“ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องสนิทกัน ชิ!”
นาเดียจีบปากจีบคอพูดออกมาด้วยท่าทางไม่พอใจ เธอทำทุกอย่างเพื่อที่อยากจะได้สนิทกับเขา แต่เขากลับไม่อยากสนิทกับเธอ มันน่าน้อยใจจริงๆ หล่อซะเปล่า ใจดำชะมัด!
“ตกลงจะให้พี่ไปส่งที่ไหนครับ” คุณหมอสุดหล่อยังคงถามประโยคเดิมขึ้นมาอย่างใจเย็น
“ไปผับค่ะ หนูไม่อยากสนิทกับพี่หมอแล้ว!”
นาเดียสะบัดหน้าใส่พี่หมอแล้วมองออกไปนอกรถด้วยความน้อยใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ภายในรถถูกปกคลุมไปด้วยความเงียบอีกครั้งจนกระทั่งรถยนต์คันหรูมาจอดที่หน้าผับ เจ้าของรถกำลังจะลงจากรถมาเปิดประตูให้หญิงสาวแต่เธอกลับเปิดลงไปเองด้วยท่าทางง้องอน
“ไม่สนิทกัน ไม่ต้องเปิดให้หรอก แล้วก็ไม่ต้องเดินไปส่งด้วย ชิ!”
นาเดียแกล้งประชดก่อนจะเดินตรงเข้าไปด้านใน ระหว่างทางที่เดินเข้าไปในใจก็คิดว่ายังไงพี่หมอผู้ชายที่แสนดีและเป็นสุภาพบุรุษก็ต้องตามมาส่งเธอถึงโต๊ะแน่ๆ แต่เธอกลับคิดผิดเมื่อผู้ชายที่เดินตามเธอเข้ามาไม่ใช่พี่หมอ
“คนสวยมากับใครเหรอครับ”
ชายหนุ่มรูปร่างสูงใบหน้าดุเอ่ยถามพร้อมกับเดินเข้าไปใกล้ๆ กลิ่นเหล้ากลิ่นบุหรี่ลอยแตะจมูกจนนาเดียต้องเบือนหน้าหนี และพยายามเดินเลี่ยงไปอีกทาง ตอนนี้เธอไม่มีอารมณ์จะมาต่อล้อต่อเถียงกับใครหรอกนะ
หมับ!
ไม่ทันก้าวพ้นมือหนาก็รั้งแขนของเธอไว้แล้วยังพยายามฉุดกระชากให้เดินตาม
“จะรีบไปไหนล่ะครับ ยังไม่ได้ตอบผมเลย”
“ปล่อยค่ะ” นาเดียบอกเสียงเแข็งและพยายามมองหาการ์ด ความกลัวเริ่มครอบงำเมื่อตรงทางเดินไม่มีใครเลย ตอนนี้ทุกคนน่าจะสนุกกันอยู่ด้านใน
“สนใจไปต่อด้วยกันมั้ย”
คนเมาบอกด้วยน้ำเสียงชวนขนลุกและพยายามลวนลามเธออย่างหน้าไม่อาย
“ไม่ไป! ปล่อยฉันนะ!!”
นาเดียปฏิเสธเสียงแข็งพร้อมกับพยายามแกะมือหนาออกจากตัว แต่คนตัวเล็กอย่างเธอจะสู้แรงผู้ชายคนนี้ได้ยังไง ยิ่งเธอพยายามแกะออก ชายหนุ่มก็ยิ่งกระชับกอดให้แน่นขึ้นและออกแรงฉุดกระชากเธอไปยังมุมมืด
“คุยกันแป๊บเดียวนะคนสวย ไม่นานหรอก” น้ำเสียงร้ายกาจบวกกับท่าทางคุกคามทำให้นาเดียกลัวเป็นอย่างมาก
“ปล่อยนะ! ช่วยด้วย!”
