สวมรอยครั้งที่ 05
Seiya part
“คุณเลขาแน่ใจจริงๆ เหรอครับ ว่าพี่ชูเขาไม่เคยเห็นหน้าท้องฟ้า”
“ใช่ครับ ผมแน่ใจ ทุกคนในบ้านไม่เคยเจอหน้าคุณท้องฟ้าครับ เพราะคุณท้องฟ้าไปอิตาลีตั้งแต่เด็ก”
ผมคิดตามคำพูดของคุณเลขา ซึ่งก็เป็นอย่างที่คุณเลขาบอก จำได้ว่าคุณน้าพาท้องฟ้าไปอยู่อิตาลีตั้งแต่เด็ก ไม่มีทางที่พี่ชูจะเคยเห็นหน้าท้องฟ้าอย่างที่เขาว่า แล้วถ้างั้นคนร้ายจะเคยเห็นหน้าท้องฟ้าได้ยังไงกัน
แต่ถ้าตามที่พี่ชูพูดเมื่อคืน ถ้าเคยเห็นหน้าจริง เขาก็เป็นคนที่น่าสงสัยที่สุด และเป็นคนที่ดูมีเหตุจูงใจที่สุดด้วย เพื่อไม่ให้มรดกของตัวเองตกไปเป็นของท้องฟ้า เขาอาจจะชิงฆ่าท้องฟ้าก่อน แต่คุณเลขาบอกว่า วันที่ท้องฟ้าโดนทำร้ายยังไม่มีการอ่านพินัยกรรม
“แต่เหมือนคุณชูจะเคยเห็นแค่ตอนเป็นทารกนะครับ ไม่น่าจะจำได้”
คุณเลขาพูดต่อเมื่อเห็นว่าผมกำลังนั่งจมอยู่กับความคิดของตัวเอง
“หรือว่าเขาเป็นคนทำร้ายท้องฟ้าครับ” ผมถามเสียงเรียบ
“ผมเองก็คิดครับ เพราะคนที่ได้ประโยชน์ที่สุดคือคุณชู แต่...” คุณเลขาตอบกลับมาพร้อมกับหยิบรูปในกระเป๋าเสื้อของเขาส่งให้ผม
“ผมตรวจสอบแล้วครับ ช่วงเวลาที่คุณท้องฟ้าถูกทำร้าย คุณชูอยู่ที่โรงแรม xxx พร้อมกับคู่นอน”
ผมหยิบรูปขึ้นมาดูก็พบกับภาพของพี่ชูที่กำลังพาคู่นอนเข้าห้อง และออกมาอีกทีตอนเช้า และคู่นอนของเขาต่อให้เห็นหน้าไม่ชัด ผมก็จำได้ดีว่าเป็นใคร เพราะมันคือตัวผมเอง ตอนที่ท้องฟ้าโดนทำร้าย เขาอยู่กับผม ผมเป็นพยานที่อยู่เพียงคนเดียวของเขา แต่มันก็ทำให้ผมรู้สึกผิดขึ้นมาถ้าผมเลือกที่จะกลับไปหาท้องฟ้าไม่ไปต่อกับพี่ชู ท้องฟ้าก็อาจจะไม่ต้องโดนทำร้ายก็ได้
“งั้นเราคงต้องตัดพี่ชูทิ้ง” ไม่รู้ทำไมถึงเผลอโล่งใจขึ้นมาก็ไม่รู้ที่มันคงไม่ใช่เขา
“แล้วคนอื่นละครับ มีพยานที่อยู่ไหม”
“ไม่มีครับ”
คุณเลขาส่ายหน้าไปมาให้กับคำถามของผม ก่อนที่ผมจะนึกถึงเข็มกลัดชิ้นเดียวที่อยู่ในที่เกิดเหตุ
“คนน่าสงสัยที่สุดน่าจะเป็นคุณป้าเนตรดาวกับพี่เฌอครับ”
“เพราะเข็มกลัดนั่นน่าจะเป็นของผู้หญิงมากกว่า”
ผมบอกคุณเลขาไปตามความจริงที่ผมคิด เพราะเข็มกลัดดูยังไงก็เป็นของผู้หญิง ทั้งดีไซน์ความสวยและความประณีต น่าจะเป็นของผู้หญิงในบ้านมากกว่า ยกเว้นว่าพ่อของท้องฟ้าจะทำแจกทุกคนในบ้านนะ
“ยังไงก็ระวังตัวด้วยนะครับ”
คุณเลขาเตือนผมด้วยความเป็นห่วง ซึ่งอาทิตย์แรกผมยังไม่ได้ทำอะไรมากนอกจากทำตัวตีสนิทพวกเขาให้พวกเขาเชื่อใจ พี่เฌอผมก็ช่วยสอนเธอทำขนมจนเราเริ่มที่จะสนิทกันแล้ว โชนก็มีมาให้ผมสอนการบ้านบ้างแต่ก็ดูยังไม่ได้สนิทใจ ส่วนชินรายนี้น่าจะง่ายที่สุด ถามอะไรก็ตอบหมด และดูเป็นมิตรเข้าถึงง่ายที่สุดแล้ว ส่วนคนที่ยากที่สุดคงจะเป็นคนที่จ้องจะจับผิดผมอย่างพี่ชูนี่แหละ ไม่รู้จะทำยังไง แล้วก็ป้าเนตรดาว คนนี้ผมไม่ค่อยได้คุยกับเธอเลย เพราะเธอไม่ค่อยอยู่บ้านสักเท่าไหร่
ผมเดินเข้ามาในห้องหลังจากกลับมาจากธุระเรื่องเรียนแล้วก็พูดคุยกับคุณเลขาเกี่ยวกับผู้ต้องสงสัย ก่อนจะพบว่าข้าวของในห้องมันแปลกไป มันถูกวางแบบเดิมก็จริง แต่ไม่ใช่องศาเดิม สายลับทุกคนมักจะเป็นคนช่างสังเกต ผมมองไปรอบห้องนอนของตัวเอง และเริ่มมั่นใจว่าก่อนที่ผมจะกลับมา มีคนบุกรุกเข้ามาในห้องผมแน่นอน
ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดูภาพจากกล้องแอบถ่ายที่ติดไว้ในห้องของตัวเอง ก่อนจะพบว่าคนที่เข้ามาคือพี่ชู
"มันจะมากไปแล้วนะ"
ผมจิ๊ปากอย่างขัดใจเมื่อถูกบุกรุกพื้นที่ส่วนตัว เขาเข้ามาค้นห้องของผม ผมจึงก้าวออกไปจากห้องตัวเองแล้วจัดการเคาะห้องเขาเสียงดัง แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าจะเปิด ผมเคาะจนเจ็บมือแล้ว
"ท้องฟ้า มีอะไรหรือเปล่า"
สงสัยผมจะเคาะเสียงดังเกินไปพี่เฌอที่อยู่ชั้นล่างเลยรีบขึ้นมาดูแล้วถามผมขึ้น
"พี่ชูแอบเข้าไปในห้องผมครับ แถมยังค้นห้องผมอีก" ผมรีบเดินตรงเข้าไปฟ้องแล้วยื่นหลักฐานให้พี่คนโตของบ้านได้ดูทันที พี่เฌอรับไปดูแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่
"ชูออกไปทำงาน เดี๋ยวกลับมาพี่จะดุให้"
"ขอบคุณครับ"
ผมขอบคุณเสียงซื่อ รอเขากลับมาก่อนเถอะผมจะจัดการเขาแน่ โทษฐานที่บังอาจมาบุกรุกห้องของผม
ปัง! ปัง! ปัง!
