ตอนนี้ภายในห้องรับรองบ้านใหญ่พวกบรรดาลูกหลานก็ต่างพากันมารวมตัวด้วยกันเต็มไปหมด มีทั้งคนร้องไห้ คนโวยวายเสียงดังเอ็ดตะโรไปหมดจนกระทั่งครอบครัวของเทียนเดินเข้ามา ทุกคนก็เงียบและหันมาสนใจพวกเขาทั้งที
"พี่หล่ง นี่มันเรื่องอะไรกันน่ะพี่" เอกรีบเดินเข้าถามด้วยความสงสัย "นั่นสิพี่ มีคนบอกว่าพ่อตายแล้วมันไม่จริงใช่ไหมพี่" มุกดาเข้ามาเขย่าตัวพี่ชายอย่างคนขาดสติจนเจสันต้องเข้ามาช่วยประคองมุกดาให้ถอยออก "ปล่อยนะ! ฉันคุยกับพี่ชายอยู่แกไม่เห็นหรือไง" มุกดาหันไปตวาดเจสันแล้วพลักเขาออกทันที "พี่หล่ง...ฮือ...พ่อยังไม่ตายใช่ไหมพี่...อึก...บอกฉันสิว่าบอดี้การ์ดพวกนี้มันรับสารมาผิดอ่ะ...ฮื้อ...ฮือ...พี่หล่ง" มุกดาพยายามเต้นเอาคำตอบจากพี่ชายทั้งที่ในใจเธอก็รู้ดีว่าคนของบ้านใหญ่ไม่มีทางเผยแผ่ข่าวสารที่ผิดพลาดอย่างแน่นอน "นพ" คุณหล่งหันไปหาน้องเขยที่นั่งปลอบใจลูกสาวอยู่แล้วเรียกเขาด้วยน้ำเสียงดุดัน "ครับ" นพลุกขึ้นแล้วตอบทันที "มาพาเมียแกไปนั่งทีไป" คุณหล่งพูด "ครับ" นพตอบแล้วรีบเข้ามาพยุงมุกดาไปนั่งพักอยู่ข้างๆ ลูกสาว จากนั้นครอบครองของคุณหล่งก็เดินไปนั่งประจำที่เพื่อรอผู้นำหญิงทั้งสองออกมาพูดคุยเรื่องนี้ด้วยตัวเอง เจสันกับเวกัสก็เดิินอ้อมไปยืนอยู่ด้านหลังเจ้านายด้วยเช่นกัน รอไม่นานคุณหญิงหยาดทิพย์และคุณโฉมก็เดินลงมาแล้วนั่งลงประจำที่ของตัวเอง แม้จะไม่มีสีหน้าที่ดูเศร้าเสียใจแต่แววตาของคุณผู้หญิงทั้งสองกลับแดงก่ำและบวมช้ำอย่างเห็นได้ชัด "จากที่พวกเราได้รับข่าวมาว่าคุณท่านเสียชีวิตแล้วที่ฮ่องกง...หลังจากตรวจสิบข้อเท็จจริงแล้ว...ฮึก...ปรากฏว่าเป็นความจริง" สิ้นสุดคำพูดของคุณโฉมลูกหลานทุกคนก็แสดงออกถึงความเสียใจอย่างเห็นได้ชัดแม้แต่ลูกเขยลูกสะใภ้เองก็ยังเสียใจกับการสูญเสียครั้งนี้ด้วยเพราะถึงแม้ตระกูลนี้จะมีกฎที่เข้มงวดและน่ากลัวอยู่บ้างแต่คุณซ่งผู้นำตระกูลกับเป็นคนที่มีจิตใจเมตตากรุณาต่อลูกหลานทุกคนมากจึงทำให้ทุกคนต่างก็รักเขา "ย่ารองครับ...ย่ารองทราบเหตุผลที่คุณปู่จากไปไหมครับ" เทียนลุกถึงถามด้วยความไม่เข้าใจเพราะเมื่อคืนก่อนไปคุณปู่ของเขายังปกติดีอยู่เลย "เรื่องนี้คงต้องรอให้วิสุทธิ์กลับมาอธิบายเอง" คุณโฉมตอบ "แต่เมื่อคืนนี้ก่อนที่คุณปู่จะไปฮ่องกง คุณปู่ยังดีๆ อยู่เลยนะครับย่ารอง" เทียนพูด "ทำไมแกถึงรู้ว่าคุณพ่อจะไปฮ่องกง พวกฉันไม่เห็นมีใครรู้เลยว่าคุณพ่อจะออกจากบ้าน" เอกถาม "ใช่ แล้วกำหนดกลับไทยของแกมันตั้งอีกอาทิตย์นึงไม่ใช่เหรอทำไมอยู่ดีๆ ถึงกลับมากระทันหันล่ะ" มุกดาถาม "พูดแบบนี้หมายความว่าไง" หล่งถามน้องทั้งสองคนด้วยความไม่พอใจที่ทั้งคู่พูดเหมือว่าลูกชายของเขารู้เห็นเกี่ยวกับเรื่องการจากไปของพ่อตัวเอง "ผมก็แค่สงสัย ก็ในเมื่อพวกเราอยู่ที่ไทยยังไม่รู้เลยว่าคุณพ่อจะไปฮ่องกงแต่ไอ้เทียนมันผู้ไกลถึงญี่ปุ่นทำไมถึงรู้แล้วกลับมาได้อย่างเหมาะเจาะขนาดนี้" เอกตอบ "แกพูดใหม่สิ!" หล่งลุกขึ้นชี้หน้าน้อฝชายด้วยความโกรธจนดารินต้องรีบห้ามเอาไว้ "คุณค่ะ" ดารินพูดแล้วพยายามดึงสามีให้นั่งลงสงบสติอารมณ์ก่อน เพล้ง!! "หยุดนะ!" คุณโฉมตะโกนห้ามแล้วขว้างแก้วน้ำชาลงมาจนแตกกระเด็นอยู่กลางห้อง "มันใช่เวลาจะมาทะเลากันไหม อายุขนาดนี้แล้วหัดมีความเกรงใจกันบ้าง แม่ใหญ่ก็ยังนั่งอยู่ตรงนี้นะ" คุณโฉมพูดออกมาเสียงดังจนทุกคนค่อยๆ หยุดนิ่ง "นั่งลงก่อนเถอะค่ะคุณ" ดารินกระซิบบอกสามีเบาแล้วดึงแขนลูกชายให้นั่งลงด้วย "ขอโทษครับแม่รอง" หล่งพูดแล้วนั่งลงที่เดิม "ขอโทษครับคุณแม่" เอกพูดแล้วก็หันไปมองหน้าพี่ชายด้วยความไม่พอใจที่ทำให้เขาถูกตำหนิต่อหน้าทุกคน หล่งเองก็จ้องกลับไปที่เอกเช่นกันเพื่อให้เขารู้ว่าตัวเขาเองไม่ได้กลัวน้องชายคนนี้เลยด้วยซ้ำ "เรื่องเมื่อคืนที่ตาเทียนมันรู้ว่าคุณท่านจะไปฮ่องกงก็เพราะว่าคุณท่านเป็นคนเรียกตาเทียนมาคุยเอง ส่วนเรื่องที่ทำไมถึงกลับมาตรงกับวันที่คุณท่านจะไปฮ่องกงมันก็เป็นแค่เรื่องบังเอิญเฉยๆ" คุณโฉมพูดแทนเทียนเลยทำให้พวกผู้ใหญ่ไม่กล้าเอ่ยถามอะไรเขาอีก "เอาล่ะ เมื่อเข้าใจตรงกันแล้วก็ดีเพราะที่เรียกทุกคนมาในวันนี้ก็เพื่อบอกว่าถึงแม้คุณท่านจะจากปแล้วแต่พวกเราอยากจะให้ทุกคนตั้งใจและรับผิดชอบงานของตัวเองเหมือนเดิมจนกว่าจะมีการเปิดพินัยกรรม" คุณหญิงหยาดทิพย์พูดขึ้นหลังจากเงียบมาตลอด "ครับ/ค่ะ" ทุกคนตอบรับทันที ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~ ร้าน Happy Time "วันนี้ที่เรียกทุกคนมารวมตัวกันก็เพื่อจะพูดคุยปัญหาเรื่องเมื่อวานนิดหน่อย...