แชร์

สวมรอยครั้งที่ 06

ผู้เขียน: youdimple
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-14 20:31:40

สวมรอยครั้งที่ 06

Shuu part

"มีอะไรหรือเปล่าครับ"

ผมถามขึ้นหลังจากเดินขึ้นบันไดมาเห็นท้องฟ้าตัวปลอมกำลังยืนคิ้วขมวด โดยมีพี่เฌอยืนอยู่หน้าห้องของตัวเองพอมองเข้าไปในห้องพี่เฌอ ก็เห็นคนใช้กำลังวุ่นอยู่กับการหาของอะไรสักอย่าง

"เข็มกลัดที่คุณพ่อให้พี่มันหายไปไหนไม่รู้" พี่เฌอตอบเสียงเครียด

"ลองค้นห้องท้องฟ้าดูไหมครับ เขาอาจจะเอาไปก็ได้" ผมบอกพี่เฌอพร้อมกับหันไปมองคนที่ทำหน้าเครียดอยู่

"ผมไม่ได้เอาไป" เขารีบตอบทันควัน

"ถ้าบริสุทธิ์ใจก็ให้ค้นสิ" ผมบอกแล้วเดินไปมองเขาอย่างจับผิด คนผมทองจิ๊ปากเหมือนขัดใจอะไรสักอย่าง ก่อนที่เขาจะมองผมกับพี่เฌอสลับกันไปมา

"ถ้างั้นก็เชิญครับ"

ร่างเพรียวเดินหลบให้ทุกคนเข้าไปค้นห้องตัวเอง และผมก็เพิ่งสังเกตว่าเขายังสะพายกระเป๋านักเรียนอยู่ เพิ่งกลับมาเหรอ? แต่โรงเรียนเลิกตั้งนานแล้วนี่ ทำไมถึงเพิ่งกลับ

"เจอแล้วค่ะ" แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้เอ่ยถาม คนใช้คนหนึ่งก็เดินเข้ามาพร้อมกับเข็มกลัดเจ้าปัญหาแล้วส่งมันให้พี่เฌอ ส่วนท้องฟ้าตัวปลอมก็ทำหน้าตกใจออกมาอย่างเห็นได้ชัด

"นั่นไง นายเอาไปจริงๆ ด้วย" ผมว่าแต่เขากลับตวัดสายตามองค้อนผม

"พี่ใส่ร้ายผม!" ท้องฟ้าตัวปลอมโวยวายเสียงดังลั่นพร้อมกับเดินมากระชากคอเสื้อผมจนผมเซเล็กน้อย

"ฉันไม่ได้ทำ" ผมบอกไปตามความจริง ถึงจะอยากจะให้เขาออกจากบ้าน แต่ผมไม่มีทางใช้วิธีสกปรกแบบนั้นแน่ๆ

"นี่ไม่ใช่ของพี่นี่ ถึงจะเหมือน แต่พี่จำได้ ของพี่ตรงด้านหลังมันมีรอยด้วยแต่อันนี้ไม่มี"

พี่เฌอที่กำลังพิจารณาเข็มกลัดในมือพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงผิดหวัง จนเราทั้งคู่ต้องหันไปมองและมือเรียวก็ยังคงจับคอเสื้อผมแน่น ถ้าพี่เฌอไม่พูดขัดก่อน เขาคงต่อยหน้าผมไปแล้ว

"ของปลอมเหรอครับ" ผมถามอย่างแปลกใจ เข็มกลัดอันนั้นผมจำได้ว่าพ่อน่าจะสั่งทำพิเศษ มันไม่น่ามีใครทำของปลอมออกมาได้นะ

"แต่ค้นจนทั่วแล้วเจอแต่อันนี้นะคะ" คนใช้คนที่เอามาให้พี่เฌอพูดเสริม

"ช่างเถอะ ตอนนี้สายแล้ว ขอโทษนะท้องฟ้าที่พี่สงสัยเรา" พี่เฌอพูดขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์หลังจากมองดูนาฬิกาข้อมือว่าถึงเวลาที่ต้องไปงานเลี้ยงแล้ว และไม่ลืมที่จะเงยหน้ามาขอโทษร่างเพรียวที่เพิ่งจะปล่อยมือออกจากคอเสื้อผม

"ไม่เป็นไรครับ"

"งั้นไปกันเถอะ" พี่เฌอหันไปบอกคนใช้แล้วหันมายิ้มให้พวกเราทั้งคู่

"ไม่ใส่เหรอคะคุณหนู"

"ใครจะอยากใส่ของปลอมกัน พี่ไปก่อนนะ"

ผมโบกมือลาพี่เฌอ รอจนเธอลงบันไดออกไปจนพ้นสายตาแล้วถึงได้หันมามองคนที่ยังหน้าดำหน้าแดงจากอารมณ์ขุ่นเคืองอยู่

"พี่เป็นคนใส่ร้ายผมใช่ไหม พี่เป็นคนเอามันมาไว้ในห้องผม" เขากดเสียงต่ำตอนนี้เขาเหมือนคนที่กำลังพยายามสกัดกั้นอารมณ์โกรธ ทั้งที่มันแสดงออกทางสีหน้าเขาออกมาหมดแล้ว

"ไม่ใช่ฉัน"

"ไม่ใช่พี่แล้วจะเป็นใคร"

คนตรงหน้าคงสงสัยผมเพราะผมเคยเข้าไปในห้องเขา ซึ่งผมไม่ได้ทำแน่นอน ผมสาบานได้เลย ต่อให้เกลียดเขามากแค่ไหน ผมก็ไม่ใช่วิธีทุเรศแบบนั้นแน่

"จะไปรู้หรือไง"

"มีแต่พี่นั่นแหละที่คิดแผนสกปรกแบบนี้ได้"

ตอนนี้ผมก็ชักจะโมโหกับคนที่เอาแต่บอกว่าผมเป็นคนทำอยู่นั่น บอกว่าไม่ได้ทำก็ยังไม่เชื่ออีก

"แผนสกปรก? คนอย่างนายมีสิทธิ์พูดแบบนี้หรือไง" ผมตอบกลับไปอย่างเหลืออด

"คนอย่างผมมันก็ดีกว่าคนอย่างพี่ อยากให้ผมออกไปจากบ้านหลังนี้จนลงทุนทำเรื่องเลวๆ แบบนี้ได้ ถ้าพี่เฌอแยกไม่ออก แผนพี่ก็คงสำเร็จไปแล้วสิ" ตอนนี้เป็นผมบ้างที่โมโหจนกระชากคอเสื้อเขา แต่คนคนนี้ไม่เคยเกรงกลัวผมสักนิด เขาดูชอบด้วยซ้ำที่ทำให้คนอย่างผมโมโหได้

