เวลาล่วงเลยมา 4 วันกว่ามนันย์จะกลับมายังคฤหาสน์นันธ์เดชภาคย์ แม้จะไม่มีไข้แต่ร่างกายก็ยังอ่อนเพลียอยู่ดี ไหนจะเรื่องค่าใช้จ่ายที่แพงมหาศาลในความคิดของโอเมก้ากำพร้า ถึงท่านจะสัวจะส่งเสียตลอดเป็นรายปี แต่ก็ไม่ได้ให้มากมายจนเหลือกินเหลือใช้ มนันย์ประหยัดอดออมเพราะตั้งใจจะเก็บเงินก้อนนี้เอาไว้ใช้ตั้งตัวแต่ก็ต้องมาเสียเงินก้อนโตเกือบ 1 ใน 4 ของเงินทั้งหมดที่มีในบัญชี ยามที่ถอนเงินสดไปจ่าย มือขาวสั่นระริกเสียดายเงินก้อนโตได้แต่เพียงมองตาละห้อย โอเมก้าอีกหลายคนที่ไม่มีโอกาสได้เฉียดเข้ามาในสถานพยาบาลในย่านนี้เพียงเพราะไม่มีเงินมากพอ อีกทั้งที่เขาต้องรักษาตัวหลายวันเพราะร่างกายเกิดผิดปกติต่อต้านยากดฮีทที่ฝังอยู่ใต้ท้องแขน คุณหมอจึงรีบผ่าตัดเอาออก รอจนสภาพร่างกายดีขึ้นจึงแนะนำยาเม็ดชนิดใหม่ที่ราคาแพงและมีประสิทธิภาพมากกว่าแบบเก่าและคุณหมอยังแนะนำให้เขางดใช้ชนิดแบบฝังเพราะอาจจะมีผลกระทบต่อร่างกายในภายหลัง โดยเฉพาะกับมดลูก หากยังไม่แต่งงานให้ทานยาแทน หากแต่งงานยังแล้วให้ควบคุมโดยวิธีการทางธรรมชาติจะดีที่สุด แต่มนันย์ไม่มีตัวเลือกมากนัก อีกทั้งเขาจินตนาการที่ตัวเองแต่งงาน มีครอบครัวสมบูรณ์พูนสุขไม
“ไอ้นันวันพรุ่งนี้คุณๆเขาจะออกไปเที่ยวต่างจังหวัดเพราะว่าคุณชายทั้งสองห่างจากบ้านเกิดเมืองนอนไปนานคุณหญิงเลยจะชวนไปเที่ยวบ้านพักตากอากาศติดทะเลแถวทางใต้ข้าล่ะอยากเห็นทะเลเหมือนกันแต่ให้นั่งรถไปนานๆก็คงจะไม่ไหวเอ็งไม่อยากไปบ้างเหรอคุณท่านให้ข้ามาบอกใครอยากจะไปก็นั่งรถตามไปได้รถตู้สองคันเห็นนังแป้นกับนังสายว่าครั้งนี้จะไปมั้ง” ป้าสมจิตรบอกเล่าอย่างตื่นเต้น“ไม่ดีกว่าครับป้ากลัวว่าถ้าผมไปบรรยากาศก็คงจะกร่อยหมดป้าก็รู้ว่าทำไม” มนันย์หันมายิ้มให้ป้าสมจิตรตาหยีสองมือก็ขะมักเขม้นมักจัดการเช็ดล้างห้องครัวเหมือนอย่างที่เคยทำ“ไปตั้งหลายวันเอ็งก็จะได้พักไม่ต้องตื่นแต่เช้ามาเข้าครัวเตรียมอาหารเหมือนแต่ก่อนช่วงนี้อยากออกไปเที่ยวที่ไหนก็ได้นะข้าไม่ว่าหรอกไม่ต้องอยู่แต่ในนี้เอ็งยังหนุ่มยังแน่น” ป้าสมจิตรเอ่ยบอกอย่างเอ็นดูหากไม่มีเด็กตรงหน้าคอยช่วยเหลืองานต่างๆคนแก่ที่ต่อมรับรสลิ้นผิดเพี้ยนคงโดนเนรเทศจากเมืองใหญ่ไปใช้ชีวิตบ้านนอกเหมือนเดิมแม้จะทำงานเป็นคนใช้ในคนครัวแต่ว่ามีอาหารการกินครบ 3 มื้อบ้านไม่ต้องเช่าข้าวไม่ต้องซื้อแถมยังมีรายได้พอจุนเจือส่งเสียเลี้ยงหลานที่บ้านได้ก็เพียงพอแล้วแต่เด็กหนุ่มตร
