“โอเค ฉันเข้าใจแกก็ได้ แต่ถ้าเค้ากลับมาแกก็ต้องบอกไปตามตรง เข้าใจไหม เค้าจะยินดีคบกับแกหรือว่ายังไงก็ค่อยมาปรึกษากันอีกที”
“ไม่อะ ไม่พูดได้ไหม เอาไว้ให้ผ่านช่วงนี้ไปก่อนได้ไหม”
“โอ้ย...นึกถึงเงินค่าเครื่องที่มาสิ อย่าให้เสียเปล่า อีกอย่างถ้าแกรีบพูด แกก็จะได้รู้ไงว่าเค้าจะเอายังไงกับแก จะได้ไม่ต้องมานั่งกังวลกับคำตอบของเขาอีก”
“ก็ได้” ปากที่พูดว่าได้ ใจตอนนี้กลัวจนหัวหด ไม่รู้ว่าหากเจอหน้าราเดนอีกครั้งเธอจะกล้าพูดสิ่งที่อยู่ในใจหรือเปล่า ทำไมมันต้องยากลำบากขนาดนี้ด้วยกับแค่พูดสารภาพความในใจออกไป
เมื่อได้เวลาของการรับประทานอาหาร เมเลอร์ก็พาสองสาวไปที่ห้องอาหารชั้นล่างที่ตอนนี้บนโต๊ะอาหารเต็มไปด้วยอาหารไทยที่เพิ่งทำเสร็จใหม่ๆ กลิ่นหอมเตะจมูกของสองสาวทำเอาพวกเธอท้องร้องไปตามๆ กัน
“อาหารไทย” มุขรินทร์หันไปยิ้มร่าตาเป็นประกายกับปารวี คิดว่ามาที่นี่จะไม่ได้แตะอาหารไทยเสียแล้ว นับว่าราเดนต้อนรับพวกเธอได้ดีมากเลยทีเดียว
“ผมมีเรื่องที่ต้องบอกพวกคุณครับ คือว่า วันนี้นายอาจจะไม่ได้กลับมาที่นี่ ธุระที่ต้องคุยอาจจะต้องเลื่อนไปก่อน นายบอกว่าถ้าพวกคุณอยากไปที่ไหนหรือทำอะไรให้บอกผมได้เลยครับ ผมจะอำนวยความสะดวกให้”
“คือ...เราสองคนไม่ได้มีแพลนอะไรค่ะ”
“โอเคครับ ถ้าพวกคุณเปลี่ยนใจบอกผมได้ตลอดเลยนะครับ”
“ขอบคุณค่ะ”
“ทานอาหารให้อร่อยนะครับ”
สองสาวทิ้งตัวลงนั่งที่เก้าอี้หลังจากเมเลอร์ออกไปจากห้องอาหาร ปารวีเบาใจที่ไม่ต้องพูดอะไรที่ไม่กล้าพูดในเร็วๆ นี้ อย่างน้อยก็มีเวลาอีกตั้งนานกว่าราเดนจะกลับ ถึงตอนที่ต้องเจอหน้าเขาก็หวังว่าเธอจะมีความกล้ามากพอที่จะพูดความรู้สึกในใจออกไป
“สบายใจล่ะสิที่คุณราเดนยังไม่กลับ”
“ก็...” ปารวีพยักหน้าน้อยๆ เป็นคำตอบให้มุขรินทร์ ยอมรับแบบไม่อ้อมค้อมเลยว่ารู้สึกผ่อนคลายขึ้นเยอะ
“หวังว่าถึงเวลาที่ต้องเจอหน้าคุณราเดนจริงๆ แกจะกล้าพูดนะ ถ้าแกยังขืนชักช้าฉันจะบอกกับเค้าเองว่าแกมาที่นี่ทำไม”
“ฉันพูดเองได้น่า ตอนนี้แกควรสนใจต้มยำกุ้งร้อนๆ ตรงหน้าก่อนดีไหม เพราะฉันจะทานให้หมดถ้าแกยังพูดไม่เลิก”
“เรื่องของกินฉันเคยยอมใครที่ไหน” ว่าแล้วมุขรินทร์ก็เอื้อมมือไปตักกุ้งตัวโตมาใส่จาน
สองสาวก็ง่วนอยู่กับอาหารไทยรสเลิศอย่างไม่มีใครยอมพูดยอมจา เพราะตั้งแต่ลงเครื่องมาก็ยังไม่มีอะไรตกถึงท้อง อีกทั้งอาหารที่เชฟชาวรัสเซียทำก็ทำได้ถึงเครื่องเสมือนคนไทยทำให้รับประทาน มื้อแรกในบ้านหลังนี้จึงเป็นสิ่งที่สองสาวประทับใจพอสมควร
หลังมื้อเย็นสองสาวก็อยากจะหาที่พักผ่อนชมวิวทิวทัศน์ด้านนอกให้สบายตา เมเลอร์จึงเสนอให้ปารวีและมุขรินทร์ขึ้นมานั่งกันที่ดาดฟ้าของบ้าน ที่ด้านบนมีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ และสามารถเดินเล่นมองสิ่งแวดล้อมรอบนอกตัวบ้านได้ชัดเจน
“ท่าทางคุณราเดนจะปาร์ตี้บนนี้บ่อยเหมือนกันนะ” มุขรินทร์เปรยขณะที่กำลังทิ้งตัวนั่งลงบนเตียงริมสระว่ายน้ำ
“รู้ได้ไง”
“ก็มีบาร์อยู่ข้าวสระว่ายน้ำ แล้วก็เหมือนจะมีห้องกระจกอยู่ตรงนั้นด้วยด้วย”
ปารวีหันมองตามสายตาของมุขรินทร์ “จริงด้วย” เธอเองก็เพิ่งสังเกตเหมือนกัน หากเขาสังสรรค์บนดาดฟ้าบ่อย แล้วเค้าสังสรรค์กับใคร
“แกว่าเค้าจะปาร์ตี้กับใคร”
