ข่าวลือเรื่องท่านประธานกับเลขาคนใหม่ที่หยุดงานหายไปด้วยกันแพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็วกลายเป็นเรื่องเล่าปากต่อปากของผู้บริหารระดับสูงที่เผลอหลุดพูดออกมาคล้ายไม่ได้ตั้งใจแต่กลับเป็นการเพิ่มข้อสงสัยให้ผู้ร่วมวงสนทนาหยิบยกนำมาพูดคุยนินทาลับหลังกันอย่างสนุกปากโดยที่เจ้าตัวทั้งสองคนไม่เคยรู้เลยว่าตอนนี้ภีมวัจน์ได้กลายเป็นสมภารที่จับไก่วัดอย่างกอหญ้าเคี้ยวกินจนกระดูกแทบละเอียดแล้วพนักงานคนที่ 1 : นี่แกเมื่อวานฉันได้ข่าวมาว่าท่านประธานกับเลขาคนใหม่ไม่มาทำงานแหละคิดว่าวันนี้ก็อาจจะไม่มาเพราะคงกำลังนอนกอดกันยังไม่ตื่น คิก คิก คิกเสียงหัวเราะพูดคุยกระซิบกระซาบของพนักงานที่ยืนอยู่ด้านหน้าทำให้ภีมวัจน์ที่เดินมาหยุดยืนอยู่ด้านหลังของทั้งสองคนถึงกับมุมปากกระตุกดวงตาคู่งามที่ปกติมักจะเย็นชาไร้อารมณ์อยู่เสมอค่อยๆปรากฏร่องรอยของความไม่พอใจขึ้นมาทีละนิดส่วนคนที่ยืนอยู่เคียงข้างกลับยกยิ้มมุมปากอย่างอารมณ์ดีที่เรื่องของตัวเองกับสามีหมาดๆถูกยกขึ้นมาพูดนินทาลับหลังโดยไม่เลือกเวลาและสถานที่เช่นนี้พนักงานคนที่ 2 : แกก็พูดเกินไปท่านประธานของพวกเราไม่ใช่ผู้ชายที่ไม่มีความรับผิดชอบสักหน่อยท่านคงไม่หลงผู้หญิงจนทิ้
“ร้ายกาจไม่เบา”เมื่อเข้ามาในลิฟต์ภีมวัจน์ก็เอ่ยกระเซ้ากอหญ้าที่ยิ้มหวานให้เขาราวกับว่าคำพูดก่อนหน้านี้ของเธอเป็นเรื่องปกติไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรเลยสักนิดนี่ยังถือว่าเบาไปด้วยซ้ำเธอยังร้ายกาจได้มากกว่านี้อีกอยู่ที่ว่าคนที่มาหาเรื่องเธอนั้นเป็นใคร“จะยืนอยู่เฉยๆไม่ตอบโต้ให้คนมาว่าคุณกับกอหญ้าฝ่ายเดียวเหรอคะ? แบบนั้นมันจะไปสนุกได้ยังไงเขาให้อะไรมาเราก็แค่สนองกลับคืนไปแค่นั้น อีกอย่างกอหญ้าไม่ชอบให้ใครมาว่าคุณในทางที่ไม่ดีมันค่อนข้างระคายหูจนแทบไม่อยากจะทนฟัง”คำพูดของคนที่ยืนอยู่ข้างกายทำให้มือของภีมวัจน์ค่อย ๆ เลื่อนไปโอบเอวเธอเข้ามาหาเขาอย่างแนบชิดกอหญ้าเองก็ตอบสนองเขาทันทีด้วยการยกสองมือขึ้นโอบกอดเขาตอบกลับไปอย่างเท่าเทียมกันการแสดงความรักถึงแม้ว่าเราจะเป็นผู้หญิงแต่อย่าได้น้อยหน้าผู้ชายเชียวน้าเขากอดมาเราก็กอดตอบเขาจูบเราเราก็จูบตอบเพียงแค่นี้ความสุขก็อยู่แค่เอื้อมแล้ว“ขอบคุณนะครับที่ปกป้องสามีมือใหม่คนนี้”แก้มของกอหญ้าพลันขึ้นสีแดงระเรื่อชวนให้คนพบเห็นรู้สึกเอ็นดูทันทีเมื่อได้ยินคำว่า สามีมือใหม่ ที่ผ่านมาสิ่งที่เธอตามคว้ามีเพียงแค่สถานะคนรักเท่านั้นแต่ผู้ชายคนนี้กลับใจกว้าง
