“มันมาแล้วครับเสี่ย” เสียงรายงานจากลูกน้องของเสี่ยธงชัยเอ่ยขึ้นทันทีที่เห็นร่างสูงของลีอันโดรกำลังก้าวขาเดินลงมาจากบันไดด้วยท่วงท่าสง่าผ่าเผยราวกับราชสีห์ ทำราวกับไม่เกรงกลัวอำนาจของคนอย่างเสี่ยธงชัยเจ้านายของเขาเลยสักนิด
ลีอันโดรตรงดิ่งมาที่ห้องโถงใหญ่ที่มีเสี่ยธงชัยและลูกน้องของมันกำลังยืนรอเขาอีกเกือบยี่สิบคน พลางล้วงมือเข้าไปในกางเกงด้วยท่าทีเรียบเฉยไม่สะทกสะท้าน
“คุณลีอันโดร เอ่อ สะ สวัสดีครับ” การ์ดและลูกน้องของเสี่ยธงชัยต่างหันมองเจ้านายของตัวเองอย่างตกใจและแปลกใจอย่างพร้อมเพรียงกันเมื่อเห็นท่าทางนอบน้อมที่เจ้านายแสดงออกต่อหน้าชายหนุ่มรุ่นลูกที่ยืนล้วงกระเป๋าอยู่ตรงหน้า
“เสี่ยรู้จักมันด้วยหรอครับ” เสียงลูกน้องที่เอ่ยกระซิบถามนั้นทำเอาชายแก่ร่างท้วมได้แต่กัดฟันแน่นตอบในใจเสียงขุ่น... ยิ่งกว่ารู้จักเสียอีก เพราะชายหนุ่มวัยอ่อนกว่าคราวลูกตรงหน้าเขาตอนนี้คือ ลูกชายคนโตของคุณหญิงดารินหรือก็คือคนที่เขาเคยไปขอกู้เงินมาลงทุนกับธุรกิจจนประสบความสำเร็จได้ถึงทุกวันนี้ และแม้เขาจะใช้คืนท่านไปหมดในเวลาไม่กี่ปีแล้วแต่คุณดารินก็ถือเป็นผู้มีพระคุณกับเขาแล้วชายหนุ่มตรงหน้าคนนี้เขาก็รู้จักกิตติศัพท์ดีพอควรว่าเป็นคนที่น่าเกรงขามและน่ากลัวทั้งในทางธุรกิจและชีวิตส่วนตัว หากเขากล้าต่อกรด้วยมีหวังบริษัทที่เขาสร้างมันมากับมือพังลงในพริบตาแน่...เสี่ยธงชัยได้แต่ก่นด่าบุตรชายในใจอย่างโมโห
หาเรื่องให้กูจนได้ไอ้ลูกคนนี้
“คุณเองหรอ เสี่ยธงชัย” ลีอันโดรเอ่ยถามออกมาด้วยน้ำเสียงหยามหยัน พลางกระตุกยิ้มน่ากลัวเสียจนคนที่มองอยู่ถึงกับเสียวสันหลังวาบทันที
“ได้ยินว่าลูกชายคุณจะไปฟ้องพ่อ ให้มาถล่มที่นี่ มาเร็วกว่าที่คิดนะ เอาสิ เชิญตามสบาย” ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยบุตรชายของเสี่ยธงชัยพร้อมเอ่ยเชื้อเชิญให้เสี่ยธงชัยยกพวกมาถล่มแอลคลับอย่างไม่ยี่หระ
“มะ ไม่ใช่อย่างงั้นหรอกครับ คุณลีอันโดร คะ คือผมมาขอโทษแทนลูกชายผมที่มาก่อเรื่องที่นี่น่ะครับ” จากที่ตอนแรกเสี่ยธงชัยต้องการที่จะมาเอาเรื่องคนที่ทำร้ายลูกชายเขาให้สาสม แต่พอมาเจอหน้าชายหนุ่มก็ทำเอาเขาต้องเปลี่ยนความตั้งใจของตัวเองแทบจะทันที
“หึ งั้นหรอ!”
“ผมขอโทษแทนลูกชายด้วยครับคุณลีอันโดร ผมยินดีจะชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมดให้ครับ”
“เสี่ยครับ! แต่นายน้อย” ลูกน้องของเสี่ยธงชัยอุทานออกมาอย่างไม่เห็นด้วยและไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่เจ้านายมาพูด
“มึงหุบปากไปไอ้เดช!”
ลีอันโดรเหยียดยิ้มมุมปากอย่างดูถูกดูแคลน พลางจ้องหน้าเสี่ยธงชัยด้วยแววตามืดลึกน่ากลัว เขาไม่รู้เหรอกว่าไอ้เสี่ยนี่มันรู้จักเขาได้ยังไง แล้วไอ้ท่าทางเกรงกลัวที่มันแสดงออกมาเขาก็ไม่คิดจะใส่ใจ แต่ก็ดีที่ไม่ต้องเคลียร์อะไรเยอะแยะมากมายให้รำคาญใจ
“นึกว่าลงมาจะได้ยืดเส้นยืดสายสักหน่อย ไม่สนุกเลยแฮะ” มือหนาหยิบแก้วบรั่นดีที่ลูกน้องส่งให้ตามที่เขาสั่งไปก่อนหน้ามาคลึงเล่นอย่างใจเย็น เสียงที่เปล่งออกมานั้นราบเรียบก็จริงแต่กลับทำให้ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นหวั่นกลัวกับน้ำเสียงและท่าทางที่เยือกเย็นนั่นของเขา
“ผะ ผมขอโทษแทนลูกชายอีกครั้งนะครับ” เสี่ยธงชัยก้มหัวขอโทษร่างสูงที่มีอายุน้อยกว่าตัวเองอย่างนอบน้อม ทำเอาลูกน้องที่ตามมาด้วยเกือบยี่สิบชีวิตต้องรีบก้มหัวขอโทษตามผู้เป็นเจ้านายเช่นกัน แม้จะยังไม่เข้าใจและมึนงงกับสถานการณ์ที่ผลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ
“ส่งแขก!” ลีอันโดรหันไปสั่งนิคเสียงเข้มอย่างไม่ใส่ใจหรือให้ค่ากับเสี่งธงชัยและพวกของมันที่กำลังก้มหัวให้ตัวเอง ร่างสูงหมุนกายหันหลังกลับขึ้นไปบนห้องทำงานทันทีเพราะเขาไม่อยากเสียเวลาตรงนี้นานนัก... ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการที่ได้อยู่กับยัยเด็กขี้กลัวนั่นแล้ว
พลัวะ!
เสียงเปิดประตูเข้ามาในห้อง ทำเอาสองสาวที่นั่งคุยกันอยู่ต่างหันมามองและทำหน้าเลิกลักทำตัวไม่ถูก เมื่อคนที่เปิดประตูเข้ามานั้นมีใบหน้าที่เรียบตึงและดูหงุดหงิดเสียจนเธอแอบหวั่น
“เอ่อ...”
“ออกไป!” ลีอันโดรเอ่ยไล่พนักงานสาวสวยที่เข้ามาอยู่เป็นเพื่อนเธอเสียงเข้ม
“ค่ะนายท่าน” พนักงานสาวพยักหน้ารับคำพลางช้อนสายตามองตามแผ่นหลังของชายหนุ่มไปอย่างมีความหมายก่อนจะค่อยๆ เดินออกไปจากห้อง พิรตาที่เห็นดังนั้นได้แต่มองตามด้วยความสงสัยและมึนงงกับแววตาและกิริยาเหล่านั้นของพนักงานสาวที่เข้ามาอยู่เป็นเพื่อนเธอ
ปึง!
