หลังจากที่ฉันกับคุณเปรมเราตกลงคบกันนี้ก็ผ่านมาเป็นระยะเวลาหกเดือนกว่าๆ ชีวิตประจำวันของฉันก็ปกติแต่ส่วนใหญ่จะใช้เวลาอยู่ที่ห้องคุณเปรมมากกว่าห้องตัวเองเพราะงานแค่นั้นนะหลังจากงานเสร็จฉันก็กับมานอนที่ห้องของตัวเอง บางครั้งเขาก็รั้งให้อยู่ด้วยแต่ฉันคิดว่ามันไม่ควรแล้วห้องก็ไม่ได้อยู่ไกลกันมากด้วย ถึงแม้ว่าวันนั้นจะผ่านมานานแต่ฉันยังจำทุกอย่างได้ไม่มีวันลืมแล้วเรื่องอะไรที่ฉันจะไปอยู่ห้องนั้นลำพังกับเขานอกจากเรื่องงานล่ะ ห้องแห่งความหลังแบบนั้น
“ษาครับวันนี้ไปกินข้าวที่บ้านผมนะครับ คุณแม่ท่านอยากเจอ” หลังจากที่เราคบกันได้สักพักคุณเปรมก็ได้พาฉันไปทำความรู้จักกับครอบครัวของเขา มันยิ่งทำให้ฉันรู้สึกว่าฉันตัดสินใจไม่ผิดที่เลือกคบกับเขา ไม่ใช่ที่ฐานะแต่ที่เขาเป็นสิ่งที่เขาปฏิบัติต่อฉัน แล้วฉันก็ได้บอกเรื่องนี้กับครอบครัวของฉันแล้วพวกท่านก็บอกว่าถ้าฉันรักใครพวกท่านก็รักด้วยถึงแม่พวกท่านจะบอกกับฉันเสมอว่าอย่าแต่งงานกับคนรวยเพราะกลัวว่าเขาจะเอาเปรียบ แต่ได้ข่าวว่าพี่เขยฉันรวยมากๆเลยนะเพราะเป็นชาวต่างชาติ ฉันมี่พี่น้องสามคนและฉันเป็นคนกลาง “โอเคค่ะ งั้นตอนเย็นคุณค่อยโทรหาษานะคะ ษาว่าจะไปพักสักหน่อยวันนนี้คุณใช้งานษาหนักมาก” “ผมขอโทษก็งานมันเร่งนิครับ” “ษาเขาใจค่ะ ษาแค่ล้อเล่น แต่ว่าเหนื่อยจริงๆนะคะ ษาขอตัวไปพักแปปนึงนะคะ” เวลาทำงานเราสองคนคือเจ้านายกับลูกน้องที่ทำงานกันอย่างจริงจังก็มีเล่นบ้างบางครั้งแต่ก็ไม่บ่อยเพราะงานมันค่อนข้างเครียดฉันก็ชอบแบบนี้นะมันให้ความรู้สึกว่าฉันได้ทำงานจริงๆไม่ใช่ใช้ตำแหน่งแฟนผู้บริหารมาเบ่ง แล้วไม่ทำงานทำการอะไร “งั้นถ้าจะไปเดี่ยวผมโทรหาอีกทีนะครับ รักนะครับ” “พูดแบบนี้อีกแล้วนะคะบอกว่าอย่าพูดบ่อยไงค่ะ เดี่ยวมันจะกลายเป็นคำติดปากไปเฉยๆปราศจากความรู้สึก” “พี่ก็บอกเราทุกวันไงเราจะได้มั่นใจว่าพี่รู้สึกยังไง” ตอนนี้คุณเปรมเขาจะแทนตัวเองว่าพี่นอกเวลางานแล้วเขาก็ให้ฉันเรียกว่าพี่เพราะเวลาเรียกคุณมันให้ความร็สึกห่างเหินกัน แต่ฉันไม่กล้าเรียกหรอกกลัวติดปากแล้วเวลางานจะเผลอเรียกและอีกอย่างคือฉันเขินด้วยที่จะเรียกแบบนั้น “โอเคค่ะ แต่ไม่ต้องพูดบ่อยก็ได้ษาก็เขินเป็นนะคะ” “ไม่ได้พูดให้เขินสักหน่อยพูดให้รู้สึกรักต่างหาก” “ษาไม่คุยกับคุณแล้วกับห้องดีกว่า ไว้เจอกันตอนเย็นนะคะ” เปรม part ผมไม่เคยคิดเลยว่าการที่จะช่วยยัยน้องสาวตัวแสบนี่จะต้องใช้พลังกายพลังใจมากขนาดนี้ ตอนนี้ผมกับษา ผู้หญิงที่จะมาเป็นคนอุ้มบุญให้น้องสาวของผม ด้วยเงื่อนไขที่เธอตั้งไว้มันบีบบังคับให้ผมต้องทำแบบนี้ถ้าหากเธอต้องการที่จะให้สามีในอนาคตของเธอเข้าใจเธอในการช่วยอุ้มท้อง เธอก็เลยต้องการที่จะมีสามีก่อนที่จะอุ้มท้องให้น้องสาวของผม วิธีนี้ถึงมันจะเห็นก็ตัวไปบ้างแต่ดีกว่ารอจนไม่รู้ว่าวันไหนที่เธอจะมีแฟนมีสามี สู้ให้ผมมาเป็นสามีของเธอแล้วจากนั้นค่อยเลิกกันทีหลังก็ยังไม่สาย เพราะผมคงคบกับเธอตลอดไปไม่ได้เพราะผมเองก็ได้หมั้นหมายกับแฟนผมที่ต่างประเทศแล้วแต่เรื่องที่ผมหมั้นไม่มีใครรู้นอกจากครอบครัวฝังนู้นที่แรกผมกะว่าถ้าหากกลับมาที่ไทยจะบอกพ่อแม่แต่ว่ามีเรื่องสะก่อนเรื่องที่ว่าก็คือเรื่องที่ต้องช่วยน้องสาวที่น่ารักของผมไง ผมกะว่าหลังจากที่ผมกับเธอแต่งงานกันได้สักสองสามเดือนผมจะหาเรื่องเลิกกับเธอเพราะว่าไม่อยากให้เวลามันนานไปกว่านี้กลัวว่ามันจะทำให้ความผูกพันมีมากขึ้นกลัวว่ามันจะทำให้เธอเสียใจมาก ตอนเย็น ตอนนี้ฉันอยู่ที่บ้านของคุณเปรมครอบครัวของเขาดีต่อฉันมากทั้งๆที่ฉันเป็นแค่ลูกน้องที่โรงแรม แต่พวกท่านกับบอกว่าดีกว่าให้คุณเปรมใช้ชีวิตไปวันวันไม่มีทิศทาง