หลายวันต่อมา“มาแต่เช้าเลยนะนับ”ปิ่นมุกทักทายนับดาวด้วยรอยยิ้มปิ่นมุกคือเพื่อนคนแรกของนับดาวที่เดินเข้ามาทักทายตั้งแต่วันแรกของการเปิดเทอมทำกิจกรรมรับน้องด้วยกันจนกลายมาเป็นเพื่อนกัน เพราะปิ่นมุกเองก็เป็นเด็กทุนเหมือนกันกับนับดาวเลยทำให้ทั้งคู่คุยกันถูกคอในขณะที่คนอื่น ๆ แทบจะไม่มีใครเข้ามาทักทายคนทั้งคู่เพราะมหาวิทยาลัย M คือมหาวิทยาลัยเอกชนที่มีชื่อเสียงอันดับต้น ของประเทศ ค่าเทอมที่นี่ค่อนข้างแพง แต่ก็จะมีการเปิดให้สอบชิงทุนสำหรับเด็กที่เรียนดี แต่ไร้ทุนทรัพย์ซึ่งนับดาวกับปิ่นมุกก็คือคนที่สอบชิงทุนของคณะบัญชีได้ในครั้งนี้จากทุนทั้งหมดจำนวนสิบทุน“ขืนมาสายรถเมล์ก็เต็มกันพอดี นับไม่อยากไปยืนเบียดกับคนบนรถน่ะ กว่าจะถึงมอขาแข็งแน่นอนเลย” นับดาวส่งยิ้มให้ปิ่นมุกก่อนที่ทั้งคู่จะเดินไปที่โรงอาหารด้วยกันเพื่อทานมื้อเช้า เมื่อมาถึงก็มีโต๊ะว่างอยู่มากมาย เพราะเช้า ๆ แบบนี้คนไม่ค่อยเยอะนับดาวกับปิ่นมุกเดินไปนั่งลงบนเก้าอี้โต๊ะที่ว่างทันที“วันนี้กินอะไรดีเอ่ย” ปิ่นมุกถามนับดาวที่กำลังไล่สายตามองร้านอาหารที่ตั้งเรียงรายอยู่ตรงหน้าเธอก่อนที่ดวงตากลมโตจะไปหยุดลงที่ร้านข้าวไข่เจียวเมนูประจำที่ร
โรงอาหาร“ทำหน้าอะไรของมึงแบบนั้นวะ เมื่อเช้ากินขี้มาหรือไง”พอร์ชแซวเก้าทัพที่ทำสีหน้าราวกับเบื่อโลกยิ้ม ๆ ก่อนที่เก้าทัพจะนั่งลงบนเก้าอี้ที่ว่าง ตั้งแต่เปิดเทอมมาพวกเพื่อนสองคนมันลากเขาไปช่วยรับน้องโดยให้เขาเป็นพี่ว้ากที่เขาพยายามปฏิเสธหัวชนฝา แต่กลับกลายเป็นว่าคนที่มาร้องขอเขาคืออาจารย์ที่เขาเคารพนับถือมันเลยทำให้เขาต้องจำยอมอย่างจำใจกิจกรรมรับน้องมีทุกวัน เขาตื่นเช้ากลับดึกจนหัวฟูไปหมด จากที่ตั้งใจเอาไว้ว่าจะไปคุยกับนับดาวถึงเรื่องราวระหว่างเราสองคนกลับกลายเป็นว่าต้องล้มเลิกไปพอเสร็จจากการรับน้อง วิชาเรียนก็มาพร้อมงานที่อาจารย์พากันสั่งราวกับนัดกันมาทำเอาเก้าทัพแทบจะไม่มีเวลาแวบไปไหนเลย เข้าใจแล้วว่าการเรียนหนักมันเป็นอย่างไรก็ตอนที่ขึ้นปีสองนี่แหละ เขาอยากจะบ้าตาย ปัญหาทางใจและทางกายยังไม่ได้เคลียร์มันเลยทำให้เขารู้สึกค้างคาจนพาลหงุดหงิดเบื่อโลกไปเสียอย่างนั้นคิดถึง...คำ ๆ นี้มันดังก้องอยู่ในหัวของเขาซ้ำไปซ้ำมา“กินขี้บ้านพ่อมึงสิไอ้พอร์ช กูหงุดหงิดโว้ย เพราะพวกมึงสองตัวเลยที่ทำให้กูไม่มีเวลา”เสียงตะโกนด่าเพื่อนของเก้าทัพทำเอาคนที่นั่งแถวนั้นสะดุ้งกันเป็นแถบ เพราะรู้สึกว่าวัน