ลีอันโดรเดินออกไปที่ระเบียงห้องพลางจุดบุหรี่สูบอัดควันเข้าปอดไปอย่างหนัก แต่ก็ไม่ลืมที่จะปิดประตูห้องเพื่อไม่ให้กลิ่นไปรบกวนเธอ บุหรี่มวนที่สองถูกจุดสูบต่อทันทีเมื่อมวนแรกหมดไปเพียงแค่เข้าอัดเข้าปอดไปไม่กี่ครั้ง
คนตัวเล็กนั่งมองเขาด้วยความเป็นห่วงระคนสงสัยว่าเหตุใดเขาถึงต้องดูดบุหรี่เยอะอย่างนี้ด้วย ก่อนหน้านี้เธอไม่เคยเห็นเขาสูบบุหรี่เลยสักครั้ง แล้วก็เมื่อกี้ที่เธอกับเขา เอ่อ... จูบกันเธอก็ไม่เห็นได้กลิ่นบุหรี่จากเขาเลยหรือเขาพึ่งจะมาสูบ หญิงสาวคิดด้วยความเป็นห่วงชายหนุ่ม อยากไปถามเขาว่าเขาเครียดอะไร ไม่สบายใจอะไร แต่กลัวถูกเขาไล่ตะเพิดออกมาเหมือนทุกทีที่เธอเข้าใกล้
“มองอะไรนักหนา!” ชายหนุ่มดุเธอออกมาทันทีที่เปิดประตูเข้ามาแล้วมองเห็นเธอที่กำลังนั่งมองเขาแทบไม่วางตา
“เอ่ออ คุณลีอันโดรสูบบุหรี่ด้วยเหรอคะ” หญิงสาวตัดสินใจเอ่ยถามเขาทันทีด้วยความอยากรู้ระคนเป็นห่วง เธอเคยได้ยินมาว่าคนที่สูบบุหรี่จัดส่วนมากกำลังมีเรื่องเครียดเรื่องไม่สบายใจกันทั้งนั้น
“ไม่ใช่เรื่องของเธอ!”
“ขะ ขอโทษค่ะ” ตอบพลางก้มหน้างุดอย่างน้อยใจ ก่อนถามเธอก็คิดไว้แล้วแหละ ว่าต้องได้คำตอบประมาณนี้เลยเผื่อใจไว้แล้วน่ะ แต่ก็อดน้อยใจกับคำตอบเขาอยู่ดี เราอุตส่าห์เป็นห่วงแท้ๆ เลย
“จะนั่งอยู่ตรงนี้ทั้งคืน ไม่กลับห้องรึไง”
“เอ่อ... กลับค่ะ” หญิงสาวตอบเขาพลางรีบกุลีกุจอหยิบถุงผ้าที่เธอเรียกมันว่ากระเป๋ามาถือและวิ่งตามชายหนุ่มออกไปโดยลืมความเจ็บไปเลย ก็เธอกลัวเขาทิ้งอีกนี่นา...
“ไอ้นิคไปเอารถออกมารอกูที่นี่” สั่งเสร็จเขาก็หมุนกายเดินกลับเข้าไปข้างในทันทีอย่างไม่พูดพร่ำทำเพลง หญิงสาวจึงรีบวิ่งตามไปด้วยราวกับเด็กน้อยกลัวถูกผู้ปกครองทิ้ง
“นี่เธอจะตามฉันมาทำไมห๊ะ!”
“พอใจกลัว” เธอตอบเขาด้วยน้ำเสียงสั่น
“ออกไปรอข้างนอก ฉันจะไปเข้าห้องน้ำหรือจะเข้าไปด้วยกัน?”
“เดี๋ยวพอใจรออยู่ตรงนี้ก็ได้ค่ะ”
“....” เขาส่ายหน้าอย่างระอากับเธอก่อนจะหมุนเท้าเข้าไปในห้องน้ำทันที... ไม่นานชายหนุ่มก็เดินออกมาและตรงดิ่งออกไปโดยไม่เรียกเธอเลยซักนิดเดียว
“เชิญครับนาย... เชิญครับคุณพิรตา”
“เรียกหนูว่าพอใจก็ได้ค่ะ”
“ครับคุณพอใจ” นิคเปิดประตูให้ชายหนุ่มเข้าไปนั่งที่เบาะหลังอย่างนอบน้อม หญิงสาวจึงเปิดประตูข้างคนขับเองเพื่อเข้าไปนั่งอย่างรู้ฐานะตัวเอง
“คุณพอใจมานั่งตรงนี้ดีกว่าครับ”
“เอ่อ ไม่ดีหรอกค่ะ หนูเป็นแค่ลูกแม่ครัวของท่านน่ะค่ะ ไม่ควรไปนั่งเสมอกับเจ้านาย”
“มานั่งตรงนี้!” ชายหนุ่มตะคอกเสียงดุจนหญิงสาวและนิคสะดุ้งพร้อมกันทันที
“เอ่อ ค่ะ”
“เชิญครับ” พิรตาพยักหน้าก่อนจะเดินตัวลีบเล็กขึ้นไปนั่งเบาะหลังข้างร่างสูงใบหน้าดุ ร่างเล็กนั่งตัวลีบชิดประตูอย่างเกรงใจและกลัวจะไปทำตัวรบกวนเขา เนื่องจากเธอเห็นเขานั่งหลับตาราวกลับต้องการพักผ่อน รถคันหรูเคลื่อนตัวออกไปเธอจึงแอบลอบมองใบหน้าหล่อคมสันนี่นั่งปิดเปลือกตาอยู่ข้างกายอย่างเป็นห่วง
“นายครับ นายทำแผลที่มือหรือยังครับผมจะได้แวะซื้ออุปกรณ์ทำแผลให้” ทันทีที่ได้ยินประโยคนั้นของพี่คนที่ขับรถ พิรตาก็มองไปที่หลังมือของเขาทันที ฉับพลันตากลมโตก็เบิกกว้างขึ้นด้วยความตกใจระคนเป็นห่วงที่เห็นหลังมือขาวของเขามีรอยถลอกและรอยแตกจนเลือดซิบออกมาเล็กน้อย
ฟรึบ!
พิรตาคว้ามือหนาของเขามาสำรวจด้วยความเป็นห่วงทันทีอย่างลืมตัว ทำเอาคนที่นั่งปิดเปลือกตากลั้นยิ้มแทบไม่ไหวเมื่อเห็นเธอห่วงเขาจนลืมตัว แต่ทว่าพอเห็นแววตาล้อเลียนของนิคที่กำลังมองมาเช่นกัน ก็ทำเอาชายหนุ่มหุบยิ้มและตีสีหน้าให้เรียบขรึมทันที
“เจ็บมากไหมคะ ฟู่วๆ”
หญิงสาวถามเขาพลางเป่าที่แผลให้เขาเบาๆ ตอนเด็กๆ เวลาเธอล้มและมีบาดแผลแม่และป้าจะชอบเป่าที่แผลของเธอ ทำให้เธอหายเจ็บในทันที เธอจึงเลือกเป่าให้เขาเพราะอยากให้เขาหายเจ็บเหมือนที่เธอเคยหาย
“ฉันไม่ใช่เด็กที่มีใครมาเป่าแผลแล้วจะหายนะ ไร้สาระ!” เขาชักมือกลับทันทีเพราะทนสายตาล้อเลียนของนิคไม่ไหว แล้วมันจะยิ้มหาสวรรค์วิมานอะไรนักหนาวะหงุดหงิดชิบ!
