Share

My Husband 4 - แทนตัวเองแบบนี้น่ารักดี

Author: Siesta
last update Huling Na-update: 2025-02-21 22:59:22

“โห บริษัทนำเข้ารถยนต์ชื่อดังด้วย คุณทำงานเป็นเซลล์หรือคะ งั้นเอาไว้ถ้าฉันมีเพื่อนคนไหนสนใจจะออกรถ ฉันจะแนะนำไปให้” ก็ถ้าดูจากการแต่งตัวฉันคิดเป็นอื่นไปไม่ได้เลย เขาใส่แค่เสื้อเชิ้ตสีขาวธรรมดาไม่ได้ใส่สูทอย่างผู้บริหารระดับสูงหรือระดับเมเนเจอร์ เพราะงั้นเขาก็คงเป็นเซลล์นะแหละคงไม่ใช่ช่างซ่อมในอู่รถหรอกมั๊ง หุ่นสูง ๆ ผิวขาว ๆ ดูเจ้าสำอางมันทำให้ฉันค่อนข้างมั่นใจว่าเดาไม่ผิด

“อืม ครับ งั้นถ้าคุณมีเพื่อนสนใจจะออกรถจริงก็ติดต่อมาได้เลยครับ ผมยินดี”

“ได้เลยค่ะ ว่าแต่คุณมีนามบัตรไหมล่ะ เผื่อมีเพื่อนสนใจออกรถ ฉันจะได้ให้ติดต่อคุณไป”

“เออ...พอดีนามบัตรของผมน่าจะติดไปกับเสื้ออีกตัว”

“ไม่ได้นะคะ ทีหลังต้องพกไว้ตลอด คุณเป็นเซลล์และนามบัตรเป็นสิ่งสำคัญ” ฉันเผลอตำหนิเล็กน้อยเพราะแทนที่มานัดบอดแบบนี้เขาควรจะเตรียมความพร้อมให้มากกว่านี้ แต่พอรู้ตัวว่าหลุดพูดอะไรออกไปก็ถึงกับเม้มปากสำนึกผิด

“ขอโทษด้วยนะครับ”

“มะ ไม่เป็นไรค่ะ คนเราลืมกันได้แหละ” ฉันหัวเราะแหะ แหะ แก้เก้อก่อนจะพยายามชวนคุยเรื่องสัพเพเหระทั่วไป

Talk ภีมม์

ผมรู้ว่าเธอคู่นัดบอดของผม ไม่ได้เปิดอ่านประวัติของผมจากเมล์ที่ส่งไปให้เลย ไม่เหมือนกับผมที่อ่านข้อมูลของเธอไปมานับสิบรอบ ผมว่าเธออาจจะผิดหวังเล็กน้อยที่ผมไม่ได้แต่งตัวสุภาพอย่างที่คนนัดบอดทั่วไปแต่งมา และตอนนี้เธออาจจะผิดหวังเข้าไปอีกที่คิดว่าคู่นัดบอดอย่างผมเป็นแค่เซลล์ขายรถธรรมดา

เธอคือใบเฟิร์น ลูกสาวคนเดียวของเพื่อนสนิทคุณพ่อ เธอกับผมอายุห่างกันถึงเจ็ดปี ใช่ผมอายุยี่สิบเจ็ดแล้ว ในขณะที่ใบเฟิร์นอายุแค่ยี่สิบเอ็ด ตอนที่เธอเพิ่งคลอดใหม่ ๆ คุณพ่อและคุณแม่ของผมเคยพากันไปเยี่ยมครอบครัวของเธอ

“ดีเลยที่นายได้ลูกสาว เอาไว้ถ้าลูกสาวนายอายุยี่สิบแล้วเรียนจบมหาวิทยาลัยเมื่อไหร่ให้ลูกนายกับฉันแต่งงานกันทันทีเลยนะเว้ย”

คำสัญญาระหว่างผู้ใหญ่ที่เป็นมั่นเป็นเหมาะเมื่อยี่สิบปีที่แล้ว ทำให้ผมรับรู้มาตลอดว่าเด็กน้อยแบเบาะในวันนั้นจะต้องกลายเป็นเจ้าสาวของผมในอนาคต ในขณะที่ผมเฝ้ามองเธออยู่ห่าง ๆ แต่เธอกลับไม่รู้อะไรเกี่ยวกับผมเลยสักนิด

“ต่อไปคุณควรเรียกผมว่าพี่ พี่ภีมม์ เพราะผมอายุมากกว่าคุณ” ผมบอกเจตนาของผมให้เธอรู้ เพราะอายุของเราค่อนข้างห่างกันพอสมควร

“อ่อจริงสิ คุณอายุมากกว่าฉันนี่นา”

“พี่ภีมม์-ครับ” ขนาดผมเพิ่งบอกเธอไปหยก ๆ ไม่ถึงวินาที เธอก็ลืมซะแล้ว

“อ่าได้ค่ะ พี่ภีมม์” ริมฝีปากสวยของเธอเม้มแน่นคล้ายกับกำลังเขินที่ผมให้เธอเรียกว่าพี่ ก็นะ...ขนาดผมยังฟังดูแปลก ๆ แต่ก็ดันรู้สึกดี

“ในเมื่อเราสองคนต้องแต่งงานตามคำตกลงของผู้ใหญ่ โดยที่ฉันและคุณ เออ...พี่ พี่ภีมม์ไม่เต็มใจ งั้นเราสองคนมาทำข้อตกลงกันก่อนดีไหมคะ”

นี่เธอคิดเป็นตุเป็นตะจากไหนว่าผมไม่เต็มใจ แล้วถ้าผมบอกออกไปว่าผมเต็มใจ เธอจะเชื่อผมไหมนะ

เดาว่า...ไม่

“คือฉันว่าถ้าเราสองคนต้องแต่งงานกันจริง ๆ ฉันอยากทำงานไปด้วยได้ไหมคะ คุณ...เอ๊ยพี่ภีมม์คิดดูนะคะฉันเพิ่งเรียนจบใหม่ ๆ ฉันควรจะได้ใช้ความรู้ความสามารถที่อุตส่าห์เรียนมาตั้งหลายปีได้ทำงานก่อน พี่ภีมม์จะโอเคไหมถ้าฉันจะขอทำงานไปด้วยเพราะฉันไม่อยากแต่งงานแล้วอยู่เป็นแค่แม่บ้านเฉย ๆ”

“ได้ครับ”

