โรงอาหาร“ทำหน้าอะไรของมึงแบบนั้นวะ เมื่อเช้ากินขี้มาหรือไง”พอร์ชแซวเก้าทัพที่ทำสีหน้าราวกับเบื่อโลกยิ้ม ๆ ก่อนที่เก้าทัพจะนั่งลงบนเก้าอี้ที่ว่าง ตั้งแต่เปิดเทอมมาพวกเพื่อนสองคนมันลากเขาไปช่วยรับน้องโดยให้เขาเป็นพี่ว้ากที่เขาพยายามปฏิเสธหัวชนฝา แต่กลับกลายเป็นว่าคนที่มาร้องขอเขาคืออาจารย์ที่เขาเคารพนับถือมันเลยทำให้เขาต้องจำยอมอย่างจำใจกิจกรรมรับน้องมีทุกวัน เขาตื่นเช้ากลับดึกจนหัวฟูไปหมด จากที่ตั้งใจเอาไว้ว่าจะไปคุยกับนับดาวถึงเรื่องราวระหว่างเราสองคนกลับกลายเป็นว่าต้องล้มเลิกไปพอเสร็จจากการรับน้อง วิชาเรียนก็มาพร้อมงานที่อาจารย์พากันสั่งราวกับนัดกันมาทำเอาเก้าทัพแทบจะไม่มีเวลาแวบไปไหนเลย เข้าใจแล้วว่าการเรียนหนักมันเป็นอย่างไรก็ตอนที่ขึ้นปีสองนี่แหละ เขาอยากจะบ้าตาย ปัญหาทางใจและทางกายยังไม่ได้เคลียร์มันเลยทำให้เขารู้สึกค้างคาจนพาลหงุดหงิดเบื่อโลกไปเสียอย่างนั้นคิดถึง...คำ ๆ นี้มันดังก้องอยู่ในหัวของเขาซ้ำไปซ้ำมา“กินขี้บ้านพ่อมึงสิไอ้พอร์ช กูหงุดหงิดโว้ย เพราะพวกมึงสองตัวเลยที่ทำให้กูไม่มีเวลา”เสียงตะโกนด่าเพื่อนของเก้าทัพทำเอาคนที่นั่งแถวนั้นสะดุ้งกันเป็นแถบ เพราะรู้สึกว่าวัน
ในที่สุดหลังจากที่กิจกรรมรับน้องผ่านไปและนับดาวเคลียร์ตารางเรียนเรียบร้อยแล้ววันนี้ก็เป็นวันเริ่มงานพาร์ตไทม์วันแรกซึ่งนับดาวกับปิ่นมุกลงเรียนเหมือนกันทุกวิชาทำให้ทั้งคู่ลงชั่วโมงทำงานเหมือนกันในทุกวันที่ว่างเว้นจากการเรียนกริ๊งเสียงเปิดประตูที่ดังขึ้นทำให้นับดาวที่ยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์รีบเงยหน้าขึ้นเพื่อรอรับออเดอร์จากลูกค้า ทันทีที่ประตูปิดลงเสียงซุบซิบจากบรรดาสาว ๆ ที่มานั่งทานเมนูนมปั่นกับขนมหวานหลังเลิกเรียนก็ดังขึ้นนับดาวถึงกับหันไปมองรอบ ๆ ร้านด้วยความแปลกใจลูกค้าคนที่กำลังเดินเข้ามาหาเธอเขาก้มหน้าอยู่ตลอดเวลาทำให้เธอเห็นหน้าตาเขาไม่ชัดเจน แต่เขากลับได้รับความสนใจจากบรรดาสาว ๆ ในร้านสงสัยคงเป็นคนดังของมหาวิทยาลัยอย่างแน่นอนนับดาวคิดในใจก่อนที่จะยิ้มออกมาเล็กน้อย“อเมริกาโนเข้ม ๆ แก้วหนึ่งครับ”น้ำเสียงที่คุ้นเคยทำเอานับดาวถึงกับชะงักไปเล็กน้อยก่อนที่เก้าทัพที่ก้มหน้าดูโทรศัพท์อยู่จะเงยหน้าขึ้นมาเพื่อเตรียมชำระเงิน ดวงตาคมกริบสบเข้ากับดวงตากลมราวกับโลกหยุดหมุน เก้าทัพมองใบหน้าสวยหวานของนับดาวด้วยความคิดถึงที่แฝงด้วยความโหยหาลึก ๆ ที่เขาเองก็ไม่รู้ตัว ก่อนที่ใบหน้าหล่อเหลาจะยิ
