“เอ่อ...เรื่องนั้นค่อยคุยได้ไหม ฉันหนาว ขอตัวไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะคะ” พูดจบก็เตรียมจะหันหลังวิ่ง วินาทีนี้เธอต้องเอาตัวรอดจากผู้ชายตรงหน้าให้ได้ก่อน ทว่าก็ยังไม่ทันได้ก้าวไปไหน ตัวของเธอก็ลอยขึ้นจากพื้นไปเรียบร้อยแล้ว
“ว๊าย ปล่อยฉันนะ”
“ผมจะพาคุณไปเปลี่ยนเสื้อผ้าไง”
“ฉันไปเองได้ ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้เลย”
เสียงโวยวายของมุขรินทร์ยังคงดังอยู่ตลอด ทว่าก็ไม่ยังสามารถที่จะดิ้นหนีจากซีโวลอดได้ง่ายๆ
ทางด้านปารวีเธอถูกราเดนพากลับเข้าไปในห้องนอนของเขา หญิงสาวถูกวางที่ห้องน้ำ จากนั้นชายหนุ่มก็ยื่นชุดคลุมสีขาวให้เธอได้เปลี่ยน
“เรียบร้อยแล้วก็ออกมาคุยกับผม”
ปารวีค่อยๆ ถอดชุดนอนที่เปียกชุ่มออกทั้งน้ำตา ไม่ได้อยากให้ตัวเองฟูมฟายต่อหน้าเขา ทว่าหัวใจที่ถูกความรู้สึกเสียใจบีบรัดจนปวดหนึบก็ยังคงทำให้น้ำตาของเธอไหลทะลักออกมาได้เรื่อยๆ อยู่ดี
สาวเจ้าสวมชุดคลุมเรียบร้อยก็เดินออกมาจากห้องน้ำ เมื่อเห็นว่าใครยืนรออยู่หน้าห้องเธอก็รีบปาดน้ำตาก้มหน้างุดในทันที
“ร้องให้ทำไม”
สิ้นคำถามของชายหนุ่ม ก็เหมือนเป็นแรงบีบหัวใจของเธอให้ปวดหนึบหนักขึ้น แล้วเธอก็เริ่มที่จะกลั้นเสียงสะอื้นไม่ได้อีกต่อไป
“ก็คุณ...คุณทำอะไรกับผู้หญิงคนอื่น”
“ผมเป็นผู้ชาย มันเรื่องปกติ” ดวงตาคมหลี่มองคนตัวเล็กที่เอาแต่ยืนก้มหน้าสะอึกสะอื้นด้วยแววตาฉงน เธอร้องให้เพราะตกใจกับภาพที่เห็นอย่างนั้นเหรอ เขาพอจะรู้ว่าหญิงสาวเรียนจบแล้ว เรื่องแบบนี้เธอไม่เคยผ่านมันมาหรืออย่างไร
เธอเงยหน้ามองเขาก่อนจะพูดสิ่งที่อยากพูดออกมา “แต่คุณอย่าลืมว่าฉันเป็นเมีย”
“ว่าไงนะ” จากที่หลี่ตามองหญิงสาวด้วยแววตาสงสัย ตอนนี้คิ้วเข้มได้รูปเริ่มขมวดมุ่นจนหัวคิ้วชนกัน ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาคิดว่าเธอจะลืมเรื่องที่เขาแต่งงานเพราะความจำเป็นไปแล้วเสียอีก
“ฉันเป็นเมียคุณ ฉันคิดแบบนั้นมาตลอดตั้งแต่ที่เราแต่งงานกัน ฉันไม่เคยมีใคร แต่คุณ ฮือ ฮือ ฮือ...” ปารวียกมือปากน้ำตาลวกๆ ตัวของเธอสั่นเทา และเริ่มสะอึกสะอื้นหนักขึ้นเรื่อยๆ
“ผมว่าคุณเข้าใจอะไรผิดๆ มานานหลายปีแล้วล่ะ วันนั้นผมยอมแต่งงานก็เพื่อรักษาหน้าของตาคุณ กับชื่อเสียงของคุณ ผมว่าผมพูดชัดเจนแล้ว อย่าบอกว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาคุณไม่เคยมีใครเพราะคิดว่ามีผมเป็นสามี”
“แล้วมันผิดเหรอคะที่ฉันคิดแบบนั้น ที่ฉันมาที่นี่ก็เพราะอยากจะมาบอกคุณ ว่าฉันรักคุณ”
“รักผม?”