“แล้วก็งานแต่งงาน ฉันอยากให้จัดเล็ก ๆ แค่ภายในครอบครัว เพราะบอกตามตรงค่ะว่าฉันยังรู้สึกอายเพื่อน คือพี่ภีมม์ต้องเข้าใจนะว่าฉันเพิ่งอายุแค่ยี่สิบเท่านั้นเอง ฉันว่ามันไวเกินไปที่จะต้องแต่งงานในอายุขนาดนี้ แล้วถ้าคุณ...เอ่อ พี่ภีมม์ตกลงทุกข้อเสนอที่ฉันขอ เราสองคนจะแต่งงานกันก็ได้ค่ะ เพราะต่อให้ฉันหรือพี่ปฏิเสธครั้งนี้ คุณพ่อคุณแม่ก็คงจับพี่กับฉันแต่งงานกับคนอื่นอยู่ดี ถ้าเป็นพี่ภีมม์ฉันว่า ฉันไม่ติดอะไร”

ใบเฟิร์นพูดเป็นฉาก ๆ อย่างไม่ปล่อยช่องว่างให้หายใจ ผมว่าเธอเป็นคนตรงไปตรงมาและดูสดใสมากกว่าที่ผมคิด ที่สำคัญตัวจริงของเธอและดวงตาของเธอสวยกว่าในรูปเป็นไหน ๆ

แต่เมื่อกี้เธอว่าไงนะ...เธอเพิ่งพูดว่าไม่ติดอะไรอย่างงั้นเหรอ หมายความว่า เธอกำลังจะบอกว่ายินดีที่จะแต่งงานกับผมโดยไม่ติดอะไรอย่างนั้นเหรอ

“ค่ะ...ว่าไงคะ ได้ไหมคะ” เสียงหวาน ๆ ของเธอเรียกสติของผมที่กำลังเผลอเอาแต่จ้องหน้าหวาน ๆ ของเธออยู่

“ได้ครับ”

“อีกอย่างเราแค่แต่งงานกันตามคำขอร้องของผู้ใหญ่ มันไม่ได้เกิดจากความรักเพราะอย่างนั้นเราแยกห้องนอนกันด้วยก็ได้ค่ะ” เธอยื่นใบหน้าสวย ๆ ของเธอมองมาที่ผม ดูเธอจริงจังมากกับความคิดของเธอจนแทบไม่เหลือช่องว่างให้ผมออกความเห็นเลย แต่ก็นะ...ดวงตาเป็นประกายที่จ้องมองผมอยู่ทำให้ผมไม่กล้าปฏิเสธเธอ ถ้าผมบอกว่าไม่...ดวงตาของเธอจะหม่นลงไปไหมนะ

“ได้ครับ...ถ้าทำได้” ผมเลยเลือกที่จะตอบเธออ้อม ๆ แบบนี้แหละ แต่ผมว่าทำไม่ได้หรอกถึงทำได้ผมก็ไม่ทำ

“เอ...แล้วมีอะไรอีกน้า เฟิร์นนึกไม่ออก เอาไว้นึกออกจะบอกอีกนะคะ แล้วพี่ภีมม์ละ อยากมีข้อยกเว้นอะไรบ้างในการแต่งงานครั้งนี้”

“แทนตัวเองว่าเฟิร์นแบบเมื่อกี้...ก็พอ” ผมไม่รู้ตัวว่าพูดอะไรออกมาด้วยซ้ำ คือพอได้ยินเธอเผลอแทนตัวเองว่าเฟิร์นแล้วแบบ ฟังดูแล้วมันก็น่ารักดี

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Kaugnay na kabanata

  • My Husband (อุ๊ปส์) เจ้าบ่าวของฉันเป็นประธานบริษัท   My Husband 5 - ผู้ชายคนนั้น

    Talk เฟิร์นเมื่อกี้ฉันรู้สึกเหมือนหูฝาดที่เขาตกลงทุกข้อที่ฉันขอ ใช่มันง่ายกว่าที่ฉันคิดเอาไว้มาก และเมื่อฉันขออะไรเขาก็โอเคหมดไม่มีค้าน อย่างว่าอะเนอะเพราะเขาก็ไม่ได้เต็มใจกับการแต่งงานนี้เลยยอมตกลงกับข้อเสนอของฉันอย่างง่าย ๆ อย่าลืมสิว่าเราสองคนแค่ตกลงยอมแต่งงานเพราะหลีกเลี่ยงสัญญาของพวกผู้ใหญ่ไม่ได้จากตอนแรกที่ฉันลำบากใจเรื่องแต่งงาน แต่เพราะพี่ภีมม์ดูเป็นคนสุภาพและพูดง่ายกว่าที่คิดไว้ เลยทำให้ฉันรู้สึกโล่งอก โล่งอกที่เขาไม่ได้เป็นคนน่ากลัวอย่างที่ฉันกลัวในตอนแรก ที่สำคัญคือเอ่อ...นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มของเขาที่มองมา มันทำให้หัวใจของฉันสั่นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน นี่...ฉันคงไม่ได้ตกหลุมรักเขาในครั้งแรกหรอกใช่ไหม หรือบางทีที่ฉันใจสั่นอย่างตอนนี้อาจจะเป็นเพราะว่าเขาดูหล่อมาก ๆ เท่านั้นเองเมื่อเราสองคนตกลงเรื่องการแต่งงานกันเรียบร้อยก่อนที่จะแยกย้ายไปบอกผู้ใหญ่ของกันและกัน ฉันเลยขอเป็นฝ่ายขอตัวแยกกับเขาก่อน แม้เขาจะอาสามาส่งฉันก็ตามที“เฟิร์นว่าจะแวะไปหาเพื่อนก่อนเข้าบ้านค่ะ”“ให้พี่ไปส่งบ้านเพื่อนไหม”“ไม่เป็นไรค่ะ เพื่อนเฟิร์นอยู่แค่คอนโดตรงนี้เองไม่ไกลเท่าไหร่”เราเอ่ยปากลากัน ก่อนที่เ

    Huling Na-update : 2025-02-21
  • My Husband (อุ๊ปส์) เจ้าบ่าวของฉันเป็นประธานบริษัท    My Husband 6 - คืนเข้าหอ