หลังจากวันนั้นเก้าทัพก็กลายมาเป็นลูกค้าประจำของทางร้าน MY MILK จนได้รับบัตรสะสมแต้มจากพี่มายด์เกือบสิบใบ เพราะถ้าเขาไม่สั่งไปนั่งดื่มมองนับดาวทำงานแล้วยิ้มคนเดียวเหมือนคนบ้า เก้าทัพก็มักจะสั่งไปเลี้ยงเพื่อนในคณะทีละสิบยี่สิบแก้วทำเอาพี่มายด์ถึงกับส่ายหน้ากับวิธีแอบเนียนจีบสาวของเก้าทัพที่มาช่วยอุดหนุนร้านที่นับดาวทำงานอยู่นั่งยิ้มหวานมองหน้าลูกน้องเธอเสียขนาดนั้น มองจากดาวพลูโตยังรู้เลยว่าหนุ่มหล่ออันดับหนึ่งของมหาวิทยาลัย M นั้นชอบนับดาว อีกอย่างเมื่อนับดาวเลิกงานสารถีหน้าหล่อก็จะรอรับเจ้าหญิงน้อยของเธอทุกวันเพื่อไปส่งที่บ้านความน่ารักของนับดาวมายด์ยอมรับเลยว่าสวยน่ารักเป็นธรรมชาติไร้การปรุงแต่ง เธอไม่แปลกใจเลยที่หนุ่มฮอตอย่างเก้าทัพจะรู้สึกชอบเด็กคนนี้ขนาดเธอเป็นผู้หญิงเธอยังมองว่านับดาวน่ารักมาก ๆ เลย“วันนี้รับอะไรดีคะ” นับดาวถามเก้าทัพที่ยืนยิ้มมองหน้าเธอก่อนที่เขาจะสั่งเมนูที่นับดาวชอบดื่มนั่นก็คือนมสดปั่นแทนเมนูกาแฟที่เขาชอบดื่มเป็นประจำนับดาวถึงกับยิ้มออกมาด้วยความชอบใจที่เก้าทัพหันมาดื่มนมสดปั่นเหมือนเธอ“นับพี่ฝากร้านแป๊บหนึ่งนะ พอดีว่าพี่สั่งของเอาไว้แล้วที่ร้านเขาโทรมาให
“ขอบคุณพี่เก้านะคะที่มาส่ง”นับดาวบอกเก้าทัพก่อนที่จะทำใจกล้ายื่นปากนุ่ม ๆ ไปหอมแก้มเก้าทัพเร็ว ๆ หนึ่งครั้งแล้วเตรียมจะผละออก แต่คนที่ความรู้สึกไวและมือไวไม่ปล่อยให้สาวน้อยได้หนีลงรถไปง่าย ๆ มือใหญ่รีบจับมือนับดาวเอาไว้ก่อนที่จะกระชากเบา ๆ ใบหน้าสวยหวานที่ตอนนี้มีหยดน้ำเกาะอยู่บนใบหน้า เพราะเปียกฝนก็เข้ามาใกล้ ๆ ใบหน้าหล่อเหลาของเขาอย่างง่ายดาย“คิดจะจุ๊บพี่แล้วหนีเหรอคะ หืม หนูนับ”น้ำเสียงหวานละมุนถามนับดาวในขณะที่คนโดนจับได้ถึงกับก้มหน้างุดด้วยความเขินอาย เธอไม่ได้ตั้งใจที่จะหอมแก้มเขานะ อยู่ ๆ ก็มีความรู้สึกว่าอยากหอมแก้มนุ่ม ๆ นั่นขึ้นมาเธอพยายามหักห้ามใจแล้ว แต่หัวใจเจ้ากรรมดันไม่ฟังเลยลงเอยด้วยการแอบขโมยหอมแก้มแล้ว ตั้งใจจะหนีที่ไหนได้กลับถูกเขาจับได้เสียอย่างนั้น“ปะ เปล่านะคะ ดึกแล้วนับจะเข้าบ้านแล้วค่ะ” นับดาวยังคงก้มหน้างุดบอกเก้าทัพด้วยน้ำเสียงที่ตะกุกตะกักเก้าทัพอมยิ้มกรุ้มกริ่มสายตาที่มองนับดาวที่กำลังก้มหน้าเต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์เขาน่ะเป็นพวกประเภทที่จูบมาจูบกลับไม่โกงนะ แต่ก็เฉพาะคนที่รู้สึกดีด้วยเท่านั้นซึ่งก็มีเพียงคนเดียวหนึ่งเดียวเท่านั้นที่หัวใจมันเต้นแรงยามที่