แม้เขาจะหาว่าเธอไร้สาระ แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ความห่วงในใจของเธอลดลงไปเลย หญิงสาวนั่งมองแผลของเขาด้วยความเป็นห่วงไปตลอดทาง
“พี่คะจอดร้านสะดวกซื้อให้หนูได้ไหมคะ”
“เธอจะทำอะไร”
“หนูจะลงไปซื้ออุปกรณ์ทำแผลให้คุณค่ะ”
“ไม่ต้อง! แผลแค่นี้ไม่ทำให้ฉันตายได้หรอก อีกอย่างฉันไม่ได้เจ็บหรือปวดอะไร”
“แต่ว่า...” เธอเงียบเสียงลงทันทีที่เจอเขากดสายตาดุมอง
“ถึงแล้วครับนาย” เพราะมัวแต่ห่วงเขาจนลืมมองเส้นทาง แต่เอ๊ะที่นี่มันหอเธอนี่นาแล้วพี่คนขับรู้ได้ยังไงว่าหอเธออยู่ที่นี่ทั้งที่เธอยังไม่ได้บอกทางเลยด้วยซ้ำ หญิงสาวคิดพลางกำลังจะเอ่ยปากถาม
“ถึงแล้วก็ลงไปสิ! จะนั่งนิ่งอยู่ทำไม”
“คุณพอใจครับบนห้องคุณพอใจมีอุปกรณ์ทำแผลไหมครับ ผมกลัวแผลนายอักเสบน่ะครับ เลยว่าจะให้นายขึ้นไปทำแผลบนห้องคุณ”
“ไอ้นิค!!” ชายหนุ่มกัดกรามแน่นและส่งสายตาคาดโทษให้ลูกน้อง
“มีค่ะๆ งั้นคุณลีอันโดรไปทำแผลบนห้องพอใจก่อนไหมคะหรือจะให้พอใจเอาลงมาให้ที่นี่ก็ได้ค่ะ ปล่อยไว้แผลอาจติดเชื้อก็ได้นะคะ” หญิงสาวพูดพลางมองไปที่แผลเขาด้วยความห่วงใย
“ลงไปทำแผลสิครับนาย” นิคพูดกับชายหนุ่มพร้อมยิ้มใส่กระจกมองหลังให้เจ้านายอย่างล้อเลียน
จิ๊!!
ลีอันโดรจิ๊ปากอย่างหงุดหงิด ก่อนจะหันไปเปิดประตูรถแล้วเดินเร็วเข้าไปข้างในหอพักของหญิงสาวทันที ทำเอาคนตัวเล็กต้องรีบถลาวิ่งตามไปเพราะกลัวเขาหลงทาง นิคมองตามไปด้วยรอยยิ้มขบขันกับท่าทีของเจ้านายหนุ่ม อยากอยู่กับเขาแต่ทำเป็นเก๊ก ต้องให้เขาออกโรงตลอด เขาไม่แปลกใจเลยที่นายของเขา ผู้นิ่งขรึมเย็นชาและแสนดุดันของเขาจะมาหลงเสน่ห์สาวน้อยคนนี้ ก็ดูเธอสิทั้งอ่อนโยนใจดีแถมยังสวยเอามากๆ อีกด้วย ไม่รักก็บ้าแล้ว
พิรตารีบวิ่งตามร่างสูงของเขาเข้ามาในลิฟต์อย่างกระหืดกระหอบ เขาไม่รอเธอเลยแล้วนี่ยังเดินมาที่ลิฟต์ถูกอีกต่างหาก จะเก่งไปซะทุกอย่างเลยหรือไงนะ ค่อนขอดเขาในใจพลางใช้นิ้วจิ้มกดไปที่ชั้นที่ตัวเองอยู่ก่อนจะหันไปถามเขาเสียงแผ่วด้วยความเป็นห่วงอีกครั้ง
“ยะ ยังเจ็บอยู่ไหมคะ”
“....” เหมือนเดิม เขาก็ยังเงียบกับเธอเหมือนเดิม
ติ๊ง!
“ทางนี้ค่ะ” เธอเอ่ยบอกเขาพลางรีบวิ่งไปไขกุญแจเปิดประตูห้อง
“เอ่อ คุณลีอันโดรนั่งรอตรงนี้ก่อนนะคะ เดี๋ยวพอใจเข้าไปเอากล่องยาสักครู่” หญิงสาวหันไปบอกเขาให้นั่งรอที่โซฟาตัวเล็กกลางห้องทันทีที่เข้ามาข้างใน ก่อนที่ร่างเล็กจะรีบกุลีกุจอไปหากล่องอุปกรณ์ทำแผลที่มีเอาไว้ติดห้อง เธอมักจะมีอุปกรณ์แบบนี้ติดห้องแต่ไหนแต่ไรแล้วล่ะ ก็ตัวเธอเป็นคนที่ซุ่มซ่ามนี่นา ทำไรนิดหน่อยก็ได้แผลแล้ว
“หะ เห้ยย พรึบ ตุบ”
ด้วยความที่รีบร้อนนำกล่องยามาทำแผลให้เขาทำให้หญิงสาวเดินสะดุดพรมล้มไปคร่อมทับอยู่บนตักของเขาทันที ที่มากไปกว่านั้นก็คือปากอิ่มของเธอตอนนี้กำลังแนบอยู่ที่แก้มของเขา!!