    ไหน ๆ เราสองคนก็แต่งงานกันแล้ว แต่ไม่ได้เกิดจากความรัก เพราะงั้นเรื่องอันตรายอะไรคงไม่มีทางเกิดขึ้น (หรอกมั้งนะ) ฉันพยายามบอกตัวเองไม่ก็กำลังหลอกตัวเองอยู่นั่นแหละเอาแค่ตอนนี้ พี่ภีมม์ถอดเสื้อสูทแล้วแขวนไว้ที่แขน ตามด้วยปลดกระดุมแขนเสื้อออกที่ละเม็ด เท่านี้ฉันก็เริ่มหายใจติดขัดแล้ว คนอะไรไม่รู้ขนาดท่าปลดกระดุมยังเท่ห์“เราอาบน้ำก่อนไหมเดี๋ยวพี่ค่อยอาบทีหลังก็ได้” เขาเงยหน้าขึ้นมามองอย่างกับรู้ตัวว่าฉันกำลังนั่งแอบมองการกระทำของเขาอยู่“พี่ภีมม์อาบก่อนเลย เฟิร์นรอได้ เฟิร์นอาบน้ำนาน”“พี่ก็อาบน้ำนาน หรือเราจะอาบพร้อมกันเลย”“หา...” ฉันถึงกับอ้าปากค้างเมื่อได้ยินที่พี่ภีมม์พูดออกมา ส่วนเขาก็ยกยิ้มออกมาน้อย ๆ เหมือนพูดแกล้งยั่วให้ฉันกลัว“ว่าไงครับ จะอาบพร้อมกันหรือเราจะอาบก่อนพี่” พอเขายื่นข้อเสนอมาอีก คราวนี้ฉันไม่กล้าลีลาเลยรีบตอบตกลงทันที ขืนไม่รีบฉันกลัวต้องอาบน้ำด้วยกันอย่างที่พี่ภีมม์ว่าแต่...อื้อ ชุดแต่งงานทำไมมันถอดยากแบบนี้นะ ฉันเอื้อมแขนหมายจะรูดซิปที่อยู่ตรงแผ่นหลังออก แต่รูดมาได้ครึ่งเดียวมือก็เอื้อมไม่ถึงแล้ว ก็ตอนแต่งตัวมีช่างแต่งหน้าแต่งตัวมาให้นี่นา ใครจะไปรู้ว่าชุดแต่ง

    Huling Na-update : 2025-02-21
  • My Husband (อุ๊ปส์) เจ้าบ่าวของฉันเป็นประธานบริษัท    My Husband 7 - ฝันหวาน

    โชคดีที่ฉันเตรียมชุดนอนแบบกางเกงลายการ์ตูนรูปเป็ดสีเหลืองมาด้วย ชนิดที่ว่าไม่ได้มีความเซ็กซี่ที่พอจะยั่วยวนให้ใครเกิดอารมณ์ได้ แต่กระนั้นพอพี่ภีมม์ไปอาบน้ำ ฉันก็รีบกระโดดขึ้นเตียงนอนก่อนเอาผ้าห่มพันตัวเองจนแทบไม่เหลืออากาศให้หายใจพี่ภีมม์อาบน้ำร่วมครึ่งชั่วโมง เขาอาบน้ำนานจริง ๆ อย่างที่เขาบอกไว้ นี่สินะที่มีคนบอกกันว่าคนที่มีอาชีพเซลล์มักจะพิถีพิถันเสมอ“ทำไมเฟิร์นนอนแบบนั้นล่ะครับ ไม่อึดอัดแย่เหรอ” เสียงพี่ภีมม์ที่เดินออกมาพร้อมผ้าขนหนูพันรอบเอวแค่ผืนเดียว ในขณะที่ฉันมีสภาพเหมือนดักแด้“ดะ เดี๋ยวทำไมพี่ภีมม์แต่งตัวแบบนี้ค่ะ”“ปกติพี่ใส่แต่บ็อกเซอร์นอนครับ มันสบายดี”“แต่...”“ไม่ต้องคิดมากครับ แค่นอนเตียงเดียวกัน ถึงวันนี้เราจะเพิ่งแต่งงานกันแต่พี่ไม่ชอบทำอะไรใครถ้าอีกฝ่ายไม่เต็มใจ”หืม...คำพูดของพี่ภีมม์ฟังแล้วดูดี เป็นสุภาพบุรุษเอามาก ๆ แต่ใจฉันสิมันเต้นแรงจนแทบจะเป็นบ้า คิดเอาเถอะฉันผู้เวอร์จิ้นไม่เคยคบกับผู้ชายเลยแม้แต่คนเดียว แต่ตอนนี้ฉันต้องนอนกับผู้ชายที่มีซิกแพคขาว ๆ ลอนเป็นลูก ๆ ราวกับปั้นมาตรงกล้ามท้องแน่นนั่น ทำเอาหัวใจของฉันเต้นไม่เป็นจังหวะ ขนาดเวลาไปว่ายน้ำฉันก็เห็นผู้

    Huling Na-update : 2025-02-21
  • My Husband (อุ๊ปส์) เจ้าบ่าวของฉันเป็นประธานบริษัท   My Husband 8 - ผู้หญิงคนนั้นคือใครกัน

    คืนเข้าหอที่ไม่ได้มีความโรแมนติกอย่างที่คู่รักทั่วไปควรจะเป็นเพราะเรื่องน่าอายที่เกิดขึ้นเมื่อคืนที่ฉันเผลอเปลือยอกให้เขาดู และไหนจะเรื่องที่ฉันเผลอนอนก่ายเข้าแบบแนบชิดตอนตื่นนอนตอนเช้าอีก มันทำให้วันนี้ฉันไม่กล้าเริ่มที่จะชวนเขาคุยอะไร เพราะพอจะคุยก็อดคิดไปถึงภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนไม่ได้เช้าแรกของวันแต่งงานเราสองคนเลยอยู่ในสภาพที่ค่อนข้างกระอักกระอ่วน และเพราะตอนนี้เราสองคนได้อยู่ร่วมกันเรียกว่าน่าจะครบยี่สิบสี่ชั่วโมงแล้ว เลยทำให้ฉันได้รู้ว่าพี่ภีมม์เจ้าบ่าวของฉันดูเป็นคนพูดน้อยกว่าที่ฉันคิดเอาไว้มาก มากจนฉันแทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาเป็นแค่เซลล์ขายรถธรรมดาคือปกติคนเราถ้าเป็นเซลล์ก็ต้องพูดจาขายของเก่ง หรือโน้มน้าวใจเก่งมาก ๆ แต่นี่พี่ภีมม์ดูเป็นคนพูดน้อย น้อยแบบน้อยเว่อร์ แล้วพูดน้อยแบบพี่ภีมม์อะนะจะเป็นเซลล์ หรือว่าเวลาที่เขาขายรถ เขาจะใช้แต่ใบหน้าหล่อ ๆ มองลูกค้าให้ลูกค้าหลง แล้วก็สั่งซื้อรถแบบงง ๆ โดยที่เขาไม่ต้องพูดอะไรออกมางี้เหรอ...ไม่มั๊งอ่อ อีกเรื่องหนึ่งหลังจากที่เราสองคนแต่งงานกัน คือเรามีแพลนที่จะต้องเดินทางไปฮันนีมูนที่มิลานในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ทำให้ในตอนนี้

