“รู้จักเหรอครับ”
หนุ่มหล่อตรงหน้าเอ่ยถามขณะที่ฉันกำลังมองตามหลังพี่หมอที่กำลังเดินไปด้านใน ใบหน้าเฉยชาไร้ความรู้สึกของพี่หมอทำให้คิดไปถึงตอนที่ฉันเจอกับพี่หมอครั้งแรกในงานเลี้ยงที่ฉันไปกับม๊า
ฉันจำได้ว่าคืนนั้นเป็นคืนที่โคตรน่าเบื่อเลย ในงานมีแต่คนแก่ที่ชอบจับกลุ่มเมาท์มอยเรื่องต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องอวดรวย ฉันเบื่อมากจนต้องขอออกมาเดินเล่น และได้เจอหมอที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ตรงมุมหนึ่งของสวนที่ค่อนข้างมืด ตรงนั้นมีแสงไฟส่องลงมากระทบกับใบหน้าหล่อๆ ดูมีเสน่ห์มากๆ เขาเงยหน้ามองฉันเพียงเสี้ยววินาทีแล้วก้มหน้าอ่านหนังสือต่อ ราวกับว่าทำไปตามสันชาตญาน
สายตาของเขาว่างเปล่าไม่เหมือนกับผู้ชายคนอื่นๆ ที่มองฉัน ฉันทำตัวเสียมารยาทยืนมองเขาจนเขาต้องละสายตาจากหนังสือมามองหน้าฉันอีกครั้ง สายตาคู่คมที่อยู่ใต้แว่นทำให้ฉันได้สติขึ้นมารีบเดินออกไปอีกมุม และเขาก็ไม่ได้สนใจอะไร เขาก้มหน้าอ่านหนังสือต่อโดยไม่มองมาที่ฉันอีกเลย ทำเอาคนสวยอย่างฉันเสียความมั่นใจไปหลายวันเลยหล่ะ
และได้เจอกันอีกครั้งตอนพี่หมอมาเดทกับคริสตัลเพื่อนสนิทของฉัน ยอมรับว่าตกใจแต่ก็ดีใจกับเพื่อนนะ ที่ได้ผู้ชายดีๆ
“ตกลงรู้จักผู้ชายคนนั้นมั้ยครับ”
หนุ่มหล่อเอ่ยถามอีกครั้งพร้อมกับใช้มือจับที่ปลายคางของฉันให้หันไปสนใจเขา พอได้สบตากันฉันถึงได้รู้ว่าดวงตาของผู้ชายตรงหน้าสวยมากและมีแรงดึงดูดบางอย่างที่ทำให้ฉันหลงใหล ถ้าไม่หลงคงไม่ลงทุนยั่วยวนมาถึงที่นี่หรอกนะ ก็ชอบอะ… อยากเก็บเข้าสต๊อกไว้นับเล่น
“ผู้ชายของเพื่อนหน่ะค่ะ” ฉันตอบไปพร้อมกับลูบไล้ต้นขาแกร่งขึ้นมาถึงกระเป๋ากางเกง
“จริงเหรอครับ ตอบให้ความหวังผมหรือเปล่า”
ฉันยกยิ้มแทนคำตอบ แล้วล้วงเอามือถือของเขามากรอกเบอร์โทรลงไป
“ค่อยคุยกันนะคะ พอดีเพื่อนรออยู่”
ฉันบอกไปก่อนจะเดินกลับเข้ามาในผับทางเดียวกับที่พี่หมอเดินไปก่อนหน้า พอมาถึงด้านในก็พยายามมองหาว่าพี่หมอมาหาใคร เท่าที่รู้จักมาหมอหนุ่มคนนี้ไม่ชอบปาร์ตี้ ไม่ชอบสถานที่เสียงดัง แล้วทำไมวันนี้ถึงมาโผล่ที่นี่ได้
นั่นไง! เจอแล้ว ฉันรีบเดินตรงไปหาพี่หมอที่กำลังมองหาใครบางคนอยู่ทันที
“มองหาใครเหรอคะ”
ฉันเสนอหน้าไปยืนขวางทางพี่หมอ พยายามเอ่นอกเชิ่ดสูงให้เต้าอันอวบใหญ่สะดุดตาพี่หมอบ้าง แต่ก็ไร้ประโยชน์
“หาเพื่อนครับ”
นอกจากพี่หมอจะไม่สนใจมองฉันแล้ว ยังเอาแต่มองหาใครก็ไม่รู้ น่าแกล้งชะมัด หนีหน้ากันดีนักใช่มั้ย
“เพื่อนพี่หมออยู่โต๊ะไหนเหรอคะ เดี๋ยวหนูพาไป”
“ขอบคุณนะครับ แต่พี่เจอเพื่อนแล้ว”
พอบอกจะช่วยก็เจอซะเร็วเชียว พูดจบพี่หมอก็เดินไปยังโซนวีไอพีทันที ใครกันนะที่ทำให้พี่หมอผู้รักสงบมาในสถานที่แบบนี้ได้ เท่าที่รู้จากยัยคริสมา พี่หมอไม่เที่ยวกลางคืน ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ และไม่ชอบเสียงดัง ซึ่งต่างจากฉันโดยสิ้นเชิง
ความสงสัยทำให้ฉันก้าวเดินตามพี่หมอไปอย่างไร้มารยาท ก็คนมันอยากรู้หนิว่าใครเป็นคนสำคัญของพี่หมอ ฉันเดินตามจนมาถึงโต๊ะที่อยู่มุมเกือบสุดของโซนวีไอพี ตรงนี้ค่อยข้างเป็นส่วนตัว แต่ก็ไม่ได้ส่วนตัวมาก เพราะยังมีคนเดินผ่านไปมา และนั่นก็ทำให้ฉันแปลกใจ ถ้าต้องการเป็นส่วนตัวจริงๆ ทำไมไม่จองห้องหล่ะ
