คณะแพทย์ศาสตร์ “แกกับอาจารย์รามสูรนี่ยังไงทำไมเด็กห้องอื่นมันเอาไปลือกันให้ทั่วว่ามีซัมติงกัน”ทับทิมเอ่ยแซวใบเฟิร์นทันทีที่เธอนั่งลงบนเก้าอี้ม้าหินอ่อนในขณะที่ใบเฟิร์นได้แต่ขมวดคิ้วมุ่นอย่างแสร้งไม่เข้าใจกับคำถามของทับทิมทั้ง ๆที่ในใจของเธอนั้นรู้ดีกว่าใครว่าทำไมเพื่อนร่วมคณะถึงได้พากันพูดถึงเรื่องระหว่างเธอกับรามสูร“ซัมติงบ้าบออะไรกันเรื่องไร้สาระทั้งนั้น”น้ำเสียงราบเรียบเอ่ยบอกเพื่อนสนิททั้งสองคนที่พากันหรี่ตาจ้องมองเธออย่างจับผิด“ไม่มีซัมติงจริงอะ เพื่อนๆเอาการบ้านไปส่งทีไรก็เห็นเฟิร์นอยู่ในห้องทำงานของอาจารย์ตลอดมีครั้งหนึ่งที่คนเห็นแกล้มลงไปนั่งบนตักของอาจารย์ด้วยแหละ”ลูกปัดเล่าข่าวลือที่เธอได้ยินมาพร้อมกับลอบมองปฏิกิริยาของใบเฟิร์นไปด้วยซึ่งหลังจากที่เธอพูดจบสีหน้าของใบเฟิร์นก็ยังคงเรียบสนิทเหมือนเดิมทำให้พวกเธอได้แต่ลอบสบตากันด้วยความรู้สึกคลางแคลงใจ เพราะทุกครั้งหลังจากจบคาบเรียนของอาจารย์รามสูรใบเฟิร์นก็มักจะตามอาจารย์ไปที่ห้องพักเพื่อสอบถามข้อสงสัยเกี่ยวกับบทเรียนที่เธอไม่เข้าใจเสมอซึ่งถ้าไปเพียงครั้งสองครั้งพวกเธอจะไม่สงสัยในตัวของเพื่อนสนิทเลยแม้แต่น้อยแต่นี่
เช้าวันต่อมามหาวิทยาลัย Mทันทีที่รถซุปเปอร์คาร์คันหรูหยุดลงหน้าคณะวิศวกรรมศาสตร์สี่หนุ่มที่พากันโดดเรียนมาดักรอหม่อนไหมเพื่อถามถึงความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับรามสูรก็รีบพากันลุกขึ้นจากม้านั่งเดินตรงไปที่รถของรามสูรทันที โดยที่มีเตยหอมเดินตามหลังมาเงียบๆด้วยความรู้สึกผิดต่อหม่อนไหมที่เผลอหลุดปากพูดความจริงออกไปจนหมดทั้ง ๆที่เธอสัญญากับหม่อนไหมเอาไว้แล้วว่าจะช่วยปิดเป็นความลับจนถึงที่สุด“ซวยแล้วไหมล่ะ”หม่อนไหมที่กำลังจะเปิดประตูลงจากรถเบิกตากว้างด้วยความตกใจเมื่อเห็นเพื่อนๆของเธอกำลังพากันเดินตรงมาที่รถมือที่กำลังจะผลักประตูให้เปิดออกพลันดึงประตูปิดทันทีด้วยความรวดเร็ว แต่ก็ช้ากว่าสี่หนุ่มที่พากันวิ่งเข้ามายืนขวางรถของรามสูรเอาไว้ทำให้หม่อนไหมได้แต่หันไปมองรามสูรอย่างไม่รู้จะทำอย่างไรดีในขณะที่รามสูรได้แต่ยกยิ้มมุมปากน้อยๆราวกับกำลังเจอเรื่องสนุกสนานซึ่งตรงกันข้ามกับหม่อนไหมที่ตอนนี้สีหน้าเต็มไปด้วยความกังวลใจเพราะเธอยังไม่พร้อมที่จะเปิดเผยความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับรามสูรให้เพื่อนๆรู้“ออกมาเดี๋ยวนี้เลยนะเว้ยไอ้หม่อน”ไนน์ยกมือขึ้นกวักเรียกหม่อนไหมให้เปิดประตูรถออกมาเผชิญหน้ากับพวกเขาส