มนันย์ทิ้งระยะห่างจากคนตรงหน้าไปเกือบสองช่วงแขน บ้านใหญ่นับครั้งได้ที่มนันย์จะมีโอกาสเหยียบย่างเข้ามา มาทีไรก็ไม่ได้สังเกตถึงความใหญ่โตโอ่อ่าของมัน ไม่ว่าจะเป็นแชงเดอเลียราคาแพง รูปวาดติดผนัง แถมฝ้าเพดานผนังห้องนั่งเล่นยังสูงเกือบ 3 เมตร ตัวบันไดทำด้วยหินอ่อนอย่างดี ไหนจะรูปปั้นต่าง ๆ มนันย์มองอย่างตื่นตาตื่นใจและภาวนาว่าคุณหญิงพรรำไพจะไม่เห็นตัวเองเข้า กลัวว่าเรื่องจะบานปลายไปกันใหญ่มนันย์มองห้องโถงต่างๆอย่างเพลินตาก่อนจะสะดุดตากับภาพติดฝาผนังที่ติดข้างประตูหน้าห้องนอนทางด้านฝั่งซ้ายของบันไดบันไดชั้นสองแยกเป็นสองฝั่งปีกซ้ายและปีกขวา “ห้องนั้นห้องของพี่ชัช” พิรภพตอบข้อสงสัยของมนันย์ที่แสดงออกมาทางใบหน้าแม้ไม่ต้องพูดเมื่อรู้ว่าเป็นห้องของใครก็จำใจละสายตาที่หน้าประตูก่อนจะเดินตามพิรภพเข้าไปในห้องนอนอย่างว่าง่ายทางด้านพิรชัชที่อยากจะออกไปเดินเล่นก่อนเข้านอนก็ได้เห็นหลังไวๆของใครสักคนผลุบเข้าไปในห้องนอนของน้องชายตัวเองเขาเบิกตากว้างไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองว่าน้องชายจะพาเด็กที่เลี้ยงไว้ในบ้านไปถึงในห้องนอนแม้ไม่รู้จุดประสงค์ของพิรภพแต่ก็คิดในทางที่ดีไม่ได้อีกทั้งเด็กคนนั้นยังดูเหมือนจะค
เช้าวันใหม่มนันย์ตื่นเช้าเหมือนเคย เขาดีใจได้เพียงไม่กี่อึดใจก็ได้ยินป้าสมจิตรวิ่งกระหืดกระหอบบอกให้เขาเตรียมตัวเก็บเสื้อผ้าเพราะท่านเจ้าสัวมีคำสั่งให้เขาไปเที่ยวทะเลด้วย มนันย์กลืนไม่ได้คายไม่ออกไม่รู้จะทำยังไงกับสถานการณ์ตรงหน้าตอนนี้เขาเองก็มานั่งอยู่ในรถตู้สำหรับพวกคนงานและคนใช้ มนันย์นั่งอยู่ท้ายสุดของที่นั่ง เขาไม่สนิทและสุงสิงกับใครมากนักยกเว้นป้าสมจิตร ไม่รู้เพราะอะไรท่านเจ้าสัวถึงอยากจะให้เขาอยู่ในสายตาตลอดเวลาเหมือนต้องการจะจับผิดกันยังไงยังงั้น มนันย์หัวเราะให้กับโชคชะตาของตัวเอง สายตามองออกไปข้างนอกทิวทัศน์ทั้งสองข้างทางอย่างใจลอย มนันย์ดีใจที่จะได้เห็นทะเลก็จริง แต่คงจะดีกว่านี้ถ้ามากับครอบครัวหรือคนที่ยอมรับในสิ่งที่เขาเป็น ไม่ใช่ในฐานะคนใช้หรือกาฝากแบบนี้การไปเที่ยวทะเลกับครอบครัวนันธเดชภาคย์สำหรับมนันย์เหมือนมีคลื่นยักษ์ใต้น้ำที่รอวันสาดซัดเข้าสู่ฝั่งมากกว่าคุณหญิงพรรำไพชักสีหน้าทันทีที่เห็นมนันย์แต่ก็ไม่พูดอะไรออกมาเพราะไม่อยากทำลายบรรยากาศอันดีงามอีกทั้งว่าที่ลูกสะใภ้ใหญ่อย่างแคทเทอลีนก็ร่วมเดินทางมาด้วยบุคลิกหญิงสาวที่ช่างพูดช่างจาและวางตัวดีตลอดทุกอิริยาบถทำเอามน