"ทำไมไม่พังประตูเข้ามาเลยล่ะ" ผมบ่นกับตัวเองหลังจากที่เข้าห้องน้ำเสร็จออกมาก็ได้ยินเสียงคนทุบประตูห้องนอนตัวเองเสียงดังลั่น ผมจัดการเดินไปเปิดประตูก็พบว่าเป็นพี่ชูที่กำลังทำหน้าบึ้งตึงอยู่หน้าประตูห้องผม และไม่ทันที่ผมจะได้ถามอะไรเขาก็ดันตัวผมเข้ามาในห้องและเดินตามเข้ามา ก่อนจะปิดประตูห้องผมเสียงดังลั่น
"พี่มีอะไร"
"นายบอกพี่เฌอเหรอว่าฉันเข้ามาในห้องนาย" เขากดเสียงต่ำแววตาเต็มไปด้วยโทสะ คงจะโดนพี่เฌอดุมาสินะ
"ก็เรื่องจริงนี่ครับ" ผมว่าหน้าตาใสซื่อ
"ก็พี่เข้ามาในห้องผมจริงๆ เข้ามาหาอะไรเหรอครับ"
"รู้ได้ไง"
"ผมมีหลักฐาน" ผมว่าก่อนจะหยิบโทรศัพท์บนโต๊ะทำงานมาเปิดคลิปตอนที่เขาแอบเข้ามาค้นห้องผมให้เขาดู พี่ชูหน้าเสียไปครู่นึงก่อนจะกลับมาแสยะยิ้มร้ายใส่ผม
"ถึงขั้นติดกล้องไว้ในห้องตัวเองเลยเหรอ ทำไม กลัวความลับแตกหรือไง" ไม่ว่าเปล่าใบหน้าหล่อยังขยับเข้ามาใกล้ผมจนผมต้องถอยหนีแต่เขาก็เดินตาม
"ความลับอะไร" ผมถามเสียงเรียบ
"ก็ความลับว่านายเป็นตัวปลอมไง" มือหนาโอบรอบเอวผมเข้าไปใกล้เขาและเพื่อไม่ให้ผมถอยหนีไปได้ จนตอนนี้ใบหน้าเราใกล้กันแค่คืบ ผมไม่ได้ดิ้นหรือขืนตัวออก เพราะอยากรู้เหมือนกันว่าเขาจะทำอะไร
"มั่นใจจังนะครับ" ผมบอกพร้อมกับแสยะยิ้มใส่เขา
"ยิ่งกว่ามั่นใจอีก แต่เขาก็ยิ้มเจ้าเล่ห์ตอบกลับมาให้ผม
"มีหลักฐานเหรอครับ"
"ตอนนี้ยังไม่มีแต่อนาคตไม่แน่" เขาว่าก่อนที่ดวงตาคมจะมองที่ริมฝีปากผม ผมเห็นเขาแอบกลืนน้ำลายตัวเองลงคอ แต่ผมกลับรู้สึกถูกใจตอนที่เห็นท่าทีของเขา
"จูบน้องชายตัวเอง บาปนะครับ" ผมแกล้งพูด
"จะบาปได้ยัง นายไม่ใช่น้องชายฉันสักหน่อย"
ไม่พูดเปล่าเขายังพิสูจน์ด้วยการนำริมฝีปากได้รูปของเขากดลงที่ริมฝีปากบางของผม เราทั้งคู่แลกจูบกันอย่างดูดดื่มอย่างไม่มีใครยอมใคร ไม่มีใครเกรงกลัวต่อบาป เพราะเราต่างรู้ดีว่าพวกเราทั้งคู่ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกัน ทั้งทางสายเลือดและความรู้สึก จูบนี้มันเต็มไปด้วยการเอาชนะ
"อือ..."
และผมอาจจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ในครั้งนี้ ผมดันตัวเขาออกเมื่อรู้สึกว่าตัวเองเริ่มหายใจไม่ออก ผู้ชายคนนี้จูบเก่งเกินไปแล้ว เก่งกว่าครั้งแรกที่เราเจอกันอีก
"ระวังตัวให้ดีก็แล้วกัน สักวันฉันจะกระชากหน้ากากนายออกมาเอง"
เขาใช้มือเชยคางผมแล้วพูดอย่างเหนือกว่า
"จะรอนะครับ"
และผมก็สบตาเขาอย่างไม่ยอมแพ้เช่นกัน ดูเหมือนสงครามระหว่างเรามันจะเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการแล้วสินะ
……..
