หลังจากวันนั้นเวลาว่างในแต่ละวันของรามสูรก็มักจะหมดไปกับการวางแผนที่จะขยายสาขาธุรกิจผลิตเครื่องมือแพทย์และยาในต่างประเทศรวมไปถึงธุรกิจผลิตชิ้นส่วนยานยนต์และนำเข้ารถซุปเปอร์คาร์ ธุรกิจที่รามสูรสร้างขึ้นมาด้วยตนเองโดยที่มีบิดาและมารดาคอยให้คำปรึกษาพร้อมทั้งคอยสนับสนุนเรื่องเงินลงทุนที่รามสูรขอให้ท่านทั้งสองทำเป็นสัญญากู้ยืมแทนการให้เปล่าที่เขารู้ดีว่าท่านทั้งสองพร้อมที่จะสนับสนุนเขามากแค่ไหน ซึ่งกำไรมหาศาลจากการลงทุนที่เริ่มจากศูนย์ทำให้รามสูรสามารถใช้หนี้บิดาและมารดาหมดภายในเวลาเพียงสองปีRM GROUP จากบริษัทเล็กๆก้าวสู่บริษัทชั้นนำของโลกภายในเวลาเพียงสองปีจากการบริหารงานของประธานบริษัทอย่างรามสูร พิสิฐกุลวัตรดิลก ทายาทรุ่นที่สองของตระกูลพิสิฐกุลวัตรดิลก เขาไม่ได้ใช้เพียงสมองอันชาญฉลาดที่เรียกได้ว่าเข้าขั้นอัจฉริยะบริหารงานเพียงเท่านั้นหากแต่รามสูรยังสร้างคนให้เหมาะสมกับงานขึ้นมาด้วยซึ่งทุกคนที่เขาได้แต่งตั้งให้เป็นประธานบริษัทแต่ละสาขาในต่างประเทศนั้นล้วนผ่านบททดสอบที่เรียกได้ว่าค่อนข้างโหดทีเดียว“ไหนว่าอยากพักผ่อนก่อนจะเริ่มงานล่ะครับ นี่ตั้งแต่กลับมาผมยังไม่เห็นว่านายจะทำตามที่พูดเลย
“ห๊ะ 10 ล้าน”O_O“_”>_วัตรและเป้ร้องอุทานเสียงหลงด้วยความตกใจจนแทบสร่างเมาเมื่อเด็กเสิร์ฟนำบิลเรียกเก็บเงินค่าเหล้ามายื่นให้ติณที่มองตัวเลขบนกระดาษด้วยความตกใจไม่ต่างจากเพื่อนสนิททั้งสองคนที่เริ่มหน้าซีดลงเรื่อย ๆ ในขณะที่รามสูรยกเหล้าแก้วสุดท้ายขึ้นดื่มด้วยท่าทีสบาย ๆ แต่สายตาของเขากลับเหลือบมองเด็กหนุ่มทั้งสามคนที่กำลังปรึกษาหารือค่าเหล้าด้วยใบหน้าที่เคร่งเครียด“เหล้าเหี้ยอะไรวะทำไมมันแพงแบบนี้”วัตรเหลือบมองวิสกี้ราคาแพงที่วางอยู่ข้าง ๆ รามสูรก่อนที่เขาจะหันกลับมาถามเพื่อนๆที่ตอนนี้สีหน้าแต่ละคนนั้นแตกต่างกันออกไปตามความรู้สึกนึกคิดที่กำลังแล่นอยู่ในหัว เป้สร่างเมาทันทีเมื่อเห็นบิลเรียกเก็บเงินใบหน้าหล่อเหลาพลันเบะน้อย ๆ ราวกับจะร้องไห้ตั้งแต่โตมาเป็นหนุ่มน้อยนักดื่มเขายังไม่เคยดื่มเหล้าที่ราคาแพงสูงลิ่วขนาดนี้เลยเหล้านี่มันผสมทองคำหรือยังไงถึงได้แพงขนาดนี้เนี่ยเป้ได้แต่รำพึงรำพันอยู่ในใจอย่างอัดอั้นตันใจสายตาก็ลอบชำเลืองมองพี่ใหญ่ที่กำลังนั่งดื่มเหล้าด้วยท่าทีสบาย ๆ ไร้ความกังวลซึ่งตรงข้ามกับพวกเขาอย่างสิ้นเชิง ในขณะที่ติณเองก็เอาแต่จ้องมองตัวเลขบนบิลเรียกเก็บด้วยความรู้สึก