แล้วพอพวกเขารู้ว่าฉันเป็นแฟนเก่าของลูกเขยเขา และเป็นคนที่จะมาอุ้มบุญให้ลูกสาวพวกท่าน พวกท่านยิ่งดูเหมือนว่าจะเอ็นดูฉันมากแถมบอกว่าโลกมันกลมหรือว่ามันเป็นพรหมลิขิตที่ทำให้เรามาพบกัน ท่านอยากให้ฉันกับคุณเปรมรีบแต่งงานกันรีบมีหลานเพราะว่าตอนนี้ท่านทั้งสองไม่ได้ทำงานเลยทำให้ว่างจนรู้สึกอยากทำอะไรสักอย่าง ฉันก็ได้แต่ยิ้มตอบรับเรื่องแต่งงานมีลูกนั้นมันคงต้องรอให้ฝ่ายชายขอแต่งก่อนไม่ใช่หรอจะให้ฉันเป็นคนทำมันก็ไม่ถูกไหม “สวัสดีค่ะคุณพ่อ สวัสดีค่ะคุณแม่” ฉันกล่าวทักทายคุณพ่อคุณแม่ของคุณเปรม ที่ฉันเรียกท่านทั้งสองว่าพ่อแม่ก็เพราะว่าคุณแม่บังคับมาเรื่องนี้ทำให้คุณเปรมน้อยใจเป็นอาทิตย์เพราะว่าทีกับเขาฉันกับเอาแต่เรียกคุณๆไม่เรียกพี่สักที่ “ สวัสดีลูกมากันแล้วหรอ หนูษาตามแม่มาที่ห้องครัวเลยลูกวันนี้แม่จะสอนเราทำอาหารที่ลูกชายของแม่ชอบให้อีกสักอย่างสองอย่างเอาไว้หมัดใจสามีตอนแต่งงานกันเป็นไง” “คุณแม่พูดอะไรก็ไม่รู้พึ่งคบกันได้ไม่นานเอง เรื่องแต่งงานคงอีกนาน” “ใครว่านานล่ะจ๊ะ ไม่รู้หรือไงว่าวันนี้ที่มานิเพราะว่าพี่เขามีเรื่องจะคุยเรา” “คุย กับษาหรอค่ะ” “เอ้าก็คุยกับเรานั่นแหละถึงพาเรามา นี้พี่เขาไม่ได้บอกอะไรเราเลยหรอ” “เปล่าค่ะคุณเปรมไม่ได้บอกอะไรษา บอกแค่ว่าคุณแม่อยากเจอษาแค่นั้น ว่าแต่มีเรื่องอะไรจะคุยกับษาหรอค่ะแล้วทำไมไม่คุยที่ห้องก็ได้” “ก็เรื่องนี้มันสำคัญไง” “คุณแม่พอจะทราบไหมค่ะว่าเรื่องอะไร”ฉันเป็นคนที่ไม่ชอบเรื่องเซอรไพร์ที่สุดเลยไม่รู้สิหลายคนอาจจะชอบแต่ไม่ใช่กับฉันเพราะไม่ว่าเรื่องนั้นจะเป็นเรื่องดีหรือไม่ดีมันก็สามารถทำให้ฉันร้องไห้ได้เสมอ “แม่รู้แต่ไม่บอกหรอกรอฟังพร้อมคนอื่นเถอะ ปะเข้าครัวกันเถอะ” หลังจากที่คุยเรื่องนั้นเสร็จฉันก็ช่วยคุณแม่ทำอาหารอีกสองสามอย่าง จริงๆที่บ้านนี้มีแม่บ้านอยู่แต่แม่อบทำอาหารเองมากกว่า ฉันก็เข้าใจนะเพราะอะไรที่เรารักเราจะทำมันออกมาได้ดีกว่าและก็ภูมิใจกับมัน ตอนนี้มื้อค่ำก็ได้จบลงแล้วมันเป็นเวลาที่ฉันรอคอยว่าเขามีเรื่องอะไรจะบอกกับฉัน “เอาละ ทุกคนคงรู้ว่าผมกับษาเราก็คบกันมานานแล้วและผมรู้สึกว่าอยากจะเรียนรู้และใช้ชีวิตร่วมกับคนคนนี้ ผมก็ไม่รู้ว่าที่ทำมันเหมาะไหมก็จากที่เห็นหลายๆคู่เขาไปคุกเข่าขอแต่งงานกันแค่สองคน แต่ผมอยากให้คนที่ผมรักทุกคนได้รับรู้พร้อมๆกันว่าผมอยากที่จะใช้ชีวิตร่วมกับผู้หญิงคนนี้ อยากให้ทุกคนรู้ว่าคนนี้คือคนที่ผมรักและเลือกที่จะหยุดกับเขา ษาพี่รู้ว่าเวลาที่เราคบกันในความรู้สึกของษามันอาจจะไม่นานแต่สำหรับพี่แค่นี้มันก็เพียงพอต่อความรู้สึกของพี่ที่พี่ได้มอบให้กับเราแล้ว พี่อยากจะขอเราเรื่องนึงได้ไหมขอให้เรามาเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวพี่ได้ไหม”ที่ผมเลือกจะขอเธอแต่งงานที่นี้ก็เพราะอย่างน้อยถ้าหากเธอจะปฎิเสธพ่อแม่ผมก็คงจะช่วยพูดแล้วก็ไอ้คำพูดที่ผมพูดมาทั้งหมดก็จำมาจากละครหลังข่าวที่เปิดไปเจอโดยบังเอิญไม่คิดว่าจะมีคนอินตามได้ขนาดนี้เพราะตอนนี้นอกจากษาที่ร้องไห้แม่ผมก็อีกคน “ตอนนี้ฉันพูดอะไรไม่ออก น้ำตาที่ไหลออกมามันไม่ได้มาจากความเสียใจแต่มาจากความดีใจล้วนๆ ไม่คิดไม่ฝันว่าจะมีวันนี้กับเขาฉันพูดอะไรไม่ออกได้แต่พยักหน้าตอบรับ”ไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะอะไรที่ทำให้สติฉันไม่หลงเหลือขนาดนี้เรื่องนี้ฉันไม่ควรตัดสินใจคนเดียวไม่ใช่หรอฉันควรถามพ่อแม่ฉันก่อนไหมนี้มันเรื่องใหญ่เลยนะเรื่องการแต่งงาน หลังจากคืนนั้นฉันก็วุ่นวายมากในตอนนี้ที่วุ่นวายไม่ใช่เรื่องที่ทำงานนะแต่วุ่นวายเรื่องงานแต่งเพราะดูเหมือนทุกอย่างมันรวดเร็วมาก