“เวิร์ลคัมสู่โรงเรียนของพวกเรา”
ชินพูดพร้อมกับชูมือสองข้างขึ้นและเผยรอยยิ้มกว้างออกมา ในขณะที่ผมได้แต่ยิ้มแห้ง วันนี้เป็นวันที่ผมได้กลับมาใส่ชุดนักเรียนอีกครั้งในรอบสองปีหลังจากที่เรียนจบไปแล้ว ก็ทำไงได้ตอนนี้ผมต้องปลอมตัวเป็นเด็กอายุสิบเจ็ดนี่ จำเป็นต้องเรียนหนังสือเพื่อความแนบเนียนของภารกิจ
“พวกนายนี่เป็นฝาแฝดที่ต่างกันสุดขั้วเลยนะ”
ผมหันไปพูดกับโชนที่เดินเงียบๆ อยู่ข้างผม ต่างจากชินที่เดินนำหน้าไปทักทายคนนั้นที คนนี้ที สมแล้วที่เป็นหนุ่มฮอตพ่วงด้วยตำแหน่งรองประธานนักเรียน
“ใครๆ ก็พูดแบบนั้น”
โชนตอบกลับมาแล้วส่ายหัวเหมือนเอือมระอากับน้องชายฝาแฝดตัวเอง ซึ่งผมก็ไม่ได้ว่าอะไรต่อ
ในตอนที่ต้องไปแนะนำตัวหน้าห้องผมก็ทำได้สบาย ต้องขอบคุณความหน้าเด็กของตัวเองที่ทำให้สามารถแอ๊บเป็นเด็กอายุสิบเจ็ดได้สบาย
ส่วนการเรียนถึงจะไม่ค่อยสนใจแต่ก็พอจะจำได้ ก็ที่พวกเขาเรียนผมเคยเรียนมาหมดแล้วนี่ ยกเว้นวิชาภาษาไทยนะ อันนี้ผมเรียนแค่นิดหน่อยให้พอสื่อสารได้ คุณน้ากับคนในองค์กรเป็นคนสอนสมัยที่ต้องมาทำภารกิจที่ไทย แต่พอเจอพวกกลอนอะไรก็ไม่รู้สมองก็เออเร่อเหมือนกัน
“พวกนายกลับก่อนเลยนะ ฉันมีธุระ” ผมบอกกับสองแฝดหลังจากที่พวกเราเลิกเรียนแล้วกำลังยืนรอคนขับรถอยู่
“จะไม่หลงทางใช่ไหม มีอะไรโทรหาพวกฉันได้นะ” ชินพูดขึ้นมาอย่างเป็นห่วง ในขณะที่โชนทำเพียงแค่มองผมนิ่ง
“โอเค”
“เจอกันที่บ้านนะ”
“เจอกัน”
ผมโบกมือลาคนทั้งคู่ก่อนจะรีบสะพายกระเป๋าเป้แล้ววิ่งออกไปนอกโรงเรียนทันที แล้วจัดการโทรนัดเพื่อนสนิทหลังจากที่ทราบข่าวว่าเพื่อนผมกำลังมาปฏิบัติภารกิจที่ประเทศไทย
“ทำไมแกมาอยู่นี่ได้” ผมถามลูอิสทันทีที่มานั่งร้านอาหารและลูอิสนั่งรอผมก่อนอยู่แล้ว มันดูเหมือนจะกลั้นขำตอนที่เห็นผมใส่ชุดนักเรียนจนผมต้องหันไปแยกเขี้ยวใส่
“มีคนบอกว่าจอมโจรไนท์บลูอยู่ที่ไทย หัวหน้าเลยให้ฉันมาสืบ” มันว่า ผมตาเบิกกว้างเมื่อได้ยินชื่อของคู่อาฆาตของตัวเอง แต่อะไรดลใจให้มันมาที่นี่ มันตามผมมาเหรอ
“ตั้งแต่แกไม่อยู่นะ ไอ้ไมค์แม่ง กร่างสุดๆ”
ต่อด้วยการระบายความในใจถึงคู่อริของผมที่เป็นอันดับสองรองจากผม แน่นอนอยู่แล้วไอ้ไมค์มันคงรอเวลานี้มานานแล้วแหละ เวลาที่จะได้กำจัดผม ส่วนมันก็กลายเป็นใหญ่ทันที
“แล้วเรื่องของท้องฟ้าที่ให้ไปสืบ” ผมเปลี่ยนเรื่องก่อนที่มันจะระบายความในใจตัวเองมากกว่านี้และผมไม่น่ามีเวลาฟังมัน ต้องรีบกลับบ้านก่อนที่คุณชายจอมจับผิดจะกลับมาน่ะสิ
“คนที่เห็นเหตุการณ์เป็นคนบ้าสติไม่ดี คงต้องเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง”
“เขาว่าไง” ผมจดจ่อกับคำพูดของลูอิสทันที ต่อให้เป็นคนเสียสติ คนบ้า เราก็ต้องฟัง ในเมื่อเขาคือคนเห็นเหตุการณ์คำพูดของเขามันก็ย่อมพอเป็นเบาะแสได้บ้าง
“เขาบอกท้องฟ้าทะเลาะกับใครไม่รู้แล้วโดนลากไปซอกตึก แล้วทั้งสามคนก็หายไป”
“สาม?”
“อือ บอกแค่ว่าใส่ชุดสีดำสามคนเลย”
“แล้วก็พูดวกไปวนมา” พอพูดจบลูอิสก็ทำท่าเหมือนก้มไปหาอะไรในกระเป๋าที่ติดมาด้วย ก่อนจะหยิบรูปบางอย่างยื่นมาตรงหน้าผมแล้ว
“อ่อ แล้วก็มีเด็กอีกคนที่เล่นดนตรีเปิดหมวก บอกว่าช่วงบ่ายเห็นท้องฟ้ามายืนดูเขาด้วยนะ แถมให้เงินเยอะด้วย อีกอย่างคือกอดถุงน้ำตาลแน่น”
“ส่วนนี้กล้องวงจรปิดใกล้กับจุดที่เด็กคนนั้นเล่นดนตรี จับภาพได้ตอนท้องฟ้าเดินถือถุงอะไรสักอย่างอยู่จริงๆ”
ผมหยิบรูปขึ้นมาดูก็เห็นเป็นรูปท้องฟ้าในชุดเสื้อผ้าสีดำทั้งตัวกำลังยืนกอดถุงสีน้ำตาลแน่น พร้อมกับยืนดูเด็กกำลังเล่นกีตาร์ร้องเพลง และอีกรูปเป็นรูปที่ท้องฟ้ายืนอยู่หน้าร้านขนมและกอดถุงน้ำตาลแน่นเช่นกัน
“แต่ถุงนั่นมันหายไปไหน แล้วมันคือถุงอะไร” ผมพูดขึ้นและลูอิสก็พยักหน้าเห็นด้วย
ท้องฟ้าออกไปพบใครบางคนพร้อมกับถุงกระดาษแล้วถูกทำร้าย
แล้วก็น่าจะถูกนำมาทิ้งที่จุดใกล้บ้าน จากนั้นท้องฟ้าก็พยายามจะวิ่งเข้าบ้าน แต่หมดแรงและสลบไปเสียก่อน นั่นคือคำสันนิษฐานของผม ซึ่งปกติผมมักจะบอกท้องฟ้าเสมอว่าห้ามออกไปหาคนแปลกหน้า แล้วคนร้ายมันทำยังไงให้ท้องฟ้าออกไปหาได้ แล้วในถุงมันคืออะไรที่สำคัญของในถุงน่าจะอยู่กับคนร้าย
ผมใช้เวลาพูดคุยกับลูอิสไม่นานก่อนจะขอตัวกลับก่อน โชคดีที่ผมมาทันก่อนที่พี่ชายคนกลางเจ้าปัญหาจะกลับมา มันดูเงียบผิดปกติหรือเป็นเพราะชินเข้าห้องนอนไปแล้วนะ
ผมก้าวเท้าเดินขึ้นบันได แต่ยังไม่ทันได้ถึงห้องตัวเองก็ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายออกมาจากห้องตรงข้ามผมที่เปิดประตูอยู่
“ไม่เจอเลย หายไปไหน” ผมจำได้ว่าเป็นเสียงของพี่เฌอ
“ไม่เจอค่ะคุณหนู”
“แต่หนูไม่เห็นนานแล้วนะคะ”
“เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่าครับ”
ผมเดินเข้าไปอยู่หน้าประตูแล้วถามหญิงสาวในชุดราตรีสีขาวที่กำลังยืนทำหน้าเครียด พร้อมกับคนใช้อีกสองคนที่กำลังช่วยกันค้นห้องเหมือนหาอะไร
“เข็มกลัดพี่หาย” เธอหันมาบอกผมแล้วกลับไปค้นหาของต่อ แต่คำว่าเข็มกลัดทำเอาคิ้วผมกระตุก
“เข็มกลัดเหรอครับ?”
จะใช่อันเดียวกันกับในที่เกิดเหตุหรือเปล่า
"มันเป็นยังไงเหรอครับ"
"เป็นเข็มกลัดเพชร ตรงกลางเป็นอัญมณีสีน้ำเงิน"
ผมคิดตามคำที่เธอพูดและก็ถึงบางอ้อ ลักษณะมันเหมือนกันไม่มีผิด
หรือว่าเธอจะเป็นคนร้ายจริงๆ
สวมรอยครั้งที่06Shuu part"มีอะไรหรือเปล่าครับ"ผมถามขึ้นหลังจากเดินขึ้นบันไดมาเห็นท้องฟ้าตัวปลอมกำลังยืนคิ้วขมวด โดยมีพี่เฌอยืนอยู่หน้าห้องของตัวเองพอมองเข้าไปในห้องพี่เฌอ ก็เห็นคนใช้กำลังวุ่นอยู่กับการหาของอะไรสักอย่าง"เข็มกลัดที่คุณพ่อให้พี่มันหายไปไหนไม่รู้" พี่เฌอตอบเสียงเครียด"ลองค้นห้องท้องฟ้าดูไหมครับ เขาอาจจะเอาไปก็ได้" ผมบอกพี่เฌอพร้อมกับหันไปมองคนที่ทำหน้าเครียดอยู่"ผมไม่ได้เอาไป" เขารีบตอบทันควัน"ถ้าบริสุทธิ์ใจก็ให้ค้นสิ" ผมบอกแล้วเดินไปมองเขาอย่างจับผิด คนผมทองจิ๊ปากเหมือนขัดใจอะไรสักอย่าง ก่อนที่เขาจะมองผมกับพี่เฌอสลับกันไปมา"ถ้างั้นก็เชิญครับ"ร่างเพรียวเดินหลบให้ทุกคนเข้าไปค้นห้องตัวเอง และผมก็เพิ่งสังเกตว่าเขายังสะพายกระเป๋านักเรียนอยู่ เพิ่งกลับมาเหรอ? แต่โรงเรียนเลิกตั้งนานแล้วนี่ ทำไมถึงเพิ่งกลับ"เจอแล้วค่ะ" แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้เอ่ยถาม คนใช้คนหนึ่งก็เดินเข้ามาพร้อมกับเข็มกลัดเจ้าปัญหาแล้วส่งมันให้พี่เฌอ ส่วนท้องฟ้าตัวป
สวมรอยครั้งที่07Seiya partบรรยากาศในรถอึดอัดจนน่าขนลุก ทั้งที่เขาเป็นคนบอกผมว่ามีเรื่องจะคุยด้วย แต่ตัวเองกลับเอาแต่นั่งเงียบตลอดทางแถมทำหน้านิ่งจนผมคาดเดาอารมณ์ไม่ถูกอีกในใจเขาคงมีคำถามว่าทำไมผมถึงไปอยู่ในผับจนเกือบโดนผู้ชายตัวใหญ่ที่คาดว่าจะเป็นคนรู้จักของพี่ชูลากเข้าโรงแรมได้ ก็คงต้องย้อนไปประมาณสักห้าชั่วโมงก่อนผมได้รับโทรศัพท์จากลูอิสเกี่ยวกับภารกิจสำคัญที่ลูอิสรับเอาไว้ แต่จอมโจรไนท์บลูมันดันออกมาเสียก่อน ลูอิสจึงขอร้องให้ผมมาทำภารกิจนี้แทนหนึ่งวัน จะให้ผมไปจับจอมโจรไนท์บลูแทนก็กลัวว่าผมจะถูกหัวหน้าและคนในองค์กรจับได้ว่าแอบมาปฏิบัติหน้าที่ทั้งที่โดนพักงานอยู่ แล้วผมอาจจะซวยจนโดนไล่ออกผมจึงต้องจำใจแอบออกจากบ้านมาปลอมตัวเป็นเด็กเสิร์ฟที่นี่ เพื่อหาตัวเป้าหมายให้ลูอิส มันเป็นแค่ภารกิจจับชู้ธรรมดานั่นแหละ ปกติลูอิสมันคงไม่รับหรอก แต่คงเพราะเงินหนามันถึงได้ยอมรับ แต่คอยดูเถอะถ้าภารกิจสำเร็จผมทวงส่วนแบ่งเก้าสิบเปอร์เซ็นต์แน่"ไปต่อกันไหมครับ" เสียงของผู้ชายคนหนึ่งพูดขึ้นมาหลังจากที่ผ
สวมรอยครั้งที่ 08Shuu partสองอาทิตย์แล้วที่ท้องฟ้าตัวปลอมมาอยู่ที่นี่ แต่กลับไม่ทำอะไรเลยนอกจากใช้ชีวิตปกติ ปกติแบบที่ไม่ทำอะไรน่าสงสัยเลยนอกจากการติดกล้องที่ห้องตัวเอง ราวกับว่ามีของสำคัญอยู่ในนั้น และกลัวว่ามีใครจะมาเอาไปในตอนแรกผมคิดว่าเขาอาจจะเป็นมิจฉาชีพ แต่ดูแล้วไม่น่าจะใช่ ถ้าจุดประสงค์ของเขาคือการสวมรอยเป็นท้องฟ้าเพื่อขโมยของ เขาคงทำไปนานแล้ว ไม่ปล่อยเวลามานานขนาดนี้หรอกRrrrrrนักสืบ"สวัสดีครับ"(สวัสดีครับคุณชู ผมเจอข้อมูลที่แปลกมาก เดี๋ยวผมส่งไปให้ดูทางเมลนะครับ)"ขอบคุณครับ"ผมกดตัดสายจากนักสืบแล้วจัดการเปิดคอมขึ้นเพื่อเข้าระบบเมลตัวเองไม่ใช่เมลบริษัท รอไม่นานนักสืบก็ส่งข้อมูลมาให้ผม มันเป็นข้อมูลของคนสองคน คนแรกคือท้องฟ้าตัวปลอม ผมไล่อ่านข้อมูลดูมันมีข้อมูลประวัติของเขาขึ้นมา ทั้งหมดสามชื่อชื่อแรก เจย์เลน วิโทรี่ นักฆ่าของแก๊ง มังกรสีนิล ผู้มีอิทธิพลในภาคใต้ ที่ถูกรัฐบาลกวาดล้างไปเมื่อสามปีก่อน