หลังจากที่เข้ามาในห้องตรวจกฤษฎิ์อ่านชาร์ตจากแผนกฉุกเฉินเสร็จแล้วก็ลงมือเจาะเลือดให้นับดาวและส่งให้พยาบาลนำไปตรวจ ก่อนที่จะถามข้อมูลอาการของเด็กสาวคร่าว ๆ ซึ่งจากคำบอกเล่าอาการของเด็กสาวแล้วเขาคิดว่าเด็กสาวน่าจะกำลังตั้งครรภ์อย่างแน่นอนถึงแปดสิบเปอร์เซ็นต์ถึงแม้ผลตรวจเลือดจะยังไม่ออกก็ตามที“ลุงหมอขออนุญาตสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเล็กน้อยนะครับ ไม่ทราบว่าหนูมีแฟนหรือยังครับ”คำถามของคุณหมอวัยกลางคนที่หน้าตาดีมากถึงแม้ผมจะเริ่มเป็นสีขาวแล้วก็ตามทำเอานับดาวถึงกับขมวดคิ้วมุ่นด้วยความแปลกใจ อาการเวียนหัวคลื่นไส้ของเธอมันเกี่ยวอะไรกับการที่เธอมีแฟน แต่ถึงอย่างนั้นเด็กสาวก็ให้ความร่วมมือในการตอบคำถามเป็นอย่างดี“อะ เอ่อ ยังไม่มีค่ะ”นับดาวบอกกฤษฎิ์ที่คราวนี้เป็นฝ่ายขมวดคิ้วมุ่นบ้าง เพราะถ้านับดาวบอกว่าไม่มีแฟนแล้วอาการเบื้องต้นที่เขาวิเคราะห์เล่า เกิดอาการเงียบขึ้นมาระหว่างนายแพทย์ใหญ่กับเด็กสาวทันทีกฤษฎิ์เคาะปากกาลงบนชาร์ตคนไข้อย่างใช้ความคิด ก่อนที่เขาจะยิ้มออกมาเล็กน้อยสงสัยคงต้องรอผลตรวจเลือดเพื่อยืนยันความมั่นใจของเขาอีกครั้งหนึ่ง“เดี๋ยวหนูออกไปรอผลข้างนอกก่อนนะถ้าผลตรวจมาแล้วเดี๋ยวพยาบาลจ
“นะ นับ นับว่าอย่างไรนะลูก” ปรานีที่นั่งอยู่ตรงหน้าถามนับดาวที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ขุนพลเสียงสั่นนับดาวหลับตาลงปล่อยให้น้ำตารินไหลออกมาอาบแก้มด้วยความรู้สึกผิดที่ท่วมท้นอยู่ในใจก่อนที่ลืมตาขึ้นและบอกกับแม่ปราณีใหม่อีกครั้ง“นับท้องค่ะแม่ ท้องได้เดือนกว่า ๆ แล้วค่ะ”พยายามกลั้นเสียงสะอื้นบอกมารดาส่วนปรานีเมื่อได้ฟังชัด ๆ อีกครั้งน้ำตาก็ค่อย ๆ ไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ความรู้สึกผิดหวัง เสียใจ เศร้าใจและสุดท้ายความรู้สึกสงสารที่ถาโถมเข้ามาทำให้เธอพูดไม่ออกไปชั่วขณะ นับดาวรีบลงจากเก้าอี้ไปนั่งลงบนพื้นทันทีก่อนที่จะก้มลงกราบเท้ามารดาทั้งน้ำตา“ฮึก ฮือ แม่ขานับขอโทษ ฮือ นับไม่ได้ตั้งใจ แม่อย่าโกรธนับกับลูกเลยนะ ฮือ” นับดาวร่ำไห้ซบหน้าลงบนเท้าของปราณีด้วยความรู้สึกผิดขุนพลที่เห็นแบบนั้นเบือนหน้าหนีด้วยความสงสารและเวทนานับดาวจับใจ ไม่คิดเลยว่าโชคชะตาจะเล่นตลกและใจร้ายกับเด็กที่ใสซื่อบริสุทธิ์อย่างนับดาวได้ถึงเพียงนี้“นับลูกลุกขึ้นมา ลุกขึ้นมา ฮึก ไม่ร้องนะลูกนะไม่ร้องคนเก่งของแม่”ปราณีค่อย ๆ ดึงรั้งตัวลูกสาวของเธอให้ลุกขึ้นมานั่งบนเก้าอี้ก่อนที่จะมองใบหน้าที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตาด้วยความสงสาร มือที