ปารวีพยักหน้า พร้อมกับปาดน้ำตาไม่หยุดจนใต้ตาและพวงแก้มรวมไปถึงจมูกเห่อแดงขึ้นเรื่อยๆ
ราเดนยืนกอดอกมองปารวีด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความลำบากใจ “คุณยังเด็กเกินไปกับเรื่องความรัก ถ้าคุณรู้จักชีวิตของผมจริงๆ คุณอาจจะไม่อยากอยู่ใกล้ผมก็ได้ เรื่องเมื่อกี้ที่คุณเห็น คุณยังรับไม่ได้เลย”
“เธอเป็นแฟนคุณหรือเป็นผู้หญิงที่คุณใช้เงินซื้อมา” ปารวีพยายามทำให้ตัวเองกลับมาพูดจารู้เรื่องอีกครั้ง หากเขาตอบเธอได้ว่าผู้หญิงพวกนั้นเขาใช้เงินซื้อมาเธอจะพยามเข้าใจว่าเป็นเรื่องปกติในตอนที่เขาอยู่ในสถานะโสด
“ผมไม่เคยคบใครเป็นแฟน ไม่เคยมีความคิดว่าอยากจะมีด้วย”
“ทำไม”
“ผมไม่อยากมีชีวิตครอบครัว”
“ทำไม” เสียงที่เปล่งออกมาเริ่มสั่นเครืออีกครั้ง
“เฮ้อ” ราเดนถอนหายใจเฮือกใหญ่ คุยกับผู้หญิงหลงไหลในความรัก ทั้งยังอายุน้อยกว่าเขาหลายปี การจะทำให้เธอเข้าใจความรู้สึกนึกคิดของเขามันคงยาก เพราะดูท่าเธอก็คงยังยึดติดอยู่กับความเข้าใจของตัวเองล้วนๆ
เขาอธิบายกับเธอไปตรงๆ ว่าไม่อยากมีชีวิตครอบครัว ยังถามกลับมาว่าทำไม แล้วเขาจะต้องทำยังไงให้เธอได้เขาใจถึงแก่นแท้ของความรู้สึกของเขา
ราเดนคลายจากท่ากอดอกจากนั้นก็เดินเข้าไปยืนตรงหน้าคนตัวเล็กที่กำลังยืนกลั้นเสียงสะอื้นจนหน้าแดง
ครั้งนี้ปารวีกล้าที่จะเงยหน้ามองจ้องดวงตาอันทรงเสน่ห์ของเขา แต่เธอไม่มองเขาด้วยความชื่นชมแล้ว เพราะสายตาของเธอที่มองจ้องไปยังนัยน์ตาสีสวยนั้นเต็มไปด้วยความน้อยใจ
ทำไมเขาถึงไม่ยอมตอบเธอออกมาล่ะว่าเพราะอะไรถึงไม่อยากมีครอบครัว คำตอบนี้เป็นคำตอบที่เขาตอบเธอคนเดียวหรือเปล่า
“เอาแบบนี้แล้วกัน ถ้าผมจะให้คุณลองเรียนรู้ชีวิตของผมล่ะ ถ้าคุณรับได้ผมก็จะให้คุณอยู่ด้วยในฐานะภรรยา แต่ถ้ารับไม่ได้ คุณก็ต้องกลับไป ทางใครทางมัน โอเคไหม”
“ที่คุณพูดมา หมายถึงให้เราลองคบกันเหรอคะ”
“เข้าใจแบบนั้นก็ได้ แต่ผมจะไม่เปลี่ยนอะไรที่ผมไม่อยากเปลี่ยน แล้วผมก็ไม่ชอบให้ใครขัดใจ ถ้าคุณรับได้ก็โอเค”
ปารวียังคงเงียบ ดวงตาคู่สวยหลุบลงต่ำกำลังใช้ความคิด หากเขาไม่เคยมีแฟน เท่ากับว่ายังไม่เคยได้รักใคร แล้วถ้าเธอทำให้เขารักเธอได้ เรื่องผู้หญิงคนอื่นที่เขาจะเข้าไปยุ่ง ก็น่าจะไม่มีกวนใจเธอแน่ๆ หวังว่าจะเป็นเช่นที่เธอคิดนะ
ราเดนยังคงจ้องคนที่ยืนครุ่นคิดไม่วางตา เขาอยากจะรู้เหลือเกินว่าหญิงสาวจะตัดสินใจเรื่องนี้ยังไง“ค่ะ ฉันตกลง” เงยหน้าตอบอีกฝ่ายด้วยแววตาแน่วแน่“โอเค ชีวิตคู่ของเราจะเริ่มขึ้นในวันพรุ่งนี้ ผมจะพาคุณไปส่งที่ห้อง”“ค่ะ เอ่อ...”ราเดนที่กำลังเดินนำหญิงสาวหมายจะไปเปิดประตูห้อง ทว่าก็ต้องหันหลังกลับมาคุยกับปารวีอีกรอบ“มีอะไร”“ตอนที่เราลองคบกัน คุณจะไม่ยุ่งกับผู้หญิงคนอื่นใช่ไหมคะ”ราเดนยืนนิ่งครุ่นคิดและอยู่ในเงียบไปชั่วขณะ ทุกวินาทีที่มีแต่ความเงียบทำเอาหัวใจของปารวีเต้นแรงแทบจะกระเด็นออกมาข้างนอกเสียให้ได้ เขาจะรับปากเธอได้ไหม ขอแค่เรื่องนี้เรื่องเดียวจริงๆ “ถ้าคุณหมายถึงว่าผู้หญิงขายบริการ ผมจะไม่ยุ่ง”“ค่ะ” ริมฝีปากบางพอจะคลี่ยิ้มออกอย่างโล่งใจ จากนั้นก็สาวเท้าตามคนตัวโตออกจากห้องนอนของเขาไป เมื่อครู่กลัวแทบแย่ว่าเขาจะเอ่ยคำตอบที่เธอไม่ต้องการ ทว่าเขาก็ยอมง่ายกว่าที่คิดเอาไว้ทางด้านมุขรินทร์ ตั้งแต่หนีออกมาจากพันธนาการของซีโวลอดได้เธอก็รีบวิ่งกลับเข้ามาในห้อง รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าล็อกกลอนประตูแน่นหนา ห่วงเพื่อนก็ห่วง ทว่าก็กลัวว่าออกไปจากห้องแล้วจะเจอกับซีโวลอดอีกแค่คำแนะนำตัวเองที่เข