ยิ่งเห็นผู้หญิงที่พี่หมอมาหาฉันก็ยิ่งสงสัย การแต่งตัวและท่าทางไม่เหมือนผู้หญิงที่ชอบเที่ยว ไม่ชอบเที่ยวแต่นั่งดื่มอยู่คนเดียวในมุมมืดเหมือนคนกำลังมีปัญหาบางอย่าง ใช่แน่ๆ ฉันคิดว่าผู้หญิงคนนั้นต้องมีเรื่องเครียดและเรียกพี่หมอมาเป็นเพื่อน แต่เพื่อนจริงเหรอ ทำไมถึงต้องกอดต้องอ้อนพี่หมอขนาดนั้น
ฉันยืนมองการกระทำของผู้หญิงคนนั้นอยู่นานสองนานมั่นใจว่าผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่แฟนพี่หมอแน่นอน และหล่อนกำลังจะใช้มารยาทหญิงลวนลามพี่หมอ ร้ายมากที่ใช้ความเมาเพื่อสัมผัสร่างกายอันแน่นปึกของพี่หมอ อิพี่หมอก็เป็นคนดีเกินไปแล้ว มองไม่ออกเลยหรือไงว่ามันคือแผน
ฉันว่าฉันต้องเข้าไปแกล้ง เอ้ย! เข้าไปช่วยพี่หมอแล้วแหละ ก่อนที่จะโดนลวนลามไปมากกว่านี้
หมับ!ใบหน้าหล่อของคุณหมอหนุ่มมองซ้ายขวาด้วยท่าทางประหม่าเมื่อแขนเรียวของอดีตแฟนสาวเข้าสวมกอดเขาไว้แน่น ใบหน้าของเธอก็คลอเคลียอยู่ที่ซอกคอของเขาไม่ห่าง หากเป็นเมื่อก่อนเขาคงรู้สึกดีและพาไปสานความสัมพันธ์ต่อที่ห้องไปแล้ว แต่ตอนนี้เขาไม่ได้มีความรู้สึกแบบนั้นกับเธอแล้ว เขามีแค่ความหวังดีให้กับเธอในฐานะเพื่อนคนหนึ่งเท่านั้น และมันคงดูไม่ดีหากเธอยังแนบชิดกับเขาอยู่แบบนี้“อย่าทำแบบนี้เลยครับเพลง ถ้าใครมาเห็นเข้ามันจะดูไม่ดี” หมอหนุ่มเตือนสติและพยายามดันร่างบางออกห่าง“เพลงเสียใจ เพลงจะหย่ากับเขา คุณธนาไม่สนใจความรู้สึกเพลงเลย” หญิงสาวตอบเสียงยานตามสไตล์คนเมาเพลงขวัญสาวสวยที่เกิดมาเพียบพร้อมไปเสียทุกอย่าง เธอมีดีทั้งหน้าตาฐานะชาติตระกูล เรื่องเรียนเธอก็ไม่เป็นสองรองใคร ถ้าเธอเอาดีทางด้านเรียนเธอคงได้เกรดนิยมและอาจจะได้เป็นคุณหมอสาวเหมือนเพื่อนๆ หากแต่เธอทำตามความต้องการของพ่อแม่ทิ้งการเรียน ทิ้งแฟนหนุ่มไปแต่งงานกับมหาเศรษฐี โดยที่ไม่รู้ว่าชีวิตคู่มันไม่ได้สวยหรูดั่งที่วาดฝันไว้ เขาบ้างาน บ้าอำนาจ เจ้าชู้ นอกใจเธอจนนับครั้งไม่ได้ ยิ่งอยู่ด้วยกันก็ยิ่งมีแต่ความเจ็บปวด“ใจเย็นๆ นะเพลง ผมว่าเ
ปึก!เพลงขวัญวางแก้วลงเสียงดังหลังจากที่ดื่มรวดเดียวจนหมดแก้ว ใบหน้าสวยหวานแปรเปลี่ยนเป็นบึ้งตึงหลักจากมีบุคคลที่สามเข้ามาวุ่นวาย นอกจากเด็กนี่จะมายืนแทรกตรงกลางอย่างหน้าไม่อายแล้ว ยังพยายามเรียกร้องความสนใจจากอดีตคนรักของเธอตลอดเวลาอีกด้วย“เอาแบบเดิมอีกแก้ว”เสียงสั่งเครื่องดื่มที่ดังผิดปกติเรียกความสนใจจากหมอหนุ่มได้เช่นเคย เขาละสายตาจากเด็กสาวไปมองอดีตคนรักที่อยู่ถัดไปด้วยความเป็นห่วง“พอเถอะเพลง ผมว่าคุณดื่มเยอะเกินไปแล้วนะครับ”คีรินบอกด้วยน้ำเสียงสุภาพ แล้วยกมือห้ามบาร์เทนเดอร์หนุ่มไม่ให้เอาเครื่องดื่มมาอีก จากนั้นก็ดูเวลาที่นาฬิกาข้อมือ“ถ้าคีย์เบื่อ จะกลับก่อนเพลงก็ได้นะคะ” เพลงขวัญบอกหมอหนุ่มด้วยน้ำเสียงติดประชดแล้วหันไปสั่งเครื่องดื่มอีกครั้ง“เอาแบบเดิมอีกสองแก้ว หรือเอาอะไรก็ได้ที่เมาเร็วที่สุด”“ผมไม่ได้เบื่อ ผมแค่รู้สึกว่ามันดึกมากแล้ว”คีรินยังคงบอกด้วยท่าทางใจเย็นและเป็นสุภาพบุรุษจนนาเดียรู้สึกหมั่นไส้ ผู้ชายอะไรจะเป็นคนดีได้ขนาดนี้ ตอนที่ได้ฟังจากคริสตัลเรื่องความเป็นสุภาพบุรุษของพี่หมอก็ไม่อยากจะเชื่อสักเท่าไหร่ ผู้ชายร้อยทั้งร้อยต้องทำดีเพื่อหวังเรื่องอย่างว่าในตัว
“ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องสนิทกัน ชิ!”นาเดียจีบปากจีบคอพูดออกมาด้วยท่าทางไม่พอใจ เธอทำทุกอย่างเพื่อที่อยากจะได้สนิทกับเขา แต่เขากลับไม่อยากสนิทกับเธอ มันน่าน้อยใจจริงๆ หล่อซะเปล่า ใจดำชะมัด!“ตกลงจะให้พี่ไปส่งที่ไหนครับ” คุณหมอสุดหล่อยังคงถามประโยคเดิมขึ้นมาอย่างใจเย็น“ไปผับค่ะ หนูไม่อยากสนิทกับพี่หมอแล้ว!”นาเดียสะบัดหน้าใส่พี่หมอแล้วมองออกไปนอกรถด้วยความน้อยใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนภายในรถถูกปกคลุมไปด้วยความเงียบอีกครั้งจนกระทั่งรถยนต์คันหรูมาจอดที่หน้าผับ เจ้าของรถกำลังจะลงจากรถมาเปิดประตูให้หญิงสาวแต่เธอกลับเปิดลงไปเองด้วยท่าทางง้องอน“ไม่สนิทกัน ไม่ต้องเปิดให้หรอก แล้วก็ไม่ต้องเดินไปส่งด้วย ชิ!”นาเดียแกล้งประชดก่อนจะเดินตรงเข้าไปด้านใน ระหว่างทางที่เดินเข้าไปในใจก็คิดว่ายังไงพี่หมอผู้ชายที่แสนดีและเป็นสุภาพบุรุษก็ต้องตามมาส่งเธอถึงโต๊ะแน่ๆ แต่เธอกลับคิดผิดเมื่อผู้ชายที่เดินตามเธอเข้ามาไม่ใช่พี่หมอ“คนสวยมากับใครเหรอครับ”ชายหนุ่มรูปร่างสูงใบหน้าดุเอ่ยถามพร้อมกับเดินเข้าไปใกล้ๆ กลิ่นเหล้ากลิ่นบุหรี่ลอยแตะจมูกจนนาเดียต้องเบือนหน้าหนี และพยายามเดินเลี่ยงไปอีกทาง ตอนนี้เธอไม่มีอา
เช้าของวันต่อมา…บรรยากาศในห้องครัวถูกปกคลุมไปด้วยความเงียบ เมื่อคุณหนูของบ้านมายืนรอแม่ครัวตั้งแต่เช้า ทั้งๆ ที่ปกติจะตื่นเกือบเที่ยง“วันนี้คุณหนูอยากทานอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่าคะ” แม่บ้านหุ่นอวบวัยสี่สิบปีเอ่ยถามคุณหนูของบ้านด้วยความสงสัย“หนูอยากได้อาหารสักสองสามอย่างค่ะ” คุณหนูของบ้านพูดขึ้นพร้อมกับเดินไปเปิดตู้เลือกกล่องใส่ข้าวน่ารักๆ“เป็นเมนูอะไรดีคะ เอาของโปรดคุณหนูมั๊ยคะ”“อืม… อะไรก็ได้ค่ะ ขอเป็นอาหารที่มีประโยชน์”นาเดียคิดไม่ออกว่าจะเลือกเมนูอะไรดี เพราะเธอไม่ได้กินเอง เธอตั้งใจจะเอาไปให้พี่หมอสุดหล่อว่าที่แฟนของเธอ พอนึกถึงพี่หมอหัวใจของคุณนาเดียก็เต้นแรงไม่เป็นจังหวะงื้ออออ… อาการแบบนี้มันต้องใช่ความรักแน่ๆ คนที่พึ่งจะรู้สึกถึงความรักคิดเองเขินเอง จนแม่บ้านที่มองอยู่งงไปตามๆ กันนาเดียหยิบมือถือมาค้นหาข้อมูลอาหารที่ดีต่อสุขภาพแล้วยื่นให้แม่บ้านดู“ได้ค่ะ” แม่บ้านพยักหน้ารัวๆ แล้วรีบทำให้ทันที“ทำเสร็จช่วยใส่ในกล่องนี้ให้หนูด้วยนะคะ”นาเดียบอกพร้อมรอยยิ้มและยื่นกล่องสีชมพูไปให้แม่บ้าน“ได้ค่ะคุณหนู”เมื่อสั่งทุกอย่างเสร็จนาเดียก็เดินกลับเข้าห้องตัวเอง เพื่อที่จะอาบน้ำ แต่