ไหนมีใครอยากจะแจ้งอะไรผมไหมครับ" ปูนปั้นถาม พนักงานหันหน้ามองกันแล้วซุบซิบใหญ่แต่ก็ไม่มีใครกล้าพูดออกมาสักคน "มีไหมครับ" ปูนปั้นถามย้ำแล้วกวาดสายตามองไปทั่วๆ "มีค่ะ" เมย์ยกมือขึ้นแล้วตอบเสียงดัง "ว่าไงครับ" ปูนปั้นถาม "พี่อยากทราบว่าคุณเอมม่าจะกลับมาทำงานที่ร้านได้เมื่อไหร่คะ" เมย์พูด "ทำไมเหรอครับ" ปูนปั้นถาม เขารู้อยู่ว่าเมย์ไม่ค่อยพอใจกับการทำงานของเขาเพราะเธอแสดงออกอย่างชัดเจน "พี่ไม่อยากจะพูดตรงนะคะเพราะพี่รู้ตัวดีว่าไม่มีสิทธิ์พูดอะไรได้มากแต่ว่าช่วงหลายเดือนที่ผ่านมานี้ ร้านของเรามีปัญหาหนักมากทำให้พนักงานต้องทำงานเพิ่มขึ้นเป็นหลายเท่าตัว น้องปูนปั้นเองก็ไม่มีประสบการณ์ด้านการบริหารงานมาก่อนพี่เลยคิดว่าน่าจะให้คุณเอมม่ากลับมาบริหารร้านน่าจะเหมาะสมกว่า" คำพูดของเมย์ฟังดูแรงมากแต่ก็จริงเพราะพนักงานหลายคนก็ดูจะเห็นด้วยมากๆ "เป็นพนักงานก็ควรตั้งใจทำงานไม่ใช่มายุ่งเรื่องการบริหารร้าน ร้านนี้เป็นของคุณเอมม่าและน้องปูนไม่ว่าใครจะบริหาร...ทุกคนตรงนี้ก็ไม่มีสิทธิ์ไปวิจารณ์ทั้งนั้น" หลังจากนั่งเงียบมานานกุ๊กไก่ก็พูดขึ้นมาแล้วมองไปหาเมย์ด้วยความไม่พอใจ "แต่ถ้าร้านมีปัญหาหาเยอะๆ ลูกค้าก็ไม่อยากเข้านะคะแล้วถ้าร้านไม่มีลูกค้าพนักงานตาดำๆ อย่างพวกเราจะไปกันรอดได้ยังไง" พนักงานสาวอีกคนตอบ "ที่มันมีปัญหาก็เพราะพวกเธอบริการลูกค้าช้าเองไม่ใช่เหรอ" กุ๊กไก่พูด "พูดแบบนี้ได้ไงอ่ะ! งานในครัวมันไม่ต้องเดินไปมารับหน้าลูกค้าแบบพวกเราหนิ" เมย์ลุกขึ้นตอบด้วยความโมโห "แล้วใครบอกบอกว่างานในครัวมันไม่ต้องเดินอ่ะ" กุ๊กไก่ก็ทนไม่ไหวลุกขึ้นโต้กลับเมย์เหมือนกันจนหมิงต้องรีบลุกขึ้นมาจับไว้ "แล้วมันเดินเยอะเท่ากันไหมล่ะ" เมย์ตอบแล้วจะเดินตรงเข้าไปหากุ๊กไก่จนเพื่อนก็ต้องรีบรั้งเธอไว้เหมือนกัน "ไม่มีฝีมือก็ต้องใช้แรงงานถูกแล้วป่ะ" กุ๊กไก่พูด "พี่กุ๊กไก่ใจเย็นก่อนครับ" หมิงพูดแล้วพยายามดึงกุ๊กไก่ไว้ "ว่าใครไม่มีฝีมือฮะ!" เมย์ตอบ "ก็พูดอยู่กับใครล่ะ" กุ๊กไก่ตอบ "มึงจะเอายังไงว่ะอีกะเทย" เมย์เริ่มควบคุมอารมณ์ไม่อยู่แล้ว "แล้วมึงจะเอายังไงล่ะอีชะนี" พอได้ยินเมย์พูดจาไม่ดีใส่กุ๊กไก่เองก็ทนไม่ไหวเริ่มโต้กลับด้วยคำหยาบบ้าง "แน่จริงมึงก็เข้ามาดิ" "มึงก็มาดิ" โธ่~อีกะเทยเอ้ย" "กระเทยแล้วหนักหัวแม่มึงเหรอ" "หนักหัวกูนี่แหละ" "กูตัดออกให้ดีไหมเผือมันจะได้สวยขึ้นมาบ้าง" เมย์และกุ๊กไก่ต่างไม่มีใครยอมใคร ขนาดมีเพื่อนๆ ค่อยรั้งไว้ก็ยังแทบจะเอาไม่อยู่ "หยุดดดด!!" ปูนปั้นทนไม่ไหวจึงตะโกนออกไปเสียงดังเพื่อห้ามทั้งสองคนให้เลิกทะเลาะกัน นอนแรกเขากะจะให้ทั้งสองคนคิดได้แล้วหยุดทะเลาะกันเองเพราะทั้งคู่ก็โตเป็นผู้ใหญ่แล้วแต่ดูเหมือนว่ามันจะไร้แววเขาจึงรีบห้ามทัพก่อนที่จะซัดกันจริงๆ ซะก่อน "ผมยังยืนอยู่ตรงนี้นะครับ" ปูนปั้นพูดด้วยความโมโหที่ทุกคนมายืนเถียงกันข้ามหน้าข้ามตาเขาอย่างกับไม่ให้เกียรติเขาในฐานะเจ้าของร้านเลย "พี่กุ๊กไก่ ในนี้นี่พี่โตที่สุดเลยนะครับ...ผมรู้ว่าพี่หวังดีกับผมแต่ช่วยใจเย็นลงหน่อยได้ไหมครับ" ปูนปั้นพูด เขารู้ว่ากุ๊กไก่เป็นคนใจร้อนและพูดจาโผงผางไปหน่อยแต่วันนี้ที่มาทะเลาะกันแบบนี้ต่อหน้าเขามันเกินไปจริงๆ "ส่วนพี่เมย์ ผมรู้นะครับว่าพี่เมย์ไม่ชอบผมปละผมก็ตอบพี่เมย์ไม่ได้ด้วยว่าพี่เอมม่าจะหายดีแล้วกลับมาทำงานได้เมื่อไหร่ ถ้าพี่เมย์ไม่พอใจกับการทำงานของผมแล้วอยากจะออกไปทำงานที่อื่นก็ได้ผมไม่บังคับ" คำพูดของปูนปั้นสร้างความไม่พอใจให้เมย์เป็นอย่างมากเพราะมันเหมือนกับเธอกำลังโดนไล่ออกต่อหน้าทุกคน "น้องปูนปั้นกำลังอยากจะไล่พี่ออกใช่ไหมคะ" เมย์ถาม "ผมไม่ได้พูดแบบนั้นครับ" ปูนปั้นตอบ "แต่มันก็เหมือนใช่หนิคะ น้องปูนปั้นทำงานได้ไม่ดีเองพอพี่พูดตรงๆ ก็ไม่พอใจอยากจะไล่พี่ออก...ดีจังเลยนะคะ" เมย์พูดแล้วจ้องมองไปที่ปูนปั้นอย่างท้าทาย "พูดให้มันดีๆ หน่อยนะ" กุ๊กไก่หมันไส้สีหน้าของเมย์จึงอดไม่ได้ที่จะพูดออกมา "แล้วมึงจะทำไม" เมย์หันไปตวาดใส่กุ๊กไก่ทันทีที่เขาพูดขัดขึ้นมา "อย่ามาเสือก...เก็บร่างกายเน่าๆ ของมึงไว้เจ็บกับอีพวกเสี่ยเงินหนาเถอะ ฮึ!" เมย์พูดเน้นเสียงใส่หน้ากุ๊กไก่และแสยะยิ้มใส่เขาด้วยความสะใจ "อ้าวอีนี่!" กุ๊กไม่พอใจจะกระโจนเข้าไปใส่เธอแต่ก็ถูกปูนปั้นจับไหล่เอาไว้ก่อนเพื่อบอกให้เขาใจเย็น ซึ่งตัวกุ๊กไก่เองก็ไม่รู้ด้วยซ้ำมาปูนปั้นเดินมาเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ "ไม่พอใจเหรอครับ" ปูนปั้นถาม "เฮอะ~ น้องปูนปั้นอย่าคิดนะคะว่าแค่เพิ่มเงินเดือนให้พวกเราแค่นิดหน่อยมันจะมาทดแทนความเหนื่อยที่เพิ่มขึ้นมหาศาลของพวกเราได้" เมย์ตอบอย่างลอยหน้าลอยตาจนปูนปั้นเองก็แทบจะอดทนไม่ไหวอยากจะกระชากหัวเธอแรงๆ สักครั้งแต่ติดที่เธอเป็นผู้หญิงและเขาเองก็อยู่ในฐานะผู้นำเลยไม่อยากทำอะไรที่มันไม่สมควร "แล้วทนอยู่ทำไมล่ะครับ ผมมาบริหารอยู่ตั้งเกือบ 4 เดือนถ้าพี่เมย์ไม่พอใจทำไมยังไม่ไปอีกล่ะหรือว่าไม่มีที่ไหนจ้างแล้ว แต่ก็อย่างว่าแหละเนอะร้านผมให้เงินเดือนพนักงานสูงกว่าร้านอื่นๆ จะยอมเสียศักดิ์ศรีทนหน่อยก็คงไม่เป็นไร อ่อ~แต่ถ้าพี่เมย์อยากได้เงินเดือนที่สูงกว่านี้ผมแนะนำให้ได้นะครับ....เอ้~เหมือนจะเป็นเมียน้อยของเสี่ยชัชที่ปล่อยเงินกู้อยู่แถวตลอดสดเจ๊สีนะครับ ถ้าพี่เมย์อยากสบายแล้วได้เงินเยอะก็บอกผมได้นะผมมีเบอร์เสี่ยชัชเขาอยู่" ปูนปั้นพูดแล้วยื่นหน้าเข้าไปใกล้เมย์อย่างไม่กลัว ที่พนักงานในร้านไม่ค่อยเคารพเขาเป็นเพราะเขาอายุยังน้อยแล้วก็ยอมทนคนมาตลอด พอพนักงานรู้ว่าสามารถพูดจายังไงกับเขาก็ได้พักหลังถึงกล้าทำตัวล้ำเส้นกับเขามากขึ้น ดังนั้นนี้จึงเป็นครั้งแรกที่เขาพูดจาแบบนี้กับทุกคนและเป็นการเตือนทุกคนด้วยว่าเขาอยู่ที่นี่ในฐานะอะไรและต่อไปนี้เขาจะไม่ยอมให้พนักงานคนไหนกล้าปีนเกลียวกับเขาอีก "อีตุ๊ด!" เมย์ว่าปูนปั้นแล้วง้างมือขึ้นมาหมายจะตบหน้าเขาแต่ก็ถูกปูนปั้นชี้หน้าแล้วห้ามไว้ซะก่อน "หยุดนะ! อย่ามาทำตัวกร่างแถวนี้ไม่งั้นจะหาว่าผมใจร้ายไม่ได้" ปูนปั้นพูด ทำเอาเมย์ไม่กล้าไม่ลงมือกับเขาเลย "มึงจำให้ดีนะว่าทำอะไรกับกูไว้บ้าง...แล้วมึงจะเสียใจ" เมย์พูดแล้วเดินถอยหลังออกไป "พวกมึงทุกคนด้วย คิดจะฝากอนาคตไว้กับเด็กน้อยโง่ๆ คนนึงพวกมึงก็เตรียมตัวอดตายไปกับมันได้เลย ร้านเนี่ยมันไปไม่รอดหรอกโว้ย~ ฮ่าๆๆ" เมย์พูดแล้วก็เดินออกไปแถมยังถอดผ้ากันเปื้อนโยนทิ้งไว้ที่พื้นอีก "เออ มึงไปเลยนะ ไป!" กุ๊กไก่ตะโกนไล่ตามหลังเมย์ไปด้วยความโมโหเช่นกันและหลังจากที่เมย์ออกไปบรรยากาศในร้านก็เงียบลงทันที ทุกคนที่ยืนตรงนั้นล้วนแต่เกิดคสามรู้สึกอึดอัดใจกันไปหมด ปูนปั้นถอนหายใจออกมาด้วยความรู้สึกสับสนพร้อมไล่สายตามองไปที่พนักงานทุกคนส่วนหมิงก็เดินไปเก็บผ้ากันเปื้อนผืนนั้นที่เมย์โยนทิ้งเอาไว้แล้วหันกลับมามองสบตากับปูนปั้นด้วยความรู้สึกเห็นใจเทียนนั่งมองโรงศพของปู่เขาทุกวันตั้งแต่ที่ศพมาถึงประเทศไทยจนพรุ่งนี้ก็เป็นวันสุดท้ายแล้วที่เขาจะได้อยู่กับปู่เป็นวันสุดท้าย ยิ่งมองเรื่องราวความทรงจำในอดีตของเขากับปู่ก็ยิ่งผุดขึ้นมาในหัวเขา "ทำไมปู่ถึงทิ้งไปผมแบบนี้ล่ะครับ...ไหนปู่บอกว่าจะกลับมาฟังคำตอบจากผมไม่ใช่เหรอ" เทียนพูดออกมาทั้งน้ำตา ตอนนี้ทุกคนกลับไปพักหมดแล้วเหลือเพียงเขาคนเดียวที่ยังนั่งอยู่เป็นเพื่อนปู่ตรงนี้"พรุ่งนี้พวกเราก็ต้องแยกจากกันแล้ว ฮึก~งั้นผมขอตอบคำถามปู่ตรงนี้เลยแล้วกันนะครับ...ฮือ...ผมทำไม่ได้ครับปู่...ฮึก...ฮือ...ผมทำไม่ได้ ผมแต่งงานกับผู้หญิงไม่ได้ครับ...ฮื้อ...ฮือ...ผมขอโทษ ผมทำให้ปู่ผิดหวังอีกแล้ว...ฮื้อ...ฮือ...ฮือ...ฮื้อ...ฮึก...ฮือ" เทียนนั่งร้องไห้จนตัวโยนด้วยความเสียใจ เขารู้สึกผิดมากที่ไม่สามารถทำตามความต้องการของปู่ได้แถมการที่ปู่จะจากไปเขายังได้ติดค้างคำตอบของปู่อีกเวกัสเดินเข้ามาดูเทียนที่นั่งร้องไห้ปานคนจะขาดใจ เขารู้ว่าเทียนกับคุณซ่งรักและสนิทกันมากแค่ไหนและก็รู้ว่าคงไม่มีคำปลอบโยนใดที่จะทำให้หัวใจของเทียนรู้สึกดีขึ้น เวกัสเดินเข้าไปแล้วย่อตัวนั่งลงข้างๆ เทียน เขาใช้มือทั้งสองข้างโอบไหล่ของเ