    Huling Na-update : 2025-02-21
  • My Husband (อุ๊ปส์) เจ้าบ่าวของฉันเป็นประธานบริษัท   My Husband 9 - เขามีแฟนอยู่ก่อนแล้ว

    ก๊อก ก๊อก“ขอโทษค่ะพี่ภีมม์ พอดีพี่ภีมม์ลืมโทรศัพท์ไว้ในห้อง” ฉันเคาะประตูห้องทำงานของพี่ภีมม์ก่อนเดินเข้าไปเอาโทรศัพท์มือถือไปส่งให้เขาที่โต๊ะทำงาน ดูเขามีสีหน้าเอาจริงเอาจังมากเวลาอยู่ต่อหน้าคอมพิวเตอร์ของเขา“อ่อครับ ขอบคุณ” เขายอมละสายตาจากงานของเขาก่อนเงยหน้าขึ้นมามองฉัน แต่กลับไม่ยอมกดรับสายในทันที ยิ่งทำให้ฉันรู้สึกสงสัยมากขึ้น“เพื่อนเหรอคะ สวยจัง” ดูเป็นการเสียมารยาทมากสินะที่ฉันพูดประโยคนี้ออกไปเพราะนอกจากพี่ภีมม์จะไม่ตอบคำถามฉัน แถมยังเลิกคิ้วหนา ๆ มองฉัน คล้ายจะถามว่าทำไมฉันยังไม่ออกไปมากกว่าเออ...ออกไปก็ได้วะ ฉันก็ไม่อยากรู้สักเท่าไหร่หรอก แค่เห็นสายตาก็พาลให้หงุดหงิด ฉันเลยเดินงอน ๆ ออกไปแบบไม่พูดอะไรต่อเหมือนกันสุดท้ายตอนนี้ฉันต้องกลับออกมาดูทีวีที่หน้าโซฟาตามเดิม ได้แต่เอาคางเกยหมอนอิงแล้วกดเปลี่ยนรีโมตทีวีไปมา บอกตรง ๆ เลยว่าฉันดูไม่รู้เรื่องเอาซะเลย เพราะฉันไม่ได้สนใจภาพจากจอในทีวีเลยสักนิดนี่ฉันไม่ได้หึงเขาเลยนะ สาบานได้แต่...แค่รู้สึกไม่พอใจเฉยๆถึงเราจะไม่ได้รักกันแต่อย่างน้อยเราสองคนก็เป็นสามีภรรยากันตามกฎหมายถึงจะไม่ได้รักกันก็เถอะผ่านไปร่วมครึ่งชั่วโมง บังเ

    Huling Na-update : 2025-02-21
  • My Husband (อุ๊ปส์) เจ้าบ่าวของฉันเป็นประธานบริษัท   My Husband 10 - งานใหม่ เพื่อนใหม่ และชีวิตใหม่

    รุ่งเช้า“พี่ภีมม์คะ เฟิร์นไปทำงานก่อนนะคะ”ฉันผู้อาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้ว รีบหยิบกระเป๋าสะพายขึ้นมาไว้ในมือ ส่วนพี่ภีมม์ที่อาบน้ำที่หลังเพิ่งจะเดินออกมาจากห้องน้ำ“เค รอแป๊บเดี๋ยวพี่ไปส่ง”“โอ๊ยไม่เป็นไรค่ะ เฟิร์นว่าไปเองดีกว่าจะได้ดูทางแล้วกะเวลาด้วย ว่าถ้าต้องไปทำงานเองต้องใช้เวลากี่ชั่วโมง”“แล้วทำไมไม่ให้พี่ไปส่ง”“แล้วพี่ภีมม์ไม่ไปทำงานเหรอคะ ก็ในเมื่อเราสองคนยกเลิกงานฮันนีมูนแล้ว พี่ภีมม์ก็กลับไปทำงานตามเดิมก็ได้นี่ค่ะ เมื่อคืนเฟิร์นเห็นพี่ภีมม์นั่งทำงานจนดึกดื่นดูท่างานของพี่ภีมม์น่าจะเยอะ”ฉันพูดคนเดียวเป็นฉาก ๆ ในขณะที่พี่ภีมม์ยังทำหน้าเดียวไม่แสดงความรู้สึกใด ๆ“เอาเถอะค่ะ นี่ขนาดพี่ภีมม์หยุดสองวันงานยังเยอะขนาดนี้ ถ้าพี่ภีมม์หยุดเป็นอาทิตย์พี่จะทำงานทันเหรอ เดี๋ยวเดือนนี้ยอดขายรถก็ตกเป้าหรอก เฟิร์นไปทำงานก่อนนะคะ พี่ไม่ต้องซีเรียส สบาย ๆ ค่ะ เฟิร์นไม่ใช่ผู้หญิงเรื่องมากขนาดที่ต้องให้ใครมารับมาส่งขนาดนั้น บ้าย บายนะคะ เจอกันตอนเย็นนะคะ”ยิ่งพอเขาไม่พูดหรือแสดงความรู้สึกอะไรออกมา ทำให้ฉันต้องยิ่งรีบรวดเดียวให้จบ ก่อนจะรีบชิ่งออกมาเพราะอึดอัด อีกอย่างก็ไม่ใช่อะไรนะเพราะสายตาของพ

    Huling Na-update : 2025-02-21
  • My Husband (อุ๊ปส์) เจ้าบ่าวของฉันเป็นประธานบริษัท   My Husband 11 - ใจเต้นแรง