“เอาจริงป่ะ เท่าที่ฉันเคยดูหนัง ถ้าพระเอกชอบปาร์ตี้ริมสระว่ายน้ำก็จะมีเพื่อนสนิท แล้วก็อาจจะจ้างพวกสาวๆ มาเอ็นเตอร์เทนหลายๆ คนอะ”
“จริงเหรอ” สีหน้าของปารวีห่อเหี่ยวลงในทันที
“อย่าเพิ่งใจเสียไปสิ คุณราเดนอาจจะชอบนั่งดื่มกับเพื่อนชิวๆ เงียบๆ ก็ได้ ถ้าอยากรู้ว่าเป็นแบบไหนก็ลองถามคุณเมเลอร์ดูไหมล่ะ”
“ไม่เอาค่ะ ถามมากจะดูเป็นคนไม่มีมารยาทเอา”
“เออ เอากับเพื่อนฉันสิ ไอ้โน่นก็อาย ไอ้นี่ก็ไม่กล้า นี่ถ้าไก่หวานมันมาด้วยมันบ่นแกหูชาไปแล้ว”
ปารวีนั่งก้มหน้างุด เธอก็กลายเป็นคนใจเสาะดื้อๆ จริงอย่างที่มุขรินทร์ว่านั่นแหละ เธอทิ้งตัวนอนหงายลงไปกับเตียงริมสระว่ายน้ำ เหม่อมองท้องฟ้าที่กำลังจะเปลี่ยนสีเงียบๆ เดาไม่ออกเลยว่าหากเธอสารภาพความในใจไปแล้วราเดนจะตอบกลับเธอว่าอย่างไร
“ลุกขึ้นมา” ในขณะที่ตาของปารวีกำลังจะปิดเธอก็ถูกมุขรินทร์รั้งแขนให้ลุกออกจากเตียง
“มีอะไรเหรอ”
“ฉันว่าฉันเห็นคุณราเดนกลับมาแล้วนะ”
“ไหนอะ”
“นั่นไง” มุขรินทร์รีบเดินนำปารวีมาเปิดม่านเพื่อมองไปยังโรงจอดรถ เมื่อครู่ที่กำลังนั่งเล่นโทรศัพท์มือถือเพลินๆ เธอก็เห็นแสงไฟลอดผ่านม่านเข้ามาแยงตา เลยเลือกที่จะแง้มผ้าม่านดูแล้วก็เห็นว่าเป็นราเดนกำลังลงมาจากรถ จึงรีบมาดึงปารวีให้ลุกออกจากเตียง
“อ้าว แล้วทำไมเค้าบอกว่าคืนนี้จะไม่กลับล่ะ” เริ่มขมวดคิ้วมุ่นขณะมองไปยังราเดนที่กำลังยืนคุยอยู่กับใครบางคนที่โรงจอดรถ
“อาจจะเสร็จธุระเร็วก็ได้ ไปหาเค้าเลยไหม”
“อะไรนะ รอคุยกับเค้าพรุ่งนี้เช้าก็ได้มั้ง อีกอย่างถ้าเค้าว่างคุยก็คงจะให้คนมาเรียกเราเองนั่นแหละ” ตอนนี้เธอเห็นว่ามันไม่ใช่เวลาสนใจเรื่องกล้าหรือไม่กล้าพูดเรื่องความรู้สึก แต่ปารวีเห็นว่าเป็นเรื่องของความเกรงใจกันมากกว่า เพราะเวลานี้ราเดนน่าจะต้องการการพักผ่อนมากกว่าคุยเรื่องอะไรที่ใช้ความคิดและความรู้สึก“ไม่ วันนี้ถ้าแกยังไม่ได้บอกความในใจกับคุณราเดน ฉันนอนไม่หลับแน่” พูดจบก็รีบจูงเพื่อนรักในเดรสชุดนอนแขนยาวสีขาวออกไปจากห้องทันทีมุขรินทร์รีบจูงมือปารวีเดินลงไปชั้นล่างอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะต้องการให้ปารวีได้เจอราเดนก่อนที่ชายหนุ่มจะกลับเข้าห้องของเขาไป“อ้าว...เค้าเข้าห้องไปแล้วเหรอ ทำไมไวจัง” เดินมาจนถึงโถงใหญ่มุขรินทร์ก็รีบวิ่งออกไปดูที่หน้าบ้านแต่ก็ไม่ยักจะเห็นราเดนหรือผู้ชายที่เขายืนคุยด้วย“เรากลับไปนอนกันเถอะ ตอนนี้เราควรเกรงใจเวลาพักผ่อนเค้าไหมเพิร์ล”“พวกคุณมีอะไรให้ผมช่วยไหมครับ”มุขรินทร์ยิ้มร่าเมื่อบอดี้การ์ดหนุ่มเข้ามาถามพวกเธอได้ตรงจังหวะพอดี “คุณราเดนอยู่ไหนเหรอคะ”“นั่งดื่มอยู่ที่ดาดฟ้าครับ”“ขอบคุณค่ะ” รู้เช่นนั้นก็รีบดึงมือปารวีตรงไปยังชั้นดาดฟ้าทันที“
“เอ่อ...เรื่องนั้นค่อยคุยได้ไหม ฉันหนาว ขอตัวไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะคะ” พูดจบก็เตรียมจะหันหลังวิ่ง วินาทีนี้เธอต้องเอาตัวรอดจากผู้ชายตรงหน้าให้ได้ก่อน ทว่าก็ยังไม่ทันได้ก้าวไปไหน ตัวของเธอก็ลอยขึ้นจากพื้นไปเรียบร้อยแล้ว“ว๊าย ปล่อยฉันนะ”“ผมจะพาคุณไปเปลี่ยนเสื้อผ้าไง”“ฉันไปเองได้ ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้เลย”เสียงโวยวายของมุขรินทร์ยังคงดังอยู่ตลอด