เช้าวันต่อมานับดาวรีบมามหาวิทยาลัยตั้งแต่เช้าเพื่อยื่นเรื่องลาออกซึ่งมีในเรื่องของทุนที่เธอต้องชดใช้ให้คืนกับทางมหาวิทยาลัย ส่วนนี้พี่ขุนพลจะเป็นคนประสานงานให้กับเธอเอง เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้วเธอก็มานั่งรอเพื่อน ๆ ที่ศาลาริมน้ำหลังคณะ ปิ่นมุกที่มาถึงคนแรกเมื่อเห็นนับดาวก็รีบวิ่งเข้ามาหาทันทีด้วยความเป็นห่วงเมื่อวานเธอวิ่งตามหานับดาวจนทั่วคณะ เพราะนับดาวบอกว่าจะไปซื้อยา แต่กลับหายไปเป็นชั่วโมง จนกระทั่งพี่ขุนพลโทรมาถึงรู้ว่าเพื่อนรักเป็นลมและตอนนี้อยู่ที่โรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว“นับเป็นอย่างไรบ้างทำไมวันนี้ไม่ลา ไหวไหมเนี่ย” เมื่อนั่งลงเรียบร้อยแล้วปิ่นมุกก็เอามือทาบบนหน้าผากเพื่อนเพื่อวัดอุณหภูมิ เธอกลัวว่านับดาวจะป่วยไข้ไม่สบาย แต่ยังฝืนมาเรียนน่ะสิ เพื่อนเธอคนนี้เคยขาดเรียนเสียที่ไหนต่อให้จะเป็นหวัดอยู่ก็ตาม“นับสบายดีไม่เป็นอะไรแล้ว” นับดาวบอกเพื่อนยิ้ม ๆ ปิ่นมุกเมื่อได้ยินแบบนั้นก็ทำหน้าโล่งใจทันที เมื่อวานเธอเป็นห่วงแทบแย่จะลาเรียนตามไปที่โรงพยาบาลแต่เพื่อนสาวดันห้ามเอาไว้ เพราะไม่อยากให้เธอเสียการเรียน ในขณะที่แพทตี้ขานั้นพร้อมโดดเรียนทุกเมื่อ เพราะก็เป็นห่วงนับดาวมากไม่ได้ต่างก
วันต่อมาวันนี้เก้าทัพเตรียมตัวมาอย่างดีเขาวางแผนที่จะสารภาพรักและขอนับดาวเป็นแฟนอย่างเป็นทางการโดยที่มีเพื่อนรักอย่างดาร์คกับพอร์ชที่ช่วยจัดหาดอกไม้และสถานที่เตรียมเอาไว้ให้เขา หลังจากที่เลิกเรียนวิชาสุดท้ายแล้วเขาก็รีบตรงดิ่งไปที่ร้านของพี่มายด์เพื่อที่จะไปรอรับนับดาวหลังจากที่เธอเลิกงานเพื่อจะพาไปยังสถานที่ ๆ เขาเตรียมเอาไว้เซอร์ไพรส์ขอเธอเป็นแฟนกริ๊ง กริ๊งเสียงประตูที่เปิดออกพร้อมกับเก้าทัพที่ก้าวเข้ามาในร้านทำเอาพี่มายด์ที่กำลังรับออเดอร์เสร็จพอดีหันมามองด้วยความแปลกใจ ดวงตาที่ทอเป็นประกายสดใสกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ร้านเพื่อมองหาร่างบางที่คุ้นเคยของนับดาว แต่กลับไม่พบแม้แต่เงา ทำเอาใบหน้าหล่อเหลาขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจพอดีกับที่พี่มายด์เดินเข้ามาหาเขาที่ยืนอยู่หน้าร้าน“สวัสดีครับพี่มายด์”เก้าทัพยกมือไหว้พี่มายด์ทันที เธอรับไหว้ก่อนที่จะถามเก้าทัพด้วยความแปลกใจระคนสงสัยเมื่อวานที่นับดาวขอเธอไม่ให้บอกเก้าทัพว่าลาออกเธอก็นึกว่านับดาวอยากจะเป็นคนบอกเก้าทัพเอง แต่ดูจากสายตาที่กำลังกวาดมองไปรอบ ๆ ร้านแล้วนับดาวคงไม่ได้บอกเก้าทัพเป็นแน่ว่าเธอลาออกจากงานแล้ว“นี่หนูนับไม่ได้บอกน้องเก้าเห