หลังจากแยกย้ายกันกลับบ้านดารินก็เข้ามาทำแผลให้ลูกชายด้วยความเป็นห่วง"เจ็บไหมลูก" ดารินถาม"นิดหน่อยครับแม่" เทียนตอบ"พี่เทียน ไอ้เมฆมันทำแบบนั้นจริงๆ เหรอพี่" ธูปถาม"คุณปู่บอกพี่แบบนั้นอ่ะ" เทียนตอบ"นี่พ่อไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคนเงียบๆ เรียบร้อยดูไร้พิษสงอย่างไอ้เจ้าเมฆมันจะกล้าทำอะไรแบบนี้" หล่งพูดออกมาด้วยความหงุดหงิดเพราะเมื่อก่อนเขาเองก็รักและเอ็นดูเมฆเหมือนกับลูกชายคนนึงของตัวเองเหมือนกัน"ตอนผมได้ยินครั้งแรกก็ตกใจไม่ต่างจากทุกคนหรอกครับ" เทียนตอบ"แล้วนี่แกรู้เรื่องใหญ่โตนี้ก็ยังจะปิดบังพ่อกับแม่อีกนะ" หล่งหันมาดุเทียนที่ปิดบังเรื่องของเมฆกับตัวเองมาตั้งหลายวัน"คุณเทียนครับ พวกเราได้เอกสารทั้งหมดมาแล้วครับ" เจสันกับเวกัสเดินเข้ามาพร้อมแฟ้มและสมุดบัญชีจำนวนมาก"เอาเข้าไปวางที่ห้องทำงานของฉันเลย" ดารินตอบ"ครับ" เจสันและเวกัสตอบก่อนจะเดินเอาของไปไว้ให้เจ้านาย"แต่แม่ครับ~" เทียนกำลังจะพูดแต่ดารินยื่นมือไปจับมือของลูกชายไว้ก่อน"เดี๋ยวแม่ช่วยเทียนเอง" ดารินพูด เทียนค่อยๆ ยิ้มออกมา"ครับ" เทียนตอบหลังจากมื้อเย็นเทียนและดารินก็ช่วยกับจัดการตรวจสอบบัญชีและเอกสารทั้งหมดด้วยกันโดยมี
"ช้าๆ ระวังเท้าด้วยสิ" ปูนปั้นพพูด เขาประคองเทียนเข้ามาในห้องนอนของตัวเองแล้วทิ้งคนตัวใหญ่ลงเตียงอย่างแรงแฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก ปูนปั้นหอบหายใจออกมาด้วยความเหนื่อยเพราะน้ำหนักตัวของเทียนไม่ใช่เล่นๆ เลย ปูนปั้นมองดูเทียนแล้วยกมือขึ้นมาเกาหัวด้วยความสับสน"หางานให้ตัวเองแท้ๆ เลยไอ้ปูนปั้นเอ้ย~" ปูนปั้นพูดแล้วหันหลังจะเดินกลับไปแต่เทียนก็คว้าข้อมือของเขาไว้ก่อนจนปูนปั้นต้องหันกลับมาหาเขา"อย่าทิ้งผมไป...อย่าทิ้งผมไปเลยนะครับปู่" เทียนพูดเจ้อออกมาเบาๆ ปูนปั้นแกะมือของเขาออกแล้วมองเขาด้วยความรู้สึกเบื่อหน่าย"ปู่ที่ไหนล่ะ นี่ปูนปั้นจ้า ชิส์!" พูดจบปูนปั้นก็เดินไปหยิบผ้าขนหนูแล้วเขาไปอาบน้ำทันที ผลังจากอาบน้ำเสร็จแล้วปูนปั้นก็เดินเช็คผมออกมา เขามองไปที่เทียนอีกครั้งด้วยความรู้สึกแปลกๆ อาจเป็นเพราะปกติไม่เคยมีใครเข้ามาอยู่ในห้องนอนด้วยกันกับเขามันก็เลยทำให้เขาทำตัวไม่ถูก ปูนปั้นเดินออกจากห้องไปหยิบโถใส่น้ำกับผ้าเช็คตัวผืนเล็กๆ เข้ามาวางไว้ที่ตู้ข้างเตียงก่อนจะนั่งลงปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของเทียนออก ตอนที่เทียนล้มทับตัวเขาตอนนั้นเขาก็รู้สึกได้แล้วว่าอุณภูมิร่างกายของเทียนสูงผิดปกติแบบหน้าตาก็อิดโรยกว
เมื่อมาถึงร้านเทียนก็รีบเดินไปที่รถของเขาทันที"ซี๊ด!..." เขาร้องออกมาทันทีที่ใช้มือแตะหลังคารถพร้อมกับรีบชักมือกลับเพราะตอนนี้ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนนอนตากแดดมาหลายชั่วโมงแล้ว"โธ่~ตัวร้อนจี๋เลยลูกไว้กลับบ้ทนพ่อเปิดแอร์ให้นอนฉ่ำๆ เลยนะ" เทียนพูดกับรถเบาๆ ปูนปั้นเดินตามมาทีหลังก็ถึงกับส่ายหัวให้ความโอเว่อร์ของเทียนทันที เขาเดินล้วงหากุญแจเปิดร้านในกระเป๋าจนมาหยุดอยู่หน้าประตูร้านทันที"เจอแล้ว" ปูนปั้นพูดแล้วเงยหน้าขึ้นมามองร้านของตัวเองแต่เขาก็ต้องตกใจ"เฮ้ย!" ทันทีที่เทียนได้ยินเสียงของปูนปั้นเขาก็รีบหันไปหาปูนปั้นด้วยความเป็นห่วงแต่ภาพที่เขาเห็นตรงหน้าคือร้านของปูนปั้นถูกพ่นสีสเปรย์เขียนคำหยาบคายไว้เต็มไปหมด ตอนนี้ปูนปั้นเองก็ช็อคไม่ต่างกันเงยหน้ามองแล้วอ่านคำด้าท่อพวกนี้ทั้งหมดด้วยความโมโหและสับสน เทียนเดินเข้าไปหาปูนปั้นใกล้ๆ เพื่อดูปฏิกิริยาของเขาว่าโอเคหรือเปล่า"รู้ไหมว่าใครทำ" เทียนถาม ปูนปั้นส่ายหน้าตอบว่าไม่รู้ "เข้าไปตรวจดูข้างในก่อนเถอะว่ามีอะไรหายไปไหม" เทียนพูด ปูนปั้นหันมามองหน้าเขาด้วยความรู้สึกอบอุ่นใจที่เขายังอยู่เป็นเพื่อน จากนั้นเขาก็ไขกุญแจเปิดร้านทันทีซึ่งสภาพภายใ
