอหญ้ายกมือขึ้นดีดนิ้วจิโร่ที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืดก็ย่างสามขุมตรงเข้ามาหาณัฐวลัญช์ทันทีเพราะความตกใจกว่าจะรู้ว่าตัวเองต้องเจอกับอะไรเสียงที่กำลังจะเปล่งออกไปเพื่อร้องขอความช่วยเหลือก็ถูกสกัดเอาไว้ด้วยวัตถุสีดำมะเมื่อมที่อยู่ในมือของคนที่เพิ่งนั่งลงข้างๆแล้ว“ถ้าไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วก็ร้องออกไปให้ดังๆเอาให้ได้ยินกันไปทั้งผับนี่เลย”น้ำเสียงเย็นเยียบของกอหญ้าเอ่ยออกมาอย่างท้าทายแววเหี้ยมโหดในดวงตาฉายชัดจนทำให้ทำให้ณัฐวลัญช์ไม่อาจมองข้ามร่างบอบบางพลันสั่นสะท้านอย่างไม่อาจควบคุมความคิดในหัวของเธอตอนนี้ว่างเปล่าขึ้นมาทันทีเสี้ยวขณะจิตต่อจากนั้นคือความตื่นตระหนกที่ระเบิดขึ้นในห้วงสมองเป็นเธอที่ประมาทจนเกินไปถึงได้ตกหลุมพรางที่อีกฝ่ายจงใจขุดเพื่อให้เธอตกลงมาอย่างไร้ทางปีนป่าย“หึ คนของฉันอยู่ข้างนอกถ้าเกิดอะไรกับฉันขึ้นมาพวกนั้นไม่มีทางปล่อยให้แกรอดไปได้แน่นอน”ถึงแม้ความกลัวจะทำให้หัวใจหดเกร็งจนแทบหายใจไม่ออกแม้ใจจะรู้สึกหวาดหวั่นมากแค่ไหนแต่ณัฐวลัญช์ก็ยังคงตอบกลับกอหญ้าอย่างสงบนิ่ง“ถ้าอย่างนั้นก็ต้องมาดูกันว่าอำนาจและความสามารถของใครมันจะแข็งแกร่งมากกว่ากัน แต่ฉันอยากจะขอเตื