“อ๊ะ” เสียงร้องทำเอาราเชนหน้าตื่นก่อนมนันย์จะค่อยๆนั่งลงกับพื้นยกเท้าฝั่งซ้ายขึ้นมามองแม้เห็นไม่ชัดแต่สัมผัสได้ถึงกลิ่นคาวเลือดทำเอาอัลฟ่าบอดี้การ์ดขนลุกเกรียวจมูกสูดดอมดมพลางสอดส่ายตาหาที่มาของกลิ่นสองคิ้วนิ่วขมวดความคิดต่างๆที่เคยสงสัยเกี่ยวกับคนตรงหน้าเรื่องสถานะเพศรองตอนนี้ยิ่งพิสูจน์ได้ชัดกลิ่นเลือดของโอเมก้าที่ยังไม่ถูกตีตราทำพันธะก็ยั่วยวนอัลฟ่าให้เข้าหาไม่ต่างจากฟีโรโมนยามฮีทราเชนใช้ผ้าเช็ดหน้ากดตรงบาดแผลแล้วอุ้มมนันย์ในท่าเจ้าสาวตอนแรกมนันย์ดิ้นขลุกขลักอีกทั้งไม่เคยมีใครสัมผัสเขามากมายเท่าราเชนมาก่อนยิ่งอุ้มด้วยท่าเจ้าสาวแบบนี้แล้วมนันย์หน้าแดงก่ำไปด้วยความเขินอาย“วางผมลงเถอะครับ”“ถ้าไม่รีบไปตอนนี้จะยุ่งโอเมก้าที่ยังไม่ผูกพันธะไม่ควรเดินออกมาข้างนอกแบบนี้” ราเชนเอ่ยเสียงเรียบอีกทั้งโอเมก้าตรงหน้าไม่ได้สวมปลอกคอมนันย์นั่งนิ่งเหมือนหุ่นสองตาเบิกกว้างราเชนอุ้มมนันย์ไปทำความสะอาดแผลที่ลานหน้าบ้านก่อนจะอุ้มท่าเจ้าสาวเข้าไปยังห้องพักของเจ้าตัว“วางผมไว้ที่โซฟาก็ได้กางเกงคงจะเปื้อนทราย” ราเชนจึงอุ้มไปวางที่โซฟาทำตามอย่างว่าง่าย“ขอบคุณมากครับเดี๋ยวผมทำที่เหลือเองมันดูไม่ดีหาก…” ม
“มารยา” พิรชัชเอ่ยอย่างดูแคลนมนันย์ก้มหน้านิ่งไม่ตอบโต้อะไรทั้งนั้น“เหยียบเรือสองแคมหน้าไม่อาย” แม้จะงุนงงกับคำต่อว่าเหล่านั้นแต่มนันย์ก็ไม่ปริปากที่จะเถียงความทรงจำเมื่อตอน 3 ขวบที่ถูกอีกฝ่ายปรี่เข้ามาฉุดกระชากดึ้งทึ้งเสื้อผ้าชุดโปรดของเจ้าตัวที่เด็กน้อยกำลังสวมใส่ทำเอาโอเมก้าหวาดกลัวสุดขีดหัวใจเต้นระรัวหน้าอกเริ่มแน่นขนัดลมหายใจติดขัดจนต้องยกมือมากอบกุมหน้าอกตัวเองไว้แน่น“ฉันพูดแค่นี้รับไม่ได้—” คำพูดสะดุ้งเมื่อเห็นใบหน้าจิ้มลิ้มมองมาด้วยสีหน้าหวาดหวั่นดวงตาคู่สวยเอ้อล้นไปด้วยหยาดน้ำตาที่สำคัญกลิ่นหอมอ่อนๆโชยออกมาจนพิรชัชตัวแข็งทื่อร่างกายรู้สึกร้อนรุ่มวูบไหวไปด้วยแรงอารมณ์ปรารถนาที่พุ่งออกมาจากจิตใต้สำนึกดวงตาสีน้ำตาลเข้มเบิกตากว้างเมื่อได้กลิ่นหอมนั้นสติสัมปชัญญะเหลือน้อยลงทุกขณะมนันย์รู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยจึงเอ่ยเสียงแข็ง“ถ้าคุณชัชไม่มีอะไรแล้วผมขอตัว” มนันย์ไม่มีทางเลือกเขาจึงต้องตัดบทอย่างเสียมารยาท“นาย”มนันย์หันกลับรีบเดินรีบกลับห้องตัวเอง“กล้าดีนี่” พิรชัชปรี่เข้ามากระชากแขนเล็กนั้นอย่างแรงมนันย์เบ้หน้าด้วยความเจ็บความสูงที่ห่างกันทำให้มนันย์ต้องเงยสบตากับคนตัวสูงอย่าง
การมาเที่ยวทะเลในครั้งแรกของมนันย์ไม่มีเรื่องที่น่าจดจำ เขาต้องติดแหง็กอยู่ที่นี่อีกหลายวัน เห็นว่าคุณพิรชัชเกิดอาการรัทระทันหัน การรัทของอัลฟ่าจะมีแบบประจำปี จำนวนวันขึ้นอยู่กับวัยและแต่ละคนจะแตกต่างกัน การรัทกะทันหันสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเวลาหากเกิดการกระตุ้นจากสิ่งเร้า นั่นก็คือฟีโรโมนของโอเมก้า มนันย์ไม่เข้าใจมากนักในเรื่องนี้ อีกทั้งชีวิตของเขาก็ไม่มีเพื่อนหรือสังคมให้ต้องเรียนรู้หรือทำความเข้าใจธรรมชาติในเรื่องอย่างว่านั้นสักเท่าไหร่ หากมีการเรียนรู้ได้เข้าสังคมเหมือนคนอื่น ๆ ในวัยเดียวกัน เขาอาจจะมีภูมิคุ้มกันและรู้วิธีการรับมือกับการฮีทกะทันหันและการรัทของอัลฟ่าได้บ้าง ไม่ใช่เหมือนคนโง่บ้าใบ้ที่ได้แต่พยายามปกป้องร่างกายตัวเองด้วยแรงอันน้อยนิด ต่อกรกับอัลฟ่าที่กำลังรัทด้วยสองมือและแขนขาที่อ่อนแรง เมื่อคืนเขายังโชคดี แต่ไม่รู้ว่าความโชคดีจะหมุนเวียนมาอีกเมื่อไหร่โอเมก้าร่างน้อยนั่งเหม่อมองอยู่ที่ริมชายหาดตัวคนเดียวเข่าทั้งสองข้างชันขึ้นมาสองแขนเท้าอยู่บนเข่าเหม่อมองท้องทะเลด้านหน้าอย่างเหม่อลอยความคิดล่องลอยไปไกลจนไม่รู้สึกว่ามีใครอีกคนมานั่งอยู่ข้างๆ“นันมนันย์”“คะครับ” มนันย์ต
“อ๊ะ” เสียงร้องทำเอาราเชนหน้าตื่นก่อนมนันย์จะค่อยๆนั่งลงกับพื้นยกเท้าฝั่งซ้ายขึ้นมามองแม้เห็นไม่ชัดแต่สัมผัสได้ถึงกลิ่นคาวเลือดทำเอาอัลฟ่าบอดี้การ์ดขนลุกเกรียวจมูกสูดดอมดมพลางสอดส่ายตาหาที่มาของกลิ่นสองคิ้วนิ่วขมวดความคิดต่างๆที่เคยสงสัยเกี่ยวกับคนตรงหน้าเรื่องสถานะเพศรองตอนนี้ยิ่งพิสูจน์ได้ชัดกลิ่นเลือดของโอเมก้าที่ยังไม่ถูกตีตราทำพันธะก็ยั่วยวนอัลฟ่าให้เข้าหาไม่ต่างจากฟีโรโมนยามฮีทราเชนใช้ผ้าเช็ดหน้ากดตรงบาดแผลแล้วอุ้มมนันย์ในท่าเจ้าสาวตอนแรกมนันย์ดิ้นขลุกขลักอีกทั้งไม่เคยมีใครสัมผัสเขามากมายเท่าราเชนมาก่อนยิ่งอุ้มด้วยท่าเจ้าสาวแบบนี้แล้วมนันย์หน้าแดงก่ำไปด้วยความเขินอาย“วางผมลงเถอะครับ”“ถ้าไม่รีบไปตอนนี้จะยุ่งโอเมก้าที่ยังไม่ผูกพันธะไม่ควรเดินออกมาข้างนอกแบบนี้” ราเชนเอ่ยเสียงเรียบอีกทั้งโอเมก้าตรงหน้าไม่ได้สวมปลอกคอมนันย์นั่งนิ่งเหมือนหุ่นสองตาเบิกกว้างราเชนอุ้มมนันย์ไปทำความสะอาดแผลที่ลานหน้าบ้านก่อนจะอุ้มท่าเจ้าสาวเข้าไปยังห้องพักของเจ้าตัว“วางผมไว้ที่โซฟาก็ได้กางเกงคงจะเปื้อนทราย” ราเชนจึงอุ้มไปวางที่โซฟาทำตามอย่างว่าง่าย“ขอบคุณมากครับเดี๋ยวผมทำที่เหลือเองมันดูไม่ดีหาก…” ม
การสอบชิงทุน E ใกล้เข้ามาแล้วเหลือเวลาเพียงอีกไม่กี่สัปดาห์ให้มนันย์ได้ทบทวนเนื้อหาทั้งหมดก่อนจะเข้าสอบ ทุนนี้เป็นทุนที่โอเมก้ายากไร้ต่างใฝ่ฝัน มันเสมือนเป็นใบเบิกทางที่จะการันตีว่าผู้ที่สอบได้ทุนนี้ หากสำเร็จเล่าเรียนออกมามีงานรองรับแน่นอน และที่สำคัญคงจะเป็นการได้ร่ำเรียนในประเทศโลกที่ 1 ที่ค่าครองชีพแพงหูฉี่ อีกทั้งเป็นการเปิดโลกกว้างของตัวเอง มนันย์จึงคาดหวังไว้เอาไว้สูง และสมัครลงศูนย์สอบในตัวเมือง แต่ก็ไม่รู้ว่ากว่าจะถึงเวลานั้นจะมีเวลาปลีกตัวไปสอบหรือไม่ เพราะระยะเวลาการสอบมีทั้งช่วงเช้าและช่วงบ่าย อีกทั้งช่วงนี้คุณชัชดูเหมือนจะเรียกใช้เขาบ่อยกว่าปกติและดูเหมือนว่าจะมีชีวิตชีวามากกว่าแต่ก่อน“ป้ามะลิทำไมวันนี้เตรียมของเยอะจังเลยล่ะครับ” มนันย์อดสงสัยไม่ได้เพราะข้าวของที่จัดเตรียมตรงลานกว้างเหมือนจะไปเข้าค่ายพักแรมสัก 2-3 วัน จึงอดถามไม่ได้“เอ้าคุณมีนาไม่ทราบเหรอคะ คุณท่านจะไปพักที่โฮมสเตย์น้ำพุร้อนที่หลังเขาน่ะค่ะ”“น้ำพุร้อน?”