ริมฝีปากสีไวน์ของรามสูรประกบปากหม่อนไหมอย่างรวดเร็วก่อนจะกลืนกินเธออย่างบ้าคลั่งปลายลิ้นที่กรุ่นไปด้วยกลิ่นเหล้าราคาแพงหยอกเย้าความนุ่มละมุนของหม่อนไหมอย่างร้อนแรง มือใหญ่ที่กระชากเธอเข้ามาแนบชิดในคราแรกพลันโอบเอวบางของเธอเอาไว้อย่างซุกซน ความร้อนแรงที่แฝงไปด้วยความหวานล้ำทำให้สาวน้อยที่ไร้ซึ่งประสบการณ์ความรักได้แต่ปล่อยให้รามสูรทำตามอำเภอใจอีกทั้งเธอในตอนนี้ไม่สามารถที่จะควบคุมอารมณ์ของตนเองได้เลยแม้แต่น้อย เสียงครางหวานหูที่เผลอหลุดออกมาด้วยความไม่ตั้งใจทำให้ริมฝีปากอวบอิ่มของหม่อนไหมถูกรามสูรครอบครองอีกครั้งและอีกครั้งไม่สิ้นสุด“เสมอกันแล้วนะเธอจูบพี่ ๆ จูบเธอคืนไม่มีใครเสียเปรียบใคร แต่ถ้าเธออยากเอาเปรียบพี่อีกสักครั้งสองครั้งก็ได้นะพี่ยินดีและเต็มใจมาก”เมื่อปล่อยให้หม่อนไหมเป็นอิสระรามสูรก็ยื่นใบหน้าหล่อเหลาเข้าไปใกล้ ๆ แก้มเนียนที่แดงปลั่งราวกับลูกตำลึงสุกน้ำเสียงของเขาแหบห้าวทุ้มต่ำอ่อนโยนดุจธารน้ำไหลระรินผ่านห้องหัวใจดวงน้อยๆของหม่อนไหมให้เต้นแรงอย่างควบคุมไม่อยู่“คะ คนบ้าใครเขาอยากจูบพี่กันอีกเล่า”ยามที่เอ่ยประโยคปฏิเสธออกมาใบหน้างดงามของหม่อนไหมแดงจัดหัว
จากความสนิทสนมเพียงชั่วข้ามคืนพลันแปรเปลี่ยนเป็นความสนิทสนมที่ทำให้รามสูรถึงกับต้องกุมขมับเมื่อสามหนุ่มเพื่อนใหม่วัยว้าวุ้นตามติดรามสูรยิ่งกว่ากาวยี่ห้อดังเสียอีกทุกครั้งที่รามสูรมานั่งดื่มวัตรก็มักจะพาเพื่อนๆมาร่วมวงดื่มกับรามสูรเสมอ ถึงแม้ว่าวัตรกับเป้จะพูดมากไปหน่อยจนบางครั้งก็ให้นึกรำคาญใจไม่น้อยและติณที่มักจะนั่งดื่มเงียบๆโดยที่ไม่ค่อยมีบทสนทนาแต่รามสูรก็ถือว่าเด็กหนุ่มทั้งสามคนนั้นนิสัยค่อนข้างน่าคบทีเดียวถือเสียว่าเป็นกลุ่มเพื่อนใหม่ที่คอยสร้างสีสันในชีวิตให้เขาก็แล้วกันส่วนร้านจำน่ายและซ่อมรถบิ๊กไบค์ที่เขาอุปโลกน์ขึ้นมาสุดท้ายแล้วก็ต้องหาทำเลสร้างร้านขึ้นมาจริง ๆ เมื่อเด็กหนุ่มทั้งสามคนรบเร้าอยากจะไปเยี่ยมชมอย่างที่เขาไม่สามารถปฏิเสธได้จากคุณหมอมาเฟียกลายมาเป็นเถ้าแก่ร้านจำหน่ายและซ่อมรถบิ๊กไบค์อย่างงงๆเมื่อเชือกที่ตัวเองเป็นคนผูกเอาไว้ดันแก้ไม่ออกเสียอย่างนั้นRM BIKE SHOP “โห มีแต่รถคันสวยๆทั้งนั้นเลยเฮียโคตรเจ๋งอะ” เป้กวาดสายตามองรถที่จอดโชว์ภายในร้านด้วยดวงตาเป็นประกายวาววับอย่างตื่นเต้นเมื่อในร้านของรามสูรเต็มไปด้วยรถบิ๊กไบค์นำเข้าราคาแพงที่ตรงกับความต้องการของกลุ
ทันทีที่รามสูรเหยียบย่างเข้ามาภายในโรงหนังที่นั่งแทบไม่เหลือที่ว่างเนื่องจากวันนี้คือรอบฉายรอบแรกของหนังรักชื่อดังที่เขาเคยได้ยินกอหญ้าน้องสาวตัวแสบพูดถึงอยู่บ่อยๆว่าเป็นหนังรักที่ครองใจคนดูทั่วโลก ยกเว้นเพียงเขาคนเดียวสินะที่ไม่ถูกจริตกับหนังรักโรแมนติกเอาเสียเลยแต่บรรยากาศมันคงจะดีกว่านี้ถ้าคนที่มาดูหนังกับเขาคือคนรักไม่ใช่ชายชาตรีอกสามศอกที่ทำหน้าเหมือนลูกแมวขี้อ้อนเพียงเพราะอยากให้เขามาดูหนังด้วย