“หะ เห้ยย พรึบ ตุบ”ความรีบร้อนนำกล่องยามาทำแผลให้เขาทำให้ร่างเล็กที่กึ่งเดินกึ่งว้่งสะดุดพรมล้มลงไปนั่งคร่อมทับอยู่บนตักแกร่งของเขาทันที อ้อมแขนแกร่งผวาคว้ากอดเอวคอดและจับร่างเล็กไว้เช่นกันด้วยความตกใจระคนเป็นห่วงo_Oพิรตาเบิกตากว้างอย่างตกใจกับสภาพเธอและเขาในตอนนี้... ร่างทั้งร่างของเธอนั่งทับอยู่บนตักแกร่งของเขา ส่วนมือหนาของเขาตอนนี้ก็วางทาบอยู่บริเวณราวหน้าอกของเธอ กล่องยาที่เธอถือมาหล่นลงไปกองที่พื้นระเนระนาดและที่หนักไปกว่านั้นคือเรียวปากของเธอกำลังแนบอยู่ที่แก้มสากเคราของเขาตายแน่พอใจ หื้ออ“เอ่อ ขะ ขอโทษค่ะ” หญิงสาวผละใบหน้าและริมฝีปากออกจากแก้มของเขาก่อนจะรีบลุกไปยืนก้มหน้ากุมมือข้างโซฟาตัวเล็กที่เขานั่งอยู่อย่างทำตัวไม่ถูก“จะทำแผลก็รีบทำสิ!”“เอ่อค่ะ” หญิงสาวรับคำเสร็จก็รีบนั่งลงเก็บกล่องยาและอุปกรณ์ทำแผลที่นอนแอ่งแหม่งอยู่บนพื้นขึ้นมา พลางขยับเข้าไปนั่งคุกเข่าลงที่พรมหนานุ่มเพื่อที่จะได้ทำแผลให้เขาได้สะดวก“ขะ ขออนุญาตนะคะ” หญิงสาวเอ่ยพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงสั่น ก่อนจะยื่นมือไปคว้ามือหนาของเขามากุมไว้หลวมๆ พิรตาก้มลงไปเป่าแผลที่หลังมือของชายหนุ่มอีกครั้งอย่างลืมตัวแล้วจัด
“อ่าา คุณลี อันโดรคะ มะ มี.. สาย ขะ เข้าค่ะ” พิรตาบอกเขาอีกรอบเสียงกระท่อนกระแท่น พลางรีบดึงสติตัวเองที่หลงเตลิดไปกับสัมผัสสุดวาบหวามของเขากลับมา“โธ่เว้ยย!” ร่างสูงหยัดกายผละออกไปคว้าโทรศัพท์ที่โต๊ะเล็กข้างเตียงของเธอมากดรับสายอย่างหงุดหงิดจากอารมณ์ที่คลั่งค้าง!“มีอะไร!” กระแทกเสียงดุห้วนใส่ด้วยความหงุดหงิดไม่พอใจ(ขอโทษที่โทรมารบกวนเวลาพักผ่อนครับพี่ใหญ่)“อืม มีอะไร” ทันทีที่ได้ยินเสียงของปลายสาย ชายหนุ่มจึงปรับโทนเสียงให้เป็นปกติ(ไอ้เดรคมันโทรมาบอกผมว่าที่แอลคลับเมืองไทยเกิดเรื่อง แต่พี่ใหญ่จัดการไปแล้ว)“อื้ม” ชายหนุ่มรับคำปลายสาย พลางใช้มือรองศีรษะของตัวเองเพื่อนอนคุยโทรศัพท์ แต่ทว่าสายตาของเขากลับมองไปยังหญิงสาวข้างกายที่ลุกขึ้นนั่งหันหลังติดกระดุมชุดนอนตัวสวยของเธอไม่วางตา(พี่ใหญ่ไปทำอะไรที่เมืองไทยครับ แล้วทุกอย่างเรียบร้อยดีไหม)“พี่จัดการทุกอย่างแล้ว นายไม่ต้องห่วง” ลีอันโดรเลือกที่จะไม่ตอบน้องชายว่าเขามาทำอะไรที่เมืองไทย เพราะดูดีว่าน้องชายเพียงแค่ถามไปอย่างนั้นเอง(ผมได้ยินว่าพี่ใหญ่สั่งเก็บลูกค้าที่มาคลับสามคน เกิดอะไรขึ้นครับ)ลีออนยังไม่วายถามคำถามที่เขาไม่คิดอยากจะ
“อะ อะไรนะคะแม่!”“แม่กำลังไปหาหนูที่หอจ้ะลูก” พิรตาเบิกตาโตขึ้นอย่างตกใจ ก่อนจะหันไปมองร่างสูงของเขาที่นอนหลับสบายใจไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไรกับอาการร้อนรนตกใจของเธอจะทำไงดี... ถ้าแม่กับป้ามาเจอคุณลีอันโดรอยู่กับเธอที่นี่ ในสภาพแบบนี้ท่านคงจะทั้งตกใจและเสียใจมากแน่เลย ที่สำคัญท่านจะต้องผิดหวังในตัวเธอมากที่มาเห็นเธอพาผู้ชายมานอนบนเตียงในสภาพล่อแหลมแบบนี้ มากไปกว่านั้น ผู้ชายคนนั้นยังเป็นเจ้านายของพวกเราอีกด้วยหญิงสาวคิดอย่างกลัดกลุ้ม ครั้นจะเรียกเขาเธอก็กลัวถูกเขาดุเอา แต่ถ้าจะปล่อยให้แม่กับป้ามาเห็นเธอกับเขาอยู่ด้วยกันแบบนี้ เธอก็คงไม่ยอมให้เป็นแบบนั้นแน่ คิดได้ดังนั้นร่างเล็กจึงเดินไปหาร่างสูงที่นอนปิดเปลือกตาหลับบนเตียงอย่างกล้าๆ กลัวๆ“คุณลีอันโดรคะ คุณ ตะ ตื่นเถอะค่ะ”“...”“คุณคะ คุณลีอันโดร ตื่นเถอะค่ะ”ร่างเล็กเดินเข้าไปนั่งที่พื้นข้างเตียงแล้วยื่นมือไปเขย่าแขนกำยำของเขาเบาๆ ด้วยกลัวว่าเขาจะตื่นมาดุเธออีกที่ไปแตะเนื้อต้องตัวเขา แม้ว่าเมื่อคืนเธอกับเขาจะทำมากกว่าแตะต้องเนื้อตัวแต่ทุกครั้งเขาก็จะเป็นคนเริ่มก่อน ไม่รู้ว่าตื่นมาเขาจะกลายเป็นคนเดิมที่เคยเย็นชากับเธอหรือเปล่าลีอันโดรจ