ทว่าก็ไม่ยังสามารถที่จะดิ้นหนีจากซีโวลอดได้ง่ายๆทางด้านปารวีเธอถูกราเดนพากลับเข้าไปในห้องนอนของเขา หญิงสาวถูกวางที่ห้องน้ำ จากนั้นชายหนุ่มก็ยื่นชุดคลุมสีขาวให้เธอได้เปลี่ยน“เรียบร้อยแล้วก็ออกมาคุยกับผม”ปารวีค่อยๆ ถอดชุดนอนที่เปียกชุ่มออกทั้งน้ำตา ไม่ได้อยากให้ตัวเองฟูมฟายต่อหน้าเขา ทว่าหัวใจที่ถูกความรู้สึกเสียใจบีบรัดจนปวดหนึบก็ยังคงทำให้น้ำตาของเธอไหลทะลักออกมาได้เรื่อยๆ อยู่ดีสาวเจ้าสวมชุดคลุมเรียบร้อยก็เดินออกมาจากห้องน้ำ เมื่อเห็นว่าใครยืนรออยู่หน้าห้องเธอก็รีบปาดน้ำตาก้มหน้างุดในทันที“ร้องให้ทำไม”สิ้นคำถามของชายหนุ่ม ก็เหมือนเป็นแรงบีบหัวใจของเธอให้ปวดหนึบหนักขึ้น แล้วเธอก็เริ่มที่จะกลั้นเสียงสะอื้นไม่ได้อีกต่อไป“ก็คุณ...คุณทำอะไรกั
ราเดนยังคงจ้องคนที่ยืนครุ่นคิดไม่วางตา เขาอยากจะรู้เหลือเกินว่าหญิงสาวจะตัดสินใจเรื่องนี้ยังไง“ค่ะ ฉันตกลง” เงยหน้าตอบอีกฝ่ายด้วยแววตาแน่วแน่“โอเค ชีวิตคู่ของเราจะเริ่มขึ้นในวันพรุ่งนี้ ผมจะพาคุณไปส่งที่ห้อง”“ค่ะ เอ่อ...”ราเดนที่กำลังเดินนำหญิงสาวหมายจะไปเปิดประตูห้อง ทว่าก็ต้องหันหลังกลับมาคุยกับปารวีอีกรอบ“มีอะไร”“ตอนที่เราลองคบกัน คุณจะไม่ยุ่งกับผู้หญิงคนอื่นใช่ไหมคะ”ราเดนยืนนิ่งครุ่นคิดและอยู่ในเงียบไปชั่วขณะ ทุกวินาทีที่มีแต่ความเงียบทำเอาหัวใจของปารวีเต้นแรงแทบจะกระเด็นออกมาข้างนอกเสียให้ได้ เขาจะรับปากเธอได้ไหม ขอแค่เรื่องนี้เรื่องเดียวจริงๆ “ถ้าคุณหมายถึงว่าผู้หญิงขายบริการ ผมจะไม่ยุ่ง”“ค่ะ” ริมฝีปากบางพอจะคลี่ยิ้มออกอย่างโล่งใจ จากนั้นก็สาวเท้าตามคนตัวโตออกจากห้องนอนของเขาไป เมื่อครู่กลัวแทบแย่ว่าเขาจะเอ่ยคำตอบที่เธอไม่ต้องการ ทว่าเขาก็ยอมง่ายกว่าที่คิดเอาไว้ทางด้านมุขรินทร์ ตั้งแต่หนีออกมาจากพันธนาการของซีโวลอดได้เธอก็รีบวิ่งกลับเข้ามาในห้อง รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าล็อกกลอนประตูแน่นหนา ห่วงเพื่อนก็ห่วง ทว่าก็กลัวว่าออกไปจากห้องแล้วจะเจอกับซีโวลอดอีกแค่คำแนะนำตัวเองที่เข
“ก็เห็นมองตามหลังรถตลอดเลย”“อ๋อ...แค่ ใจหายนิดหน่อย ฉันไม่เคยอยู่ที่อื่นคนเดียวแบบไม่มีครอบครัว แล้วก็เพื่อนๆ มันเลยรู้สึกแปลกๆ”“ลืมอะไรไปรึเปล่า”ดวงตากลมโตเริ่มเบิกกว้าง ไม่ค่อยเข้าใจในสิ่งที่ราเดนพูด มีเรื่องอะไรที่เธอลืมไปงั้นเหรอ“ตอนนี้คุณอยู่กับสามีของคุณ” ในเมื่อเธอมาถึงที่นี่แล้วบอกกับคนของเขาว่าเธอคือภรรยา ทั้งยังคิดว่าตัวเองมีสถานะนั้นกับเขาเสมอมา เขาจะเรียกว่าตัวเองเป็นสามีของเธอก็ไม่ผิดปารวีรีบหลบสายตาชายหนุ่มก่อนจะยืนก้มหน้างุด เธอยืนหันไปหันมาทำตัวไม่ค่อยถูก เพราะเพิ่งรู้สึกอายเรื่องที่สารภาพกับเขาเมื่อคืน ทั้งยังไปย้ำกับเขาว่าอย่าลืมว่าเธอเป็นเมีย ที่เธอกล้าพูดออกไปก็เพราะความโมโหหึงทั้งนั้น พอมาวันนี้ความหน้าบางดันกลับมาอีกแล้ว“เข้าบ้านกันเถอะ ผมจะพาคุณไปสำรวจที่นี่ให้ครบทุกซอกทุกมุม เพราะคุณต้องอยู่ที่นี่อีกนาน” พูดจบก็จูงมือคนตัวเล็กในชุดมินิเดรสแขนสั้นสีฟ้าเดินกลับเข้าไปในบ้านนั่งรถมาได้สักพักใหญ่ๆ มุขรินทร์ที่เอาแต่จับมือถือพิมพ์ข้อความรายงานความคืบหน้าของเรื่องที่นี่ให้เพื่อนๆ ได้รับรู้ เธอก็เริ่มเอะใจว่าการเดินทางไปสนามบินของเธอมันนานเกินไปจำได้ว่าเราเดนบอ