"สมน้ำหน้านะครับที่มันไม่สำเร็จ"

"ฉันบอกว่าไม่ได้ทำ!" ผมตวาดใส่คนที่ไม่ยอมเชื่อเสียงดังลั่น ตอนนี้ผมเริ่มจะเดือดและเขาเองก็คงไม่ต่างกัน เราทั้งคู่มองหน้ากันด้วยความรู้สึกที่ต่างฝ่ายต่างรู้สึกโมโห จนกระทั่งได้ยินเสียงเหมือนประตูห้องใครสักคนเปิดผมจึงผลักตัวเขาจนกระเด็นไปกระแทกกับผนังหน้าห้อง

"มีอะไรกันหรือเปล่าครับ" เป็นชินที่เดินออกมามองพวกเราทั้งคู่สลับกันไปมา

"เปล่าไม่มีอะไร" ท้องฟ้าหันไปตอบชินแล้วกลับเข้าห้องตัวเอง เขามองหน้าผมด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยโทสะก่อนจะปิดประตูเสียงดังลั่น และผมเองก็เดินกลับเข้าห้องตัวเองเช่นกัน ไม่ได้หันไปพูดคุยอะไรกับน้องชายคนเล็กของบ้านที่ยังทำหน้างงอยู่

ผมยังโมโหเรื่องเมื่อคืนไม่หายกับไอ้เด็กที่มันไม่ฟังอะไรเลย แถมเมื่อเช้ามันยังมองแรงใส่ผมก่อนไปเรียนอีก

ผมเดินเข้ามาในห้องทำงานและวันนี้ถือเป็นโชคดีของผมที่คุณเลขาลางานตอนเช้าทำให้ผมสามารถทำตัวชิลได้เต็มที่

วันนี้ผมตั้งใจนัดนักสืบมาเพื่อให้ช่วยหาข้อมูลของท้องฟ้าตัวปลอมให้ และหาว่าตอนนี้ท้องฟ้าตัวจริงอยู่ที่ไหน

ผมนั่งจมอยู่กับกองเอกสารได้ไม่นานคนที่ผมนัดก็มาถึง นักสืบร่างหนาเดินเข้ามานั่งที่เก้าอี้ตรงข้ามกับผม

"มีอะไรให้ผมรับใช้ครับ" เสียงทุ้มเอ่ยถามทันที

"ช่วยสืบเกี่ยวกับคนคนนี้ให้หน่อยครับ"

ผมบอกพร้อมกับหยิบรูปของท้องฟ้าตัวปลอมที่ผมแอบถ่ายยื่นให้กับเขา พร้อมกับรูปสเกตช์ของท้องฟ้าตัวจริงตอนเด็กที่ผมพอจะจำได้ เพื่อให้เขาช่วยหาคนที่คล้ายๆ กับท้องฟ้า

นักสืบหยิบรูปบนโต๊ะขึ้นไปพิจารณาเขามองทั้งรูปถ่ายและรูปสเกตช์ของผมสลับกันไปมา ก่อนจะพยักหน้าให้ผม

"ได้ครับ ไม่เกินหนึ่งอาทิตย์นะครับ"

"ครับ หลังงงานเสร็จผมจะโอนเงินให้"

ผมบอกพร้อมกับเดินไปส่งนักสืบที่หน้าห้อง พอดีกับที่คุณเลขากลับมาจากธุระพอดี โจเซฟมองตามร่างหนาของนักสืบไปจนสุดสายตาแล้วหันมามองหน้าผม

"ใครเหรอครับ"

"เปล่าครับ คุณเลขามีอะไรหรือเปล่าครับ" ผมชิงเปลี่ยนเรื่องเมื่อเห็นว่าคุณเลขาถือกระดาษอะไรสักอย่างในมืออยู่

"เอาเอกสารมาให้ครับ" คุณเลขายื่นกระดาษให้กับผม ผมหยิบขึ้นมาอ่าน มันเป็นเอกสารเกี่ยวกับสัญญาของนักแสดงที่กำลังจะหมดสัญญา ซึ่งมีประมาณสองสามคน

หลังจากรับเอกสารผมก็เดินตรงกลับเจ้าไปในห้อง วางเอกสารไว้บนโต๊ะก่อนจะเงยหน้ามองโจเซฟ

"ผมขอถามอะไรหน่อย"

"ครับ"

"คุณแน่ใจเหรอครับ ว่าผล DNA เป็นของจริง"

"ของจริงแน่นอนครับ ผมตรวจสอบแล้ว"

โจเซฟทำหน้ามั่นใจสายตาเขาดูจริงจังเหมือนกำลังจะบอกผมว่าเขาตรวจสอบมาหมดแล้ว ผลตรวจเป็นความจริง แต่ผมไม่เชื่อ มีแวบนึงที่ผมคิดว่าคุณเลขาร่วมมือกับท้องฟ้าตัวปลอมด้วยซ้ำ แต่เขาคงไม่มีเหตุผลที่ต้องทำแบบนั้น

"คุณมีอะไรหรือเปล่าครับ ยังสงสัยอยู่เหรอครับ"

โจเซฟเอียงคอถามเมื่อเห็นผมมองเขาอย่างใช้ความคิด

"นิดหน่อยครับ" ผมยิ้มบางตอบกลับโจเซฟแล้วหันมามองเอกสารต่อ โจเซฟไม่บอกไม่เป็นไร ถ้านักสืบได้ข้อมูลมาเมื่อไหร่ ผมก็คงจะรู้เองว่าเขาเป็นใคร และโจเซฟมีส่วนเกี่ยวข้องหรือเปล่า ถ้ารู้ว่าเกี่ยวข้องกันผมไม่เก็บเขาไว้แน่ ถึงจะเป็นคนสนิทของคุณพ่อก็ตาม

"คุณชูคะ เกิดเรื่องแล้วค่ะ"

พนักงานหน้าห้องวิ่งตรงเข้ามาหาผมหน้าตาตื่นจนผมกับโจเซฟต้องหันไปมองเธอ

และก็ได้รู้ว่ามีคนมาโวยวายอยู่ชั้นหนึ่ง ตอนนี้ยามกำลังจับตัวเอาไว้อยู่ ผมและโจเซฟจึงรีบลงลิฟต์ไปชั้นหนึ่งด้วยความรวดเร็ว พอเดินออกจากลิฟต์ก็เห็นคนตัวสูงประมาณผม กำลังยืนโวยวายโดยมียามสองคนพยายามลากตัวเขาออกไปอยู่