เมื่อคิดมาถึงตรงนี้สองขาที่ก้าวไปข้างหน้าพลันหยุดชะงักก่อนที่รามสูรจะหมุนตัวกลับมาเผชิญหน้ากับสามหนุ่มที่ยืนขวางรามสูรเอาไว้อย่างเตรียมพร้อมอยู่แล้ว“เปลี่ยนใจตอนนี้ไม่ทันแล้วนะครับเฮีย นี่ครับตั๋วเลขที่นั่ง”ติณที่พูดน้อยที่สุดเอ่ยขึ้นพร้อมกับยัดตั๋วหนังใส่มือของรามสูรที่จิ๊ปากอย่างไม่สบอารมณ์ก่อนที่เขาจะหันหลังกลับมาอย่างจำใจและเดินนำหน้าสามหนุ่มที่หันมามองหน้ากันยิ้มๆพร้อมกับเดินตามรามสูรไปอย่างรวดเร็ว รามสูรเดินผ่านที่นั่งของหนุ่มๆสาวๆหลายคู่ก็ให้รู้สึกเซ็งอย่างบอกไม่ถูกจนกระทั่งเขาเดินมาถึงที่นั่งดวงตาสีดำเย็นชาพลันประสานเข้ากับดวงตาเป็นประกายอย่างประหลาดใจแกมยินดีและงุนงงไปพ
หลังจากวันนั้นธุรกิจนำเข้าและจำหน่ายรถบิ๊กไบค์ของรามสูรก็เป็นที่รู้จักในหมู่ของนักศึกษาที่พากันแห่มาใช้บริการและสั่งซื้อรถกับรามสูรเป็นจำนวนมาก รวมไปถึงอะไหล่สำหรับแต่งรถที่รามสูรนำเข้ามาขายล้วนเป็นอะไหล่ที่มีคุณภาพแต่ราคาเป็นมิตรภาพกับนักศึกษามาก“นี่เรากำลังพักผ่อนกันจริงๆใช่ไหมครับ”ลุกซ์ที่กำลังซ่อมรถหันมาถามผู้เป็นนายด้วยใบหน้าที่เปรอะเปื้อนไปด้วยฝุ่นดูมอมแมมไปหมดซึ่งไม่ต่างกับรามสูรเลยแม้แต่น้อยที่ทั้งเนื้อทั้งตัวเลอะไปด้วยคราบน้ำมัน ใบหน้าหล่อเหลาในยามนี้มีคราบเขม่ารถสีดำติดอยู่ที่ข้างแก้มโดยที่เขาไม่รู้ตัวเลยสักนิดเมื่อวันนี้ทั้งวันเขากับลูกน้องทั้งสองคนนั้นพากันต้อนรับลูกค้าที่ทยอยกันเข้ามาใช้บริการตั้งแต่เช้าจนแทบไม่ได้หยุดพักร้านขายรถอุปโลกน์ที่กะจะพังเมื่อเล่นละครจบกลับปังแบบงงๆอย่างไม่ทันตั้งตัวเสียอย่างนั้น“ก็ใช่ไงพักผ่อนไปด้วยหาเงินไปด้วยสนุกดีออก”รามสูรเอ่ยขึ้นอย่างไม่อนาทรร้อนใจในขณะที่เดลยกมือขึ้นลูบใบหน้าอย่างหมดแรงเมื่อวันพักผ่อนที่แสนสุขสบายกลับกลายเป็นวันทำงานที่แสนทรหดเสียยิ่งกว่าการยกปืนเล็งเป้าแล้วลั่นกระสุนปลิดชีพคนเสียอีก“เฮียราม”เสียงเรียกรามสูรที่
ร่างสูงของรามสูรที่เดินตามหลังโอมไปเงียบๆเรียกสายตาของหม่อนไหมที่กำลังนั่งคุยกับเพื่อนให้มองตามไปด้วยความสนใจมุมปากของสาวน้อยพลันคลี่ยิ้มละมุนตาพร้อมกับจ้องมองแผ่นหลังกว้างของรามสูรอย่างเบิกบานใจเมื่อเธอได้พบกับเขาอีกครั้งที่นี่ด้วยความบังเอิญ“มึงยิ้มอะไรของมึงว่ะไอ้หม่อน กูเห็นมึงเอาแต่มองไอ้โอมแล้วก็นั่งยิ้มเหมือนคนบ้า ฮันแน่ หรือว่ามึงแอบชอบไอ้โอมอยู่สารภาพออกมาเดี๋ยวนี้นะ”คำแซวของเจย์ทำให้อารมณ์สุนทรีของหม่อนไหมหายไปในชั่วพริบตารอยยิ้มหวานละมุนตาที่น้อยคนนักจะได้เห็นหุบยิ้มลงทันทีอย่างไม่สบอารมณ์เมื่อเพื่อนสนิทของเธอเอ่ยถึงโอมที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับเธอมาตลอดทุกครั้งที่เจอหน้ากัน“กูขอคนที่หล่อกว่านี้ได้ไหมวะไอ้เจย์หน้ากวนตีนอย่างไอ้โอมกูชอบไม่ลงจริงๆ”หม่อนไหมหันมาบอกเจย์ที่เอาแต่ยิ้มล้อเลียนเมื่อเห็นเธอจ้องมองโอมไม่วางตา“หล่อกว่าไอ้โอมก็ผู้ชายที่เดินตามหลังมันไงลูกพี่ใหญ่ของพวกไอ้วัตร เอ๊ะ หรือจริง ๆแล้วคนที่มึงแอบมองจะเป็นผู้ชายคนนั้นว่ะ นี่อย่าบอกนะว่ามึงแอบชอบลูกพี่ใหญ่ของศัตรูคู่อริพวกเราอยู่”คำพูดของคินน์ทำให้เพื่อนทุกคนต่างจ้องมองมาที่หม่อนไหมเป็นตาเดียวก่อนที่แก้
Red-Eye PUBหลังจากเคลียร์งานที่ร้านเสร็จเรียบร้อยแล้วรามสูรก็เดินทางมาที่ผับประจำทันทีโดยที่ไม่ได้บอกสามหนุ่มเพราะวันนี้เขาตั้งใจจะมาทวงสัญญาเดิมพันที่ได้ตกลงกับหม่อนไหมเอาไว้ ซึ่งเขามั่นใจว่าผู้หญิงที่นิสัยแมนๆอย่างหม่อนไหมไม่มีทางผิดสัญญาที่ให้ไว้กับเขาอย่างแน่นอนและก็เป็นจริงดังคาดเมื่อเขาเดินเข้ามาถึงโต๊ะประจำสายตาของเขาก็ปะทะเข้ากับใครบางคนที่นั่งอยู่บนโซฟาข้างโต๊ะประจำของเขาเพียงลำพังความไม่พอใจฉายชัดอยู่ในดวงตาของรามสูรเพียงชั่วครู่เท่านั้นก่อนที่จะจางหายไปอย่างรวดเร็วเมื่อวันนี้เด็กสาวแต่งกายด้วยชุดสายเดี่ยวที่เผยให้เห็นหน้าอกอวบอิ่มและกระโปรงยีนส์สั้นที่โชว์เรียวขาเนียนขาวชวนให้ผู้ชายทั้งผับมองตามจนคอแทบหักทีเดียว“พี่นึกว่าหนูหม่อนคนแมนจะไม่มาแล้วซะอีก”รามสูรเอ่ยขึ้นอย่างต้องการยั่วโมโหสาวน้อยที่ยกแก้วเหล้าที่วางอยู่ตรงหน้าขึ้นกระดกรวดเดียวจนหมดแก้วด้วยความหมั่นไส้คนที่นั่งอยู่ด้านหลังของเธอ“คนอย่างหม่อนไหมพูดคำไหนคำนั้นไม่เคยผิดสัญญา”ชื่อเรียกแทนตัวเองที่หลุดออกมาจากริมฝีปากอวบอิ่มทำให้รามสูรที่กำลังจะยกวิสกี้ขึ้นดื่มถึงกับชะงักไปด้วยความตกใจใบหน้าของใครบางคนที่อยู่ในค
เมื่อทราบว่าลูกชายประสบอุบัติเหตุรถยนต์พลิกคว่ำจนเกือบเอาชีวิตไม่รอดแต่เจ้าตัวก็ยังลากสังขารมาหาหม่อนไหมที่เพิ่งคลอดวายุก็ถึงกับหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออกในใจอยากจะต่อว่าและหยิบไม้เรียวขึ้นมาฟาดลูกชายหัวดื้อสักสิบครั้งให้หลาบจำแต่มือเจ้ากรรมกลับหยิบได้เพียงมีดและเข็มมือไม้พันกันระวิงด้วยความวุ่นวายเมื่อการผ่าตัดเป็นไปด้วยความทุลักทุเลเพราะความดื้อดึงของรามสูรทำให้เขาเสียเลือดมากการผ่าตัดจึงเข้าขั้นวิกฤติแต่วายุกลับไม่รู้สึกหวั่นใจแต่อย่างใดเพราะคนที่เขากำลังใช้มีดกรีดลงไปบนผิวหนังสีขาวซีดคือลูกชายของเขาๆไม่มีวันปล่อยให้รามสูรเป็นอะไรแน่นอนต่อให้มัจจุราชที่อยู่ในนรกขุมที่สิบหกต้องการชีวิตของลูกชายเขามากแค่ไหนถ้าเขาไม่ยินยอมใครหน้าไหนก็พรากลูกชายไปจากอกเขาไม่ได้ทั้งนั้น“พ่อขาทำไมนานจังเลยคะ” แก้มใสเริ่มนั่งไม่ติดที่เมื่อการผ่าตัดยืดระยะเวลาออกไปจากเวลาที่บิดาบอกเธอบอกในครั้งแรกว่าเพียงสองชั่วโมงแต่นี่เกือบสามชั่วโมงแล้วไฟหน้าห้องผ่าตัดยังไม่มีทีท่าว่าจะดับลงเลย