“ร้ายกาจไม่เบา”เมื่อเข้ามาในลิฟต์ภีมวัจน์ก็เอ่ยกระเซ้ากอหญ้าที่ยิ้มหวานให้เขาราวกับว่าคำพูดก่อนหน้านี้ของเธอเป็นเรื่องปกติไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรเลยสักนิดนี่ยังถือว่าเบาไปด้วยซ้ำเธอยังร้ายกาจได้มากกว่านี้อีกอยู่ที่ว่าคนที่มาหาเรื่องเธอนั้นเป็นใคร“จะยืนอยู่เฉยๆไม่ตอบโต้ให้คนมาว่าคุณกับกอหญ้าฝ่ายเดียวเหรอคะ? แบบนั้นมันจะไปสนุกได้ยังไงเขาให้อะไรมาเราก็แค่สนองกลับคืนไปแค่นั้น อีกอย่างกอหญ้าไม่ชอบให้ใครมาว่าคุณในทางที่ไม่ดีมันค่อนข้างระคายหูจนแทบไม่อยากจะทนฟัง”คำพูดของคนที่ยืนอยู่ข้างกายทำให้มือของภีมวัจน์ค่อย ๆ เลื่อนไปโอบเอวเธอเข้ามาหาเขาอย่างแนบชิดกอหญ้าเองก็ตอบสนองเขาทันทีด้วยการยกสองมือขึ้นโอบกอดเขาตอบกลับไปอย่างเท่าเทียมกันการแสดงความรักถึงแม้ว่าเราจะเป็นผู้หญิงแต่อย่าได้น้อยหน้าผู้ชายเชียวน้าเขากอดมาเราก็กอดตอบเขาจูบเราเราก็จูบตอบเพียงแค่นี้ความสุขก็อยู่แค่เอื้อมแล้ว“ขอบคุณนะครับที่ปกป้องสามีมือใหม่คนนี้”แก้มของกอหญ้าพลันขึ้นสีแดงระเรื่อชวนให้คนพบเห็นรู้สึกเอ็นดูทันทีเมื่อได้ยินคำว่า สามีมือใหม่ ที่ผ่านมาสิ่งที่เธอตามคว้ามีเพียงแค่สถานะคนรักเท่านั้นแต่ผู้ชายคนนี้กลับใจกว้าง
ชายหนุ่มใส่แว่นท่าทางใสซื่อที่เดินเข้ามาภายในร้านหนังสือชื่อดังเรียกสายตาของใครหลายคนให้หันมามองด้วยความสนใจใบหน้าหล่อเหลาที่ราวกับรูปปั้นแกะสลัก จมูกโด่งที่รับกันพอดีกับรูปหน้า ริมฝีปากบางสีชมพูระเรื่อที่เพียงมองก็รู้ว่าเจ้าตัวนั้นดูแลสุขภาพตัวเองเป็นอย่างดีทำให้บรรดาหญิงสาวทั้งหลายที่อยู่ภายในร้านต่างพากันจ้องมองตาไม่กระพริบด้วยความรู้สึกหลงใหลตั้งแต่แรกพบส่วนคนที่กำลังถูกจ้องมองตาไม่กระพริบกลับค่อยๆเดินมองหาหนังสือที่ต้องการด้วยความรู้สึกประหม่าเล็กน้อยดูคล้ายเด็กหนุ่มที่กำลังริเริ่มจะมีความรักแต่ไม่รู้ว่าต้องเริ่มต้นอย่างไรจึงได้พาตัวเองมาเยือนยังสถานที่ที่เรียกว่าขุมทรัพย์แห่งความรู้จนกระทั่งสายตาของเขาปะทะเข้ากับหมวดหนังสือที่ต้องการสองเท้าจึงรีบก้าวเดินไปทางด้านนั้นทันที ฟึบจู่ ๆ หนังสือที่เล็งเอาไว้ก็ถูกมือขาวสะอาดสะอ้านของใครบางคนหยิบตัดหน้าไปโดยไร้สุ้มเสียงส่งผลให้ภีมวัจน์ตวัดสายตาเย็นเยียบมองคนไร้มารยาทที่ยืนอยู่ข้างๆด้วยความหงุดหงิดใจทันทีเด็กเปรต คำด่าที่แสนหยาบคายผุดขึ้นมาในหัวทันทีเมื่อภาพเด็กหนุ่มที่อยู่ในชุดนักศึกษามหาวิทยาลัยสะท้อนเข้าสู่สายตารอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที
ป๊อกทันทีที่กอหญ้ายกมือขึ้นดีดนิ้วจิโร่ที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืดก็ย่างสามขุมตรงเข้ามาหาณัฐวลัญช์ทันทีเพราะความตกใจกว่าจะรู้ว่าตัวเองต้องเจอกับอะไรเสียงที่กำลังจะเปล่งออกไปเพื่อร้องขอความช่วยเหลือก็ถูกสกัดเอาไว้ด้วยวัตถุสีดำมะเมื่อมที่อยู่ในมือของคนที่เพิ่งนั่งลงข้างๆแล้ว“ถ้าไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วก็ร้องออกไปให้ดังๆเอาให้ได้ยินกันไปทั้งผับนี่เลย”น้ำเสียงเย็นเยียบของกอหญ้าเอ่ยออกมาอย่างท้าทายแววเหี้ยมโหดในดวงตาฉายชัดจนทำให้ทำให้ณัฐวลัญช์ไม่อาจมองข้ามร่างบอบบางพลันสั่นสะท้านอย่างไม่อาจควบคุมความคิดในหัวของเธอตอนนี้ว่างเปล่าขึ้นมาทันทีเสี้ยวขณะจิตต่อจากนั้นคือความตื่นตระหนกที่ระเบิดขึ้นในห้วงสมองเป็นเธอที่ประมาทจนเกินไปถึงได้ตกหลุมพรางที่อีกฝ่ายจงใจขุดเพื่อให้เธอตกลงมาอย่างไร้ทางปีนป่าย“หึ คนของฉันอยู่ข้างนอกถ้าเกิดอะไรกับฉันขึ้นมาพวกนั้นไม่มีทางปล่อยให้แกรอดไปได้แน่นอน”ถึงแม้ความกลัวจะทำให้หัวใจหดเกร็งจนแทบหายใจไม่ออกแม้ใจจะรู้สึกหวาดหวั่นมากแค่ไหนแต่ณัฐวลัญช์ก็ยังคงตอบกลับกอหญ้าอย่างสงบนิ่ง“ถ้าอย่างนั้นก็ต้องมาดูกันว่าอำนาจและความสามารถของใครมันจะแข็งแกร่งมากกว่ากัน แต่ฉันอยากจะขอเตื
โรงพยาบาล Nข่าวฉาวที่สะเทือนไปทั้งวงการนักธุรกิจและนักการเมืองของสองตระกูลใหญ่ทำให้มุมปากของใครบางคนที่กำลังยกกาแฟขึ้นจิบอย่างอารมณ์ดีกระตุกน้อยๆด้วยความพึงพอใจ ดวงตาคมกริบภายใต้ใบหน้าหล่อเหลาเปล่งประกายวาววับก่อนที่เขาจะหันมามองลูกน้องคู่ใจที่ยืนสงบเสงี่ยมอยู่ข้างๆโต๊ะทำงานเพื่อรอรับคำสั่งจากเขา“ลงมือรวดเร็วเฉียบขาดสมกับเป็นหลานตา ฮ่า ฮ่า ฮ่า”เสียงหัวเราะด้วยความเบิกบานใจของผู้เป็นนายทำให้ชินกับเรียวลอบสบตากันพร้อมกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูกว่าดีใจหรือเสียใจที่ทั้งสองคนมีส่วนร่วมบ่มเพาะนิสัยของคุณหนูกอหญ้าที่ควรจะอ่อนหวานเหมือนกุลสตรีทั่วๆไป กลายเป็นนางมารน้อยที่อาจจะโหดเหี้ยมไม่เท่าแก้มใสผู้เป็นมารดาแต่กลับเฉียบขาดและรวดเร็วไร้อาการลังเลเหมือนรามสูรผู้เป็นพี่ชายที่เรียกได้ว่าโหดเหี้ยมไร้ความปราณีอย่างแท้จริง“แล้วทางคุณหนูแก้มใสล่ะครับนายถ้าเกิดว่า...”“ปิดต่อไป ทำทุกวิถีทางไม่ให้แก้มใสรู้ว่ากอหญ้ากำลังทำอะไรอยู่พวกนายมีกี่ร้อยเล่ห์ก็งัดมาสู้กับแก้มใสให้หมด ลูกสาวของฉันคนนี้ฉลาดเกินไปเกรงว่ากอหญ้ายังไม่ทันลงมือคว้าเจ้าหนุ่มนั้นมาครอบครองสมใจแก้มใสก็คงจับแยกอย่