"ปล่อย บอกให้ปล่อย!" เขาโวยวายเสียงดังลั่น พนักงานคนอื่นก็มายืนมุงดูแต่ไม่มีใครกล้าเข้ามาใกล้ ผมจึงเลือกที่จะเดินเข้าไปเอง

"เกิดอะไรขึ้นครับ" ผมเดินไปถามยาม

"เขามาโวยวายเรื่องที่แฟนเขาฆ่าตัวตายครับ" ยามคนหนึ่งตอบพร้อมกับพยายามจับคนที่ดิ้นไม่หยุด

"แล้วเกี่ยวอะไรกับพวกเราเหรอครับ" ผมถามอย่างไม่เข้าใจ แฟนเขาตายแล้วเกี่ยวอะไรกับพวกเราเหรอ

"แฟนเขาคือใครครับ" เป็นโจเซฟที่พูดขึ้น

"โมบี ค่ะ" พนักงานสาวคนหนึ่งเดินมากระซิบกับเราทั้งคู่เสียงเบา โจเซฟพยักหน้าแล้วเริ่มประมวลผล ก่อนจะเอ่ยพูดกับผมเสียงเรียบ

"เขาเคยมีข่าวไม่ดี พ่อของคุณก็เลยไม่ต่อสัญญาครับ แล้วเธอฆ่าตัวตายไปเมื่ออาทิตย์ก่อน" ผมพยักหน้าเข้าใจกับข้อมูลที่ได้รับ

"ผมขอคุยกับเขาหน่อยครับ"

"แต่คุณชูครับ"

"ไม่เป็นไร"

ผมหันไปบอกโจเซฟก่อนจะเดินไปประจันหน้ากับคนตัวสูงผมยาวประบ่าผมสีควันบุหรี่ที่ยังจ้องผมเขม็ง แล้วหันหน้าไปบอกยามทั้งสองคนให้ปล่อยตัวเขา

"กูต้องเสียแฟนไปเพราะพวกมึง พวกมึงไม่คิดจะรับผิดชอบหน่อยเหรอฮะ!" เขาชี้หน้าตะโกนใส่ผมทันทีที่ถูกปล่อยตัว ทำให้ผมได้กลิ่นแอลกอฮอล์ออกมาจากตัวเขาจนผมต้องย่นจมูก

"คุณเมาแล้วนะครับ" ผมบอกเขาเสียงเรียบ

"แฟนคุณฆ่าตัวตายเพราะไม่มีใครอยากจ้างเธอ เธอทำตัวของเธอเอง" ผมพูดออกมาตามความจริง ถึงจะไม่ค่อยได้ดูข่าวบันเทิงแต่ก็พอได้ยินบ้างว่าโมบี มีข่าวทำร้ายร่างกายเพื่อนกับแฟนเก่าสมัยมัธยมจนโดนแฉ และถูกเลิกจ้างงาน ถูกบริษัทฉีกสัญญา งานหาย อนาคตในวงการดับลงทันทีจนเธอเลือกที่จะผูกคอตัวเองจบชีวิตลง

"แต่พวกมึงก็ควรออกมาปกป้องเขา" คนเมาพูดขึ้นน้ำเสียงดูน่าเวทนา

"จะให้ผมปกป้องคนผิด? คุณว่ามันไม่แปลกหน่อยเหรอ" ผมพูดตามความจริง จะให้บริษัทปกป้องคนผิด บริษัทก็ต้องเสียหายไปด้วย 

สู้ยุติสัญญากับเธอ และดันคนใหม่ขึ้นมาแทนไม่ดีกว่าเหรอ วงการบันเทิงมันก็แบบนี้ ถ้าคุณล้มก็มีคนที่พร้อมจะมาแทนที่คุณ

"มึง!" แฟนเก่าของโมบีจะตรงเข้ามากระชากคอเสื้อผมแต่ยามไวกว่าจึงคว้าเขาไว้ได้ทันเขาพยายามดิ้นแต่ก็ไม่เป็นผล

"จับตัวเขาออกไป" โจเซฟออกคำสั่งและยามก็รีบดึงเขาออกไป

"มึงคอยดู กูจะกลับมาแก้แค้นมึงแน่" ก่อนออกไปเขาก็ขู่เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะโดนยามโยนออกไปนอกประตูบริษัท ผมเห็นสายตาเขาที่มองมาที่ผมด้วยความโกรธแค้น ก่อนที่เขาจะเดินหนีหายไป

"ถ้าเขามาวุ่นวายอีก แจ้งตำรวจได้เลยนะครับ"

"ได้ค่ะ"

ผมหันไปบอกพนักงานแล้วก็เดินกลับเข้าไปทำงาน เรื่องแบบนี้ไม่เห็นจำเป็นต้องถึงมือผม ยามแค่ลากเขาไปก็จบแล้ว แต่ได้ข่าวว่าเขามายืนอยู่หน้าบริษัททุกวันแต่ไม่เข้ามา แต่วันนี้เลือกที่จะเข้ามาเพราะเมาละมั้ง แต่ถึงยังไงก็น่าจะต้องลองเพิ่มความปลอดภัยซะแล้ว เผื่อเขาบุ่มบ่ามมาทำอะไรแล้วจะยุ่ง

ผมเดินเข้ามาในผับหรูใจกลางเมืองแสงไฟหลากสีและเสียงเพลงดังลั่นจนแทบจะไม่ได้ยินเสียงคุยกัน ผู้คนต่างขยับร่างกายไปตามจังหวะของเพลง ผมเดินขึ้นไปยังโซนสำหรับแขกพิเศษที่เพื่อนสนิทจองเอาไว้เหมือนกับทุกครั้งที่มา

"ว่าไงมึง เป็นไรหน้าเครียด" เสียงเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวเอ่ยทักทันทีที่ผมเดินเข้ามาร่วมโต๊ะกับมัน

"มีเรื่องให้คิดนิดหน่อย" สงสัยผมคงจะทำหน้าเครียดมากไปจนคนที่กำลังจะกระดกแก้วเหล้าเข้าปากจ้องมาที่ผม

"ไม่นิดมั้งคิ้วขมวดขนาดนี้" ผมถอนหายใจออกมาก่อนจะเล่าให้มันฟังเกี่ยวกับคนที่ปลอมตัวเข้ามาเป็นน้องชายคนละแม่ของผม ไม่พอผมยังเคยมีอะไรกับเขาอีก

"ให้กูสืบให้มั้ย"

"ได้เหรอ"