เจ้แมวขอเมาท์“อุ้ยตายแล้ว!! เจ้แมวก็คิดว่าน้องหม่อนคนแมนเขาชอบผู้หญิงด้วยกันซะอีกเวลาหนุ่มๆไปขายขนมจีบทีไรก็มักจะกินแห้วกลับมาทุกที แต่ แต่ แต่ ทุกคนขาเจ้แมวอยากจะกรีดร้องให้ดังไปทั้งมหา’ลัยเลยเมื่อล่าสุดมีคนตาดีแอบเห็นคนสวยขากำลังสวีทกับผู้อยู่ที่ร้านเค้กค่าทุกคน ทั้งโอบกอด ทั้งป้อนเค้กไม่แคร์สายตาชาวบ้านกันเลยค่ะ แต่ที่น่าตกใจมากกว่าเรื่องที่หนูหม่อนมีแฟนก็คือผู้ชายคนหล่อขาคืออาจารย์คนใหม่ของคณะแพทย์ศาสตร์ที่สายข่าวแอบกระซิบมาว่าทั้งหล่อ ทั้งรวย แต่เสียดายอาจารย์ขาของหนูหม่อนคนแมนเขามีภรรยาแล้วค่า เอ๊ะ เอ๊ะ อะไรยังไงกันน้าหรือว่าความรักของหนูหม่อนครั้งนี้จะเข้าตำรา แฟนเราแต่ผัวเขา อิ อิ อิ อุ้ย!!ไม่เอาไม่พูดดีกว่าใครมีวาร์ปอาจารย์คนหล่อปามาได้เลยค่า”“เรื่องเหี้ยอะไรว่ะเนี่ย”เตยหอมที่กำลังนั่งอ่านข่าวเมาท์มอยของมหา’ลัยอุทานออกมาเสียงดังลั่นด้วยความตกใจทำเอาเพื่อนๆที่กำลังซักถามประวัติของรามสูรถึงกับพากันชะงักไปตามๆกันก่อนที่ธีร์จะหันมาหาเตยหอมที่ค่อยๆเงยหน้าขึ้นจ้องรามสูรด้วยความตกใจ“มึงเป็นอะไรของมึงเนี่ยไอ้เตยร้องเสียงดังลั่นขนาดนี้หลานกูตกใจหมดแล้ว”ธีร์เอ่ยถามเตยหอมที่ยังคงจ้
“หนูหม่อนจ๋าใจคอหนูจะไม่ยอมยกโทษให้เฮียเลยเหรอคะ”น้ำเสียงของรามสูรแฝงไปด้วยเสี้ยวของการเว้าวอนอย่างห้ามไม่อยู่เมื่อเช้านี้หม่อนไหมยังคงมีท่าทีเย็นชากับเขาเช่นเคยใบหน้าเนียนสวยที่แต่งแต้มอย่างสวยงามนั้นเรียบสนิททำเอารามสูรเดาไม่ออกเลยสักนิดว่าตอนนี้หม่อนไหมกำลังคิดอะไรอยู่“ตอนทำไม่คิดพอสำนึกผิดมาขอให้ยกโทษให้หนูหม่อนไม่ใจอ่อนง่ายๆหรอกค่ะ”น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความหนักแน่นและเด็ดขาดทำให้สองขาของรามสูรแทบทรุดลงบนพื้นอย่างหม่อนแรงดวงตาคู่คมได้แต่มองหม่อนไหมที่ทานมื้อเช้าด้วยความเอร็ดอร่อยโดยที่ไม่สนใจเขาเลยแม้แต่น้อยเธอทำราวกับว่าเขาไม่มีตัวตนทำให้รามสูรยิ่งรู้สึกปวดใจจนแทบอยากจะร้องไห้ออกมาให้รู้แล้วรู้รอดหม่อนไหมแอบเหลือบตาขึ้นมองรามสูรที่เอาแต่ก้มหน้าไม่พูดไม่จาก่อนที่เธอจะแอบยิ้มขำด้วยความสะใจช่วยไม่ได้ในเมื่อเขาอยากปิดบังเธอก่อน เธอก็จะขอเอาคืนด้วยการงอนเขาจนกว่าจะพอใจก็แล้วกันถือซะว่าทีใครทีมันวันไหนที่เธอหายงอนเธอจะอ้อนเขาให้ฉ่ำปอดไปเลยคอยดู“อ้อ ไม่ต้องไปส่งหนูหม่อนนะคะเพราะว่าเตยหอมมารอรับข้างล่างแล้ว”ขาที่กำลังจะก้าวเดินตามหม่อนไหมไปชะงักหยุดอยู่กับที่ทันทีเมื่อได้ยินเธอบอกอ