พอมองไปด้านซ้ายก็เห็นว่ามีกำแพงเหล็กตีปิดจนถึงเพดาน ด้านขวาเป็นมุมวางโซฟาสีเทาตัวใหญ่ ในห้องนี้สิ่งที่ทำให้เธอสนใจมากที่สุดก็เห็นว่าจะเป็นกำแพงเหล็กที่ตีสูงจนติดเพดาน ทำไมถึงมีกำแพงนี้อยู่แทบจะกึ่งกลางห้องกัน หรือว่ามันสามารถเปิดเข้าไปข้างในได้อีก“สนใจเหรอ” เสียงทุ้มเอ่ยถามคนที่กำลังจับจ้องไปยังกำแพงสูงด้วยท่าทางฉงนหนัก“เอ่อ...”ไม่ทันที่ปารวีจะได้ตอบปฏิเสธจบ เธอก็ยืนเบิกตาโพลงอ้าปากค้าง เพียงแค่ราเดนทาบฝ่ามือไปที่กลางกำแพงเหล็กสูง กำแพงเหล็กก็เริ่มเคลื่อนออกจากกึ่งกลาง เผยให้เห็นว่าด้านในมีอาวุธมากมายหลายขนาดวางเรียงรายอยู่เต็มแผง ราวกับให้ลูกค้าที่อยากได้อาวุธมาเลือกจิ้มได้ตามสบาย“เห็นแล้วใช่ไหม”ปารวีพยักหน้าหงึกๆ จากนั้นไม่กี่วีนาทีกำแพงเหล็กก็ปิดสนิทมิดชิดเช่นเดิม“เอ่อ...วันนี้คุณต้องทำงานรึเปล่าคะ ฉันไม่รบกวนคุณแล้วก็ได้” หญิงสาวละล่ำละลัก อาวุธพวกนั้นทำให้เธอมีความรู้สึกกลัวเข้ามาในใจพิกล เหมือนตัวเองอยู่ท่ามกลางยุคสงครามยังไงก็ไม่รู้ราเดนรีบเข้าไปรวบอุ้มช้อนก้นคนตัวเล็กที่กำลังเดินหลังให้มาวางเอาไว้บนโต๊ะทำงาน ก่อนจะโน้มตัวให้ใบหน้าของตัวเองเข้าไปใกล้กับใบหน้าของหญิงสาว “
เห็นใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาสมองก็เริ่มมีภาพภาพเหตุกาณ์ก่อนหน้าที่จะหมดสติไปไหลเข้ามา เธอจำได้ว่ากำลังถูกราเดนจูบ แล้วหลังจากนั้นราเดนได้ทำอะไรกับตัวของเธอต่อหรือไม่ ริมฝีปากบางขบเม้มกันแน่น ทว่าก็ยังไม่กล้าถามอะไรออกไป“ดีขึ้นหรือยัง”“ค่ะ” เธอเอ่ยตอบเสียงแหบพร่าให้กับคนที่เข้ามาพยุงช่วยเธอให้ลุกขึ้นนั่ง เมื่อมองเห็นว่าเสื้อผ้าของเธอยังอยู่ดีก็โล่งใจไปหนึ่งเปราะ จากนั้นจึงเงยมองหน้าชายหนุ่มที่นั่งข้างๆ อีกครั้ง เธอทำให้เขาเสียอารมณ์หรือเปล่า แล้วเขาจะทำอะไรต่อไปกับร่างกายของเธออีกไหม“มองหน้าผมแบบนั้นทำไม” ดวงตาคู่สวยฉายแววฉงนขนาดนั้น เขาจึงอดที่จะตั้งคำถามกับเธอไม่ได้“เปล่าค่ะ” ปารวีรีบก้มหน้าหลบสายตาของเขาเพราะกำลังรู้สึกเขินกับความคิดของตัวเอง“ผมไม่คิดว่าผมจะทำให้คุณตกใจจนเป็นลม เอาไว้ผมจะมาสอนคุณให้เข้าใจเรื่องการจูบอีกครั้ง วันนี้ผมจะให้คุณพักผ่อน”“ค่ะ” พยักหน้ารับคำ จะว่าไปเธอก็รู้สึกดีกับสัมผัสของเขาไม่น้อย ทว่าไอ้ความตื่นเต้นจนเกินเหตุก็ทำให้ความสัมพันธ์ของเธอกับเขาไม่คืบหน้าไปเสียได้“เอ่อ” เป็นอีกครั้งที่ต้องตกใจเมื่อเขามาจู่โจมอุ้มเธอขึ้นด้วยท่าเจ้าสาวโดยที่ยังไม่ทันตั้ง
“เราไปคุยธุระของเราให้เรียบร้อยดีกว่า”คำตอบที่ราเดนพูดกับหญิงสาวปริศนาทำปารวีชาวาบไปทั้งตัว ตอนนี้เธอได้แต่ยืนนิ่งทำอะไรไม่ถูก เขาเอ่ยพูดกับผู้หญิงคนนั้นโดยที่ไม่คิดจะหันมามองหน้าของเธอแม้แต่หางตา คนที่บอกว่าเขามีสถานะเป็นสามีของเธอและเธอก็มีสถานะเป็นภรรยาของเขากำลังควงผู้หญิงเดินผ่านหน้าของเธอไปโดยที่ไม่มีทีท่าเกรงใจซ้ำภาษาที่เขาและเธอพูดคุยกันเมื่อครู่เธอก็ฟังออกทุกอย่าง ทำไมเขาไม่คิดจะแนะนำเธอกับผู้หญิงคนนั้นให้รู้ว่าเธอเป็นใคร ทำไมไม่คิดจะพูดสักนิด กลับทำเหมือนเธอเป็นธาตุอากาศยังไงอย่างงั้นปารวีเริ่มกลืนน้ำลายไม่ลงคอ ขอบตาร้อนผ่าวมีน้ำตาเริ่มคลอ เขากำลังคุยธุระอะไรกับผู้หญิงคนนั้นกันแน่ หากเป็นแค่การคุยเรื่องธุรกิจทำไมผู้หญิงคนนั้นถึงต้องถึงเนื้อถึงตัวราเดนขนาดนั้นด้วยราเดนก็อีกคน ไม่รู้หรือไงว่าเธอรู้สึกหวงเขาแค่ไหน ทำไมต้องให้ผู้หญิงคนอื่นมาเกาะแกะด้วยเมื่อยืนเก้ๆ กังๆ อยู่ครูหนึ่งจึงรู้ตัวว่าควรจะพาตัวเองกลับไปที่ห้อง ทว่าหันหลังได้ยังไม่ทันได้ก้าวไปไหนเธอก็ถูดเมเลอร์เข้ามาขวางเอาไว้ “คุณลูกปลาจะไปไหนครับ ตอนนี้นายคุยธุระอยู่นะครับ” พูดจบชายหนุ่มก็ยิ้มแหย และรอยยิ้มของบอดี