“ใช่ค่ะ เอาเป็นว่าคุณมีนาไปเตรียมตัวเถอะนะคะ เดี๋ยวของใช้ต่าง ๆ ป้ากับตาสงจะเตรียมเอง”“ขอบคุณมากครับ”มนันย์หมุนตัวจะเข้าไปเก็บของห้องตัวเองแต่ก็ชะงัก
แม้จะพูดได้ไม่เต็มปากว่าถูกควบคุมด้วยฤทธิ์ของฟีโรโมนแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าตัวเขาเองก็เต็มใจทอดกายให้พิรชัชได้เชยชม มนันย์ลูบต้นคอตัวเองอย่างเหม่อลอย ตราประทับสลักลงหลังคออย่างสมบูรณ์ เขายิ้มเยาะให้ตัวเองก่อนจะหยิบยาสามเม็ดที่วางอยู่บนหัวเตียงเข้าปากอย่างขมขื่น โอเมก้าลากสภาพร่างกายอันหนักอึ้งไปอาบน้ำ น้ำสีขาวขุ่นผสมกับเลือดไหลตามน่องขา ส่วนล่างชายิบแทบไม่รู้สึก ร่างกายร้อนรุ่มไปด้วยพิษไข้ หน้ากระจกที่สะท้อนภาพตัวเองปากแตกเลือดซิบ ลำคอหน้าอก หน้าท้องมีแต่รอยขมเม้ม จ้ำช้ำเป็นจุด ๆ เอวแดงเถือกเป็นรอยบีบเคล้น ช่องทางหลังเหมือนจะฉีกขาดสี่วันสามคืนที่ถูกกกกอดระยะเวลายาวนานขนาดนั้นกลับเป็นเพียงพริบตาหนึ่งเท่านั้นแม้ไม่หนักหนาสาหัสแต่สภาพก็ไม่ได้ดีนักในตอนเช้าตรู่ที่ลุกขึ้นนอนมนันย์เวียนหัวหน้ามืดแต่ก็ฝืนกายลุกขึ้นมาเขาจะมัวแต่นอนซมไม่ได้เพราะยังมีพิรชัชที่ต้องคอยดูแลมนันย์ไม่ลืมหน้าที่ตัวเองจัดการทำธุระส่วนตัวเสร็จก็โทรบอกคุณลุงคนขับรถอีกทั้งให้ป้ามะลิตระเตรียมอาหารเช้าพร้อมเข้ามาดูแลแทนสักครึ่งวันแม้ป้ามะลิไม่ถามไถ่แต่มนันย์รู้ดีว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาทั้งสองไม่ใช่ความลับอีกต่อไปมนันย์
มนันย์ได้แต่ยืนนิ่งเหมือนหุ่นปั้น ปล่อยให้ฝ่ามือร้อนลากไล้ไปตามร่างกายตามอำเภอใจ แรงกอดรัดเริ่มรุนแรงขึ้น แม้อยากจะดิ้นหนีสักเท่าไหร่กลับถูกพันธนาการแน่นยิ่งขึ้น ในยามอัลฟ่ารัทจะสูญเสียสติสัมปชัญญะโดยสมบูรณ์ หากดิ้นหนีหรือต่อกรมากเท่าไหร่ ความรุนแรง ความอยากเอาชนะก็จะมากขึ้นเท่านั้น โอเมก้าที่สรีระอ่อนแอกว่ามักตกอยู่ในสภาวะจำยอม หากไม่อยากเจ็บตัวและเกิดการบาดเจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์มักจะยอมลู่ไปตามลม หากฝืนต้านทานไว้อาจไม่มีลมหายใจอีกต่อไป คู่นอนโอเมก้าบางคนถึงขั้นล้มหมอนนอนเสื่อถูกหามเข้าโรงพยาบาลก็มาก หากไม่อยากเจ็บตัวมากไปกว่านี้ย่อมไม่มีทางเลือกอื่น มนันย์ขบเม้มริมฝีปากไว้แน่นไม่กล้าเผยเสียงครางออกมาเมื่ออีกฝ่ายขบเม้มบริเวณหลังคอ บริเวณที่ไวต่อสัมผัสที่สุดของโอเมก้า อีกทั้งกลิ่นหอมกรุ่นยังออกมาจากบริเวณหลังคอนี้ อัลฟ่าที่ตกอยู่ในสภาวะรัทไม่สนใจว่าคนที่อยู่ในอ้อมแขนจะเป็นใคร ขอเพียงมีคนรองรับความกำหนัดที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นใครหน้าไหนตอนนี้ก็ไม่เกี่ยงทั้งนั้นจมูกที่ได้รับกลิ่นเพี้ยนมาหลายสัปดาห์กลับได้กลิ่นหอมตรงซอกคอขาวเป็นกลิ่นที่อัลฟ่าเองก็อธิบายไม่ถูกมันเป็นกลิ่นที่ทำให้เขาหลงใหล