ร่างสวยที่ถูกปกคลุมด้วยชุดสูทตัวใหญ่เดินออกมาจากห้องทำงานของคุณหมอหนุ่มอย่างอารมณ์ดี ไม่สนใจสายตาของพยาบาลสาวและบุคลากรของโรงพยาบาลที่กำลังมองอยู่เลยแม้แต่น้อย เธอรู้ดีว่าคนพวกนั้นกำลังคิดอะไรอยู่อิจฉาหล่ะสิ! นาเดียเดินสวยๆ ผ่านหน้าประชาสัมพันธ์สาวไปราวกับผู้ชนะ ทำเอาสาวๆ ที่แอบรักคุณหมออกแทบแตกรีบหันไปเมาท์กันจนลืมหน้าที่ตัวเองRrrrr~ระหว่างที่นาเดียกำลังจะขับรถรถออกมาจากโรงพยาบาล เพื่อนรักอย่างฮันน่าก็โทรมาหาพอดี“ว่าไงเพื่อนรัก” นาเดียกรอกเสียงหวานผ่านสายทำเอาเพื่อนเอ่ยแซวทันที(นี่กูโทรผิดเหรอ?)“ถูกแล้ว มีอะไรก็พูดมา”(มึงเป็นไรก่อน ทำไมต้องทำเสียงแบบนี้ ฟังแล้วขนลุก)“ฮ่าๆ เลี่ยนเหรอ ตกลงมีไร”(รีบมาที่สนาม ไอ้วินกำลังจะแข่ง)“เคร ไปเดี๋ยวนี้เลย”คนอารมณ์ดีบอกออกไปก่อนที่จะขับรถตรงไปยังสนามแข่งรถของเพื่อน เธอใช้เวลาตลอดทั้งวันในการดูเพื่อนแข่งรถโดยที่ไม่เคยห่างจากมือถือ คอยกดเช็คมือถือตลอดเวลาดูว่าพี่หมอจะโทรมานัดไปทานข้าวตามที่บอกไว้หรือเปล่าหายไปไหน! คิ้วสวยขมวดเข้าหากันเป็นปมเมื่อไร้ข้อความจากหมอ เวลานี้ก็น่าจะกลับจากโรงพยาบาลแล้ว ทำไมไม่โทรหาเธอนะ ความสงสัยทำให้นาเดียไม่ไ
นาเดียทำปากจู๋พร้อมยื่นหน้าเข้าใกล้ใบหน้าหล่อเรื่อยๆ แต่ความสูงของพี่หมอเป็นอุปสรรคทำให้เธอไปไม่ถึงที่หมาย อีกทั้งยังโดนมือหนาจับไหล่ให้ถอยห่างราวกับเธอเป็นตัวน่ารังเกียจ“หนูเป็นผู้หญิงนะครับ อย่าทำแบบนี้เลย ไม่ดูไม่ดี” น้ำเสียงของเขายังนิ่งเรียบไร้ความรู้สึก จนหญิงสาวหงุดหงิดว่าเขาจะเป็นคนดีอะไรขนาดนั้น เธอให้ท่าขนาดนี้แล้ว ยังนิ่งเฉยอยู่ได้“ผู้หญิงแล้วไงคะ ก็แค่จูบเฉยๆ” คนเมาเชิ่ดหน้าเถียงจนอีกฝ่ายถึงกับต้องถอนหายใจ ดึกปานนี้แล้วยังตามมาแกล้งกันอีก สงสัยต้องย้ายคอนโดซะแล้ว เผื่อจะได้ชีวิตที่สงบสุขกลับคืน“แค่จูบก็จบ”“แค่จูบก็ไม่ได้ครับ พี่กับหนูไม่ได้เป็นอะไรกันนะ”“ไม่ต้องหาข้ออ้างหรอกค่ะ รำคาญหนูก็บอกมาเถอะ ถ้ารำคาญมากก็รีบจูบหนูสิคะ หนูจะได้รีบไปให้พ้นๆ”คนเมาหน้างอไม่พอใจ ตอนนี้ความน้อยใจมาเต็มเมื่อเห็นแววตาว่างเปล่าของชายที่รัก เขาใจแข็งกว่าที่เธอคิดไว้มากจริงๆ ไม่มีแววอ่อนไหวหรือคล้อยตามเลยแม้แต่น้อยทั้งสองคนมองหน้ากันอย่างชั่งใจอยู่หลายนาที ราวกับรอให้อีกฝ่ายพูดก่อน“หนูไม่สวยเหรอคะ ทำไมพี่ถึงชอบเมินหนู”สุดท้ายเธอก็ต้องเป็นฝ่ายเอ่ยถามสิ่งที่ค้างคาใจ ที่ผ่านมาไม่มีผู้ชายค
ริมฝีปากบางบดเบียดแนบชิดและพยายามแสดงสกิลการจูบที่ช่ำชองเพื่อมัดใจพี่หมอทั้งๆ ที่ตัวเองไม่เคยจูบแบบลึกซึ้งกับใครมาก่อน อย่างมากก็แค่จุ๊บเบาๆ สัมผัสแค่ริมฝีปากภายนอกเท่านั้น แต่กับพี่หมอคนนี้เธอยอมหมดทุกอย่างตึกตัก! ตึกตัก!จูบที่ไม่ได้ลึกซึ้งกลับทำให้หัวใจของนาเดียเต้นแรงจนแทบจะหลุดออกมานอกอก ร่างกายของเธอร้อนผ่าวตั้งแต่ใบหน้าลงไปถึงปลายเท้า มันวูบวาบซาบซ่าและตื่นเต้นไปหมด ถึงจะมีอาการประหม่าอยู่บ้างแต่แขนเรียวก็ยกขึ้นไปโอบคอแกร่งเริ่มเปลี่ยนมาลูบไล้หน้าอกแกร่ง เธอลูบไล้และยั่วยวนเขาสุดกำลังโดยไม่ได้สังเกตว่าพี่หมอของเธอนิ่งผิดปกติขี้ยั่ว… แต่จูบไม่เป็น! หมอหนุ่มได้แต่คิดในใจและยอมให้เธอทำตามใจให้จบๆ ไป แต่เมื่อเธอไม่ยอมจบแค่จูบ เขาเลยต้องหยุดเธอหมับ!มือหนาจับประคองใบหน้าสวยให้ออกห่าง และพยายามลุกจากท่าทางอันล่อแหลม“พอได้แล้วครับ”พรึบ!หมอหนุ่มไม่ทันได้พูดจบประโยค ร่างสวยก็พลิกตัวขึ้นไปนั่งคร่อมอยู่บนตัวของเขาแทน เธอใช้มือดันหน้าอกของเขาไว้ใต้ร่างของเธอ“หนูชอบพี่จริงๆ นะคะ เปิดใจให้หนูหน่อยได้มั้ย” น้ำเสียงออดอ้อนมาพร้อมสัมผัสชวนสยิว นิ้วเรียวกรีดกรายไปที่หน้าอกแกร่งอย่างยั่วยว