ก๊อก ก๊อก ก๊อก ผ่านไปไม่ถึงห้านาทีเสียงเคาะประตูเรียกสติของคนที่กำลังคิดอะไรไปฟุ้งซ่านให้หลุดจากภวังค์ มือเรียวสลัดผ้าห่มผืนหนาออกจากขาทั้งสองก่อนจะรีบลงจากเตียงเดินไปเปิดประตูหน้ามุ่ย ก็เธอบอกว่าไม่หิวฟังกันไม่รู้เรื่องหรือยังไง“ก็บอกว่า...” เงยหน้ามองคนที่ยืนอยู่หน้าห้องได้ชัดเต็มสองตาเธอก็พูดไม่จบบประโยคเพราะคนตรงหน้าของเธอตอนนี้ไม่ใช่เมเลอร์ ปารวีถอยหลังสองก้าวและหันหน้าหนีให้คนที่ก้าวเข้ามาในอาณาเขตห้องนอนของเธอ“ทำไมไม่ทานข้าว”“ไม่หิว”เสียงตอบกลับห้วนขนาดนั้น ราเดนหรือจะมองไม่ออกว่าคนตัวเล็กกำลังประชด “ผมลืมบอกคุณหรือเปล่าว่าผมไม่ชอบคนประชด”“ใครประชด”“หิวก็บอกว่าหิว”“ไม่หิว ฟังภาษาไทยไม่ออกหรือไง หรือต้องให้พูดภาษาอังกฤษ” ครั้งนี้สาวเจ้าเงยหน้ากอดอกพ่นเสียงแข็งใส่คนตัวโตราเดนมองจ้องหน้าสาวเจ้าที่กำลังพยศด้วยสายตาเย็นชา ความนิ่งของเขาทำปารวีเริ่มสลดลงเล็กน้อยที่ทำเสียมารยาทกับเขาไปเมื่อครู่“ฉันไม่หิว คุณออกไปได้แล้วค่ะ” สายตาของเขาในตอนนี้ทำให้เธอรู้สึกขนลุกขึ้นมาดื้อๆแกร๊ก เสียงลงกลอนแน่นหนาดังลั่นเข้ามาโสตประสาทของหญิงสาว ดวงตากลมโตเบิกโพลงเท่าทวี หัวใจดวงน้อยเริ่มเต้
“อ้าวพี่เร ไหนบอกว่าจะกลับพรุ่งนี้ไงคะ”“ธุระเสร็จไวพี่ก็เลยรีบกลับ ลูกๆ บ่นคิดถึงพี่บ้างรึเปล่า” ร่างสูงใหญ่ในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์สีดำเข้ามาสวมกอดพร้อมกอดหอมพวงแก้มนวลของคนเป็นภรรยาฟอดใหญ่“คนตามใจไม่อยู่ทั้งคนจะไม่บ่นถึงได้ยังไงล่ะคะ”“รู้สึกเหมือนกำลังโดนบ่นยังไงก็ไม่รู้”“แล้วทานอะไรมารึยังคะ”“เรียบร้อยครับ แล้วสิ่งที่อยากทานตอนนี้ก็คือเมีย” เขาช้อนก้นอุ้มคนตัวเล็กให้ขึ้นไปนั่งบนโต๊ะก่อนจะแทรกตัวกึ่งกลางขาเรียวทั้งสอง จากนั้นก็รวบใบหน้าหวานด้วยมือทั้งสองประคองบดจูบด้วยความโหยหาปารวียกแขนทั้งสองคล้องคอคนเป็นสามีอย่างรู้งานก่อนจะแลกลิ้นอุ่นนุ่มกับเขาครั้งแล้วครั้งเล่า ใช่ว่าเขาโหยหาเธอเพียงฝ่ายเดียว เธอเองก็เฝ้าคิดถึงสัมผัสของเขาแทบทุกวินาทีที่ต้องห่างเช่นกันราเดนละมือจากใบหน้าหวานเลื่อนลงมาปลดกางเกงปลดปล่อยแท่งร้อนที่กำลังผงาดหัวปูดเป่งออกมาเผชิญโลกกว้างก่อนจะถลกชุดคลุมตัวบางจากหัวไหล่มนคนเป็นภรรยาให้ไปกองอยู่กับหน้าโต๊ะเมื่อคนตัวเล็กล่อนจ้อนเผยผิวเนื้อนวลเนียนชวนสัมผัสเขาก็วาดแขนประคองแผ่นหลังบางไล่พรมจูบตั้งแต่ลำคอระหงส์สูดดมกลิ่นหอมอ่อนๆ ให้เต็มปอดจนมาบรรจบอยู่ที่เนินอกอวบ