"เอ่าคุณชู คุณลืมเหรอว่ามีเพื่อนเป็นมาเฟีย ผมสืบให้คุณได้ทุกเรื่องแหละ ส่งรูปมา" มันว่าพร้อมยึดอกอย่างภาคภูมิกับความเป็นมาเฟียของมัน จริงๆ จะบอกว่ามันเป็นมาเฟียก็คงไม่ถูก เพราะคนที่เป็นคือพ่อมันต่างหาก พ่อมันเป็นมาเฟีย ธุรกิจมืดในประเทศเกือบครึ่งก็เป็นของบ้านมัน แต่ตำรวจก็ไม่เคยจับมันได้เลย อย่างว่า เราอยู่ในประเทศที่เงินชนะทุกสิ่งนี่

"ขอบใจ" ผมหันไปตอบและมันก็หยักคิ้วให้ก่อนจะหันไปรินเหล้าให้ผม เราทั้งคู่ดื่มกันไปเงียบๆ ก่อนที่มันจะมองไปยังโซนเต้นของผับที่มีคนมากมายหลายตากำลังเต้นกันอยู่

"มึง เดี๋ยวมา" มันว่าทั้งที่สายตายังคงมองไปยังจุดเดิม

"ไปไหน"

"จับแมว"

"มีแมวในผับด้วยเหรอ" ผมแกล้งถามมัน

"เออ มี"

แมวยั่วสวาทล่ะสิไม่ว่า ผมได้แต่เถียงมันในใจแล้วส่ายหน้าไปมา แค่มองก็รู้แล้วว่าจงใจไปหาเหยื่อกลับไปด้วยสักคน ผมรู้ เพราะผมก็เคยทำบ่อย แค่วันนี้ไม่มีอารมณ์ที่จะลากใครกลับแค่นั้น

ผมก็เลยนั่งดื่มไปเงียบๆ มีคนเดินมาขอชนแก้วบ้างแต่ผมก็ทำเพียงแค่ชนแก้ว ไม่ได้คุยหรือสานต่ออะไร ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ตัวเองขึ้นมาดู ตอนนี้เป็นเวลาเกือบเที่ยงคืนแล้ว ผมควรกลับ

มึงกลับเลยนะ กูเจอแมวแล้ว

ผมแสยะยิ้มให้กับข้อความของเพื่อนตัวดีที่หนีเพื่อนไปหาแมว ก่อนที่ตัวเองก็จะขอตัวกลับบ้าง

ผมเดินออกมานอกผับแต่สายตาก็ดันมองไปเห็นเพื่อนสนิทกำลังวิ่งไล่จับใครสักคนอยู่ ดูเหมือนว่าแมวตัวนี้จะไม่เชื่องเหมือนตัวอื่นสินะ ผมเกือบจะทำเป็นไม่สนใจแล้ว แต่ใบหน้าของคนที่กำลังวิ่งหนีเพื่อนผมมันคุ้นตาเสียเหลือเกิน

"พี่ชู" ท้องฟ้าตัวปลอมที่อยู่ในชุดคล้ายพนักงานเสิร์ฟวิ่งเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าผม เขาเบิกตากว้างตอนที่เห็นผม แต่ก็วิ่งมาหลบหลังผมในตอนที่ผืนป่าวิ่งมาใกล้

"มึงรู้จักเหรอชู" ผืนป่าถามผมพร้อมยืนหอบ ผมมองคนผมทองกับเพื่อนสนิทสลับไปมา ก่อนจะหยุดมองคนที่จับเสื้อผมแล้วส่งสายตาขอความช่วยเหลือมาให้

"คนนี้ของกู มึงไปหาคนอื่นไป" ผมไล่มันและผืนป่าก็ทำหน้าผิดหวังแต่ด้วยความที่เราทั้งคู่สัญญากันแล้วว่าจะไม่มีทางทับไลน์กัน มันถึงเป็นฝ่ายยอมแพ้แล้วเดินถอยไป

"ขอบคุณครับ"

"ขึ้นรถ เรามีเรื่องต้องคุยกัน"

บทที่เกี่ยวข้อง

  • INVINCIBLE LOVE.สายลับสวมรอยรัก   สวมรอยครั้งที่ 07

    สวมรอยครั้งที่07Seiya partบรรยากาศในรถอึดอัดจนน่าขนลุก ทั้งที่เขาเป็นคนบอกผมว่ามีเรื่องจะคุยด้วย แต่ตัวเองกลับเอาแต่นั่งเงียบตลอดทางแถมทำหน้านิ่งจนผมคาดเดาอารมณ์ไม่ถูกอีกในใจเขาคงมีคำถามว่าทำไมผมถึงไปอยู่ในผับจนเกือบโดนผู้ชายตัวใหญ่ที่คาดว่าจะเป็นคนรู้จักของพี่ชูลากเข้าโรงแรมได้ ก็คงต้องย้อนไปประมาณสักห้าชั่วโมงก่อนผมได้รับโทรศัพท์จากลูอิสเกี่ยวกับภารกิจสำคัญที่ลูอิสรับเอาไว้ แต่จอมโจรไนท์บลูมันดันออกมาเสียก่อน ลูอิสจึงขอร้องให้ผมมาทำภารกิจนี้แทนหนึ่งวัน จะให้ผมไปจับจอมโจรไนท์บลูแทนก็กลัวว่าผมจะถูกหัวหน้าและคนในองค์กรจับได้ว่าแอบมาปฏิบัติหน้าที่ทั้งที่โดนพักงานอยู่ แล้วผมอาจจะซวยจนโดนไล่ออกผมจึงต้องจำใจแอบออกจากบ้านมาปลอมตัวเป็นเด็กเสิร์ฟที่นี่ เพื่อหาตัวเป้าหมายให้ลูอิส มันเป็นแค่ภารกิจจับชู้ธรรมดานั่นแหละ ปกติลูอิสมันคงไม่รับหรอก แต่คงเพราะเงินหนามันถึงได้ยอมรับ แต่คอยดูเถอะถ้าภารกิจสำเร็จผมทวงส่วนแบ่งเก้าสิบเปอร์เซ็นต์แน่"ไปต่อกันไหมครับ" เสียงของผู้ชายคนหนึ่งพูดขึ้นมาหลังจากที่ผ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-28
  • INVINCIBLE LOVE.สายลับสวมรอยรัก   สวมรอยครั้งที่ 01