“จะมาหา ทำไมไม่บอกผมก่อนหล่ะครับ”หมอหนุ่มเอ่ยถามผู้เป็นแม่หลังจากแต่งตัวเสร็จ แต่ผู้เป็นแม่กลับไม่ได้สนใจคำถามของเขาเลยแม้แต่น้อย ท่านยกยิ้มออกมาก่อนที่จะเอ่ยถามในสิ่งที่สงสัย“ลูกได้ป้องกันอยู่ใช่ไหม?”คำถามของผู้เป็นแม่ทำเอาหมอหนุ่มถึงกับเลิ่กลั่กไปไม่เป็น ยิ่งเห็นร่องรอยที่ปิดไม่มิดที่เด็กขี้ยั่วทำไว้ยิ่งยากที่จะแก้ตัว“ลูกนอนกับเธอกี่ครั้งแล้ว เธอไว้ใจได้ใช่มั้ย”พรประภาถามลูกชายด้วยความเป็นห่วง กลัวว่าเด็กสาวจะเอาโรคร้ายมาติดลูกชาย เพราะเธอดูสวยเซ็กซี่เกินกว่าที่ชายใดจะอดใจไหว อาจจะขาดความยับยั้งชั่งใจจนลืมเรื่องป้องกันได้“ไปกันใหญ่แล้วครับแม่ ผมกับเธอไม่ได้ทำอะไรอย่างที่แม่คิดหรอกครับ”“ไม่ต้องอายหรอกลูก แม่ถามไปเพราะความเป็นห่วง ไม่ได้จะตำหนิอะไรหรอก”“เธอเป็นรุ่นน้องที่มหาลัยครับ ไม่ได้เป็นอย่างที่แม่เข้าใจ”“แม่เข้าใจ เด็กสมัยนี้หวังสบายทางลัดกันเยอะ”เฮ้อ… เข้าใจผิดกันไปใหญ่แล้ว หมอหนุ่มได้ปวดหัวแต่เช้าเลย ไม่ว่าเขาจะพยายามอธิบายยังไง แม่ของเขาก็ไม่เชื่ออยู่ดีหมอหนุ่มออกมาทำหน้าที่ของตัวเองตามปกติ แต่ที่ไม่ปกติก็คงจะเป็นสายตาของผู้คนรอบข้างที่จ้องมองร่องรอยบนคอของเขาด้วยส
เช้าวันต่อมา“พี่ฝากร้านด้วยนะ”นาเดียหันไปบอกนโมที่ยืนทำงานอยู่หน้าเคาน์เตอร์ ถึงนโมจะยังเด็กแต่เธอก็ขยันและทำงานเก่งมาก“เที่ยวให้สนุกนะคะพี่เดีย เดี๋ยวหนูดูแลร้านให้ไม่ต้องห่วงนะคะ” นโมตอบพร้อมรอยยิ้มและเธอก็มั่นใจว่าเธอสามารถดูแลร้านได้“ขอบใจนะ เดี๋ยวพี่จะซื้อของมาฝาก”“ไปกันครับ”คุณหมอที่เดินลงมาพร้อมกระเป๋าเดินทางสองใบ ก็ชวนนาเดียไปที่รถทันที เธอยิ่งเป็นห่วงร้านถ้าขืนปล่อยให้ยืนนานกว่านี้ อีกหน่อยก็คงเปลี่ยนใจไม่อยากไปกันพอดี“พี่ไปก่อนนะ ถ้ามีเรื่องอะไรโทรหาพี่ได้ตลอดเลยนะ”นาเดียยืนคิดสักพักก่อนจะหันไปบอกนโม ในใจก็เป็นห่วงร้าน แต่ถ้าเธอไม่ไปวันนี้ ก็ไม่รู้ว่าพี่หมอจะมีเวลาว่างพาเธอไปเที่ยวอีกเมื่อไหร่“ค่ะ” นโมมองตามหลังเจ้าของร้านพร้อมรอยยิ้มนาเดียเดินตามคุณหมอไปขึ้นรถที่จอดอยู่หน้าร้าน ถึงจะมีวันหยุดแค่สองวัน แต่เขาก็อยากจะพาเธอไปเที่ยว จะได้พักผ่อนและมีเวลาอยู่ด้วยกัน..ใช้เวลาในการเดินทางเกือบสามชั่วโมงกว่าจะมาถึงและหาที่พักกันได้ เนื่องจากเป็นการมาเที่ยวแบบไม่ได้วางแผนมาก่อน ทำให้คีรินลืมเรื่องที่พักไปอย่างสนิทใจพอมาถึงก็ต้องขับรถหาที่พักกันก่อน และวันนี้ก็เป็นวันหยุ