“ก็เห็นมองตามหลังรถตลอดเลย”“อ๋อ...แค่ ใจหายนิดหน่อย ฉันไม่เคยอยู่ที่อื่นคนเดียวแบบไม่มีครอบครัว แล้วก็เพื่อนๆ มันเลยรู้สึกแปลกๆ”“ลืมอะไรไปรึเปล่า”ดวงตากลมโตเริ่มเบิกกว้าง ไม่ค่อยเข้าใจในสิ่งที่ราเดนพูด มีเรื่องอะไรที่เธอลืมไปงั้นเหรอ“ตอนนี้คุณอยู่กับสามีของคุณ” ในเมื่อเธอมาถึงที่นี่แล้วบอกกับคนของเขาว่าเธอคือภรรยา ทั้งยังคิดว่าตัวเองมีสถานะนั้นกับเขาเสมอมา เขาจะเรียกว่าตัวเองเป็นสามีของเธอก็ไม่ผิดปารวีรีบหลบสายตาชายหนุ่มก่อนจะยืนก้มหน้างุด เธอยืนหันไปหันมาทำตัวไม่ค่อยถูก เพราะเพิ่งรู้สึกอายเรื่องที่สารภาพกับเขาเมื่อคืน ทั้งยังไปย้ำกับเขาว่าอย่าลืมว่าเธอเป็นเมีย ที่เธอกล้าพูดออกไปก็เพราะความโมโหหึงทั้งนั้น พอมาวันนี้ความหน้าบางดันกลับมาอีกแล้ว“เข้าบ้านกันเถอะ ผมจะพาคุณไปสำรวจที่นี่ให้ครบทุกซอกทุกมุม เพราะคุณต้องอยู่ที่นี่อีกนาน” พูดจบก็จูงมือคนตัวเล็กในชุดมินิเดรสแขนสั้นสีฟ้าเดินกลับเข้าไปในบ้านนั่งรถมาได้สักพักใหญ่ๆ มุขรินทร์ที่เอาแต่จับมือถือพิมพ์ข้อความรายงานความคืบหน้าของเรื่องที่นี่ให้เพื่อนๆ ได้รับรู้ เธอก็เริ่มเอะใจว่าการเดินทางไปสนามบินของเธอมันนานเกินไปจำได้ว่าเราเดนบอ
พอมองไปด้านซ้ายก็เห็นว่ามีกำแพงเหล็กตีปิดจนถึงเพดาน ด้านขวาเป็นมุมวางโซฟาสีเทาตัวใหญ่ ในห้องนี้สิ่งที่ทำให้เธอสนใจมากที่สุดก็เห็นว่าจะเป็นกำแพงเหล็กที่ตีสูงจนติดเพดาน ทำไมถึงมีกำแพงนี้อยู่แทบจะกึ่งกลางห้องกัน หรือว่ามันสามารถเปิดเข้าไปข้างในได้อีก“สนใจเหรอ” เสียงทุ้มเอ่ยถามคนที่กำลังจับจ้องไปยังกำแพงสูงด้วยท่าทางฉงนหนัก“เอ่อ...”ไม่ทันที่ปารวีจะได้ตอบปฏิเสธจบ เธอก็ยืนเบิกตาโพลงอ้าปากค้าง เพียงแค่ราเดนทาบฝ่ามือไปที่กลางกำแพงเหล็กสูง กำแพงเหล็กก็เริ่มเคลื่อนออกจากกึ่งกลาง เผยให้เห็นว่าด้านในมีอาวุธมากมายหลายขนาดวางเรียงรายอยู่เต็มแผง ราวกับให้ลูกค้าที่อยากได้อาวุธมาเลือกจิ้มได้ตามสบาย“เห็นแล้วใช่ไหม”ปารวีพยักหน้าหงึกๆ จากนั้นไม่กี่วีนาทีกำแพงเหล็กก็ปิดสนิทมิดชิดเช่นเดิม“เอ่อ...วันนี้คุณต้องทำงานรึเปล่าคะ ฉันไม่รบกวนคุณแล้วก็ได้” หญิงสาวละล่ำละลัก อาวุธพวกนั้นทำให้เธอมีความรู้สึกกลัวเข้ามาในใจพิกล เหมือนตัวเองอยู่ท่ามกลางยุคสงครามยังไงก็ไม่รู้ราเดนรีบเข้าไปรวบอุ้มช้อนก้นคนตัวเล็กที่กำลังเดินหลังให้มาวางเอาไว้บนโต๊ะทำงาน ก่อนจะโน้มตัวให้ใบหน้าของตัวเองเข้าไปใกล้กับใบหน้าของหญิงสาว “
เห็นใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาสมองก็เริ่มมีภาพภาพเหตุกาณ์ก่อนหน้าที่จะหมดสติไปไหลเข้ามา เธอจำได้ว่ากำลังถูกราเดนจูบ แล้วหลังจากนั้นราเดนได้ทำอะไรกับตัวของเธอต่อหรือไม่ ริมฝีปากบางขบเม้มกันแน่น ทว่าก็ยังไม่กล้าถามอะไรออกไป“ดีขึ้นหรือยัง”“ค่ะ” เธอเอ่ยตอบเสียงแหบพร่าให้กับคนที่เข้ามาพยุงช่วยเธอให้ลุกขึ้นนั่ง เมื่อมองเห็นว่าเสื้อผ้าของเธอยังอยู่ดีก็โล่งใจไปหนึ่งเปราะ จากนั้นจึงเงยมองหน้าชายหนุ่มที่นั่งข้างๆ อีกครั้ง เธอทำให้เขาเสียอารมณ์หรือเปล่า แล้วเขาจะทำอะไรต่อไปกับร่างกายของเธออีกไหม“มองหน้าผมแบบนั้นทำไม” ดวงตาคู่สวยฉายแววฉงนขนาดนั้น