ผับ“นี่เงินค่าจ้างส่วนที่เหลือของเธอ”ใบเฟิร์นผลักซองสีน้ำตาลไปตรงหน้าของส้มหวานเจ้าของเพจเมาท์มอยของมหาวิทยาลัยที่ยื่นมือสั่นระริกมารับซองเงินนั้นไว้ด้วยความรู้สึกหวาดกลัวจับใจเมื่อด้านหลังของเธอนั้นมีใครบางคนกำลังนั่งฟังบทสนทนาระหว่างเธอและใบเฟิร์นอยู่เงียบๆ“แล้วถ้าเรื่องที่เธอบอกให้ฉันโพสต์ไม่ใช่เรื่องจริงล่ะ บางทีหม่อนไหมอาจจะเป็นภรรยาของอาจารย์รามสูรจริงๆก็ได้นะเฟิร์น”ส้มหวานพูดขึ้นอย่างต้องการหยั่งเชิงใบเฟิร์นที่แสยะยิ้มร้ายออกมาอย่างไม่แคร์ภาพลักษณ์สาวน้อยน่ารักอ่อนหวานที่เธอสร้างภาพเอาไว้ที่มหาวิทยาลัยเลยสักนิดก่อนที่เธอจะยกไวน์ขึ้นกระดกรวดเดียวจนหมดแก้ว“หึ ไม่มีทางสองคนนี้ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนด้วยซ้ำหม่อนไหมไม่มีทางเป็นภรรยาของอาจารย์รามสูรแน่นอน”ใบเฟิร์นตอบกลับส้มหวานด้วยความมั่นใจว่าอย่างไรแล้วข่าวที่คนของบิดาสืบมาไม่มีทางผิดพลาดอย่างแน่นอนเพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอกับส้มหวานร่วมมือกันทำเรื่องสกปรกใส่ร้ายคนอื่นเช่นนี้ทุกครั้งที่ใบเฟิร์นแอบชอบใครสักคนแต่ผู้ชายคนนั้นมีคนที่คบอยู่แล้วหรือกำลังคุยกันอยู่ใบเฟิร์นก็พร้อมที่จะทำลายอีกฝ่ายด้วยการใส่ร้ายป้ายสีหรือไม่ก็จัดฉาก
Red-Eye PUB“เอาจริงดิ”รามสูรเอ่ยถามคนเจ้าแผนการอย่างธีร์ด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นกลางอกพลันร้อนวูบวาบด้วยความกระวนกระวายใจเมื่อถูกเพื่อนๆของหม่อนไหมคะยั้นคะยอให้รับบทพระเอกผู้อ่อนแอหนึ่งวัน เพื่อให้หม่อนไหมสงสารเห็นใจและยอมยกโทษให้เขาซึ่งแผนการนี้รามสูรมองว่าไร้สาระสิ้นดีแต่ดูเหมือนเพื่อนๆของหม่อนไหมจะพากันมั่นใจมากถึงได้พยายามช่วยกันพูดเพื่อให้เขายอมตอบตกลงทำตามแผน“จริงสิเฮียล้อเล่นที่ไหนกันล่ะ พวกผมคิดว่าไอ้หม่อนมันรักเฮียมากถ้ามันได้เห็นภาพที่เฮียกำลังถูกพวกนักเลงรุมกระทืบมันต้องรีบวิ่งมาช่วยเฮียอย่างแน่นอนเพราะตอนนี้มันอยู่ที่คาเฟ่ใกล้ๆกันนี่เอง”น้ำเสียงจริงใจของคินน์ชวนให้รามสูรเริ่มคล้อยตามก่อนที่เขาจะนิ่งเงียบไปสักพักและยอมพยักหน้าตอบรับในที่สุดโดยที่รามสูรลืมคิดไปเลยว่าแผนการที่เพื่อนของหม่อนไหมยุยงคือแผนการของเด็กหนุ่มที่ไร้ซึ่งประสบการณ์ความรักโดยสิ้นเชิงและเขาเองก็ดันตกหลุมพรางอย่างไม่รู้ตัว“เฮียไม่ต้องกังวลนะครับเพราะพวกนักเลงที่จะมาเล่นละครช่วยเฮียก็คือเพื่อนสนิทอีกกลุ่มของพวกเราเองไอ้หม่อนมันไม่รู้จัก เพราะฉะนั้นเฮียมั่นใจได้เลยว่ามันไม่มีทางจับได้แน่นอนว่าพวกเรากำลังเล่
“ใครเป็นคนต้นคิด”น้ำเสียงดุดันเอ่ยถามหนุ่มๆที่ยืนเรียงแถวหน้ากระดานอยู่ตรงหน้าเธอดวงตาคู่งามพลันหรี่ลงและเป็นกายวาววับอย่างน่ากลัวก่อนที่ทุกคนจะพร้อมใจกันชี้ไปหาธีร์ที่เป็นคนคิดแผนการนี้ขึ้นมาทำให้ตัวต้นเรื่องถึงกับสะดุ้งวาบด้วยความตกใจทันที“มะ ไม่ใช่ผมนะครับ”“มึงนั่นแหละอย่ามาแถ”เจย์ที่ยืนอยู่ข้างๆรามสูรรีบหันไปต่อว่าเพื่อนที่กำลังยกมือขึ้นโบกไปมาเพื่อปฏิเสธทันทีในขณะที่แก้มใสเลิกคิ้วน้อยๆพร้อมเบนสายตามาทางธีร์ที่ตอนนี้ยืนอยู่เพียงลำพังเพราะเพื่อนๆต่างพากันหนีไปยืนอยู่ข้างๆรามสูรกันหมด“อ้อ คนนี้เองสินะ”“ที่ผมทำลงไปทั้งหมดก็เพราะว่าอยากให้ไอ้หม่อนมันยอมยกโทษให้เฮียรามนะครับคุณแม่ ผมหวังดีกับเฮียรามจากใจจริงไม่ได้มีเจตนาสร้างความวุ่นวายให้เฮียเลยนะครับ”แก้มใสสัมผัสได้ถึงน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความจริงใจจากคำสารภาพของเด็กหนุ่มถึงแม้ละครเรื่องนี้จะค่อนข้างไร้สาระแต่เธอก็พอจะเข้าใจความหวังดีของธีร์ที่มีต่อรามสูรซึ่งจริงๆแล้วคนที่ควรถูกเธอลงโทษก็คือลูกชายตัวดีของเธอต่างหาก“แล้วไป”คำพูดของแก้มใสทำให้หนุ่มๆต่างพากันถอนหายใจออกมาพร้อมกันด้วยความโล่งอกรวมถึงรามสูรด้วยที่คิดว่ามารดาค
หลังจากที่ทานมื้อเย็นเสร็จเรียบร้อยแล้วแก้มใสก็พาหม่อนไหมเดินขึ้นมาชั้นบนและเดินตรงไปที่ห้องๆหนึ่งซึ่งเป็นห้องนอนของกอหญ้าและรามสูรแต่จากคำอธิบายของแก้มใสตลอดทางที่เดินขึ้นบันไดมายังชั้นที่สองของบ้านหม่อนไหมจับใจความได้คร่าวๆว่าคฤหาสน์หลังนี้จะมีห้องนอนของทุกคนแยกเป็นสัดส่วนอย่างชัดเจนชั้นที่สองปีกขวาคือห้องนอน ห้องหนังสือ ห้องทำงาน และห้องนั่งเล่นหรือจะเรียกว่าเป็นอาณาจักรของคุณตากฤษฎิ์เลยก็ว่าได้ที่รวมทุกห้องไว้ในโซนเดียวกัน ส่วนทางด้านปีกซ้ายก็คือห้องนอนของคุณแม่แก้มใสและคุณพ่อวายุตามมาด้วยห้องนอนของพี่กอหญ้าน้องสาวฝาแฝดของเฮียรามและถัดไปคือห้องของเฮียรามนั่นเองและข้างห้องของเฮียรามยังมีห้องออกกำลังกายที่คุณตากฤษฎิ์จัดเตรียมเอาไว้ให้ทุกคนในครอบครัวอีกด้วยส่วนชั้นที่สามชั้นซึ่งเป็นชั้นบนสุดทางปีกซ้ายคือห้องนอนของคุณน้าเก้าทัพและครอบครัวตามมาด้วยห้องนั่งเล่นเกมขนาดใหญ่ที่เป็นมุมโปรดของครอบครัวส่วนโซนปีกขวาที่มีห้องพักทั้งหมด 4 ห้องคือห้องพักรับรองแขกของคุณตาซึ่งในแต่ละเดือนจะมีเพื่อนฝูงเดินทางมาจากต่างประเทศแวะมาเยี่ยมเยียนเสมอ“บ้านคุณตาใหญ่จังเลยนะคะ ใหญ่เหมือนวังเลยค่ะ”หม่อนไหม
เมื่อทราบว่าลูกชายประสบอุบัติเหตุรถยนต์พลิกคว่ำจนเกือบเอาชีวิตไม่รอดแต่เจ้าตัวก็ยังลากสังขารมาหาหม่อนไหมที่เพิ่งคลอดวายุก็ถึงกับหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออกในใจอยากจะต่อว่าและหยิบไม้เรียวขึ้นมาฟาดลูกชายหัวดื้อสักสิบครั้งให้หลาบจำแต่มือเจ้ากรรมกลับหยิบได้เพียงมีดและเข็มมือไม้พันกันระวิงด้วยความวุ่นวายเมื่อการผ่าตัดเป็นไปด้วยความทุลักทุเลเพราะความดื้อดึงของรามสูรทำให้เขาเสียเลือดมากการผ่าตัดจึงเข้าขั้นวิกฤติแต่วายุกลับไม่รู้สึกหวั่นใจแต่อย่างใดเพราะคนที่เขากำลังใช้มีดกรีดลงไปบนผิวหนังสีขาวซีดคือลูกชายของเขาๆไม่มีวันปล่อยให้รามสูรเป็นอะไรแน่นอนต่อให้มัจจุราชที่อยู่ในนรกขุมที่สิบหกต้องการชีวิตของลูกชายเขามากแค่ไหนถ้าเขาไม่ยินยอมใครหน้าไหนก็พรากลูกชายไปจากอกเขาไม่ได้ทั้งนั้น“พ่อขาทำไมนานจังเลยคะ” แก้มใสเริ่มนั่งไม่ติดที่เมื่อการผ่าตัดยืดระยะเวลาออกไปจากเวลาที่บิดาบอกเธอบอกในครั้งแรกว่าเพียงสองชั่วโมงแต่นี่เกือบสามชั่วโมงแล้วไฟหน้าห้องผ่าตัดยังไม่มีทีท่าว่าจะดับลงเลย แก้มใสพลันก้มหน้าพลางวางมือเอาไว้บนหน้าอกราวกับความเจ็บปวดนั้นแล่นไปทั่วร่างอย่างมิอาจทานทนพร้อมกับความรู้สึกแสบท
เมื่อถึงกำหนดคลอดหม่อนไหมกลับไม่มีอาการปวดท้องหรือรู้สึกผิดปกติเลยแม้แต่น้อยเธอยังคงกินอิ่มนอนหลับสบายทำให้รามสูรรู้สึกวิตกกังวลไม่น้อยตรงข้ามกับหม่อนไหมที่ไม่ได้เดือดเนื้อร้อนใจเพราะเธอรู้สึกว่าลูกคนที่สองของเธอนั้นดื้อมากโดยเฉพาะช่วงเวลาที่ลูกของเธอเริ่มดิ้นเจ้าตัวน้อยในท้องแทบจะไม่ยอมให้เธอได้พักผ่อนเท้าน้อยๆพยายามถีบเธอทุกวันทั้งช่วงที่กำลังนอนหลับฝันดีจนน้ำลายแทบไหลยืดหรือจะเป็นช่วงพักสายตายามบ่ายเธอก็ต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมาเพราะแรงถีบมหาศาลจากเจ้าเด็กดื้อที่ไม่รู้ว่าเกิดอารมณ์ดีอะไรขึ้นมาถึงได้ชอบคึกคักยามบ่ายและยามดึกและอยู่แบบสุขสงบเพียงแค่ในยามเช้าเท่านั้น“พี่รามไปทำงานก่อนนะคะ”ยามเช้าที่อากาศสดใสรามสูรจำใจบอกลาภรรยาแสนรักที่กำลังนั่งทานผลไม้ที่สามีปอกให้ด้วยความเอร็ดอร่อยหม่อนไหมพยักหน้ารับเล็กน้อยอย่างเข้าใจเธอไม่ใช่ผู้หญิงอ่อนแอที่ต้องการให้สามีอยู่ด้วยตลอดเวลาในช่วงที่เธอใกล้จะคลอดถึงแม้ว่าตอนนี้จะเลยกำหนดมาแล้วสามวันก็ตาม“ตั้งใจทำงานนะคะแล้วก็ไม่ต้องเป็นห่วงหนูหม่อน หนูหม่อนโอเค”น้ำเสียงผ่อนคล้ายที่คล้ายกับเด็กสาวตัวน้อยคนหนึ่งทำให้รามสูรอดใจไม่ไหวต้องยื่นมือไปบีบแ
“เอามือออกไปจากชุดตัวนี้เดี๋ยวนี้”น้ำเสียงดุดันที่ดูคล้ายคนที่มีนิสัยชอบวางอำนาจจนเคยชินดังขึ้นบอกหม่อนไหมแต่เธอที่วางมือลงไปก่อนคนมาทีหลังมีหรือจะยอมเอามือออกจากชุดที่เธอหมายตาเอาไว้ตั้งแต่เดินเข้ามาภายในร้าน ในเมื่อเธอเป็นคนจับชุดก่อนนั่นก็หมายความว่าชุดตัวนี้ต้องเป็นของเธอไม่ใช่ของคนที่กำลังออกคำสั่งราวกับต้องการอวดอำนาจบาตรใหญ่คนนี้“ฉันวางมือลงไปบนชุดก่อนคุณนะคะไม่ได้วางทีหลังมีสิทธิ์อะไรมาบอกให้คนที่จับชุดก่อนเอามือออก