วันเวลาหมุนเวียนเปลี่ยนผันนานร่วมสามปีกว่า ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปมากมายโดยเฉพาะชีวิตของปารวี จากก่อนหน้านี้เธอเป็นเพียงเจ้าของไร่ผูกรักริมธาร มีหน้าที่บริหารไร่ และต้อนรับนักท่องเที่ยวตอนนี้เธอกลายเป็นคุณแม่ลูกสองที่ทำหน้าที่ดูแลลูก และเป็นผู้บริหารรีสอร์ทยักษ์ใหญ่ที่มีชื่อเสียงของจังหวัดไปแล้ว หลังจากที่เธอคืนดีกับราเดนได้ เขาก็เข้ามาพัฒนาไร่ของเธออย่างเต็มที่ ส่วนงานที่คลังอาวุธก็ยังคงบินไปดูแลอยู่บ่อยๆ แต่ส่วนใหญ่เขาก็จะใช้ชีวิตอยู่กับเธอที่ไร่ส่วนเพื่อนๆ ของเธอตอนี้ต่างคนต่างก็มีชีวิตเช่นที่ฝัน ไก่หวานเปิดธุรกิจร้านเสื้อผ้าของตัวเอง แล้วดูท่าทุกอย่างก็กำลังไปได้สวย ส่วนอารยาก็เป็นเภสัชอยู่ที่เดิม เพิ่มเติมคือร้านยาของเธอได้ขยายไปอีกสามสาขาส่วนมุขรินทร์ตอนนี้ก็เลิกทำงานเป็นบัญชีฟรีแลนซ์ แล้วเข้าไปช่วยสามีบริหารงานอยู่ที่รัสเซีย ใช่แล้ว ตอนนี้สองคนนั้นแต่งงานกันเรียบร้อย และตอนนี้ก็กำลังจะมีโซ่ทองคล้องใจออกมาลืมตาดูโลกแล้วด้วยส่วนสามภพก็กลายเป็นนักธุรกิจเต็มตัว ไหนจะดูแลไวน์ที่โรงบ่ม และยังเป็นนักขายตัวยงที่หาลูกค้าได้เก่งมากๆ จนราเดนไม่ต้องเข้าไปช่วยทำอะไรในส่วนของชวิน ต
ราเดนได้แต่ก้มหน้ากลืนน้ำลายอึกใหญ่ แม้จะเห็นว่าปารวีไม่ได้อยากจะเชียร์เขาสักนิด ทว่าเขาก็ยังอยากจะทำในสิ่งที่รับคำท้าชวิน วันนี้เขาก็อยากจะรู้เหมือนกันว่า เขา หรือ ชวิน ที่จะเป็นผู้ชนะในการแข่งครั้งนี้พักใหญ่แล้วที่เสียงของท่อไอเสียรถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ดังลั่นสนั่นไปทั้งสนาม บีบให้หัวใจของคนที่เฝ้ามองไม่ละสายตาได้เต้นแรงตามเสียงนั้นไปด้วยปารวีแทบจะหยุดหายใจเมื่อเห็นว่าราเดนแทบจะหลุดโค้งทุกครั้งที่เข้าโค้ง ทว่าชวินกลับขับรถในสนามได้อย่างชำนาญ แต่ก็ทิ้งห่างราเดนได้ไม่ไกลมากนัก“รอบสุดท้ายแล้ว ใครจะชนะล่ะเนี่ย”เสียงของไก่หวานยิ่งทำให้ปารวีใจเต้นไม่เป็นส่ำ เธอกลืนน้ำลายไม่ลงคอและจับจ้องไปยังรถของราเดนตาไม่กระพริบ ยอมรับกับหัวใจตัวเองเลยว่าตอนนี้เขาอยากให้เป็นราเดนที่เข้าเส้นชัยไม่ใช่ชวิน ทว่าเหมือนเธอจะมองไม่เห็นโอกาสนั้นเลยและในโค้งสุดท้ายก่อนจะเข้าเส้นชัย รถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่สองคันก็ได้ตีคู่กันมาติดๆ เล่นเอาคนที่เกาะขอบสนามแทบจะหยุดหายใจเพราะลุ้นไปตามๆ กัน ไม่กี่วินาทีหลังจากนั้นเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น“อ๊าย...พี่เร!...” ปารวีร้องเสียงหลงเมื่อรถของราเดนพุ่งออกไปจากสนามแข่งแล้วไ
หวังว่าการยอมลงทุนเรียกคะแนนความสงสารจากคนตัวเล็กจะทำให้เธอกลับมาเป็นของเขาได้โดยเร็ว เขาจะได้ไม่ต้องมานั่งกังวลกับไอ้หนุ่มหน้าละอ่อนที่พยายามจะขโมยหัวใจของเขาไปเช้านี้ชวินเลือกที่จะไปเยี่ยมราเดนพร้อมกับทุกคน เพราะเมื่อคืนเขาเจอหลักฐานเด็ดที่ทำให้เห็นว่าการที่ราเดนต้องเข้าโรงพยาบาลมันไม่ใช่เหตุสุดวิสัย ทว่าเขาเชื่อว่าราเดนต้องการเรียกร้องความสนใจจากปารวีต่างหาก“ดีขึ้นแล้วใช่ไหมครับ”ทุกคนมองไปยังชวินกันเป็นตาเดียวที่เห็นเขาเข้าไปหาราเดนเป็นคนแรกทั้งที่ก็ไม่ค่อยจะชอบหน้ากันสักเท่าไร“อืม ก็ดีขึ้นมากแล้ว” ราเดนพยักหน้าน้อยๆ ตอบชวินเสียงห้วน ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายมาไม้ไหนถึงได้แสดงออกว่าเป็นห่วงเป็นใยเขาก่อนทุกคน“เมื่อวานผมดูกล้องวงจรปิดแล้ว ผมเห็นว่าคุณเข้าไปเล่นกับลูกหมาตัวนั้นเอง ไม่ใช่ลูกหมาตัวนั้นวิ่งมาหาคุณ เรียกคะแนนสงสารจากลูกปลาสินะครับ” เมื่อเห็นว่าทุกคนอยู่กันครบ ชวินก็ไม่รีรอที่จะเผยธาตุแท้ของราเดน โดยเฉพาะปารวี เขาอยากให้เธอรู้ว่าราเดนกำลังล้อเล่นกับความรู้สึกของเธออีกแล้ว ดูสิว่าหากหญิงสาวรู้แล้วมันจะเป็นยังไง“จริงเหรอคะ” ปารวีมองจ้องคนตัวโตที่นั่งห้อยขาอยู่บนเตียงด้วยแววตาผิ