วันนี้นาเดียปิดร้านเร็วกว่าทุกวันเนื่องจากเป็นคำสั่งของคุณหมอ เพราะว่าเขาจะพาเธอไปทานอาหารข้างนอกและกว่าจะอาบน้ำแต่งตัวก็ต้องใช้เวลาอยู่พอสมควร“วันนี้หนูสวยมากเลยนะ” คีรินเอ่ยชมหลังจากที่นั่งรอนาเดียแต่งตัวอยู่นานเกือบหนึ่งชั่วโมง“แล้วทุกวันหนูไม่สวยเหรอคะ” ใบหน้าสวยขมวดคิ้วถามกลับทันที“สวยทุกวันครับ แต่วันนี้สวยเป็นพิเศษ” คีรินเอ่ยชมพร้อมรอยยิ้ม ยังไงเธอก็สวยที่สุดสำหรับเขาอยู่แล้ว“ขอบคุณค่ะ” คำตอบของคุณหมอเรียกรอยยิ้มจากเธอได้เป็นอย่างดี“ไปกันครับ” มือหนากุมมือเล็กเอาไว้ด้วยความรัก ก่อนจะพาเธอเดินไปขึ้นรถ เพื่อที่จะไปร้านอาหารที่จองเอาไว้..@ร้านอาหารสุดหรู“ทำไมมาร้านแพงจังเลยคะ” นาเดียถามขึ้นมาทันทีเมื่อคุณหมอจอดรถที่หน้าตึกสูง พอได้ทำงานหาเงินเองนาเดียก็ไม่ค่อยชอบทานร้านอาหารหรูๆ สู้เก็บเงินเอาไว้ทำอย่างอื่นดีกว่า“ไม่แพงหรอกครับ” คีรินตอบก่อนจะโอบกอดเอวเล็กเดินเข้าไปด้านใน“เขามีงานอะไรหรือเปล่าคะ ทำไมจัดดอกไม้สวยจังเลย”กุหลาบสีแดงถูกจัดตกแต่งตั้งแต่ทางเดินเข้ามาจนถึงด้านบนสุดของตึกที่เป็นโซนอาหาร ทำเอานาเดียมองดูกุหลาบสีสวยตลอดทาง เพราะเป็นดอกไม้ที่เธอชอบ“พี่ก็ไม่รู้เหม
หนึ่งอาทิตย์ต่อมา“หนูไม่ไปกับพี่จริงๆ เหรอครับ”นานๆ จะเป็นวันหยุดของคุณหมอ แทนที่จะได้ออกไปเที่ยว ไปใช้ชีวิตด้วยกัน แต่นาเดียกลับไม่ยอมและยืนยันที่จะอยู่ร้าน ทั้งๆ ที่พนักงานก็มีตั้งหลายคน แบบนี้จะไม่ให้เขาน้อยใจได้ยังไง“ไปวันหลังไม่ได้เหรอคะ ช่วงนี้ลูกค้ากำลังเยอะเลย” นาเดียกลัวพนักงานที่ร้านจะดูแลลูกค้าไม่ทั่วถึง เพราะช่วงนี้ลูกค้าเยอะมาก เธอจึงต้องมาคอยช่วยดูแลลูกค้า“ถ้าหนูไม่ไป งั้นตอนเย็นเราไปทานข้าวข้างนอกกันนะครับ” ถึงคีรินจะชวนเธอเอาไว้นานแล้ว แต่พอถึงวันเธอกลับไม่ยอมไปด้วย เขาจึงต้องหาข้อแลกเปลี่ยน“ทำไมต้องไปทานข้างนอกด้วยคะ หรือว่าพี่หมอเบื่ออาหารที่หนูทำแล้ว” ใบหน้าสวยจ้องมองคุณหมออย่างเอาเรื่อง เพราะตั้งแต่เธอไปเรียนทำอาหารมาก็แทบจะไม่ได้ออกไปทานข้าวข้างนอกเลย“ไม่ใช่ครับ พี่แค่อยากจะพาหนูออกไปเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง” คีรินรีบอธิบายทันที“ก็ได้ค่ะ” พอได้ยินคำตอบของคุณหมอก็ค่อยสบายใจขึ้นมาบ้าง นาเดียจึงตอบตกลงที่จะไปด้วย“พี่ไปก่อนนะครับ ไม่เปลี่ยนใจแน่นะ” คีรินถามออกมาอีกครั้งเผื่อว่าเธอจะเปลี่ยนใจ“ขับรถดีๆ นะคะ” นาเดียตอบพร้อมรอยยิ้ม ก่อนจะโบกมือลาคุณหมอที่กำลังเดินออกไ
“รีบๆ ด้วยนะ แม่อยากอุ้มหลานแล้ว”ประโยคที่คุณแม่พูดทิ้งท้ายเอาไว้ทำเอานาเดียเขินจนแทบจะทำตัวไม่ถูกแล้ว“มันจะไม่เร็วไปหน่อยเหรอครับ ยังไม่ได้แต่งงานเลย” คีรินรีบหาข้ออ้าง“ท้องก่อนแต่งก็ไม่เห็นเป็นไรหรอก ยังไงปลายทางก็ต้องแต่งก็ต้องท้องอยู่ดี”“คุณแม่ครับ”“ก็แม่อยากได้หนูเดียเป็นลูกสะใภ้หนิ ถ้าขืนลูกชักช้านะ แม่จะไปสู่ขอหนูเดียที่บ้านก่อนเลย”“เดี๋ยวผมจัดการเองครับ”ทุกคนนั่งทานข้าวกันไปคุยกันไปอย่างสนุกสนาน ความสุขเล็กๆ น้อยๆ ที่เกิดจากคนในครอบครัว นั่งพูดคุยกันจนดึกก่อนที่คุณพ่อกับคุณแม่จะกลับ ปล่อยให้ลูกๆ ได้พักผ่อนกัน“แม่กลับก่อนนะ วันไหนว่างๆ ก็พาหนูเดียไปหาแม่ที่บ้านบ้างนะ”“ได้ครับ สวัสดีครับ”“สวัสดีค่ะ”คีรินเดินไปส่งคุณพ่อกับคุณแม่ที่รถก่อนจะเดินกลับเข้ามาหานาเดียอย่างอารมณ์ดี“มาครับเดี๋ยวพี่ช่วยเก็บ”“ไม่เป็นไรค่ะ หนูทำเองดีกว่า”“ช่วยกันทำ… จะได้เสร็จเร็วๆ ครับ” คีรินเว้นวรรคคำพูดและเน้นย้ำทุกคำ จนความหมายแทบจะเปลี่ยนไปในทางสองแง่สองง่าม“จะรีบไปไหนคะ”“ก็คุณแม่อยากอุ้มหลาน พี่ก็ต้องรีบหน่อยสิครับ”“ไม่ต้องเอาเรื่องนี้มาอ้างเลยค่ะ”“พี่ไม่ได้อ้างนะ แต่พี่ทำจริง!!”“พี่
