มือเรียวที่สั่นเครือกำแก่นกายที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว ปลายหัวหยักมีสีแดงก่ำจ่อมาที่ริมฝีปาก"อ้าปากสิ" กอบัวหลับตาปี้แล้วอ้าปากครอบแท่งเนื้อร้อนเพียงส่วนหัว ทว่ามาเฟียหนุ่มก็ใช้มือทั้งสองจับศีรษะทุยเล็กไม่ให้เธอมีหนทางต่อต้าน "ฮึก! อื้อ!" เอวสอบกระแทกเข้าโพลงปากเล็ก โดยที่กอบัวไม่ได้ตั้งตัว สร้างความเสียวให้กับมาเฟียต้วนอยู่ไม่น้อย "อ๊อก อื้อออ" ลมหายใจติดขัดเมื่อเจ้าของท่อนเอ็นขยับสะโพกเข้าออกจนสุดความยาว"ซี๊ดดดด ดูดหัวมันด้วย" ตันติกรออกคำสั่งโดยไม่สนใจว่าอีกฝ่ายกำลังจะขาดอากาศหายใจรอมร่อกอบัวใช้ลิ้นเรียวตวัดไปมาที่ปลายหัวหยัดไปด้วยความรังเกียจตัวตนของชายหนุ่ม แต่เพื่อที่จะได้พบกับผู้เป็นแม่ เธอจึงยอมทำให้มาเฟียหนุ่มพึงพอใจ "ดูดแรงกว่านี้ อ๊าาา" เขาออกคำสั่งอีกครั้ง ในขณะที่หยดน้ำตาใสอาบสองแก้มจนเปียกชุ่ม เธอยอมรับว่าขยะแขยงและรังเกียจมาเฟียที่โหดร้ายในตอนนี้มาก ไม่รู้ว่าเธอจะต้องทำแบบนี้อีกกี่ครั้ง? นานแค่ไหน? กว่าจะหลุดพ้นจากคนป่าเถื่อน กอบัวข่มตาลงจำใจยอมทำในสิ่งที่อีกฝ่ายต้องการ เธอดูดส่วนหัวแรงตามสั่งอย่างพะอืดพะอม ความกระสันเสียวทำให้มาเฟียต้วน สะบัดเอวหนากระแทกอัดเข้าอ
"ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณ" มาเฟียหนุ่มบอกกับพิไลด้วยน้ำเสียง และคำพูดที่นอบน้อมกว่าที่พูดกับสามีของเธอ"เรื่องอะไรคะ" ผู้เป็นแม่กล่าวถามด้วยใบหน้าที่สดใส ต่างจากลูกสาวที่ย่นคิ้วเข้าหากันจนเป็นปมจ้องมองมาเฟียหนุ่มด้วยสีหน้าสงสัยแฝงไปด้วยความหวั่นวิตก"เรื่องลูกสาวของคุณ" ริมฝีปากหนายกยิ้มแล้วตวัดสายตาคมกริบไปที่กอบัว."ยัยบัว?..." พิไลหันขวับไปที่กอบัวด้วยสายตาที่เธอมองมักจะอ่อนโยนและรักใคร่ ไม่ว่าลูกสาวจะทำอะไรผิดเธอก็พร้อมที่จะให้อภัยได้เสมอ"...ยัยบัวทำอะไรให้คุณต้วนไม่พอใจหรือเปล่าคะ" แล้วหันมากล่าวถามเจ้านายกำมะลอของลูกสาวอย่างนุ่มนวล"นิดหน่อยครับ" มาเฟียหนุ่มตอบกลับแล้วกระตุกยิ้มให้กอบัวเห็นถึงความเจ้าเล่ห์ของเขา"ยังไงฉันต้องขอโทษแทนยัยบัวด้วยนะคะ" กอบัวรู้สึกไม่ชอบใจที่ผู้เป็นแม่ต้องกล่าวขอโทษแทนเธอทั้ง ๆ ที่ไม่ทำผิดอะไรเลย หญิงสาวหันไปจ้องเขาอย่างน่ารังเกียจ ทำให้มาเฟียหนุ่มจ้องกลับมาดวงตานิ่ง ๆ ดูน่ากลัวขนลุกแปลก ๆ"ผมต้องการให้กอบัวย้ายไปรับใช้ผมที่คอนโด!" ก่อนจะหันมาพูดกับพิไลด้วยน้ำเสียงเต็มไปด้วยความเดือดดาล "หมะ หมายความว่าอะไรคะ..." หญิงวัยกลางคนมีสีหน้าตกใจ"...ให้บัวไป