ในที่สุดหลังจากที่กิจกรรมรับน้องผ่านไปและนับดาวเคลียร์ตารางเรียนเรียบร้อยแล้ววันนี้ก็เป็นวันเริ่มงานพาร์ตไทม์วันแรกซึ่งนับดาวกับปิ่นมุกลงเรียนเหมือนกันทุกวิชาทำให้ทั้งคู่ลงชั่วโมงทำงานเหมือนกันในทุกวันที่ว่างเว้นจากการเรียนกริ๊งเสียงเปิดประตูที่ดังขึ้นทำให้นับดาวที่ยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์รีบเงยหน้าขึ้นเพื่อรอรับออเดอร์จากลูกค้า ทันทีที่ประตูปิดลงเสียงซุบซิบจากบรรดาสาว ๆ ที่มานั่งทานเมนูนมปั่นกับขนมหวานหลังเลิกเรียนก็ดังขึ้นนับดาวถึงกับหันไปมองรอบ ๆ ร้านด้วยความแปลกใจลูกค้าคนที่กำลังเดินเข้ามาหาเธอเขาก้มหน้าอยู่ตลอดเวลาทำให้เธอเห็นหน้าตาเขาไม่ชัดเจน แต่เขากลับได้รับความสนใจจากบรรดาสาว ๆ ในร้านสงสัยคงเป็นคนดังของมหาวิทยาลัยอย่างแน่นอนนับดาวคิดในใจก่อนที่จะยิ้มออกมาเล็กน้อย“อเมริกาโนเข้ม ๆ แก้วหนึ่งครับ”น้ำเสียงที่คุ้นเคยทำเอานับดาวถึงกับชะงักไปเล็กน้อยก่อนที่เก้าทัพที่ก้มหน้าดูโทรศัพท์อยู่จะเงยหน้าขึ้นมาเพื่อเตรียมชำระเงิน ดวงตาคมกริบสบเข้ากับดวงตากลมราวกับโลกหยุดหมุน เก้าทัพมองใบหน้าสวยหวานของนับดาวด้วยความคิดถึงที่แฝงด้วยความโหยหาลึก ๆ ที่เขาเองก็ไม่รู้ตัว ก่อนที่ใบหน้าหล่อเหลาจะยิ
หลังจากวันนั้นเก้าทัพก็กลายมาเป็นลูกค้าประจำของทางร้าน MY MILK จนได้รับบัตรสะสมแต้มจากพี่มายด์เกือบสิบใบ เพราะถ้าเขาไม่สั่งไปนั่งดื่มมองนับดาวทำงานแล้วยิ้มคนเดียวเหมือนคนบ้า เก้าทัพก็มักจะสั่งไปเลี้ยงเพื่อนในคณะทีละสิบยี่สิบแก้วทำเอาพี่มายด์ถึงกับส่ายหน้ากับวิธีแอบเนียนจีบสาวของเก้าทัพที่มาช่วยอุดหนุนร้านที่นับดาวทำงานอยู่นั่งยิ้มหวานมองหน้าลูกน้องเธอเสียขนาดนั้น มองจากดาวพลูโตยังรู้เลยว่าหนุ่มหล่ออันดับหนึ่งของมหาวิทยาลัย M นั้นชอบนับดาว อีกอย่างเมื่อนับดาวเลิกงานสารถีหน้าหล่อก็จะรอรับเจ้าหญิงน้อยของเธอทุกวันเพื่อไปส่งที่บ้านความน่ารักของนับดาวมายด์ยอมรับเลยว่าสวยน่ารักเป็นธรรมชาติไร้การปรุงแต่ง เธอไม่แปลกใจเลยที่หนุ่มฮอตอย่างเก้าทัพจะรู้สึกชอบเด็กคนนี้ขนาดเธอเป็นผู้หญิงเธอยังมองว่านับดาวน่ารักมาก ๆ เลย“วันนี้รับอะไรดีคะ” นับดาวถามเก้าทัพที่ยืนยิ้มมองหน้าเธอก่อนที่เขาจะสั่งเมนูที่นับดาวชอบดื่มนั่นก็คือนมสดปั่นแทนเมนูกาแฟที่เขาชอบดื่มเป็นประจำนับดาวถึงกับยิ้มออกมาด้วยความชอบใจที่เก้าทัพหันมาดื่มนมสดปั่นเหมือนเธอ“นับพี่ฝากร้านแป๊บหนึ่งนะ พอดีว่าพี่สั่งของเอาไว้แล้วที่ร้านเขาโทรมาให
“ขอบคุณพี่เก้านะคะที่มาส่ง”นับดาวบอกเก้าทัพก่อนที่จะทำใจกล้ายื่นปากนุ่ม ๆ ไปหอมแก้มเก้าทัพเร็ว ๆ หนึ่งครั้งแล้วเตรียมจะผละออก แต่คนที่ความรู้สึกไวและมือไวไม่ปล่อยให้สาวน้อยได้หนีลงรถไปง่าย ๆ มือใหญ่รีบจับมือนับดาวเอาไว้ก่อนที่จะกระชากเบา ๆ ใบหน้าสวยหวานที่ตอนนี้มีหยดน้ำเกาะอยู่บนใบหน้า เพราะเปียกฝนก็เข้ามาใกล้ ๆ ใบหน้าหล่อเหลาของเขาอย่างง่ายดาย“คิดจะจุ๊บพี่แล้วหนีเหรอคะ หืม หนูนับ”น้ำเสียงหวานละมุนถามนับดาวในขณะที่คนโดนจับได้ถึงกับก้มหน้างุดด้วยความเขินอาย เธอไม่ได้ตั้งใจที่จะหอมแก้มเขานะ อยู่ ๆ ก็มีความรู้สึกว่าอยากหอมแก้มนุ่ม ๆ นั่นขึ้นมาเธอพยายามหักห้ามใจแล้ว แต่หัวใจเจ้ากรรมดันไม่ฟังเลยลงเอยด้วยการแอบขโมยหอมแก้มแล้ว ตั้งใจจะหนีที่ไหนได้กลับถูกเขาจับได้เสียอย่างนั้น“ปะ เปล่านะคะ ดึกแล้วนับจะเข้าบ้านแล้วค่ะ” นับดาวยังคงก้มหน้างุดบอกเก้าทัพด้วยน้ำเสียงที่ตะกุกตะกักเก้าทัพอมยิ้มกรุ้มกริ่มสายตาที่มองนับดาวที่กำลังก้มหน้าเต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์เขาน่ะเป็นพวกประเภทที่จูบมาจูบกลับไม่โกงนะ แต่ก็เฉพาะคนที่รู้สึกดีด้วยเท่านั้นซึ่งก็มีเพียงคนเดียวหนึ่งเดียวเท่านั้นที่หัวใจมันเต้นแรงยามที่
หลังจากที่เข้ามาในห้องตรวจกฤษฎิ์อ่านชาร์ตจากแผนกฉุกเฉินเสร็จแล้วก็ลงมือเจาะเลือดให้นับดาวและส่งให้พยาบาลนำไปตรวจ ก่อนที่จะถามข้อมูลอาการของเด็กสาวคร่าว ๆ ซึ่งจากคำบอกเล่าอาการของเด็กสาวแล้วเขาคิดว่าเด็กสาวน่าจะกำลังตั้งครรภ์อย่างแน่นอนถึงแปดสิบเปอร์เซ็นต์ถึงแม้ผลตรวจเลือดจะยังไม่ออกก็ตามที“ลุงหมอขออนุญาตสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเล็กน้อยนะครับ ไม่ทราบว่าหนูมีแฟนหรือยังครับ”คำถามของคุณหมอวัยกลางคนที่หน้าตาดีมากถึงแม้ผมจะเริ่มเป็นสีขาวแล้วก็ตามทำเอานับดาวถึงกับขมวดคิ้วมุ่นด้วยความแปลกใจ อาการเวียนหัวคลื่นไส้ของเธอมันเกี่ยวอะไรกับการที่เธอมีแฟน แต่ถึงอย่างนั้นเด็กสาวก็ให้ความร่วมมือในการตอบคำถามเป็นอย่างดี“อะ เอ่อ ยังไม่มีค่ะ”นับดาวบอกกฤษฎิ์ที่คราวนี้เป็นฝ่ายขมวดคิ้วมุ่นบ้าง เพราะถ้านับดาวบอกว่าไม่มีแฟนแล้วอาการเบื้องต้นที่เขาวิเคราะห์เล่า เกิดอาการเงียบขึ้นมาระหว่างนายแพทย์ใหญ่กับเด็กสาวทันทีกฤษฎิ์เคาะปากกาลงบนชาร์ตคนไข้อย่างใช้ความคิด ก่อนที่เขาจะยิ้มออกมาเล็กน้อยสงสัยคงต้องรอผลตรวจเลือดเพื่อยืนยันความมั่นใจของเขาอีกครั้งหนึ่ง“เดี๋ยวหนูออกไปรอผลข้างนอกก่อนนะถ้าผลตรวจมาแล้วเดี๋ยวพยาบาลจ
“นะ นับ นับว่าอย่างไรนะลูก” ปรานีที่นั่งอยู่ตรงหน้าถามนับดาวที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ขุนพลเสียงสั่นนับดาวหลับตาลงปล่อยให้น้ำตารินไหลออกมาอาบแก้มด้วยความรู้สึกผิดที่ท่วมท้นอยู่ในใจก่อนที่ลืมตาขึ้นและบอกกับแม่ปราณีใหม่อีกครั้ง“นับท้องค่ะแม่ ท้องได้เดือนกว่า ๆ แล้วค่ะ”พยายามกลั้นเสียงสะอื้นบอกมารดาส่วนปรานีเมื่อได้ฟังชัด ๆ อีกครั้งน้ำตาก็ค่อย ๆ ไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ความรู้สึกผิดหวัง เสียใจ เศร้าใจและสุดท้ายความรู้สึกสงสารที่ถาโถมเข้ามาทำให้เธอพูดไม่ออกไปชั่วขณะ นับดาวรีบลงจากเก้าอี้ไปนั่งลงบนพื้นทันทีก่อนที่จะก้มลงกราบเท้ามารดาทั้งน้ำตา“ฮึก ฮือ แม่ขานับขอโทษ ฮือ นับไม่ได้ตั้งใจ แม่อย่าโกรธนับกับลูกเลยนะ ฮือ” นับดาวร่ำไห้ซบหน้าลงบนเท้าของปราณีด้วยความรู้สึกผิดขุนพลที่เห็นแบบนั้นเบือนหน้าหนีด้วยความสงสารและเวทนานับดาวจับใจ ไม่คิดเลยว่าโชคชะตาจะเล่นตลกและใจร้ายกับเด็กที่ใสซื่อบริสุทธิ์อย่างนับดาวได้ถึงเพียงนี้“นับลูกลุกขึ้นมา ลุกขึ้นมา ฮึก ไม่ร้องนะลูกนะไม่ร้องคนเก่งของแม่”ปราณีค่อย ๆ ดึงรั้งตัวลูกสาวของเธอให้ลุกขึ้นมานั่งบนเก้าอี้ก่อนที่จะมองใบหน้าที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตาด้วยความสงสาร มือที
เช้าวันต่อมานับดาวรีบมามหาวิทยาลัยตั้งแต่เช้าเพื่อยื่นเรื่องลาออกซึ่งมีในเรื่องของทุนที่เธอต้องชดใช้ให้คืนกับทางมหาวิทยาลัย ส่วนนี้พี่ขุนพลจะเป็นคนประสานงานให้กับเธอเอง เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้วเธอก็มานั่งรอเพื่อน ๆ ที่ศาลาริมน้ำหลังคณะ ปิ่นมุกที่มาถึงคนแรกเมื่อเห็นนับดาวก็รีบวิ่งเข้ามาหาทันทีด้วยความเป็นห่วงเมื่อวานเธอวิ่งตามหานับดาวจนทั่วคณะ เพราะนับดาวบอกว่าจะไปซื้อยา แต่กลับหายไปเป็นชั่วโมง จนกระทั่งพี่ขุนพลโทรมาถึงรู้ว่าเพื่อนรักเป็นลมและตอนนี้อยู่ที่โรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว“นับเป็นอย่างไรบ้างทำไมวันนี้ไม่ลา ไหวไหมเนี่ย” เมื่อนั่งลงเรียบร้อยแล้วปิ่นมุกก็เอามือทาบบนหน้าผากเพื่อนเพื่อวัดอุณหภูมิ เธอกลัวว่านับดาวจะป่วยไข้ไม่สบาย แต่ยังฝืนมาเรียนน่ะสิ เพื่อนเธอคนนี้เคยขาดเรียนเสียที่ไหนต่อให้จะเป็นหวัดอยู่ก็ตาม“นับสบายดีไม่เป็นอะไรแล้ว” นับดาวบอกเพื่อนยิ้ม ๆ ปิ่นมุกเมื่อได้ยินแบบนั้นก็ทำหน้าโล่งใจทันที เมื่อวานเธอเป็นห่วงแทบแย่จะลาเรียนตามไปที่โรงพยาบาลแต่เพื่อนสาวดันห้ามเอาไว้ เพราะไม่อยากให้เธอเสียการเรียน ในขณะที่แพทตี้ขานั้นพร้อมโดดเรียนทุกเมื่อ เพราะก็เป็นห่วงนับดาวมากไม่ได้ต่างก
วันเวลาที่ผ่านไปเร็วราวกับเข็มนาฬิกาที่ไม่เคยหยุดเดินทำให้ตอนนี้กองทัพกับพราวฟ้าใกล้จะจบปีการศึกษาแล้วซึ่งสำหรับกองทัพเมื่อจบชั้นประถมศึกษาปีที่หกเขาก็ต้องไปเรียนต่อในชั้นมัธยมต่อไปซึ่งยังไม่แน่ว่าจะได้เรียนที่ไหน ตอนนี้เก้าทัพกำลังนั่งอยู่ตรงหน้าบิดาในห้องทำงาน เขามาที่นี่เพื่อมาขอคำปรึกษาจากบิดาถึงเรื่องเรียนต่อของลูกชายตัวน้อยที่กำลังจะก้าวข้ามผ่านวัยเด็กไปสู่การเป็นวัยรุ่นอย่างเต็มตัว“ผมอยากให้ลูกไปเรียนต่อมัธยมที่เมืองนอกพ่อมีความคิดเห็นว่าอย่างไรบ้างครับ” เก้าทัพถามบิดาที่นั่งอยู่ตรงหน้าก่อนที่กฤษฎิ์จะมีสีหน้าที่เต็มไปด้วยความครุ่นคิด