หนึ่งเดือนต่อมาวันนี้เป็นวันหยุดของคีรินซึ่งคืนนี้ครอบครัวของเขาจะมาทานอาหารที่ร้านและมาแสดงความยินดีกับนาเดียที่เปิดร้านใหม่ถึงแม้จะเปิดร้านมานานแล้ว แต่ทางครอบครัวของคุณหมอพึ่งจะกลับจากดูงานที่ต่างประเทศ พอมาถึงก็รีบโทรหาลูกชายทันทีพอนาเดียรู้เรื่องก็ถามข้อมูลกับคุณหมอทั้งคืน คุณพ่อชอบทานอะไร คุณแม่ชอบทานอะไร เรียกได้ว่าตื่นเต้นและนั่งคิดเมนูทั้งคืน“พี่หมอเสร็จหรือยังคะ”นาเดียขึ้นมาตามคุณหมอที่บอกจะลงไปข้างล่างตั้งนานแล้ว แต่ก็ยังไม่เห็นลงไปสักที“ใกล้เสร็จแล้วครับ” คีรินที่กำลังอาบน้ำอยู่ก็ตอบเสียงดัง เพราะกลัวว่าเธอจะไม่ได้ยิน“งั้นหนูลงไปรอข้างล่างนะคะ”“ได้ครับ”ร่างเล็กเดินลงไปด้านล่างเพื่อดูความเรียบร้อยของร้านต่อในระหว่างที่รอคุณหมออาบน้ำแต่งตัวให้เสร็จ“เสร็จแล้วครับ”ใช้เวลาไม่นานคุณหมอก็เดินลงมาด้วยความพร้อมที่จะออกไปข้างนอกแล้ว ความจริงอยากได้อะไรให้พนักงานออกไปซื้อให้ก็ได้ แต่นาเดียดื้ออยากจะออกไปเลือกของเอง สุดท้ายเขาก็ต้องใจอ่อนยอมไปกับเธอ“พี่ฝากร้านด้วยนะ” นาเดียหันไปบอกพนักงานรุ่นน้องที่ยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์“ค่ะ” นโมรับคำอย่างว่าง่าย ถึงแม้เจ้านายจะไม่บอก เรื่
เช้าวันต่อมา@MYDEARคาเฟ่เจ้าของร้านคาเฟ่คนสวยมายืนรอต้อนรับลูกค้าที่โทรมาบอกว่าใกล้จะถึงร้านแล้ว“ร้านสวยดีนะ” ออสตินทักขึ้นก่อนใครเมื่อมองดูบรรยากาศภายในร้าน“รินยินดีด้วยนะ” ไอรินร่วมแสดงความยินดีเมื่อได้เห็นความสำเร็จของเพื่อนรักอย่างนาเดีย“ร้านน่ารักมาก ชื่อร้านก็ด้วย”คริสตัลเอ่ยชมขึ้นมาอีกคน ไม่คิดเลยว่าผู้หญิงแรงๆ อย่างนาเดียจะจัดร้านได้น่ารักขนาดนี้“ขอบใจนะ แล้วนี่ฮันน่าไม่มาเหรอ” นาเดียขอบคุณคำชมจากเพื่อนๆ ก่อนจะถามหาเพื่อนรักอีกคนที่ยังไม่เห็นมา“ไม่รู้สิ ยังไม่เห็นเลย” คริสตัลตอบขึ้นเมื่อทุกคนเอาแต่ยืนเงียบ“เดี๋ยวมันคงตามมาแหละ”เมื่อเห็นเจ้าของร้านเงียบไปกวินจึงพูดขึ้นมาเพื่อทำลายความเงียบ“ไปนั่งตรงนู้นกันก่อนดีกว่า” นาเดียชี้ไปยังโต๊ะที่อยู่ด้านในสุด จะได้นั่งคุยกันสะดวก“เปิดร้านวันแรกลูกค้าก็เยอะเลยนะ” ไอรินนั่งลงก่อนจะทักขึ้น เปิดร้านวันแรกก็มีลูกค้ามานั่งเยอะขนาดนี้ ผิดกับตอนเปิดร้านอาหารของเธอมาก“สาธุขอให้เป็นแบบนี้ไปตลอดนะ อยากดื่มอะไรสั่งได้เลยนะ” นาเดียไม่พูดเปล่ารีบยกมือขึ้นมาประกบกันราวกับไหว้พระ ก่อนจะยื่นเมนูของร้านให้เพื่อนๆ“มีเหล้ามั้ย” กวินถามขึ้นมา
สามเดือนต่อมา“หนูอยากจะแก้ตรงไหนอีกมั้ยครับ” คีรินถามขึ้นในระหว่างที่เดินตรวจงานรอบๆ ก่อนจะเปิดร้านอย่างเป็นทางการในวันพรุ่งนี้“ไม่ค่ะ” ใบหน้าสวยส่ายหน้า แต่สายตายังคงมองสำรวจความสวยงามของร้านอยู่ตลอดเวลา“ชอบมั้ยครับ” คีรินตั้งใจทำทุกอย่างให้ออกมาดีที่สุด เพื่อความสุขของผู้หญิงที่เขารัก ไม่ว่าจะใช้เงินเยอะแค่ไหน เขาก็พร้อมที่จะทำให้เธอมีความสุข“ชอบมากเลยค่ะ หนูไม่คิดเลยว่าทำเสร็จแล้วจะสวยขนาดนี้” สายตาเปร่งประกายเต็มไปด้วยความสุข