คุณต่างหากที่มาทีหลังตามมารยาทแล้วสมควรต้องเอามือออกค่ะไม่ใช่มาบอกฉัน”จบประโยคเสียงหอบหายใจเบาๆก็ดังขึ้นบ่งบอกว่าผู้พูดกำลังสะกดกลั้นอารมณ์เดือดดาลอย่างเต็มที่ดวงตากลมโตที่เคยมองสามีด้วยสายตารักใคร่ก่อนหน้านี้พลันแปรเป็นเป็นดุดันเต็มไปด้วยความไม่พอใจอย่างไม่ปิดบังเช่นเดียวกันกับคนที่ออกคำสั่งให้หม่อนไหมปล่อยมือเธอก็กำลังใช้สายตาดุดันจ้องตอบกลับคืนอย่างไม่ยอมแพ้เช่นกัน“แต่ฉันจะเอาชุดนี้และต้องได้ชุดนี้ด้วย”“ฉันก็ต้องการจะซื้อเหมือนกันค่ะและอีกอย่างฉันจับก่อนเพราะฉะนั้นกรุณาเอามือของคุณออกไปด้วยค่ะ”ดวงตาสีดำสนิทของหม่อนไหมหรี่ลงฉายประกายความเกรี้ยวกราดที่ใก
หลังจากที่เคล้าคลอแนบชิดกันมาทั้งคืนเช้านี้รามสูรกลับทำตัวงอแงราวกับเด็กน้อยที่หาข้ออ้างมาบอกกับภรรยาว่าเมื่อวานเหน็ดเหนื่อยจนหมดแรงวันนี้เขาจึงขออนุญาตตัวเองลางานหนึ่งวันเพื่อพักผ่อนทำเอาหม่อนไหมถึงกับหัวเราะด้วยความขบขันกับเหตุผลหยุดงานของสามีที่เธอรู้ดีว่าเป็นข้ออ้างแต่กลับไม่ได้ตำหนิหรือเอ่ยห้ามแต่อย่างใดเพราะที่ผ่านมาสามีของเธอก็มักจะหาเหตุผลไร้สาระมาหยุดงานเพื่ออยู่ดูแลเธอที่กำลังตั้งครรภ์กับลูกสาวตัวน้อยที่กำลังหัดพลิกตัวอยู่บ่อยๆจนบางครั้งแม่แก้มใสต้องมาลากสามีเธอให้กลับไปทำงานรามสูรถึงได้ยอมกลับไปรับบทเป็นท่านประธานบริษัทเหมือนเดิม แต่ถ้าหากว่าแม่แก้มใสเดินทางไปต่างประเทศเมื่อไรสามีของเธอก็จะกลับมารับบทผู้ชายที่คลั่งรักภรรยาและลูกสาวทันทีเช่นกันทำเอาแม่แก้มใสถึงกับหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออกเลยทีเดียว“อู้งานอีกแล้วนะคะ”หม่อนไหมยื่นมือมาบีบจมูกรามสูรเบาๆอย่างมันเขี้ยวในขณะที่คนถูกต่อว่าได้แต่ซุกใบหน้าลงบนซอกคอหอมกรุ่นของภรรยาสาวสวยอย่างออดอ้อน“ก็พี่รามเหนื่อยนี่คะเมื่อคืนออกแรงมากไปหน่อยวันนี้เลยปวดเหมื่อยไปทั้งตัว อูย ตรงนี้ก็เจ็บ ตรงนั้นก็ช้ำไม่เชื่อหนูหม่อนมาดูสิคะ”ร
เมื่อกลับมาถึงบ้านหม่อนไหมกับรามสูรก็ตรงขึ้นไปบนห้องนอนทันทีเพื่อดูว่าลูกสาวตัวน้อยของเธอหลับหรือยังเพราะปกติเวลานี้แพรไหมจะยังคงเล่นสนุกกับพี่สาลี่ไม่ยอมนอนเป็นประจำแต่วันนี้กลับแตกต่างออกไปเมื่อคุณพ่อยังหนุ่มคุณแม่ยังสาวเปิดประตูเข้ามากลับพบว่าดวงใจของทั้งคู่นั้นนอนหลับสนิทเรียบร้อยแล้วแถมน้ำลายยังไหลยืดจนเปรอะเต็มสองแก้ม“วันนี้เล่นซนเยอะไปหน่อยเลยหลับเร็วใช่ไหมคะลูกสาว”หม่อนไหมค่อยๆใช้ผ้าสะอาดเช็ดน้ำลายที่เปรอะบนแก้มออกให้ลูกสาวอย่างเบามือในขณะที่รามสูรยื่นนิ้วของตนเองไปเกี่ยวนิ้วลูกสาวเอาไว้เบาๆเมื่อถูกสัมผัสอย่างอบอุ่นเด็กน้อยก็ขยับตัวไปมาเล็กน้อยแต่ไม่ได้ลืมตาตื่นขึ้นมาแต่อย่างใดบนใบหน้าเผยรอยยิ้มออกมาบางเบาคล้ายกำลังฝันดี“ไม่เจอกันแค่วันเดียวลูกสาวของพ่อจ้ำม่ำขึ้นหรือเปล่าเนี่ย”เพี๊ยะ“อูยเมียจ๋าพี่รามแค่แซวเล่นลูกไม่รู้เรื่องหรอกคนที่ถูกเมียฟาดจนขึ้นรอยแดงยื่นมือมาลูบแขนตัวเองปอยๆอย่างน่าสงสารในขณะที่หม่อนไหมถลึงตาใส่สามีที่บังอาจมาว่าลูกสาวของเธออ้วนขึ้นเป็นเพราะเขาไม่ใช่เหรอที่ขยันซื้ออาหารบำรุงร่างกายและสมองสำหรับเด็กมาฝากลูกเป็นประจำจนอ้วนจ้ำหม่ำขนาดนี้“แล้วใคร