เพราะตัวเขาเองก็ส่งเก้าทัพไปเรียนต่อที่เมืองนอกเช่นกัน แต่เป็นการส่งไปเรียนหลังจากที่เก้าทัพเรียนจบปริญญาตรีที่เมืองไทยแล้ว แต่เก้าทัพกลับคิดต่างจากเขาคือให้ส่งเจ้ากองทัพไปตั้งแต่ยังเด็ก“ทนคิดถึงลูกไหวไหมล่ะ” คำถามของบิดาทำให้เก้าทัพถึงกับยิ้มออกมาน้อย ๆ เพราะคำถามแบบนี้นั่นก็หมายความว่าบิดาของเขาเห็นด้วยกับการที่เขาจะส่งกองทัพไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ“คิดถึงสิครับ คิดถึงมากด้วย แต่เก้าก็อยากให้พี่ทัพไปเรียนรู้การใช้ชีวิตของการเป็นเด็กวัยรุ่นไปจนถ
หลายปีต่อมาพราวฟ้าเติบโตขึ้นมาเป็นอย่างดีท่ามกลางความรักและความเอาใจใส่จากนับดาวและเก้าทัพที่ดูแลลูกสาวด้วยตัวเอง หลังจากพราวฟ้าอายุได้สองขวบ กองทัพก็ให้นับดาวกลับไปเรียนมหาวิทยาลัยต่อ ส่วนเขาก็รับหน้าที่เป็นพ่อบ้านเลี้ยงลูกสาวตัวน้อยที่กำลังซนและยิ้มเก่งอย่างมีความสุข โดยที่มีพี่แก้มใสรับอาสาช่วยเลี้ยงในบางวันที่เก้าทัพต้องไปตรวจดูงานที่กาสิโนที่เขาชอบเอาลูกสาวไปฝากพี่แก้มใสให้ช่วยเลี้ยงเป็นเพราะว่าเก้าทัพไม่อยากรบกวนบิดามารดากับคุณแม่ปรานีที่อายุมากแล้ว ถึงท่านทั้งสามคนจะบอกว่าไม่เป็นไรก็ตาม เพราะลูกสาวเขาซนมากถึงมากที่สุดสงสัยเขาคงปล่อยให้อยู่กับพี่แก้มใสมากเกินไปเลยค่อนข้างซนและดื้อมากทีเดียว“พี่ทัพอย่าลืมไปส่งน้องที่ห้องเรียนด้วยนะคะ” นับดาวกำชับกองทัพที่โตขึ้นเป็นหนุ่มหล่อวัยประถมหน้าตาดีจนเด็กสาวหลาย ๆ คนตกหลุมรักพากันซื้อขนมมาฝากแทบทุกวันที่กลับมาจากโรงเรียน กองทัพพยักหน้ารับคำสั่งของมารดาพร้อมกับจับมือเล็ก ๆ ของเด็กหญิงพราวฟ้ามากุมเอาไว้ ปีนี้พราวฟ้ากำลังจะขึ้นชั้นประถมศึกษาปีที่หนึ่ง ส่วนกองทัพก็กำลังจะขึ้นชั้นประถมศึกษาปีที่หกซึ่งเก้าทัพให้ลูกทั้งสองคนเรียนในรั้วโรงเรีย
เช้าวันหนึ่งนับดาวลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความเหนื่อยล้า เพราะเมื่อคืนกว่าที่น้องพราวจะยอมเข้านอนเธอกับพี่เก้าทัพก็แทบจะหลับก่อนลูกสาวตัวน้อยเสียอีก เมื่อวานพราวฟ้านอนกลางวันตื่นอีกทีเกือบเย็นเลยทำให้ลูกสาวของเธอไม่ยอมหลับเสียทีส่วนกองทัพที่ตอนแรกเล่นกับน้องสาวอยู่ดี ๆ ก็นอนหลับคากองของเล่นจนเก้าทัพต้องอุ้มลูกชายไปส่งที่ห้องนอน“แอ๊ แอ๊ เก้า เก้า หม่ำ ๆ ๆ”เด็กหญิงพราวฟ้าในวัยสิบเดือนคลานซุกซนบนเตียงนอนใหญ่ไปมาอย่างอารมณ์ดี นี่ขนาดนอนดึกแล้วนะ แต่ลูกสาวเธอกลับตื่นแต่เช้าในขณะที่เธอเพิ่งลืมตาตื่น นับดาวฝืนร่างกายที่เหนื่อยล้าลุกขึ้นมานั่งพิงหัวเตียงข้าง ๆ ลูกสาวของเธอโดยมีพี่เก้าทัพที่กำลังหยอกล้อเล่นกับลูกสาวตัวน้อยอย่างอารมณ์ดี“ตื่นแล้วเหรอคะคนสวยของพี่เก้า” เก้าทัพเงยหน้าขึ้นมาแซวนับดาวที่ส่งยิ้มน้อย ๆ มาให้สองพ่อลูกก่อนที่เด็กหญิงพราวฟ้าจะค่อย ๆ คลานไปหามารดาที่นั่งพิงหัวเตียงอยู่ นับดาวที่เห็นเช่นนั้นรีบอุ้มลูกสาวขึ้นมาในอ้อมอกทันทีพร้อมกับกดจมูกลงบนแก้มป่องหอม ๆ ของลูกสาวอย่างแสนรักลูกสาวของเธอจ้ำม่ำเหลือเกิน“นับไปอาบน้ำเถอะค่ะเดี๋ยวพี่จะพาน้องพราวลงไปเล่นข้างล่างกับกองทัพรอพี่ทำม
โรงพยาบาล N“น้องพราวค้าบ” กองทัพร้องเรียกเด็กหญิงตัวน้อยที่อยู่ในอ้อมแขนของมารดาพร้อมกับยื่นนิ้วไปจิ้มแก้มเนียนนั้นอย่างรักใคร่ น้องสาวของเขาน่ารักมากแก้มป่อง ๆ เหมือนเขาเลย เด็กน้อยคิดในใจอย่างมีความสุขก่อนที่จะยื่นหน้าไปหอมแก้มเนียนฟอดใหญ่“ดีใจไหมคะต่อไปพี่ทัพจะมีเพื่อนเล่นแล้วน้า” นับดาวถามลูกชายยิ้ม ๆ ในขณะที่กองทัพพยักหน้ารับคำมารดาด้วยความดีใจ เพราะต่อไปตนจะไม่ต้องเล่นของเล่นคนเดียวอีกแล้ว“พี่ทัพจะพาน้องพราวคนสวยไปเตะบอล ปั่นจักรยาน แล้วก็ขับรถแข่งด้วยกันนะค้าบ”กองทัพบอกเด็กหญิงตัวน้อยที่มองเขาด้วยดวงตากลมโตอย่างไม่เข้าใจในสิ่งที่พี่ชายบอกในขณะที่นับดาวกับเก้าทัพได้แต่ส่งยิ้มแหย ๆ ให้กันเมื่อลูกชายตัวน้อยบอกว่าจะพาน้องสาวคนสวยไปเตะบอลแข่งรถ ซึ่งล้วนแต่เป็นกิจกรรมของเด็กผู้ชายทั้งสิ้นโตขึ้นนี่โตไปลูกสาวของพวกเขาคงห้าวแบบแมน ๆ คุยกันน่าดูแกรก แอด“น้องพราวหลานป้า ป้าแก้มมาแล้วลูก” ประตูห้องถูกเปิดเข้ามาพร้อมกับน้ำเสียงสดใสของแก้มใสที่วิ่งดุกดิกเข้ามาหาหลานสาวตัวน้อยด้วยความดีใจ โดยที่มีรามสูรกับกอหญ้าลูกชายลูกสาวฝาแฝดที่เดินตามหลังเข้ามาพร้อมวายุผู้เป็นสามี“น่ารักน่าชังจังเ
เวลาผ่านมาเรื่อย ๆ จนตอนนี้อายุครรภ์ของนับดาวก็ใกล้จะถึงกำหนดคลอดแล้วทั้งเก้าทัพและเด็กชายกองทัพต่างนั่งนับวันและตั้งตารอคอยลูกสาวและน้องสาวตัวน้อยที่จะออกมาลืมตาดูโลกในไม่ช้า โดยที่เก้าทัพไม่ได้ให้นับดาวอัลตราซาวนด์ เพราะเก้าทัพอยากลุ้นว่าเพศของลูกที่เขามีความมั่นใจมากว่าต้องเป็นลูกสาวอย่างแน่นอนจะถูกเหมือนที่เขาคาดเดาไหม“พี่จะรีบไปรีบกลับนะคะ”เก้าทัพก้มลงจูบหน้าผากมนของนับดาวอย่างแสนรักก่อนที่จะก้มลงจูบแก้มลูกชายตัวน้อยที่พองลมแก้มป่องรอให้ผู้เป็นบิดาหอมฟอดใหญ่อย่างรู้งาน เพราะไม่ว่าเก้าทัพจะไปไหนเด็กน้อยมักจะให้บิดาหอมแก้มก่อนไปเสมอจนติดเป็นนิสัย หากวันไหนที่บิดาลืมเด็กน้อยก็จะคิดค่าปรับเป็นของเล่นราคาแพงอยู่บ่อยครั้ง“พี่ทัพครับดูแลแม่นับดี ๆ นะครับ ถ้าแม่นับปวดท้องจะคลอดน้องต้องรีบโทรรายงานพ่อเก้าทันทีเลยนะครับ” เก้าทัพไม่ลืมที่จะย้ำลูกชายตัวน้อยที่พยักหน้ารับอย่างเข้าใจในสิ่งที่บิดาบอกก่อนที่เก้าทัพจะเดินไปขึ้นรถที่มีฮารุสตาร์ตรออยู่แล้ว รถแล่นออกจากหน้าบ้านไปโดยที่มีรอยยิ้มหวานของนับดาวยิ้มส่งตามเก้าทัพไปอย่างมีความสุข“ไปกันครับพี่ทัพ วันนี้เรามาทำขนมบัวลอยไข่หวานรอพ่อเก้ากั
