หลังจากวันนั้นเก้าทัพก็สั่งให้คนของเขาออกตามหานับดาวเรื่อยมา แต่ตามหาเท่าไรก็หาไม่เจอ การจากไปของนับดาวในครั้งนี้คือการหายไปอย่างไร้ร่องรอยซึ่งแม้กระทั่งปิ่นมุกกับแพทตี้เพื่อนสนิททั้งสองคนของนับดาวก็ไม่รู้เช่นกันว่านับดาวหายไปอยู่ที่ไหนซึ่งเขาพยายามจับผิดทั้งคู่โดยให้คนเฝ้าตามจับตาดู แต่ก็ไม่พบพิรุธใด ๆ ทั้งสิ้น จากวันเป็นอาทิตย์จากอาทิตย์เข้าสู่เดือนและจากหนึ่งเดือนเป็นห้าเดือนล่วงเลยมาจนเข้าเดือนที่เจ็ดที่นับดาวหายไปราวกับสายน้ำที่ไม่มีวันหวนคืนมา“ไม่เจอเลยครับนาย”จินกับฮารุลูกน้องที่กฤษฎิ์คอยให้ดูแลเก้าทัพเข้ามารายงานผู้เป็นนายที่กำลังนั่งมองวิวยามค่ำคืนที่สวยงามของใจกลางเมืองกรุงเทพผ่านกระจกบางใส แต่หัวใจเขากลับรู้สึกเจ็บปวดเมื่อได้ยินประโยคที่เขาฟังซ้ำไปซ้ำมานานถึงเจ็ดเดือน แก้วไวน์ในมือถูกเขย่าเบา ๆ ก่อนที่จะยกขึ้นกระดกทีเดียวจนหมดแก้วแล้วเขวี้ยงลงพื้นด้วยความโมโหเพล้ง!!แก้วที่ตกกระทบพื้นแตกกระจายจนเศษแก้วกระเด็นมาบาดแก้มเนียนใสของเก้าทัพเป็นทางยาวก่อนที่เลือดจะค่อย ๆ ไหลหยดลงบนเสื้อ แต่เขากลับไม่สนใจ ความรู้สึกสิ้นหวังกลับมาอีกครั้งทำไมรักครั้งแรกมันถึงฝังใจและยากที่จะลืม
“งื้อ หลานป้าทำไมน่ารักแบบนี้” แพทตี้ยื่นมือมาเขี่ยแก้มนุ่ม ๆ ด้วยความรู้สึกเอ็นดู นี่ขนาดเพิ่งลืมตามาดูโลกได้ไม่กี่ชั่วโมง แต่เค้าความหล่อนี่มาเต็ม ยิ่งมองก็ยิ่งเห็นภาพซ้อนทับของใครบางคนอยู่บนใบหน้าจิ้มลิ้มของเด็กน้อยอย่างชัดเจน“ลูกพ่อนะเรา หล่อเหมือนพ่อเลย” ขุนพลแซวเด็กน้อยที่ดีดแขนไปมาด้วยรอยยิ้ม หลานชายของเขาน่าชังมากเห็นครั้งแรกก็ถึงกับหลงรักไม่ไหว ผิวขาวเนียนละเอียดกับโครงหน้าที่ถอดแบบบิดามาอย่างชัดเจนมันทำให้เขาอดคิดถึงเก้าทัพไม่ได้ นี่ถ้ารู้ว่าได้เป็นพ่อคนเจ้าเก้าจะรู้สึกยินดีไหมนะ“ต้องลูกพ่อสิคะ เพราะนับดาวรักพ่อของลูกมาก”เสียงหวานที่ตอบขุนพลกลับมาทำเอาแพทตี้กับขุนพลถึงกับลอบสบตากันด้วยความสงสารนับดาว หลายครั้งที่แพทตี้อยากจะเดินเข้าไปบอกเก้าทัพว่านับดาวกำลังตั้งท้องลูกของเก้าทัพอยู่ แต่พอคิดถึงสีหน้าขอร้องอ้อนวอนในครั้งแรกที่เธอรู้ว่านับดาวท้อง มันก็ทำให้เธอตัดใจที่จะไม่บอกความจริงกับเก้าทัพแพทตี้เข้าใจเหตุผลของเพื่อนดี เพราะนับดาวคิดอยู่เสมอว่าตัวเองนั้นต่ำต้อยเป็นแค่เด็กกำพร้าฐานะไม่ได้ร่ำรวยไม่มีอะไรเหมาะสมหรือคู่ควรกับเก้าทัพเลยสักนิด อีกทั้งเด็กที่เกิดมานับดาวก็มองว