"คุณเทียนมีเรื่องอะไรอยากจะคุยกับผมหรอครับ" พายุถาม"ฉันมีคนรู้จักอยู่คนนึงเขาเป็นเจ้าร้านที่นี่" เทียนตอบแล้วยื่นโทรศัพท์ให้พายุดูซึ่งมันเป็นรูปหน้าร้านของปูนปั้นที่มีทั้งตอนปกติและตอนที่เกิดปัญหา"ร้าน Happy Time หรอครับ" พายุพูด"นายรู้จักเหรอ" เทียนถาม"ครับ ผมเคยไปหาเพื่อนแถวนั้นอยู่ 2-3 ครั้งแต่ไม่เคยเข้าไปทานหรอกนะครับ" พายุตอบ"ตอนนี้ที่นี่กำลังถูกคุกคาม มีคนเอาสีสเปรย์ไปพ่นที่หน้าร้านนี้จนดูไม่ได้ ฉันอยากให้นายไปสืบมาหน่อยว่าใครเป็นคนทำแต่นายห้ามบอกเรื่องนี้ให้คนที่บ้านรู้เด็ดขาด เข้าใจไหม" เทียนพูด"ได้ครับคุณเทียน" พายุตอบ"นายสามารถเอาคนไปใช้ได้ 2-3 คนแต่ต้องกำชับพวกนั้นให้ดีว่าอย่าแพร่งพรายเรื่องนี้ไม่งั้นคนที่จะเดือดร้อนก็คือนายเอง" เทียนพูด"ครับ" พายุตอบ"นี่เป็นงานแรกที่ฉันมอบให้นายทำ...อย่าทำให้ฉันผิดหวังนะ" เทียนพูด"ผมจะทำให้เต็มที่ครับ...เอ่อ~ว่าแต่คุณเทียนมีเวลากำหนดให้ผมไหมครับ" พายุถาม "เร็วที่สุด" เทียนตอบ "ครับ" พายุตอบ"กลับไปพักผ่อนได้แล้วไปพรุ่งนี้จะได้มีแรงไปทำงานให้ฉัน" เทียนพูด"ได้เลยครับคุณเทียน รับรองพรุ่งนี้งานเดินผ่านฉลุยแน่นอน" พายุตอบแล้วยกนิ้ว
"พวกเราได้ภาพคนร้ายมาจากกล้องวงจรปิดน่ะครับ" บอดี้การ์ดคนที่หนึ่งตอบ "เป็นไปไม่ได้ คุณเทียนบอกผมมาแล้วว่ากล้องวงจรปิดที่ร้านมันเสียแล้วแบบนี้พวกคุณจะไปเอามาได้ยังไง" พายุพูด "พวกผมก็ไปเอามาจากบ้านของคนในระแวกไงครับ" บอดี้การ์ดคนที่หนึ่งตอบ "ใช่ครับ กล้องที่ร้านเสียพวกเราเลยไปไล่ขอคลิปจากกล้องวงจรปิดจากชาวบ้านแถวนี้แทนแล้วก็ให้ค่าตอบแทนพวกเขาไปนิดหน่อย ลองเอาภาพจากกล้องวงจรปิดของทุกบ้านมารวมกันก็พบเห็นชายต้องสงสัยที่ใส่ชุดดำทั้งตัวเดินออกมาจากทางร้าน Happy Time ช่วงเวลาประมาณตี 3 กว่าๆ จากนั้นเขาก็เดินเอาถุงอะไรบ้างอย่างไปทิ้งที่หน้าตึกร้างที่อยู่ห่างไปอีก 3 ซอยพอพวกเราไปตรวจสอบดูก็พบว่าในนั้นมีอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับพ่นสี ถุงมือ มีดและกระป๋องสเปรย์อีกจำนวนมากเลยครับอุปกรณ์" บอดี้การ์ดคนที่สองตอบ หน้าของพายุดูอึ้งไปทันทีเขาไม่คิดว่าทุกคนจะฉลาดกันขนาดนี้เพราะตัวเขาเองคิดไม่ถึงเลยจริงๆ ถ้าสองคนนี้ไม่พบหลักฐานอะไรป่านนี้เขาก็ยังคงเดินไล่ถามชาวบ้านต่อไปเรื่อยๆ จนหมดวันแน่ "เหรอ~ แล้วรู้หรือเปล่าว่าเขาเป็นใคร"
ตอนนี้พายุมพาคนร้ายมานึงอยู่ที่เก้าอี้แล้วดึงผ้าคลุมสีดำออก "ต้องปิดปากเขาไว้ด้วยเหรอ" ปูนปั้นถามเพราะเห็นว่ามีเทปปิดปากของเขาไว้อยู่ "ตลอดทางมานี้ไอ้นี่มันร้องโวยวายตลอดเลยครับ พวกผมรำคาญก็เลยเอาเทปแปะไว้ก่อน" พายุตอบ ปูนปั้นถอนห่ยใจออกมาแล้วเดินเข้าไปแกะเทปออกให้เขา "พวกคุณบ้าไปแล้วเหรอ! ประเทศนี้มันมีกฎหมายนะเว้ย คอยดูเถอะผมจะไปแจ้งตำรวจมาจับพวกคุณให้หมดเลย" ผู้ชายคนนั้นต่อว่าทุกคนออกมาอย่างเสียงดังโดยไม่มีความสำนึกอะไรเลย "คุณทำแบบนั้นทำไม" ปูนปั้นถามด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง เขาโกรธมากนะยิ่งรู้ว่าคนที่อยู่ตรวหน้าเป็นคนมำให้ร้านของเขาเสียหายเขายิ่งรู้สึกโกรธแต่ด้วยความที่เขาอยากเจรจาสอบถามเหตุผลกับคนตรงนั้นเขาเลยต้องควบคุมอารมณ์ตัวเองเอาไว้ก่อน "ผมทำอะไร" ชายคนนั้นตอบตาใสเหมือนกับตัวเองเป็นผู้บริสุทธิ์ "คุณมาพ่นสีที่ร้านผมทำไม" ปูนปั้นถาม สีหน้าของเขาดูตกใจเล็กน้อยก่อนที่จะหลบตาปูนปั้น "ผมสีอะไร~ ผมไม่ได้" คนร้ายยังคงปฏิเสธทุกอย่างอย่างหน้าตาเฉย "ไม่ได้ทำบ้าอะไร คิดว