เขาจึงอดที่จะตั้งคำถามกับเธอไม่ได้“เปล่าค่ะ” ปารวีรีบก้มหน้าหลบสายตาของเขาเพราะกำลังรู้สึกเขินกับความคิดของตัวเอง“ผมไม่คิดว่าผมจะทำให้คุณตกใจจนเป็นลม เอาไว้ผมจะมาสอนคุณให้เข้าใจเรื่องการจูบอีกครั้ง วันนี้ผมจะให้คุณพักผ่อน”“ค่ะ” พยักหน้ารับคำ จะว่าไปเธอก็รู้สึกดีกับสัมผัสของเขาไม่น้อย ทว่าไอ้ความตื่นเต้นจนเกินเหตุก็ทำให้ความสัมพันธ์ของเธอกับเขาไม่คืบหน้าไปเสียได้“เอ่อ” เป็นอีกครั้งที่ต้องตกใจเมื่อเขามาจู่โจมอุ้มเธอขึ้นด้วยท่าเจ้าสาวโดยที่ยังไม่ทันตั้ง
“เราไปคุยธุระของเราให้เรียบร้อยดีกว่า”คำตอบที่ราเดนพูดกับหญิงสาวปริศนาทำปารวีชาวาบไปทั้งตัว ตอนนี้เธอได้แต่ยืนนิ่งทำอะไรไม่ถูก เขาเอ่ยพูดกับผู้หญิงคนนั้นโดยที่ไม่คิดจะหันมามองหน้าของเธอแม้แต่หางตา คนที่บอกว่าเขามีสถานะเป็นสามีของเธอและเธอก็มีสถานะเป็นภรรยาของเขากำลังควงผู้หญิงเดินผ่านหน้าของเธอไปโดยที่ไม่มีทีท่าเกรงใจซ้ำภาษาที่เขาและเธอพูดคุยกันเมื่อครู่เธอก็ฟังออกทุกอย่าง ทำไมเขาไม่คิดจะแนะนำเธอกับผู้หญิงคนนั้นให้รู้ว่าเธอเป็นใคร ทำไมไม่คิดจะพูดสักนิด กลับทำเหมือนเธอเป็นธาตุอากาศยังไงอย่างงั้นปารวีเริ่มกลืนน้ำลายไม่ลงคอ ขอบตาร้อนผ่าวมีน้ำตาเริ่มคลอ เขากำลังคุยธุระอะไรกับผู้หญิงคนนั้นกันแน่ หากเป็นแค่การคุยเรื่องธุรกิจทำไมผู้หญิงคนนั้นถึงต้องถึงเนื้อถึงตัวราเดนขนาดนั้นด้วยราเดนก็อีกคน ไม่รู้หรือไงว่าเธอรู้สึกหวงเขาแค่ไหน ทำไมต้องให้ผู้หญิงคนอื่นมาเกาะแกะด้วยเมื่อยืนเก้ๆ กังๆ อยู่ครูหนึ่งจึงรู้ตัวว่าควรจะพาตัวเองกลับไปที่ห้อง ทว่าหันหลังได้ยังไม่ทันได้ก้าวไปไหนเธอก็ถูดเมเลอร์เข้ามาขวางเอาไว้ “คุณลูกปลาจะไปไหนครับ ตอนนี้นายคุยธุระอยู่นะครับ” พูดจบชายหนุ่มก็ยิ้มแหย และรอยยิ้มของบอดี
ก๊อก ก๊อก ก๊อก ผ่านไปไม่ถึงห้านาทีเสียงเคาะประตูเรียกสติของคนที่กำลังคิดอะไรไปฟุ้งซ่านให้หลุดจากภวังค์ มือเรียวสลัดผ้าห่มผืนหนาออกจากขาทั้งสองก่อนจะรีบลงจากเตียงเดินไปเปิดประตูหน้ามุ่ย ก็เธอบอกว่าไม่หิวฟังกันไม่รู้เรื่องหรือยังไง“ก็บอกว่า...” เงยหน้ามองคนที่ยืนอยู่หน้าห้องได้ชัดเต็มสองตาเธอก็พูดไม่จบบประโยคเพราะคนตรงหน้าของเธอตอนนี้ไม่ใช่เมเลอร์ ปารวีถอยหลังสองก้าวและหันหน้าหนีให้คนที่ก้าวเข้ามาในอาณาเขตห้องนอนของเธอ“ทำไมไม่ทานข้าว”“ไม่หิว”เสียงตอบกลับห้วนขนาดนั้น ราเดนหรือจะมองไม่ออกว่าคนตัวเล็กกำลังประชด “ผมลืมบอกคุณหรือเปล่าว่าผมไม่ชอบคนประชด”“ใครประชด”“หิวก็บอกว่าหิว”“ไม่หิว ฟังภาษาไทยไม่ออกหรือไง หรือต้องให้พูดภาษาอังกฤษ” ครั้งนี้สาวเจ้าเงยหน้ากอดอกพ่นเสียงแข็งใส่คนตัวโตราเดนมองจ้องหน้าสาวเจ้าที่กำลังพยศด้วยสายตาเย็นชา ความนิ่งของเขาทำปารวีเริ่มสลดลงเล็กน้อยที่ทำเสียมารยาทกับเขาไปเมื่อครู่“ฉันไม่หิว คุณออกไปได้แล้วค่ะ” สายตาของเขาในตอนนี้ทำให้เธอรู้สึกขนลุกขึ้นมาดื้อๆแกร๊ก เสียงลงกลอนแน่นหนาดังลั่นเข้ามาโสตประสาทของหญิงสาว ดวงตากลมโตเบิกโพลงเท่าทวี หัวใจดวงน้อยเริ่มเต้