การเป็นแม่คนตั้งแต่อายุยังน้อยไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับเด็กอายุแค่เพียงสิบแปดปีอย่างนับดาว บางวันเธอต้องลืมตาตื่นขึ้นมากลางดึกเพื่อให้นมเจ้าก้อนที่ขยันร้องงอแงกลางดึกเสียเหลือเกินทำเอาเธอแทบจะไม่ได้พักผ่อน แต่ถึงอย่างนั้นเจ้าก้อนของเธอก็ไม่ได้งอแงโยเยกวนใจเธอทุกวันเป็นเพียงแค่บางวันเท่านั้นมันเลยทำให้นับดาวได้มีเวลานอนหลับพักผ่อนอย่างเต็มอิ่มบ้าง#กองทัพในวัยสามเดือน#“กินนมเก่งเชียวเจ้าก้อนของแม่”นับดาวที่ตื่นขึ้นมากลางดึกเพื่อให้นมกองทัพที่กำลังดูดนมจากเต้าเธอด้วยความหิว ดวงตาเล็ก ๆ หลับสนิท แต่ปากยังไม่ยอมหยุดขยับหรือผละออกจากเต้าอวบอิ่มของผู้เป็นมารดาเลยสักนิด ผ่านไปสักพักเด็กน้อยก็หลับสนิทในที่สุดโดยที่ในมือมีรูปของเก้าทัพที่นับดาวมักจะชอบเอามาวางไว้ข้าง ๆ กองทัพเวลาที่เด็กน้อยนอนหลับเสมอ“แม่รักหนูมาก ๆ เลยนะคะกองทัพน้อยของแม่”นับดาวก้มลงจูบหน้าผากเล็กอย่างแสนรัก น้ำตามิวายไหลหยดลงบนหน้าผากของลูกน้อยด้วยความคิดถึงเก้าทัพ ถึงเธอจะเดินออกมาจากชีวิตเขาได้ปีกว่าแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีวันไหนเลยที่นับดาวไม่เคยคิดถึงพ่อของลูกเธอยังคงคิดถึงเขาเสมอทุกลมหายใจนับดาวค่อย ๆ หลับตาลงท
สนามบิน“เดินทางปลอดภัยนะแพทไปอยู่ที่นู่นก็ดูแลตัวเองให้ดีแล้วรีบ ๆ กลับมานะ”ปิ่นมุกบอกเพื่อนรักที่กำลังจะเดินทางไปเรียนต่อที่เมืองนอกด้วยความอาลัยอาวรณ์ หลังจากที่เรียนจบแพทตี้ก็วางแผนที่จะไปเรียนต่อที่เมืองนอกทันที เพราะเธออยากออกไปหาประสบการณ์ชีวิตก่อนที่จะกลับมารับช่วงต่อธุรกิจของที่บ้าน“แค่สองปีแป๊บเดียวไม่นานหรอก ถึงตอนนั้นกองทัพก็ห้าขวบรอป้าแพทกลับมาแล้ว”นับดาวบอกเพื่อนก่อนที่จะหันมามองเด็กชายกองทัพที่อยู่ในอ้อมแขนของเธอ เด็กน้อยได้แต่ส่งยิ้มให้ทุกคนด้วยความซุกซนในมือมีขนมถุงใหญ่ที่กำลังหยิบกินอย่างเอร็ดอร่อย ทำเอาป้า ๆ ถึงกับพากันยิ้มด้วยความเอ็นดูกับความกินเก่งของเด็กชายกองทัพที่กินเก่งจนแก้มป่องน่าบีบด้วยความมันเขี้ยว“กองทัพครับสัญญากับป้าแพทนะครับว่าจะไม่ดื้อกับแม่นับ”แพทตี้ขยับเข้ามาใกล้ ๆ หลานชายก่อนที่จะหยิบทิชชูมาเช็ดปากเช็ดมือให้หลานด้วยความเอ็นดู เด็กชายเงยหน้ามองผู้เป็นป้าก่อนที่จะพยักหน้ารับตามประสาเด็กที่เริ่มจะเข้าใจในประโยคคำถามของผู้ใหญ่“ไม่ดื้อค้าบ ทัพไม่ดื้อ” เสียงเล็กที่ตอบกลับมาทำเอานับดาวถึงกับยิ้มออกมาก่อนที่จะส่ายหัวไปมาเล็กน้อย ไม่ดื้อของกองทัพไม่ม