ชายหนุ่มทั้งสองที่มีใบหน้าหล่อเหลานั่งดื่มพูดคุยกันไปตามประสาเพื่อนสนิท ในระหว่างการสนทนาสายตาของมาเฟียหนุ่มก็มักจะจ้องมองไปยังชั้นล่างผ่านกระจกใสบานใหญ่"หาเหยื่ออีกแล้วสิมึง" ศิลากล่าวทักด้วยน้ำเสียงยานคางมากขึ้น เนื้อตัวแดงก่ำไปด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ ทำให้ตันติกรหันมาแล้วกระตุกยกยิ้ม"...." โดยที่ไม่ได้พูดอะไร เขายกแก้วเหล้าทรงเตี้ยแกว่งไปมาเบา ๆ ด้วยท่านั่งวางมาดมาเฟียที่คุ้นตาของใครหลาย ๆ คน"แล้วน้องนางฟ้ามึงเป็นยังไงบ้างวะ" จู่ ๆ ประธานหนุ่มก็กล่าวถามหญิงสาวที่มาเฟียต้วนซื้อมาเพื่อเป็นของเล่นแก้เบื่อ"กูซื้อยัยเด็กนั้นมาไว้เป็นของเล่นแล้วล่ะ" ริมฝีปากหนากระตุกยิ้มอย่างพึงพอใจ"หึ ของเล่นมาเฟีย?" ศิลาพูดทีเล่นทีจริงด้วยฤทธิ์ของสุราละลายความสุขุมของเขาจนหมดสิ้น มาเฟียหนุ่มก็ได้แต่กลั้วหัวเราะชอบใจกับคำพูดของเพื่อน"เหอะ ๆ" เขาไม่คิดเลยว่าเอกสิทธิ์จะยกลูกสาวให้ง่ายขนาดนี้ เพียงแค่ยื่นเศษเงินไม่กี่ล้าน และยกตำแหน่งในบริษัทซึ่งเป็นในเครือของครอบครัวเป็นผู้จัดการเท่านี้ ก็รีบประเคนลูกสาวเพียงคนเดียวให้เสียแล้ว"แล้วมึงจะเบื่อของเล่นเมื่อไหร่กันวะ" พอได้ฟังจบ หัวคิ้วของมาเฟียหนุ่มมุ่นขึ้น
เช้าวันต่อมาคนตัวเล็กขยับกายขณะที่นอนอยู่บนโซฟาขนาดพอดีตัว เธอลืมตามองบนเพดานก็ทำให้รีบหยัดกายลุกขึ้นตวัดสายตาไปยังเตียงนอนผู้ป่วย ก็พบว่าคนที่นอนอยู่ยังคงหลับสนิท ใบหน้าสดใสคลี่ยิ้มบาง ๆ ก่อนที่จะหันไปยังเตียงของญาติสำหรับเฝ้าไข้ก็พบกับความว่างเปล่า"พี่ต้วนยังไม่กลับ?" กอบัวพึมพำกับตัวเองเบา ๆ ด้วยความโล่งใจแฝงรู้สึกดีใจที่ตื่นมาไม่ต้องพบหน้าคนที่เธอไม่อยากเข้าใกล้ด้วยความรังเกียจ ปลายเท้าเรียวสวยเปลือยเปล่าเหยียบลงที่พื้นกระเบื้องก่อนจะเปิดกระเป๋าขนาดปานกลางล้วงหยิบผ้าขนหนู เสื้อผ้า รวมถึงของใช้ส่วนตัวแล้วเดินไปยังห้องน้ำหลังจากกอบัวทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำเรียบร้อยเธอก็ก้าวเดินออกมาดวงตากลมตวัดไปเห็นผู้เป็นแม่ได้พลิกกายลุกขึ้น จึงรีบเก็บข้าวของแล้วไปยังเตียงที่แม่ของเธอนอน "บัวจะพาไปเข้าห้องน้ำค่ะ" สาวน้อยประคองผู้เป็นแม่ลงจากเตียงก่อนจะดึงขวดน้ำเกลือมาถือไว้ก่อนจะพาคนป่วยไปที่ห้องน้ำ "บัวจะรอแม่ตรงนี้นะคะ มีอะไรก็เรียกบัวได้เลย" "ขอบใจจ้ะ" พิไลกล่าวกับลูกสาวแล้วรับขวดน้ำเกลือพลาสติกมาถือไว้ก่อนที่กอบัวจะปิดประตูโดยไม่ให้คนป่วยล็อก ใช้เวลาไม่นานพิไลก็ทำธุระส่วนตัวเสร็จ ในระหว
ตันติกรมองหน้าอกอวบอั่นเกินขนาดภายใต้บราเซียร์ตัวสีชมพูอ่อนปกปิด พร้อมกับเลียริมฝีปากอย่างหื่นกระหาย"หน้าอกเธอมันใหญ่เกินตัวจริง ๆ" คนตัวเล็กพยายามกระเถิบร่างออกห่าง แต่ไม่สามารถขัดขืนเขาได้เลย มาเฟียหนุ่มผลักเธอนอนแผ่หลามิอาจปกปิดความอวบอั่นช่วงบนเอาไว้ได้"ฮึก..ฮือออ อย่าทำบัวเลยนะคะ" แววตาและน้ำเสียงที่สั่นระริกบ่งบอกออกมาให้คนตัวโตรับรู้ว่าเธอกลัวเขามาก"กลัว?...." มาเฟียร้ายเลิกคิ้วถามแล้วแสยะยิ้ม ก่อนจะใช้ฝ่ามือหนาที่มีเส้นเลือดปูดโปนบีบเคล้นหน้าอกอวบขาวอย่างแรง แม้ว่าคนที่ถูกกระทำจะปัดป่ายก็ไม่สามารถต้านทานแรงของเขาได้ "...