นาเดียที่เห็นว่าตัวเองเริ่มจะไม่ปลอดภัยจึงดิ้นอย่างสุดแรงพร้อมกับตะโกนขอความช่วยเหลืออย่างสุดเสียง เผื่อจะมีใครอยู่ใกล้ๆ และเข้ามาช่วยเธอได้ทัน
“ปล่อยเธอ”
เหมือนเสียงสวรรค์ที่ทำให้หัวใจดวงน้อยพองโต ความกลัวหายไปทันทีที่เห็นว่าคนที่มาช่วยคือพี่หมอ เขาก้าวเข้ามาเอาตัวเธอออกห่างจากชายหื่นกาม นาเดียที่ยังกลัวอยู่ก็สวมกอดเอวหนาทันที ไออุ่นจากอ้อมแขนแกร่งและกลิ่นหอมที่คุ้นเคยทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นหัวใจอย่างบอกไม่ถูก
นาเดียเงยหน้ามองใบหน้าหล่อของพี่หมอด้วยความรู้สึกที่ไม่เคยรู้สึกกับใครมาก่อน พี่หมอในโหมดโหดดูเท่ห์จนหัวใจของเธอเต้นแรงไม่หยุด
“มายุ่งอะไรด้วยวะ!” คนเมาถามขึ้นถามขึ้นมาอย่างหาเรื่อง ใบหน้าบ่งบอกว่าไม่พอใจที่มีคนเข้ามายุ่ง
“ไม่ยุ่งไม่ได้หรอกครับ เพราะผู้หญิงคนนี้เธอมากับผม” คุณหมอตอบด้วยน้ำเสียงดุดันกว่าทุกครั้ง แล้วกอดกระชับร่างเล็กให้เดินออกไปจากตรงนี้ เพื่อเลี่ยงการปะทะกับชายอีกคน ด้วยหน้าที่การงานหากไม่จำเป็นเขาจะไม่มีเรื่องกับใครเด็ดขาด
“ไม่เป็นไรแล้วครับ” หมอหนุ่มยกมือขึ้นลูบแผ่นหลังคนในอ้อมแขนเบาๆ เพื่อปลอบใจ และบอกเธอเป็นในๆ ให้เลิกกอดเขาได้แล้ว
“ขอบคุณนะคะ” นาเดียยังคงซุกใบหน้ากับหน้าอกแกร่งของพี่หมอจนเขาต้องดันไหล่เธอออก
“ไม่เป็นไรครับ แล้วเพื่อนหนูอยู่ไหน เดี๋ยวพี่ไปส่งหาเพื่อน”
“ตรงนั้นค่ะ”
นาเดียชี้ไปยังโต๊ะของเพื่อนแล้วเดินตามพี่หมอไปอย่างว่าง่าย ลืมเรื่องราวก่อนหน้าที่งอนพี่หมอไปเสียสนิท เธอรู้สึกประทับใจมากที่พี่หมอมาช่วยเธอ มันเหมือนกับเรื่องราวในละครหลังข่าวที่นางเอกถูกผู้ชายลวนลามแล้วพระเอกก็มาช่วยไว้ทัน
พอมาถึงโต๊ะของเพื่อน พี่หมอก็ขอตัวกลับไปทันที ไม่ว่าใครจะชวนให้อยู่ก็ไม่ยอมอยู่ ทุกคนเห็นว่าหมอเป็นคนดีเกินไปที่จะมาอยู่ในสถานที่แบบนี้จึงยอมให้กลับ
“เป็นอะไรอีก แล้วนี่หายไปไหนมาตั้งนาน”
ฮันน่าถามขึ้นด้วยความสงสัยเมื่อเห็นเพื่อนรักมากับพี่หมอแถมยังมายืนใจลอยไม่เป็นตัวของตัวเอง
“นี่! โดนหมอจับฉีดยามาหรือไง” ฮันน่าเขย่าแขนเพื่อนเรียกสติ แต่เพื่อนรักกลับยิ้มออกมาราวกับคนละเมอ
“มึง… กูว่ากูชอบพี่หมอว่ะ” นาเดียตอบด้วยแววตาเป็นประกาย
“เหรอ?” ฮันน่าไม่ได้ตกใจกับสิ่งที่เพื่อนพูดออกมาเลยสักนิด เพราะรู้นิสัยเพื่อนดี ชอบที่แปลว่าอยากได้ ไม่ได้หมายถึงรัก
“อย่าทำเสียงแบบนั้นนะ กูพูดจริงๆ กูชอบพี่หมอ”นาเดียพยายามอธิบายความรู้สึกของตัวเองให้เพื่อนเข้าใจ ถึงมันจะดูเหลือเชื่อ แต่เธอรู้สึกแบบนั้นกับพี่หมอจริงๆ เป็นความรู้สึกที่ไม่เคยรู้สึกกับใครมาก่อนเลย
“มันต้องใช่ความรักแน่ๆ เลยมึง กูว่ากูรัก…” คนที่พึ่งสัมผัสถึงความรักพยายามอธิบายความรู้สึกตัวเอง แต่ยังไม่ทันได้พูดจบ เพื่อนก็ยกมือห้าม
“พอเลย! ถ้าเมาก็ไปนอน”
“กูพูดจริง! สาบาน…”
“พอ! สาบานไปก็ตายเปล่า ปล่อยพี่หมอไปมีอนาคตเถอะ มึงอย่าไปดึงพี่หมอมาลงนรกอเวจีปรอยเปรตกับเราเลย เอาไปดื่ม!”