“คุณพิรชัชครับอาหารเช้าเสร็จแล้วครับ” มนันย์เคาะอยู่หลายครั้งแต่ก็ไม่มีท่าที่ว่าจะเปิดกำลังจะบิดประตูเข้าไปประตูห้องนอนก็เปิดออกมาไม่ทันตั้งตัวจนมนันย์เซเข้าไปอยู่ในอ้อมอกของพิรชัชมนันย์ตาเหลือกลนลานรีบขอโทษขอโพย“ผมขอโทษครับที่ไม่ระวังคุณพิรชัชเจ็บตรงไหนหรือเปล่าครับผมขอโทษจริงๆ” พลางก้มหัวปลกๆเอ่ยขอโทษออกมาไม่ขาดสาย“ขอโทษพอหรือยัง”“…”มนันย์ได้สติจึงเอ่ยถาม “ผมขออนุญาตพยุงคุณไปยังโต๊ะอาหารนะครับ” รอจนพิรชัชตอบ ‘อืม’ มนันย์จึงค่อยๆพยุงแขนพาก้าวเดินไปยังโต๊ะอาหารเช้าที่ตั้งอยู่ลานด้านนอกบรรยากาศสดชื่นเย็นสบายไอหมอกปกคลุมบนยอดภูเขาก่อนพระอาทิตย์จะค่อยๆทอแสงให้ความอบอุ่นกำลังดี“เชิญครับ” เมื่อเห็นว่าพิรชัชนั่งลงเรียบร้อยก็เอ่ยปากถาม“จะรับกาแฟชาหรือน้ำส้มดีครับ”“กาแฟ”“ครับ” มนันย์รับคำก่อนจะจัดแจงอธิบายว่าอาหารอะไรอยู่ตรงไหนก่อนจะเอ่ยปาก“งั้นผมขอตัวสักครู่นะครับ” พิรชัชเพียงแต่พยักหน้าแต่ก็ไม่ได้ถามไถ่อะไรอีกมนันย์เข้ามานั่งกินข้าวต้มในครัวสายตาก็มองพิรชัชที่กำลังนั่งกินข้าวอยู่ข้างนอกคนเดียวอีกทั้งตัวบ้านเป็นพื้นที่โล่งกว้างไม่มีเฟอร์นิเจอร์อะไรมากมายไม่มีกั้นห้องเป็นสัดเป็นส่วน
รถตู้มาถึงบ้านพักตากอากาศทางภาคเหนือก็ตะวันตกดินพอดีการเดินทางไม่เร่งรีบจึงใช้เวลามากกว่าปกติหลายชั่วโมงบ้านไม้ยกสูงชั้นเดียวหลังคาทรงไทยอากาศถ่ายเทปลอดโปร่งเหมาะแก่การมาพักผ่อนและฟื้นฟูร่างกายสำหรับผู้ป่วยเป็นอย่างมากรายล้อมไปด้วยธรรมชาติหลบหลีกเรื่องราววุ่นๆในโซเชี่ยลได้เป็นอย่างดีแม้บรรยากาศจะดีและสวยงามสักแค่ไหนคนที่ประสบอุบัติเหตุมาหยกๆกลับไม่รู้สึกถึงอะไรนอกจากอยากจะเก็บตัวปลีกวิเวกมากกว่าอีกทั้งบ้านพักตากอากาศแห่งนี้เป็นหนึ่งในกิจการของทางฝั่งคุณหญิงพรรำไพรอบๆบ้านแห่งนี้ปลูกดอกพีโอนีไว้สุดลูกหูลูกตาเพราะเก็บเป็นหัวเชื้อน้ำหอมและดอกไม้อบแห้งส่งออกไปยังต่างประเทศด้วยเหตุนี้พรรำไพจึงคะยั้นคะยอให้ลูกชายดั้นด้นมารักษาตัวไกลถึงที่นี่เพราะบรรยากาศล้วนอบอวลไปด้วยกลิ่นที่พิรชัชจำใจต้องชอบในขณะนี้แม้ว่าก่อนหน้าจะเป็นกลิ่นที่อัลฟ่าอย่างพิรชัชไม่คิดจะเฉียดกรายเข้าไปใกล้ด้วยความที่เรียนและรับวัฒนธรรมตะวันตกมาค่อนชีวิตกลิ่นของมันออกจะฉุนสักเล็กน้อยอีกทั้งความหมายก็ไม่ดีเท่าไหร่ด้วยเหตุนี้เขาจึงไม่ชอบกลิ่นของมันร่างกายที่ซูบผอมของอัลฟ่าก้าวเท้าออกมาจากรถตู้อย่างเชื่องช้ายืดเส้นยืดสายอยู่สักค