ฉันจะเอาจนกว่าเธอจะหายกลัวล่ะกัน" "ฮีก..ฮือออ" กอบัวได้แต่นอนร้องไห้น้ำตาไหลทะลักออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ เธอจำยอมกับโชคชะตาโดยที่หนีไม่ได้ ตันติกรชักสีหน้าเบื่อหน่ายพร้อมกับพ่นลมหายใจเฮือกใหญ่"ทำไมต้องร้องด้วยว่ะ..." มาเฟียหนุ่มพูดขึ้นพลางก็ดันตัวขึ้นจัดการปลดเปลื้องเสื้อผ้าตัวเอง รวมถึงใช้มือใหญ่หนาดึงกระโปรงพลีทออกให้พ้นทางอย่างทุลักทุเล"...แค่นอนให้ฉันกระแทกจะตายหรือไง" สายตาหื่นกามฉายชัดเมื่อได้เห็นเรือนร่างเปลือยเปล่าตรงหน้า มาเฟียหนุ่มไม่สามารถปฏิเส
หลังจากทานข้าวต้มทานยาเรียบร้อย กอบัวก็ขอเข้ามาพักในห้อง และจัดแจงเก็บข้าวของส่วนตัวที่บอดีการ์ดนำมาให้เธอริมฝีปากบางคลี่ยิ้มหวานเมื่อเธอเห็นว่ามีโทรศัพท์มือถือส่วนตัวอยู่ในกล่องของใช้ จึงหยิบมันขึ้นมาดู ซึ่งมีสายโทรเข้า รวมถึงข้อความจากเพื่อน อาจารย์ที่มหาวิทยาลัยหลายข้อความมาก แต่ที่จะส่งมามากที่สุดก็คงจะเป็นของจอมทัพ "จอม" กอบัวพึมพำเบา ๆ แล้วมองซ้ายมองขวาก่อนจะลุกไปล็อกประตูห้อง จากนั้นก็กดพิมพ์ข้อความส่งไปหาแฟนหนุ่ม: จอม เป็นยังไงบ้าง ปลายนิ้วสั่นเทาด้วยอาการประหม่า สายตาคอยจ้องไปที่ประตูหวาดหวั่นกลัวว่ามาเฟียร้ายจะเข้ามาเห็น ติ้ง~ Chomthap: ฉันไม่เป็นอะไร ตอนนี้เธออยู่ไหนมันทำอะไรเธอหรือเปล่า ให้ฉันไปรับมั้ยกอบัวเปิดอ่านข้อความก็หลับตาลงพร้อมถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างโล่งอก แต่ก็ยังมีความวิตกกังวลใจแฝงอยู่ : บัวไม่เป็นอะไรChomthap: เรื่องที่มันพูดหมายความว่ายังไง เธอขึ้นเตียงกับมัน? ตึกตัก ตึกตัก หัวใจดวงน้อยเต้นเร็วถี่เมื่อเห็นข้อความที่เพิ่งส่งมาใหม่ของจอมทัพ เธอเพ่งมองด้วยดวงตาที่แดงก่ำราวกับจะร้องไห้ รู้สึกลำบากใจกับคำถาม: จอม.....เราเลิกกันเถอะระหว่างที่ปลายนิ้วเรีย
"กอบัว" ร่างบางสะดุ้งโหย่งด้วยความตกใจ ระหว่างที่กำลังเดินขึ้นไปบนตึกของคณะ จู่ ๆ ก็มีเสียงที่คุ้นเคยขานชื่อเธออย่างชัดเจนพร้อมกับวางมือบนไหล่มนอยู่ด้านหลัง"จอม!" กอบัวเบิกตาค้างมองหน้าชายหนุ่ม"เพราะเงินสินะ.." สายตาคมตวัดไปมองท้ายรถคันหรูราคาแพงเหยืยบแปดหลักที่เพิ่งขับออกไป ก่อนจะหันมาไล่สำรวจการแต่งกายบนเรือนร่างของหญิงสาว"....ได้อะไรกับมันมาบ้างล่ะ" กอบัวได้แต่ก้มหน้างุด ไม่กล้าเงยหน้าสบตาเพราะความละอาย ที่ไม่สามารถพูดความจริงให้กับอดีตแฟนหนุ่มฟังได้ "บัวขอไปเรียน" จึงเลี่ยงที่จะสนทนากับเขาด้วยเหตุผลหลาย ๆ อย่าง หนึ่งในนั้นก็เรื่องที่มาเฟียหนุ่มข่มขู่มา "ฉันคิดมาตลอดว่าเธอคือนางฟ้า...." ระหว่างที่ร่างบางกำลังจะก้าวขาเดินคำพูดของชายหนุ่มก็ทำให้เธอหยุดชะงัก"....ที่แท้ก็นางบำเรอ" คำพูดของจอมทัพทำให้ความรู้สึกภายในใจรวดร้าว กอบัวได้แต่กัดฟันข่มความเจ็บปวด ก่อนจะก้าวขาเรียวเดินจากไป "ฮึก..ฮือออ" กอบัวทรุดตัวฟุบลงร้องไห้โฮอยู่ในห้องน้ำ เพียงเพราะคำนั้น 'นางบำเรอ' เสียบค้างอยู่ในส่วนลึกของหัวใจที่ตอนนี้ยังไม่สามารถดึงมันออกได้ ใช่แล้ว ตอนนี้สถานะของเธอก็ไม่ต่างกับที่อดีตแฟนหนุ่มพู