ใบหน้าสวยหวานที่เงยหน้าขึ้นมาสบตากับเขาทำเอาเก้าทัพชะงักไปเช่นกันด้วยคาดไม่ถึงว่าคนที่เขาเกือบจะลืมและลบออกไปจากใจรวมถึงเฝ้าตามหามาตลอดสามปีก่อนที่เขาจะไปเรียนต่อที่เมืองนอก อยู่ ๆ ก็มาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าด้วยความบังเอิญ เมื่อเขาเห็นผู้หญิงที่กำลังวิ่งข้ามถนนท่ามกลางสายฝนที่เทกระหน่ำลงมาหกล้มโดยที่มีเด็กชายตัวน้อยหกล้มตามแรงจูงไปด้วยถึงแม้เขาจะไม่ใช่คนที่ดีมาก แต่เขาก็ไม่เคยละเลยที่จะช่วยเด็กเล็กและสตรีเขาจึงเปิดประตูรถและหยิบร่มลงมาเพื่อกันฝนให้ทั้งสองคนใครเลยจะคาดคิดว่าผู้หญิงที่หกล้มอยู่กลางถนนคือนับดาวแถมเด็กชายที่นั่งอยู่ข้าง ๆ กันก็คือเด็กผู้ชายที่แอบแลบลิ้นใส่เขาก่อนที่เขาจะบินไปเรียนต่อที่อิตาลีเมื่อสองปีที่แล้วถ้าอย่างนั้นผู้หญิงที่เขาวิ่งตามเมื่อสองปีก่อนก็คือนับดาวอย่างแน่นอนเขาไม่ได้จำคนผิดอยู่ ๆ มือเล็กของเด็กชายที่นั่งอยู่ข้าง ๆ นับดาวก็วางลงบนมือของเก้าทัพแทนมารดาพร้อมกับยักคิ้วให้อย่างกวน ๆ ทำเอาเก้าทัพรู้สึกหมั่นไส้เล็กน้อย ก่อนที่จะฉุดรั้งเด็กชายตัวน้อยให้ลุกขึ้นยืนในขณะที่นับดาวรีบลุกขึ้นยืนด้วยตัวของเธอเองก่อนที่จะรีบจูงมือลูกชายเข้าไปหลบฝนที่ศาลาใกล้ ๆ โดยที่มีเ
“เอาไปตรวจให้ทีขอผลด่วนที่สุด”กฤษฎิ์ยื่นขวดเล็ก ๆ ที่บรรจุหลักฐานที่ใช้ตรวจหาความสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับลูกให้เรียวที่รับไปและรีบออกจากห้องทำงานของผู้เป็นนายเพื่อนำของสิ่งนี้ไปให้แผนกที่รับผิดชอบทันที กฤษฎิ์เอนตัวพิงพนักโซฟาก่อนที่จะจมอยู่กับความคิดที่ทำอย่างไรก็ไม่สามารถสลัดออกไปจากหัวได้เลย เดิมทีเขาก็ไม่ได้อยากจะแอบทำอะไรที่ดูเหมือนจะเป็นการละเมิดสิทธิ์ของนับดาวแบบนี้หรอกแต่ใบหน้าของกองทัพช่างละม้ายคล้ายกับเก้าทัพตอนเด็ก ๆ ไม่ผิดเพี้ยนเหมือนกันเสียจนเขาไม่สามารถที่จะปล่อยผ่านไปได้ อีกอย่างข้อพิรุธหลายอย่างที่นับดาวหลุดออกมาก็ทำให้เขาคิดเป็นอื่นไปไม่ได้นอกเสียจากว่าเก้าทัพลูกชายของเขาคือพ่อของเด็กชายกองทัพ ครั้งแรกที่นับดาวรู้ตัวว่าท้องเด็กสาวร้องไห้ออกมาอย่างหนักราวกับถูกทอดทิ้งจากผู้ชายสารเลวที่ไร้ความรับผิดชอบแต่ในความเป็นจริงแล้วคนที่ทอดทิ้งพ่อของลูกไปอาจจะเป็นนับดาวเองก็เป็นได้ นี่เป็นแค่การคาดเดาของเขาเพียงเท่านั้น เพราะสายตายามที่ลูกชายของเขาจับจ้องแม่หนูคนนั้นเต็มไปด้วยความรักและโหยหาอย่างชัดเจน ลูกชายของเขา ๆ เลี้ยงมาตั้งแต่แบเบาะทำไมเขาจะไม่รู้ว่าเก้าทัพรู้สึกอย่างไรกับนั
“อะไรของมึงวะไอ้เหี้ยพอร์ชกูเพิ่งกลับเมืองไทยได้แค่วันเดียวมึงก็เรียกกูมาใช้งานเลยนะ”เก้าทัพเดินเข้ามาในสตูดิโอแห่งหนึ่งอย่างหัวเสีย เพราะเขาตั้งใจว่าเย็นนี้จะไปรับกองทัพที่โรงเรียนและแวะไปรับนับดาวที่มหาวิทยาลัย เพราะตารางเรียนของเธออยู่ในมือเขาหมดแล้ว แต่อยู่ดี ๆ เพื่อนรักก็ดันโทรหาเขาให้มาที่นี่ เพราะมีเรื่องอยากจะขอความช่วยเหลือด่วนแต่พอเดินเข้ามาที่นี่กลับเต็มไปด้วยคนมากมายที่เขาไม่รู้จักหน้าค่าตาส่วนเพื่อนตัวดีนั่งหน้าซีดอยู่บนเก้าอี้ผ้าใบทำให้เก้าทัพต้องรีบเดินเข้าไปหาทันทีพร้อมกับร้องด่าเพื่อนไปด้วยอย่างหงุดหงิดใจเล็กน้อยเขาจะไปจีบสาวทำไมเพื่อนไม่เข้าใจเขาเลยนะ“โทษทีว่ะเพื่อน สงสัยกูจะท้องเสีย เพราะไปแดกเหล้าต้อนรับมึงเมื่อวาน ฉะนั้นวันนี้มึงก็ช่วยรับผิดชอบกูด้วยการมาทำงานแทนกูหน่อยนะเพื่อนนะ”พอร์ชบอกเก้าทัพด้วยใบหน้าที่ซีดเผือดซึ่งมันซีดมากเสียจนเขาอดที่จะเป็นห่วงเพื่อนไม่ได้ เมื่อวานพวกเขาไปดื่มกันที่ผับของเฮียกายลูกพี่ลูกน้องของเขาแต่ไอ้พอร์ชจอมตะกละกลับดื่มไปด้วยกินไปด้วยผลมันเลยออกมาอย่างที่เห็น“มึงจะให้กูช่วยอะไรรีบพูดมา กูมีเวลาไม่เยอะอย่าลีลา”เก้าทัพนั่งลงข้าง ๆ
ผัวะ ผัวะขุนพลถึงกับหน้าหันด้วยความเจ็บปวดเมื่ออยู่ ๆ เก้าทัพที่เดินเข้ามาในร้านก็ตรงเข้ามาปล่อยหมัดใส่เขาโดยที่เขาไม่ทันตั้งตัวทำเอาเขาถึงกับปากแตกเลือดกลบปากกันทีเดียว“มึงเป็นเหี้ยไรวะไอ้เก้า” ขุนพลตะโกนถามเก้าทัพด้วยความตกใจปนโมโห เขารู้ว่าเก้าทัพกลับมาจากเรียนต่อที่อิตาลีแล้ว เพราะนับดาวโทรมาหาเขาด้วยความกระวนกระวายใจว่าเจอเก้าทัพโดยบังเอิญ แถมเก้าทัพยังรู้แล้วว่าเธอมีลูกเหลือแค่พ่อของลูกที่เก้าทัพคงยังไม่รู้ตัวว่าตัวเองคือพ่อของกองทัพ“แล้วมึงปิดบังอะไรกูไว้ล่ะไอ้เหี้ยเฮีย”เก้าทัพกระชากคอเสื้อของขุนพลขึ้นมาก่อนจะตะคอกถามขุนพลด้วยน้ำเสียงดุดันทำเอาขุนพลที่กำลังตกใจอยู่ถึงกับชะงักไปก่อนที่จะถอนหายใจออกมาเมื่อในที่สุดความจริงนานนับหกปีที่เขาช่วยนับดาวปิดบังมาตลอดก็จบสิ้นลงเสียที ก่อนที่ขุนพลจะมองหน้าเก้าทัพด้วยสายตาที่เต็มไปความรู้สึกผิด เขารู้ว่าเก้าทัพเองก็เจ็บปวดไม่น้อยกับการที่นับดาวหายไป แต่จะให้เขาทำอย่างไรในเมื่อนับดาวขอร้องเขาทั้งน้ำตา“ก็ไม่ได้อยากจะปิดบัง แต่มึงจะให้กูทำอย่างไรในเมื่อน้องมันร้องไห้ขอร้องกูให้ช่วยพาหนีไปไกล ๆ จากชีวิตมึงอะ เป็นมึง ๆ จะทำอย่างไรกูถามหน่อย
วันเวลาที่ผ่านไปเร็วราวกับเข็มนาฬิกาที่ไม่เคยหยุดเดินทำให้ตอนนี้กองทัพกับพราวฟ้าใกล้จะจบปีการศึกษาแล้วซึ่งสำหรับกองทัพเมื่อจบชั้นประถมศึกษาปีที่หกเขาก็ต้องไปเรียนต่อในชั้นมัธยมต่อไปซึ่งยังไม่แน่ว่าจะได้เรียนที่ไหน ตอนนี้เก้าทัพกำลังนั่งอยู่ตรงหน้าบิดาในห้องทำงาน เขามาที่นี่เพื่อมาขอคำปรึกษาจากบิดาถึงเรื่องเรียนต่อของลูกชายตัวน้อยที่กำลังจะก้าวข้ามผ่านวัยเด็กไปสู่การเป็นวัยรุ่นอย่างเต็มตัว“ผมอยากให้ลูกไปเรียนต่อมัธยมที่เมืองนอกพ่อมีความคิดเห็นว่าอย่างไรบ้างครับ” เก้าทัพถามบิดาที่นั่งอยู่ตรงหน้าก่อนที่กฤษฎิ์จะมีสีหน้าที่เต็มไปด้วยความครุ่นคิด