ฮันน่าบอกด้วยความหวังดีพร้อมกับยื่นแก้วให้เพื่อน ให้รีบดื่ม รีบเมา จะได้เลิกเพ้อเจ้อสักที
…
ตอนหน้านุงเดียจะรุกหนักแล้วนะ
คอมเมนท์เป็นกำลังใจให้หน่อย
เช้าของวันต่อมา…บรรยากาศในห้องครัวถูกปกคลุมไปด้วยความเงียบ เมื่อคุณหนูของบ้านมายืนรอแม่ครัวตั้งแต่เช้า ทั้งๆ ที่ปกติจะตื่นเกือบเที่ยง“วันนี้คุณหนูอยากทานอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่าคะ” แม่บ้านหุ่นอวบวัยสี่สิบปีเอ่ยถามคุณหนูของบ้านด้วยความสงสัย“หนูอยากได้อาหารสักสองสามอย่างค่ะ” คุณหนูของบ้านพูดขึ้นพร้อมกับเดินไปเปิดตู้เลือกกล่องใส่ข้าวน่ารักๆ“เป็นเมนูอะไรดีคะ เอาของโปรดคุณหนูมั๊ยคะ”“อืม… อะไรก็ได้ค่ะ ขอเป็นอาหารที่มีประโยชน์”นาเดียคิดไม่ออกว่าจะเลือกเมนูอะไรดี เพราะเธอไม่ได้กินเอง เธอตั้งใจจะเอาไปให้พี่หมอสุดหล่อว่าที่แฟนของเธอ พอนึกถึงพี่หมอหัวใจของคุณนาเดียก็เต้นแรงไม่เป็นจังหวะงื้ออออ… อาการแบบนี้มันต้องใช่ความรักแน่ๆ คนที่พึ่งจะรู้สึกถึงความรักคิดเองเขินเอง จนแม่บ้านที่มองอยู่งงไปตามๆ กันนาเดียหยิบมือถือมาค้นหาข้อมูลอาหารที่ดีต่อสุขภาพแล้วยื่นให้แม่บ้านดู“ได้ค่ะ” แม่บ้านพยักหน้ารัวๆ แล้วรีบทำให้ทันที“ทำเสร็จช่วยใส่ในกล่องนี้ให้หนูด้วยนะคะ”นาเดียบอกพร้อมรอยยิ้มและยื่นกล่องสีชมพูไปให้แม่บ้าน“ได้ค่ะคุณหนู”เมื่อสั่งทุกอย่างเสร็จนาเดียก็เดินกลับเข้าห้องตัวเอง เพื่อที่จะอาบน้ำ แต่
ร่างสวยที่ถูกปกคลุมด้วยชุดสูทตัวใหญ่เดินออกมาจากห้องทำงานของคุณหมอหนุ่มอย่างอารมณ์ดี ไม่สนใจสายตาของพยาบาลสาวและบุคลากรของโรงพยาบาลที่กำลังมองอยู่เลยแม้แต่น้อย เธอรู้ดีว่าคนพวกนั้นกำลังคิดอะไรอยู่อิจฉาหล่ะสิ! นาเดียเดินสวยๆ ผ่านหน้าประชาสัมพันธ์สาวไปราวกับผู้ชนะ ทำเอาสาวๆ ที่แอบรักคุณหมออกแทบแตกรีบหันไปเมาท์กันจนลืมหน้าที่ตัวเองRrrrr~ระหว่างที่นาเดียกำลังจะขับรถรถออกมาจากโรงพยาบาล เพื่อนรักอย่างฮันน่าก็โทรมาหาพอดี“ว่าไงเพื่อนรัก” นาเดียกรอกเสียงหวานผ่านสายทำเอาเพื่อนเอ่ยแซวทันที(นี่กูโทรผิดเหรอ?)