ไนท์คลับ“อาการแพ้ท้องเป็นยังไงบ้างดีขึ้นหรือยัง?”ธีร์เอ่ยถามหม่อนไหมที่นั่งตรงกันข้ามด้วยความเป็นห่วงเพราะหลังจากที่เพื่อนๆทุกคนทราบข่าวว่าหม่อนไหมตั้งครรภ์ลูกคนที่สองทุกคนก็พากันแห่ไปเยี่ยมเธอถึงที่บ้านคิดไม่ถึงว่าจะได้เจอกับสภาพของเพื่อนที่แพ้ท้องจนแทบหมดแรงทำเอาทุกคนทั้งเป็นห่วงทั้งสงสารจนพูดไม่ออกกันเลยทีเดียว“ถ้าไม่ดีขึ้นมึงจะเห็นกูมานั่งอยู่ตรงนี้ไหม?”“ลูกสองแล้วยังปากดีเหมือนเดิมเลยนะมึง”ธีร์ส่งค้อนให้หม่อนไหมพร้อมตอกกลับเพื่อไปหนึ่งกรุบอย่างอารมณ์ดีทำเอาคุณแม่ลูกสองหัวเราะคิกคักด้วยความชอบใจก่อนที่หม่อนไหมจะหยิบน้ำส้มขึ้นมาดื่มด้วยความคิดถึงรสชาติและบรรยากาศคุ้นเคยที่เธอห่างหายไปนานถึงแม้ที่นี่จะไม่ใช่ผับที่เธอมาเที่ยวเป็นประจำแต่พวกเธอก็ชอบมาเที่ยวบ่อยๆไม่แพ้ร้านโปรดเลยอาจจะเป็นเพราะว่าเธอกำลังตั้งครรภ์เพื่อนๆจึงเลือกเป็นที่นี่แทนผับที่ค่อนข้างวุ่นวาย“แล้วออกมาเที่ยวผัวไม่ว่าไง”เจย์ที่เพิ่งชงเหล้าให้นายน์เสร็จเอ่ยถามด้วยความแปลกใจที่รามสูรยอมอนุญาตให้หม่อนไหมมาเที่ยวคลับได้ทั้ง ๆ ที่ปกติแล้วรามสูรที่พวกเขารู้จักนั้นแทบจะไม่อนุญาตให้หม่อนไหมออกไปไหนมาไหนเลยด้วยซ้ำตั้งแต
วันเวลาผ่านไปช้าๆอย่างไม่เร่งรีบชีวิตคู่ของรามสูรและหม่อนไหมนั้นถือได้ว่าเต็มไปด้วยความสุขและความเข้าใจซึ่งกันและกันของสองสามีภรรยาหม่อนไหมถึงแม้จะยังเป็นเด็กที่เพิ่งย่างก้าวเข้าสู่วัยยี่สิบเอ็ดปีแต่การอบรมเลี้ยงดูของพ่อเลี้ยงแสงหล้าและแม่ลี้ยงเอื้องคำนั้นไม่ได้เปล่าประโยชน์เลยแม้แต่น้อยดรุณีน้อยซุกซนในวันวานเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่รู้จักนิ่งและสงบใจตัวเองเมื่อก้าวเข้าสู่คำว่าครอบครัวและคู่ชีวิตการกระทำที่หุนหันพลันแล่นในอดีตนั้นหม่อนไหมล้วนเก็บใส่กล่องไว้เป็นความทรงจำและบทเรียนเตือนใจตนเองตอนนี้จึงมีเพียงสาวน้อยน่ารักที่มักจะชอบพูดจาอ่อนหวานออดอ้อนสามีในยามที่ทั้งคู่อยู่กันเพียงลำพังตอนนี้ลูกสาวตัวน้อยของทั้งคู่เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ หม่อนไหมวางแผนเอาไว้ว่ารอให้แพรไหมอายุครบหนึ่งขวบเธอก็จะกลับไปเรียนต่อให้จบมหาวิทยาลัยซึ่งรามสูรก็ไม่ได้คัดค้านแต่อย่างใดคิดไม่ถึงว่าเรื่องราวบางอย่างเมื่อเกิดขึ้นแล้วแผนการที่วางเอาไว้ต่อให้ตั้งใจและเตรียมตัวพร้อมแค่ไหนสุดท้ายก็ต้องพับเก็บเอาไว้ชั่วคราวตามลำดับความสำคัญของเรื่องนั้น“ขอแสดงความยินดีด้วยนะคะ คุณหม่อนไหมตั้งครรภ์ได้ 5 สัปดาห์แล้ว” คำพูดแสด