เหตุการณ์ครั้งนี้เปลี่ยนความคิดและการดำเนินชีวิตของพรรำไพเป็นอย่างมากอีกทั้งลูกชายคนเล็กที่บาดเจ็บเล็กน้อยนั้นเพราะบอดี้การ์ดส่วนตัวที่จ้างมาทำไมเธอถึงไม่เอะใจตั้งแต่แรกนะระหว่างความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสองไม่ใช่สถานะเจ้านายกับลูกน้องที่เข้าใจตั้งแต่แรกเพียงเพราะอคติบังตาเธอจึงมองไม่เห็นความสุขของลูกชายทั้งสองเห็นเพียงความเหมาะสมต่อหน้าตาวงศ์ตระกูลอีกทั้งคำสรรเสริญจอมปลอมที่พวกคุณหญิงคุณนายคอยพูดกรอกหูจนมองโลกผิดเพี้ยนไปหมดเอาความต้องการของตัวเองเป็นที่ตั้งหากไม่มีอุบัติเหตุครั้งนี้ไม่รู้ว่าเธอจะเปิดตาเปิดใจให้กับความสุขของลูกเมื่อไหร่อย่างน้อยเรื่องร้ายๆก็ยังมีเรื่องดีๆเข้ามาอยู่บ้างต่อจากนี้เธอสัญญากับตัวเองจะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ให้มีความสุขมองความสุขของลูกเป็นที่ตั้งจะไม่ยัดเยียดการเลือกคู่ของพวกเขาอีกอีกทั้งยังเคารพการตัดสินใจไม่ก้าวก่ายและไม่เหยียดหยามคนอื่นเพียงเพราะแค่เพศรองเพศไหนก็มีศักดิ์ศรีความเป็นคนเท่าเทียมกันโดยเฉพาะเพศสภาพโอเมก้าพนักงานทำความสะอาดโรงพยาบาลทำเอาเธอประทับใจเช่นกันที่เห็นกระเป๋าเงินแบรนด์เนมของเธอหล่นก็ยังเก็บมาคืนของข้างในรวมถึงเงินครบทุกบาททุกสตางค์เงินแ
“สวัสดีครับ” มนันย์เอ่ยเสียงทักทายท่านเจ้าสัว หลังจากเกิดอุบัติเหตุผ่านมาหลายวัน ร่างกายท่านซูบลงเล็กน้อย มนันย์จัดแจงยกปิ่นโตไปวางไว้ตรงเค้าเตอร์ห้องครัว ก่อนจะเดินมายืนข้างเตียงถามไถ่อาการท่านเจ้าสัว“เป็นยังไงบ้างครับ”“ก็ดีขึ้นแล้วล่ะ” สายตาที่ทอดมองเด็กหนุ่มตรงหน้าจดจ้องทำเอาเจ้าตัววางตัวไม่ถูกก่อนจะเอ่ยความคิดที่เขาไตร่ตรองมาอยู่หลายวันจวบจนถึงตอนนี้ไม่มีอะไรจะร้องขอคนตรงหน้าอีกแล้วนอกจาก…“เรื่องที่เธออยากออกไปใช้ชีวิตข้างนอกฉันตกลงแต่ฉันมีเรื่องให้เธอช่วยอย่างหนึ่งได้หรือเปล่า”“…”ที่ว่าลูกชายคนโตของท่านเจ้าสัวเจ็บหนักที่สุดแต่ตัวมนันย์เองก็ไม่คิดว่าจะบาดเจ็บจนถึงขั้นสูญเสียการมองเห็นอีกทั้งต่อมรับกลิ่นผิดเพี้ยนไปจากเดิมไม่แน่ว่าอาจจะเป็น (Hyposmia) ผู้ป่วยที่มีความสามารถในการรับกลิ่นน้อยลงหรือ (Dysosmia) จมูกได้กลิ่นเปลี่ยนไปเกิดจากที่ศีรษะได้รับกระทบกระเทือนอย่างแรงความทรงจำบางส่วนขาดหายไปไหนจะอาการหูอื้อทั้งสองข้างซึ่งการประเมินเบื้องต้นอาการเหล่านี้อาจจะค่อยๆฟื้นตัวจนกลับมาเป็นปกติได้หรือไม่ต้องอาศัยการผ่าตัดซึ่งหมอจะทำการนัดครั้งต่อไปเมื่อร่างกายภายในฟื้นตัวดีแล้วสองเท้