ขนาดพ่อแม่ฉันยังตกใจแต่ท่านก็เคารพการตัดสินใจของฉัน ตอนนี้ก็อยู่ในขั้นตอนของการเตรียมการงานแต่งอยู่ที่แรกว่าจะจัดที่โรงแรมแต่ฉันไม่อยากให้มันยิ่งใหญ่เพราะว่าฉันยังรู้สึกว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเขาอยู่เลยขอให้จัดเล็กที่บ้านเชิญแขกที่สนิทกันเท่านั้น ซึ่งคุณเปรมเขาก็แล้วแต่ฉันให้ฉันตัดสินใจเองเพราะว่าไม่อยากขัดใจทีแรกว่าจะจัดใหญ่แต่พอฉันขัดเขาก็ให้ฉันเลือกเองทั้งหมด ตอนนี้ฉันชักรู้สึกผิดแล้วสิทั้งๆที่เป็นงานของเราแต่ฉันกับเอาแต่ใจเป็นฝ่ายเลือกอยู่ฝ่ายเดียว ที่ผมให้เธอเป็นคนเลือกทุกอย่างเพราะว่าผมรู้ว่าเธอจะเลือกอะไรที่ธรรมดาเรียบๆ ซึ่งมันก็ดีต่อตัวผมที่จะทำให้ความลับนี้รั่วไหลไปถึงคู่หนั้นผม....วันนี้เป็นวันงานแต่งของฉันกับคุณเปรมมันเป็นวันที่ฉันรอคอย ฉันไม่ได้รอคอยที่จะได้แต่งงานกับคุณเปรมหรอกแต่ฉันรอคอยว่าสักวันหนึ่งฉันจะได้แต่งงานกับใครสักคนที่ฉันรักแล้ววันนี้ก็มาถึงงานแต่งงานของเราจัดขึ้นอย่างเรียบง่ายทางญาติฝ่ายฉันก็มาแค่พ่อแม่และเพื่อนสนิทของฉัน ในส่วนของญาติฝ่ายเขาก็มีพ่อแม่ญาติๆและก็เพื่อนสนิทของคุณเปรมเขาบางคนฉันก็รู้จักและก็ไม่รู้จักคนที่ฉันรู้จักก็มีแค่พี่มาร์คกับพี่บอสที่รู้จักก็เพราะพี่เขาเป็นคนโทรเรียกให้ฉันออกไปรับคุณเปรมวันนั้นแต่ดูเหมือนเขาจะจำฉันไม่ได้ก็ดีแล้วล่ะที่จำไม่ได้เพราะว่าคืนนั้นไม่ใช่คืนที่น่าจดจำสักเท่าไหร่ ฉันหวังว่าหลังจากที่แต่งงานกันได้สักระยะหนึ่งฉันจะบอกความจริงเขาเรื่องนี้ แต่ตอนนี้ขอเวลาทำใจก่อนไม่รู้ว่าถ้าหากเขารู้ความจริงจะรู้สึกยังไงสถานที่ที่เราใช้จัดงานก็คือที่บ้านของคุณเปรมเราได้เชิญคนที่โรงแรมมาด้วยส่วนใหญ่จะเป็นคนที่แผนกครัวที่เคยร่วมงานกับฉันและก็ให้เข้ามาช่วยดูแลเรื่องอาหารอีกด้วย ถ้าถามว่าทำไมการแต่งงานทั้งทีฉันถึงไม่จัดให้มันยิ่งใหญ่ไปเลยแต่ฉันคิดว่ามันไม่สำคัญหรอกว่างานจะใหญ่แค่ไหนคนมาร่วมงานเยอะแค่ไหนเพราะสุดท้ายแล้วใจความ
ตอนนี้แขกทุกคนกลับบ้านไปหมดแล้วและตอนนี้ฉันกับคุณเปรมเข้ามาอยู่ในห้องหอของเราฉันกำลังอาบน้ำอยู่ในห้องน้ำเพื่อเป็นการถ่วงเวลาฉันเลยอาบน้ำเป็นเวลาสองชั่วโมง ถ้าหากว่าเขาจะหลับไปเลยยิ่งดีแอ๊ดด...เสียงประตูที่ผมรอมาเนิ่นนานไม่รู้ว่าจะอาบอะไรหนักหนาตัวแค่นี้เอง“มาแล้วหรอที่รักมามะ ที่มาให้พี่กอดสะดีๆครับ”“ไปอาบน้ำก่อนเลยค่ะอยู่ในงานทั้งวันเหนื่อยไคล ไม่เหนียวตัวหรอค่ะไปอาบน้ำก่อน”“โอเคครับถ้าหากพี่อาบน้ำเสร็จแล้วเราค่อยทำกันเนอะ”“ไม่รับปากค่ะ ไปอาบน้ำได้แล้วไป๊” ฉันพูดพร้อมกับดันหลังเขาเข้าห้องน้ำ“อย่าหลับก่อนนะครับ รอพี่แปปเดี่ยวนะครับ”คุณเปรมหันมาพูดก่อนเดินเข้าห้องน้ำไป“ค่ะๆ ไปอาบน้ำได้แล้ว”ใครจะเป็นบ้ารอให้คุณมาเผด็จศึกฉันแล้วรีบเขี่ยฉันทิ้งกันแหละเพราะฉะนั้นฉันต้องแกล้งหลับค่ะเพราะถ้าฉันหลับไปแล้วเขาคงจะไม่ทำอะไรหรอกมั้งนะ ดังนั้นแล้วตอนนี้ทางออกที่ดีของฉันคือแกล้งนอนหลับได้แล้วเอี๊ยดดด...ทันทีที่เปิดประตูสายตาของผมก็มองทอดไปที่เตียงทันที ในใจคือคิดว่าจะได้เห็นคุณภรรยานอนให้ท่าที่เตียงแบบไม่ใส่อะไร แต่ฝันของผมต้องสลายทั้งหมดเพราะว่าเธอหลับไปแล้ว หรือว่าเธอจะแกล้งหลับเพื่อเร่าอ
