เพราะถูกมองอย่างไม่หลบซ่อน ทำให้เจ้าของร่างสูงผินหน้ามาสบตากัน หากแต่สายตาของเขายังคงเรียบเฉย ด้วยเหตุนั้นจึงมีคนหนึ่งที่เบนสายตาหนี และคนนั้นก็คือ ‘เพลงขิม’
พอกลายเป็นฝ่ายถูกมองบ้างก็ทำตัวไม่ถูก ครั้นจะหยิบแก้วเหล้าบนโต๊ะมาดื่มก็ไม่อยากขยับตัวมาก จึงทำได้แค่ล้วงลูกอมในกระเป๋าสะพายมากินแทน
ตอนแรกหญิงสาวไม่เชื่อคำบอกเล่าเต็มร้อยที่บอกว่า ‘รุ่นพี่’ คนนี้หล่อจนพานทำให้หัวใจกระตุก ทว่าตอนนี้เธอเชื่อสนิทใจแล้วว่ามันเป็นเรื่องจริง
“พวกเฮียนั่งเลย เดี๋ยวผมแนะนำน้องให้รู้จัก”
เนื่องด้วยเป็นร้านนั่งชิลล์ธรรมดาทั่วไป โต๊ะที่ทุกคนนั่งจึงไม่ได้กว้างมากเท่าที่ควร และเก้าอี้ก็ยังว่างอยู่ก็เหลือแค่สองที่ตามจำนวนคน
ไคท์กล่าวว่า “กูนั่งตรงนี้แล้วกัน” และนั่งลงที่เก้าอี้ข้างเพลงขิม โดยที่ปล่อยให้เพื่อนสนิทไปนั่งข้างรุ่นน้องของตนเอง “มึงไปนั่งข้างไอ้เจมส์”
“ไอ้เด็กสองคนนี้เป็นหลานรหัสผมกับไอ้เจมส์ ผมสั้นชื่อน้ำมนต์ ส่วนผมยาวชื่อเพลงขิม”
ขยับริมฝีปากอย่างไร้ซึ่งเสียงว่า “เพลงขิม” ก่อนจะเหลือบมองใบหน้าหวานชัดๆ อีกรอบ
“ไอ้น้ำ ไอ้ขิม นี่เฮียไคท์กับเฮียธันวา”
“สวัสดีค่ะพี่” น้ำมนต์กล่าวทักทายเป็นคำพูด ส่วนเพลงขิมทำเพียงแค่ยิ้มบางพร้อมประนมมือไหว้ตามมารยาท “นี่ใช่พี่ไคท์น้องชายของคุณวิเวียนไหมคะ น้ำเหมือนเคยเห็นพี่ไปที่คลับ”
“ใช่”
“ว่าแล้วเชียว น้ำก็ว่าหน้าคุ้นๆ”
ไคท์ทำแค่เพียงพยักหน้าตอบรับคำพูดของรุ่นน้อง ก่อนจะหยิบแก้วเครื่องดื่มของตนที่เพิ่งถูกวางตรงหน้าขึ้นมาดื่ม สายตาก็มองที่ลูกอมรสคาราเมลบนโต๊ะอาหาร พลันแปลกใจว่าทำไมร้านแห่งนี้ถึงให้ของแกล้มเหล้าเป็นลูกอม
แต่เขาเลือกที่จะหยิบลูกอมแบบเดียวกันจากกระเป๋าแจ็กเกตของตนมากินแทน และการกระทำดังกล่าวทำให้เพลงขิมที่นั่งอยู่ข้างๆ เกิดประหลาดใจ
“นี่ลูกอมใคร” ธันวาพยักหน้าไปที่จานถูกอม “ของร้าน?”