ชายหนุ่มใส่แว่นท่าทางใสซื่อที่เดินเข้ามาภายในร้านหนังสือชื่อดังเรียกสายตาของใครหลายคนให้หันมามองด้วยความสนใจใบหน้าหล่อเหลาที่ราวกับรูปปั้นแกะสลัก จมูกโด่งที่รับกันพอดีกับรูปหน้า ริมฝีปากบางสีชมพูระเรื่อที่เพียงมองก็รู้ว่าเจ้าตัวนั้นดูแลสุขภาพตัวเองเป็นอย่างดีทำให้บรรดาหญิงสาวทั้งหลายที่อยู่ภายในร้านต่างพากันจ้องมองตาไม่กระพริบด้วยความรู้สึกหลงใหลตั้งแต่แรกพบส่วนคนที่กำลังถูกจ้องมองตาไม่กระพริบกลับค่อยๆเดินมองหาหนังสือที่ต้องการด้วยความรู้สึกประหม่าเล็กน้อยดูคล้ายเด็กหนุ่มที่กำลังริเริ่มจะมีความรักแต่ไม่รู้ว่าต้องเริ่มต้นอย่างไรจึงได้พาตัวเองมาเยือนยังสถานที่ที่เรียกว่าขุมทรัพย์แห่งความรู้จนกระทั่งสายตาของเขาปะทะเข้ากับหมวดหนังสือที่ต้องการสองเท้าจึงรีบก้าวเดินไปทางด้านนั้นทันที ฟึบจู่ ๆ หนังสือที่เล็งเอาไว้ก็ถูกมือขาวสะอาดสะอ้านของใครบางคนหยิบตัดหน้าไปโดยไร้สุ้มเสียงส่งผลให้ภีมวัจน์ตวัดสายตาเย็นเยียบมองคนไร้มารยาทที่ยืนอยู่ข้างๆด้วยความหงุดหงิดใจทันทีเด็กเปรต คำด่าที่แสนหยาบคายผุดขึ้นมาในหัวทันทีเมื่อภาพเด็กหนุ่มที่อยู่ในชุดนักศึกษามหาวิทยาลัยสะท้อนเข้าสู่สายตารอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที
ป๊อกทันทีที่กอหญ้ายกมือขึ้นดีดนิ้วจิโร่ที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืดก็ย่างสามขุมตรงเข้ามาหาณัฐวลัญช์ทันทีเพราะความตกใจกว่าจะรู้ว่าตัวเองต้องเจอกับอะไรเสียงที่กำลังจะเปล่งออกไปเพื่อร้องขอความช่วยเหลือก็ถูกสกัดเอาไว้ด้วยวัตถุสีดำมะเมื่อมที่อยู่ในมือของคนที่เพิ่งนั่งลงข้างๆแล้ว“ถ้าไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วก็ร้องออกไปให้ดังๆเอาให้ได้ยินกันไปทั้งผับนี่เลย”น้ำเสียงเย็นเยียบของกอหญ้าเอ่ยออกมาอย่างท้าทายแววเหี้ยมโหดในดวงตาฉายชัดจนทำให้ทำให้ณัฐวลัญช์ไม่อาจมองข้ามร่างบอบบางพลันสั่นสะท้านอย่างไม่อาจควบคุมความคิดในหัวของเธอตอนนี้ว่างเปล่าขึ้นมาทันทีเสี้ยวขณะจิตต่อจากนั้นคือความตื่นตระหนกที่ระเบิดขึ้นในห้วงสมองเป็นเธอที่ประมาทจนเกินไปถึงได้ตกหลุมพรางที่อีกฝ่ายจงใจขุดเพื่อให้เธอตกลงมาอย่างไร้ทางปีนป่าย“หึ คนของฉันอยู่ข้างนอกถ้าเกิดอะไรกับฉันขึ้นมาพวกนั้นไม่มีทางปล่อยให้แกรอดไปได้แน่นอน”ถึงแม้ความกลัวจะทำให้หัวใจหดเกร็งจนแทบหายใจไม่ออกแม้ใจจะรู้สึกหวาดหวั่นมากแค่ไหนแต่ณัฐวลัญช์ก็ยังคงตอบกลับกอหญ้าอย่างสงบนิ่ง“ถ้าอย่างนั้นก็ต้องมาดูกันว่าอำนาจและความสามารถของใครมันจะแข็งแกร่งมากกว่ากัน แต่ฉันอยากจะขอเตื