    เขาเปิดให้ฉันดูพวก Presentation งานเก่า ๆ อาทิเช่นงานเปิดตัวแบรนด์ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เครื่องประดับ เครื่องสำอาง รวมไปถึงเปิด รีสอร์ต โรงแรม งานแต่งงาน และโชว์รูมรถยนต์พอดูมาถึงการเปิดตัวรถยนต์ ฉันก็อดคิดไปถึงพี่ภีมม์เจ้าบ่าวของฉันที่เขาเป็นเซลล์ขายรถ แน่นอนว่าถ้าพูดถึงการขายรถก็คงต้องมีการจ้างพริตตี้ เพราะงั้นชีวิตของเขาคงจะมีสาวสวย ๆ ระดับพริตตี้เข้ามาในชีวิตมากมาย รวมถึงผู้หญิงสวย ๆ คนนั้นที่ตั้งรูปเป็นสายโทรเข้ามาเฮ้อ...ทำไมฉันถึงยังอดคิดมากในเรื่องนี้ไม่ได้นะหลังจากวันแรกที่ฉันทำงาน ผ่านมาสองอาทิตย์หลังจากที่ฉันเริ่มทำงาน ฉันสามารถปรับตัวและเรียนรู้งานใหม่ได้เป็นอย่างดี อาจจะเป็นเพราะส่วนหนึ่ง ฉันได้หัวหน้างานใจดีอย่างพี่แจน และได้คนสอนงานเก่ง ๆ อย่างลีโอ รวมถึงเพื่อนร่วมงานคนอื่นก็ดูเป็นมิตรหมดทุกคนแต่…เห็นทีจะมีเพียงแต่คนที่บ้านของฉันเท่านั้นแหละ ที่ฉันยังคงปรับตัวไม่ได้เลย เราสองคนคุยกันแทบจะนับคำ ทั้ง ๆ ที่เราสองคนเพิ่งจะแต่งงานกันแต่กลับเหมือนอยู่กันคนละโลกฉันเองก็ไม่แน่ใจว่าพี่ภีมม์จะไม่ค่อยพอใจอะไรฉันหรือเปล่า เพราะถ้านับจากวันที่เขาโทร

    Huling Na-update : 2025-04-25
  • My Husband (อุ๊ปส์) เจ้าบ่าวของฉันเป็นประธานบริษัท   My Husband 12 - ความสัมพันธ์หลังแต่งงาน

    สภาพโคตรล่อแหลม เพราะหน้าของฉันอยู่ที่แผงอกเปล่า ๆ ของเขาแค่คืบ แถมพอฉันทำท่าจะผลักออกแต่ก็กลัวแผ่นหลังจะชนกับเตาเลยทำให้ขยับไปไหนไม่ได้ ซ้ำพี่ภีมม์ก็ไม่ยอมขยับตัวออก“ซุ่มซ่ามเหมือนกันนะเนี่ยเรา”“พี่ภีมม์นะแหละเดินเข้ามาไม่ให้สุ้มให้เสียง”“แต่พี่ก็ทักเราตั้งแต่เดินเข้ามาแล้วไม่ใช่หรือครับ”คราวนี้ฉันเถียงไม่ออกเลยเพราะเป็นแบบที่พี่ภีมม์พูดจริง ๆ แต่ก็นั่นละ ฉันทั้งได้ยินทั้งเห็นว่าพี่ภีมม์เดินมา แต่ฉันแค่ไม่คุ้นชินกับกลายเห็นผู้ชายหล่อแบบนี้แล้วทำตัวแบบสบายเกินไปด้วยการใส่บ๊อกเซอร์ตัวเดียวเดินไปเดินมาภายในบ้าน มันก็มีบ้างไหมที่วางตัวไม่ถูกนิดนึงเข้าใจแหละว่าเราต้องปรับตัวเข้าหากันเพราะเราแต่งงานกันแล้ว แต่ฉันคิดไม่ถึงว่าเขาจะทำตัวแบบเป็นตัวของตัวเองมากไปหน่อยแต่ยังไงแล้ว พี่ภีมม์ผิดก็อยู่ดีเพราะอยู่ ๆ ก็เข้ามาใกล้ชิดฉันขนาดนี้“ก็เฟิร์นไม่ชินนี่คะ เวลาเห็นผู้ชายใส่แต่บ็อกเซอร์ตัวเดียวเดินไปเดินมาแบบนี้” ฉันพูดออกไปตรง ๆ“เมื่อก่อนตอนพี่อยู่คนเดียวพี่ไม่ใส่อะไรเดินด้วยซ้ำ” เขาพูดพลางโน้มตัวมากระซิบที่ข้างหูเล่นเอาฉันยิ่งรู้สึกเขินไปกันใหญ่ คือแหม....คนเราเพิ่งอยู่ด้วยกันไม่จำเป็นต้

    Huling Na-update : 2025-04-25

Pinakabagong kabanata

  • My Husband (อุ๊ปส์) เจ้าบ่าวของฉันเป็นประธานบริษัท   ตอนพิเศษ เจอกันครั้งที่สอง

    น้องเกิด 1 กุมภาพันธ์ วั้นนั้นเขายังไม่ได้เข้ามาเยี่ยมเพราะคุณแม่น้องเพิ่งคลอดใหม่ๆและเขาเจอน้องครั้งแรกในวันที่ 14 กุมภาพันธ์นั่นเป็นครั้งแรกที่ภีมม์เจอกับใบเฟิร์นทั้งสองบ้านสนิทกันมากไปมาหาสู่กันบ่อย ๆ จนกระทั่งครอบครัวของภีมม์ ย้ายไปทำธุรกิจที่เมืองอเมริกา ภีมม์เลยไม่ได้มาหาใบเฟิร์นอีกแต่กระนั้นเขาก็ไม่เคยลืมที่ตัวเองมีเจ้าสาว…#ภีมม์ตอน 9 ขวบ“แม่ครับ มีผู้หญิงเอาดอกกุหลาบมาให้ภีมม์ แต่ภีมม์ไม่รับไว้ ผิดไหมครับ”“อ้าว ทำไมละลูก”“ภีมม์บอกเขาว่าภีมม์มีเจ้าสาวแล้ว ภีมม์รับดอกไม้จากใครไม่ได้อีก ภีมม์ไม่ชอบให้ผู้หญิงคนอื่นมาทำแบบนี้ ถ้าเป็นแบบนี้บ่อย ๆ ภีมม์ขอแต่งงานกับน้องเฟิร์นเลยได้ไหมครับ”ตอนนี้ภีมม์โตขึ้นพอที่จะรู้ความหมายของเจ้าบ่าวเจ้าสาวที่หมายถึงคนที่ต้องแต่งงานอยู่ด้วยกัน“ไม่ได้ลูก น้องเพิ่ง 2-3 ขวบเอง เอาไว้ให้น้องเรียนจบมหาวิทยาลัยก่อนนะลูก”“งั้นถ้าจบ คุณพ่อคุณแม่ต้องให้ใบเฟิร์นเป็นเจ้าสาวของภีมม์เลยนะครับ”“น้องภีมม์ครับ การเป็นเจ้าบ่าวคนไม่ใช่แค่เราไปขอเขาแต่งงานแล้วแต่งงานกันได้เลยนะครับ ก่อนอื่นลูกต้องตั้งใจเรียนหนังสือให้เก่ง ให้ได้ทำงานดี ๆ เป็นผู้นำคน มีอาชีพแ