สวมรอยครั้งที่ 09Seiya part"เล่าให้ฟังได้ไหมว่ามันเกิดอะไรขึ้น"ผมหลุบตาหลบสายตาที่กำลังจ้องมองเหมือนต้องการคาดคั้นผมอยู่ ดูเหมือนว่าผมจะเผลอแสดงทั้งด้านมืดและด้านที่อ่อนแอให้คนที่เกลียดผมเห็นซะแล้วสิ ผมถอนหายใจออกมาเมื่อนึกถึงสภาพตัวเองที่ฟิวขาดมือข้างหนึ่งยกขึ้นมาลูบใบหน้าตัวเองอย่างคนคิดหนักแต่สุดท้ายผมก็ตัดสินใจจะเล่าให้เขาฟัง"พวกนั้นมันเข้ามาทำร้ายผมครับ ผมก็เลยป้องกันตัว" ผมบอกและผมรู้ดีว่าต่อให้ไม่ได้เงยหน้าไปมอง ผมก็รู้ว่าเขากำลังจ้องหน้าผมด้วยความสงสัยอยู่"แต่ผมควบคุมอารมณ์ของตัวเองไม่ได้เวลาที่ต่อสู้ เหมือนร่างกายมันจะสู้ไปเรื่อยๆ จนกว่าคู่ต่อสู้จะตาย หรือผมจะสลบไป" ผมเล่าให้เขาฟังต่อ มันเป็นความจริงที่ว่าผมไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ถ้าฟิวขาด อย่างตอนที่ผมต่อยกับพวกสายลับปลายแถวจนโดนพักงาน ถ้าไม่มีคนมาห้าม ผมก็คงต่อยพวกมันปางตายไปแล้วรวมถึงเมื่อตอนเย็นที่มีคนมาหาเรื่องผมก็ด้วย ผมต่อยและสู้กับพวกมัน ยิ่งเห็นว่าพวกมันเก่งผมยิ่งเหมือนคนที่เสีย
สวมรอยครั้งที่ 10Shuu partผมรีบขับรถมาที่โรงพยาบาลทันทีที่เลขาโทรมาบอกว่าพี่เฌอโดนจอมโจรไนท์บลูที่กำลังเป็นข่าวอยู่ตอนนี้ดักทำร้าย พอวิ่งเข้ามาก็เห็นว่าคุณเลขากำลังยืนคุยอะไรสักอย่างกับท้องฟ้าตัวปลอมอยู่หน้าห้องทั้งคู่แสดงสีหน้าที่ดูเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด"พี่เฌอเป็นไงบ้างครับ" ผมวิ่งมาหยุดอยู่ตรงหน้าคุณเลขา"หมอยังไม่ออกมาครับ""ฝีมือนายใช่ไหม" ผมหันไปมองคนที่ยืนก้มหน้าเหมือนคิดอะไรอยู่ในหัว"เกี่ยวอะไรกับผม" ท้องฟ้าถามขึ้นมา"ก็นายร่วมมือกับไอ้เหี้ยนั่นไง"ผมบีบแขนทั้งสองข้างของเขาแล้วจ้องมองด้วยความรู้สึกโกรธ ผมคิดว่าวันนั้นเขาต้องไปคุยกับแฟนโมบีแล้วร่วมมือกันมาทำร้ายพี่เฌอแน่ เพราะผมจำได้ว่าผู้ชายคนนั้นพูดว่าจะทำให้ครอบครัวของผมได้รับรู้ถึงการสูญเสีย"อะไรของพี่" ท้องฟ้าสะบัดมือผมออก"คุณชู คุณท้องฟ้าครับ นี่โรงพยาบาลนะครับ" โจเซฟเดินมายืนกั้นระหว่างเราทั้งคู่ ผมกับท้องฟ้าต่างสะบัดหน้าหนีไม่มองหน้ากัน เพราะเกรงว่าถ้าเห็นหน้ากันคว
สวมรอยครั้งที่ 11Seiya partเพราะวันนี้โชนไม่สบายเลยไม่ได้มาโรงเรียน ผมกับชินเลยมาเรียนกันสองคน ถึงใจผมจะไม่อยากมาก็เถอะ ตอนนี้อยากไปสืบเรื่องจอมโจรไนท์บลูใจจะขาด วันนี้ทั้งวันผมเอาแต่คิดเรื่องของมันส่วนชินก็ดููปกติ อาจจะเป็นเพราะเขายังไม่รู้เรื่องพี่เฌอ เนื่องจากพี่ชูสั่งห้ามทุกคนไม่ให้พูดถึงเรื่องพี่เฌอ เพราะใกล้จะสอบมิดเทอมแล้ว ไม่อยากให้โชนกับชินมาเครียดด้วยผมหันไปมองชินที่กำลังเล่นเกมในโทรศัพท์อย่างไม่สนใจใคร จนกระทั่งรถตู้ของที่บ้านขับมาจอดอยู่ที่หน้าตึกเรียนของพวกเราชินถึงได้เงยหน้าแล้วยันตัวลุกขึ้นจากบันได"เชิญครับคุณหนู"คนขับรถพูดขึ้นหลังจากที่เดินมาเลื่อนประตูให้กับพวกเรา แต่ทำไมผมรู้สึกเหมือนเสียงมันถูกส่งผ่านเครื่องแปลงเสียงจัง"คุณลุงไม่สบายเหรอครับ ทำไมใส่แมส"ชินเองก็ถามอย่างแปลกใจเพราะวันนี้คนขับรถดูแปลกตาไปนิดหน่อย แถมยังใส่หมวกปิดแมสอีก ที่สำคัญเอาแต่เงียบและก้ม
SPE. Cutter x Chin Ep.1Chin part"นายบอกให้รีบจัดการ""รู้แล้ว ให้เด็กมันตื่นก่อนสิ""จะทำอะไรก็รีบทำ"เสียงใครกัน?ผมลืมตาขึ้นมาพร้อมกับความรู้สึกปวดหนึบที่หัวเหมือนมีใครมาบีบเส้นประสาทจนต้องปิดตาไปอีกครั้ง และเริ่มลืมตาขึ้นมาใหม่ปรับโฟกัสสายตาไม่นานก่อนจะพบกับ บรรยากาศรอบข้างที่มืดสนิท ตรงหน้าผมมีชายร่างสูงผมยาวสีควันบุหรี่กำลังยืนคุยกับร่างหนาผิวเข้มหน้าตาดูดุ ข้างตัวเขามีถังขนาดใหญ่ตั้งอยู่ซึ่งผมคิดว่าน่าจะเป็นถังน้ำมัน เพราะกลิ่นของน้ำมันเครื่องมันลอยมาเตะจมูกผมสายตาของผมเริ่มมองสำรวจบริเวณโดยรอบ มันเป็นป่าใหญ่ที่เต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ ผมมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ผมจำได้ว่าครั้งล่าสุดผมนอนอยู่บนรถของที่บ้านไม่ใช่เหรอแขนของผมถูกมัดไว้ข้างหลังและถูกบังคับให้นั่งอยู่บนก้อนหิน ผมหันหน้ากลับมามองผู้ชายสองคนที่กำลังยืนเถียงกันอีกครั้ง ผมเพิ่งสังเกตว่าคนหน้าดูแต่