โรงพยาบาล Nข่าวฉาวที่สะเทือนไปทั้งวงการนักธุรกิจและนักการเมืองของสองตระกูลใหญ่ทำให้มุมปากของใครบางคนที่กำลังยกกาแฟขึ้นจิบอย่างอารมณ์ดีกระตุกน้อยๆด้วยความพึงพอใจ ดวงตาคมกริบภายใต้ใบหน้าหล่อเหลาเปล่งประกายวาววับก่อนที่เขาจะหันมามองลูกน้องคู่ใจที่ยืนสงบเสงี่ยมอยู่ข้างๆโต๊ะทำงานเพื่อรอรับคำสั่งจากเขา“ลงมือรวดเร็วเฉียบขาดสมกับเป็นหลานตา ฮ่า ฮ่า ฮ่า”เสียงหัวเราะด้วยความเบิกบานใจของผู้เป็นนายทำให้ชินกับเรียวลอบสบตากันพร้อมกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูกว่าดีใจหรือเสียใจที่ทั้งสองคนมีส่วนร่วมบ่มเพาะนิสัยของคุณหนูกอหญ้าที่ควรจะอ่อนหวานเหมือนกุลสตรีทั่วๆไป กลายเป็นนางมารน้อยที่อาจจะโหดเหี้ยมไม่เท่าแก้มใสผู้เป็นมารดาแต่กลับเฉียบขาดและรวดเร็วไร้อาการลังเลเหมือนรามสูรผู้เป็นพี่ชายที่เรียกได้ว่าโหดเหี้ยมไร้ความปราณีอย่างแท้จริง“แล้วทางคุณหนูแก้มใสล่ะครับนายถ้าเกิดว่า...”“ปิดต่อไป ทำทุกวิถีทางไม่ให้แก้มใสรู้ว่ากอหญ้ากำลังทำอะไรอยู่พวกนายมีกี่ร้อยเล่ห์ก็งัดมาสู้กับแก้มใสให้หมด ลูกสาวของฉันคนนี้ฉลาดเกินไปเกรงว่ากอหญ้ายังไม่ทันลงมือคว้าเจ้าหนุ่มนั้นมาครอบครองสมใจแก้มใสก็คงจับแยกอย่
คอนโด Aใบหน้ายามหลับที่ดูคล้ายเด็กสาวไร้เดียงสาของกอหญ้าทำให้ภีมวัจน์ที่กำลังนอนเท้าแขนแอบมองว่าที่ภรรยาเผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อยด้วยความเอ็นดูเขาไม่รู้ว่าเธอกำลังฝันถึงอะไรแต่น่าจะเป็นฝันดีอย่างแน่นอนใบหน้ายามหลับของเธอถึงได้ประดับด้วยรอยยิ้มหวานชวนให้คนอดใจไม่ไหวต้องก้มหน้าลงไปแตะกลีบปากนุ่มของเธอเบาๆอย่างรักใคร่เสน่หา“ตื่นได้แล้วค่ะ”เมื่อเห็นว่าถึงเวลาที่ต้องลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวแล้วภีมวัจน์ก็ตัดสินใจยื่นหน้าไปกระซิบข้างใบหูเล็กหอมกรุ่นของคนที่กำลังนอนหลับฝันดีเบาๆส่งผลให้ดวงตาที่ปิดสนิทของเธอขยับเล็กน้อยก่อนที่จะลืมตาตื่นขึ้นมาสบดวงตาหวานฉ่ำของภีมวัจน์ในที่สุดถ้าจะมองเธอด้วยสายตาหวานฉ่ำขนาดนี้เธอไม่ไปทำงานแล้วได้ไหม?“ขอนอนต่ออีกนิดไม่ได้เหรอคะ”กอหญ้าเอ่ยบอกร่างสูงที่นอนเท้าแขนจ้องมองเธออย่างออดอ้อนก่อนจะพลิกกายไปอีกฝั่งแล้วปิดตาลงเพื่อนอนต่อตามที่บอกเขาทันทีเมื่อคืนกว่าเธอจะกลับมาถึงห้องก็เลยเที่ยงคืนไปแล้วแต่นั่นไม่ใช่ปัญหา เพราะคนที่ทำให้เธอไม่ได้นอนก็คือคนเจ้าเล่ห์ที่กำลังนอนจ้องเธออยู่ต่างหากเธอเพิ่งรู้ว่าผู้ชายอย่างภีมวัจน์นั้นพลังกายเหลือเฟือนอกจากเรี่ยวแรงที่เยอะมากใช้