“ของขิมค่ะ” เพลงขิมบอก
“สายรหัสนี้มันแปลกนะ ชอบกินลูกอมคาราเมลเหมือนกันเลย”
“เออจริงด้วย ผมจำได้ว่าเฮียไคท์ชอบลูกอมคาราเมล” ดีฟทำหน้าเหมือนเพิ่งนึกได้ “กินได้นะเฮีย ไอ้ขิมมันคงเอามาแบ่งกันกิน”
“กูมีของกูอยู่แล้ว” ไม่ว่าเปล่าแต่ไคท์ยังหยิบลูกอมดังกล่าวในกระเป๋าแจ็กเกตเติมใส่ในจานเพิ่ม “ถ้าไม่พอในรถกูมีอีก”
“ไม่มีใครเขากินลูกอมเยอะขนาดนั้นนอกจากเฮียกับไอ้ขิมหรอก”
“ก็มันอร่อยนี่พี่ดีฟ” เพลงขิมว่าพลางหยิบลูกอมในจานมาแกะกินอีกหนึ่งเม็ด
“หวานจนแสบคอ”
“มึงเข้าไม่ถึงเอง” ไคท์แย้ง “อย่ามาพาดพิงลูกอมคาราเมลกู”
“ถ้าพี่ไคท์ชอบคาราเมลขนาดนั้น น้ำว่าคงต้องลองโซจูดองคาราเมลของยัยขิมแล้วล่ะคะ”
“มันคือ?”
“ก็ใส่ลูกอมคาราเมลลงในโหลโซจู แล้วหมักทิ้งไว้สองเดือนค่ะ”
“กินได้?” ไคท์เลิกคิ้วถาม เพราะเขาเพิ่งรู้ว่าลูกอมที่ชื่นชอบสามารถทำเช่นนั้นได้
“ผมก็เคยลองกินนะเฮีย อร่อยดี แต่แม่งเมาสุดๆ” ดีฟว่าเช่นนั้น แล้วก็พูดต่อ “ผมว่าครั้งหน้านัดกันที่บ้านเฮียไคท์ดีปะ ให้ไอ้ขิมมันเอาโซจูดองคาราเมลมาก๊งกันดีกว่า”
“มึงพูดเหมือนไม่รู้จักพี่มึง มันเคยให้ใครไปที่บ้านมันรึไง” ธันวาเตือนความจำ ทั้งที่เขาเป็นเพื่อนสนิทไคท์มาตั้งแต่มัธยมปลายยังต้องขออนุญาตก่อน
“อะไรวะเฮีย คิดจะเปิดบ้านต้อนรับแต่สาวๆ เหรอ พวกผมเป็นน้องนะ”
“กูไม่ชอบให้ใครทำบ้านกูรก ถ้าพวกมึงไม่วุ่นวายเกินไปก็ไปได้”
“งั้นวันสิ้นเดือนหน้านัดกันที่บ้านเฮียแล้วกัน พวกผมไม่ทำบ้านเฮียรกแน่นอน”
“ถ้ามึงทำรกก็อย่าหวังว่าจะได้มาเหยียบบ้านกูอีก” ชายหนุ่มพูดอย่างจริงจัง
“แกก็อย่าลืมดองโซจูไว้ด้วยนะไอ้ขิม”
“ขิมต้องไปด้วยเหรอ” เพลงขิมชี้นิ้วเข้าหาตนเอง เนื่องจากเธอไม่ได้สนิทกับไคท์เป็นการส่วนตัว การไปในพื้นที่ของเขามันจึงดูเหมือนเป็นการรบกวนมากเกินไป
“นี่นัดตี้โซจูแกเลยนะ”
“จะดื่มกันเยอะไหมอะ ขิมจะได้รู้ว่าควรดองเยอะแค่ไหน”
“สักสองโหลก็พอ รอบที่แล้วโหลเดียวก็เมาเป็นหมากันหมดละ แต่เฮียไคท์คอแข็งน่าจะดื่มได้เยอะ”
“โอเค ขิมเข้าใจแล้ว” หญิงสาวพยักหน้าเป็นเชิงเข้าใจ “แต่มันอาจจะไม่เข้มข้นเหมือนครั้งที่แล้วนะพี่ดีฟ เพราะมีเวลาดองแค่ไม่กี่อาทิตย์เอง”
“เอาเท่าที่ได้นั่นแหละ”
“อื้อ”
ไคท์เหลือบมองคนตัวเล็กข้างๆ ที่หยิบลูกอมอีกเม็ดบนโต๊ะไปกินผ่านแววตายากจะคาดเดา นอกจากจะเห็นว่าเธอโปรดปรานลูกอมรสชาติเหมือนกับเขา ก็ยังมีกลิ่นหอมหวานบางอย่างโชยมาจากเสื้อผ้าที่เธอสวมใส่…และมันเป็นกลิ่นที่เขาชอบเช่นกัน
วันต่อมา…เพลงขิมกำลังนั่งอยู่ต่อหน้าผู้จัดการคลับหน้าตาสะสวย ซึ่งในคราแรกรู้สึกประหม่าที่ต้องเผชิญหน้าตามลำพัง แต่เมื่อเห็นรอยยิ้มสดใสอันแสนเป็นมิตรของเธอก็รู้สึกใจชื้น“ต้องการทำเป็นพาร์ตไทม์หรือทำเต็มเวลาเลยคะ”“ทำเต็มเวลาค่ะ”“จะทำไหวเหรอคะ อยู่ปีสี่คงเรียนหนักน่าดูเลย”ด้วยกลัวว่าถ้าไม่ตอบว่าไหว อีกฝ่ายอาจจะไม่รับเธอเข้าทำงาน “ขิมทำไหวค่ะ”“ไม่ต้องกลัวว่าพี่จะไม่รับเราเข้าทำงานหรอก พี่รับอยู่แล้ว”“ขอโทษค่ะ”“ไม่ใช่เรื่องที่ต้องซีเรียสขนาดนั้น” พันดาวคลี่ยิ้มให้หญิงสาวอายุน้อยกว่าอย่างใจดี “เอาเป็นว่าพี่รับเพลงขิมเข้าทำงานนะ ส่วนเรื่องการทำงานพี่จะให้น้ำมนต์ช่วยแนะนำเรา แต่ถ้ามีตรงไหนที่คิดว่าทำไม่ได้หรือทำไม่ไหวก็บอกพี่ได้ตามตรงเลย”“ขอบคุณพี่พันดาวมากนะคะที่รับขิมเข้าทำงาน” สองมือเรียวประนมไหว้อย่างอ่อนน้อม ซึ่งอีกฝ่ายก็ยกมือรับไหว้เธอ“ช่วงแรกงานอาจจะหนักนิดหน่อยนะ ถ้าปรับตัวได้ก็คงสบาย”แกร๊ก~“ทำอะไรอยู่ ทำไมส่งข้อความมาแล้วไม่ตอบ” เสียงเปิดประตูที่มาพร้อมกับคำถามของชายแปลกหน้าคนหนึ่ง ทำให้เพลงขิมหันมองด้วยความสงสัย“เค้าสัมภาษณ์พนักงานใหม่อยู่ มาร์คไปรอที่ห้องทำงานวิวก่อนก็
“ฮึก!” เสียงสะอื้นไห้ที่ดังมาตามสายลมเย็นฉ่ำช่วงเวลาโพล้เพล้ ทำให้เด็กหนุ่มวัยสิบสองปีถึงกับหยุดฝีเท้าของตนเอง ไรขนอ่อนทั้งร่างลุกเกลียวพร้อมกัน“ฮือออ~”ดวงตาสีนิลพยายามมองหาที่มาของเสียง จนกระทั่งเห็นปลายเท้าเรียวเล็กยื่นออกมาจากใต้สไลด์เดอร์กลางสนามเด็กเล่น เขาจึงค่อยๆ เดินเข้าไปดูว่าเจ้าของเสียงนั้นคือใครเป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กผิวขาวจัดนั่งก้มหน้ากอดเข่า ร่างกายสั่นเทาหนักจากการสะอึกสะอื้น เด็กหนุ่มเกิดความสงสัยว่าทำไมเด็กตัวเล็กแค่นี้ถึงมานั่งร้องไห้คนเดียว“ทำไมถึงร้องไห้ล่ะ”“ฮึก! ฮึก!” ใบหน้าจิ้มลิ้มนองน้ำตาเงยมองเจ้าของเสียงนุ่มทุ้มด้วยความตื่นตระหนก เธอพยายามขยับตัวออกห่างคนแปลกหน้า “ยะ…อย่ามายุ่งกับขิมนะ”ท่าทางกลัวคนแปลกหน้าของเด็กน้อยเรียกความเอ็นดูจากเด็กชายได้ไม่ยาก เขาย่อตัวนั่งลงแต่ยังคงเว้นระยะห่างจากเธอ“ให้พี่นั่งเป็นเพื่อนไหม”“…”“พี่มีลูกอมนะ” ว่าจบก็หยิบลูกอมคาราเมลจากกระเป๋าเสื้อส่งให้อีกฝ่าย แววตาสั่นไหวของเด็กหญิงเริ่มคล้อยตามลูกอมในมือของเขา “รับไปสิ พี่มีหลายเม็ดเลย”“ให้จริงเหรอคะ” เธออ้อมแอ้มพร้อมใช้มือเล็กปาดน้ำตาบนพวงแก้ม“ใช่สิ ลูกอมนี้จะทำให้หายเศร้
เพลงขิมขยับตัวลุกจากที่นอน พลางชะโงกหน้าลงไปมองเพื่อนสนิทร่วมหอพักที่นอนอยู่บนเตียงชั้นล่าง เพราะผมยาวสยายลงเป็นเงา ทำให้อีกฝ่ายถึงกับสะดุ้งตกใจจนขวัญแทบกระเจิง“ว๊าย! แม่มึงร่วง”“ตกใจอะไรขนาดนั้น”“นึกว่าผีหลอกกลางวันแสกๆ อย่าห้อยหัวลงมาแบบนี้ดิวะ” น้ำมนต์ยกมือทาบอก ก่อนจะยื่นมือไปกระตุกผมเพื่อนเบาๆ ด้วยความหมั่นไส้ “มีอะไร”“แกบอกว่าที่คลับของแกรับสมัครพนักงานเพิ่มใช่ไหม”“เออดิ ถามทำไม แกจะไปทำงานกับฉันเหรอ”“อือ อีกปีเดียวก็เรียนจบแล้ว ฉันว่าจะหางานพาร์ตไทม์ทำเพิ่ม กลัวเงินไม่พอช่วงที่เดินสายสมัครงานประจำ”“จะไม่ชนกับงานล้านแปดอย่างที่แกทำเหรอ?”“ฉันจัดสรรเวลาได้อยู่แล้ว” แค่ต้องนอนน้อยกว่าเดิมเท่านั้นเอง เพลงขิมได้แต่คิดในใจ“งั้นแกก็มาสมัครเลย เดี๋ยวฉันบอกพี่พันดาวให้”“พี่พันดาว? คือใคร?”“เป็นผู้จัดการร้านแล้วก็เป็นแฟนเจ้าของคลับนั่นแหละ ใจดีมาก ยังไงพี่เขาก็ต้องรับแกเข้าทำงานแน่”“จะให้ฉันไปสมัครวันไหนล่ะ”“พรุ่งนี้ก็ได้ เพราะวันนี้พี่ดีฟกับพี่เจมส์นัดพวกเราไป Code bar อีกอย่างฉันจะได้ส่งข้อความบอกผู้จัดการร้านก่อนด้วย“ก็เอาตามที่แกว่านั่นแหละ”“ฉันว่าแกลงมานั่งคุยดีๆ เหอะ
@Code Bar (19.45 น.) ร้านนั่งชิลล์ใกล้เคียงกับมหาวิทยาลัย เป็นสถานที่นัดพบระหว่างสายรหัส ‘Angel’ ของเพลงขิม และสายรหัส ‘Devil’ ของน้ำมนต์ ทุกปีรุ่นพี่จะนัดกินเลี้ยงสายรหัสเพื่อความแน่นแฟ้นสองถึงสามครั้ง แม้ว่าจะจบการศึกษากันไปแล้วก็ตามต่อให้ตอนนี้เพลงขิมจะเป็นรุ่นพี่สูงสุดของสาย แต่ก็ยังเหมือนเด็กน้อยในสายตารุ่นพี่คนอื่นอยู่ดี“พี่ดีฟอย่าชงให้ขิมเข้มมากดิ ขิมไม่อยากอ้วกนะ”“แกก็อ้วกทุกรอบอยู่แล้วป้ะ คิดจะอายตอนนี้ไม่ทันแล้ว”“พี่ดีฟให้ขิมมันกินเพียวเลย” น้ำมนต์ยุ“เออว่ะ วันนี้ยังไม่ได้ยกจอกร่วมสาบานเลย”“มึงรอยกดึกๆ หน่อย เดี๋ยววันนี้มีรุ่นพี่มาอีกสองคน”“ใครอะพี่ดีฟ นอกจากคนที่นั่งอยู่ตรงนี้ยังมีรุ่นพี่คนอื่นอีกเหรอ” เพลงขิมถามปู่รหัสของตนเองด้วยความสงสัย เพราะเวลามากินเลี้ยงสายรหัสจะมีสูงสุดไปจนถึงปู่รหัสของเธอก็คือดีฟเท่านั้น“เป็นปู่รหัสของพี่เอง กลับมาเรียน MBA ที่มหา’ ลัยเรา พี่ก็เลยชวนมาดื่มด้วยกัน พวกแกจะได้ทำความรู้จัก” ดีฟว่าพลางใช้นิ้วคนแก้วเหล้าของตนเอง“หล่อไหม” น้ำมนต์ถามตาเป็นประกาย“หล่อ รวย เป็นเจ้าของธุรกิจส่วนตัว”“แล้วมีเมียยัง?”“เหมือนจะเคยมี แต่เลิกไปแล้วมั้ง
วันต่อมา…เพลงขิมกำลังนั่งอยู่ต่อหน้าผู้จัดการคลับหน้าตาสะสวย ซึ่งในคราแรกรู้สึกประหม่าที่ต้องเผชิญหน้าตามลำพัง แต่เมื่อเห็นรอยยิ้มสดใสอันแสนเป็นมิตรของเธอก็รู้สึกใจชื้น“ต้องการทำเป็นพาร์ตไทม์หรือทำเต็มเวลาเลยคะ”“ทำเต็มเวลาค่ะ”“จะทำไหวเหรอคะ อยู่ปีสี่คงเรียนหนักน่าดูเลย”ด้วยกลัวว่าถ้าไม่ตอบว่าไหว อีกฝ่ายอาจจะไม่รับเธอเข้าทำงาน “ขิมทำไหวค่ะ”“ไม่ต้องกลัวว่าพี่จะไม่รับเราเข้าทำงานหรอก พี่รับอยู่แล้ว”“ขอโทษค่ะ”“ไม่ใช่เรื่องที่ต้องซีเรียสขนาดนั้น” พันดาวคลี่ยิ้มให้หญิงสาวอายุน้อยกว่าอย่างใจดี “เอาเป็นว่าพี่รับเพลงขิมเข้าทำงานนะ ส่วนเรื่องการทำงานพี่จะให้น้ำมนต์ช่วยแนะนำเรา แต่ถ้ามีตรงไหนที่คิดว่าทำไม่ได้หรือทำไม่ไหวก็บอกพี่ได้ตามตรงเลย”“ขอบคุณพี่พันดาวมากนะคะที่รับขิมเข้าทำงาน” สองมือเรียวประนมไหว้อย่างอ่อนน้อม ซึ่งอีกฝ่ายก็ยกมือรับไหว้เธอ“ช่วงแรกงานอาจจะหนักนิดหน่อยนะ ถ้าปรับตัวได้ก็คงสบาย”แกร๊ก~“ทำอะไรอยู่ ทำไมส่งข้อความมาแล้วไม่ตอบ” เสียงเปิดประตูที่มาพร้อมกับคำถามของชายแปลกหน้าคนหนึ่ง ทำให้เพลงขิมหันมองด้วยความสงสัย“เค้าสัมภาษณ์พนักงานใหม่อยู่ มาร์คไปรอที่ห้องทำงานวิวก่อนก็
เพราะถูกมองอย่างไม่หลบซ่อน ทำให้เจ้าของร่างสูงผินหน้ามาสบตากัน หากแต่สายตาของเขายังคงเรียบเฉย ด้วยเหตุนั้นจึงมีคนหนึ่งที่เบนสายตาหนี และคนนั้นก็คือ ‘เพลงขิม’พอกลายเป็นฝ่ายถูกมองบ้างก็ทำตัวไม่ถูก ครั้นจะหยิบแก้วเหล้าบนโต๊ะมาดื่มก็ไม่อยากขยับตัวมาก จึงทำได้แค่ล้วงลูกอมในกระเป๋าสะพายมากินแทนตอนแรกหญิงสาวไม่เชื่อคำบอกเล่าเต็มร้อยที่บอกว่า ‘รุ่นพี่’ คนนี้หล่อจนพานทำให้หัวใจกระตุก ทว่าตอนนี้เธอเชื่อสนิทใจแล้วว่ามันเป็นเรื่องจริง“พวกเฮียนั่งเลย เดี๋ยวผมแนะนำน้องให้รู้จัก”เนื่องด้วยเป็นร้านนั่งชิลล์ธรรมดาทั่วไป โต๊ะที่ทุกคนนั่งจึงไม่ได้กว้างมากเท่าที่ควร และเก้าอี้ก็ยังว่างอยู่ก็เหลือแค่สองที่ตามจำนวนคนไคท์กล่าวว่า “กูนั่งตรงนี้แล้วกัน” และนั่งลงที่เก้าอี้ข้างเพลงขิม โดยที่ปล่อยให้เพื่อนสนิทไปนั่งข้างรุ่นน้องของตนเอง “มึงไปนั่งข้างไอ้เจมส์”“ไอ้เด็กสองคนนี้เป็นหลานรหัสผมกับไอ้เจมส์ ผมสั้นชื่อน้ำมนต์ ส่วนผมยาวชื่อเพลงขิม”ขยับริมฝีปากอย่างไร้ซึ่งเสียงว่า “เพลงขิม” ก่อนจะเหลือบมองใบหน้าหวานชัดๆ อีกรอบ“ไอ้น้ำ ไอ้ขิม นี่เฮียไคท์กับเฮียธันวา”“สวัสดีค่ะพี่” น้ำมนต์กล่าวทักทายเป็นคำพูด ส่วนเพ
@Code Bar (19.45 น.) ร้านนั่งชิลล์ใกล้เคียงกับมหาวิทยาลัย เป็นสถานที่นัดพบระหว่างสายรหัส ‘Angel’ ของเพลงขิม และสายรหัส ‘Devil’ ของน้ำมนต์ ทุกปีรุ่นพี่จะนัดกินเลี้ยงสายรหัสเพื่อความแน่นแฟ้นสองถึงสามครั้ง แม้ว่าจะจบการศึกษากันไปแล้วก็ตามต่อให้ตอนนี้เพลงขิมจะเป็นรุ่นพี่สูงสุดของสาย แต่ก็ยังเหมือนเด็กน้อยในสายตารุ่นพี่คนอื่นอยู่ดี“พี่ดีฟอย่าชงให้ขิมเข้มมากดิ ขิมไม่อยากอ้วกนะ”“แกก็อ้วกทุกรอบอยู่แล้วป้ะ คิดจะอายตอนนี้ไม่ทันแล้ว”“พี่ดีฟให้ขิมมันกินเพียวเลย” น้ำมนต์ยุ“เออว่ะ วันนี้ยังไม่ได้ยกจอกร่วมสาบานเลย”“มึงรอยกดึกๆ หน่อย เดี๋ยววันนี้มีรุ่นพี่มาอีกสองคน”“ใครอะพี่ดีฟ นอกจากคนที่นั่งอยู่ตรงนี้ยังมีรุ่นพี่คนอื่นอีกเหรอ” เพลงขิมถามปู่รหัสของตนเองด้วยความสงสัย เพราะเวลามากินเลี้ยงสายรหัสจะมีสูงสุดไปจนถึงปู่รหัสของเธอก็คือดีฟเท่านั้น“เป็นปู่รหัสของพี่เอง กลับมาเรียน MBA ที่มหา’ ลัยเรา พี่ก็เลยชวนมาดื่มด้วยกัน พวกแกจะได้ทำความรู้จัก” ดีฟว่าพลางใช้นิ้วคนแก้วเหล้าของตนเอง“หล่อไหม” น้ำมนต์ถามตาเป็นประกาย“หล่อ รวย เป็นเจ้าของธุรกิจส่วนตัว”“แล้วมีเมียยัง?”“เหมือนจะเคยมี แต่เลิกไปแล้วมั้ง