วันนี้ฉันก็ไม่ได้ไปทำงานเพราคำสั่งคุณสามีว่าให้ฉันพักผ่อนเพื่อเตรียมรับมือกับคืนนี้ ความจริงแล้วถึงแม้ว่าฉันจะแต่งงานกับเขาแล้วและเขาเองบอกว่าให้ฉันอยู่บ้านไม่ต้องทำงานหรอกเพราะว่ายังไงต่อให้ฉันไม่ทำงานเขาก็ต้องให้เงินฉันใช้อยู่ดี เหตุผลคืออยากให้ฉันพัก แต่เรื่องอะไรล่ะฉันจะหยุดทำงานในเมื่อที่แต่งงานกันมาก็เพราะว่าเขาต้องการที่จะใช้ประโยชน์จากฉันไม่ได้รักฉันจริงสักหน่อยถ้ามันถึงวันที่เขาจะทิ้งฉันไปฉันจะไปเอาเงินที่ไหนมาเลี้ยงตัวเองล่ะ ต่อให้เขารักฉันจริงๆฉันก็คงไม่อยู่เฉยๆหรอกคนเรามันก็ต้องทำงานกันตอนที่มีแรงปะ? แก่กว่านี้ฉันก็ทำไม่ไหวนะ ฉันเลยให้เหตุผลว่าถ้าฉันไปทำงานด้วยก็จะได้อยู่ด้วยกันและก็ประหยัดค่าจ้างเลขาคนใหม่ด้วยไง เขาก็เลยตกลงแบบปลงๆเพราะฉันค้านหัวชนฝาว่ายังไงก็จะไปทำงาน -เย็น-“กลับมาแล้วครับ คิดถึงจังเลยมาให้จุ๊บให้หาเหนื่อยหน่อย” เสียงนี้มาก่อนตัวเลยพ่อคุณ“กลับมาก็ไปอาบน้ำเลยค่ะ จะได้ลงมากินข้าว ไม่ให้จงให้จุ๊บหรอกเหงื่อไคลเต็มเลยไปอาบน้ำก่อน”“ อะไรกันแค่นี้ก็ไม่ได้นี้จะน้อยใจแล้วนะ เมื่อคืนเราอุส่าไม่กวน แล้วตอนนี้ขอจุ๊บก็ไม่ให้จะเล่นตัวไปถึงไหนกันคุณภรรยา”“ก็แค่บอก
หลังจากเรื่องคืนนั้นผ่านไปได้เกือบเดือนเราสองคนก็ไม่ได้มีอะไรกันอีก แล้วช่วงนี้ชอบหายไปตอนกลางคืนกลับตอนเช้าบางวันก็กับมาค่ำๆเลย เราย้ายออกมาอยู่ที่คอนโดแล้ว มันสะดวกเรื่องเวลาทำงานด้วยและอีกหลายๆอย่าง ตอนนี้ฉันเองก็กับไปทำงานแล้วแต่ว่าไม่ได้ทำในตำแหน่งเดิมเพราะว่าคุณเปรมเขาหาเลขาใหม่แล้วเป็นลูกชายของเลขาคนเก่าของคุณพ่อเขา ฉันเองก็ไม่อยากไปก้าวก่ายในส่วนนั้นเพราะถึงเราจะเป็นสามีภรรยากันแต่สิทธิ์ในส่วนของเรื่องงานฉันไม่อยากยุ่งเท่าไหร่ ฉันก็มาทำงานเอกสารต่างๆเล็กๆน้อยช่วยคนในที่ทำงานเพราะว่าไม่อยากอยู่เฉยๆบางวันก็ไปช่วยงานที่ครัวบ้างก็คนมันคิดถึงแน่นอนว่าช่วงนี้ฉันกับคุณเปรมเราไม่ค่อยได้อยู่ด้วยกันคนที่ทำงานที่พอจะรู้เรื่องของเราที่ว่าเราสองคนแต่งงานกันก็มีคนแอบซุบซิบนินทาว่าก้นหม้อยังไม่ทันดำก็ดูเหมือนจะหมดไปกันต่อไม่ได้แล้ว ซึ่งมันก็จริงของเขาแหละฉันก็พอจะทำใจอยู่บ้างกับเรื่องนี้แต่ไม่คิดว่ามันจะเร็วถึงขนาดนี้นี่แค่ผ่านมาไม่ถึงเดือนแต่กับแสดงออกชัดเจนขนาดนี้คิดว่าคงไม่เกินเดือนหน้าหรอกความสัมพันธ์ของเราสองคนมันคงจบลงแน่นอน การที่รักใครสักคนชีวิตนี้มันจะไม่ประสบความสำเร็จจริงๆหรือไงต
ตอนนี้เป็นเวลาเกือบตีสองแล้วฉันที่กำลังจะเคลิ้มหลับก็ต้องตื่นขึ้นมาเพราะเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นฉันดูว่าใครที่โทรมาเวลานี้คงไม่ใช่คู่ขาคุณเปรมโทรมาหรอกนะ ถ้าเป็นอย่างนั้นฉันคงไม่รู้จะคุยหรือตอบเขายังไง แต่พอดูชื่อคนโทรเข้าก็ยิ่งแปลกใจว่าทำไมพี่เขยถึงโทรมาเวลานี้ทั้งที่เขาก็น่าจะรู้ว่ามันดึกมากแล้วที่ไทย แต่ทำไมถึงโทรมา “Hello Sa I need your help” (สวัสดีษาผมต้องการความช่วยเหลือจากคุณ) “What happened?” (เกิดอะไรขึ้นหรอคะ) “Well I want to talk face to face. Can you come here please?” (เอิ่ม ผมต้องการที่จะคุยต่อหน้ามากกว่า คุณมาที่นี้ได้ไหม) “Sure, When do you want to meet me?” (แน่นอน ว่าแต่คุณต้องการจะพบฉันเมื่อไหร่?) “As soon as possible maybe tomorrow” (เร็วเท่าที่จะเร็วได้ เป็นพรุ่งนี้ได้ไหม) “seriously! Tomorrow ! So I should tell my husband before” (จริงจัง ! พรุ่งนี้เลยหรอ ฉันควรบอกสามีของฉันก่อนนะ) “So you can tell him now” (ดังนั้นคุณก็บอกเขาตอนนี้ไง) “He’s out” (เขาไม่อยู่) “What! What time there now? Why him out there?” (อะไรนะ! ที่นั่นกี่โมงแล