รถยนต์คันหรูราคาเหยียบแปดหลักขับตรงมายังโรงพยาบาลสัตว์ชื่อดัง กอบัวนั่งอุ้มลูกสุนัขที่เพิ่งช่วยชีวิตมาสายตามองไปยังด้านนอกผ่านกระจกรถ ความรู้สึกทั้งดีใจที่ได้เลี้ยงลูกสุนัข แต่ทว่าเมื่อนึกถึงเรื่องที่ได้ตกลงกับมาเฟียหนุ่มเมื่อกี้ก็มีความกังวลใจเล็กน้อย'ถ้าฉันอนุญาตให้เลี้ยง...เธอจะตอบแทนอะไรฉัน หืม?''พี่จะให้บัวตอบแทนอะไร บัวยอมทุกอย่างเพียงแค่พี่ยอมให้เลี้ยงลูกสุนัขตัวนี้' เธอกล่าวโดยไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมของมาเฟียร้าย'ก็ได้ฉันจะให้เธอเลี้ยง...' มาเฟียต้วนกระตุกยิ้มร้ายทำให้กอบัวฉุกคิดขึ้นทันที '...เรื่องตอบแทนฉันจะบอกเธอทีหลัง' ร่างบางก้มหน้างุดรู้สึกหวั่นวิตก หัวใจส่งสัญญาณที่ไม่ดีขึ้นมา "เธอจะเรียกมันว่าอะไร" กอบัวตกใจสะดุ้งเฮือกเมื่อจู่ ๆ ตันติกรที่นั่งข้าง ๆ ก็พูดโพล้งโดยไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย "ต้วน" กอบัวพลั้งปากพูดไปโดยไม่ทันได้คิด"เธอว่าอะไรนะจะให้หมาชื่อว่าต้วน?" ทำให้ตันติกรมีสีหน้าไม่พอใจเป็นอย่างมาก "มะ ไม่ใช่ค่ะ บัวไม่ได้ตั้งใจที่จะตั้งชื่อลูกสุนัขว่าต้วนค่ะ...." หัวคิ้วย่นเข้าหากันด้วยใบหน้าราวกับคิดอะไรบางอย่าง"...แต่ก็เหมาะดีนะคะ" เธอก้มหน้าแล้วเอ่ยน้ำเสียงแผ่วเบารา
การมาของพ่อแม่มาเฟียต้วนมีจุดประสงค์ที่จะมาจัดการเรื่องงานแต่งให้ลูกชาย ซึ่งเขาเป็นคนขอร้องให้ทั้งสองเดินทางมา สู่ขอแฟนสาวตัวเล็กกับพ่อแม่ของเธอทั้งสองครอบครัวได้ปรึกษาหารือกันอย่างส่วนตัว แต่เป็นกันเองมาก ต่างเห็นชอบตรงกันว่าจะกำหนดพิธีมงคลสมรสอีกสองเดือนข้างหน้า ระหว่างที่ผู้ใหญ่ได้พูดคุยเรื่องการจัดเตรียมงาน กอบัวที่ยังคงมีอาการหน่วง ดิ่ง สีหน้าไม่สดใสเท่าที่ควร ทำให้มาเฟียหนุ่มเกิดความสงสัย จึงดึงเธอมาพูดคุยเป็นการส่วนตัวเพื่อถามไถ่ "เป็นอะไรหรือเปล่า พักนี้เธอแปลก ๆ ไปนะ" "ไม่มีอะไรคะ" เธอตอบด้วยน้ำเสียงไม่แจ่มใส ซ้ำยังแฝงความมัวหมอง "ไม่มีอะไรจริง ๆ เหรอ...." มาเฟียต้วนกล่าวถามซ้ำให้แน่ใจ เพราะช่วงหลัง ๆ มานี้ เขารู้สึกว่าแฟนสาวตัวเล็ก คอยจะออกห่างจากเขาอยู่ตลอด "...โกรธอะไรพี่หรือเปล่า" และยังทำทีท่าราวกับรังเกียจเขายังไงยังนั้น "บัวรู้สึกว่า..." ใบหน้าสวยหวานแฝงไปด้วยความเศร้าก้มงุดลง แล้วเม้มปากทั้งสองเข้าหากันแน่น "...บัวไม่อยากแต่งงานกับพี่แล้ว" เธอถอนหายใจพรืดใหญ่ ก่อนจะเงยหน้าแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือเต็มไปด้วยความน้อยใจที่เกิดขึ้นอย่างไม่รู้สาเหตุ "กอบัว..."