แก้มใสพลันก้มหน้าพลางวางมือเอาไว้บนหน้าอกราวกับความเจ็บปวดนั้นแล่นไปทั่วร่างอย่างมิอาจทานทนพร้อมกับความรู้สึกแสบท
เมื่อถึงกำหนดคลอดหม่อนไหมกลับไม่มีอาการปวดท้องหรือรู้สึกผิดปกติเลยแม้แต่น้อยเธอยังคงกินอิ่มนอนหลับสบายทำให้รามสูรรู้สึกวิตกกังวลไม่น้อยตรงข้ามกับหม่อนไหมที่ไม่ได้เดือดเนื้อร้อนใจเพราะเธอรู้สึกว่าลูกคนที่สองของเธอนั้นดื้อมากโดยเฉพาะช่วงเวลาที่ลูกของเธอเริ่มดิ้นเจ้าตัวน้อยในท้องแทบจะไม่ยอมให้เธอได้พักผ่อนเท้าน้อยๆพยายามถีบเธอทุกวันทั้งช่วงที่กำลังนอนหลับฝันดีจนน้ำลายแทบไหลยืดหรือจะเป็นช่วงพักสายตายามบ่ายเธอก็ต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมาเพราะแรงถีบมหาศาลจากเจ้าเด็กดื้อที่ไม่รู้ว่าเกิดอารมณ์ดีอะไรขึ้นมาถึงได้ชอบคึกคักยามบ่ายและยามดึกและอยู่แบบสุขสงบเพียงแค่ในยามเช้าเท่านั้น“พี่รามไปทำงานก่อนนะคะ”ยามเช้าที่อากาศสดใสรามสูรจำใจบอกลาภรรยาแสนรักที่กำลังนั่งทานผลไม้ที่สามีปอกให้ด้วยความเอร็ดอร่อยหม่อนไหมพยักหน้ารับเล็กน้อยอย่างเข้าใจเธอไม่ใช่ผู้หญิงอ่อนแอที่ต้องการให้สามีอยู่ด้วยตลอดเวลาในช่วงที่เธอใกล้จะคลอดถึงแม้ว่าตอนนี้จะเลยกำหนดมาแล้วสามวันก็ตาม“ตั้งใจทำงานนะคะแล้วก็ไม่ต้องเป็นห่วงหนูหม่อน หนูหม่อนโอเค”น้ำเสียงผ่อนคล้ายที่คล้ายกับเด็กสาวตัวน้อยคนหนึ่งทำให้รามสูรอดใจไม่ไหวต้องยื่นมือไปบีบแ
“เอามือออกไปจากชุดตัวนี้เดี๋ยวนี้”น้ำเสียงดุดันที่ดูคล้ายคนที่มีนิสัยชอบวางอำนาจจนเคยชินดังขึ้นบอกหม่อนไหมแต่เธอที่วางมือลงไปก่อนคนมาทีหลังมีหรือจะยอมเอามือออกจากชุดที่เธอหมายตาเอาไว้ตั้งแต่เดินเข้ามาภายในร้าน ในเมื่อเธอเป็นคนจับชุดก่อนนั่นก็หมายความว่าชุดตัวนี้ต้องเป็นของเธอไม่ใช่ของคนที่กำลังออกคำสั่งราวกับต้องการอวดอำนาจบาตรใหญ่คนนี้“ฉันวางมือลงไปบนชุดก่อนคุณนะคะไม่ได้วางทีหลังมีสิทธิ์อะไรมาบอกให้คนที่จับชุดก่อนเอามือออก คุณต่างหากที่มาทีหลังตามมารยาทแล้วสมควรต้องเอามือออกค่ะไม่ใช่มาบอกฉัน”จบประโยคเสียงหอบหายใจเบาๆก็ดังขึ้นบ่งบอกว่าผู้พูดกำลังสะกดกลั้นอารมณ์เดือดดาลอย่างเต็มที่ดวงตากลมโตที่เคยมองสามีด้วยสายตารักใคร่ก่อนหน้านี้พลันแปรเป็นเป็นดุดันเต็มไปด้วยความไม่พอใจอย่างไม่ปิดบังเช่นเดียวกันกับคนที่ออกคำสั่งให้หม่อนไหมปล่อยมือเธอก็กำลังใช้สายตาดุดันจ้องตอบกลับคืนอย่างไม่ยอมแพ้เช่นกัน“แต่ฉันจะเอาชุดนี้และต้องได้ชุดนี้ด้วย”“ฉันก็ต้องการจะซื้อเหมือนกันค่ะและอีกอย่างฉันจับก่อนเพราะฉะนั้นกรุณาเอามือของคุณออกไปด้วยค่ะ”ดวงตาสีดำสนิทของหม่อนไหมหรี่ลงฉายประกายความเกรี้ยวกราดที่ใก