    สวมรอยครั้งที่ 01seiya partสายลับผู้ไร้เทียมทานนั่นคือฉายาของผม ฉายาที่ใครต่อใครต่างเรียกผมแบบนั้น แรกๆ มันเป็นฉายาที่น่าภูมิใจนะ สำหรับผม แต่พอหันหลังกลับไปผมถึงพบว่า คำว่าไร้เทียมทานมันแลกมาด้วยความเหงา และความโดดเดี่ยวเพราะคำคำนี้มันเหมือนเป็นตัวยืนยันคุณภาพงานของผม แค่มีผมทุกอย่างก็จะสมบูรณ์แบบ ผมไม่เคยทำภารกิจพลาดเลยสักครั้งตั้งแต่มาเป็นสายลับ และไม่เคยร้องขอให้ใครมาช่วย ผมจัดการทุกอย่างได้ด้วยตัวคนเดียวเสมอปัง!ผมยิงเหนี่ยวไกใส่จอมโจรชุดสีดำรัตติกาลที่กำลังวิ่งอยู่บนโถงทางเดินของโรงแรมหรูที่ใช้เป็นสถานที่จัดแสดงอัญมณีล้ำค่าจากหลากหลายประเทศคนที่อยู่ในชุดเสื้อคลุมสีดำเข้มหันมายิงปืนไพ่ใส่ผมที่กำลังวิ่งตามมัน แต่ผมก็สามารถเอี้ยวตัวหลบได้จู่ๆ ก็เกิดควันสีชมพูกระจายทั่วโถงทางเดิน ผมรีบเอาผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าขึ้นมาปิดจมูกมันคือควันยาสลบ หนึ่งในกลอุบายที่จอมโจรในชุดคลุมสีดำใช้“จอมโจรไนท์บลูอยู่ตรงนั้น”เสียงทุ้มของหนึ่งในลูกน้องของผมดังขึ้นในตอนที่ จอมโจรไนท์บลู อาชญากรที่เลวร้ายที่สุดในมิลาน ณ เวลานี้ กำลังวิ่งขึ้นไปบนดาดฟ้า มันมักจะออกปล้นร้านเพชรในช่วงเวลากลางคืนด้วยชุดคลุ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-23
  • INVINCIBLE LOVE.สายลับสวมรอยรัก   สวามรอยครั้งที่ 02

    สวมรอยครั้งที่ 02Shuu partเสียดายความรู้สึกแรกที่ตื่นขึ้นมาจนถึงตอนนี้ ผมกำลังรู้สึกเสียดายที่ไม่ได้ทำความรู้จักกับเขามากกว่าการมีเซ็กส์ เพราะตื่นขึ้นมาเขาก็ไม่อยู่ในโรงแรมแล้ว อุตส่าห์เจอคนถูกใจตรงสเปกทุกอย่าง แถมรสนิยมเซ็กส์ของเขาก็น่าสนใจจนทำผมคลั่งทั้งคืน แต่กลับไม่มีโอกาสได้สานต่อ พอยิ่งคิดก็ยิ่งเสียดายผมเก็บของเช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรมและจากนั้นผมมักไปที่ผับเดิมตลอดสองอาทิตย์เพื่อหวังว่าจะเจอเขา แต่ก็พบแต่ความว่างเปล่า เขาไม่ได้กลับมาที่ผับนี้อีกเลย แม้แต่คนตัวสูงอีกคนที่ผมเดาว่าน่าจะเป็นเพื่อนเขาผมก็ไม่เห็นแม้แต่เงา สุดท้ายก็จนปัญญาและจบที่นั่งกินเหล้าคนเดียวเหงาๆ เหมือนกับทุกวันและเพราะถูกเรียกตัวให้กลับประเทศไทยด่วนผมจึงไม่มีโอกาสได้ตามหาตัวเขาต่อ มันยิ่งทำให้รู้สึกเสียดายยิ่งกว่าเดิมอีก“ถึงบ้านแล้วครับคุณชาย”เสียงของเลขาส่วนตัวที่ตอนนี้กำลังทำหน้าที่เป็นคนขับรถให้กับคุณชายคนกลางของบ้านพูดขึ้นมา ทำให้ผมที่กึ่งหลับกึ่งตื่นอยู่ที่เบาะหลังต้องยันตัวลุกขึ้นก่อนจะสะบัดหัวไปมาไล่ความมึนงงในหัวของตัวเองออกไป ผมอุตส่าห์ดื่มเหล้าแล้วบอกว่าแฮงค์จะได้ไม่ต้องมาบ้านหลังนี้ แต่สุดท้ายก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-23
  • INVINCIBLE LOVE.สายลับสวมรอยรัก   สวมรอยครั้งที่ 03

    สวมรอยครั้งที่ 03seiya partเกือบไปแล้วผมถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกทันทีที่เข้ามาในห้อง หลังจากผ่านสงครามประสาทกับคนที่เพิ่งจะมีอะไรด้วยกันไปไม่กี่อาทิตย์ก่อน ควบด้วยตำแหน่งพี่ชายคนกลางของบ้านเขาเกือบทำให้ผมโป๊ะตั้งแต่ชั่วโมงแรกที่เข้ามาอยู่บ้านหลังนี้แล้ว โชคดีที่เคยปลอมตัวเป็นนักแสดงสมัยเป็นสายลับใหม่ๆ เลยได้สกิลการแสดงละครติดตัวมาบ้าง ไม่รู้จะโทษเลขาที่ไม่ยอมเอาประวัติทุกคนในบ้านมาให้ผมดูก่อน หรือจะโทษโชคชะตาของตัวเองดี ที่ต้องมาปลอมตัวเป็นน้องชายต่างแม่กับคนที่มีอะไรด้วยเนี่ย ตอนที่เห็นเขาผมทั้งตกใจและทำอะไรไม่ถูกแต่ก็พยายามตีหน้านิ่งไว้ ต่างจากเขาที่ตอนนี้คงคิดรังเกียจตัวเองแล้วช็อกไปแล้วก็ได้ให้ตายเถอะนี่มันยิ่งกว่าหายนะ ผมว่าเขาต้องสงสัยแน่นอนว่าผมเป็นตัวปลอม เพราะขนาดเห็นผลดีเอ็นเอที่เลขาทำขึ้นมาเพื่อหลอกทุกคน เขาก็ยังดูไม่เชื่อเลยแต่พอลองคิดดีๆ ตอนที่เข้ามาในบ้านสีหน้าทุกคนดูปกติมากตอนที่เห็นผม ยกเว้นเขาที่ดูตกใจมากที่สุด คิดได้สองทางคือเขาตกใจที่รู้ว่าผมคือน้องชายต่างแม่ของเขา ซึ่งเขาสงสัยว่าผมเป็นตัวปลอม หรือไม่เขาก็คือคนร้าย เพราะมีแค่คนร้ายเท่านั้นที่เคยเห็นหน้าท้องฟ้า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-30
  • INVINCIBLE LOVE.สายลับสวมรอยรัก   สวมรอยครั้งที่ 04