กอบัวลมหายใจหอบถี่ รู้สึกสมองขาวโพน และหวาบหวิวในช่องท้องหลังจากที่ได้ปลดปล่อยน้ำสีใสออกมา ขณะที่มาเฟียหนุ่มจับแท่งเนื้อร้อนรูดขึ้นลง พร้อมกับช้อนตามองเธอไปด้วย ความเร่าร้อนก่อตัวขึ้นภายในกาย ไม่รอช้าเขาจับปลายหัวหยักจ่อไปยังช่องรักคับแคบ แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงกระเส่า"จะเอามันเข้าไปละนะ" พูดจบ มาเฟียหนุ่มในท่าคุกเข่าตรงกลางกายของหญิงสาว ก่อนจะค่อย ๆ เอาท่อนเอ็นที่มีขนาดเกินมาตรฐานสอดใส่ไปยังร่องแคบทีละนิด ทีละนิด จนสุดลำ "อะ..อื้อ" ปึก ปึก ปึก เอวสอบขยับอย่างช้า ๆ เนิบ ๆ "อ่า" เสียงหอบกระเส่าพานให้สมองเบลอไปหมด มาเฟียหนุ่มเริ่มเร่งจังหวะเร็วขึ้น ปึก ปึก ปึก "อื้อ..อ๊ะ อ๊ะ" ความใหญ่โตกระแทกเข้ามาในร่องของหญิงสาวจนสุดความยาว ทำให้เธอครางสั่นเครือด้วยความกระสันเสียวปึก ปึก ปึก สะโพกสอบตอกอัดเข้ามาอย่างดุดัน ไปตามอารมณ์ดิบเถื่อน แต่ครั้งนี้มันไม่รุนแรงมากนัก หญิงสาวใต้ร่างไม่ได้ทักท้วงอะไร เขาจึงรู้สึกมีความสุขเป็นอย่างมาก "โคตรเสียว..หึ้มมม" มาเฟียหนุ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ความสุขสมซ้อนทับกับสัมผัสที่หวาบหวาม มือหนาเอื้อมไปบีบเค้นเต้าอกอวบ พร้อมกับขยับสะโพกสอบอย่างรัว ๆ ปึก ปึ
ตันติกรลากเก้าอี้มาแล้วนั่งลงข้างเตียงผู้ป่วย ก่อนจะเอื้อมไปคว้ามือเรียวเล็กของกอบัวมากุมไว้ "ฉันโคตรดีใจเลย ที่เธอไม่ได้จากฉันไปจริง ๆ" มาเฟียหนุ่มกล่าวพร้อมกับคลี่ยิ้มบาง ๆ แต่แสนอ่อนโยนผิดกับตัวตนของเขา"เพราะอะไรเหรอคะ..." หญิงสาวเอ่ยถามด้วยใบหน้าที่ไร้เดียงสา"...หรือว่าเพราะบัวเป็นลูกน้องที่ไว้ใจของพี่" สิ้นเสียง มาเฟียหนุ่มก็มองใบหน้าสวยใสด้วยความรัก และเอ็นดู "เพราะว่าเธอคือ...." แอ๊ดดด ยังไม่ทันที่มาเฟียหนุ่มจะบอกความในใจ ก็มีคนเข้ามาขัดซะก่อน "สวัสดีค่ะพี่หมอคินน์" กอบัวเอ่ยทักพร้อมกับยิ้มหวานให้กับคนที่มาใหม่ "ไอ้หมอ!..." มาเฟียต้วนกัดฟันกรอด ขบกรามแน่นเมื่อเห็นหน้าคนบงการที่ทำให้เขาต้องโศกเศร้าเสียใจหมดอาลัยตายอยากถึงสองวัน"...มึงกับกูมีเรื่องที่ต้องคุยกัน!" เขาส่งแววตาเชือดเฉือนให้กับเพื่อนสนิท อย่างไม่จริงจังนัก เพราะยังไงแล้ว หมอคินน์ก็เป็นคนช่วยชีวิตกอบัวไว้"เหอะ เหอะ" หมอคินน์กลั้วหัวเราะก่อนที่จะบอกกล่าวเรื่องอาการของผู้ป่วยอย่างจริงจัง"พยาบาลบอกแล้วใช่มั้ยว่า อีกสองวันก็จะกลับบ้านได้""บอกแล้วค่ะ" หมอคินน์ผงกหัวรับ "ช่วงหนึ่งสัปดาห์แรก ต้องระวังอย่าเพิ่งยกขอ
ทุกคนมาถึงโรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง ซึ่งคณาธิปเพื่อนมาเฟียต้วนเป็นเจ้าของ ในขณะที่เอกสิทธิ์ และพิไล เดินนำหน้าพากฤษ และจอมทัพไปยังห้องพักฟื้นของลูกสาว ทั้งหมดก็ได้สวนทางกับหมอคินน์เข้าพอดี "หมอคินน์ครับ" หมอคินน์หยุดชะงักแล้วมองไปยังคนที่เรียกด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง "ไอ้จอม มึงเข้าไปก่อน..." กฤษพูดกับจอมทัพประโยคแรกก่อนที่จะหันไปพูดกับหมอคินน์"...กูกับหมอคินน์มีเรื่องที่จะต้องคุยกัน" มือขวามีสีหน้าตึงเครียดแฝงความโกรธน้อย ๆ ในขณะที่เจ้าของโรงพยาบาลยืนส่ายหน้าแล้วพึมพำออกมาพอได้ยินว่า"เป็นลูกน้องที่รัก และซื่อสัตย์ดีจริง ๆ เหอะ เหอะ" พูดจบก็กลั้วหัวเราะเบา ๆ "ทำไมหมอคินน์ทำแบบนี้ล่ะครับ" เมื่อกฤษได้รู้เรื่องราวทุกอย่างจากปากเจ้าของโรงพยาบาลแล้ว ก็กล่าวถามทันทีอย่างไม่สบอารมณ์นัก "เอาหน่า..กูก็แค่อยากแกล้งมันเล่น ๆ เอง" "หมอคินน์รู้มั้ยว่าคุณต้วนเสียใจมากแค่ไหน ข้าวปลาก็ไม่กิน วัน ๆ หมกตัวอยู่แต่ในห้องกับเจ้าแต้ม..เฮ้อ" กฤษบอกสถานการณ์เจ้านายตัวเองให้กับเพื่อนสนิทของเขาได้รับรู้อย่างเห็นอกเห็นใจ"กูขอโทษ..เอาละกูไม่แกล้งมันแล้วมึงรีบไปบอกเจ้านายของมึงเลยว่า กอบัวยังมีชีวิตอยู่...." หมอคิ
"ไม่นึกเลยว่าพี่ต้วนจะเป็นถึงขนาดนี้" ระหว่างที่กฤษพามาเฟียต้วนออกไปท่ามกลางสายตาทั้งสามหนุ่มที่ยังคงจ้องมองแผ่นหลังของเขา ต่างรู้สึกหลากหลายอารมณ์ อี้เฉินก็กล่าวขึ้นอย่างเห็นอกเห็นใจเพื่อนรุ่นพี่"จะสงสาร หรือสมน้ำหน้ามันดีนะ" ศิลาเอ่ยพร้อมกับส่ายหน้า ทว่านัยน์ตายังคงมีความเป็นห่วงมาเฟียเพื่อนสนิทอยู่ไม่น้อย"หึ" หมอคินน์แค่นหัวเราะแล้วยกยิ้มมุมปากด้วยใบหน้าราวกับมีอะไรในใจ แต่ทั้งศิลา และอี้เฉินต่างไม่ได้สังเกต "ไอ้หมอมึงติดต่อวัดหรือยัง" ศิลากล่าวถาม"เออ แล้วทางครอบครัวกอบัวรู้เรื่องหรือยังว่า..." อี้เฉินยังพูดไปจบประโยคก็มีเสียงฝีเท้าที่สวมใส่รองเท้าส้นเตี้ยวิ่งเข้ามาพร้อมกับร้องเรียกหมอคินน์"คุณหมอคะ คนไข้ฟื้นแล้วนะคะ" "อืม เดี๋ยวผมตามไป" หมอคินน์ตอบรับ ท่ามกลางสายตาของศิลา และอี้เฉินที่จ้องมองเขาอย่างมึนงง"ไอ้หมอแล้วเรื่องกอบัว..""พี่จะทิ้งไว้แบบนี้งั้นเหรอ" ดาราหนุ่มชาวจีนแทรกพูดขึ้นพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย "พวกมึงตามกูมา" พูดจบ เจ้าของโรงพยาบาลก็ก้าวขาเดินนำหน้าสองหนุ่มไปยังห้องพักฟื้นผู้ป่วยวีไอพีทันที พอประตูห้องเปิดออก ทั้งประธานบริษัท และดาราหนุ่มชาวจีนต่างดวงต