หลังจากที่เคล้าคลอแนบชิดกันมาทั้งคืนเช้านี้รามสูรกลับทำตัวงอแงราวกับเด็กน้อยที่หาข้ออ้างมาบอกกับภรรยาว่าเมื่อวานเหน็ดเหนื่อยจนหมดแรงวันนี้เขาจึงขออนุญาตตัวเองลางานหนึ่งวันเพื่อพักผ่อนทำเอาหม่อนไหมถึงกับหัวเราะด้วยความขบขันกับเหตุผลหยุดงานของสามีที่เธอรู้ดีว่าเป็นข้ออ้างแต่กลับไม่ได้ตำหนิหรือเอ่ยห้ามแต่อย่างใดเพราะที่ผ่านมาสามีของเธอก็มักจะหาเหตุผลไร้สาระมาหยุดงานเพื่ออยู่ดูแลเธอที่กำลังตั้งครรภ์กับลูกสาวตัวน้อยที่กำลังหัดพลิกตัวอยู่บ่อยๆจนบางครั้งแม่แก้มใสต้องมาลากสามีเธอให้กลับไปทำงานรามสูรถึงได้ยอมกลับไปรับบทเป็นท่านประธานบริษัทเหมือนเดิม แต่ถ้าหากว่าแม่แก้มใสเดินทางไปต่างประเทศเมื่อไรสามีของเธอก็จะกลับมารับบทผู้ชายที่คลั่งรักภรรยาและลูกสาวทันทีเช่นกันทำเอาแม่แก้มใสถึงกับหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออกเลยทีเดียว“อู้งานอีกแล้วนะคะ”หม่อนไหมยื่นมือมาบีบจมูกรามสูรเบาๆอย่างมันเขี้ยวในขณะที่คนถูกต่อว่าได้แต่ซุกใบหน้าลงบนซอกคอหอมกรุ่นของภรรยาสาวสวยอย่างออดอ้อน“ก็พี่รามเหนื่อยนี่คะเมื่อคืนออกแรงมากไปหน่อยวันนี้เลยปวดเหมื่อยไปทั้งตัว อูย ตรงนี้ก็เจ็บ ตรงนั้นก็ช้ำไม่เชื่อหนูหม่อนมาดูสิคะ”ร
เมื่อกลับมาถึงบ้านหม่อนไหมกับรามสูรก็ตรงขึ้นไปบนห้องนอนทันทีเพื่อดูว่าลูกสาวตัวน้อยของเธอหลับหรือยังเพราะปกติเวลานี้แพรไหมจะยังคงเล่นสนุกกับพี่สาลี่ไม่ยอมนอนเป็นประจำแต่วันนี้กลับแตกต่างออกไปเมื่อคุณพ่อยังหนุ่มคุณแม่ยังสาวเปิดประตูเข้ามากลับพบว่าดวงใจของทั้งคู่นั้นนอนหลับสนิทเรียบร้อยแล้วแถมน้ำลายยังไหลยืดจนเปรอะเต็มสองแก้ม“วันนี้เล่นซนเยอะไปหน่อยเลยหลับเร็วใช่ไหมคะลูกสาว”หม่อนไหมค่อยๆใช้ผ้าสะอาดเช็ดน้ำลายที่เปรอะบนแก้มออกให้ลูกสาวอย่างเบามือในขณะที่รามสูรยื่นนิ้วของตนเองไปเกี่ยวนิ้วลูกสาวเอาไว้เบาๆเมื่อถูกสัมผัสอย่างอบอุ่นเด็กน้อยก็ขยับตัวไปมาเล็กน้อยแต่ไม่ได้ลืมตาตื่นขึ้นมาแต่อย่างใดบนใบหน้าเผยรอยยิ้มออกมาบางเบาคล้ายกำลังฝันดี“ไม่เจอกันแค่วันเดียวลูกสาวของพ่อจ้ำม่ำขึ้นหรือเปล่าเนี่ย”เพี๊ยะ“อูยเมียจ๋าพี่รามแค่แซวเล่นลูกไม่รู้เรื่องหรอกคนที่ถูกเมียฟาดจนขึ้นรอยแดงยื่นมือมาลูบแขนตัวเองปอยๆอย่างน่าสงสารในขณะที่หม่อนไหมถลึงตาใส่สามีที่บังอาจมาว่าลูกสาวของเธออ้วนขึ้นเป็นเพราะเขาไม่ใช่เหรอที่ขยันซื้ออาหารบำรุงร่างกายและสมองสำหรับเด็กมาฝากลูกเป็นประจำจนอ้วนจ้ำหม่ำขนาดนี้“แล้วใคร