ในที่สุดเธอก็จะมีร้านเป็นของตัวเอง“ตื่นเต้นมั้ยครับ พรุ่งนี้เปิดร้านวันแรกแล้วนะ” คีรินเอ่ยถามด้วยความใส่ใจ“ตื่นเต้นค่ะ แต่หนูกลัวจะไม่มีลูกค้ามากกว่า” นาเดียรู้สึกใจเต้นแรงทุกครั้งเมื่อนึกถึงตอนเปิดร้าน“มีสิครับ ยังไงก็ต้องมี” คีรินตอบด้วยความมั่นใจ“พี่หมอรู้ได้ยังไงคะ” ร่างเล็กถามกลับด้วยความสงสัย“ก็พี่ไปประกาศทั่วโรงพยาบาลเลยว่าแฟนพี่จะเปิดร้านพรุ่งนี้ ยังไงก็ต้องมีลูกค้าแน่นอนครับ”“ขอบคุณนะคะ เดี๋ยวหนูจะทำเพจร้านเอาไว้โพสต์รับออเดอร์ออนไลน์ส่งในบริเวณใกล้เคียงด้วยค่ะ”“แฟนใครทำไมเก่งจังเลยเนี่ย”“แฟนพี่หมอไงคะ”“ว่าแต่… พี่ทำให้ขนาดนี้แล้วจะได้อ
หนึ่งปีต่อมาวันเวลาผ่านไปเร็วมากแต่ทุกอย่างก็ยังไม่ลงตัว ถึงแม้นาเดียจะเรียนจบมาหลายเดือนแล้วก็ตาม แต่ร้านคาเฟ่ที่เธอตั้งใจจะทำก็ยังไม่ได้รับการอนุมัติจากคุณหมอแต่ก็ยังพอมีเรื่องโชคดีอยู่บ้าง ถึงคีรินจะยังไม่ได้เอ่ยปากอนุญาตเรื่องเปิดร้าน แต่เขากลับให้เธอไปเรียนทำเบเกอรี่ โดยที่เขาเป็นคนเลือกสถานที่เรียนและเลือกคนสอนให้นาเดียเองทุกอย่างและทุกอย่างทุกขั้นตอนต้องอยู่ในความดูแลของคุณหมอ เพราะเขาต้องรับรู้ทุกอย่างที่เกี่ยวกับเธอ“ทำไมวันนี้ถึงไม่ให้หนูไปเรียนล่ะคะ” นาเดียถามขึ้นด้วยความสงสัยในระหว่างที่นั่งรถออกมากับคุณหมอ เพราะปกติวันนี้เธอต้องไปเรียนทำเบเกอรี่“พี่อยากจะพาหนูไปดูอะไรบางอย่าง” สายตาคมมองถนนด้วยความตั้งใจ“อะไรเหรอคะ?” ใบหน้าสวยขมวดคิ้วถามด้วยความอยากรู้“ถ้าบอกก่อนหนูก็รู้สิครับ”“แต่นี่มันทางไปโรงพยาบาลไม่ใช่เหรอคะ” นาเดียไม่รู้เลยว่าคุณหมอจะพาไปไหน แต่ทางที่เขาพามากลับเป็นทางเดียวกับทางที่ไปโรงพยาบาลคีรินถึงกับนิ่งไปเมื่อเขาตั้งใจจะเซอร์ไพรส์บางอย่าง ก่อนที่มือหนาจะยื่นผ้าปิดตาสีชมพูให้นาเดีย ทำเอาเธอมองด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย ก่อนจะเอ่ยถามออกมา“อะไรคะ”“ท
@คอนโด“วันนี้เป็นวันพิเศษอะไรหรือเปล่าครับ” คีรินถามขึ้นในระหว่างที่เดินเข้ามาในห้อง พร้อมกับถุงวัตถุดิบอุปกรณ์การทำอาหารที่นาเดียซื้อมา“เปล่าค่ะ” นาเดียปฏิเสธก่อนจะเดินตรงเข้าไปยังห้องครัว“แล้วทำไมหนูซื้อของมาเยอะจังเลยล่ะ” คุณหมอยังคงถามต่อด้วยความสงสัย“ก็หนูอยากทำอาหารให้พี่หมอทานบ้างหนิคะ”“อะไรนะครับ พี่ฟังผิดไปหรือเปล่า” คิ้วหนาขมวดเข้าหากันเป็นปมแล้วรอฟังคำตอบชัดๆ อีกครั้ง“ฟังไม่ผิดหรอกค่ะ” นาเดียยังคงยืนยันคำเดิม“แล้วหนูทำอาหารเป็นเหรอครับ”แม้แต่ทำไข่เจียวตอนไปค่ายด้วยกันเธอยังทำไปกรี๊ดไปอยู่เลย แต่วันนี้กลับมาบอกว่าจะทำอาหารให้เขาทาน“ทำไมจะทำไม่เป็นคะก็หนูไปเรียนมาแล้ว” นาเดียยักคิ้วด้วยความมั่นใจ สามเดือนที่เรียนมาจะไม่เสียเปล่า“อย่าบอกนะว่าที่หนูออกไปข้างนอกบ่อยๆ เพราะไปเรียนทำอาหาร”คีรินพยายามคิดตามที่เธอบอก ก่อนจะตัดสินใจถามเธอออกมาตรงๆ“ค่ะ” ใบหน้าสวยพยักหน้าเพื่อยืนยันคำตอบ“แล้วทำไมไม่บอกพี่ล่ะครับ ปล่อยให้พี่เข้าใจผิดคิดว่าหนูไม่สนใจทำไม” คีรินบอกเสียงเบาด้วยความรู้สึกผิด“ถ้าบอกก่อนก็ไม่เซอร์ไพรส์สิคะ”“แฟนใครทำไมน่ารักขนาดนี้เนี่ย”จมูกโด่งกดลงที่ศีรษะของค