"น่าหงุดหงิดจริงๆ" เทียนขับรถกลับบ้านด้วยความน้อยใจ "ที่ฉันทำไปเพราะตัวเองหรือยังไง...ที่ทำไปก็เพราะหวังดีทั้งนั้น ถ้าไม่ชอบก็น่าจะบอกกันดีๆ สิทำไมต้องใส่อารมณ์ขนาดนั้นด้วย" เทียนนั่งบ่นคนเดียวตลอดทางอย่างกับคนบ้า เห็นใครขับรถปาดหรือขับรถไม่ดีก็ตะโกนด่าอยู่คนเดียวในรถตลอด ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~ "ลั้ลลา ลั้ลลา~" พายุเดินเข้ามาในบ้านอย่างอารมณ์ดีเพราะว่าภารกิจแรกของเขาผ่านพ้นไปด้วยดีแม้จะไม่ใช่ฝีมือของเขาทั้งหมดก็เถอะ เจสันเห็นพายุเดินเข้ามบ้านมาก็รีบเดินมาหาเขาทันที "พายุ" เจสันเรียก "ครับ" พายุหยุดนิ่งแล้วยืนตรงตอบเขาอย่างกับทหารเจอครูฝึกอย่างงั้นแหละ "คุณเทียนสั่งไว้ว่าถ้านายมาแล้วให้ขึ้นไปหาที่ห้องทันที" เจสันพูด "รับทราบครับ" พายุตอบแล้วตะเบ๊ะใส่เจสันไปหนึ่งทีก่อนจะรีบเดินขึ้นบันไดไปหาเทียนที่ห้องนอนตามคคำสั่ง เจสันมองตามพายุด้วยสีหน้างงๆ "นี่มันคิดว่าตัวเองอยู่ในคค่ายทหารหรือไงว่ะ" เจสันพูดแล้วส่่ายหัวให้กับความเด๋อด๋าของพายุ ก๊อกๆๆ
"พวกเราจะไปไหนกันอ่ะลุง" ปูนปั้นถาม เขากลัวมากจนต้องกอดเทียนเอาไว้ตลอดส่วนเทียนก็คอยลูบหลังเขาเบา ๆ เพื่อไม่ให้ปูนปั้นสติแตกไปมากกว่านี้"หนูไปอยู่ที่ร้านก่อนตอนนี้ที่นั่นน่าจะปลอดภัยที่สุด" เทียนตอบ"แต่ว่าคุณเกรทก็ส่งคนไปจับผมมาจากที่นั่นนะ" ปูนปั้นพูด"มีแค่เกรทกับโอมที่รู้จักหนูแต่ตอนนี้สองคนนั้นไม่อยู่แล้วดังนั้นที่นั้นจึงปลอดภัยที่สุดอีกอย่างธูปกับหมิงก็อยู่ด้วย เชื่อพี่เถอะนะ" เทียนพูด"ครับ" ปูนปั้นตอบเอี๊ยดดดดด! (เสียงเบรกรถ)เสียงเบรกรถดังมากจนเอมม่าตกใจจนต้องหันหน้าออกมาดูเพราะคิดว่าเกิดอุบัติเหตุที่หน้าร้านโชคดีที่ตอนนี้ในร้านไม่มีลูกค้าเลยไม่งั้นคงทำให้ลูกค้าตกใจขวัญกระเจิงเป็นแน่ หลังจากเห็นเทียนกับปูนปั้นลงมาจากรถท่าทางอาลัยอาวรณ์กันเอมม่าก็ยิ่งรู้สึกแปลกใจว่าทั้งคู่เป็นอะไรไปเพราะเธอไม่รู้เลยว่าเกิดเรื่องอะไรกับทั้งสองคนไม่งั้นป่านนี้เธอคงไม่สามารถนั่งเฝ้าร้านได้อย่างสบายใจหรอก"แค่แยกกันไปทำงานต้องกอดอะไรกันขนาดนั้นอ่ะ ทำอย่างกับจะตายจากกันอย่างงั้นแหละ" เอมม่าพูดด้วยความสงสัยเพราะสีหน้าแววตาของทั้งคู่ดูเศร้าและหวาดกลัวมาก จากนั้นไม่นานเทียนก็กลับขึ้นรถแล้วก็ออกจากร
"เกรทททท...เกรทอย่าตายนะเกรท" เทียนพยายามปลุกเกรททั้งน้ำตามทั้ง ๆ ที่รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้จนปูนปั้นที่เห็นก็อดรู้สึกสงสารไม่ได้จึงได้ขยับเข้ามากอดปลอบเทียน "พวกเราต้องไปแล้วครับ" เจ๋งพูดขึ้นเพราะกลัวว่าจะมีคนจากอีกฝั่งมาเสริมอีก "ลุง" ปูนปั้นเรียกแต่เทียนก็เอาเอาแต่นอนฟุบหน้าลงกับศพของเกรทอยู่ "พาคุณเทียนกับคุณเปูนปั้นไป" เจ๋งหันไปบอกกับพายุ "ครับ" พายุรีบเก็บปืนแล้วเขามาช่วยปูนปั้นพยุงพาเทียนออกไปทั้ง ๆ ที่เขายังไม่อยากไป "ไปครับคุณเทียน" พายุพูด "ไอ้โอมไป" เจ๋งรีบเข้าไปช่วยโอมที่กอดร่างของเจ้านายไว้อยูาเช่นกัน "คุณเกรท" โอมไม่ยอมปล่อยมือออกจากเกรทจนเจ๋งต้องกระชากเขาออกไป "มึงต้องไปก่อน!" เจ๋งพูด "แต่คุณเกรท" โอมพูด "เสร็จแล้วพวกเราค่อยกลับมารับร่างคุณเกรทด้วยกัน รีบไปไอ้โอม" เจ๋งพูด โอมได้แต่ต้องยอมรับแล้วปล่อยมือจากเกรทไป ทั้ง 5 คนเดินออกมาจนถึงรถแต่จู่ ๆ ก็มีคนของเหรียญโผล่มาอีก "เฮ้ย!" ปัง! ปัง! ปัง! (เสียงปืน) "อร๊ายยย" เทียนรีบหมุนตัวมากอดปูนปั้นไว้เพราะกลัวว่าเขาจะถูกยิงจากนั้นเสียงปืนก็ดังรัว ๆ ยิงสวนไปจากฝั่งของพายุและเจ๋งทันทีจนอีกฝ่ายล้มลง "ไอ้โอม!" เสีย