“ถูกแล้ว มีอะไรก็พูดมา”(มึงเป็นไรก่อน ทำไมต้องทำเสียงแบบนี้ ฟังแล้วขนลุก)“ฮ่าๆ เลี่ยนเหรอ ตกลงมีไร”(รีบมาที่สนาม ไอ้วินกำลังจะแข่ง)“เคร ไปเดี๋ยวนี้เลย”คนอารมณ์ดีบอกออกไปก่อนที่จะขับรถตรงไปยังสนามแข่งรถของเพื่อน เธอใช้เวลาตลอดทั้งวันในการดูเพื่อนแข่งรถโดยที่ไม่เคยห่างจากมือถือ คอยกดเช็คมือถือตลอดเวลาดูว่าพี่หมอจะโทรมานัดไปทานข้าวตามที่บอกไว้หรือเปล่าหายไปไหน! คิ้วสวยขมวดเข้าหากันเป็นปมเมื่อไร้ข้อความจากหมอ เวลานี้ก็น่าจะกลับจากโรงพยาบาลแล้ว ทำไมไม่โทรหาเธอนะ ความสงสัยทำให้นาเดียไม่ไ
นาเดียทำปากจู๋พร้อมยื่นหน้าเข้าใกล้ใบหน้าหล่อเรื่อยๆ แต่ความสูงของพี่หมอเป็นอุปสรรคทำให้เธอไปไม่ถึงที่หมาย อีกทั้งยังโดนมือหนาจับไหล่ให้ถอยห่างราวกับเธอเป็นตัวน่ารังเกียจ“หนูเป็นผู้หญิงนะครับ อย่าทำแบบนี้เลย ไม่ดูไม่ดี” น้ำเสียงของเขายังนิ่งเรียบไร้ความรู้สึก จนหญิงสาวหงุดหงิดว่าเขาจะเป็นคนดีอะไรขนาดนั้น เธอให้ท่าขนาดนี้แล้ว ยังนิ่งเฉยอยู่ได้“ผู้หญิงแล้วไงคะ ก็แค่จูบเฉยๆ” คนเมาเชิ่ดหน้าเถียงจนอีกฝ่ายถึงกับต้องถอนหายใจ ดึกปานนี้แล้วยังตามมาแกล้งกันอีก สงสัยต้องย้ายคอนโดซะแล้ว เผื่อจะได้ชีวิตที่สงบสุขกลับคืน“แค่จูบก็จบ”“แค่จูบก็ไม่ได้ครับ พี่กับหนูไม่ได้เป็นอะไรกันนะ”“ไม่ต้องหาข้ออ้างหรอกค่ะ รำคาญหนูก็บอกมาเถอะ ถ้ารำคาญมากก็รีบจูบหนูสิคะ หนูจะได้รีบไปให้พ้นๆ”คนเมาหน้างอไม่พอใจ ตอนนี้ความน้อยใจมาเต็มเมื่อเห็นแววตาว่างเปล่าของชายที่รัก เขาใจแข็งกว่าที่เธอคิดไว้มากจริงๆ ไม่มีแววอ่อนไหวหรือคล้อยตามเลยแม้แต่น้อยทั้งสองคนมองหน้ากันอย่างชั่งใจอยู่หลายนาที ราวกับรอให้อีกฝ่ายพูดก่อน“หนูไม่สวยเหรอคะ ทำไมพี่ถึงชอบเมินหนู”สุดท้ายเธอก็ต้องเป็นฝ่ายเอ่ยถามสิ่งที่ค้างคาใจ ที่ผ่านมาไม่มีผู้ชายค
ริมฝีปากบางบดเบียดแนบชิดและพยายามแสดงสกิลการจูบที่ช่ำชองเพื่อมัดใจพี่หมอทั้งๆ ที่ตัวเองไม่เคยจูบแบบลึกซึ้งกับใครมาก่อน อย่างมากก็แค่จุ๊บเบาๆ สัมผัสแค่ริมฝีปากภายนอกเท่านั้น แต่กับพี่หมอคนนี้เธอยอมหมดทุกอย่างตึกตัก! ตึกตัก!จูบที่ไม่ได้ลึกซึ้งกลับทำให้หัวใจของนาเดียเต้นแรงจนแทบจะหลุดออกมานอกอก ร่างกายของเธอร้อนผ่าวตั้งแต่ใบหน้าลงไปถึงปลายเท้า มันวูบวาบซาบซ่าและตื่นเต้นไปหมด ถึงจะมีอาการประหม่าอยู่บ้างแต่แขนเรียวก็ยกขึ้นไปโอบคอแกร่งเริ่มเปลี่ยนมาลูบไล้หน้าอกแกร่ง เธอลูบไล้และยั่วยวนเขาสุดกำลังโดยไม่ได้สังเกตว่าพี่หมอของเธอนิ่งผิดปกติขี้ยั่ว… แต่จูบไม่เป็น! หมอหนุ่มได้แต่คิดในใจและยอมให้เธอทำตามใจให้จบๆ ไป แต่เมื่อเธอไม่ยอมจบแค่จูบ เขาเลยต้องหยุดเธอหมับ!