SPE. cutter x chin Ep.2Chin part"นายหัวภู" ไอ้โรคจิตมันเรียกชื่อเจ้าของเกาะเสียงสั่นใบหน้าเริ่มฉายแววหวาดกลัว"มึงทำอะไรไอ้จักร" นายหัวภูถามเสียงเหี้ยม ไอ้โรคจิตที่ชื่อจักรมันก็รีบคุกเข่าแสร้งทำตัวหดแล้วพนมมือขอโทษไปทางนายหัวของเกาะทั้งที่สภาพร่างกายยังเปลือยเปล่า"ไอ้หมอนั่นมันจะทำร้ายฉันนายหัว มันโยนทรายใส่ฉันด้วยดูสิ" มันโยนความผิดทุกอย่างมาใส่ผมพร้อมกับชี้หน้าตัวเองที่มีทรายเลอะอยู่จากการโดนผมขว้างทรายใส่ ส่วนพี่คัทเตอร์ก็หันมามองผมสายตาเขายังดูดุและน่ากลัวเหมือนเดิม"ข เขาจะข่มขืนผม" ผมพูดเสียงสั่นและเบาก้มหน้าไม่กล้าสบตาเขาทั้งที่ตัวเองกำลังสั่นด้วยความรู้สึกกลัวอยู่"ผมฝากนายหัวจัดการด้วยนะครับ ส่วนนายมานี่""มึงจะพาเมียกูไปไหน โอ้ย"พี่คัทเตอร์เตรียมจะลากผมกลับไปที่บ้านแล้วแต่จักรมันก็ไม่ยอม พุ่งตัวจะมากระชากแขนผมจนโดนพี่คัทเตอร์เตะกระเด็นไปกองกับ
สวมรอยครั้งที่ 13Seiya partสามวันแล้วที่ผมอยู่ในสถานะนักโทษ?ผมไม่รู้จะนิยามสถานะตัวเองตอนนี้ยังไง หลังจากวันที่พวกเราทะเลาะกันจนผมเกือบลงมือฆ่าเขา ผมจำได้ว่าตัวเองร้องไห้อย่างหนักตอนที่ได้สติก่อนจะหลับไป พอฟื้นขึ้นมาก็ถูกมัดไว้ที่เก้าอี้เหมือนเดิม แต่คราวนี้เชือกที่มัดผมเปลี่ยนเป็นโซ่แทน ไฟที่กะพริบจนทำให้ผมปวดตาก็ถูกเปลี่ยนใหม่โดยคนที่ยั่วโมโหผมผมไม่เข้าใจการกระทำของคนที่จับผมสักเท่าไหร่ เพราะหลังจากที่เขาเข้ามายั่วโมโหผม แล้วปลอบผมตอนร้องไห้เขาก็ทำตัวปกติ แถมไม่ได้เค้นข้อมูลอะไรเลยสายตาของผมเริ่มมองสำรวจห้องมืดที่ว่างเปล่า มันโล่งเกินกว่าจะเป็นห้องเก็บของด้วยซ้ำ ราวกับเป็นห้องที่ไม่ได้ใช้มานานแล้วแกร็กประตูถูกเปิดออกมาพร้อมกับร่างสูงของพี่ชู ที่มักจะเดินเข้ามาเพื่อเอาข้าวมาให้ผมเหมือนกับทุกครั้ง"มีอะไรจะพูดกับผมหรือไง" ผมถามคนที่เพิ่งจะวางข้าวไว้บนลังไม้"เปล่า" เขาปฏิเสธเหมือนทุกครั้ง ทั้งที่ใบหน้าแสดงออกชัดว่าเขามีอะไรในใจ"จะก
สวมรอยครั้งที่ 12Shuu partหลังจากพาชินไปตรวจร่างกาย หมอบอกว่าปกติดีไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ผมจะพาน้องไปเยี่ยมพี่เฌอแล้ว แต่ชินก็เอาแต่ร้องไห้อยากกลับบ้าน ผมคิดว่าน่าจะเป็นเพราะสภาพจิตใจน้องตอนนี้น่าจะยังไม่พร้อมที่จะเจอใครก็ได้ ผมพยุงตัวชินเดินเข้ามาในบ้าน แม่นมก็วิ่งออกมารับด้วยความเป็นห่วงทันที ผมมองภาพแม่นมที่ทั้งกอดและพูดปลอบชินอย่างเป็นห่วง กลับกันโชนที่เป็นพี่ชายฝาแฝดกลับยืนมองเฉยๆ จนผมแอบสงสัย แต่ก็คิดว่าโชนคงเป็นประเภทที่แสดงออกไม่เก่งละมั้ง เลยไม่ได้ถามไถ่อะไรชิน"ช่วยเล่าเรื่องทั้งหมดให้พี่ฟังได้ไหม" ผมถามชินเมื่อเห็นว่าตอนนี้ชินหยุดร้องไห้แล้ว ชินแสดงสีหน้าเศร้าจนผมรู้สึกผิด"เขาชื่อเซย์ยะครับ ท้องฟ้าจ้างให้เขามาหลอกพวกเรา เพราะหวังสมบัติ แล้วก็คิดที่จะฆ่าพวกเราครับ" ชินเล่าให้พวกเราฟังเสียงสั่นจนแม่นมต้องโอบไหล่เพื่อเป็นการปลอบประโลม"แล้วเรารอดมาได้ยังไง""ผมไม่รู้ครับ เขาฟาดหัวผมแล้วเอาผมไปทิ้งในป่า" คำตอบของชินท