“คนแรกปัณณ์ทิชา ดารานางแบบที่กำลังร้อนแรงบนโลกโซเชียลร้อนมากซะจนโซเชียลแทบระเบิดเพราะเรื่องที่เธอคบซ้อน คนที่มีข่าวฉาวขนาดนี้ทำไมพวกคุณถึงกล้าเสนอรายชื่อมาให้ท่านประธานเลือกขืนเอามาเป็นพรีเซนเตอร์จริงๆลูกค้าที่มาใช้บริการคงได้เลือกโรงพยาบาลซ้อนเหมือนพรีเซนเตอร์แน่นอนค่ะ”“คบซ้อนที่ไหนกันคะ อาทิตย์ก่อนคุณปัณณ์ทิชาเธอออกมาแก้ข่าวแล้วนะคะว่าเป็นข่าวเท็จ เธอไม่ได้คบซ้อนกับใครและไม่ได้แย่งแฟนใคร ปัจจุบันเธอยังรักกันดีกับแฟนพวกนักข่าวต่างหากที่เขียนข่าวโดยไม่มีมูล”ขวัญพิชชาโต้กลับกอหญ้าทันทีราวกับคนที่อยู่ใต้เตียงของนักแสดงที่เธอเป็นคนคัดเลือกให้เหลือเพียง 5 คนเรื่องนี้ลูกน้องในแผนกเคยคัดค้านเธอแล้วแต่ขวัญพิชชาเห็นว่าช่วงนี้ปัณณ์ทิชากำลังมือขึ้นไม่ว่าเธอจะเล่นละครหรือถ่ายโฆษณาอะไรก็ดังเป็นพลุแตกอีกทั้งยอดติดตามในอินสตาแกรมของเธอยังมากกว่าอีก 4 คนที่เหลืออีกด้วย“แล้วนี่เขาเรียกว่าคบซ้อนไหมคะ”กอหญ้าผลักซองเอกสารสีน้ำตาลที่วางอยู่ตรงหน้าของเธอไปให้ขวัญพิชชาอย่างไม่เกรงใจส่งผลให้ผู้อาวุโสที่มีอายุมากกว่ามารดาของเธอชักสีหน้าอย่างไม่สบอารมณ์แต่ก็เพียงแค่แวบเดียวเท่านั้นเพราะใบหน้าที่เย็นชาและด
“คุณหลอกกอหญ้ามาตลอดเลยใช่ไหมคะ”เมื่อกลับมาถึงห้องทำงานกอหญ้าก็ตีหน้าง้ำต่อว่าคนเจ้าเล่ห์ที่ทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาพร้อมรั้งเอวบางของเธอให้นั่งลงบนตักด้วยกันก่อนที่ภีมวัจน์จะซุกใบหน้าหล่อเหลาลงบนซอกคอหอมกรุ่นของสาวสวยที่อยู่ในอ้อมกอดพร้อมเอ่ยแก้ตัวด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยแววขบขัน“หืม ผมหลอกคุณตอนไหนกันไม่เห็นรู้เรื่องเลย”ภีมวัจน์แสร้งตีหน้าซื่ออย่างแนบเนียนใบหน้าหล่อเหลาในยามนี้เผยรอยยิ้มหวานละมุนชวนมองทำให้กอหญ้าถึงกับตาพร่ามัวไปชั่วขณะก่อนที่เธอจะส่ายหน้าไปมาแรงๆเพื่อดึงสติของตัวเองไม่ให้หลงใหลไปกับใบหน้างดงามที่ราวกับภาพวาดของจิตรกรชื่อดังระดับโลกของเขาเมื่อรับรู้ได้ว่าอีกฝ่ายกำลังใช้รอยยิ้มทรงเสน่ห์ล่อลวงให้ความคิดของเธอเกิดความสับสน“หึ ไม่ต้องมาใช้กลยุทธ์หนุ่มรูปงามล่อลวงกอหญ้าเลยนะคะ”ยามที่คำพูดรู้ทันเอ่ยขึ้นมือเรียวบางของกอหญ้าก็ยกขึ้นบีบจมูกโด่งของภีมวัจน์เบา ๆ ด้วยความมันเขี้ยวในใจพลันแอบคาดโทษเขาเอาไว้มากมายเมื่อเริ่มไขข้อสงสัยในใจจนใกล้กระจ่างแจ้งแล้ว“ผมไม่ได้ล่อลวงคุณสักหน่อยเป็นคุณเองต่างหากที่ยินดีถูกความหล่อของผมล่อลวงหัวใจ หรือไม่จริง?”น้ำเสียงหยอกเย้าที่มาพร้อมแววต
โรงเรียนอนุบาลมือเล็กขาวนุ่มนิ่มของเด็กชายตัวน้อยค่อยๆยื่นไปอุ้มเจ้าลูกแมวตัวเล็กที่ส่งเสียงร้องด้วยความสงสารดวงตากลมโตราวกับผลองุ่นจ้องมองแมวน้อยด้วยแววตาทอแสงเป็นประกายก่อนที่เด็กชายจะยื่นเจ้าแมวสีขาวที่เลอะคราบดินให้เด็กชายอีกคนที่หน้าตาเหมือนกันจนแทบแยกไม่ออกพร้อมกับหันกลับไปอุ้มเจ้าแมวน้อยอีกตัวมาไว้ในอ้อมแขนพีร์ รณพีร์ : เราจะพาเจ้าแมวน้อยสองตัวนี้กลับไปเลี้ยงจริงๆเหรอครับพี่ภาคย์ ?