มือหนาจับประคองใบหน้าสวยให้ออกห่าง และพยายามลุกจากท่าทางอันล่อแหลม“พอได้แล้วครับ”พรึบ!หมอหนุ่มไม่ทันได้พูดจบประโยค ร่างสวยก็พลิกตัวขึ้นไปนั่งคร่อมอยู่บนตัวของเขาแทน เธอใช้มือดันหน้าอกของเขาไว้ใต้ร่างของเธอ“หนูชอบพี่จริงๆ นะคะ เปิดใจให้หนูหน่อยได้มั้ย” น้ำเสียงออดอ้อนมาพร้อมสัมผัสชวนสยิว นิ้วเรียวกรีดกรายไปที่หน้าอกแกร่งอย่างยั่วยว
“จะมาหา ทำไมไม่บอกผมก่อนหล่ะครับ”หมอหนุ่มเอ่ยถามผู้เป็นแม่หลังจากแต่งตัวเสร็จ แต่ผู้เป็นแม่กลับไม่ได้สนใจคำถามของเขาเลยแม้แต่น้อย ท่านยกยิ้มออกมาก่อนที่จะเอ่ยถามในสิ่งที่สงสัย“ลูกได้ป้องกันอยู่ใช่ไหม?”คำถามของผู้เป็นแม่ทำเอาหมอหนุ่มถึงกับเลิ่กลั่กไปไม่เป็น ยิ่งเห็นร่องรอยที่ปิดไม่มิดที่เด็กขี้ยั่วทำไว้ยิ่งยากที่จะแก้ตัว“ลูกนอนกับเธอกี่ครั้งแล้ว เธอไว้ใจได้ใช่มั้ย”พรประภาถามลูกชายด้วยความเป็นห่วง กลัวว่าเด็กสาวจะเอาโรคร้ายมาติดลูกชาย เพราะเธอดูสวยเซ็กซี่เกินกว่าที่ชายใดจะอดใจไหว อาจจะขาดความยับยั้งชั่งใจจนลืมเรื่องป้องกันได้“ไปกันใหญ่แล้วครับแม่ ผมกับเธอไม่ได้ทำอะไรอย่างที่แม่คิดหรอกครับ”“ไม่ต้องอายหรอกลูก แม่ถามไปเพราะความเป็นห่วง ไม่ได้จะตำหนิอะไรหรอก”“เธอเป็นรุ่นน้องที่มหาลัยครับ ไม่ได้เป็นอย่างที่แม่เข้าใจ”“แม่เข้าใจ เด็กสมัยนี้หวังสบายทางลัดกันเยอะ”เฮ้อ… เข้าใจผิดกันไปใหญ่แล้ว หมอหนุ่มได้ปวดหัวแต่เช้าเลย ไม่ว่าเขาจะพยายามอธิบายยังไง แม่ของเขาก็ไม่เชื่ออยู่ดีหมอหนุ่มออกมาทำหน้าที่ของตัวเองตามปกติ แต่ที่ไม่ปกติก็คงจะเป็นสายตาของผู้คนรอบข้างที่จ้องมองร่องรอยบนคอของเขาด้วยส
“เดี๋ยวนะ! ที่รีบลากกูออกมานี่ รู้แล้วเหรอว่าพี่หมออยู่ร้านไหน?”ฮันน่าละสายตาจากถนนแล้วหันไปมองเพื่อนรักด้วยความสงสัย“แฮร่ๆ ไม่รู้”นาเดียฉีกยิ้มแห้งก่อนที่จะส่องไอจีเพลงขวัญเพื่อหาพิกัดร้านที่ลงในไอจีก่อนหน้านี้ แต่ดูเหมือนว่าเพลงขวัญจะฉลาดพอตัวถึงไม่ได้บอกพิกัดร้านไว้ในโพสต์“แล้วไงต่อ?” คนขับรถจำเป็นเริ่มหงุดหงิดให้กับความหัวร้อนของเพื่อน ควรจะหาพิกัดก่อนไหมล่ะ ถึงลากเพื่อนออกมา“ไม่รู้ ช่วยคิดหน่อยดิ”“เฮ้อ… งั้นก็ไปรอที่โรงพยาบาล”ฮันน่าสรุปให้เพื่อนอย่างรู้ใจ คิดว่าเป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้ว เพราะถ้าคุณหนูนาเดียได้คลั่งอะไรแล้วไม่มีทางถอดใจยอมกลับไปง่ายๆ แน่…@ โรงพยาบาล“โอ๊ย!!”