    สวมรอยครั้งที่ 04Shuu partผมเดินออกมาสูดอากาศตอนเช้าที่ระเบียงห้องพร้อมกับจิบกาแฟไปด้วยเหมือนทุกวัน แต่สายตาดันเป็นเห็นคนผมทองในชุดลำลองกำลังเดินอยู่กับน้องชายคนเล็กของผม และพูดคุยหัวเราะกันอย่างถูกคอ ดูเหมือนชินกำลังพาน้องชายต่างแม่เดินสำรวจบ้านอยู่ ไหนบอกจะช่วยผมจัดการไอ้ลูกเมียน้อยไง แต่นี่ดูสนิทกันกว่าที่ผมคิดอีกนะผมได้แต่ส่ายหน้าไปมาให้กับน้องชายคนเล็กที่แสนจะใสซื่อและเข้ากับคนง่ายจนเกินไป ชินมักจะไว้ใจคนอื่นง่ายเสมอแตกต่างจากฝาแฝดอย่างโชนที่เป็นคนค่อนข้างขี้ระแวงและไม่ไว้ใจใครง่ายๆและช่วงสายของวันผมถึงได้ทำกิจวัตรประจำตัวแล้วค่อยออกจากห้องนอน แต่ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นป้าเนตรดาวออกมาจากห้องของท้องฟ้าด้วยท่าทางรีบร้อน“คุณป้าเข้าไปทำไมในห้องมันเหรอครับ” ผมถามอย่างแปลกใจก่อนที่เธอจะหันมาชะงักเล็กน้อยที่เห็นผม“อ่อ ป้าแค่มาเช็กดูความเรียบร้อยค่ะ” เธอว่าด้วยรอยยิ้ม แต่ผมก็อดที่จะแปลกใจไม่ได้ที่คุณแม่นมของสองแฝดเลือกที่จะมาเช็กความเรียบร้อยเอง แทนที่จะให้เด็กรับใช้คนอื่นมาดู“งั้นป้าขอตัวก่อนนะคะ” แต่ยังไม่ทันได้ถามข้อสงสัยของตัวเองต่อ เธอก็ขอตัวชิงลงไปข้างล่างก่อน ผมจึงไม่ได้ว่าอะไรต

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-30
  • INVINCIBLE LOVE.สายลับสวมรอยรัก   สวมรอยครั้งที่ 05

    สวมรอยครั้งที่05Seiya part“คุณเลขาแน่ใจจริงๆ เหรอครับ ว่าพี่ชูเขาไม่เคยเห็นหน้าท้องฟ้า”“ใช่ครับ ผมแน่ใจ ทุกคนในบ้านไม่เคยเจอหน้าคุณท้องฟ้าครับ เพราะคุณท้องฟ้าไปอิตาลีตั้งแต่เด็ก”ผมคิดตามคำพูดของคุณเลขา ซึ่งก็เป็นอย่างที่คุณเลขาบอก จำได้ว่าคุณน้าพาท้องฟ้าไปอยู่อิตาลีตั้งแต่เด็ก ไม่มีทางที่พี่ชูจะเคยเห็นหน้าท้องฟ้าอย่างที่เขาว่า แล้วถ้างั้นคนร้ายจะเคยเห็นหน้าท้องฟ้าได้ยังไงกันแต่ถ้าตามที่พี่ชูพูดเมื่อคืน ถ้าเคยเห็นหน้าจริง เขาก็เป็นคนที่น่าสงสัยที่สุด และเป็นคนที่ดูมีเหตุจูงใจที่สุดด้วย เพื่อไม่ให้มรดกของตัวเองตกไปเป็นของท้องฟ้า เขาอาจจะชิงฆ่าท้องฟ้าก่อน แต่คุณเลขาบอกว่า วันที่ท้องฟ้าโดนทำร้ายยังไม่มีการอ่านพินัยกรรม“แต่เหมือนคุณชูจะเคยเห็นแค่ตอนเป็นทารกนะครับ ไม่น่าจะจำได้”คุณเลขาพูดต่อเมื่อเห็นว่าผมกำลังนั่งจมอยู่กับความคิดของตัวเอง“หรือว่าเขาเป็นคนทำร้ายท้องฟ้าครับ” ผมถามเสียงเรียบ“ผมเองก็คิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-07

บทล่าสุด

  • INVINCIBLE LOVE.สายลับสวมรอยรัก   สวมรอยครั้งที่ 07

    สวมรอยครั้งที่07Seiya partบรรยากาศในรถอึดอัดจนน่าขนลุก ทั้งที่เขาเป็นคนบอกผมว่ามีเรื่องจะคุยด้วย แต่ตัวเองกลับเอาแต่นั่งเงียบตลอดทางแถมทำหน้านิ่งจนผมคาดเดาอารมณ์ไม่ถูกอีกในใจเขาคงมีคำถามว่าทำไมผมถึงไปอยู่ในผับจนเกือบโดนผู้ชายตัวใหญ่ที่คาดว่าจะเป็นคนรู้จักของพี่ชูลากเข้าโรงแรมได้ ก็คงต้องย้อนไปประมาณสักห้าชั่วโมงก่อนผมได้รับโทรศัพท์จากลูอิสเกี่ยวกับภารกิจสำคัญที่ลูอิสรับเอาไว้ แต่จอมโจรไนท์บลูมันดันออกมาเสียก่อน ลูอิสจึงขอร้องให้ผมมาทำภารกิจนี้แทนหนึ่งวัน จะให้ผมไปจับจอมโจรไนท์บลูแทนก็กลัวว่าผมจะถูกหัวหน้าและคนในองค์กรจับได้ว่าแอบมาปฏิบัติหน้าที่ทั้งที่โดนพักงานอยู่ แล้วผมอาจจะซวยจนโดนไล่ออกผมจึงต้องจำใจแอบออกจากบ้านมาปลอมตัวเป็นเด็กเสิร์ฟที่นี่ เพื่อหาตัวเป้าหมายให้ลูอิส มันเป็นแค่ภารกิจจับชู้ธรรมดานั่นแหละ ปกติลูอิสมันคงไม่รับหรอก แต่คงเพราะเงินหนามันถึงได้ยอมรับ แต่คอยดูเถอะถ้าภารกิจสำเร็จผมทวงส่วนแบ่งเก้าสิบเปอร์เซ็นต์แน่"ไปต่อกันไหมครับ" เสียงของผู้ชายคนหนึ่งพูดขึ้นมาหลังจากที่ผ