เพราะตัวเขาเองก็ส่งเก้าทัพไปเรียนต่อที่เมืองนอกเช่นกัน แต่เป็นการส่งไปเรียนหลังจากที่เก้าทัพเรียนจบปริญญาตรีที่เมืองไทยแล้ว แต่เก้าทัพกลับคิดต่างจากเขาคือให้ส่งเจ้ากองทัพไปตั้งแต่ยังเด็ก“ทนคิดถึงลูกไหวไหมล่ะ” คำถามของบิดาทำให้เก้าทัพถึงกับยิ้มออกมาน้อย ๆ เพราะคำถามแบบนี้นั่นก็หมายความว่าบิดาของเขาเห็นด้วยกับการที่เขาจะส่งกองทัพไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ“คิดถึงสิครับ คิดถึงมากด้วย แต่เก้าก็อยากให้พี่ทัพไปเรียนรู้การใช้ชีวิตของการเป็นเด็กวัยรุ่นไปจนถ
หลายปีต่อมาพราวฟ้าเติบโตขึ้นมาเป็นอย่างดีท่ามกลางความรักและความเอาใจใส่จากนับดาวและเก้าทัพที่ดูแลลูกสาวด้วยตัวเอง หลังจากพราวฟ้าอายุได้สองขวบ กองทัพก็ให้นับดาวกลับไปเรียนมหาวิทยาลัยต่อ ส่วนเขาก็รับหน้าที่เป็นพ่อบ้านเลี้ยงลูกสาวตัวน้อยที่กำลังซนและยิ้มเก่งอย่างมีความสุข โดยที่มีพี่แก้มใสรับอาสาช่วยเลี้ยงในบางวันที่เก้าทัพต้องไปตรวจดูงานที่กาสิโนที่เขาชอบเอาลูกสาวไปฝากพี่แก้มใสให้ช่วยเลี้ยงเป็นเพราะว่าเก้าทัพไม่อยากรบกวนบิดามารดากับคุณแม่ปรานีที่อายุมากแล้ว ถึงท่านทั้งสามคนจะบอกว่าไม่เป็นไรก็ตาม เพราะลูกสาวเขาซนมากถึงมากที่สุดสงสัยเขาคงปล่อยให้อยู่กับพี่แก้มใสมากเกินไปเลยค่อนข้างซนและดื้อมากทีเดียว“พี่ทัพอย่าลืมไปส่งน้องที่ห้องเรียนด้วยนะคะ” นับดาวกำชับกองทัพที่โตขึ้นเป็นหนุ่มหล่อวัยประถมหน้าตาดีจนเด็กสาวหลาย ๆ คนตกหลุมรักพากันซื้อขนมมาฝากแทบทุกวันที่กลับมาจากโรงเรียน กองทัพพยักหน้ารับคำสั่งของมารดาพร้อมกับจับมือเล็ก ๆ ของเด็กหญิงพราวฟ้ามากุมเอาไว้ ปีนี้พราวฟ้ากำลังจะขึ้นชั้นประถมศึกษาปีที่หนึ่ง ส่วนกองทัพก็กำลังจะขึ้นชั้นประถมศึกษาปีที่หกซึ่งเก้าทัพให้ลูกทั้งสองคนเรียนในรั้วโรงเรีย
เช้าวันหนึ่งนับดาวลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความเหนื่อยล้า เพราะเมื่อคืนกว่าที่น้องพราวจะยอมเข้านอนเธอกับพี่เก้าทัพก็แทบจะหลับก่อนลูกสาวตัวน้อยเสียอีก เมื่อวานพราวฟ้านอนกลางวันตื่นอีกทีเกือบเย็นเลยทำให้ลูกสาวของเธอไม่ยอมหลับเสียทีส่วนกองทัพที่ตอนแรกเล่นกับน้องสาวอยู่ดี ๆ ก็นอนหลับคากองของเล่นจนเก้าทัพต้องอุ้มลูกชายไปส่งที่ห้องนอน“แอ๊ แอ๊ เก้า เก้า หม่ำ ๆ ๆ”เด็กหญิงพราวฟ้าในวัยสิบเดือนคลานซุกซนบนเตียงนอนใหญ่ไปมาอย่างอารมณ์ดี นี่ขนาดนอนดึกแล้วนะ แต่ลูกสาวเธอกลับตื่นแต่เช้าในขณะที่เธอเพิ่งลืมตาตื่น นับดาวฝืนร่างกายที่เหนื่อยล้าลุกขึ้นมานั่งพิงหัวเตียงข้าง ๆ ลูกสาวของเธอโดยมีพี่เก้าทัพที่กำลังหยอกล้อเล่นกับลูกสาวตัวน้อยอย่างอารมณ์ดี“ตื่นแล้วเหรอคะคนสวยของพี่เก้า” เก้าทัพเงยหน้าขึ้นมาแซวนับดาวที่ส่งยิ้มน้อย