“ทำไม” คนที่เริ่มหายใจแรงขึ้นเรื่อยๆ เอ่ยถามหญิงสาวเสียงกระเส่า ดวงตาทรงเสน่ห์ปรือเยิ้มเรียกความสนใจจากสายตาของปราวีได้ดีที่สุด ซ้ำเขายังดูเซ็กซี่มากๆ ในสายตาของเธอ จนเธอนั้นแทบอ่อนระทวยไปกับสายตาของเขา แต่ก็ต้องเรียกสติตัวเองเพราะยังมีเรื่องที่เธออยากจะพูดคุยกับเขาก่อน“คุณกำลังจะจดทะเบียนกับฉันจริงๆ ใช่ไหม”“ใช่ ถ้าคุณยอมเป็นของผม”“แล้ว...อื้อ...” ยังไม่ทันจะพูดได้จบประโยคราเดนก็ไม่ปล่อยให้ปารวีได้เอื้อนเอ่ยคำใดออกมา สารภาพเลยว่าเพียงได้ใกล้ชิดและได้สูดดมกลิ่นหอมอ่อนๆ จากร่างกายของหญิงสาวมันทำให้อารมณ์ความเป็นชายของคนวัยเลขสามปลายๆ อย่างเขามีอารมณ์พลุ่งพล่านได้เป็นอย่างดีแม้ปารวีจะตกใจกับการถูกจู่โจม แต่เธอก็ไม่คิดจะปฏิเสธ ทั้งยังคิดว่าตอนนี้เธอจะต้องร่วมมือกับเขาอย่างไรบ้าง ทว่ายังไม่ทันได้ตัดสินใจว่าจะร่วมมือร่วมใจกับเขายังไง ลีลาการเล้าโลมของเขาก็นำพาให้ร่างกายของเธอเป็นไปในทุกขณะอย่างที่ควบคุมไม่ได้หญิงสาวเลื้อยเลาะมือเรียวมาบรรจบอยู่ที่เรือนผมนุ่มนิ่มของชายหนุ่มในขณะที่เขากำลังบดจูบดูดดุนริมฝีปากของเธอ ลิ้นอุ่นนุ่มเข้ามาในโพรงปากตวัดรั้งเรียกอารมณ์วาบหวามให้เธอได้เป็นอย่างดี
แล้วเขาก็ต้องผละจูบกัดฟันกรอด “อ๊าย..” พร้อมกับรับรู้เสียงกรีดร้องระบายความเจ็บปวดของคนตัวเล็กเข้ามาในโตประสาทหลังจากที่เขาได้ทำลายเยื่อพรหมจรรย์ของเธอไปเรียบร้อยปารวีนอนตัวเกร็งหยุดหายใจไปชั่วขณะ น้ำตาไหลทะลักออกมาจากหางตาเป็นสายน้ำเพราะความเจ็บแผ่ซ่านจากกึ่งกลางกายไปทั่วลำตัว เธอพยายามจะดิ้นหนีตามสัญชาติญาณแต่ก็ถูกราเดนกอดเอาไว้ เพราะเขาต้องการกดแช่ตัวตนของเขากับกึ่งกลางกายของเธอให้เขากันได้โดยเร็ว“ฉันเจ็บ...” เสียงนั้นเต็มไปด้วยความสั่นเครือ ความเสียวซ่านวาบหวามก่อนหน้านี้หายไปเป็นปลิดทิ้ง เหลือเพียงแค่ความคิดที่อยากให้เขาหยุดการกระทำนี้ไปก่อน ที่คิดว่าจะเจ็บปวดพร้อมกับความสุขมันไม่หลงเหลืออยู่ในหัวของเธอแม้แต่น้อยราเดนรีบกอดคนตัวเล็กเอาไว้แน่น เหมือนจะรู้ว่าเธอกำลังคิดอะไร เขารีบร่ายลีลาจูบกับเธออีกรอบ พยายามเรียกความวาบหวามในร่างกายของหญิงสาวให้กลับมาอีกครั้งเพราะเขาคงปล่อยเธอไปตอนนี้ไม่ได้ ในเมื่อตัวตนของเขาอยู่ในตัวของเธอแล้ว มีหรือลูกผู้ชายอย่างเขาจะปล่อยให้โอกาสของความสุขหลุดลอยไปนานสองนานที่ราเดนไม่เขยื้อนตัวตนง่ายๆ เขายังคงบดจูบเรียกไฟสวาทของปารวีจนรู้สึกได้ว่ามือเรียวข
“อ้าวพี่เร ไหนบอกว่าจะกลับพรุ่งนี้ไงคะ”“ธุระเสร็จไวพี่ก็เลยรีบกลับ ลูกๆ บ่นคิดถึงพี่บ้างรึเปล่า” ร่างสูงใหญ่ในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์สีดำเข้ามาสวมกอดพร้อมกอดหอมพวงแก้มนวลของคนเป็นภรรยาฟอดใหญ่“คนตามใจไม่อยู่ทั้งคนจะไม่บ่นถึงได้ยังไงล่ะคะ”“รู้สึกเหมือนกำลังโดนบ่นยังไงก็ไม่รู้”“แล้วทานอะไรมารึยังคะ”“เรียบร้อยครับ แล้วสิ่งที่อยากทานตอนนี้ก็คือเมีย” เขาช้อนก้นอุ้มคนตัวเล็กให้ขึ้นไปนั่งบนโต๊ะก่อนจะแทรกตัวกึ่งกลางขาเรียวทั้งสอง จากนั้นก็รวบใบหน้าหวานด้วยมือทั้งสองประคองบดจูบด้วยความโหยหาปารวียกแขนทั้งสองคล้องคอคนเป็นสามีอย่างรู้งานก่อนจะแลกลิ้นอุ่นนุ่มกับเขาครั้งแล้วครั้งเล่า ใช่ว่าเขาโหยหาเธอเพียงฝ่ายเดียว เธอเองก็เฝ้าคิดถึงสัมผัสของเขาแทบทุกวินาทีที่ต้องห่างเช่นกันราเดนละมือจากใบหน้าหวานเลื่อนลงมาปลดกางเกงปลดปล่อยแท่งร้อนที่กำลังผงาดหัวปูดเป่งออกมาเผชิญโลกกว้างก่อนจะถลกชุดคลุมตัวบางจากหัวไหล่มนคนเป็นภรรยาให้ไปกองอยู่กับหน้าโต๊ะเมื่อคนตัวเล็กล่อนจ้อนเผยผิวเนื้อนวลเนียนชวนสัมผัสเขาก็วาดแขนประคองแผ่นหลังบางไล่พรมจูบตั้งแต่ลำคอระหงส์สูดดมกลิ่นหอมอ่อนๆ ให้เต็มปอดจนมาบรรจบอยู่ที่เนินอกอวบ