ตึก ตึก ตึก เสียงฝีเท้าหนักวิ่งพาร่างหญิงสาวที่หมดสติ เนื้อตัวเต็มไปด้วยเลือดเข้ามาในโรงพยาบาลชื่อดัง พร้อมกับตะโกนร้องเรียก เพื่อนหมอเจ้าของโรงพยาบาลราวกับคนเสียสติ"ไอ้หมอ! ไอ้หมอโว้ย ช่วยเมียกูด้วย" มาเฟียหนุ่มไม่รู้ตัวเลยว่าเขาได้หลุดปากเปลี่ยนสรรพนามให้เธอไปแล้ว"ไอ้ต้วน!" หมอคินน์ที่เพิ่งออกจากห้องตรวจเมื่อเห็นเพื่อนสนิทที่มีสีหน้าแตกตื่น จึงรีบวิ่งเข้าไปแล้วสำรวจบาดแผลร่างเล็กที่อยู่บนแขนของมาเฟียต้วน "ทำไม น้อง..." "มึงช่วยเมียกูด้วย" หมอคินน์คลี่ยิ้มบาง ๆ ก่อนจะหันไปสั่งพยาบาลให้เตรียมห้องผ่าตัด แล้วให้บุรุษพยาบาลนำรถมาเอาร่างหญิงสาวไปยังห้องผ่าตัดอย่างเร่งด่วน "ไอ้หมอ กูฝากกอบัวด้วย" ก่อนที่หมอคินน์จะเดินเข้าไปในห้องผ่าตัด มาเฟียตัวนก็คว้าแขนเขาไว้ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ดวงตาแดงก่ำ "อืม" ทางด้านหมอเจ้าของโรงพยาบาลตอบกลับสั้น ๆ แล้วก้าวขาเดินเข้าไปในห้องผ่าตัดอย่างรวดเร็ว มาเฟียหนุ่มเดินย้ำก้าวนั่งไม่ติดเก้าอี้ แววตามีความหวั่นวิตกมองผ่านกระจกเล็กเข้าไปในห้องผ่าตัด เขาแสดงออกได้ชัดว่าเป็นห่วงหญิงสาวเป็นอย่างมาก เวลาล่วงเลยมาร่วมสองชั่วโมงก็ยังไม่มีทีท่าว่าหมอคิน
จอมทัพยิงปืนขึ้นบนหลังคาโกดังในขณะมืออีกข้างยังคงรัดลำคอของกอบัวที่มีใบหน้าตื่นตระหนกตกใจเป็นอย่างมาก "มึงคิดว่าจะออกไปง่าย ๆ งั้นเหรอ" จอมทัพตะโกนบอกกับมาเฟียหนุ่มที่จ้องมองหญิงสาวด้วยสายตากังวล และเป็นห่วงคละเคล้ากัน เขาไม่ได้จะออกไปจากที่นี่โดยที่ไม่พาหญิงสาวที่หวงแหนได้กลับไปด้วย แต่เขาแค่รอโอกาสที่จะสามารถชิงตัวเธอมาเท่านั้น"มึงต้องชดใช้ชีวิตให้กับพ่อของกู!" มาเฟียหนุ่มตวัดสายตามองไปยังจอมทัพ หัวคิ้วมุ่นขึ้นเล็กน้อย "ทำไมกูต้องชดใช้?" เขาถามห้วน ๆ "ก็เพราะมึงเป็นฆาตกรฆ่าพ่อกู!" จอมทัพกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาเข้ม ขบกรามแน่นจนเป็นสัน จ้องไปที่มาเฟียหนุ่มด้วยดวงตาทอประกายแห่งความโกรธแค้น"เหอะ" มาเฟียต้วนเงยหน้าขึ้นมองเพดานแล้วกลั้วหัวเราะออกมา เขาเพิ่งจะรู้ว่าจุดประสงค์ที่แท้จริงของชายหนุ่มนั่นคือต้องการชีวิตเขา เพียงเพราะเข้าใจผิดว่าเขาเป็นคนที่ฆ่าพ่อของชายหนุ่ม "มึงหัวเราะอะไร" "ถ้าเป็นเรื่องระหว่างมึงกับกู...." สายตาคมกริบตวัดไปที่หญิงสาวตัวเล็กที่มีใบหน้าหวาดกลัว"...ปล่อยกอบัวไปซะ" "กูไม่ปล่อยจนกว่ามึงจะคุกเข่ามาให้กูฆ่า" สิ้นเสียง มาเฟียหนุ่มก็พ่นลมหายใจอย่างหมดความอ