“ทำไมมาอยู่ตรงนี้ ไม่เข้าไปร่วมโต๊ะล่ะ”“ไม่ กลัวอดใจกระทืบคนไม่ได้”“หึ่...” ซีโวลอดขำพรืดกับคำตอบของเพื่อนรัก นับว่าไม่ผิดหวังกับคำตอบที่ออกมาจากปากของราเดน“ขำอะไรของนายนักหนา”“ก็ตั้งแต่คบกันมาฉันไม่เคยเห็นแกหึงผู้หญิงนี่หว่า เอาน่า... ฉันเชื่อว่าแกเอาลูกปลากลับคืนมาได้อยู่แล้ว แต่อย่าใจร้อนทำให้เธอโกรธอีก ห้ามบังคับ แต่ควรหัดใช้สมองให้เป็น”“พูดให้มันเข้าใจง่ายๆ หน่อยสิ” ราเดนเริ่มขมวดคิ้วระหว่างส่งเครื่องดื่มให้ซีโวลอด“เรื่องอื่นล่ะเก่งเหลือเกิน มาตกม้าตายเพราะเรื่องผู้หญิง” พูดจบก็ยกแก้วดื่มน้ำเมาสีสวยอึกใหญ่ ทั้งอมยิ้มน้อยๆ ให้เพื่อนที่ดูจะไร้เดียงสาเรื่องหัวใจ“ขอความเห็น ไม่ใช่ให้มาด่าฉัน”“ฉันว่ายังไงลูกปลาก็ยังหลงเหลือความรักให้นายอยู่ แค่ทำตัวน่าสงสารให้เธอเห็นใจนาย เดี๋ยวเธอก็ใจอ่อนกับนายเอง แต่ตอนนี้ห้ามทำอะไรให้เธอโกรธเด็ดขาดถึงจะหมั่นไส้หมอนั่นแค่ไหนก็ช่าง เข้าใจไหม”ราเดนนั่งเงียบ ดวงตาคมยังคงจับจ้องไปยังกลุ่มคนที่ร่วมโต๊ะดินเนอร์กันที่ริมชายหาด ไม่ค่อยชอบใจนักที่เห็นปารวีนั่งหัวร่อต่อกระซิกอยู่กับชวิน เพราะรอยยิ้มที่เธอให้ชวินมันควรจะเป็นของเขา เขาหลี่ตามากขึ้นเรื่
“ก็ฉันจะอยู่รีสอร์ทพี่โชน ทำไมคะ หรือจะบังคับเอาฉันไปขังที่อื่นอีก บอกเลยนะคะว่าให้ฉันเจ็บตัวมากกว่านี้เพื่อหนีไปจากคุณฉันก็ยอม” สาวเจ้าในชุดมินิเดรสคอบัวแขนสั้นสีชมพูนั่งกอดอกบุ้ยปาก ดวงตามีแต่ความแข็งกร้าว ทำเอาคนที่มองจ้องอยู่ต้องถอนหายใจอ่อน“จะให้พี่ทำยังไงถึงจะหายโกรธพี่” ว่าจะไม่พูดเรื่องนี้เขาก็อดไม่ได้ เพราะอีกฝ่ายเริ่มที่จะประชดประชันเขาขึ้นมา“ก็แค่เซ็นใบหย่ากัน แล้วก็ต่างคนต่างอยู่ค่ะ”“ถ้าพี่บอกว่าจะยอมเซ็นใบหย่าให้ จะไปอยู่รีสอร์ทอื่นได้ไหม”“คุณมีสิทธิ์อะไรมาต่อรองกับฉันคะ”ราเดนยืนกัดฟันถอนหายใจและเงียบไปครู่หนึ่ง สุดท้ายเขาก็ต้องทำตามใจปารวี เมื่อเก็บของเรียบร้อยก็พาเธอไปที่รีสอร์ทของชวินเมื่อมาถึงเขาก็ต้องพยายามสงบอารมณ์ให้มากที่สุดเท่าที่เคยทำมา เพราะหลังจากชวินรู้ว่าปารวีกลับมาพักที่รีสอร์ทของตัวเองก็รับเดินทางจากบ้านมาหาภรรยาของเขาทันที แถมยังทำเหมือนเขาเป็นธาตุอากาศ พูดคุยกันอย่างออกรสทำเหมือนว่าเขาไม่ได้อยู่ด้วย จนเขาต้องเดินหนีมาหาที่สงบอารมณ์ดีที่เขารู้ว่าซีโวลอดกับมุขรินทร์ยังเที่ยวด้วยกันอยู่แถวนี้เลยได้โทรตามให้ทั้งสองมาที่นี่ อย่างน้อยเขาก็ยังมีซีโวลอดเป
ก๊อก ก๊อก ก๊อก สองสายตามองไปยังประตูห้องหลังจากได้ยินเสียงเคาะ ไม่กี่วินาทีหลังจากนั้นมุขรินทร์ก็เดินนำหน้าซีโวลอดเข้ามาข้างใน“แกเป็นไงบ้าง” หญิงสาวหน้าสวยในชุดเดรสกระโปรงยาวสีขาวเดินพุ่งตรงมายังเตียงคนป่วยทันที มุขรินทร์กวาดสายตามองบริเวณของของปารวีที่มีผ้าพันแผลพันเอาไว้จนหนาก็อดรู้สึกเจ็บแทนเพื่อนไม่ได้“ไม่เป็นไรมากแล้ว” ปารวีตอบกลับด้วยรอยยิ้ม ใจชื้นที่เห็นเพื่อนเธออยู่ตรงนี้ จะได้ถือโอกาสนี้ให้มุขรินทร์อยู่เฝ้าเธอเสียเลย“รีบไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะ” ซีโวลอดเขายื่นกระเป๋าที่เตรียมเสื้อผ้าเอาไว้ในนั้นให้กับราเดน“อืม” ราเดนรับของจากซีโวลอดได้ก็พุ่งตัวไปที่ห้องน้ำทันทีให้หลังราเดนไปได้ซีโวลอดก็หันมายิ้มให้ปารวี “แล้วต้องอยู่โรงพยาบาลอีกนานไหมครับ”“คุณเรบอกว่าประมาณอาทิตย์นึงค่ะ แล้วนี่คุณเรโทรให้มาเยี่ยมเหรอคะ”“เปล่าครับ ผมรู้เรื่องจากเรก็เลยรีบมา”“แล้วทำไมเพิร์ลมาด้วย หรือว่าทุกคนรู้เรื่องที่ฉันเจ็บตัวหมดแล้วคะ” ใบหน้าหวานซีดเซียวเริ่มมีสีหน้าของความกังวล เธอกลัวว่าพ่อกับแม่จะรู้เรื่องนี้ด้วย“เปล่าครับที่เพิร์ลมาด้วยเพราะผมไปหาเธอที่บ้านพอดี ตอนนี้คนอื่นๆ ยังไม่รู้เรื่อง
หลังจากซีโวลอดวางสายจากราเดนได้ มุขรินทร์ก็รู้ว่าสิ่งที่เธอคาดการณ์เอาไว้ไม่ผิด ตอนนี้ปารวีบาดเจ็บจนต้องนอนโรงพยาบาลเพราะต้องการหนีจากราเดน เธอจึงรีบเดินทางไปหาราเดนและปารวีพร้อมกับซีโวลอดในทันทีชวินบินจากภูเก็ตได้ก็ตรงมายังไร่ผูกรักริมธารเพราะคิดว่าปารวีจะอยู่ที่นี่ ทว่ามาถึงเขาก็ไม่เจอใคร เขาจึงขับรถเข้ามาหาสามภพที่ไร่สหายเสือ แล้วก็ได้รู้เรื่องที่น่าหงุดหงิดใจที่เพื่อนของเขากำลังร่วมหุ้นหับราเดนทำโรงบ่มไวน์โดยที่ไม่คิดจะปรึกษากับเขาสักคำ“แกกำลังจะทำโรงบ่มไวน์กับราเดนทำไมไม่บอกฉัน”“แล้วแกโมโหไรวะ” สามภพเท้าเอวขมวดคิ้ว มองเพื่อนตนด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความฉงน เพราะไม่รู้ว่าทำไมชวินถึงได้มาอารมณ์เสียกับเรื่องแค่นี้ เพราะไม่ช้าไม่นานเขาก็ต้องบอกให้ชวินรับรู้อยู่แล้ว“ฉันไม่ชอบหน้าหมอนั่น” ชวินสบถเสียงแข็ง“ฉันมองออกว่าแกคิดอะไรกับลูกปลา แต่ก็ไม่ควรพาลมาเรื่องงานของฉันนะโว้ย”“แกไม่รู้หรือไงว่าราเดนทำอะไรกับลูกปลาไว้ เค้าทำให้เธอเสียใจ หลอกเธอให้เธอจดทะเบียนด้วยแล้วก็หักหลังเธอจะไปแต่งงานกับคนอื่น” ชวินละล่ำละละลัก เรื่องไม่พอใจที่ราเดนได้ปารวีไปครอบครองเขายอมรับ ทว่าเขาก็ไม่อยากให้เ
ปารวีมองตามหลังคนตัวโตจนเขาเดินออกไปพ้นประตูจากนั้นเธอก็รีบเดินไปล็อคกลอนแน่นหนาก่อนจะสาวเท้ามาที่หน้าต่างเพื่อดูทางหนีทีไล่ เธอไม่ได้สนใจข้าวผัดกับกุ้งย่างตัวโตบนถาดอาหารแม้ท้องจะหิวแค่ไหน ตอนนี้เธออยากออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้เท่านั้นคนตัวเล็กสูดหายใจก่อนจะปีนออกไปทางหน้าต่าง ดีที่บ้านหลังนี้ไม่สูงมากไม่เช่นนั้นเธอคงได้เจ็บตัวก่อนที่จะหนีไปหาคนอีกฝั่งของเกาะแน่นอนราเดนกลับมานั่งหน้าเศร้าที่เก้าอี้หน้าชานบ้าน คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันแทบจะผูกโบว์ ไม่ชอบเวลาที่เห็นปารวีเมินเฉยต่อตัวเองแม้แต่น้อย ทว่าก็ยังคิดไม่ตกว่าจะทำอย่างไรให้เธอได้ยอมเปิดใจให้อภัยไม่ทันที่จะได้คิดตก ความหูไวของเขาก็หูทำให้รู้สึกถึงสัญญาณไม่ดีบางอย่างที่ข้างบ้าน แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าห้องนอนใหญ่มีหน้าต่าง เขารีบสาวเท้าไปชะโงกหน้ามองตามเสียงกิ่งไม้หักก็เห็นหลังไวๆ ของปารวี ตอนนี้เธอวิ่งหนีเขาเข้าป่าไปแล้ว“ลูกปลา มันอันตราย” ราเดนตะโกนจนสุดเสียง เขาไม่น่าประมาทเธอเลย“อ๊าย...”ตะโกนยังไม่ทันขาดคำเสียงกรีดร้อง ของหญิงสาวก็ดังขึ้นเขาจึงรีบสาวเท้าสับวิ่งไปหาเธอทันที วิ่งตามได้ไม่กี่วินาทีเขาก็อยู่ชะงัก อ้าป