วันเวลาหมุนเวียนเปลี่ยนผันนานร่วมสามปีกว่า ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปมากมายโดยเฉพาะชีวิตของปารวี จากก่อนหน้านี้เธอเป็นเพียงเจ้าของไร่ผูกรักริมธาร มีหน้าที่บริหารไร่ และต้อนรับนักท่องเที่ยวตอนนี้เธอกลายเป็นคุณแม่ลูกสองที่ทำหน้าที่ดูแลลูก และเป็นผู้บริหารรีสอร์ทยักษ์ใหญ่ที่มีชื่อเสียงของจังหวัดไปแล้ว หลังจากที่เธอคืนดีกับราเดนได้ เขาก็เข้ามาพัฒนาไร่ของเธออย่างเต็มที่ ส่วนงานที่คลังอาวุธก็ยังคงบินไปดูแลอยู่บ่อยๆ แต่ส่วนใหญ่เขาก็จะใช้ชีวิตอยู่กับเธอที่ไร่ส่วนเพื่อนๆ ของเธอตอนี้ต่างคนต่างก็มีชีวิตเช่นที่ฝัน ไก่หวานเปิดธุรกิจร้านเสื้อผ้าของตัวเอง แล้วดูท่าทุกอย่างก็กำลังไปได้สวย ส่วนอารยาก็เป็นเภสัชอยู่ที่เดิม เพิ่มเติมคือร้านยาของเธอได้ขยายไปอีกสามสาขาส่วนมุขรินทร์ตอนนี้ก็เลิกทำงานเป็นบัญชีฟรีแลนซ์ แล้วเข้าไปช่วยสามีบริหารงานอยู่ที่รัสเซีย ใช่แล้ว ตอนนี้สองคนนั้นแต่งงานกันเรียบร้อย และตอนนี้ก็กำลังจะมีโซ่ทองคล้องใจออกมาลืมตาดูโลกแล้วด้วยส่วนสามภพก็กลายเป็นนักธุรกิจเต็มตัว ไหนจะดูแลไวน์ที่โรงบ่ม และยังเป็นนักขายตัวยงที่หาลูกค้าได้เก่งมากๆ จนราเดนไม่ต้องเข้าไปช่วยทำอะไรในส่วนของชวิน ต
ราเดนได้แต่ก้มหน้ากลืนน้ำลายอึกใหญ่ แม้จะเห็นว่าปารวีไม่ได้อยากจะเชียร์เขาสักนิด ทว่าเขาก็ยังอยากจะทำในสิ่งที่รับคำท้าชวิน วันนี้เขาก็อยากจะรู้เหมือนกันว่า เขา หรือ ชวิน ที่จะเป็นผู้ชนะในการแข่งครั้งนี้พักใหญ่แล้วที่เสียงของท่อไอเสียรถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ดังลั่นสนั่นไปทั้งสนาม บีบให้หัวใจของคนที่เฝ้ามองไม่ละสายตาได้เต้นแรงตามเสียงนั้นไปด้วยปารวีแทบจะหยุดหายใจเมื่อเห็นว่าราเดนแทบจะหลุดโค้งทุกครั้งที่เข้าโค้ง ทว่าชวินกลับขับรถในสนามได้อย่างชำนาญ แต่ก็ทิ้งห่างราเดนได้ไม่ไกลมากนัก“รอบสุดท้ายแล้ว ใครจะชนะล่ะเนี่ย”เสียงของไก่หวานยิ่งทำให้ปารวีใจเต้นไม่เป็นส่ำ เธอกลืนน้ำลายไม่ลงคอและจับจ้องไปยังรถของราเดนตาไม่กระพริบ ยอมรับกับหัวใจตัวเองเลยว่าตอนนี้เขาอยากให้เป็นราเดนที่เข้าเส้นชัยไม่ใช่ชวิน ทว่าเหมือนเธอจะมองไม่เห็นโอกาสนั้นเลยและในโค้งสุดท้ายก่อนจะเข้าเส้นชัย รถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่สองคันก็ได้ตีคู่กันมาติดๆ เล่นเอาคนที่เกาะขอบสนามแทบจะหยุดหายใจเพราะลุ้นไปตามๆ กัน ไม่กี่วินาทีหลังจากนั้นเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น“อ๊าย...พี่เร!...” ปารวีร้องเสียงหลงเมื่อรถของราเดนพุ่งออกไปจากสนามแข่งแล้วไ
หวังว่าการยอมลงทุนเรียกคะแนนความสงสารจากคนตัวเล็กจะทำให้เธอกลับมาเป็นของเขาได้โดยเร็ว เขาจะได้ไม่ต้องมานั่งกังวลกับไอ้หนุ่มหน้าละอ่อนที่พยายามจะขโมยหัวใจของเขาไปเช้านี้ชวินเลือกที่จะไปเยี่ยมราเดนพร้อมกับทุกคน เพราะเมื่อคืนเขาเจอหลักฐานเด็ดที่ทำให้เห็นว่าการที่ราเดนต้องเข้าโรงพยาบาลมันไม่ใช่เหตุสุดวิสัย ทว่าเขาเชื่อว่าราเดนต้องการเรียกร้องความสนใจจากปารวีต่างหาก“ดีขึ้นแล้วใช่ไหมครับ”ทุกคนมองไปยังชวินกันเป็นตาเดียวที่เห็นเขาเข้าไปหาราเดนเป็นคนแรกทั้งที่ก็ไม่ค่อยจะชอบหน้ากันสักเท่าไร“อืม ก็ดีขึ้นมากแล้ว” ราเดนพยักหน้าน้อยๆ ตอบชวินเสียงห้วน ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายมาไม้ไหนถึงได้แสดงออกว่าเป็นห่วงเป็นใยเขาก่อนทุกคน“เมื่อวานผมดูกล้องวงจรปิดแล้ว ผมเห็นว่าคุณเข้าไปเล่นกับลูกหมาตัวนั้นเอง ไม่ใช่ลูกหมาตัวนั้นวิ่งมาหาคุณ เรียกคะแนนสงสารจากลูกปลาสินะครับ” เมื่อเห็นว่าทุกคนอยู่กันครบ ชวินก็ไม่รีรอที่จะเผยธาตุแท้ของราเดน โดยเฉพาะปารวี เขาอยากให้เธอรู้ว่าราเดนกำลังล้อเล่นกับความรู้สึกของเธออีกแล้ว ดูสิว่าหากหญิงสาวรู้แล้วมันจะเป็นยังไง“จริงเหรอคะ” ปารวีมองจ้องคนตัวโตที่นั่งห้อยขาอยู่บนเตียงด้วยแววตาผิ