เพลงขิมขยับตัวลุกจากที่นอน พลางชะโงกหน้าลงไปมองเพื่อนสนิทร่วมหอพักที่นอนอยู่บนเตียงชั้นล่าง เพราะผมยาวสยายลงเป็นเงา ทำให้อีกฝ่ายถึงกับสะดุ้งตกใจจนขวัญแทบกระเจิง“ว๊าย! แม่มึงร่วง”“ตกใจอะไรขนาดนั้น”“นึกว่าผีหลอกกลางวันแสกๆ อย่าห้อยหัวลงมาแบบนี้ดิวะ” น้ำมนต์ยกมือทาบอก ก่อนจะยื่นมือไปกระตุกผมเพื่อนเบาๆ ด้วยความหมั่นไส้ “มีอะไร”“แกบอกว่าที่คลับของแกรับสมัครพนักงานเพิ่มใช่ไหม”“เออดิ ถามทำไม แกจะไปทำงานกับฉันเหรอ”“อือ อีกปีเดียวก็เรียนจบแล้ว ฉันว่าจะหางานพาร์ตไทม์ทำเพิ่ม กลัวเงินไม่พอช่วงที่เดินสายสมัครงานประจำ”“จะไม่ชนกับงานล้านแปดอย่างที่แกทำเหรอ?”“ฉันจัดสรรเวลาได้อยู่แล้ว” แค่ต้องนอนน้อยกว่าเดิมเท่านั้นเอง เพลงขิมได้แต่คิดในใจ“งั้นแกก็มาสมัครเลย เดี๋ยวฉันบอกพี่พันดาวให้”“พี่พันดาว? คือใคร?”“เป็นผู้จัดการร้านแล้วก็เป็นแฟนเจ้าของคลับนั่นแหละ ใจดีมาก ยังไงพี่เขาก็ต้องรับแกเข้าทำงานแน่”“จะให้ฉันไปสมัครวันไหนล่ะ”“พรุ่งนี้ก็ได้ เพราะวันนี้พี่ดีฟกับพี่เจมส์นัดพวกเราไป Code bar อีกอย่างฉันจะได้ส่งข้อความบอกผู้จัดการร้านก่อนด้วย“ก็เอาตามที่แกว่านั่นแหละ”“ฉันว่าแกลงมานั่งคุยดีๆ เหอะ
“ฮึก!” เสียงสะอื้นไห้ที่ดังมาตามสายลมเย็นฉ่ำช่วงเวลาโพล้เพล้ ทำให้เด็กหนุ่มวัยสิบสองปีถึงกับหยุดฝีเท้าของตนเอง ไรขนอ่อนทั้งร่างลุกเกลียวพร้อมกัน“ฮือออ~”ดวงตาสีนิลพยายามมองหาที่มาของเสียง จนกระทั่งเห็นปลายเท้าเรียวเล็กยื่นออกมาจากใต้สไลด์เดอร์กลางสนามเด็กเล่น เขาจึงค่อยๆ เดินเข้าไปดูว่าเจ้าของเสียงนั้นคือใครเป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กผิวขาวจัดนั่งก้มหน้ากอดเข่า ร่างกายสั่นเทาหนักจากการสะอึกสะอื้น เด็กหนุ่มเกิดความสงสัยว่าทำไมเด็กตัวเล็กแค่นี้ถึงมานั่งร้องไห้คนเดียว“ทำไมถึงร้องไห้ล่ะ”“ฮึก! ฮึก!” ใบหน้าจิ้มลิ้มนองน้ำตาเงยมองเจ้าของเสียงนุ่มทุ้มด้วยความตื่นตระหนก เธอพยายามขยับตัวออกห่างคนแปลกหน้า “ยะ…อย่ามายุ่งกับขิมนะ”ท่าทางกลัวคนแปลกหน้าของเด็กน้อยเรียกความเอ็นดูจากเด็กชายได้ไม่ยาก เขาย่อตัวนั่งลงแต่ยังคงเว้นระยะห่างจากเธอ“ให้พี่นั่งเป็นเพื่อนไหม”“…”“พี่มีลูกอมนะ” ว่าจบก็หยิบลูกอมคาราเมลจากกระเป๋าเสื้อส่งให้อีกฝ่าย แววตาสั่นไหวของเด็กหญิงเริ่มคล้อยตามลูกอมในมือของเขา “รับไปสิ พี่มีหลายเม็ดเลย”“ให้จริงเหรอคะ” เธออ้อมแอ้มพร้อมใช้มือเล็กปาดน้ำตาบนพวงแก้ม“ใช่สิ ลูกอมนี้จะทำให้หายเศร้