เด็กชายตัวน้อยเอ่ยถามผู้เป็นพี่ชายด้วยสีหน้ากังวลใจเพราะเขากลัวว่าบิดาและมารดาจะไม่เอ็นดูเจ้าตัวเล็กทั้งสองคนเหมือนเขากับพี่ชายที่รู้สึกสงสารลูกแมวน้อยที่กำพร้าแม่ตั้งแต่แรกเห็นพี่ชายของเขาจึงตัดสินใจที่จะพาเจ้าตัวเล็กทั้งสองกลับไปด้วยเพื่อขออนุญาตบิดาและมารเลี้ยงเอาไว้ภาคย์ ภูบดินทร์ : อืม แมวน้อยน่าสงสารไม่มีแม่แล้วต่อไปเราสองคนต้องตั้งใจเลี้ยงให้ดีนะรู้ไหม ?ผู้เป็นพี่ชายเอ่ยบอกน้องชายด้วยรอยยิ้มก่อนที่สองพี่น้องจะพากันเดินไปที่หน้าโรงเรียนเพื่อนั่งรอบิดากับมารดามารับระหว่างทางที่เดินไปเด็กสาวบางคนต่างก็หันมาจ้องมองพี่น้องฝาแฝดด้วยความสนใจบางคนถึงกับแก้มแดงระเรื่อด้วยความเขินอายแต่เด็กชายทั้งสอ
เวลาที่ผ่านไปวันแล้ววันเล่าในที่สุดกำหนดคลอดของกอหญ้าก็ใกล้เข้ามาทุกทีทุกคนในครอบครัวต่างพากันตื่นเต้นเป็นอย่างมากโดยเฉพาะบรรดาผู้อาวุโสอย่างคุณตากฤษฎิ์ คุณยายที่รัก รวมไปถึงคุณปู่ภาสกรของภีมวัจน์ที่ทั้งตื่นเต้นและกังวลใจเนื่องจากท้องของกอหญ้านั้นค่อนข้างใหญ่มากเพราะเจ้าเด็กตัวอ้วนในท้องนั้นเป็นเด็กแฝด ซึ่งตั้งแต่นั้นมาทุกคนต่างก็สั่งห้ามไม่ให้เธอเข้าครัวทำอาหารแต่มีหรือที่คนดื้อรั้นอย่างกอหญ้าจะฟังทันทีที่ไร้สายตาคอยจับจ้องกอหญ้าก็ยังคงเพลิดเพลินกับการเรียนรู้วิธีทำอาหารที่หลากหลายเหมือนเดิมจนกระทั่งเหลือเวลาอีกเพียงสามอาทิตย์ก่อนที่เธอจะคลอดกิจกรรมที่เธอชอบทำทุกอย่างจึงถูกสั่งห้ามอย่างเด็ดขาดซึ่งกอหญ้าก็ยอมเชื่อฟังแต่โดยดีเพราะตอนนี้เธอรู้สึกไม่ค่อยสบายตัวสักเท่าไรเธอจึงทำได้เพียงแค่นั่งๆนอนๆจนแทบจะขึ้นรากลายเป็นปลาเค็มตากแห้งอยู่แล้ววันนี้เธอจึงถือโอกาสที่ภีมวัจน์หยุดงานชวนเขาออกมาเดินเล่นด้านล่างเพื่อสูดอากาศที่บริสุทธิ์ดีกว่านอนอุดอู้อยู่ภายในบ้าน“หืม ทำไมคุณตากับคุณยายถึงได้มาอยู่ที่นี่ล่ะคะ ? แล้วนั่นใช่คุณปู่ของพี่ภีมไหมคะ ?”เมื่อเดินมาถึงบริเวณสวนดอกไม้สายตาของกอหญ้าก็พลัน
เมื่อเดินทางกลับมาจากฮันนีมูนภีมวัจน์ก็กลับไปทำงานตามปกติส่วนกอหญ้าที่อายุครรภ์เริ่มมากขึ้นเรื่อย ๆก็มองหากิจกรรมทำเพื่อไม่ให้ตัวเองว่างจนฟุ้งซ่านเมื่อต้องอยู่บ้านเพียงลำพังในช่วงที่เพิ่งกลับมาจากฮันนีมูนกอหญ้าเคยขอตามภีมวัจน์ไปที่บริษัทเพื่อช่วยเขาทำงานแต่กลับถูกวาจาออดอ้อนอ่อนหวานที่บอกให้เธอพักผ่อนอยู่ที่บ้านเพื่อดูแลครรภ์ใจของกอหญ้าพลันอ่อนยวบและยอมทำตามคำขอร้องของสามีอย่างว่าง่ายเพราะเธอเข้าใจดีว่าภีมวัจน์นั้นเป็นห่วงเธอกับลูกกิจกรรมที่กอหญ้าเลือกทำในระหว่างที่พักผ่อนอยู่บ้านส่วนใหญ่แล้วเธอจะเปิดเพลงฟังพร้อมทั้งทำอาหารไปด้วยซึ่งตั้งแต่ที่เดินทางกลับจากฮันนีมูนกอหญ้าก็เริ่มมีความสนใจอยากจะเรียนทำอาหารจีนแล้วเพราะก่อนหน้านี้ตอนที่เธออยู่อิตาลีเธอเคยลงเรียนทำอาหารและขนมหลักสูตรระยะสั้นช่วงปิดเทอมทำให้กอหญ้ามีความรู้เรื่องการทำอาหารไม่น้อยและครั้งนี้กอหญ้าเริ่มเรียนรู้การทำอาหารด้วยตัวเองโดยการดูจากสื่อตามช่องทางต่างๆด้วยความที่เธอเป็นคนหัวไวเรียนรู้เพียงไม่นานฝีมือการทำอาหารของกอหญ้านั้นเรียกได้ว่าพัฒนาแบบก้าวกระโดดมากยิ่งกว่าแม่แก้มใสของเธอเสียอีกและวันนี้ยังคงเป็นอีกหนึ่งวันที่ก
หลังจากที่แต่งงานและจดทะเบียนสมรสเรียบร้อยและส่งบรรดาคุณลุงคุณป้าคุณปู่คุณย่ารวมไปถึงน้อง ๆของกอหญ้ากลับต่างประเทศเรียบร้อยแล้วภีมวัจน์ก็จัดการโยนงานทั้งหมดให้เตชินทร์ดูแลทันทีทำเอาคนที่เพิ่งไปเที่ยวกลับมาอย่างมีความสุขหน้าหงิกหน้างอไม่น่ามองไปหลายวันเลยทีเดียว ยังดีที่กลับมาจากต่างประเทศครั้งนี้เตชินทร์มีเคทกลับมาด้วยในฐานะแฟนทำให้เขาที่เคยถูกทอดทิ้งให้ทำงานคนเดียวเพียงลำพังไม่ต้องอยู่อย่างเหงาๆอีกต่อไปอีกทั้งยังมีพ่อตากับแม่ยายของท่านประธานที่คอยช่วยงานเตชินทร์จึงไม่ค่อยกังวลใจสักเท่าไรมีเพียงความโมโหเล็กน้อยจากการที่ถูกท่านประธานช่วงชิงเวลาที่เขาจะสวีทหวานกับเคทไปเท่านั้นที่ทำให้เตชินทร์โมโหจนเผลอก่นด่าเจ้านายไปหลายคำทีเดียวเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีนอึกกอหญ้าลอบกลืนน้ำลายด้วยความกระหายเมื่อเห็นคนต่อแถวซื้อชานมชื่อดังที่กำลังเป็นที่นิยมในประเทศไทยก่อนหน้าที่เธอจะเลือกเดินทางมาฮันนีมูนที่ประเทศจีนเธอได้หาข้อมูลเกี่ยวกับร้านอาหารชื่อดังเอาไว้มากมายหลายร้านทีเดียวและเมนูชานมไข่มุกก็คือเมนูแรกที่เธออยากจะลองชิมหลังจากที่เดินทางมาถึงที่นี่“พี่ภีมขากอหญ้าอยากกินชานมร้านนั้น”กอหญ้าเอ่ยบอกภีม
เมื่อขบวนเจ้าบ่าวมาถึงทุกคนถึงกับรู้สึกตาพร่าไปชั่วขณะกับด่านประตูเงินประตูทองที่ดูเหมือนเป็นด่านศูนย์รวมคนหน้าตาดีที่หน้าตาหล่อเหลาคมคายยิ่งกว่าดาราชื่อดังเสียอีกสาวๆที่มากับขบวนแห่ขันหมากต่างพากันหน้าแดงหัวใจเต้นแรงด้วยความตื่นเต้นจนกระทั่งเริ่มด่านประตูเงินประตูทองด่านแรกสาวๆที่หน้าแดงก่อนหน้านี้พลันยิ้มไม่ออกในทันทีเมื่อเงื่อนไขของการผ่านด่านนั้นยากจนเกินไปรามสูร : จะถอยก็ได้นะถ้าสู้ไม่ไหวน้ำเสียงของรามสูรฟังดูเนือยๆก็จริงแต่สายตาที่เขากำลังมองไปที่ภีมวัจน์กลับทำให้เจ้าตัวรู้สึกชาวาบที่หนังศีรษะในใจพลันลอบคิดว่านี่เป็นการมองข่มขู่อย่างไรสุ้มเสียงและไม่ยอมให้เขาปฏิเสธซึ่งภีมวัจน์เองก็ไม่คิดที่จะเอ่ยปฏิเสธแต่อย่างใดนี่คืองานแต่งของเขาเชียวน้ากว่าจะเดินทางมาถึงวันนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยเรื่องอะไรที่เขาจะต้องยอมถอยขนาดด่านทดสอบความแข็งแกร่งของแม่แก้มใสเขายังผ่านมาได้เลยนับประสาอะไรกับแค่ด่านประตูเงินประตูทองด่านแรกที่เขาต้องกินอาหารตรงหน้าให้หมดภาสกร : หลานจะกินหมดนี่จริงๆเหรอ ?ภาสกรที่ยืนอยู่ข้างๆภีมวัจน์เอ่ยถามด้วยความกังวลระคนห่วงใยเมื่อเห็นเมนูอาหารที่อยู่ตรงหน้าซึ่งรสชาติอย่าใ