ไนท์คลับ“อาการแพ้ท้องเป็นยังไงบ้างดีขึ้นหรือยัง?”ธีร์เอ่ยถามหม่อนไหมที่นั่งตรงกันข้ามด้วยความเป็นห่วงเพราะหลังจากที่เพื่อนๆทุกคนทราบข่าวว่าหม่อนไหมตั้งครรภ์ลูกคนที่สองทุกคนก็พากันแห่ไปเยี่ยมเธอถึงที่บ้านคิดไม่ถึงว่าจะได้เจอกับสภาพของเพื่อนที่แพ้ท้องจนแทบหมดแรงทำเอาทุกคนทั้งเป็นห่วงทั้งสงสารจนพูดไม่ออกกันเลยทีเดียว“ถ้าไม่ดีขึ้นมึงจะเห็นกูมานั่งอยู่ตรงนี้ไหม?”“ลูกสองแล้วยังปากดีเหมือนเดิมเลยนะมึง”ธีร์ส่งค้อนให้หม่อนไหมพร้อมตอกกลับเพื่อไปหนึ่งกรุบอย่างอารมณ์ดีทำเอาคุณแม่ลูกสองหัวเราะคิกคักด้วยความชอบใจก่อนที่หม่อนไหมจะหยิบน้ำส้มขึ้นมาดื่มด้วยความคิดถึงรสชาติและบรรยากาศคุ้นเคยที่เธอห่างหายไปนานถึงแม้ที่นี่จะไม่ใช่ผับที่เธอมาเที่ยวเป็นประจำแต่พวกเธอก็ชอบมาเที่ยวบ่อยๆไม่แพ้ร้านโปรดเลยอาจจะเป็นเพราะว่าเธอกำลังตั้งครรภ์เพื่อนๆจึงเลือกเป็นที่นี่แทนผับที่ค่อนข้างวุ่นวาย“แล้วออกมาเที่ยวผัวไม่ว่าไง”เจย์ที่เพิ่งชงเหล้าให้นายน์เสร็จเอ่ยถามด้วยความแปลกใจที่รามสูรยอมอนุญาตให้หม่อนไหมมาเที่ยวคลับได้ทั้ง ๆ ที่ปกติแล้วรามสูรที่พวกเขารู้จักนั้นแทบจะไม่อนุญาตให้หม่อนไหมออกไปไหนมาไหนเลยด้วยซ้ำตั้งแต
วันเวลาผ่านไปช้าๆอย่างไม่เร่งรีบชีวิตคู่ของรามสูรและหม่อนไหมนั้นถือได้ว่าเต็มไปด้วยความสุขและความเข้าใจซึ่งกันและกันของสองสามีภรรยาหม่อนไหมถึงแม้จะยังเป็นเด็กที่เพิ่งย่างก้าวเข้าสู่วัยยี่สิบเอ็ดปีแต่การอบรมเลี้ยงดูของพ่อเลี้ยงแสงหล้าและแม่ลี้ยงเอื้องคำนั้นไม่ได้เปล่าประโยชน์เลยแม้แต่น้อยดรุณีน้อยซุกซนในวันวานเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่รู้จักนิ่งและสงบใจตัวเองเมื่อก้าวเข้าสู่คำว่าครอบครัวและคู่ชีวิตการกระทำที่หุนหันพลันแล่นในอดีตนั้นหม่อนไหมล้วนเก็บใส่กล่องไว้เป็นความทรงจำและบทเรียนเตือนใจตนเองตอนนี้จึงมีเพียงสาวน้อยน่ารักที่มักจะชอบพูดจาอ่อนหวานออดอ้อนสามีในยามที่ทั้งคู่อยู่กันเพียงลำพังตอนนี้ลูกสาวตัวน้อยของทั้งคู่เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ หม่อนไหมวางแผนเอาไว้ว่ารอให้แพรไหมอายุครบหนึ่งขวบเธอก็จะกลับไปเรียนต่อให้จบมหาวิทยาลัยซึ่งรามสูรก็ไม่ได้คัดค้านแต่อย่างใดคิดไม่ถึงว่าเรื่องราวบางอย่างเมื่อเกิดขึ้นแล้วแผนการที่วางเอาไว้ต่อให้ตั้งใจและเตรียมตัวพร้อมแค่ไหนสุดท้ายก็ต้องพับเก็บเอาไว้ชั่วคราวตามลำดับความสำคัญของเรื่องนั้น“ขอแสดงความยินดีด้วยนะคะ คุณหม่อนไหมตั้งครรภ์ได้ 5 สัปดาห์แล้ว” คำพูดแสด