ไม่รู้ว่าตอนนี้คุณเปรมจะตื่นหรือยัง ไม่รู้ว่าตื่นมาจะจำเรื่องเมื่อคืนได้ไหม ไม่รู้ว่าเขาเจอข้อความที่ฉันทิ้งไว้ไหม ไม่รู้ว่าเขากินอะไรหรือยัง ทำไมฉันต้องมาเป็นห่วงคนแบบนั้นด้วย คงเพราะว่าเขาได้ชื่อว่าเป็นสามีของฉัน ตอนนี้ฉันอยู่บนเครื่องบินกำลังกลับบ้านอีกชั่วโมงก็น่าจะถึงบ้านล่ะบ้านษา“อ้าวลูกมาทำไมไม่บอกล้วงหน้าก่อนมีเรื่องอะไรหรือเปล่า”ออกมาเปิดประตูให้พร้อมกับทำหน้าแปลกใจ“ษาเองก็ไม่รู้ว่าจะต้องมาเพิ่งรู้ดึกๆเมื่อคืนพี่ทอม(พี่เขยษา)โทรมาพี่เขาบอกว่ามีเรื่องด่วนให้ช่วย ษาก็ยังไม่ได้คุยรายละเอียดอะไรกับพี่เขาแล้วพี่เขาอยู่ไหนล่ะค่ะ”“ยังมาไม่ถึงมั้ง พ่อก็ไม่รู้นะว่าเขาจะกลับบ้านมาแสดงว่ามีเรื่องสำคัญมากใช่ไหมนิ”“น่าจะอย่างนั้นล่ะค่ะ”หลังจากที่ฉันคุยกับพ่อเสร็จก็ได้ยินเสียงรถเข้ามาจอดที่บ้านน่าจะเป็นรถพี่เขยแน่ๆขับเร็วขนาด”ห้องทำงานทอม“สวัสดีค่ะพี่ทอม มีเรื่องอะไรทำไมถึงดูรีบร้อนขนาดนี้ค่ะ”“พอดีที่ร้านมีปัญหานิดหน่อย พี่อยากให้เราช่วยได้ไหม”“ให้ช่วยยังไงแล้วร้านอาหารสาขาไหนค่ะในหรือต่างประเทศค่ะ”“ร้านที่สิงค์โปร พี่คิดว่าน่าจะมีการยักยอกเงินเกิดขึ้นพี่อยากให้เราช่วยไปดูให้หน่อ
นี้ก็ผ่านมาอาทิตย์นึงแล้วที่ผมรอไอ้มาร์คมันกลับมา ตอนนี้ผมอยู่ที่ห้องเพราะรู้สึกเบื่อๆส่วนษาเองก็ไม่ได้ติดต่อกลับมาไม่รู้จะกลับมาเมื่อไหร่ ปกติเธอไม่เคยกลับบ้านเลยเพราะว่ามัวแต่ทำงาน กลับไปคราวนี้คงจะกลับไปนานเลยสินะ ก็ดีเหมือนกันผมจะได้คุยกับอันดาสะดวกๆหน่อยจะได้ไม่ต้องหลบๆซ่อนๆเหมือนคบชู้แล้วกลัวเมียจับได้แบบนี้ตอนที่ฉันอยู่ที่สิงค์โปรวันที่สามฉันก็ไปจัดการตรวจสมุดบัญชีตามปกติจนตอนที่จะกลับห้องเท่านั้นแหละ ฉันเจอคนท้องซึ่งมันทำให้ฉันคิดได้ทันทีเลยว่าหลังจากคืนนั้นฉันยังไม่ได้กินยาคุมเลย ฉันกับมากลุ้มใจอยู่ห้องได้แต่คิดในแง่ดีไว้ว่าแค่ครั้งเดียวคงไม่ท้องหรอก เพราะถ้าจะกินยาตอนนี้ก็คงไม่ทันแล้วล่ะ ฉันอยู่เคลียร์งานที่นี้อาทิตย์นึงเต็ม ตอนนี้ฉันกำลังเดินทางกลับประเทศไทยแต่ว่าคงกลับบ้านก่อนฉันยังไม่อยากเห็นหน้าของเขาตอนนี้ คนใจร้ายคนนั้น ฉันกลับมาอยู่ที่บ้านต่ออีกหนึ่งอาทิตย์ที่ฉันยอมกับไปเพราะพ่อแม่ถามว่าทำไมถึงไม่กลับสักทีมีเรื่องอะไรกันหรือเปล่าทะเลาะกันหรือเปล่า ถ้าทะเลาะแค่เคลียร์กันมันก็คงจบฉันคงไม่กลับมาอยู่บ้านนานขนาดนี้ทั้งๆที่ฉันเองก็ยังทำงานเป็นพนักงานโรงแรมอยู่ ด้วยความที่
ฉันอยู่ที่บ้านตัวเองมาสามวันแล้วแต่ฉันยังไม่ได้บอกคุณเปรมว่าฉันกลับมาแล้ว ฉันไม่อยากคุยกับเขาเลยแต่ก็กลัวว่าเขาจะสงสัยว่าหายไปไหนนานนาน แต่ว่ารอให้เขาโทรมาก่อนดีกว่าค่อยกับเพราะว่าถ้าหากกลับไปตอนนี้ไม่รู้ว่าจะไปขัดจังหวะอะไรเขาอีกไหม รอให้เขาพร้อมเจอฉันก่อนไม่งั้นก็เอาเป็นอาทิตย์หน้าแล้วกันขออยู่กับตัวเองทบทวนชีวิตสักหน่อยว่าจะเอายังไงต่อดีตอนนี้ผมรอษากับมาเข้าสู่อาทิตย์ที่สามแล้วที่เธอกลับบ้านไปไม่รู้ว่าจะมาเมื่อไหร่จะโทรไปก็กลัวว่าเธออาจจะติดธุระกับครอบครัวไหมแต่ใจนึงมันก็อยากคุยกับเธอ แต่ผมเองก็ยังไม่รู้ว่าจะคุยอะไรเรื่องที่ผมอยากรู้เรื่องที่อยากถามไม่รู้ว่าถ้าถามไปมันจะโอเคไหมหรือควรปล่อยผ่าน ถ้าหากไม่ติดว่าผมมีคนรักอยู่แล้วเรื่องมันก็คงจะง่ายกว่านี้หรือถ้าหากว่าเธอไม่ได้บริสุทธิ์เหมือนตอนแรกที่ผมเข้าใจผมคงไม่ลำบากใจขนาดนี้แต่ยังไงก็แล้วแต่ผมจะทำให้เวลาที่เหลือที่เราจะอยู่ด้วยกันมันเป็นข่วงเวลาที่ดีของเราสองคนผมอยากให้เราสองคนจบกันด้วยดีนี้ก็เป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์แล้วที่ฉันกับมาอยู่บ้านแต่ก็ไม่มีสักสายจากคนที่ขึ้นชื่อว่าสามีจะโทรหากันก็เขาไม่ได้ให้ความสำคัญแหละเนอะเลยไม่จำเป็นต้อง