“ฮึก คุณปู่ขา ฮือ ฮือ”กอหญ้าโผเข้าสู่อ้อมกอดของเรียวอิจิที่อ้าแขนกว้างโอบรั้งหลานสาวเข้าสู่อ้อมกอดด้วยความคิดถึงสุดหัวใจฝ่ามือใหญ่ที่คอยอุ้มชูเธอมาตั้งแต่เด็กค่อยๆลูบหลังที่สะสั่นท้านด้วยแรงสะอื้นอย่างปลอบโยนในขณะที่กอหญ้ารีบยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาที่ไหลด้วยความดีใจอย่างลวกๆยังดีที่เครื่องสำอางที่ช่างใช้แต่งหน้าให้เธอคือชนิดกันน้ำไม่อย่างนั้นใบหน้าของเธอคงเลอะไปด้วยคราบเครื่องสำอางอย่างแน่นอน“ไม่ร้องนะคนเก่งของปู่วันนี้หนูสวยมากๆขืนร้องไห้อีกคนสวยของปู่คงได้กลายเป็นคนขี้เหร่แน่ ๆ”น้ำเสียงอ่อนโยนของเรียวอิจิเอ่ยชมหลานสาวด้วยภาษาญี่ปุ่นที่เขามักจะใช้พูดคุยกับหลานสาวเป็นประจำเพราะว่าเรียวอิจิอยากให้กอหญ้าเรียนรู้ภาษาญี่ปุ่นตั้งแต่เด็กๆเขาจึงมักจะใช้ภาษาญี่ปุ่นพูดคุยสนทนากับหลานสาวอยู่เสมอจนกระทั่งกอหญ้าค่อยๆซึมซับภาษาญี่ปุ่นทีละน้อยจนกลายเป็นว่าสามารถพูดได้คล่องในที่สุด“กอหญ้าแค่ดีใจมากไปหน่อยน่ะค่ะก็เลยกลั้นไว้ไม่อยู่ว่าแต่คุณปู่มาได้ยังไงคะเนี่ย ?”“เฮอะ แต่งงานทั้งทีก็ไม่คิดจะส่งข่าวไปบอกปู่บ้างเลยนะเรา”เรียวอิจิแค่นเสียงเฮอะขึ้นจมูกพร้อมตอบกลับหลานสาวด้วยน้ำเสียงแง่งอนทำให้กอหญ้าได้แ
เช้าวันต่อมารามสูรค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความยากลำบากทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่าร่างกายของตัวเองคล้ายกำลังถูกบางสิ่งบางอย่างทับอยู่ร่างสูงจึงลุกขึ้นพรวดด้วยความตกใจทำให้กอหญ้าที่ปีนขึ้นมานอนบนตัวของพี่ชายราวกับเด็กน้อยลื่นไถลลงบนที่นอนทันทีทำเอาคนขี้เซาถึงกับสะดุ้งตื่นขึ้นมาด้วยความตกใจเช่นกัน ดวงตาคู่งามกระพริบปริบๆด้วยความงุนงงก่อนที่จะสบเข้ากับดวงตาที่ดูไม่สบอารมณ์ของรามสูรทันใดนั้นกอหญ้าก็ตื่นเต็มตาทันทีในใจพลันมีลางสังหรณ์ไม่ดีเธอจึงรีบขยับตัวออกห่างจากพี่ชายอย่างเนียนๆแต่ก็ช้ากว่ารามสูรที่ยื่นขามาถีบก้นของกอหญ้าเบาๆคนทั้งคนก็ถลาล้มลงไปนอนราบบนเตียงอย่างหมดสภาพ็ช้ากสวว่รมสรท“เมื่อไหร่จะเลิกนิสัยปีนขึ้นมานอนบนตัวคนอื่นแล้วนอนน้ำลายไหลยืดสักที”น้ำเสียงดุดันที่แฝงไปด้วยความเอือมระอาเล็กน้อยทำให้กอหญ้าที่ล้มลงบนที่นอนรีบดีดตัวเองลุกขึ้นนั่งและจ้องหน้ารามสูรกลับคืนอย่างดุดันไม่แพ้กัน“พี่รามบ้าถีบมาได้กอหญ้าโตแล้วนะ”น้ำเสียงไม่สบอารมณ์ต่อว่ารามสูรพร้อมถีบขารัวๆไปทางเขาที่กระโดดลงจากเตียงหลบฝ่าเท้าของน้องสาวได้อย่างหวุดหวิด“โตแล้วก็ควรจะเลิกปีนขึ้นมานอนน้ำลายไหลยืดบนตัวพี่รามสักทีเหอ