“หนูคิดถึงแม่กับป้ามากนะคะ ถ้าเล่มวิจัยหนูเสร็จเมื่อไหร่นะ หนูจะรีบกลับไปกอดไปหอมแม่กับป้าที่บ้านไออุ่นให้หายคิดถึงไปเลย คิดถึงเด็กๆ ที่นั่นด้วย” หญิงสาวพูดสียงอ้อนกับมารดาและป้าของเธอทันทีที่ผละออกจากอ้อมแขนสุดอบอุ่นของท่านทั้งสองหลังจากที่เธอและญะญ๋าเดินมาส่งท่านที่ลานจอดรถของหอพัก พลอยทำให้ท่านทั้งสองต่างยิ้มให้ความขี้อ้อนของเธออย่างเอ็นดู เวลาที่ไม่ได้อยู่บ้านไออุ่นหรืออยู่กันตามลำพังเธอมักจะเรียกแม่ครูเพ็ญว่าป้าเสมอ แต่เมื่ออยู่ในบ้านไออุ่นหรือมีคนอยู่เยอะเธอมักเรียกป้าของเธอว่าแม่ครูเพ็ญ เพราะเด็กที่นั่นจะได้ไม่รู้สึกน้อยใจ ที่เธอมีทั้งแม่และป้าคอยดูแลให้ความอบอุ่นถึงแม้จะขาดพ่อไปก็ตาม“โตเป็นสาวแล้วยังอ้อนแม่กับป้าเหมือนเด็กๆ เลยนะเรา อายหนูญะญ๋าบ้างสิลูก” เพียงใจพูดกับบุตรสาวด้วยรอยยิ้มเอ็นดู“ญะญ๋าก็อ้อนคุณพ่อคุณแม่แบบนี้เหมือนกันค่ะคุณน้า”“เห็นไหมคะแม่ หนูไม่ได้เป็นคนเดียวเสียหน่อย”“จ้าๆ แม่คนขี้อ้อน แม่กับป้าต้องกลับแล้วนะลูก ดูแลตัวเองกันดีๆ นะ”“ดูแลตัวเองด้วยนะลูก แม่เขาเป็นห่วงนอนไม่หลับทั้งคืนเลย”“โธ่ แม่จ๋าา พอใจขอโทษนะคะที่ทำให้แม่เป็นห่วง ต่อไปจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้
“ขยับมานี่!”เสียงห้วนออกคำสั่งอย่างไม่สบอารมณ์ ทำเอาคนที่นั่งชิดขอบประตูอย่างทำตัวไม่ถูกนั้นค่อยๆ ขยับตัวเข้าไปนั่งใกล้เขาอย่างไม่อิดออดและไม่ถามหรือสงสัยอะไรทั้งสิ้นก็เธออยากอยู่ใกล้ๆ เขามานานแล้วนี่นา คนตัวเล็กขยับเข้ามานั่งชิดติดชายหนุ่มจนสะโพกมนเบียดเสียดกับสะโพกของเขาอย่างกล้าๆ กลัวๆฟรึบ!มือหนายื่นไปจับมือเรียวสวยของคนตัวเล็กที่วางอยู่บนตักเธอมากุมเอาไว้เหมือนตอนก่อนจะขึ้นมาบนรถไว้อีกครั้ง ก่อนจะดึงมาวางไว้บนตักแกร่งของตัวเองพร้อมกับบีบคลึงและไล้นิ้วบนหลังมือเล็กไปมาตลอดทาง การกระทำของเขาทำเอาผู้เป็นเจ้าของมือได้แต่แอบลอบยิ้มด้วยความเขิน ทำไมวันนี้เขาน่ารักกับเธอจังแม้จะดุไปบ้างแต่เขาก็น่ารักไม่ไหวเลย“นายครับผมเกรงว่าถ้าไปส่งคุณพิรตาก่อน นายจะไม่ทันเอาครับ เอ่อ งั้นเดี๋ยวผมไปส่งนายก่อนแล้วค่อยกลับไปส่งคุณพิรตานะครับ” นิคหันมาพูดกับเจ้านายหนุ่มที่นั่งหน้าบอกบุญไม่รับอยู่เบาะด้านหลังด้วยน้ำเสียงจริงจัง“อื้ม” ชายหนุ่มหันมามองคนตัวเล็กข้างกายเพียงแว๊บเดียว ก่อนจะครางเสียงต่ำในลำคอตอบกลับลูกน้องไป เปลือกตาหนาของชายหนุ่มปิดลงช้าๆ ราวกับต้องการพักผ่อนแต่ทว่ามือและนิ้วของเขาก็ยังคงบ
“คนอะไรหน้าดุชะมัดเลย” แต่ก็ยังหล่อมากๆ อยู่ดีพิรตานั่งยิ้มให้กับภาพพักหน้าจอมือถือที่เขาซื้อให้และก็คงเป็นเขาอีกนั่นแหละที่เอารูปตัวเองมาตั้งเอาไว้ให้ก่อนที่จะเอามาให้เธอ เพราะมันเป็นภาพที่เขากำลังนั่งทำหน้าดุไม่สบอารมณ์อยู่บนเก้าอี้ทำงานตัวใหญ่“ไม่ได้ดุแค่หน้าอย่างเดียวนะครับ นิสัยยังดุอีกต่างหาก”ได้ทีนิคเอ่ยฟ้องหญิงสาวด้วยความอัดอั้นกับความดุความโหดของเจ้านาย พิรตาเองก็เห็นด้วยกับคำพูดนั้นเป็นอย่างยิ่ง เขาน่ะทั้งดุ ทั้งเย็นชากับเธอทุกครั้งเวลาที่เจอ แต่เมื่อกี้แม้เขาจะมีดุบ้าง แต่เขาอ่อนโยนกับเธอมากทั้งกอดทั้งหอมจนเธอนึกว่าตัวเองฝันไปด้วยซ้ำ...พิรตานั่งอมยิ้มเขินอายกับเหตุการณ์เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมาก่อนที่เขาจะก้าวขึ้นเครื่องเพื่อกลับสเปน... พอใจเชื่อคุณค่ะ“เดินทางปลอดภัยนะคะ คุณลีอันโดร”พิรตาเอ่ยพูดกับตัวเองเสียงแผ่วเบาก่อนจะปิดเปลือกตาลงอย่างผ่อนคลายไปตลอดทางทางด้านลีอันโดรนั้นก็ไม่ต่างจากเธอนักเพราะทันทีที่เครื่องบินเจ็ทสุดหรูทยานขึ้นสู่ท้องฟ้า เขาก็หยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมาเปิดดูภาพของเธอที่นอนหลับพริ้มอย่างสุขใจที่เขาแอบถ่ายไว้เมื่อคืนหลายร้อยรูป ปากหยักสวยของเขาข
ครืด ครืด ครืด“คะ คุณลีอันโดร”คนตัวเล็กที่กำลังนั่งถักเสื้อไหมพรมอยู่ที่พื้นข้างเตียงนอนถึงกลับต้องเบิกตาขึ้นด้วยความตกใจ พลันหัวใจดวงน้อยก็เต้นรัวเร็วด้วยความตื่นเต้นดีใจ เมื่อสายตาเหลือบไปเห็นว่าเป็นเขาที่โทรเข้ามาหาเธอในยามวิกาลแบบนี้มือเรียวกำลังจะยื่นไปกดรับ แต่ทว่าปลายสายก็ตัดไปก่อน... หื้อเธอไม่ได้กดรับช้าสักหน่อยทำไมรีบวางจังพิรตาหยิบมือถือเครื่องบางมาถือเอาไว้ในมือเผื่อเขาโทรกลับมาอีกครั้งเธอจะได้กดรับสายทัน จนเวลาล่วงเลยไปหลายนาทีก็ไม่มีเสียงจากสายเรียกเข้าดังขึ้นเลยหรือเขาแค่กดผิด“โทรกลับดีมั้ยนะ” เม้มปากอย่างชั่งใจอยู่นานกับการคิดจะโทรกลับไปหาเขา ถึงแม้เขาจะกดผิดหรือมือลั่นแต่เธอขอโทรหาเขาให้คลายคิดถึงลงบ้างก็ยังดี และถึงจะโดนเขาดุกลับมาเธอก็ยอมทางด้านลีอันโดรนั้นก็แทบนั่งไม่ติดที่ตัวเองเผลอกดโทรหาเธอแบบวิดีโอคอล ถ้าเธอรับเขาจะต้องทำหน้าแบบไหน จะตอบว่ายังไง จะคุยอะไรกับเธอ เขาคิดอย่างตื่นเต้นราวกับเด็กหนุ่มพึ่งหัดมีความรักน่าอายชะมัด!ครืด ครืด ครืดแน่นอนจากที่เขานั่งไม่ติดเก้าอี้ทำงานอยู่แล้ว ตอนนี้เขาแทบจะลุกเดินไปให้ทั่วทั้งห้องด้วยความตื่นเต้นที่เห็นสายโทรเข้าม