SPE. cutter x chin Ep.2Chin part"นายหัวภู" ไอ้โรคจิตมันเรียกชื่อเจ้าของเกาะเสียงสั่นใบหน้าเริ่มฉายแววหวาดกลัว"มึงทำอะไรไอ้จักร" นายหัวภูถามเสียงเหี้ยม ไอ้โรคจิตที่ชื่อจักรมันก็รีบคุกเข่าแสร้งทำตัวหดแล้วพนมมือขอโทษไปทางนายหัวของเกาะทั้งที่สภาพร่างกายยังเปลือยเปล่า"ไอ้หมอนั่นมันจะทำร้ายฉันนายหัว มันโยนทรายใส่ฉันด้วยดูสิ" มันโยนความผิดทุกอย่างมาใส่ผมพร้อมกับชี้หน้าตัวเองที่มีทรายเลอะอยู่จากการโดนผมขว้างทรายใส่ ส่วนพี่คัทเตอร์ก็หันมามองผมสายตาเขายังดูดุและน่ากลัวเหมือนเดิม"ข เขาจะข่มขืนผม" ผมพูดเสียงสั่นและเบาก้มหน้าไม่กล้าสบตาเขาทั้งที่ตัวเองกำลังสั่นด้วยความรู้สึกกลัวอยู่"ผมฝากนายหัวจัดการด้วยนะครับ ส่วนนายมานี่""มึงจะพาเมียกูไปไหน โอ้ย"พี่คัทเตอร์เตรียมจะลากผมกลับไปที่บ้านแล้วแต่จักรมันก็ไม่ยอม พุ่งตัวจะมากระชากแขนผมจนโดนพี่คัทเตอร์เตะกระเด็นไปกองกับ
SPE. Cutter x Chin Ep.1Chin part"นายบอกให้รีบจัดการ""รู้แล้ว ให้เด็กมันตื่นก่อนสิ""จะทำอะไรก็รีบทำ"เสียงใครกัน?ผมลืมตาขึ้นมาพร้อมกับความรู้สึกปวดหนึบที่หัวเหมือนมีใครมาบีบเส้นประสาทจนต้องปิดตาไปอีกครั้ง และเริ่มลืมตาขึ้นมาใหม่ปรับโฟกัสสายตาไม่นานก่อนจะพบกับ บรรยากาศรอบข้างที่มืดสนิท ตรงหน้าผมมีชายร่างสูงผมยาวสีควันบุหรี่กำลังยืนคุยกับร่างหนาผิวเข้มหน้าตาดูดุ ข้างตัวเขามีถังขนาดใหญ่ตั้งอยู่ซึ่งผมคิดว่าน่าจะเป็นถังน้ำมัน เพราะกลิ่นของน้ำมันเครื่องมันลอยมาเตะจมูกผมสายตาของผมเริ่มมองสำรวจบริเวณโดยรอบ มันเป็นป่าใหญ่ที่เต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ ผมมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ผมจำได้ว่าครั้งล่าสุดผมนอนอยู่บนรถของที่บ้านไม่ใช่เหรอแขนของผมถูกมัดไว้ข้างหลังและถูกบังคับให้นั่งอยู่บนก้อนหิน ผมหันหน้ากลับมามองผู้ชายสองคนที่กำลังยืนเถียงกันอีกครั้ง ผมเพิ่งสังเกตว่าคนหน้าดูแต่
สวมรอยครั้งที่ 11Seiya partเพราะวันนี้โชนไม่สบายเลยไม่ได้มาโรงเรียน ผมกับชินเลยมาเรียนกันสองคน ถึงใจผมจะไม่อยากมาก็เถอะ ตอนนี้อยากไปสืบเรื่องจอมโจรไนท์บลูใจจะขาด วันนี้ทั้งวันผมเอาแต่คิดเรื่องของมันส่วนชินก็ดููปกติ อาจจะเป็นเพราะเขายังไม่รู้เรื่องพี่เฌอ เนื่องจากพี่ชูสั่งห้ามทุกคนไม่ให้พูดถึงเรื่องพี่เฌอ เพราะใกล้จะสอบมิดเทอมแล้ว ไม่อยากให้โชนกับชินมาเครียดด้วยผมหันไปมองชินที่กำลังเล่นเกมในโทรศัพท์อย่างไม่สนใจใคร จนกระทั่งรถตู้ของที่บ้านขับมาจอดอยู่ที่หน้าตึกเรียนของพวกเราชินถึงได้เงยหน้าแล้วยันตัวลุกขึ้นจากบันได"เชิญครับคุณหนู"คนขับรถพูดขึ้นหลังจากที่เดินมาเลื่อนประตูให้กับพวกเรา แต่ทำไมผมรู้สึกเหมือนเสียงมันถูกส่งผ่านเครื่องแปลงเสียงจัง"คุณลุงไม่สบายเหรอครับ ทำไมใส่แมส"ชินเองก็ถามอย่างแปลกใจเพราะวันนี้คนขับรถดูแปลกตาไปนิดหน่อย แถมยังใส่หมวกปิดแมสอีก ที่สำคัญเอาแต่เงียบและก้ม
สวมรอยครั้งที่ 10Shuu partผมรีบขับรถมาที่โรงพยาบาลทันทีที่เลขาโทรมาบอกว่าพี่เฌอโดนจอมโจรไนท์บลูที่กำลังเป็นข่าวอยู่ตอนนี้ดักทำร้าย พอวิ่งเข้ามาก็เห็นว่าคุณเลขากำลังยืนคุยอะไรสักอย่างกับท้องฟ้าตัวปลอมอยู่หน้าห้องทั้งคู่แสดงสีหน้าที่ดูเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด"พี่เฌอเป็นไงบ้างครับ" ผมวิ่งมาหยุดอยู่ตรงหน้าคุณเลขา"หมอยังไม่ออกมาครับ""ฝีมือนายใช่ไหม" ผมหันไปมองคนที่ยืนก้มหน้าเหมือนคิดอะไรอยู่ในหัว"เกี่ยวอะไรกับผม" ท้องฟ้าถามขึ้นมา"ก็นายร่วมมือกับไอ้เหี้ยนั่นไง"ผมบีบแขนทั้งสองข้างของเขาแล้วจ้องมองด้วยความรู้สึกโกรธ ผมคิดว่าวันนั้นเขาต้องไปคุยกับแฟนโมบีแล้วร่วมมือกันมาทำร้ายพี่เฌอแน่ เพราะผมจำได้ว่าผู้ชายคนนั้นพูดว่าจะทำให้ครอบครัวของผมได้รับรู้ถึงการสูญเสีย"อะไรของพี่" ท้องฟ้าสะบัดมือผมออก"คุณชู คุณท้องฟ้าครับ นี่โรงพยาบาลนะครับ" โจเซฟเดินมายืนกั้นระหว่างเราทั้งคู่ ผมกับท้องฟ้าต่างสะบัดหน้าหนีไม่มองหน้ากัน เพราะเกรงว่าถ้าเห็นหน้ากันคว