ตอนนี้เด็กกำลังเข้าอนุบาลกันแล้วใจผมต้องสลายแน่ๆการที่ต้องไปส่งลูกไปเรียนแล้วก็ทำได้แค่มองดูเขาเดินจากไปสู่ห้องเรียน วันแรกที่ไปส่งลูกผมเกือบร้องไห้เพราะคิดถึงลูกแต่พอหันมามองเห็นษารายนั้นไม่ต้องพูดถึงลิงโลดมาก แทนที่จะคิดถึงลูกแต่ทำเหมือนได้รับอิสระยังไงยังงั้นทำแบบนี้ไม่ได้นะผมอยากให้ลูกเรียนโฮมสคูลนะกลัวลูกร้องไห้อยากกลับบ้านกลัวว่าเพื่อนจะแกล้งแต่ษาไม่ยอมจะส่งมาโรงเรียนอย่างเดียวใจร้ายใจมารมากเป็นแม่ภาษาอะไรใจร้ายกับลูกตัวเองมาก แต่พอหันมาดูลูกผมกับวิ่งดุ๊กดิ๊กเข้าไปหาครูแบบไม่สนใจพ่อเลยแถมไม่รอพี่ชายอีกลูกชายผมก็ขี้เก๊กจริงๆขนาดกับพ่อยังเก๊กหรือเพราะว่าผมไม่ค่อยตามใจเลยน้อยใจไม่อ้อนผมกันแน่กับแม่เขาคนนี้แทบจะไม่ออกจากตักเลยแหละพอพ่อจะจับเดินหนีเฉยงงมาก แล้วนั้นอะไรครูผู้ชายจะมาหอมแก้มลูกสาวผมไม่ได้นะ เมื่อวานลูกผมก็มาบอกว่าจะแต่งงานกันครูประจำชั้นผมนี่แทบจะให้ลูกออกจากโรงเรียน แล้วนี่ถ้าไม่ติดว่าเมียดึงหูไว้นี้ผมลงไปเคลียร์กับครูที่หอมแก้มลูกสาวผมแล้ว หลังจากเหตุการณ์ต่างๆผ่านมาหลายไปตอนนี้ฉันได้ข่าวว่าปลายกับเอิร์ธไปรับเด็กมาเลี้ยงเพราะไม่อยากที่จะไปรบกวนคนอื่นแหละลองทำมาทุกทา
ตั้งแต่ที่ย้ายมาอยู่ที่นี่ไอ้คุณเปรมก็ดูแลลูกช่วยฉันดีมากรู้งี้พามาอยู่ตั้งนานแล้วไม่น่าเหนื่อยคนเดียวมาตั้งนานแบบนี้เลย ตอนนี้คุณเปรมไปทำงานงอแงแต่เช้าว่าไม่อยากไปทำงาน อ้างว่าลูกจะคิดถึง ฉันเลยจัดการขั้นเด็ดขาดด้วยคำว่าถ้าหากว่าไม่ไปทำงานจะพาเด็กๆกลับบ้านเชื่อไหมวิ่งลงบ้านอย่างกลับเดอะฟาส ตลกจังขู่แค่นี้ก็กลัวฉันเองก็ไม่ได้ทำงานอะไรเลยตอนนี้แต่ก็ไม่ได้ว่างหรอกถึงแม้ว่าไม่ได้ทำงานแต่สองหน่อที่บ้านนี่คืองานอันใหญ่หลวงเลยแหละดีหน่อยที่มีคนเลี้ยงช่วยไม่งั้นคงไม่มีเวลากินข้าวหรอก เพราะพอเวลาที่คนใดคนหนึ่งร้องไห้อีกคนได้ยินก็ร้องไห้ตามๆกันฉันไม่รู้จะอุ้มใครก่อนดีจะอุ้มพร้อมกันก็กลัวร่วงเด็กเขาจะมีเซนส์ว่าใครเป็นพ่อแม่แล้วคือถ้าไม่ใช่พ่อหรือแม่อุ้มก็จะไม่ยอมหยุดร้อง บ้างครั้งที่ลูกร้องไห้บ่อยฉันกังวลมากว่าลูกจะเป็นโคลิคไหม(โรคที่เด็กจะร้องไห้เป็นเวลาแต่ไม่มีเหตุผลในการร้องปลอบก็ไม่หายทำยังไงก็ไม่หายจะเป็นจนกว่าอายุจะครบหนึ่งปีหรืออาจจะไม่ถึงปี) ฉันเลยตัดสินใจหอบลูกไปหาหมอสรุปไม่ได้เป็นอะไรแค่ติดอุ้มเพราะว่าคุณย่าคุณปู่ยิ่งคุณพ่อเขาแทบจะไม่วางเลยจนตอนนี้เด็กติดอุ้มหนักมาก ตื่นปุ๊บเป็นต้องใ
ฉันกำลังนั่งรอคุณสามีอยู่บ้านแต่จนแล้วจนเล่าก็ยังไม่กลับบ้านไปเกเรที่ไหนนะ ฉันให้แม่โทรไปหาเลขาคุณเปรมว่าทำไมถึงยังไปกลับบ้าน สรุปคือพากันไปผับพี่ตั้ม คืออะไรเลิกงานทำไมไม่กลับบ้านไปเที่ยวอีกฉันกะว่าถ้าไม่ดึกจะไม่ว่าเพราะว่าเข้าใจว่าไปพบปะเพื่อนบ้างอะไรบ้างแต่ถ้าดึกมีแต่ตายกับตายหลังจากที่รอแล้วรอเล่าสามีฉันก็ยังไม่มานี้ก็จะห้าทุ่มแล้วทำไมยังไมกลับมาอีกพรุ่งนี้ก็ต้องไปทำงานทำไมไม่รีบมาพักผ่อน เดี๋ยวเจอฉันไอ้คุณเปรมตอนนี้ฉันยืนอยู่สถานที่ที่แทบจะเรียกได้ว่าคุ้นเคยเพราะว่ามาที่นี่บ่อยมากเมื่อก่อน ฉันเดินหาคุณเปรมรอบๆข้างล่างแต่ไม่เจอหรือว่าอยู่ชั้นบนแต่ชั้นบนฉันเข้าไม่ได้นะ มันเป็นส่วนของแขกวีไอพีสำหรับคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ทางออกสุดท้ายคงต้องโทรให้พี่มาร์คช่วย ฉันเคยขอแลกเบอร์พี่เขาไว้ตอนที่เราเจอกันครั้งล่าสุดเพื่อมีอะไรให้พี่เขาช่วยในที่สุดก็ถึงวันนี้ที่จะได้ใช้“ฮาโหลพี่มาร์คค่ะ ตอนนี้พี่ได้อยู่กับคุณเปรมไหมค่ะ?”“อยู่ครับอยู่กันหมดทุกคน มีอะไรไหม?”“เอ่อ~ ~ พอดีว่าษาอยู่ข้างล่างพี่มารับได้ไหมษาไม่รู้ว่าอยู่ห้องไหน แล้วษาขออีกอย่างพี่อย่าบอกคุณเปรมนะคะว่าษามา”“ เรากลับมาแล้