  • My Husband (อุ๊ปส์) เจ้าบ่าวของฉันเป็นประธานบริษัท   ตอนพิเศษ : เจอกันครั้งแรก

    “ภีมม์เข้ามาดูน้องสิลูก”เสียงผู้เป็นแม่หันมาเรียกลูกชายวัยเจ็ดขวบ เดินเข้ามาที่เตียงทารกตัวน้อยจิ้มลิ้มตัวแดง ๆ แก้มจ้ำม้ำที่ขยับตัวดุกดิ๊กไปมาอยู่บนเตียง“น่ารักจัง ตุ๊กตาหรือครับหม่าม๊า”“น้องเป็นคนจ๊ะ ไม่ใช่ตุ๊กตา”ภีมม์ขยับเข้าไปใกล้ด้วยความสนใจ สองมือจับขอบเตียงเด็ก จ้องมองทารกตัวน้อยที่ลืมตาแป๋วแหว๋ว ก่อนที่เด็กน้อยจะยิ้มหัวเราะเอิ๊กอ๊ากออกมาอย่างไม่รู้ภาษา มือน้อยควานสะเปะสะปะไปทั่ว ส่งผลให้ภีมม์ลองยื่นนิ้วชี้เข้าไปให้เด็กตัวน้อยจับด้วยความอยากรู้หมับ!มือเล็ก ๆ ของเธอนุ่มนิ่ม แต่จับเขาเอาไว้แน่นมาก“หม่าม๊าครับ น้องจับมือภีมม์แน่นเลย” ภีมม์ยิ้มกว้างอย่างดีใจ ก่อนใช้นิ้วชี้อีกข้างที่ว่างอยู่ จิ้มแก้มซาลาเปาของเด็กตัวน้อยเพราะดูนุ่มหยุ่นไปหมด“จับแน่นแบบนี้ แสดงว่าน้องจองภีมม์ไว้เป็นเจ้าบ่าวแน่ ๆ เลย” เสียงคุณน้าที่นอนอยู่บนเตียงและเป็นแม่ของเด็กทารกน้อยเอ่ยขึ้น“เจ้าบ่าว? เจ้าบ่าวคืออะไรครับ”“เจ้าบ่าวก็คือคนที่ต้องอยู่กับน้องไปตลอดชีวิตยังไงคะ”“หมายถึง ให้น้องใช้มือนุ่ม ๆ จับมือภีมม์แบบนี้ไปตลอดแบบนี้เลย นะเหรอครับ?”“ใช่จ๊ะ จับมือกันไปตลอดจนแก่เฒ่า”“แล้วปล่อยได้ไหมครับ”“

  • My Husband (อุ๊ปส์) เจ้าบ่าวของฉันเป็นประธานบริษัท   My Husband 58 - ไม่มีอะไรต้องกลัวอีกแล้ว (END)

    หลังจากที่เราปรับความเข้าใจกัน ถึงตอนนี้ฉันก็ไม่สนใจเสียงนกเสียงกาอะไรนั่นอีกแล้ว นอกจากจะเอาตัวเองมุ่งมั่นกับงานที่ทำ อย่างน้อยก็เพื่อให้งานเปิดตัวรถรุ่นใหม่ของพี่ภีมม์ดีที่สุด และเพื่อเป็นลบคำสบประมาทที่ใครต่อใครอาจจะนินทาฉันได้อีก ยิ่งตอนนี้พอมีพี่ภีมม์คอยให้กำลังใจและสนับสนุนงานฉันเต็มที่ ทำให้ฉันรู้สึกเหมือนว่าตัวเองมีพลังบวกเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมเป็นสิบเท่าถึงตอนนี้แม้คนจะยังคงซุบซิบเรื่องเดิม ๆ ของเรา แต่นั่นไม่ได้ทำให้ฉันให้ความสนใจกับมันอีกต่อไป เพราะตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าสิ่งที่ฉันควรให้ความสนใจและสำคัญที่สุด คือความรักของฉันกับพี่ภีมม์มากกว่าที่มันมีมากขึ้นทุกวันต่างหากวันงานเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดของบริษัททีเคยนต์มาถึงแน่นอนว่าเพราะเป็นรถนำเข้าหรูราคาหลายสิบล้าน ทำให้งานนี้เหล่าบรรดาเซเลปและสื่อมวลชนต่างให้ความสนใจกับงานวันนี้เป็นจำนวนมาก รวมไปถึงคุณเจนนี่ที่ถูกเชิญมาเป็นแขกพิเศษมาร่วมงาน แต่กลับชอบทำตัวเสนอหน้าไปยืนอยู่ข้างพี่ภีมม์ทำเสมือนเป็นคนสำคัญข้างกายเขาเฮ้อ...จะว่าไปเธอก็น่าสงสารนะพยายามทำทุกอย่างก็แล้ว ก็ยังเป็นได้แค่เพื่อนฉันพยายามบอกกับตัวเองแบบนั้นแต่สุดท้า

  • My Husband (อุ๊ปส์) เจ้าบ่าวของฉันเป็นประธานบริษัท   My Husband 57 - ปรับความเข้าใจ

    อึก...พออ่านถึงตรงนี้ น้ำตาฉันก็ไหลออกมาหนักกว่าเก่า(เห็นโน้ตที่พี่เขียนเอาไว้ไหมครับ) เสียงพี่ภีมม์แทรกขึ้นมาเมื่อเห็นว่าฉันเงียบไปมีแต่เพียงสะอื้นที่แทรกเข้าไปในปลายสายเบา ๆ“ฮือ เห็นแล้วค่ะ ฮือ...พี่ภีมม์เฟิร์นขอโทษ”ความรู้สึกผิดตีตื้นขึ้นมาเข้ามาในหัวใจ สุดท้ายแล้วพี่ภีมม์เองต่างหากที่เป็นฝ่ายรอรับสายโทรศัพท์มือถือจากฉัน ส่วนตอนนั้นที่ฉันโทรหาเขาไม่ติด ใช่ว่าพี่ภีมม์จะปิดเครื่องหนีแต่ความจริงแล้วตอนนั้นเขาอาจกำลังอยู่บนเครื่องบินเลยไม่ได้เปิดมือถือก็เป็นได้บ้าที่สุด ฮือ....(เฟิร์นครับ ถ้าพี่ทำให้เฟิร์นร้องไห้พี่ขอโทษนะ)“เฟิร์นต่างหากที่ควรขอโทษพี่ภีมม์”พี่ภีมม์วางสายไปแล้ว ในขณะที่ฉันหยิบกระดาษที่พี่ภีมม์ขึ้นมาอ่านซ้ำไปซ้ำมาน้ำตามันไหลออกมาไม่หยุดเลย มีแต่ฉันที่คิดเองเออเองไปคนเดียวทั้งนั้นแล้วตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมาที่ฉันนั่งเสียใจและคิดมากอยู่เป็นคนเดียวทั้งเดียวล่ะ คืออะไรหลังจากที่ฉันวางสายจากพี่ภีมม์น้ำตามันก็ไหลออกมาราวกับทำนบแตก ครั้งนี้ฉันถึงได้ตระหนักเสียงหัวใจของตัวเองว่า ในเวลาที่ฉันไม่มีเขาหรือถ้าต้องเลิกกับเขาฉันคงทนไม่ไหวแน่ นี่สินะที่ใครๆ บอกไว้ว่าเราจะรู้ค่าขอ

  • My Husband (อุ๊ปส์) เจ้าบ่าวของฉันเป็นประธานบริษัท   My Husband 56 - รอจนกว่า...