คนของเกรทรีบวิ่งเข้ามาขว้างเทียนทันทีเมื่อเห็นว่าเขากำลังจะบุกเข้าไปในบ้าน"ถอยไป!" เทียนตะคอกเสียงดังแต่ลูกน้องของเกรทไม่มีท่าทีจะกลัวเทียนเลยแถมยังทำสีหน้าลอยตาจนเทียนอดใจไม่ไหวยกขาขึ้นมาถีบที่ท้องเต็มแรงจนลูกน้องของเกรทล้มลงไป"เฮ้ย!" ลูกน้องคนอื่น ๆ ของเกรทเมื่อเห็นว่าเพื่อนของตนล้มลงไปก็รีบชักปืนออกมาจ่อหน้าของเทียนด้วยความโมโหแต่เจ๋งกับพายุก็ไม่ยอมเช่นกัน เขาสองคนชักปืนออกมาแล้วเล็งไปที่ลูกน้องของเกรททันที ทั้งหมดมองจ้องกันอย่างไม่มีใครยอมใครจนในที่สุดเกรทก็เดินออกมา"มาแล้วเหรอ" เกรทพูด"ปูนปั้นอยู่ไหน" เทียนถาม"ใจเย็น ๆ สิเทียน" เกรทตอบ"เราเคยบอกเกรทแล้วใช่ไหมว่าอย่ายุ่งกับปูนปั้นอ่ะ" เทียนพูด"แล้วทำไมเราต้องฟังเทียนด้วยล่ะ" เกรทถาม"เราไม่อยากมีปัญหากับเกรทนะแค่ถ้าเกรททำอะไรปูนปั้นล่ะก็เราจะทำให้เกรทรู้สึกเสียใจที่สุดที่ทำแบบนี้กับเรา" เทียนตอบ"ฮึ~ เทียนได้ทำมันไปแล้วแหละ" เกรทพูดด้วยแววตาสั่นคลอนจนทำให้เทียนรู้สึกผิดขึ้นมาอีกครั้ง"เราจะพาปูนปั้นกลับ" เทียนพูด"เราไม่อนุญาต" เกรทตอบ"เกรท!" เทียนใช้เสียงต่ำเรียกเขาเหมือนกำลังบอกเขาให้รู้ว่าตอนนี้เจ้าตัวกำลังใช้ความอดทนแบ
เทียนรีบวิ่งเข้าไปในร้านอย่างรวดเร็วจนเอมม่าที่ยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์ยังตกใจ"ว้าย! คุณเทียน~" เอมม่าพูด"ปูนปั้นอยู่ไหมครับ" เทียนถาม"ปูนปั้นออกไปแล้วค่ะ คุณเทียนมีอะไรหรือเปล่าคะทำไมรีบร้อนขนาดนี้" เอมม่าถาม"ปูนปั้นออกไปไหน ไปนานหรือยังครับแล้วไปกับใคร" เทียนถามออกมารัว ๆ ออกมาด้วยสีหน้าตื่นตกใจจนเอมม่าเริ่มรู้สึกแปลก ๆ"เอ่อ...เห็นว่าจะกลับคอนโดนะคะแล้วก็ออกไปสักพักใหญ่แล้วด้วยส่วนถ้าถามว่าออกไปกับใครก็คงไปกับคนของคุณเทียนนั่นแหละค่ะ" เอมม่าตอบ"ขอบคุณครับ" เทียนพูดจบก็รีบออกจากร้านแล้วขึ้นรถไปทันที"ส่งคนของเราออกจากหาไอ้โอมเดี๋ยวนี้แล้วบอกให้ฝ่ายข้อมูลเจาะสัญญาณมือถือของโอมกับปูนปั้นด่วน" เทียนพูด"ครับคุณเทียน" พายุตอบ"เราจะไปที่ไหนกันครับ" เจ๋งถาม"ฉันก็ไม่รู้" เทียนตอบออกมาอย่างสิ้ยหวังแล้วทิ้งตัวพิงไปกับเบาะ"ขับไปที่โกดังที่เราเจอไอ้เมฆก่อนไม่แน่พวกมันอาจพาปูนปั้นไปที่นั่นก็ได้" เทียนพูด"ครับคุณเทียน" เจ๋งตอบแล้วรีบออกรถทันที ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~ปูนปั้นนั่งมองโอมที่กำลังใช้เชือกมัดข้อเท้าของเขาอยู่ด้วยสีหน้าเรียบเฉยเหมือนไม่ได้รู้สึกกลัวอะไรโอมเลยสักนิดอาจเป็นเ
"หมายความว่าไง" คุณโฉมหันไปถามวิสุทธิ์ด้วยสีหน้าตกใจ แววตาของวิสุทธิ์ยังคงมีแต่ความเศร้าอาลัยถึงเจ้านายอันเป็นที่รักอยู่ตลอดเวลาตอนนี้ในใจของเทียนรู้สึกหวิว ๆ ขึ้นมาแปลก ๆ "วันนั้นหลังจากถึงฮ่องกงคุณท่านก็รีบไปพบกับคุณเมฆทันทีเพื่อถามหาเหตุผลที่ทำให้คุณเมฆยอมทรยศหักหลังตระกูล ตอนแรกทุกอย่างก็เหมือนจะเป็นไปด้วยดีเพราะคุณเมฆยอมรับสารภาพออกมาตรง ๆ ว่าที่ทำไปทั้งหมดก็เพราะถูกผีพนันเข้าสิง คุณเมฆหลอมตัวเข้าไปเล่นในบ่อนของคุณเหรียญแต่ติดหนี้จำนวนมากและหลังจากที่คุณเมฆหาเงินมาใช้คืนให้พวกคุณเหรียญไม่ได้เขาก็ถูกทำร้ายอยู่หลายครั้งจากคนที่คุณเหรียญส่งมา คุณเมฆกลัวว่าจะถูกคุณเอกต่อว่าและเปรียบเทียบกับคุณสายฟ้าจึงได้ยอมตกลงรับข้อเสนอจสกคุณเหรียญโดยการขโมยข้อมูลลับของพวกเราไปให้เพื่อแลกกับการหักลบยอดหนี้ที่ติดค้างไว้โดยจำนวนยอดที่ลบออกก็มากน้อยต่างกันไปตามความสำคัญของข้อมูลที่ให้ไปในแต่ละครั้งดังนั้นหลังจากที่คุณท่านได้ฟังคำสารภาพของคุณเมฆจึงได้ตัดสินใจว่าจะช่วยใช้หนี้ให้ทั้งหมดแทนเองแต่ต้องแลกกับการที่คุณเมฆต้องกลับไทยมาอยู่ในสายตาของคุณท่านและไม่อนุญาตให้คุณเมฆเข้าร่วมหรือดูแลในธุรกิจใด ๆ ในตร
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~เมฆเดินเข้ามาในบ้านของคุณเหรียญด้วยสีหน้าสลดเพราะเขารู้ตัวดีกว่าตัวเองทำให้เหรียญไม่พอใจมาก"สวัสดีครับคุณเหรียญ" เมฆเอ่ยทักทายอย่างไม่เต็มเสียง"หายไปนานเลยนะ" เหรียญพูด"ผมขอโทษครับ ผมไม่คิดว่าไอ้เทียนมันจะใช้วิธีขังผมเอาไว้ก็เลยทำให้แผนของเราล่าช้า" เมฆตอบ"นี่ถ้าคนของกูไม่ช่วยมึงออกมามึงก็คงเป็นได้แค่นักโทษของไอ้เทียนเท่านั้นสินะ อย่าลืมสิว่ามึงติดหนี้กูอยู่นะ ช่วยทำอะไรที่มันมีประโยชน์บ้างเพราะถ้ามึงไม่ทำงานใช้หนี้กูเนี่ยแหละจะเป็นคนเอาชีวิตมึงมาลบหนี้ที่มึงก่อไว้เอง" เหรียญพูด"ผมตั้งใจไว้แล้วว่าจะทำตามแผนของเราแต่ผมก็ไม่คิดว่านอกจากมันจะไม่เห็นแก่ความสัมพันธ์พี่น้องในวัยเด็กแล้วมันยังกล้าสั่งขังผมต่อหน้าทุกคนอีกแถมตอนหลังมันยังสั่งคนยึดมือถือของผมไปอีก พูดแล้วก็เจ็บใจจริง ๆ " เมฆตอบ"เจ็บใจแล้วได้อะไรล่ะ ที่บ้านนั้นมีใครเห็นหัวมึงบ้างพ่อแม่มึงยังไม่เคยไปเยี่ยมมึงสักครั้ง เขาไม่แม้แต่จะไปขอร้องให้ไอ้เทียนเห็นใจมึงเลยด้วย ไหนจะย่ามึงอีก เขาอยู่รั้วบ้านเดียวกับมึงเขายังไม่กล้าขัดคำสั่งไอ้เทียนให้ปล่อยตัวมึงเลยยิ่งปู่มึงยิ่งแล้วใหญ่" เหรียญพูด"ที่ผ่าน