  • INVINCIBLE LOVE.สายลับสวมรอยรัก   สวมรอยครั้งที่ 06

    สวมรอยครั้งที่06Shuu part"มีอะไรหรือเปล่าครับ"ผมถามขึ้นหลังจากเดินขึ้นบันไดมาเห็นท้องฟ้าตัวปลอมกำลังยืนคิ้วขมวด โดยมีพี่เฌอยืนอยู่หน้าห้องของตัวเองพอมองเข้าไปในห้องพี่เฌอ ก็เห็นคนใช้กำลังวุ่นอยู่กับการหาของอะไรสักอย่าง"เข็มกลัดที่คุณพ่อให้พี่มันหายไปไหนไม่รู้" พี่เฌอตอบเสียงเครียด"ลองค้นห้องท้องฟ้าดูไหมครับ เขาอาจจะเอาไปก็ได้" ผมบอกพี่เฌอพร้อมกับหันไปมองคนที่ทำหน้าเครียดอยู่"ผมไม่ได้เอาไป" เขารีบตอบทันควัน"ถ้าบริสุทธิ์ใจก็ให้ค้นสิ" ผมบอกแล้วเดินไปมองเขาอย่างจับผิด คนผมทองจิ๊ปากเหมือนขัดใจอะไรสักอย่าง ก่อนที่เขาจะมองผมกับพี่เฌอสลับกันไปมา"ถ้างั้นก็เชิญครับ"ร่างเพรียวเดินหลบให้ทุกคนเข้าไปค้นห้องตัวเอง และผมก็เพิ่งสังเกตว่าเขายังสะพายกระเป๋านักเรียนอยู่ เพิ่งกลับมาเหรอ? แต่โรงเรียนเลิกตั้งนานแล้วนี่ ทำไมถึงเพิ่งกลับ"เจอแล้วค่ะ" แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้เอ่ยถาม คนใช้คนหนึ่งก็เดินเข้ามาพร้อมกับเข็มกลัดเจ้าปัญหาแล้วส่งมันให้พี่เฌอ ส่วนท้องฟ้าตัวป

  • INVINCIBLE LOVE.สายลับสวมรอยรัก   สวมรอยครั้งที่ 05

    สวมรอยครั้งที่05Seiya part“คุณเลขาแน่ใจจริงๆ เหรอครับ ว่าพี่ชูเขาไม่เคยเห็นหน้าท้องฟ้า”“ใช่ครับ ผมแน่ใจ ทุกคนในบ้านไม่เคยเจอหน้าคุณท้องฟ้าครับ เพราะคุณท้องฟ้าไปอิตาลีตั้งแต่เด็ก”ผมคิดตามคำพูดของคุณเลขา ซึ่งก็เป็นอย่างที่คุณเลขาบอก จำได้ว่าคุณน้าพาท้องฟ้าไปอยู่อิตาลีตั้งแต่เด็ก ไม่มีทางที่พี่ชูจะเคยเห็นหน้าท้องฟ้าอย่างที่เขาว่า แล้วถ้างั้นคนร้ายจะเคยเห็นหน้าท้องฟ้าได้ยังไงกันแต่ถ้าตามที่พี่ชูพูดเมื่อคืน ถ้าเคยเห็นหน้าจริง เขาก็เป็นคนที่น่าสงสัยที่สุด และเป็นคนที่ดูมีเหตุจูงใจที่สุดด้วย เพื่อไม่ให้มรดกของตัวเองตกไปเป็นของท้องฟ้า เขาอาจจะชิงฆ่าท้องฟ้าก่อน แต่คุณเลขาบอกว่า วันที่ท้องฟ้าโดนทำร้ายยังไม่มีการอ่านพินัยกรรม“แต่เหมือนคุณชูจะเคยเห็นแค่ตอนเป็นทารกนะครับ ไม่น่าจะจำได้”คุณเลขาพูดต่อเมื่อเห็นว่าผมกำลังนั่งจมอยู่กับความคิดของตัวเอง“หรือว่าเขาเป็นคนทำร้ายท้องฟ้าครับ” ผมถามเสียงเรียบ“ผมเองก็คิ

  • INVINCIBLE LOVE.สายลับสวมรอยรัก   สวมรอยครั้งที่ 04

    สวมรอยครั้งที่ 04Shuu partผมเดินออกมาสูดอากาศตอนเช้าที่ระเบียงห้องพร้อมกับจิบกาแฟไปด้วยเหมือนทุกวัน แต่สายตาดันเป็นเห็นคนผมทองในชุดลำลองกำลังเดินอยู่กับน้องชายคนเล็กของผม และพูดคุยหัวเราะกันอย่างถูกคอ ดูเหมือนชินกำลังพาน้องชายต่างแม่เดินสำรวจบ้านอยู่ ไหนบอกจะช่วยผมจัดการไอ้ลูกเมียน้อยไง แต่นี่ดูสนิทกันกว่าที่ผมคิดอีกนะผมได้แต่ส่ายหน้าไปมาให้กับน้องชายคนเล็กที่แสนจะใสซื่อและเข้ากับคนง่ายจนเกินไป ชินมักจะไว้ใจคนอื่นง่ายเสมอแตกต่างจากฝาแฝดอย่างโชนที่เป็นคนค่อนข้างขี้ระแวงและไม่ไว้ใจใครง่ายๆและช่วงสายของวันผมถึงได้ทำกิจวัตรประจำตัวแล้วค่อยออกจากห้องนอน แต่ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นป้าเนตรดาวออกมาจากห้องของท้องฟ้าด้วยท่าทางรีบร้อน“คุณป้าเข้าไปทำไมในห้องมันเหรอครับ” ผมถามอย่างแปลกใจก่อนที่เธอจะหันมาชะงักเล็กน้อยที่เห็นผม“อ่อ ป้าแค่มาเช็กดูความเรียบร้อยค่ะ” เธอว่าด้วยรอยยิ้ม แต่ผมก็อดที่จะแปลกใจไม่ได้ที่คุณแม่นมของสองแฝดเลือกที่จะมาเช็กความเรียบร้อยเอง แทนที่จะให้เด็กรับใช้คนอื่นมาดู“งั้นป้าขอตัวก่อนนะคะ” แต่ยังไม่ทันได้ถามข้อสงสัยของตัวเองต่อ เธอก็ขอตัวชิงลงไปข้างล่างก่อน ผมจึงไม่ได้ว่าอะไรต