ดวงตาเรียวเล็กของทารกน้อยวัยสามเดือนเศษที่ค่อยๆปิดสนิทพร้อมเสียงหายใจแผ่วเบาที่เข้าออกอย่างสม่ำเสมอทำให้หม่อนไหมเผยรอยยิ้มออกมาน้อยๆด้วยความเอ็นดู ก่อนที่เธอจะยื่นมือนุ่มนิ่มไปเช็ดคราบน้ำนมตรงมุมปากออกให้ลูกสาวอย่างอ่อนโยนส่งผลให้ดวงตาสุกสกาวของรามสูรที่กำลังแอบมองเธออยู่พลันฉายแววเจ้าเล่ห์ออกมาอย่างไม่อาจหักห้ามก่อนที่จะเลือนหายไปอย่างรวดเร็วเมื่อแน่ใจว่าแพรไหมหลับสนิทแล้วหม่อนไหมจึงค่อยๆวางลูกสาวลงบนที่นอนนุ่มอย่างเบามือก่อนที่เธอจะหันกลับมาแล้วพบว่าร่างสูงที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ทำงานก่อนหน้านี้กำลังปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตออกทีละเม็ดจนกระทั่งถึงเม็ดสุดท้ายสาบเสื้อจึงค่อยๆแยกออกจากกันเผยให้เห็นมัดกล้ามท้องเป็นลอนสวยที่ตรึงสายตาของหม่อนไหมเอาไว้ไม่ให้เธอหันหน้าจากไปไหนอึกหม่อนไหมลอบกลืนน้ำลายดังอึกด้วยความลืมตัวดวงตากลมโตของเธอจ้องมองกล้ามท้องที่เรียงตัวสวยตาไม่กระพริบด้วยความรู้สึกที่ได้แต่รำพึงรำพันอยู่ในใจว่าเธออยากจะยื่นมือไปลูบบริเวณนั้นเหลือเกิน“หนูหม่อนคะ”รามสูรส่งเสียงเรียกหม่อนไหมที่กำลังตกอยู่ในภวังค์ความคิดที่ว้าวุ่นจนทำให้ประสาทการรับรู้ของเธอนั้นหยุดทำงานไปชั่วขณะท่าทีขอ
หลังจากที่รามสูรและหม่อนไหมย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านหลังใหม่แล้วไม่รู้ว่าเป็นเพราะรามสูรลืมดูโหงวเฮ้งตอนซื้อหรืออย่างไรเพราะตั้งแต่วันแรกจนกระทั่งผ่านไปหนึ่งเดือนหัวกระไดบ้านของรามสูรไม่เคยแห้งเลยสักครั้ง เมื่อในแต่ะละวันจะมีแขกแวะเวียนมาที่บ้านของเขาเสมอไม่ว่าจะเป็นแก๊งเพื่อนๆของหม่อนไหมที่เห็นบ้านของเขาเหมือนร้านเหล้าและร้านเกมส์หลังจากที่เลิกเรียนแล้วเด็กๆพวกนั้นก็มักจะแวะมาเล่นกับแพรไหมเป็นประจำก่อนที่จะพากันนั่งดื่มที่ริมสระน้ำบ้าง ในสวนบ้างและในบางวันเจ้าเด็กโข่งพวกนี้ก็พากันนั่งเล่นเกมส์ในห้องนั่งเล่นจนกระทั่งดึกดื่นค่อนคืนก็ไม่มียอมกลับบ้านสภาพที่รามสูรตื่นขึ้นมาเห็นในตอนเช้าจึงเป็นภาพเด็กหนุ่มเจ็ดคนที่นอนเรียงรายกันอยู่หน้าจอทีวีขนาดใหญ่ใช่แล้วเด็กหนุ่ม 7 คน ทุกคนได้ยินไม่ผิดหรอกเพราะถ้าเปรียบเพื่อนของหม่อนไหมคือเด็กโข่งเพื่อนวัยว้าวุ่นของรามสูรก็คือเด็กดื้อที่จากหลังรามสูรและหม่อนไหมแต่งงานเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว เด็กสองกลุ่มที่เคยตั้งแง่และมักจะมีเรื่องทะเลาะวิวาทกันเป็นประจำกลับคืนดีรักใคร่กลมเกลียวประหนึ่งพี่น้องที่พลัดพรากจากกันเมื่อทุกคนชี้นกก็เป็นนกชี้ไม้ก็เป็นไม้ราวกั