หลายวันต่อมา“เมียจ๋าวันนี้เราไปเดินเที่ยวเล่นที่สวนสนุกกันดีไหมคะ อยู่แต่ในบ้านไม่ได้ออกไปไหนเลย ช่วงนี้อากาศดี พี่อยากพานับออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์ข้างนอกบ้านบ้าง”หลังจากที่ทานมื้อเที่ยงเสร็จเรียบร้อยแล้วเก้าทัพก็เอ่ยปากชวนนับดาวไปเดินเที่ยวเล่นที่สวนสนุกตามแผนขอแต่งงานที่เขาได้วางเอาไว้ นับดาวเมื่อได้ยินแบบนั้นก็ทำสีหน้าครุ่นคิดเล็กน้อย เพราะเธอไม่ได้ออกจากบ้านนานมากแทบจะเรียกได้ว่าตั้งแต่รู้ตัวว่าท้องเธอก็มีแต่กินกับนอนอยู่ที่บ้านไม่ได้ออกไปไหนเลยจะมีก็แค่ออกไปเดินเล่นรับลมเย็น ๆ ที่สวนสาธารณะใกล้ ๆ บ้านในบางวันเท่านั้นไม่ก็เดินเล่นในสวนหย่อมหน้าบ้าน แต่วันนี้พี่เก้าทัพกลับชวนเธอไปเดินเที่ยวเล่นที่สวนสนุกมันเลยทำให้นับดาวเกิดอาการแปลกใจเล็กน้อย“นับอย่างไรก็ได้ค่ะ พี่เก้าอยากไปไหนนับก็พร้อมจะไปกับพี่เก้าเสมอ”นับดาวบอกเก้าทัพด้วยสายตาและรอยยิ้มที่อ่อนโยนก่อนที่เก้าทัพจะก้มหน้าลงมาจูบหน้าผากนับดาวเบา ๆ อย่างแสนรัก แต่คนที่นั่งข้าง ๆ กลับกอดอกมองพ่อกับแม่ที่กำลังแสดงความรักกันต่อหน้าต่อตาอย่างไม่เกรงใจตัวเองอย่างงอน ๆ“พ่อเก้าหอมพี่ทัพด้วยสิค้าบ หอมแม่นับคนเดียวได้ไงพี่ทัพก็อยากโดนห
CLUBหลังจากที่นับดาวท้องลูกคนที่สองเก้าทัพก็ไม่เคยออกมาสังสรรค์นั่งดื่มกับเพื่อน ๆ อีกเลย เพราะเขาคอยดูแลนับดาวเป็นอย่างดีโดยเฉพาะอาหารที่มีประโยชน์สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ เก้าทัพถึงกับลงทุนศึกษาหาความรู้และลงมือทำเมนูอาหารที่มีประโยชน์ให้นับดาวทานทุกวันรวมถึงอาหารของกองทัพเก้าทัพก็เป็นคนดูแล เรียกได้ว่าช่วงนี้เก้าทัพทำหน้าที่พ่อที่ดีและสามีที่ดีอย่างไม่ขาดตกบกพร่องจนเพื่อน ๆ ต่างพากันโทรมาโอดครวญ และวันนี้เก้าทัพจึงมาปรากฏตัวอยู่ในคลับประจำของพวกเขาอย่างเลี่ยงไม่ได้ เพราะเพื่อนทั้งสองคนงอแงใส่เขาเสียยกใหญ่ที่ไม่มีเวลามานั่งดื่มกับพวกตนเลย“ไม่ค่อยว่างเลยนะมึง ถ้าพวกกูไม่งอแงก็คงไม่ออกมา”พอร์ชแซวเก้าทัพยิ้ม ๆ ก่อนที่จะส่งแก้วเหล้าให้เก้าทัพที่รับไปดื่มซึ่งปรากฏว่าเขาดื่มได้และไม่มีอาการคลื่นไส้อยากจะอาเจียนแต่อย่างใด ผิดกับอาหารบางอย่างที่แค่ได้กลิ่นเขาก็วิ่งไปอาเจียนแทบไม่ทัน“ทำไงได้เมียท้องทั้งทีกูก็อยากดูแลตลอดเวลาไหมวะ ลองพวกมึงสองคนมีเมียบ้างสิให้กูทายคงไม่มีเวลามาแดกเหล้ากับเพื่อนแน่นอน”เก้าทัพตอบกลับพอร์ชก่อนที่จะควงแก้วเหล้าเล่นไปมา สายตาคู่คมก็มองไปรอบ ๆ ร้านที่แบ่งแยกเป็น