    ฉันรู้สึกจุกนิดหน่อยที่พวกเอ่ยถึงคุณเจนนี่ ดูเหมือนคุณเจนนี่น่าจะมีอิทธิพลต่อคนกลุ่มนี้พอสมควร ความจริงมันก็ไม่แปลกนักหรอกเพราะคุณเจนนี่มาหาพี่ภีมม์มากกว่าฉันที่เป็นภรรยาตัวจริงเสียอีก ซึ่งฉันไม่แปลกใจอะไรเลยสักนิดเมื่อคิดขึ้นได้ว่าพวกหล่อนอาจจะสนิทกับคุณเจนนี่มากพอสมควร“ถ้าพวกคุณว่างมากน่าจะไปทำงานกันนะคะ ถ้าคุณภีมม์รู้ว่าจ้างคนแบบพวกคุณมาทำงานเขาคงไม่ค่อยโอเค เห็นทีฉันคงต้องรายงานพี่ภีมม์บ้างแล้วละ”“แหมทำตัวเนียนเหมือนเป็นภรรยาเจ้าของบริษัทตัวจริงเลยนะ โน้นจ๊ะคุณภีมม์กับภรรยาตัวจริงเขาตอนที่อยู่ที่วอชิงตันดีซี” ไม่พูดเปล่าผู้หญิงคนนั้นยังเปิดรูปจากไอจีคุณเจนนี่ ที่เช็กอินอยู่ที่รัฐวอชิงตันดีซีมาให้ฉันดูแน่นอนในรูปมีพี่ภีมม์อยู่ในรูปของเธอจริง ๆภาพที่เห็นแม้สองคนจะไม่ได้ยืนใกล้ชิดกันแบบสนิทสนมแต่ก็ทำให้รู้ว่าทั้งสองคนอยู่ที่เดียวกันนี่สินะ...สาเหตุของการไม่โทรหาฉันเลยตลอดอาทิตย์นี้หัวใจมันชาจนแทบไม่มีความรู้สึก เมื่อเห็นว่าพี่ภีมม์อยู่กับคุณเจนนี่ที่อเมริกา ถึงจะเป็นรูปที่เธอเช็กอินเมื่อสองสามวันก่อน แต่มันทำให้มั่นใจได้เลยว่าคุณเจนนี่กับพี่ภีมม์คงเดินทางไปด้วยกันจากที่ตั้งใจจะ

  • My Husband (อุ๊ปส์) เจ้าบ่าวของฉันเป็นประธานบริษัท   My Husband 55 - หัวใจที่หายไป

    น้ำตามันไหลออกมาจากไหนมากมายหนักก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าฉันร้องไห้จนเผลอหลับไปบนที่นอน จนตอนเช้าของอีกวันเช้าที่ไม่มีพี่ภีมม์อยู่ข้าง ๆ ฉันต้องลากตัวเองเข้าไปอาบน้ำแต่งตัวทั้งที่ตายังบวมเป่งจนเกือบจะปิด ดูตลกมากเสียจนต้องหาอะไรเย็น ๆ มาประคบเปลือกตาให้ยุบลงก่อนไปทำงาน“คุณเฟิร์น” ในขณะที่ฉันยืนเรียกรถ TAXI อยู่หน้าตึกก็พบว่าคนขับรถของพี่ภีมม์มารออยู่ก่อนแล้ว“อ้าว! สวัสดีค่ะคุณโจ มารับพี่ภีมม์เหรอคะพี่ภีมม์ไม่อยู่หรอกค่ะ น่าจะติดธุระ”“อ่อทราบแล้วครับ เมื่อวานผมเพิ่งไปส่งคุณภีมม์ขึ้นเครื่อง”“คะ...ขึ้นเครื่อง?”“คุณภีมม์ได้บอกคุณเฟิร์นเหรอครับ เห็นว่ามีประชุมด่วนกับบอร์ดบริหารของรถยนต์”“ออค่ะ เฟิร์นไม่ทราบเลย” ฉันพูดเพราะไม่รู้จริง ๆ พี่ภีมม์ไม่ได้บอกอะไรฉันเลยด้วยซ้ำว่าเขาจะไปไหน อย่าว่าแต่เปิดเครื่องรับสายฉันหรือโทรมาเขายังไม่โทรมาด้วยซ้ำคุณโจทำสีหน้างง ๆ ก่อนจะเปิดประตูรถให้ฉันขึ้นไปนั่งบนรถ“เมื่อวานคุณภีมม์บอกว่าคุณน่าจะไม่สบายเลยให้นอนพักครับ ผมก็นึกว่าคุณจะไม่ออกไปทำงานเลยไม่ได้กลับมารอรับ”“อ่าค่ะ” ฉันซึ่งยังมึนงงอยู่เพราะไม่รู้ว่าพี่ภีมม์ไปไหนเลยยังสับสนอยู่เล็กน้อยจริงสินะเมื่อ

  • My Husband (อุ๊ปส์) เจ้าบ่าวของฉันเป็นประธานบริษัท   My Husband 54 - กว่าจะรู้ใจตัวเอง