“ทำไมมาอยู่ตรงนี้ ไม่เข้าไปร่วมโต๊ะล่ะ”“ไม่ กลัวอดใจกระทืบคนไม่ได้”“หึ่...” ซีโวลอดขำพรืดกับคำตอบของเพื่อนรัก นับว่าไม่ผิดหวังกับคำตอบที่ออกมาจากปากของราเดน“ขำอะไรของนายนักหนา”“ก็ตั้งแต่คบกันมาฉันไม่เคยเห็นแกหึงผู้หญิงนี่หว่า เอาน่า... ฉันเชื่อว่าแกเอาลูกปลากลับคืนมาได้อยู่แล้ว แต่อย่าใจร้อนทำให้เธอโกรธอีก ห้ามบังคับ แต่ควรหัดใช้สมองให้เป็น”“พูดให้มันเข้าใจง่ายๆ หน่อยสิ” ราเดนเริ่มขมวดคิ้วระหว่างส่งเครื่องดื่มให้ซีโวลอด“เรื่องอื่นล่ะเก่งเหลือเกิน มาตกม้าตายเพราะเรื่องผู้หญิง” พูดจบก็ยกแก้วดื่มน้ำเมาสีสวยอึกใหญ่ ทั้งอมยิ้มน้อยๆ ให้เพื่อนที่ดูจะไร้เดียงสาเรื่องหัวใจ“ขอความเห็น ไม่ใช่ให้มาด่าฉัน”“ฉันว่ายังไงลูกปลาก็ยังหลงเหลือความรักให้นายอยู่ แค่ทำตัวน่าสงสารให้เธอเห็นใจนาย เดี๋ยวเธอก็ใจอ่อนกับนายเอง แต่ตอนนี้ห้ามทำอะไรให้เธอโกรธเด็ดขาดถึงจะหมั่นไส้หมอนั่นแค่ไหนก็ช่าง เข้าใจไหม”ราเดนนั่งเงียบ ดวงตาคมยังคงจับจ้องไปยังกลุ่มคนที่ร่วมโต๊ะดินเนอร์กันที่ริมชายหาด ไม่ค่อยชอบใจนักที่เห็นปารวีนั่งหัวร่อต่อกระซิกอยู่กับชวิน เพราะรอยยิ้มที่เธอให้ชวินมันควรจะเป็นของเขา เขาหลี่ตามากขึ้นเรื่
“ก็ฉันจะอยู่รีสอร์ทพี่โชน ทำไมคะ หรือจะบังคับเอาฉันไปขังที่อื่นอีก บอกเลยนะคะว่าให้ฉันเจ็บตัวมากกว่านี้เพื่อหนีไปจากคุณฉันก็ยอม” สาวเจ้าในชุดมินิเดรสคอบัวแขนสั้นสีชมพูนั่งกอดอกบุ้ยปาก ดวงตามีแต่ความแข็งกร้าว ทำเอาคนที่มองจ้องอยู่ต้องถอนหายใจอ่อน“จะให้พี่ทำยังไงถึงจะหายโกรธพี่” ว่าจะไม่พูดเรื่องนี้เขาก็อดไม่ได้ เพราะอีกฝ่ายเริ่มที่จะประชดประชันเขาขึ้นมา“ก็แค่เซ็นใบหย่ากัน แล้วก็ต่างคนต่างอยู่ค่ะ”“ถ้าพี่บอกว่าจะยอมเซ็นใบหย่าให้ จะไปอยู่รีสอร์ทอื่นได้ไหม”“คุณมีสิทธิ์อะไรมาต่อรองกับฉันคะ”ราเดนยืนกัดฟันถอนหายใจและเงียบไปครู่หนึ่ง สุดท้ายเขาก็ต้องทำตามใจปารวี เมื่อเก็บของเรียบร้อยก็พาเธอไปที่รีสอร์ทของชวินเมื่อมาถึงเขาก็ต้องพยายามสงบอารมณ์ให้มากที่สุดเท่าที่เคยทำมา เพราะหลังจากชวินรู้ว่าปารวีกลับมาพักที่รีสอร์ทของตัวเองก็รับเดินทางจากบ้านมาหาภรรยาของเขาทันที แถมยังทำเหมือนเขาเป็นธาตุอากาศ พูดคุยกันอย่างออกรสทำเหมือนว่าเขาไม่ได้อยู่ด้วย จนเขาต้องเดินหนีมาหาที่สงบอารมณ์ดีที่เขารู้ว่าซีโวลอดกับมุขรินทร์ยังเที่ยวด้วยกันอยู่แถวนี้เลยได้โทรตามให้ทั้งสองมาที่นี่ อย่างน้อยเขาก็ยังมีซีโวลอดเป