ๆ มาให้สองพ่อลูกก่อนที่เด็กหญิงพราวฟ้าจะค่อย ๆ คลานไปหามารดาที่นั่งพิงหัวเตียงอยู่ นับดาวที่เห็นเช่นนั้นรีบอุ้มลูกสาวขึ้นมาในอ้อมอกทันทีพร้อมกับกดจมูกลงบนแก้มป่องหอม ๆ ของลูกสาวอย่างแสนรักลูกสาวของเธอจ้ำม่ำเหลือเกิน“นับไปอาบน้ำเถอะค่ะเดี๋ยวพี่จะพาน้องพราวลงไปเล่นข้างล่างกับกองทัพรอพี่ทำม
โรงพยาบาล N“น้องพราวค้าบ” กองทัพร้องเรียกเด็กหญิงตัวน้อยที่อยู่ในอ้อมแขนของมารดาพร้อมกับยื่นนิ้วไปจิ้มแก้มเนียนนั้นอย่างรักใคร่ น้องสาวของเขาน่ารักมากแก้มป่อง ๆ เหมือนเขาเลย เด็กน้อยคิดในใจอย่างมีความสุขก่อนที่จะยื่นหน้าไปหอมแก้มเนียนฟอดใหญ่“ดีใจไหมคะต่อไปพี่ทัพจะมีเพื่อนเล่นแล้วน้า” นับดาวถามลูกชายยิ้ม ๆ ในขณะที่กองทัพพยักหน้ารับคำมารดาด้วยความดีใจ เพราะต่อไปตนจะไม่ต้องเล่นของเล่นคนเดียวอีกแล้ว“พี่ทัพจะพาน้องพราวคนสวยไปเตะบอล ปั่นจักรยาน แล้วก็ขับรถแข่งด้วยกันนะค้าบ”กองทัพบอกเด็กหญิงตัวน้อยที่มองเขาด้วยดวงตากลมโตอย่างไม่เข้าใจในสิ่งที่พี่ชายบอกในขณะที่นับดาวกับเก้าทัพได้แต่ส่งยิ้มแหย ๆ ให้กันเมื่อลูกชายตัวน้อยบอกว่าจะพาน้องสาวคนสวยไปเตะบอลแข่งรถ ซึ่งล้วนแต่เป็นกิจกรรมของเด็กผู้ชายทั้งสิ้นโตขึ้นนี่โตไปลูกสาวของพวกเขาคงห้าวแบบแมน ๆ คุยกันน่าดูแกรก แอด“น้องพราวหลานป้า ป้าแก้มมาแล้วลูก” ประตูห้องถูกเปิดเข้ามาพร้อมกับน้ำเสียงสดใสของแก้มใสที่วิ่งดุกดิกเข้ามาหาหลานสาวตัวน้อยด้วยความดีใจ โดยที่มีรามสูรกับกอหญ้าลูกชายลูกสาวฝาแฝดที่เดินตามหลังเข้ามาพร้อมวายุผู้เป็นสามี“น่ารักน่าชังจังเ
เวลาผ่านมาเรื่อย ๆ จนตอนนี้อายุครรภ์ของนับดาวก็ใกล้จะถึงกำหนดคลอดแล้วทั้งเก้าทัพและเด็กชายกองทัพต่างนั่งนับวันและตั้งตารอคอยลูกสาวและน้องสาวตัวน้อยที่จะออกมาลืมตาดูโลกในไม่ช้า โดยที่เก้าทัพไม่ได้ให้นับดาวอัลตราซาวนด์ เพราะเก้าทัพอยากลุ้นว่าเพศของลูกที่เขามีความมั่นใจมากว่าต้องเป็นลูกสาวอย่างแน่นอนจะถูกเหมือนที่เขาคาดเดาไหม“พี่จะรีบไปรีบกลับนะคะ”เก้าทัพก้มลงจูบหน้าผากมนของนับดาวอย่างแสนรักก่อนที่จะก้มลงจูบแก้มลูกชายตัวน้อยที่พองลมแก้มป่องรอให้ผู้เป็นบิดาหอมฟอดใหญ่อย่างรู้งาน เพราะไม่ว่าเก้าทัพจะไปไหนเด็กน้อยมักจะให้บิดาหอมแก้มก่อนไปเสมอจนติดเป็นนิสัย หากวันไหนที่บิดาลืมเด็กน้อยก็จะคิดค่าปรับเป็นของเล่นราคาแพงอยู่บ่อยครั้ง“พี่ทัพครับดูแลแม่นับดี ๆ นะครับ ถ้าแม่นับปวดท้องจะคลอดน้องต้องรีบโทรรายงานพ่อเก้าทันทีเลยนะครับ” เก้าทัพไม่ลืมที่จะย้ำลูกชายตัวน้อยที่พยักหน้ารับอย่างเข้าใจในสิ่งที่บิดาบอกก่อนที่เก้าทัพจะเดินไปขึ้นรถที่มีฮารุสตาร์ตรออยู่แล้ว รถแล่นออกจากหน้าบ้านไปโดยที่มีรอยยิ้มหวานของนับดาวยิ้มส่งตามเก้าทัพไปอย่างมีความสุข“ไปกันครับพี่ทัพ วันนี้เรามาทำขนมบัวลอยไข่หวานรอพ่อเก้ากั