โอเมก้าเมื่อถึงวัยเจริญพันธุ์ไม่ว่าจะเป็นรูปร่าง สรีระ ฟีโรโมนล้วนแสดงออกมากทางกายภาพ แม้มนันย์จะบอกปัดว่าเขาเป็นเบต้า แม้ฟีโรโมนจะบางเบาแต่การที่เขาใช้ชีวิตรายล้อมไปด้วยอัลฟ่าสายเลือดบริสุทธิ์ สักวันก็คงจะโดนจับได้ แม้จะมีท่านเจ้าสัวที่คอยหนุนหลังสนับสนุนอยู่ห่าง ๆ แต่อย่างว่าคนนอกอย่างเขาก็คงจะสู้เสียงของนายหญิงอย่างพรรำไพไม่ได้อยู่ดี ที่สำคัญอาการฮีทมักมาไม่ตรงรอบ มนันย์กลัวที่สุดในชีวิตคือการฮีทกะทันหันตรงหน้าอัลฟ่า แม้จะมีปลอกคอแต่ก็ไม่ได้เป็นเกราะป้องกันว่าเขาจะปลอดภัยไม่ได้รับรอยขีดข่วนแม้แต่ปลายเล็บ ชีวิตโอเมก้าน่ะไม่มีสิทธิ์มีเสียงมาแต่ไหนแต่ไรชีวิตตัวคนเดียวหัวเดียวกระเทียมลีบอย่างมนันย์หากมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันคงไม่มีใครหน้าไหนอยากยื่นมือเข้ามาช่วยแม้แต่คุณแคทเทอลีนเป็นเบต้าหญิงแท้ๆยังดูออกมนันย์ลูบที่ต้นคอด้านหลังตัวเองอย่างเหม่อลอยเขาวางแผนไว้แล้วว่าแม้จะได้งานทำแต่ยังไงสักวันก็คงหนีไม่พ้นบ้านนันธ์เดชภาคย์ไม่ได้อยู่ดีสู้สอบเอาทุนเรียนดีไปเรียนต่อที่ต่างประเทศสักที่ที่ที่มนุษย์ทุกคนเท่าเทียมกันไม่มีแบ่งแยกเพศหลักเพศรองแล้วทุน E ก็เป็นทุนที่ครอบคลุมมากที่สุดทุนหนึ่งอีกทั้งเป
การเดินทางกลับเลื่อนออกไปจากกำหนดถึง 3 วันเพราะพิรชัชรัทกะทันหันเขาขลุกอยู่แต่ในห้องกับแคทเทอลีนเนื้อแนบเนื้ออยู่หลายวันจนแคทเทอลีนขยาดรสรักอันร้อนแรงจากคนรักส่วนอัลฟ่ารู้สึกไม่เต็มอิ่มและสุขสมเฉกเช่นทุกครั้งพิรชัชก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรเหมือนกันเขาตักตวงจ้วงแทงเอาความสุขจากเรือนร่างเบต้าใต้ร่างอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยแคททอลีนนึกว่าเธอจะตายคาเตียงแล้วซะอีกเมื่อคนข้างหลังเร่งจังหวะสุดท้ายก่อนจะเชิดหน้าครางคำรามด้วยความสุขสมเมื่อปลดปล่อยน้ำสีขาวขุ่นเข้าไปในโพรงอุ่นนั้นเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะฟุบหลับไปด้วยความอ่อนเพลียแคทเทอลีนเองก็เช่นกันอาการรัทของพิรชัชต่างออกไปจากทุกครั้งเขารู้สึกแปลกออกไปเมื่อได้กอดแคทเทอลีนเธอเป็นแฟนสาวที่คบหากันมาหลายปีต่างก็มีเปรยๆเรื่องการหมั้นหมายและแต่งงานอยู่บ้างแต่คราวนี้ความรู้สึกบางอย่างผุดขึ้นในอกจนเขาเองก็ไม่รู้ว่าจะอธิบายความรู้สึกนั้นอย่างไรดีเมื่อได้สัมผัสร่างกายผิวนุ่มลื่นกลิ่นหอมเย้ายวนจากมนันย์คนที่เขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะเป็นโอเมก้าอีกทั้งพ่อของเขาย่อมรู้เรื่องนี้และมีเหตุผลอะไรที่ต้องปกปิดมาตลอดหลายปีความคิดมากมายเริ่มตีรวนฟุ้งซ่านขึ้นมาในหัวหร