“ลูกไม่อยู่เป็น ก ข ค ง แล้วก็ได้เวลาที่เมียจ๋าต้องกล่อมพี่เก้าเข้านอนแล้วนะคะ”มือใหญ่ยกขึ้นมาเชยคางมนของนับดาวขึ้นเล็กน้อยก่อนที่นับดาวจะยิ้มออกมาด้วยความเขินอาย แต่ร่างกายกลับขยับเล็กน้อยเพื่อให้กุหลาบช่อใหญ่ได้สัมผัสกับความแข็งแกร่งที่กำลังดุนดันเนื้อผ้าออกมาทักทายเธออยู่ การกระทำนั้นของนับดาวทำเอาเก้าทัพถึงกับเผลอซี้ดปากออกมาด้วยความเสียวซ่านและกระสันในอารมณ์ใคร่ที่กำลังก่อตัวขึ้นจนยากเกินจะต้านทาน“แล้วพี่เก้าอยากได้ให้นับกล่อมแบบไหนล่ะคะ”น้ำเสียงหวานถามเก้าทัพอย่างยั่วยวนโดยไม่รู้ตัวอยู่ ๆ อารมณ์สงบก่อนหน้านี้ก็เกิดรู้สึกพลุ่งพล่านขึ้นมาเสียดื้อ ๆ ก่อนที่นับดาวจะเผลอกัดริมฝีปากเบา ๆ อย่างพยายามระงับความพลุ่นพล่านที่ทำให้เธอเองแทบจะทนไม่ไหวโดยหารู้ไม่ว่าการกระทำนั้นยิ่งเป็นการปลุกอารมณ์ของเก้าทัพให้ร้อนแรงมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม“พี่ว่าวันนี้เปลี่ยนเป็นให้พี่กล่อมนับกับลูกนอนแทนดีกว่าไหมคะ ลูกสาวของเราจะได้นอนหลับฝันดีถึงพ่อกับแม่ทั้งคืนเลย”เก้าทัพดึงนับดาวให้เข้ามาแนบชิดก่อนที่จะกระซิบข้างใบหูหอมกรุ่นด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่าพร้อมกับเลียใบหูเล็กเบา ๆ จนนับดาวถึงกับขนลุกด้วยความเสียว
หลังจากนอนพักที่โรงพยาบาลอีกหนึ่งวันเพื่อปรับสภาพร่างกายที่กำลังแพ้ท้องแทนนับดาวกฤษฎิ์ก็อนุญาตให้เก้าทัพกลับมาพักผ่อนที่บ้านได้ แต่เก้าทัพก็ยังคงมีอาการแพ้ท้องแทนนับดาวเหมือนเดิม ส่วนนับดาวกลับทานอาหารได้ทุกอย่างไม่มีอาการแพ้เลยแม้แต่น้อยทำให้เธอรู้สึกสงสารเก้าทัพมากที่แพ้หนักถึงขั้นทานของโปรดไม่ได้เลย“ดีขึ้นไหมคะ”นับดาวถามเก้าทัพที่นอนหลับตาหนุนอยู่บนตักเธอหลังที่จากที่วิ่งไปอาเจียนมื้อเย็นออกจนหมดมือบางลูบผมนุ่มของเก้าทัพด้วยความสงสารและเห็นใจ ก่อนที่เก้าทัพจะเอาใบหน้าซุกที่หน้าท้องของนับดาวที่กำลังมีลูกสาวเขานอนรอวันออกมาลืมตาดูโลกอยู่ข้างใน เขามั่นใจว่าลูกคนนี้ต้องเป็นลูกสาวอย่างแน่นอนเขาทำเองกับมือจะไม่รู้ได้อย่างไรคิดในใจก่อนที่จะยิ้มออกมาอย่างมีความสุขที่ลูกสาวคนนี้เขาได้คอยดูแลประคบประหงมอย่างดีถึงแม้เขาจะไม่มีโอกาสได้ดูแลกองทัพตั้งแต่เกิดเป็นเพราะความผิดพลาดในอดีต แต่เขาสัญญากับตัวเองแล้วว่าจะดูแลและให้ความรักความอบอุ่นกับลูก ๆ ทั้งสองคนอย่างดีที่สุด“จะดีกว่านี้ถ้าคืนนี้เมียจ๋าโอ๋พี่เก้าก่อนนอนครับ” เก้าทัพทำเสียงเล็กเสียงน้อยอ้อนนับดาวอย่างน่ารักใบหน้าหล่อเหลาที่ซบหน้าท้