    ลีโอมาส่งฉันกลับบ้าน เขาบอกกับฉันแค่ว่าตอนแรกก็ว่าจะกลับบ้านไปแล้ว แต่เห็นฉันยังไม่ลงมาสักทีเค้าเลยตัดสินใจนั่งรอหน้าบริษัท และที่ไม่ขึ้นไปข้างบนก็เพราะกลัวคนจะนินทาว่าเราสองคนอยู่ทำงานด้วยกันจนดึกดื่นตามลำพังแค่สองคน ดูเหมือนเขาจะพอได้ยินข่าวลือที่ไม่ดีเกี่ยวกับฉันมาพอสมควร“ทำไมเฟิร์นถึงไม่แก้ข่าวว่าละ ว่าผู้ชายในข่าวลือคือสามีของเฟิร์น ทำไมต้องปล่อยให้คนเข้าใจผิดว่าทำตัวแบบนั้น” ลีโอถามขึ้นมาในระหว่างทางขับรถมาส่งฉันที่คอนโด“ก็ไม่รู้จะแก้ทำไมในเมื่อไม่ใช่เรื่องจริง” ฉันถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย “ช่างมันเถอะลีโอฉันไม่ได้สนใจนักหรอก คนมีปากก็พูดไปเรื่อยเพราะความเป็นจริงมีฉันรู้ดีที่สุด” ฉันหันไปยิ้มให้ลีโอ ทั้งที่ปากเพิ่งพูดออกไปว่าไม่เป็นไรแต่ความจริงแล้วฉันแอบไปร้องไห้คนเดียวบ่อยมาก“แต่ดูเหมือนเฟิร์นกับผู้ชายคนนั้นจะไม่ค่อยโอเคกันนะ ไม่งั้นคืนนั้นเฟิร์นจะโทรมาหาเราแล้วร้องไห้ทำไม” ลีโอเดาความรู้สึกทางฉันโคตรเก่ง “และนี่ก็คงทะเลาะด้วยกันใช่ไหมไม่งั้นวันนี้เขาคงมารับเฟิร์นเหมือนทุกวันแล้ว”ฉันหันไปมองหน้าลีโอ ก่อนที่จะรีบเบือนหน้าหนีออกไปนอกกระจกเพราะกลัวน้ำตามันจะไหลออกมา“คว

  • My Husband (อุ๊ปส์) เจ้าบ่าวของฉันเป็นประธานบริษัท   My Husband 53 - เพื่อนที่ดีที่สุด

    เป็นเพราะวันนี้ฉันมาทำงานสายและใช้เวลานานกับการเข้าไปคุยกับคุณสุวัฒน์ ทำให้ช่วงบ่ายตัวเองเผลอทำงานจนไม่ได้ดูเวลาเลยว่าท้องฟ้าเปลี่ยนจากสว่างเป็นสีส้มอมชมพูตอนไหน พอหันกลับไปมองนอกหน้าต่างแค่แป๊บเดียวด้านหลังพระอาทิตย์ก็ลับขอบฟ้าไปแล้วไม่รู้ว่าป่านนี้พี่ภีมม์จะกลับบ้านหรือยังนะอยู่ ๆ ก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงเขา ก็นะ...ปกติพี่ภีมม์ต้องไลน์มาหาฉันแล้วว่ามารอรับอยู่หน้าบริษัท พอไม่มีไลน์มาตามเหมือนทุกวัน ทำไมถึงรู้สึกปวดหนึบที่หัวใจแบบนี้นะพอเถอะเฟิร์นอีกไม่นานตัวเองต้องคืนอิสระให้เขาแล้ว เธอต้องค่อย ๆ ตัดใจสิ ฉันบอกตัวเองเป็นรอบที่ร้อยของวันก็ว่าได้เพื่อนร่วมงานค่อย ๆ ทยอยกลับไปทีละคน แม้กระทั่งลีโอที่ทำท่าจะลุกหนีด้วยอีกคนเมื่อเห็นว่าเพื่อนร่วมงานคนอื่นทยอยกลับจนเกือบหมด“กลับแล้วเหรอลีโอ”ฉันพยายามทำตัวเองให้เป็นปกติที่สุดด้วยการยอมเอ่ยทักทายเขาก่อน ทั้งที่วันนี้ทั้งวันลีโอยังไม่ยอมพูดกับฉันสักคำเดียว“...อืม” เหมือนตอนแรกลีโอจะไม่ยอมตอบฉันด้วยซ้ำไปแต่ที่สุดแล้วเขาก็ยอมตอบออกมา แม้จะไม่ยอมมองหน้าฉันก็ตามที“เฟิร์นขอโทษที่ทำให้นายเข้าใจผิดนะ แต่เราสองคนจะกลับมาเป็นเพื่อนกันแบบเดิมได้ไห

  • My Husband (อุ๊ปส์) เจ้าบ่าวของฉันเป็นประธานบริษัท    My Husband 52 - โอกาสอยู่ในอากาศ

    รุ่งเช้าฉันขยับร่างกายตื่นขึ้น รู้สึกเหมือนตัวเองจะปวดเมื่อยไปทั้งตัวราวกับเพิ่งวิ่งมาราธอนเป็นสิบกิโล แต่ทว่าเช้านี้กลับไม่มีพี่ภีมม์นอนกอดฉันเหมือนกับทุกวันที่ผ่านมา มือที่ควานไปบนที่นอนตรงหน้าสัมผัสได้ถึงความว่างเปล่า ทำให้ฉันรีบหยัดตัวลุกขึ้นนั่งก่อนมองหานาฬิกาพบว่าตอนนี้เกือบจะแปดโมง และใช่...พี่ภีมม์ทิ้งฉันไว้โดยไม่ปลุกฉันสักคำไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาจะใจร้ายกับฉันแบบนี้ นี่สินะ...ที่เขาบอกเอาไว้ว่าต่อไปจะไม่ใจดีกับฉันแล้วช่างมันเถอะ...เป็นฉันที่ทำตัวเองทั้งนั้นสุดท้ายฉันต้องลากสังขารมาทำงานในตอนสายเพราะว่าไม่อยากลางานโดยไม่จำเป็นบ่อย ๆ แต่กระนั้นสถานการณ์ที่ทำงานกลับดูแย่กว่าที่สถานการณ์ที่บ้านอีก เมื่อเพื่อนร่วมงานที่เคยสนิทมาก ๆ ลีโอ เอาแต่นั่งก้มหน้าก้มตาโดยไม่เงยหน้ามาทักทายฉันเลยแม้แต่น้อย เฮ้อ...มันอะไรกันหนักหนา โคตรน่าอึดอัดฉันได้แต่ถอนหายใจก่อนจะเดินผ่านโต๊ะทำงานของลีโอไปนั่งที่โต๊ะทำงานของตัวเองที่อยู่ติดกัน ท่าทีที่เมินเฉยของคนที่เคยสนิทกันมากเวลาโดนเมินแล้วมันโคตรเจ็บ อยากจะทักทาย อยากจะคุยเล่นเหมือนเมื่อก่อน ต่อไปฉันคงทำต่อไปไม่ได้แล้วสินะที่ผ่านมาลีโอเป็นได้แ

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status