สวมรอยครั้งที่ 09Seiya part"เล่าให้ฟังได้ไหมว่ามันเกิดอะไรขึ้น"ผมหลุบตาหลบสายตาที่กำลังจ้องมองเหมือนต้องการคาดคั้นผมอยู่ ดูเหมือนว่าผมจะเผลอแสดงทั้งด้านมืดและด้านที่อ่อนแอให้คนที่เกลียดผมเห็นซะแล้วสิ ผมถอนหายใจออกมาเมื่อนึกถึงสภาพตัวเองที่ฟิวขาดมือข้างหนึ่งยกขึ้นมาลูบใบหน้าตัวเองอย่างคนคิดหนักแต่สุดท้ายผมก็ตัดสินใจจะเล่าให้เขาฟัง"พวกนั้นมันเข้ามาทำร้ายผมครับ ผมก็เลยป้องกันตัว" ผมบอกและผมรู้ดีว่าต่อให้ไม่ได้เงยหน้าไปมอง ผมก็รู้ว่าเขากำลังจ้องหน้าผมด้วยความสงสัยอยู่"แต่ผมควบคุมอารมณ์ของตัวเองไม่ได้เวลาที่ต่อสู้ เหมือนร่างกายมันจะสู้ไปเรื่อยๆ จนกว่าคู่ต่อสู้จะตาย หรือผมจะสลบไป" ผมเล่าให้เขาฟังต่อ มันเป็นความจริงที่ว่าผมไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ถ้าฟิวขาด อย่างตอนที่ผมต่อยกับพวกสายลับปลายแถวจนโดนพักงาน ถ้าไม่มีคนมาห้าม ผมก็คงต่อยพวกมันปางตายไปแล้วรวมถึงเมื่อตอนเย็นที่มีคนมาหาเรื่องผมก็ด้วย ผมต่อยและสู้กับพวกมัน ยิ่งเห็นว่าพวกมันเก่งผมยิ่งเหมือนคนที่เสีย
สวมรอยครั้งที่ 08Shuu partสองอาทิตย์แล้วที่ท้องฟ้าตัวปลอมมาอยู่ที่นี่ แต่กลับไม่ทำอะไรเลยนอกจากใช้ชีวิตปกติ ปกติแบบที่ไม่ทำอะไรน่าสงสัยเลยนอกจากการติดกล้องที่ห้องตัวเอง ราวกับว่ามีของสำคัญอยู่ในนั้น และกลัวว่ามีใครจะมาเอาไปในตอนแรกผมคิดว่าเขาอาจจะเป็นมิจฉาชีพ แต่ดูแล้วไม่น่าจะใช่ ถ้าจุดประสงค์ของเขาคือการสวมรอยเป็นท้องฟ้าเพื่อขโมยของ เขาคงทำไปนานแล้ว ไม่ปล่อยเวลามานานขนาดนี้หรอกRrrrrrนักสืบ"สวัสดีครับ"(สวัสดีครับคุณชู ผมเจอข้อมูลที่แปลกมาก เดี๋ยวผมส่งไปให้ดูทางเมลนะครับ)"ขอบคุณครับ"ผมกดตัดสายจากนักสืบแล้วจัดการเปิดคอมขึ้นเพื่อเข้าระบบเมลตัวเองไม่ใช่เมลบริษัท รอไม่นานนักสืบก็ส่งข้อมูลมาให้ผม มันเป็นข้อมูลของคนสองคน คนแรกคือท้องฟ้าตัวปลอม ผมไล่อ่านข้อมูลดูมันมีข้อมูลประวัติของเขาขึ้นมา ทั้งหมดสามชื่อชื่อแรก เจย์เลน วิโทรี่ นักฆ่าของแก๊ง มังกรสีนิล ผู้มีอิทธิพลในภาคใต้ ที่ถูกรัฐบาลกวาดล้างไปเมื่อสามปีก่อน
สวมรอยครั้งที่07Seiya partบรรยากาศในรถอึดอัดจนน่าขนลุก ทั้งที่เขาเป็นคนบอกผมว่ามีเรื่องจะคุยด้วย แต่ตัวเองกลับเอาแต่นั่งเงียบตลอดทางแถมทำหน้านิ่งจนผมคาดเดาอารมณ์ไม่ถูกอีกในใจเขาคงมีคำถามว่าทำไมผมถึงไปอยู่ในผับจนเกือบโดนผู้ชายตัวใหญ่ที่คาดว่าจะเป็นคนรู้จักของพี่ชูลากเข้าโรงแรมได้ ก็คงต้องย้อนไปประมาณสักห้าชั่วโมงก่อนผมได้รับโทรศัพท์จากลูอิสเกี่ยวกับภารกิจสำคัญที่ลูอิสรับเอาไว้ แต่จอมโจรไนท์บลูมันดันออกมาเสียก่อน ลูอิสจึงขอร้องให้ผมมาทำภารกิจนี้แทนหนึ่งวัน จะให้ผมไปจับจอมโจรไนท์บลูแทนก็กลัวว่าผมจะถูกหัวหน้าและคนในองค์กรจับได้ว่าแอบมาปฏิบัติหน้าที่ทั้งที่โดนพักงานอยู่ แล้วผมอาจจะซวยจนโดนไล่ออกผมจึงต้องจำใจแอบออกจากบ้านมาปลอมตัวเป็นเด็กเสิร์ฟที่นี่ เพื่อหาตัวเป้าหมายให้ลูอิส มันเป็นแค่ภารกิจจับชู้ธรรมดานั่นแหละ ปกติลูอิสมันคงไม่รับหรอก แต่คงเพราะเงินหนามันถึงได้ยอมรับ แต่คอยดูเถอะถ้าภารกิจสำเร็จผมทวงส่วนแบ่งเก้าสิบเปอร์เซ็นต์แน่"ไปต่อกันไหมครับ" เสียงของผู้ชายคนหนึ่งพูดขึ้นมาหลังจากที่ผ