Penhouse Madrid Spain21.30 น.“ปานนี้ตื่นรึยังนะ”ลีอันโดรพึมพำถึงสาวน้อยที่อยู่เมืองไทยพร้อมกับกระตุกยิ้มมุมปากเล็กน้อยเมื่อเหลือบสายตาไปมองเวลาที่แสดงอยู่หน้าจอมือถือเป็นเวลาเกือบจะสี่ทุ่มเข้าแล้ว เนื่องจากเวลาที่ไทยกับสเปนห่างกันถึงสิบชั่วโมง เขาจึงคำนวนแล้วว่าเธอน่าจะตื่นแล้วหรืออาจจะนอนขี้เซาเหมือนตอนที่อยู่หอพัก ตอนนั้นน่ะเขาปลุกเธอด้วยสารพัดวิธีมาก จูบก็แล้ว หอมก็แล้ว เธอก็ยังไม่ยอมตื่น ชายหนุ่มแย้มยิ้มออกมาเมื่อนึกไปถึงความขี้เซาของเธอติ๊ง!เสียงแจ้งเตือนข้อความจากมือถือดังขึ้น ทำเอาชายหนุ่มที่ยืนแต่งตัวอยู่ต้องขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจ ใครกันที่ทักเข้ามาในเครื่องส่วนตัวของเขาเวลานี้Phirata : อรุณสวัสดิ์ค่ะ“หึ ตื่นแล้วสินะ”ทันทีที่เห็นชื่อเธอที่หน้าจอสมาร์ทโฟนทักเข้ามาเขาก็กระตุกยิ้มออกมาทันที เดี๋ยวนี้ทักเขาก่อนด้วย สงสัยไม่กลัวเขาดุแล้วมั้ง ลีอันโดรเปิดอ่านข้อความแต่ก็ไม่ได้ตอบกลับอะไรไป เขาลุกไปแต่งตัวต่อเพื่อจะออกไปหาน้องชายตามที่ได้รับปากเอาไว้บ้านไออุ่น ประเทศไทยหลังจากที่ทำใจส่งคำทักทายไปหาเขา เธอก็ต้องมานั่งกัดปากอย่างเศร้าใจเมื่อเห็นเขาเปิดอ่านข้อความของเธอแล้วแต่
หลายชั่วโมงผ่านไป..."อื้อ.. พะ พอแล้วค่ะ เดี๋ยวไปประชุมไม่ทันนะ" พิรตาพูดพร้อมกับดันบ่าแกร่งของสามีเอาไว้เมื่อเขานั้นทำราวกับจะเข้ามากอดมาจูบเธออีกครั้ง ในห้องน้ำก็สองยกบนเตียงก็หนึ่ง นี่เขายังจะทำกับเธอในห้องแต่งตัวอีกหรือไงกัน"ก็ใครอยากให้น่ารักขนาดนี้ล่ะ จุ๊บ!""อื้อ! รีบใส่เสื้อผ้าเลยนะคะ" คนตัวเล็กพูดพร้อมกับยื่นเสื้อเชิ้ตสีขาวให้สามีหนุ่ม ก่อนจะผละตัวออกมายืนให้ห่างกับคนจอมหื่น"คร้าบบม๊ามี๊..."ฟรึ่บ!"อร๊ายยย"ชายหนุ่มยื่นมือไปรับเสื้อที่เธอส่งให้ก่อนจะกระตุกที่ชายเสื้อจนร่างเล็กที่มีเพียงเสื้อคลุมตัวใหญ่ปิดบังเรือนร่างถึงกับเซถลาตามแรงดึงเข้าสู่อ้อมกอดของเขา"ก่อนใส่เสื้อ... ขอกินนมม๊ามี๊ก่อน"จ๊วบ!"อร๊ายย... คนเจ้าเล่ห์" แม้ปากจะต่อว่าเขาแต่มือเรียวกลับยกขึ้นมาบีบบ่าแกร่งของเขาแน่น เมื่อเขาก้มหน้าลงมาดูดที่ยอดทรวงหวานสีช้ำจากแรงดูดกินของเขา ปากหยักเพิ่มแรงดูดดึงจนเธอแทบทรงตัวไม่อยู่เพราะถูกความเสียวซ่านจากปลายลิ้นร้อนเล่นงานสุดท้ายก็แพ้เขาอีกตามเคยสินะ"อื้อ.. พอแล้วค่ะ พอ" หญิงสาวพูดกับร่างสูงที่ดูดเม้มหน้าอกเธออย่างเมามันอีกครั้ง ชายหนุ่มจึงยอมผละกลีบปากออกมา แต่ทว่าก
"นะ หนูจะทำอะไร? พอใจ อ๊า!!" ร่างสูงร้องถามเสียงหลงเมื่อทันทีที่เธอขึ้นคร่อมทับเขาพิรตาไม่ตอบแต่กลับใช้มือเล็กคว้าท่อนเอ็นอุ่นที่แข็งขึงตั้งลำตรงจับสอดเข้ามาในร่องรักของตัวเองราวกับสาวร้อนรัก ทำเอาชายหนุ่มได้แต่ส่งเสียงครางซี๊ดปากอย่างเสียวซ่าน มือหนาที่พึ่งหยิบเครื่องป้องกันมา กำแน่นอย่างทรมานเมื่อสะโพกมนขยับส่ายวนไปมาอย่างยั่วเย้าบนแท่งรักที่อยู่ในกายสาวของเธอ ส่วนมืออีกข้างก็ต้องรีบยกไปจับที่เอวคอดเล็กเอาไว้แล้วบีบเคล้นเนื้อเนียนนุ่มเพื่อระบายความเสียวกลางกายสาวของเธอนั้นตอดความแข็งขึงเขาเป็นจังหวะจนเขานั้นปวดร้าวและทรมานไปทั้งลำ ยิ่งเธอส่ายวนสะโพกอย่างร่านร้อนชนิดที่ไม่ได้กลัวเอวหักเลยสักนิดก็ยิ่งทำเอาเขาเสียวทรมานจนต้องกัดกรามแกร่งเอาไว้แน่น"คุณใหญ่จะลงโทษที่พอใจขัดคำสั่งหรอคะ" ถามเสียงกระเส่าพร้อมกับกดสะโพกลงไปบนท่อนเอ็นของเขาหนักๆ แม้จะเสียวและทรมานไม่แพ้กับเขา แต่ยกนี้เธอต้องเป็นฝ่ายชนะเขาเท่านั้น"อ๊าาา... ซี๊ดด พะ พอก่อนที่รัก อ๊ะ!""พอได้ไงล่ะคะ... คุณใหญ่ยังไม่โดนฟาดเลยที่ทำตัวงี่เง่า!"เพลียะ!!!ใบหน้าหล่อหันไปตามแรงตบของเมียรักทันที หึ คงคิดว่าเขาจะโดนฟาดที่อื่นใช่ไห