  • INVINCIBLE LOVE.สายลับสวมรอยรัก   สวมรอยครั้งที่ 03

    สวมรอยครั้งที่ 03seiya partเกือบไปแล้วผมถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกทันทีที่เข้ามาในห้อง หลังจากผ่านสงครามประสาทกับคนที่เพิ่งจะมีอะไรด้วยกันไปไม่กี่อาทิตย์ก่อน ควบด้วยตำแหน่งพี่ชายคนกลางของบ้านเขาเกือบทำให้ผมโป๊ะตั้งแต่ชั่วโมงแรกที่เข้ามาอยู่บ้านหลังนี้แล้ว โชคดีที่เคยปลอมตัวเป็นนักแสดงสมัยเป็นสายลับใหม่ๆ เลยได้สกิลการแสดงละครติดตัวมาบ้าง ไม่รู้จะโทษเลขาที่ไม่ยอมเอาประวัติทุกคนในบ้านมาให้ผมดูก่อน หรือจะโทษโชคชะตาของตัวเองดี ที่ต้องมาปลอมตัวเป็นน้องชายต่างแม่กับคนที่มีอะไรด้วยเนี่ย ตอนที่เห็นเขาผมทั้งตกใจและทำอะไรไม่ถูกแต่ก็พยายามตีหน้านิ่งไว้ ต่างจากเขาที่ตอนนี้คงคิดรังเกียจตัวเองแล้วช็อกไปแล้วก็ได้ให้ตายเถอะนี่มันยิ่งกว่าหายนะ ผมว่าเขาต้องสงสัยแน่นอนว่าผมเป็นตัวปลอม เพราะขนาดเห็นผลดีเอ็นเอที่เลขาทำขึ้นมาเพื่อหลอกทุกคน เขาก็ยังดูไม่เชื่อเลยแต่พอลองคิดดีๆ ตอนที่เข้ามาในบ้านสีหน้าทุกคนดูปกติมากตอนที่เห็นผม ยกเว้นเขาที่ดูตกใจมากที่สุด คิดได้สองทางคือเขาตกใจที่รู้ว่าผมคือน้องชายต่างแม่ของเขา ซึ่งเขาสงสัยว่าผมเป็นตัวปลอม หรือไม่เขาก็คือคนร้าย เพราะมีแค่คนร้ายเท่านั้นที่เคยเห็นหน้าท้องฟ้า

  • INVINCIBLE LOVE.สายลับสวมรอยรัก   สวามรอยครั้งที่ 02

    สวมรอยครั้งที่ 02Shuu partเสียดายความรู้สึกแรกที่ตื่นขึ้นมาจนถึงตอนนี้ ผมกำลังรู้สึกเสียดายที่ไม่ได้ทำความรู้จักกับเขามากกว่าการมีเซ็กส์ เพราะตื่นขึ้นมาเขาก็ไม่อยู่ในโรงแรมแล้ว อุตส่าห์เจอคนถูกใจตรงสเปกทุกอย่าง แถมรสนิยมเซ็กส์ของเขาก็น่าสนใจจนทำผมคลั่งทั้งคืน แต่กลับไม่มีโอกาสได้สานต่อ พอยิ่งคิดก็ยิ่งเสียดายผมเก็บของเช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรมและจากนั้นผมมักไปที่ผับเดิมตลอดสองอาทิตย์เพื่อหวังว่าจะเจอเขา แต่ก็พบแต่ความว่างเปล่า เขาไม่ได้กลับมาที่ผับนี้อีกเลย แม้แต่คนตัวสูงอีกคนที่ผมเดาว่าน่าจะเป็นเพื่อนเขาผมก็ไม่เห็นแม้แต่เงา สุดท้ายก็จนปัญญาและจบที่นั่งกินเหล้าคนเดียวเหงาๆ เหมือนกับทุกวันและเพราะถูกเรียกตัวให้กลับประเทศไทยด่วนผมจึงไม่มีโอกาสได้ตามหาตัวเขาต่อ มันยิ่งทำให้รู้สึกเสียดายยิ่งกว่าเดิมอีก“ถึงบ้านแล้วครับคุณชาย”เสียงของเลขาส่วนตัวที่ตอนนี้กำลังทำหน้าที่เป็นคนขับรถให้กับคุณชายคนกลางของบ้านพูดขึ้นมา ทำให้ผมที่กึ่งหลับกึ่งตื่นอยู่ที่เบาะหลังต้องยันตัวลุกขึ้นก่อนจะสะบัดหัวไปมาไล่ความมึนงงในหัวของตัวเองออกไป ผมอุตส่าห์ดื่มเหล้าแล้วบอกว่าแฮงค์จะได้ไม่ต้องมาบ้านหลังนี้ แต่สุดท้ายก

  • INVINCIBLE LOVE.สายลับสวมรอยรัก   สวมรอยครั้งที่ 01

    สวมรอยครั้งที่ 01seiya partสายลับผู้ไร้เทียมทานนั่นคือฉายาของผม ฉายาที่ใครต่อใครต่างเรียกผมแบบนั้น แรกๆ มันเป็นฉายาที่น่าภูมิใจนะ สำหรับผม แต่พอหันหลังกลับไปผมถึงพบว่า คำว่าไร้เทียมทานมันแลกมาด้วยความเหงา และความโดดเดี่ยวเพราะคำคำนี้มันเหมือนเป็นตัวยืนยันคุณภาพงานของผม แค่มีผมทุกอย่างก็จะสมบูรณ์แบบ ผมไม่เคยทำภารกิจพลาดเลยสักครั้งตั้งแต่มาเป็นสายลับ และไม่เคยร้องขอให้ใครมาช่วย ผมจัดการทุกอย่างได้ด้วยตัวคนเดียวเสมอปัง!ผมยิงเหนี่ยวไกใส่จอมโจรชุดสีดำรัตติกาลที่กำลังวิ่งอยู่บนโถงทางเดินของโรงแรมหรูที่ใช้เป็นสถานที่จัดแสดงอัญมณีล้ำค่าจากหลากหลายประเทศคนที่อยู่ในชุดเสื้อคลุมสีดำเข้มหันมายิงปืนไพ่ใส่ผมที่กำลังวิ่งตามมัน แต่ผมก็สามารถเอี้ยวตัวหลบได้จู่ๆ ก็เกิดควันสีชมพูกระจายทั่วโถงทางเดิน ผมรีบเอาผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าขึ้นมาปิดจมูกมันคือควันยาสลบ หนึ่งในกลอุบายที่จอมโจรในชุดคลุมสีดำใช้“จอมโจรไนท์บลูอยู่ตรงนั้น”เสียงทุ้มของหนึ่งในลูกน้องของผมดังขึ้นในตอนที่ จอมโจรไนท์บลู อาชญากรที่เลวร้ายที่สุดในมิลาน ณ เวลานี้ กำลังวิ่งขึ้นไปบนดาดฟ้า มันมักจะออกปล้นร้านเพชรในช่วงเวลากลางคืนด้วยชุดคลุ

DMCA.com Protection Status