ก๊อก ก๊อก ก๊อก สองสายตามองไปยังประตูห้องหลังจากได้ยินเสียงเคาะ ไม่กี่วินาทีหลังจากนั้นมุขรินทร์ก็เดินนำหน้าซีโวลอดเข้ามาข้างใน“แกเป็นไงบ้าง” หญิงสาวหน้าสวยในชุดเดรสกระโปรงยาวสีขาวเดินพุ่งตรงมายังเตียงคนป่วยทันที มุขรินทร์กวาดสายตามองบริเวณของของปารวีที่มีผ้าพันแผลพันเอาไว้จนหนาก็อดรู้สึกเจ็บแทนเพื่อนไม่ได้“ไม่เป็นไรมากแล้ว” ปารวีตอบกลับด้วยรอยยิ้ม ใจชื้นที่เห็นเพื่อนเธออยู่ตรงนี้ จะได้ถือโอกาสนี้ให้มุขรินทร์อยู่เฝ้าเธอเสียเลย“รีบไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะ” ซีโวลอดเขายื่นกระเป๋าที่เตรียมเสื้อผ้าเอาไว้ในนั้นให้กับราเดน“อืม” ราเดนรับของจากซีโวลอดได้ก็พุ่งตัวไปที่ห้องน้ำทันทีให้หลังราเดนไปได้ซีโวลอดก็หันมายิ้มให้ปารวี “แล้วต้องอยู่โรงพยาบาลอีกนานไหมครับ”“คุณเรบอกว่าประมาณอาทิตย์นึงค่ะ แล้วนี่คุณเรโทรให้มาเยี่ยมเหรอคะ”“เปล่าครับ ผมรู้เรื่องจากเรก็เลยรีบมา”“แล้วทำไมเพิร์ลมาด้วย หรือว่าทุกคนรู้เรื่องที่ฉันเจ็บตัวหมดแล้วคะ” ใบหน้าหวานซีดเซียวเริ่มมีสีหน้าของความกังวล เธอกลัวว่าพ่อกับแม่จะรู้เรื่องนี้ด้วย“เปล่าครับที่เพิร์ลมาด้วยเพราะผมไปหาเธอที่บ้านพอดี ตอนนี้คนอื่นๆ ยังไม่รู้เรื่อง
หลังจากซีโวลอดวางสายจากราเดนได้ มุขรินทร์ก็รู้ว่าสิ่งที่เธอคาดการณ์เอาไว้ไม่ผิด ตอนนี้ปารวีบาดเจ็บจนต้องนอนโรงพยาบาลเพราะต้องการหนีจากราเดน เธอจึงรีบเดินทางไปหาราเดนและปารวีพร้อมกับซีโวลอดในทันทีชวินบินจากภูเก็ตได้ก็ตรงมายังไร่ผูกรักริมธารเพราะคิดว่าปารวีจะอยู่ที่นี่ ทว่ามาถึงเขาก็ไม่เจอใคร เขาจึงขับรถเข้ามาหาสามภพที่ไร่สหายเสือ แล้วก็ได้รู้เรื่องที่น่าหงุดหงิดใจที่เพื่อนของเขากำลังร่วมหุ้นหับราเดนทำโรงบ่มไวน์โดยที่ไม่คิดจะปรึกษากับเขาสักคำ“แกกำลังจะทำโรงบ่มไวน์กับราเดนทำไมไม่บอกฉัน”“แล้วแกโมโหไรวะ” สามภพเท้าเอวขมวดคิ้ว มองเพื่อนตนด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความฉงน เพราะไม่รู้ว่าทำไมชวินถึงได้มาอารมณ์เสียกับเรื่องแค่นี้ เพราะไม่ช้าไม่นานเขาก็ต้องบอกให้ชวินรับรู้อยู่แล้ว“ฉันไม่ชอบหน้าหมอนั่น” ชวินสบถเสียงแข็ง“ฉันมองออกว่าแกคิดอะไรกับลูกปลา แต่ก็ไม่ควรพาลมาเรื่องงานของฉันนะโว้ย”“แกไม่รู้หรือไงว่าราเดนทำอะไรกับลูกปลาไว้ เค้าทำให้เธอเสียใจ หลอกเธอให้เธอจดทะเบียนด้วยแล้วก็หักหลังเธอจะไปแต่งงานกับคนอื่น” ชวินละล่ำละละลัก เรื่องไม่พอใจที่ราเดนได้ปารวีไปครอบครองเขายอมรับ ทว่าเขาก็ไม่อยากให้เ
ปารวีมองตามหลังคนตัวโตจนเขาเดินออกไปพ้นประตูจากนั้นเธอก็รีบเดินไปล็อคกลอนแน่นหนาก่อนจะสาวเท้ามาที่หน้าต่างเพื่อดูทางหนีทีไล่ เธอไม่ได้สนใจข้าวผัดกับกุ้งย่างตัวโตบนถาดอาหารแม้ท้องจะหิวแค่ไหน ตอนนี้เธออยากออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้เท่านั้นคนตัวเล็กสูดหายใจก่อนจะปีนออกไปทางหน้าต่าง ดีที่บ้านหลังนี้ไม่สูงมากไม่เช่นนั้นเธอคงได้เจ็บตัวก่อนที่จะหนีไปหาคนอีกฝั่งของเกาะแน่นอนราเดนกลับมานั่งหน้าเศร้าที่เก้าอี้หน้าชานบ้าน คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันแทบจะผูกโบว์ ไม่ชอบเวลาที่เห็นปารวีเมินเฉยต่อตัวเองแม้แต่น้อย ทว่าก็ยังคิดไม่ตกว่าจะทำอย่างไรให้เธอได้ยอมเปิดใจให้อภัยไม่ทันที่จะได้คิดตก ความหูไวของเขาก็หูทำให้รู้สึกถึงสัญญาณไม่ดีบางอย่างที่ข้างบ้าน แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าห้องนอนใหญ่มีหน้าต่าง เขารีบสาวเท้าไปชะโงกหน้ามองตามเสียงกิ่งไม้หักก็เห็นหลังไวๆ ของปารวี ตอนนี้เธอวิ่งหนีเขาเข้าป่าไปแล้ว“ลูกปลา มันอันตราย” ราเดนตะโกนจนสุดเสียง เขาไม่น่าประมาทเธอเลย“อ๊าย...”ตะโกนยังไม่ทันขาดคำเสียงกรีดร้อง ของหญิงสาวก็ดังขึ้นเขาจึงรีบสาวเท้าสับวิ่งไปหาเธอทันที วิ่งตามได้ไม่กี่วินาทีเขาก็อยู่ชะงัก อ้าป