เทียนมาถึงโรงพยาบาลก็รีบตรงไปที่ห้องฉุกเฉินทันทีและเมื่อมาถึงเขาก็เห็นแม่ของตัวเองกำลังนั่งก้มหน้าร้องไห้โดยมีเจ๋งกับพายุยืนเฝ้าดูแลอยู่ข้าง ๆ "แม่" เทียนเรียกแล้วรีบเข้าไปหาแม่ทันที ดารินเองเมื่อได้ยินเสียงลูกชายก็รีบลุกขึ้นมาสวมกอด"หมอว่าไงบ้างครับ" เทียนถาม"ฮือ...ฮื้อ...อือ" "ยังไม่ออกมาเลยครับคุณเทียน" เจ๋งตอบแทนเมื่อเห็นว่าดารินเอาแต่ร้องไห้จนตอบอะไรเทียนไม่ได้"ใจเย็น ๆ นะครับแม่" เทียนพยายามปลอบแล้วใช้มือลูบหลังของดารินเบา ๆ "ฮึก...แม่...แม่ไม่เคยเห็นพ่อเป็นแบบนี้มาก่อนเลยเทียน...ฮือ...ฮื้อ" ดารินตอบ"แม่นั่งพักก่อนนะครับ" เทียนพูดแล้วพาดารินไปนั่งลงที่เดิมจากนั้นเขาก็หักไปมองหน้าพายุเพื่อส่งสัญญาณให้พายุเดินออกไปคุยกับเขา"ดูแลแม่ฉันดี ๆ " เทียนหันไปพูดกับเจ๋ง"ครับคุณเทียน" เจ๋งตอบจากนั้นเทียนกับพายุก็เดินออกจากหน้าห้องฉุกเฉินไป"นี่มันเกิดอะไรขึ้นทำไมอยู่ ๆ พ่อฉันถึงเป็นแบบนี้" เทียนถาม"พี่เวกัสกับพี่เจสันกำลังตรวจสอบอยู่ครับ" พายุตอบ"ไหนนายลองเล่าเหตุการณ์ก่อนหน้าที่พ่อฉันจะเป็นแบบนี้มาสิ" เทียนพูด"วันนี้หลังจากที่คุณหล่งกลับมาจากบ้านคุณมุกดาท่านก็ขังตัวเองทำงานอยู่
"โอ้โห~ หาวขนาดนี้มึงไปแดกกาแฟดีกว่าไหม" บอดี้การ์ดที่ยืนเฝ้าบ้านพักของเมฆทักบอดี้การ์ดอีกคนที่ยืนหาวติด ๆ กันมาหลายครั้งแล้ว"นี่เพิ่ง 4 ทุ่มกว่าเองทำไมผมง่วงแล้วว่ะพี่" "กูจะไปรู้มึงเหรอ เอ่อ! แต่จะว่าไปวันนี้กูก็รู้สึกง่วงแปลก ๆ นะ" "นั่นดิพี่ หาคนมาเปลี่ยนดีไหมผมกลัวผมเผลอหลับว่ะ" "มึงจะบ้าเหรอพวกเราเพิ่งจะผลัดเปลี่ยนกะกันไปเอง ใครเขาจะยอมมายืนแทนมึงเวลาเนี่ยอ่ะ" "แต่วันนี้บ้านใหญ่เงียบแปลก ๆ เนอะ" "เออว่ะ ปกติเดินกันให้วุ่นอย่างกับคนดีดยาทำไมวันนี้ไม่เห็นใครเลยว่ะ" "แปลก ๆ นะพี่ พวกเราไปดูกันหน่อยไหม" "ไปแล้วใครจะเฝ้าประตูว่ะ มึงไม่ต้องไปสนใจใครหรอกเอางานตัวเองให้รอดก่อนดีกว่า""โธีพี่~ ไปแค่แป๊ปเดียวเองจะได้ไปหาอะไรมาไว้นั่งกินเล่นด้วย พี่ก็ดูดิล็อคแน่นหนาขนาดนี้ใครจะออกไปได้ต่อให้ไอ้คุณเมฆมันหายตัวได้จริงมันก็ยังหนีออกไปยากเลย" บอดี้การ์ดรุ่นพี่กำลังคิดตามคำพูดของรุ่นน้องคนสนิทอย่างลังเลใจเพราะตอนนี้เขาก็รู้สึกเบื่อเต็มทีที่ต้องมายืนประตูที่ปิดแน่นสนิทขนาดนี้"แต่ถ้าพี่เวกัสมาเดินลาดตระเวนแล้วไม่เจอคนเฝ้าที่นี่จะทำไงว่ะ" "พี่เวกัสเป็นคนของบ้านคุณหล่งเขาไม่ได้มาบ้านใหญ่ท
หลังจากที่เกรทเดินออกจากห้องไปเทียนก็รีบล้วงกระเป๋าหยิบเอาโทรศัพท์ของเขาออกมาโทรหาปูนปั้นทันที"ครับลุง" ปูนปั้นพูด"อยู่ไหนอ่ะ" เทียนถาม"อยู่ที่ร้านครับ" ปูนปั้นตอบ"โอเคดีใช่ไหม" เทียนถาม"ครับ ลุงเป็นอะไรหรือเปล่าเนี่ย" ปูนปั้นพูด"ไม่มีอะไรวันนี้ปิดร้านแล้วรีบกลับบ้านนะ" เทียนพูด"โอเคแค่นี้ก่อนนะ" ปูนปั้นตอบ"อืม" เทียนตอบจากนั้นทั้งคู่ก็วางสายไป"คุณเทียนกังวลเรื่องอะไรเหรอครับ" เจ๋งถาม"แค่รู้สึกไม่สบายใจเฉย ๆ น่ะ" เทียนตอบ"ผมว่าคุณเกรทเขาก็คงอยากจะปั่นหัวคุณเทียนเล่น ไม่มีอะไรหรอกครับ" เจ๋งพูด"ฉันรู้จักเกรทดี เขาเป็นที่แค้นฝังลึกมากและถ้าเขาไม่คิดว่าจะอะไรเลยก็คงไม่ลงแรงตามหาตัวปูนปั้นจนเจอแบบนี้หรอกไหนจะเรื่องที่บริษัทอีก เกรทกลับมาครั้งนี้ฉันคงต้องวางแผนรับมือดี ๆ หน่อยละ" เทียนตอบ"งั้นเดี๋ยวผมจะให้โอมคอยไปดูแลความเรียบร้อยแถวบริเวณร้านของคุณปูนปั้นให้นะครับ" เจ๋งพูด"ดี แต่อย่าให้ปูนปั้นหรือคนที่ร้านตกใจเป็นอันขาดนะ" เทียนตอบ"ครับคุณเทียน" เจ๋งตอบ..ก๊อก ๆ ๆเสียงคนเคาะผนังบ้านน็อคดาวน์ของเมฆกดังมาจากข้างนอกซึ่งทำให้เมฆเลิกสนใจหนังสือการ์ตูนในมือแล้วขยับเข้าไปชิดกำแพ