"อ้ะ คุณใหญ่!!"หญิงสาวร้องเสียงหลงด้วยความเจ็บเมื่อถูกผู้เป็นสามีฟาดฝ่ามือลงมาที่สะโพกกลมมนอย่างไม่เบามือนัก ร่างบางที่กำลังถูกอุ้มพาดบ่าแกร่งดีดดิ้นไปมาพลางร้องขอความช่วยเหลือจากสาวใช้ที่อยู่บริเวณนั้น แต่ก็หาได้มีคนกล้าเข้ามาช่วยเธอเลยสักคน เพราะแค่ถูกคนบ้าอำนาจที่อุ้มเธออยู่ตอนนี้ปรายตามองด้วยสายตาดุดันคาดโทษ ทุกคนก็ต่างก้มหน้างุดอย่างหวาดกลัวก่อนจะเดินหลบเลี่ยงไปอีกทางทันที"ช่วยด้วยค่ะ ป้าพอลล่าช่วยพอใจด้วยย...คุณใหญ่ปล่อยพอใจลงเดี๋ยวนี้นะคะ!""กะ เกิดอะไรขึ้นกันคะนายใหญ่ ทำไมถึง…" ป้าพอลล่าหัวหน้าแม่บ้านที่พึ่งเดินออกมาจากห้องครัวเอ่ยถามเจ้านายหนุ่มอย่างสงสัยใคร่รู้กับเหตุการณ์ตรงหน้า"ไปบอกไอ้รอฟให้ไปส่งเนลล่าที่โรงเรียน แล้วบอกมันเลื่อนประชุมเป็นตอนบ่าย!" ชายหนุ่มไม่ได้ตอบคำถามของหญิงสูงวัย แต่กลับหันไปออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงดุดันน่ากลัวแทน"ตะ แต่ว่าา...นายญะ…""ถ้าไม่อยากโดนไล่ออกก็หุบปากและรีบไปทำตามที่ฉันสั่งซะ!"ร่างสูงตะคอกเสียงดุใส่หญิงชราหัวหน้าแม่บ้านก่อนจะอุ้มร่างบางที่ยังคงดีดดิ้นบนบ่าเดินมุ่งหน้าขึ้นไปยังห้องนอนของตัวเองทันทีด้วยใบหน้าบึ้งตึง ปล่อยให้คนที่ถูกตะคอกเส
ครืด ครืด ครืด~เสียงมือถือเครื่องบางที่ดังขึ้นอยู่โต๊ะเล็กข้างเตียงนั้น ทำเอาเปลือกตาบางขยับเล็กน้อย ก่อนจะค่อยๆ ปรือปรอยเปิดเปลือกตามองไปยังต้นเหตุของเสียงรบกวนนั้นอย่างแปลกใจที่ถูกรบกวนตั้งแต่เช้ามือเรียวเล็กเอื้อมไปหยิบมือถือที่ส่งเสียงดังเข้ามาถือเพื่อเตรียมจะกดรับ แต่ทว่าเวลาที่แสดงอยู่บนหน้าจอมือถือนั้นก็ทำเอาคนที่สะลึมสะลือในตอนแรกต้องรีบเด้งตัวขึ้นมานั่งแทบจะทันที เมื่อเห็นว่าอีกไม่กี่นาทีก็จะแปดโมงเช้าแล้ว ซึ่งมันก็คือเวลาที่ลูกสาวตัวน้อยนั้นต้องได้ทานข้าวเพื่อเตรียมจะไปโรงเรียน แต่คนเป็นแม่อย่างเธอกลับนอนตื่นสาย ทั้งที่เมื่อคืนก็ไม่ได้นอนดึกมากแถมไม่ได้ถูกสามีรังแกก่อนนอนด้วย"ตายละ... เนลล่าต้องงอนแน่เลย" พิรตาพึมพำพลางเตรียมจะลุกจากเตียงโดยไม่สนใจมือถือที่ส่งเสียงดังไม่หยุดของตัวเองเลยสักนิดเมื่อเห็นว่าตอนนี้สายเกินกว่าที่เธอจะให้ความสนใจได้ ใจเธอตอนนี้กังวลกลัวว่าจะลงไปทำอาหารให้ลูกน้อยและสามีทานไม่ทันเป็นที่สุด เนื่องจากลูกสาวตัวน้อยนั้นหากไม่ได้กินข้าวต้มกุ้งของโปรดฝีมือของมารดาในตอนเช้าหนูน้อยจะต้องเกิดอาการงอนจนไม่ยอมทานข้าวแน่คิดได้ดังนั้นร่างบางของเธอจึงรีบดีดตัว
"อะ เอ่อ…"พิรตาครางในลำคอพร้อมกับแอบเหลือบสายตามองสำรวจร่างกำยำของสามีที่เดินเปลือยท่อนบนโชว์เรือนร่างกำยำด้วยสายตาชื่นชมอย่างลืมตัว คุณใหญ่เป็นผู้ชายที่หุ่นสมบูรณ์แบบและเพอร์เฟคมากไม่ว่าจะเป็นแผงอกที่แน่นตึงไปด้วยมัดกล้ามรวมไปถึงลอนกล้ามเนื้อที่เรียงตัวกันเป็นก้อนสวยงามชวนมอง แม้ว่าเขาจะอายุปาไป 36 ปีแล้วแต่เขากลับดูดีขึ้นเป็นเท่าตัวเมื่ออายุมากขึ้นและยิ่งทำให้เธออดที่จะหวงแหนเขาไม่ได้หวงหรอ?พิรตานึกถึงคำพูดของบุตรสาวที่เอ่ยบอกเธอเมื่อตอนหัวค่ำ…คุณครูบอกว่าอยากเจอแด๊ดดี๊เพราะแด๊ดดี๊หล่องั้นหรอ? เหตุผลฟังไม่ขึ้นเลย!"อะแฮ่ม" เสียงกระแอมจากเขาทำเอาเธอถึงกับหน้าแดงอย่างอับอายที่เผลอตัวแอบมองเขานานสองนาน สายตากลมหวานเลื่อนไปมองหน้าหล่อเหลาของสามีเล็กน้อยก่อนจะขยับเดินเข้าไปหาเขา"ทำไมอาบน้ำก่อนพอใจคะ" ถามพลางยกเรียวแขนเล็กขึ้นไปโอบรอบคอแกร่งเอาไว้แล้วมองเข้าไปในตาดุคมของเขาอย่างกระเง้ากระงอด"พี่เหนียวตัวน่ะ เลยอาบไปก่อน" เขาตอบพร้อมกับยกมือขึ้นแกะแขนเล็กออก ก่อนจะเดินเข้าไปยังห้องแต่งตัวพิรตามองตามแผ่นหลังแน่นตึงของผู้เป็นสามีที่กำลังเดินหายเข้าไปในห้องแต่งตัวด้วยสายตาตัดพ้อ เธออ่อย
"คุณผู้หญิงคะ นายใหญ่บอกว่าไม่หิวค่ะให้คุณผู้หญิงกับคุณหนูทานกันเลยค่ะ" เสียงรายงานของสาวใช้ทำเอาคนที่กำลังถูกบุตรสาวออดอ้อนให้ป้อนอาหารอยู่ถึงกับชะงักมือที่กำลังจะตักข้าวทันที"มะ ไม่หิวหรอจ๊ะ""เอ่อ... ค่ะ""ม๊ามี๊ขาาา ป้อนได้เเล้วค่ะ" เสียงออดอ้อนเร่งเร้าให้มารดาที่กำลังเหม่อกับคำตอบของสาวใช้รีบป้อนอาหารให้หนูน้อยดังขึ้น ทำเอาพิรตาตัดใจแล้วหันไปตักแกงจืดเต้าหูหมูสับเมนูโปรดของลูกรักป้อนให้ทันที หญิงสาวตักป้อนบุตรสาวเงียบๆ พลางส่งยิ้มหวานให้ลูกรักไปด้วย แต่ตัวเธอนั้นไม่ยอมแตะอาหารที่ตัวเองตั้งใจทำเลยด้วยซ้ำ"วันนี้รอแด๊ดดี๊นานไหมคะคนเก่ง" หญิงสาวเอ่ยถามลูกน้อยที่กำลังวางแก้วน้ำลงบนโต๊ะ หลังจากที่อิ่มจากการทานมื้อค่ำไปแล้ว"วันนี้แด๊ดดี๊ไม่ได้ไปรับเนลล่าค่ะม๊ามี๊" คำตอบของลูกน้อยนั้นทำเอาคิ้วคนถามขมวดมุ่นอย่างแปลกใจทันที เกิดอะไรขึ้นกันปกติคุณใหญ่จะต้องไปรับลูกด้วยตัวเองทุกครั้ง แม้งานจะยุ่งแค่ไหนเขาก็จะปลีกตัวมารับลูกก่อน แต่เหตุใดวันนี้เนลล่าถึงบอกว่าเขาไม่ได้ไปรับ"สงสัยแด๊ดดี๊กำลังยุ่งๆ อยู่กับงานถึงไปรับคนเก่งของม๊ามี๊ไม่ได้" พิรตาพยายามพูดแก้ต่างให้กับสามีเพราะไม่อยากให้บุตรสาว