จากที่ผมขอร้องให้ษาย้ายกับมาอยู่ที่บ้านเพราะผมเองก็อยากที่จะช่วยเธอเลี้ยงลูกไม่อยากให้เธอเหนื่อยเพียงลำพังเพราะว่าเด็กๆป่วยบ่อยมากสาเหตุก็มาจากที่คลอดก่อนกำหนดด้วยแหละ แล้วพอเวลาป่วยก็จะป่วยพร้อมกันตลอดเพราะว่าเป็นแฝดกันมั้ง ผมเลยอยากให้เอมาอยู่ที่บ้านผม เพราะผมเองจะได้ดูแลทั้งแม่และลูกสะดวกๆหน่อยแต่ว่าตอนนี้จะเข้าเดือนที่สองแล้วเธอก็ยังไม่ยอมพูดอะไรเลยไม่ปฏิเสธหรือตอบรับผมไม่รู้เลยว่าตอนนี้เธอกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่ ส่วนในช่วงที่ผ่านมาผมก็ไปกลับบ้านเธอเป็นว่าเล่นเพราะว่างานาก็ต้องทำลูกก็ต้องเลี้ยงเมียก็ต้องง้อ เห้อพ่อละเหนื่อย ฉันเองก็เข้าใจคุณเปรมเขานะแต่ว่าฉันกลัวว่าถ้าหากฉันกลับไปเจออะไรเก่าๆความรู้สึกของฉันมันจะเป็นยังไงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่นั่นคือความทรงจำที่เลวร้ายมาก ฉันกลัวว่าฝันร้ายมันจะกลับมาหาฉันอีกแต่ยังไงสักวันฉันเองก็คงต้องกลับไปอยู่ดีเพราะว่าฉันสงสารลูกอยากให้พวกเขาได้อยู่กับพ่อเขา แล้วดูเหมือนว่าปลาวาฬจะติดพ่อเป็นพิเศษเพราะเวลาที่คุณเปรมกลับไปทำงานปลาวาฬจะซึมมากไม่ยอมกินนมจนต้องโทรหาวีดีโอคอลหาพ่อให้ถึงดีขึ้น เพราะว่าพ่อเขาอยู่ด้วยจะตามใจกันมากเวลาลูกร้องเอานมให้กิน
หลังจากผ่านไปสองชั่วโมงพยาบาลก็เข็นรถออกมาสองเตียงคือลูกผมทั้งสองคน หมอบอกว่าเด็กๆต้องเข้าตู้อบก่อนเพราะว่าออกมาก่อนกำหนดและก็มีอาการตัวเหลืองเลยต้องรีบนำเข้าตู้อบให้เร็วที่สุด ส่วนษาตอนนี้ยังไม่ออกมาเลย“คุณหมอครับภรรยาผมเป็นยังไงบ้างครับทำไมยังไม่ออกมา”“คืองี้นะครับ เนื่องจากว่าเธอเสียเลือดมาก่อนดังนั้นพอผ่าตัดเลือดยิ่งออกเยอะทางเราเองก็ไม่มีเลือดกรุ๊ปนี้ในสต๊อกต้องรออีกโรงบาลส่งมาให้”“เธอเลือดกรุ๊ปไหนครับ คุณหมอภรรยาผมเลือดกรุ๊ปไหมครับ”“เธอเลือดกรุ๊ปโอครับว่าแต่พวกคุณมีใครเลือดกรุ๊ปนี้ไหมครับจะได้ไม่ต้องรอนานด้วย”“ผมครับผมเลือดกรุ๊ปโอ”“แต่ว่าพี่เปรมยังไม่ได้พักเลยไม่ใช่หรอค่ะ เพิ่งประชุมเสร็จก็มาเลยน้องกลัวว่าพี่จะเป็นอะไรไปอีกคน ให้น้องช่วยนะคะ น้องเองก็เลือดกรุ๊ปเดียวกับเธอ”“งั้นพี่ฝากด้วยนะ คุณหมอครับผมฝากน้องกับภรรยาผมด้วยนะครับ”“ไม่ต้องห่วงครับมันเป็นหน้าที่ของหมออยู่แล้ว”หลังจากที่ปลายเข้าไปในห้องนั้นนี้ก็ผ่านมาเกือบชั่วโมงแล้ว แต่ในความรู้สึกของผมเหมือนกับว่ามันนานเป็นวันๆได้ นี้สินะความรู้สึกของคนรอ ในตอนนี้ผมตัดสินใจโทรบอกทางบ้านของษาเพราะว่าถ้าหากษาออกมาแล้วผมก็อย
อันดา partฉันจะไม่ยอมให้พวกมันมีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่นหรอก ฉันต้องทุกข์ทรมานมากแค่ไหนใครจะรู้ฉันต้องอยู่หลบๆซ่อนๆกลัวว่าเมียหลวงเขาจะรู้ แต่ในขณะที่ฉันทุกข์พวกมันกับมีความสุขกันทุกคน ฉันไม่ยอมให้พวกแกมีความสุขนานหรอกคนที่พรากของของฉันไปมันต้องรับรู้ถึงความรู้สึกของการสูญเสียเช่นเดียวกันกับฉัน ถึงแม้ฉันจะไม่ได้อยู่ใกล้ๆพวกนั้นแต่ฉันก็พอจะมีสายจะคนที่ทำงานที่โรงแรมนั้นว่าเปรมทำอะไร อยู่ที่ไหนกับใคร สายของฉันก็เลขาของเปรมนั้นแหละฉันก็แค่ใช้เสน่ห์นิดหน่อยแค่นี้ก็หลงฉันหัวปลักหัวปำแล้ว และตอนนี้มันก็ถึงเวลาที่ฉันจะเอาคืนคนพวกนั้นแล้ววันนี้คุณเปรมบอกว่าจะมาถึงในช่วงเย็นเพราะว่าหาไฟล์บินได้ช่วงนั้นช่วงเช้าเพิ่งประชุมเสร็จเลยแวะไปเก็บเสื้อผ้ามาเฝ้าฉันต่อ ส่วนปลายฟ้าเธอเองก็ดูแลฉันอย่างดีอะไรที่เธอทำไม่ได้ก็จะมีพยาบาลพิเศษที่จ้างมาช่วยเธอด้วยแต่ส่วนใหญ่เธอจะลงมือทำเองเพราะอยากไถ่โทษกับสิ่งที่ทำลงไป ฉันเองก็ไม่ติดอะไรกับเธอแล้วส่วนเรื่องที่ว่าฉันจะกลับไปคบกับคุณเปรมต่อไหมนั้นเป็นเรื่องของอนาคตฉันยังให้คำตอบไม่ได้เพราะว่าฉันเองก็ยังไม่มั่นใจในตัวเขาเลย“ษาฉันออกไปกินข้าวก่อนนะเธออยู่คนเด