หญิงสาวถูกมัดมือ มัดเท้า และมีผ้าปิดปากอยู่บนเตียงขนาดใหญ่ เธอพยายามช่วยตัวเองให้หลุดออกจากพันธนาการนั้น ทว่ามันไม่ได้ง่ายดายอย่างที่คิด แอ๊ดดดด ประตูห้องเปิดเข้ามาพร้อมกับชายหนุ่มร่างสูงคนคุ้นเคย เขาเดินแสยะยิ้มร้ายมาที่เธอ แล้วดึงผ้าที่ปิดปากของหญิงสาวออก "จอม..ช่วยบัวด้วย..." กอบัวบอกกล่าวพร้อมกับเผยยิ้มอย่างสบายอกสบายใจที่ได้เจอกับจอมทัพ เพราะก่อนหน้าเธอมาตามนัดแล้วแต่บังเอิญไปเจอกับชายฉกรรจ์ที่ท่าทางไม่น่าไว้ใจ เธอพยายามจะหลบหนี สุดท้ายก็ถูกจับจนได้ "...พวกเราต้องรับออกไปที่นี่ เพราะพวกนั้นน่าจะ..." ทันทีที่กอบัวเห็นสายตาของจอมทัพ เธอก็ต้องปิดปากเงียบ"หึ" จอมทัพกลั้วหัวเราะในลำคอเบา ๆ พร้อมกับสายตาที่เย็นชาราวกับน้ำแข็งที่จ้องไปที่กอบัว"ทำไมจอม.." เธอประหวั่นพรั่นพรึง แววตาสั่นระริกเช่นเดียวกับริมฝีปาก ด้วยท่าทางของเขาที่มีรังสีอำมหิตแผ่ออกมาจากร่าง ดั่งกับไม่ใช่คนที่เธอรู้จัก"..หรือว่าจอม..""ใช่ ฉันหลอกเธอมาเป็นเหยื่อล่อไอ้ต้วนมา..." จอมทัพแทรกพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำพร้อมกับกัดกรามแน่น"...แล้วฉันจะฆ่ามันด้วยมือของฉันเอง" เขากล่าวด้วยความอาฆาตแค้นซึ่งปรากฏออกมาจากแววตา กอบั
ปึก ปึก ปึก เสียงหยาบโลนดังระงมไปทั่วห้อง หญิงสาวนอนครางเสียงหวานเบา ๆ พอให้ได้ยิน "อะ อ๊ะ อื้ออ" ร่างบางโยกคลอนไปตามจังหวะสะโพกสอบที่ตอกอัดเข้ามาไม่หยุด ปึก ปึก ปึก มาเฟียหนุ่มหลุบตามองเรือนร่างเปลือยเปล่าที่ขาวนวลสะท้อนแสง ใบหน้าสวยแดงก่ำราวกับลูกตำลึง เธอกัดริมฝีปากเย้ายวน ทำให้ความเร่าร้อนในตัวของเขาแล่นปลาบไปทั่วร่าง ปึก ปึก ปึก เอวหนากระแทกกระทั้นด้วยความกระสันเสียว ก่อนจะโน้มหน้าลงมาแล้วเลื่อนริมฝีปากแนบลงดูด ดุน ที่ลำคอเพรียวระหงจนเกิดรอยแดง เขาจ้องมองแล้วแสยะยิ้มอย่างพึงพอใจ"อ่า อึ้มม.." มาเฟียหนุ่มครางเสียงทุ้ม ในระหว่างที่ไสท่อนเนื้อตอกอัดร่องรักเข้าไปไม่หยุด"อะ อ๊ะ สะ เสียว" คนใต้ร่างร้องครางด้วยดวงตาที่หวานเยิ้ม มาเฟียหนุ่มรู้สึกเสียวลำกายจนแทบคลั่ง สองมือจับสะโพกผายหลวม ๆ แล้วกระแทกเอวหนาเข้าไปอย่างหนักหน่วงปึก! ปึก! ปึก! "อ๊าาาา.." แรงบีบรัดจากความเกร็งของกอบัวทำให้เขาเสียวจนทนไม่ไหว ตอกสะโพกเข้าไปอีกสองสามทีก่อนจะปล่อยน้ำคาวสีขาวขุ่นพ่นเข้าไปในกายของเธอตันติกรโน้มตัวลงทาบที่ร่างของกอบัว เสียงหอบกระเส่าของเขาทำให้เธอสมองเบลอไปหมด แต่ต้องสะดุ้งวาบเมื่อรู้สึกว