ดวงตาเรียวเล็กของทารกน้อยวัยสามเดือนเศษที่ค่อยๆปิดสนิทพร้อมเสียงหายใจแผ่วเบาที่เข้าออกอย่างสม่ำเสมอทำให้หม่อนไหมเผยรอยยิ้มออกมาน้อยๆด้วยความเอ็นดู ก่อนที่เธอจะยื่นมือนุ่มนิ่มไปเช็ดคราบน้ำนมตรงมุมปากออกให้ลูกสาวอย่างอ่อนโยนส่งผลให้ดวงตาสุกสกาวของรามสูรที่กำลังแอบมองเธออยู่พลันฉายแววเจ้าเล่ห์ออกมาอย่างไม่อาจหักห้ามก่อนที่จะเลือนหายไปอย่างรวดเร็วเมื่อแน่ใจว่าแพรไหมหลับสนิทแล้วหม่อนไหมจึงค่อยๆวางลูกสาวลงบนที่นอนนุ่มอย่างเบามือก่อนที่เธอจะหันกลับมาแล้วพบว่าร่างสูงที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ทำงานก่อนหน้านี้กำลังปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตออกทีละเม็ดจนกระทั่งถึงเม็ดสุดท้ายสาบเสื้อจึงค่อยๆแยกออกจากกันเผยให้เห็นมัดกล้ามท้องเป็นลอนสวยที่ตรึงสายตาของหม่อนไหมเอาไว้ไม่ให้เธอหันหน้าจากไปไหนอึกหม่อนไหมลอบกลืนน้ำลายดังอึกด้วยความลืมตัวดวงตากลมโตของเธอจ้องมองกล้ามท้องที่เรียงตัวสวยตาไม่กระพริบด้วยความรู้สึกที่ได้แต่รำพึงรำพันอยู่ในใจว่าเธออยากจะยื่นมือไปลูบบริเวณนั้นเหลือเกิน“หนูหม่อนคะ”รามสูรส่งเสียงเรียกหม่อนไหมที่กำลังตกอยู่ในภวังค์ความคิดที่ว้าวุ่นจนทำให้ประสาทการรับรู้ของเธอนั้นหยุดทำงานไปชั่วขณะท่าทีขอ
หลังจากที่รามสูรและหม่อนไหมย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านหลังใหม่แล้วไม่รู้ว่าเป็นเพราะรามสูรลืมดูโหงวเฮ้งตอนซื้อหรืออย่างไรเพราะตั้งแต่วันแรกจนกระทั่งผ่านไปหนึ่งเดือนหัวกระไดบ้านของรามสูรไม่เคยแห้งเลยสักครั้ง เมื่อในแต่ะละวันจะมีแขกแวะเวียนมาที่บ้านของเขาเสมอไม่ว่าจะเป็นแก๊งเพื่อนๆของหม่อนไหมที่เห็นบ้านของเขาเหมือนร้านเหล้าและร้านเกมส์หลังจากที่เลิกเรียนแล้วเด็กๆพวกนั้นก็มักจะแวะมาเล่นกับแพรไหมเป็นประจำก่อนที่จะพากันนั่งดื่มที่ริมสระน้ำบ้าง ในสวนบ้างและในบางวันเจ้าเด็กโข่งพวกนี้ก็พากันนั่งเล่นเกมส์ในห้องนั่งเล่นจนกระทั่งดึกดื่นค่อนคืนก็ไม่มียอมกลับบ้านสภาพที่รามสูรตื่นขึ้นมาเห็นในตอนเช้าจึงเป็นภาพเด็กหนุ่มเจ็ดคนที่นอนเรียงรายกันอยู่หน้าจอทีวีขนาดใหญ่ใช่แล้วเด็กหนุ่ม 7 คน ทุกคนได้ยินไม่ผิดหรอกเพราะถ้าเปรียบเพื่อนของหม่อนไหมคือเด็กโข่งเพื่อนวัยว้าวุ่นของรามสูรก็คือเด็กดื้อที่จากหลังรามสูรและหม่อนไหมแต่งงานเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว เด็กสองกลุ่มที่เคยตั้งแง่และมักจะมีเรื่องทะเลาะวิวาทกันเป็นประจำกลับคืนดีรักใคร่กลมเกลียวประหนึ่งพี่น้องที่พลัดพรากจากกันเมื่อทุกคนชี้นกก็เป็นนกชี้ไม้ก็เป็นไม้ราวกั