คอนโด Aใบหน้ายามหลับที่ดูคล้ายเด็กสาวไร้เดียงสาของกอหญ้าทำให้ภีมวัจน์ที่กำลังนอนเท้าแขนแอบมองว่าที่ภรรยาเผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อยด้วยความเอ็นดูเขาไม่รู้ว่าเธอกำลังฝันถึงอะไรแต่น่าจะเป็นฝันดีอย่างแน่นอนใบหน้ายามหลับของเธอถึงได้ประดับด้วยรอยยิ้มหวานชวนให้คนอดใจไม่ไหวต้องก้มหน้าลงไปแตะกลีบปากนุ่มของเธอเบาๆอย่างรักใคร่เสน่หา“ตื่นได้แล้วค่ะ”เมื่อเห็นว่าถึงเวลาที่ต้องลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวแล้วภีมวัจน์ก็ตัดสินใจยื่นหน้าไปกระซิบข้างใบหูเล็กหอมกรุ่นของคนที่กำลังนอนหลับฝันดีเบาๆส่งผลให้ดวงตาที่ปิดสนิทของเธอขยับเล็กน้อยก่อนที่จะลืมตาตื่นขึ้นมาสบดวงตาหวานฉ่ำของภีมวัจน์ในที่สุดถ้าจะมองเธอด้วยสายตาหวานฉ่ำขนาดนี้เธอไม่ไปทำงานแล้วได้ไหม?“ขอนอนต่ออีกนิดไม่ได้เหรอคะ”กอหญ้าเอ่ยบอกร่างสูงที่นอนเท้าแขนจ้องมองเธออย่างออดอ้อนก่อนจะพลิกกายไปอีกฝั่งแล้วปิดตาลงเพื่อนอนต่อตามที่บอกเขาทันทีเมื่อคืนกว่าเธอจะกลับมาถึงห้องก็เลยเที่ยงคืนไปแล้วแต่นั่นไม่ใช่ปัญหา เพราะคนที่ทำให้เธอไม่ได้นอนก็คือคนเจ้าเล่ห์ที่กำลังนอนจ้องเธออยู่ต่างหากเธอเพิ่งรู้ว่าผู้ชายอย่างภีมวัจน์นั้นพลังกายเหลือเฟือนอกจากเรี่ยวแรงที่เยอะมากใช้
“คนแรกปัณณ์ทิชา ดารานางแบบที่กำลังร้อนแรงบนโลกโซเชียลร้อนมากซะจนโซเชียลแทบระเบิดเพราะเรื่องที่เธอคบซ้อน คนที่มีข่าวฉาวขนาดนี้ทำไมพวกคุณถึงกล้าเสนอรายชื่อมาให้ท่านประธานเลือกขืนเอามาเป็นพรีเซนเตอร์จริงๆลูกค้าที่มาใช้บริการคงได้เลือกโรงพยาบาลซ้อนเหมือนพรีเซนเตอร์แน่นอนค่ะ”“คบซ้อนที่ไหนกันคะ อาทิตย์ก่อนคุณปัณณ์ทิชาเธอออกมาแก้ข่าวแล้วนะคะว่าเป็นข่าวเท็จ เธอไม่ได้คบซ้อนกับใครและไม่ได้แย่งแฟนใคร ปัจจุบันเธอยังรักกันดีกับแฟนพวกนักข่าวต่างหากที่เขียนข่าวโดยไม่มีมูล”ขวัญพิชชาโต้กลับกอหญ้าทันทีราวกับคนที่อยู่ใต้เตียงของนักแสดงที่เธอเป็นคนคัดเลือกให้เหลือเพียง 5 คนเรื่องนี้ลูกน้องในแผนกเคยคัดค้านเธอแล้วแต่ขวัญพิชชาเห็นว่าช่วงนี้ปัณณ์ทิชากำลังมือขึ้นไม่ว่าเธอจะเล่นละครหรือถ่ายโฆษณาอะไรก็ดังเป็นพลุแตกอีกทั้งยอดติดตามในอินสตาแกรมของเธอยังมากกว่าอีก 4 คนที่เหลืออีกด้วย“แล้วนี่เขาเรียกว่าคบซ้อนไหมคะ”กอหญ้าผลักซองเอกสารสีน้ำตาลที่วางอยู่ตรงหน้าของเธอไปให้ขวัญพิชชาอย่างไม่เกรงใจส่งผลให้ผู้อาวุโสที่มีอายุมากกว่ามารดาของเธอชักสีหน้าอย่างไม่สบอารมณ์แต่ก็เพียงแค่แวบเดียวเท่านั้นเพราะใบหน้าที่เย็นชาและด