หลังจากวันนั้นเป็นต้นมาผมก็ย้ายมาอยู่ที่โรงบาลเข้าสู่อาทิตย์ที่สองแล้วที่ผมมาเฝ้าเธอ ไม่ต้องห่วงว่าเธอจะไล่ผมไหมเพราะว่าเธอไล่ผมทุกวินาที แต่คิดหรอว่าแค่นี้จะทำอะไรผมได้ โชคดีที่ครอบครัวเธอก็ยอมเปิดทางให้ผมมาดูแลเธอได้“นี่คุณไม่คิดจะกลับบ้านกลับช่องเลยหรือไงหะ”“รอบที่ร้อยแล้วมั้งที่ษาถามพี่ ษาก็รู้คำตอบแล้วนิ ให้พี่ดูแลเราไม่ดีหรือไงหรือเราอยากให้พ่อกับแม่มาดูแลไม่สงสารท่านหรอ”“ก็ถ้าการมาเฝ้าฉันมันลำบากมากมาเฝ้าทำไมล่ะ กลับไปซะสิ”ใครใช้ให้มาเฝ้าละ แล้วทำไมต้องพูดเหมือนฉันเป็นภาระด้วย ฉันท้องไม่รู้หรือไงว่าอารมณ์ฉันมันแปรปรวนขนาดไหน เรื่องที่มันไม่น่าน้อยใจฉันก็น้อยใจได้หมดล่ะตอนนี้ “พี่ไม่ได้หมายความว่ามันลำบากสำหรับพี่แต่พี่หมายความว่าไม่อยากให้พ่อแม่มาโรงบาลบ่อยๆมันไม่ดีมันมีแต่เชื้อโรค”“ไม่อยากฟัง อยากอยู่ก็อยู่ไม่อยากอยู่ก็ไปฉันเหนื่อยไล่คุณแล้ว”พูดจบเธอก็นอนหันหลังให้ผมอีกครั้ง“งั้นก็ไม่ต้องห่วงพี่ไม่มีทางไปไหนแน่นอนจนกว่าเราจะยกโทษให้พี่”ผมไม่รู้ว่าเธอหลับไปหรือยังแต่ผมก็อยากบอกให้เธอรู้สองอาทิตย์ที่ผ่านมาฉันรู้สึกว่าเขาเปลี่ยนไปมาก เขาเอาใจใส่ฉันมากขึ้น ดูแลอย่างไม่รังเก
ในตอนแรกแผนที่วางไว้ว่าจะกับไปคลอดที่ไทยตอนนี้คือทุกอย่างต้องเปลี่ยนอีกรอบเพราะว่าช่างอาทิตย์ที่ผ่านมาฉันรู้สึกว่าร่างกายผิดปกติ ปวดหัว ความดันสูงมาก คลื่นไส้ ตัวบวมไปหมดทุกส่วน จนฉันทนไม่ไหวต้องไปพบคุณหมอผลปรากฏว่าฉันครรภ์เป็นพิษสาเหตุอาจจะมาจากที่ฉันท้องแรกแล้วเป็นแฝด แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนจะเป็นแค่บางคนเท่านั้น แต่ว่าคนที่ซวยสุดๆก็คงหนีไม่พ้นฉันเองสรุปคือทันทีที่รู้ว่าตัวเองครรภ์เป็นพิษฉันก็เก็บเสื้อผ้ากับไทยทันที หมอบอกว่าฉันต้องอยู่ติดเตียงจนกว่าฉันจะคลอดไม่งั้นโอกาสที่จะแท้งมีสูง ชีวิตฉันมันจะซวยซ้ำซวยซ้อนไปถึงไหนกันนะ ตอนนี้ฉันเองก็ได้มาอยู่ที่โรงบาลแล้วแต่ว่าฉันต้องอยู่บนเตียงตลอดเวลาแบบนี้ฉันเองก็ไม่อยากให้พ่อแม่ต้องมาดูแลเพราะพวกท่านเองก็แก่แล้วลำพังดูแลตัวเองก็ยากแล้วแต่นี้ต้องมาดูแลคนป่วยแบบฉันอีก ฉันไม่อยากให้ท่านมาดูแลเลยตลอดเดือนที่ผ่านมาผมพยายามหาทางติดต่อพ่อแม่ของษา ไปค้นหาในข้อมูลที่เธอนำมาสมัครงานถามเพื่อนเธอคนอื่นก็แล้วแต่ไม่มีใครรู้ ทางออกสุดท้ายจริงๆของผมที่เหลืออยู่คงไม่พ้นไอ้เอิร์ธแน่ๆ “เอิร์ธกูขอร้องละวะ แค่ครั้งสุดท้ายที่กูจะขอให้มึงช่วยมึงช่วยบอกที่อยู่พ่อแม่ษา
หลังจากที่จัดการปัญหาชีวิตผมพยายามติดต่อหาษา ผมไม่รู้ว่าความรู้สึกที่ก่อเกิดในใจตอนนี้มันเรียกว่าอะไรกันแน่ ความรัก ความผูกพันหรืออะไรก็ไม่รู้ แต่ตอนนี้ผมอยากคุย อยากเจอเธอมากๆอยากขอโอกาสจากเธอถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ในฐานะเดิมแค่พี่น้องก็ยังดี แต่จะดีที่สุดถ้าหากว่าเกลับมาเป็นเหมือนเดิมเพราะผมไม่อยากให้เธอมีคนใหม่ ไม่อยากให้เธอไปเป็นของใคร ถึงแม้ว่าจะเขาดีกับเธอ ไม่ทำร้ายเธอเหมือนที่ผมเคยทำ แต่ผมขอได้ไหมขอเห็นแก่ตัวอีกสักครั้งที่จะขอรั้งให้เธอเป็นของผมอีกครั้งที่ผ่านมาผมคิดว่าผมรักอันดามากๆมากจนไม่สามารถรักใครได้อีก แต่พอผมเจอษา ความรู้สึกที่มีต่ออันดากลับเปลี่ยนไปมาก ผมคิดว่าอันดาเปลี่ยนไปแค่ฝ่ายเดียวแต่พอมาทบทวนตัวเองผมกับคิดว่าผมเองก็เปลี่ยนไปไม่ต่างจากอันดา ผมไม่สนเธอเพราะเอาแต่คิดถึงอีกคน ไม่ว่าผมจะทำอะไรตอนนี้มีแต่หน้าของษาลอยมาทุกที่ ผมควรจะทำอะไรสักอย่างก่อนที่มันจะสายเกินไป“ฮาโหลเอิร์ธ มึงพอจะรู้ไหมว่าตอนนี้ษาไปอยู่ที่ไหน”ทางออกเดียวที่เหลือสำหรับผมคงไม่พ้นน้องเขยผมคนนี้เพราะมันเคยเป็นแฟนเก่าษาแถมพวงตำหน่งเพื่อนสนิทอีกด้วย“พี่กับษาเลิกกันไปแล้วนี้จะอยากรู้ไปทำไม ผมพูดตรงๆนะพี่ม