หลายวันต่อมา“เมียจ๋าวันนี้เราไปเดินเที่ยวเล่นที่สวนสนุกกันดีไหมคะ อยู่แต่ในบ้านไม่ได้ออกไปไหนเลย ช่วงนี้อากาศดี พี่อยากพานับออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์ข้างนอกบ้านบ้าง”หลังจากที่ทานมื้อเที่ยงเสร็จเรียบร้อยแล้วเก้าทัพก็เอ่ยปากชวนนับดาวไปเดินเที่ยวเล่นที่สวนสนุกตามแผนขอแต่งงานที่เขาได้วางเอาไว้ นับดาวเมื่อได้ยินแบบนั้นก็ทำสีหน้าครุ่นคิดเล็กน้อย เพราะเธอไม่ได้ออกจากบ้านนานมากแทบจะเรียกได้ว่าตั้งแต่รู้ตัวว่าท้องเธอก็มีแต่กินกับนอนอยู่ที่บ้านไม่ได้ออกไปไหนเลยจะมีก็แค่ออกไปเดินเล่นรับลมเย็น ๆ ที่สวนสาธารณะใกล้ ๆ บ้านในบางวันเท่านั้นไม่ก็เดินเล่นในสวนหย่อมหน้าบ้าน แต่วันนี้พี่เก้าทัพกลับชวนเธอไปเดินเที่ยวเล่นที่สวนสนุกมันเลยทำให้นับดาวเกิดอาการแปลกใจเล็กน้อย“นับอย่างไรก็ได้ค่ะ พี่เก้าอยากไปไหนนับก็พร้อมจะไปกับพี่เก้าเสมอ”นับดาวบอกเก้าทัพด้วยสายตาและรอยยิ้มที่อ่อนโยนก่อนที่เก้าทัพจะก้มหน้าลงมาจูบหน้าผากนับดาวเบา ๆ อย่างแสนรัก แต่คนที่นั่งข้าง ๆ กลับกอดอกมองพ่อกับแม่ที่กำลังแสดงความรักกันต่อหน้าต่อตาอย่างไม่เกรงใจตัวเองอย่างงอน ๆ“พ่อเก้าหอมพี่ทัพด้วยสิค้าบ หอมแม่นับคนเดียวได้ไงพี่ทัพก็อยากโดนห
CLUBหลังจากที่นับดาวท้องลูกคนที่สองเก้าทัพก็ไม่เคยออกมาสังสรรค์นั่งดื่มกับเพื่อน ๆ อีกเลย เพราะเขาคอยดูแลนับดาวเป็นอย่างดีโดยเฉพาะอาหารที่มีประโยชน์สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ เก้าทัพถึงกับลงทุนศึกษาหาความรู้และลงมือทำเมนูอาหารที่มีประโยชน์ให้นับดาวทานทุกวันรวมถึงอาหารของกองทัพเก้าทัพก็เป็นคนดูแล เรียกได้ว่าช่วงนี้เก้าทัพทำหน้าที่พ่อที่ดีและสามีที่ดีอย่างไม่ขาดตกบกพร่องจนเพื่อน ๆ ต่างพากันโทรมาโอดครวญ และวันนี้เก้าทัพจึงมาปรากฏตัวอยู่ในคลับประจำของพวกเขาอย่างเลี่ยงไม่ได้ เพราะเพื่อนทั้งสองคนงอแงใส่เขาเสียยกใหญ่ที่ไม่มีเวลามานั่งดื่มกับพวกตนเลย“ไม่ค่อยว่างเลยนะมึง ถ้าพวกกูไม่งอแงก็คงไม่ออกมา”พอร์ชแซวเก้าทัพยิ้ม ๆ ก่อนที่จะส่งแก้วเหล้าให้เก้าทัพที่รับไปดื่มซึ่งปรากฏว่าเขาดื่มได้และไม่มีอาการคลื่นไส้อยากจะอาเจียนแต่อย่างใด ผิดกับอาหารบางอย่างที่แค่ได้กลิ่นเขาก็วิ่งไปอาเจียนแทบไม่ทัน“ทำไงได้เมียท้องทั้งทีกูก็อยากดูแลตลอดเวลาไหมวะ ลองพวกมึงสองคนมีเมียบ้างสิให้กูทายคงไม่มีเวลามาแดกเหล้ากับเพื่อนแน่นอน”เก้าทัพตอบกลับพอร์ชก่อนที่จะควงแก้วเหล้าเล่นไปมา สายตาคู่คมก็มองไปรอบ ๆ ร้านที่แบ่งแยกเป็น