“คุณหลอกกอหญ้ามาตลอดเลยใช่ไหมคะ”เมื่อกลับมาถึงห้องทำงานกอหญ้าก็ตีหน้าง้ำต่อว่าคนเจ้าเล่ห์ที่ทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาพร้อมรั้งเอวบางของเธอให้นั่งลงบนตักด้วยกันก่อนที่ภีมวัจน์จะซุกใบหน้าหล่อเหลาลงบนซอกคอหอมกรุ่นของสาวสวยที่อยู่ในอ้อมกอดพร้อมเอ่ยแก้ตัวด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยแววขบขัน“หืม ผมหลอกคุณตอนไหนกันไม่เห็นรู้เรื่องเลย”ภีมวัจน์แสร้งตีหน้าซื่ออย่างแนบเนียนใบหน้าหล่อเหลาในยามนี้เผยรอยยิ้มหวานละมุนชวนมองทำให้กอหญ้าถึงกับตาพร่ามัวไปชั่วขณะก่อนที่เธอจะส่ายหน้าไปมาแรงๆเพื่อดึงสติของตัวเองไม่ให้หลงใหลไปกับใบหน้างดงามที่ราวกับภาพวาดของจิตรกรชื่อดังระดับโลกของเขาเมื่อรับรู้ได้ว่าอีกฝ่ายกำลังใช้รอยยิ้มทรงเสน่ห์ล่อลวงให้ความคิดของเธอเกิดความสับสน“หึ ไม่ต้องมาใช้กลยุทธ์หนุ่มรูปงามล่อลวงกอหญ้าเลยนะคะ”ยามที่คำพูดรู้ทันเอ่ยขึ้นมือเรียวบางของกอหญ้าก็ยกขึ้นบีบจมูกโด่งของภีมวัจน์เบา ๆ ด้วยความมันเขี้ยวในใจพลันแอบคาดโทษเขาเอาไว้มากมายเมื่อเริ่มไขข้อสงสัยในใจจนใกล้กระจ่างแจ้งแล้ว“ผมไม่ได้ล่อลวงคุณสักหน่อยเป็นคุณเองต่างหากที่ยินดีถูกความหล่อของผมล่อลวงหัวใจ หรือไม่จริง?”น้ำเสียงหยอกเย้าที่มาพร้อมแววต
เป็นระยะเวลาหนึ่งเดือนแล้วที่กอหญ้าฝึกงานในตำแหน่งเลขาของภีมวัจน์ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ไม่มีนักศึกษาคนไหนเคยฝึกมาก่อนทุกคนในบริษัท AK Group ต่างรับรู้ว่าเธอคือเลขาที่พ่วงด้วยตำแหน่งคนรักของท่านประธานเป็นผู้หญิงที่ไม่ได้มีดีแค่หน้าตาแต่ความสามารถของเธอกลับเก่งกาจไม่แพ้ท่านประธานเลยแม้แต่น้อยส่งผลให้มุมมองที่มีต่อเด็กสาวของบรรดาพนักงานภายในบริษัทเริ่มเปลี่ยนไปจากความเกลียดชังและไม่ชอบใจของพนักงานบางกลุ่มที่ดูถูกว่าเธออายุน้อยแต่กลับใช้เสน่ห์ล่อลวงภีมวัจน์จนทำให้เขายกตำแหน่งเลขาให้เธอตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาฝึกงานกลายมาเป็นเสียงวิพากษ์วิจารณ์ด้วยความชื่นชม เมื่อกอหญ้าสามารถแสดงให้ทุกคนเห็นว่าเธอมีดีทั้งความสวยและความสามารถเป็นผู้หญิงที่คู่ควรกับภีมวัจน์อย่างไร้ข้อตำหนิส่วนฐานะทางบ้านของเธอนั้นต่อให้เธอไม่ป่าวประกาศออกไปทุกคนก็พอจะมองออกว่าครอบครัวของเธอนั้นมีฐานะดีในระดับหนึ่งPUB“กูคิดว่าจะต้องจุดธูปเรียกมึงแล้วซะอีกมึงถึงจะยอมโผล่จากอกผัวมาเจอหน้าพวกกู”เมื่อกอหญ้าเดินมานั่งลงบนโซฟาภายในผับชื่อดังวาจาเย้าหยอกก็หลุดออกมาจากปากของซันนี่ทันทีส่วนคนที่ถูกเพื่อนล้อเลียนกลับมีสีหน้าที่เรียบเฉยเย