“พี่รามของยาย”ทันทีที่เห็นหน้าหลานชายที่รักก็รีบวิ่งเข้าไปกอดรามสูรด้วยความดีใจใบหน้าของเธอในยามนี้แย้มยิ้มด้วยความยินดีเพราะเป็นเวลากว่าครึ่งปีแล้วที่รามสูรไม่ได้กลับมาเมืองไทย“พี่รามเองก็คิดถึงคุณยายมากเหมือนกันครับ”รามสูรเอ่ยบอกผู้เป็นยายด้วยน้ำเสียงออดอ้อนทำให้กอหญ้าที่เดินตามหลังเข้ามาทันได้ยินประโยคนี้เข้าพอดีถึงกับเบ้ปากด้วยความหมั่นไส้ทีกับเธอไม่เห็นว่าพี่ชายจะพูดจาออดอ้อนแบบนี้บ้างเลยเขานี่มันสองมาตรฐานชัดๆ“ปากบอกว่าคิดถึงแต่ตัวไม่ยอมกลับมาหายายบ้างเลยนะเราหรือว่าเดี๋ยวนี้พอมีสาวแล้วก็เลยลืมยาย”คำว่า มีสาวแล้ว ของที่รักทำให้รามสูรที่ไม่เคยคิดจะมีความรักพลันรีบส่ายหน้าปฏิเสธสุดชีวิตทันทีต่อให้เขาจะชอบมีความสัมพันธ์ข้ามคืนกับสาวๆมากหน้าหลายตาแต่เรื่องความรักก็ไม่เคยอยู่ในหัวของเขาหรอกนะ ฮึ้ย คิดถึงเรื่องความรักแล้วขนลุกชะมัด“มีสาวที่ไหนกันคะคุณยายปากดีไม่มีใครเกินแบบนี้จะมีสาวที่ไหนมาชายตามองกันล่ะคะ ? ”กอหญ้าที่เดินไปนั่งลงข้างๆกฤษฎิ์อดไม่ได้ที่จะเอ่ยขึ้นในขณะที่รามสูรได้แต่หันขวับกลับไปถลึงตาใส่น้องสาวที่ลอยหน้าลอยตาหยิบองุ่นส่งเข้าปากด้วยความเอร็ดอร่อยทั้งๆที่เพิ่งพูด
โรงพยาบาล K“ไปดื่มด้วยกันหน่อยไหมคะ ?”ฝีเท้าของคุณหมอหนุ่มที่กำลังก้าวเดินไปยังลานจอดรถของโรงพยาบาลพลันชะงักเล็กน้อยเขาเหลือบมองสาวสวยที่อยู่ในชุดเดรสรัดรูปเพียงแวบเดียวก่อนที่จะดึงสายตากลับมาคืนและเดินไปยังรถ Rolls-Royce รุ่นล่าสุดที่ผลิตเพียงห้าคันในโลกโดยที่ไม่ตอบคำถามของสาวสวยที่มาดักรอพบเพื่อพูดคุยกับเขาแต่อย่างใดทำให้หญิงสาวที่หวังจะได้รับความสนใจจากคุณหมอหนุ่มได้แต่กระทืบเท้าด้วยความเจ็บใจ“หึ ฝากเอาไว้ก่อนเถอะราฟสักวันฉันจะทำให้คุณยอมสยบแทบเท้าฉันให้ได้”เรน่าได้แต่หมายหมาดอยู่ในใจก่อนที่เธอจะหมุนตัวเดินกลับไปขึ้นรถหรูราคาแพงและขับออกไปจากโรงพยาบาลทันทีVictoria PubRolls-Royce ที่ขับออกมาจากโรงพยาบาลอันดับหนึ่งของประเทศอิตาลีค่อยๆเลี้ยวเข้ามายังผับประจำที่เขาชอบมานั่งดื่มหลังจากที่เหน็ดเหนื่อยจากการผ่าตัดมาทั้งคืนก่อนที่ร่างสูงจะเปิดประตูและโยนกุญแจรถให้พนักงานภายในผับอย่างสนิทสนมคุ้นเคยและเดินเข้าไปภายในผับทันทีเสียงเพลงที่เปิดเบาๆคลอไปกับบรรยากาศที่ชวนให้รู้สึกผ่อนคลายทำให้ลำคอของรามสูรแห้งผากอย่างบอกไม่ถูกเป็นเวลาหลายวันแล้วที่เขายุ่งอยู่กับการผ่าตัดจนแทบไม่มีเวลามาพักผ