“ลูกไม่อยู่เป็น ก ข ค ง แล้วก็ได้เวลาที่เมียจ๋าต้องกล่อมพี่เก้าเข้านอนแล้วนะคะ”มือใหญ่ยกขึ้นมาเชยคางมนของนับดาวขึ้นเล็กน้อยก่อนที่นับดาวจะยิ้มออกมาด้วยความเขินอาย แต่ร่างกายกลับขยับเล็กน้อยเพื่อให้กุหลาบช่อใหญ่ได้สัมผัสกับความแข็งแกร่งที่กำลังดุนดันเนื้อผ้าออกมาทักทายเธออยู่ การกระทำนั้นของนับดาวทำเอาเก้าทัพถึงกับเผลอซี้ดปากออกมาด้วยความเสียวซ่านและกระสันในอารมณ์ใคร่ที่กำลังก่อตัวขึ้นจนยากเกินจะต้านทาน“แล้วพี่เก้าอยากได้ให้นับกล่อมแบบไหนล่ะคะ”น้ำเสียงหวานถามเก้าทัพอย่างยั่วยวนโดยไม่รู้ตัวอยู่ ๆ อารมณ์สงบก่อนหน้านี้ก็เกิดรู้สึกพลุ่งพล่านขึ้นมาเสียดื้อ ๆ ก่อนที่นับดาวจะเผลอกัดริมฝีปากเบา ๆ อย่างพยายามระงับความพลุ่นพล่านที่ทำให้เธอเองแทบจะทนไม่ไหวโดยหารู้ไม่ว่าการกระทำนั้นยิ่งเป็นการปลุกอารมณ์ของเก้าทัพให้ร้อนแรงมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม“พี่ว่าวันนี้เปลี่ยนเป็นให้พี่กล่อมนับกับลูกนอนแทนดีกว่าไหมคะ ลูกสาวของเราจะได้นอนหลับฝันดีถึงพ่อกับแม่ทั้งคืนเลย”เก้าทัพดึงนับดาวให้เข้ามาแนบชิดก่อนที่จะกระซิบข้างใบหูหอมกรุ่นด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่าพร้อมกับเลียใบหูเล็กเบา ๆ จนนับดาวถึงกับขนลุกด้วยความเสียว
หลังจากนอนพักที่โรงพยาบาลอีกหนึ่งวันเพื่อปรับสภาพร่างกายที่กำลังแพ้ท้องแทนนับดาวกฤษฎิ์ก็อนุญาตให้เก้าทัพกลับมาพักผ่อนที่บ้านได้ แต่เก้าทัพก็ยังคงมีอาการแพ้ท้องแทนนับดาวเหมือนเดิม ส่วนนับดาวกลับทานอาหารได้ทุกอย่างไม่มีอาการแพ้เลยแม้แต่น้อยทำให้เธอรู้สึกสงสารเก้าทัพมากที่แพ้หนักถึงขั้นทานของโปรดไม่ได้เลย“ดีขึ้นไหมคะ”นับดาวถามเก้าทัพที่นอนหลับตาหนุนอยู่บนตักเธอหลังที่จากที่วิ่งไปอาเจียนมื้อเย็นออกจนหมดมือบางลูบผมนุ่มของเก้าทัพด้วยความสงสารและเห็นใจ ก่อนที่เก้าทัพจะเอาใบหน้าซุกที่หน้าท้องของนับดาวที่กำลังมีลูกสาวเขานอนรอวันออกมาลืมตาดูโลกอยู่ข้างใน เขามั่นใจว่าลูกคนนี้ต้องเป็นลูกสาวอย่างแน่นอนเขาทำเองกับมือจะไม่รู้ได้อย่างไรคิดในใจก่อนที่จะยิ้มออกมาอย่างมีความสุขที่ลูกสาวคนนี้เขาได้คอยดูแลประคบประหงมอย่างดีถึงแม้เขาจะไม่มีโอกาสได้ดูแลกองทัพตั้งแต่เกิดเป็นเพราะความผิดพลาดในอดีต แต่เขาสัญญากับตัวเองแล้วว่าจะดูแลและให้ความรักความอบอุ่นกับลูก ๆ ทั้งสองคนอย่างดีที่สุด“จะดีกว่านี้ถ้าคืนนี้เมียจ๋าโอ๋พี่เก้าก่อนนอนครับ” เก้าทัพทำเสียงเล็กเสียงน้อยอ้อนนับดาวอย่างน่ารักใบหน้าหล่อเหลาที่ซบหน้าท้