"พอใจ!!!""ว๊ายยย ญะญ๋าา... ฉันตกใจหมด" มือเล็กยกขึ้นทาบอกแล้วหันกลับไปมองเพื่อนอย่างตกใจกับเสียงเรียกที่ดังจนเธอถึงกับสะดุ้ง"ก็มัวแต่นั่งเหม่อลอยอยู่แบบนี้ ฉันเรียกเธอเป็นสิบๆ ครั้งแล้วยังไม่ได้ยินอีก" ญะญ๋าบ่นพึมพำพลางทรุดกายลงนั่งข้างๆ เพื่อนสาวที่กำลังนั่งจับต้นกุหลาบเอาไว้"คิดอะไรอยู่อ่ะ ทำไมเธอดูซึมๆ" ญะญ๋าขยับเข้าไปกระซิบถามเพื่อนอย่างสงสัยใคร่รู้กับอาการเหม่อลอยและใบหน้าที่ซึมแปลกๆ นั้นของเพื่อนสาว"เปล่านี่... แล้วนี่เธอมากับใคร เห็นคุณใหญ่บอกว่าพี่นิคต้องไปโมร็อกโกสองวันไม่ใช่หรอ" พิรตาปฏิเสธความสงสัยของเพื่อนพลางรีบเอ่ยถามเพื่อนรักเพื่อเปลี่ยนเรื่องคุยทันที... เรื่องที่เธอเป็นกังวลจนทำให้มานั่งซึมอยู่ในสวนแบบนี้เธอไม่อยากบอกหรือคุยกับใครให้ไม่สบายใจไปกับเธอด้วยหรอก"ใช่... พี่นิคไปโมร็อกโก แต่ฉันไม่อยากไปด้วย""อ้าว ทำไมละ..." พิรตาถามกลับเพื่อนอย่างแปลกใจ ปกติเธอเห็นทั้งสองตัวติดกันอย่างกับปาท่องโก๋ ยิ่งช่วงข้าวใหม่ปลามันแบบนี้ด้วย...แต่จะว่าไปตอนนี้ญะญ๋ากับพี่นิคก็แต่งงานกันได้หลายเดือนแล้วสินะ แถมความรักความเอาใจใส่ที่พี่นิคมีให้เพื่อนของเธอก็ไม่มีท่าทีลดลงไปเลย ไม่เหม
"แด๊ดดี๊ขาาาา... ม๊ามี๊ไปหนายยย"เสียงเล็กๆ เอ่ยถามผู้เป็นบิดาทันทีอย่างสงสัยเมื่อไม่เห็นมารดายืนรอรับเหมือนทุกวัน ปกติหลังจากที่หนูน้อยกลับจากโรงเรียนพร้อมกับผู้เป็นบิดานั้น ม๊ามี๊คนสวยก็จะคอยเดินมารับเธอหน้าบ้านทุกวันเพื่อรอกอดและหอม"ม๊ามี๊น่าจะหลับอยู่ข้างบนมั้งคะ""งั้นเราไปหาม๊ามี๊กันเถอะ เนลล่าคิดถึงม๊ามี๊...""ครับคนเก่ง"ลีอันโดรรับคำบุตรสาวเสร็จก็อุ้มหนูน้อยเนลล่าวัยสี่ขวบเดินขึ้นบันไดเพื่อไปหาเมียสุดที่รักหรือม๊ามี๊คนสวยของเนลล่าทันที... เห้อ นี่เขากับเธอก็อยู่ด้วยกันมาจนเนลล่าสี่ขวบแล้ว แต่ไอ้อาการคลั่งรักเมียและอาการหลงเมียกลับไม่ลดลงเลยสักนิดเดียว ตรงข้าม... นับวันยิ่งรักยิ่งหลงเมียมากขึ้นจนแทบไม่อยากอยู่ห่างนานๆที่สำคัญเด็กน้อยในอ้อมกอดของเขาตอนนี้ก็ยิ่งทำให้เขารักเขาหลงไม่แพ้กัน และวันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งวันที่หลังจากเลิกงานเขาต้องไปรับบุตรสาวเป็นประจำทุกวัน... ความจริงแล้วเขาไม่อยากให้ลูกต้องไปโรงเรียนซะด้วยซ้ำ เพราะเนลล่ายังเด็กมากแล้วที่สำคัญเขาเป็นห่วงกลัวลูกถูกเพื่อนรังแก... เห็นลูกเขาฉลาดและหัวดื้อแบบนี้น่ะ ลูกสาวเขาก็ขี้แงเหมือนเมียเขาไม่มีผิด! แต่เมียเขาก็ไม่ยอมท
3 ปีต่อมา...จุ๊บ!!"จะไปไหนครับที่รัก"ลีอันโดรที่เดินเข้ามาสวมกอดและกดจูบแก้มนุ่มของภรรยาสุดที่รักเอ่ยถามคนที่กำลังนั่งแต่งหน้าทาปากอยู่หน้ากระจกบานใหญ่ในห้องแต่งตัวอย่างสงสัยใคร่รู้เพราะปกติเวลาอยู่บ้านหรือจะออกไปไหนก็ตามน้อยครั้งมากที่เมียเขาจะแต่งหน้าแต่งตา แต่ทำไมวันนี้เธอถึงแต่งหน้าซะสวยผิดหูผิดตา ทำเอาต่อมความหวงเริ่มทำงานทันทีจนต้องก้มหน้าไปฝากรอยรักที่ซอกคอเรียวระหงของเธออย่างหวงแหนจุ๊บ จุ๊บ! ฟอดดดด"อ้ะ อื้ออ พอแล้วค่ะ" พิรตาพยายามดันใบหน้าของผู้เป็นสามีออกห่างซอกคอเล็กเมื่อเขานั้นเอาแต่ซุกไซร้และกดจูบและดูดดึงเนื้อเนียนสวยของเธอไม่ยอมหยุด"ที่รักจะไปไหนครับ" ชายหนุ่มยอมผละใบหน้าและริมฝีปากออกพลางเปลี่ยนมานั่งที่เก้าอี้ตัวใหญ่ที่เธอนั่งอยู่ก่อนจะรั้งร่างบางให้นั่งทับลงมาบนตักแกร่งของเขาแทน"ความลับของสาวๆ ค่ะ วันนี้ฝากดูแลเนลล่าด้วยนะคะคุณแด๊ดดี้ แล้วพอใจจะรีบกลับน๊าา ฟอด!"เรียวแขนเล็กยกคล้องกอดคอหนา พลางกดจมูกเล็กเชิดรั้นหอมแก้มสากของสามีไปหนึ่งฟอดอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะหันไปปัดแก้มต่ออย่างไม่ทุกข์ร้อนใดๆ กับสีหน้าของคนที่เธอนั่งตักอยู่ตอนนี้"งั้นก็ฝันไปเถอะว่าจะได้ออกไปไห