เสียงโอดครวญดังไปทั่วห้องฉุกเฉินที่ค่อนข้างจะวุ่นวายเป็นทุนเดิม แล้วยิ่งมีสองสาวสวยเข้ามาเพิ่มยิ่งเพิ่มความวุ่นวายขึ้นไปหลายเท่า“คนไข้เป็นอะไรมาคะ?”“ปวดท้องค่ะ รีบตามคุณหมอมาดูอาการให้ด่วนเลยค่ะ” ฮันน่าทำตามบทบาทสมมุติอย่างแนบเนียน ส่วนคนไข้ที่อยู่บนเตียงก็ตีบทแตกไม่ต่างกัน“โอ๊ย! ปวดมากๆ ปวดจะตายแล้ว!”“รีบๆ ตามหมอมาสิคะ จะให้เพื่อนฉันตายก่อนหรือไง”นาเดียแอบขยิบตาให้เพื่อนรักอย่างพอใจที่เห็นพยาบาล
“คนใจร้าย! ชิ!”ใบหน้าสวยสะบัดไปทางอื่นตามสไตล์คนน้อยใจ แต่ก็แอบชำเลืองมองอีกฝ่ายบ้างเพื่อดูว่าเขาจะง้อเธอหรือเปล่าทว่าหมอหนุ่มยังคงเงียบ เขาเข้าใจในการกระทำของเธอทุกอย่าง และขอบคุณที่เธอหวังดีอยากจะช่วย แต่การได้เจอเธอ การมีเธออยู่ข้างๆ มันทำให้เขาคิดถึงผู้หญิงอีกคน คนที่เขาตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็น เขาชอบที่คริสตัลเป็นคนตรงไปตรงมา เข้าใจอะไรง่าย ไม่งอแง นิสัยแมนๆ ลุยๆ รักเดียวใจเดียว ไม่หว่านเสน่ห์ให้ผู้ชายไปทั่วเหมือนหญิงสาวตรงหน้า พูดให้เข้าใจง่ายคือ… เธอไม่ใช่สเปคของเขา ทั้งสองคนนั่งทานข้าวด้วยกันท่ามกลางความเงียบ นาเดียก็เล่นใหญ่งอนไม่หาย ส่วนพี่หมอก็นั่งเงียบไม่พูดไม่จา ไม่ถามหญิงสาวเลยสักคำ ช่างเป็นการทานอาหารที่น่าอึดอัดใจจริงๆ“จะไปที่ไหนต่ออีกมั้ยครับ?”หลังจากที่ปล่อยบรรยากาศเงียบมานาน คุณหมอหนุ่มก็ตัดสินใจเป็นฝ่ายถามขึ้นมาก่อนตามหน้าที่ของสุภาพบุรุษ“ทำไมคะ ทานข้าวกับหนูมันน่าเบื่อขนาดนั้นเลยเหรอ”คุณหนูนาเดียยังคงเล่นใหญ่ไม่หายงอนสักที ทั้งๆ ที่พี่หมอก็ถามดีๆ ถามไปตามมารยาท แต่นาเดียก็ยังคงพูดประชดพี่หมออีก“เปล่าครับ คือพี่ต้องกลับไปเคลียร์งานต่อ จะได้รู้ว่าต้องไปส่งหนู
ครืด~ในขณะที่คีรินกำลังจะเปิดประตูรถ อยู่ๆ เสียงโทรศัพท์เขาก็ดังขึ้นมา ทำให้คุณหมอต้องหยุดชะงักก่อนจะรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูร่างสูงยืนพิงประตูรถในท่าทางคิดหนัก ในใจแอบหวั่นอยู่ไม่น้อยที่รู้ว่าปลายสายคือใคร แต่เขาก็ต้องกดรับสายอยู่ดี(คีย์อยู่ไหนคะ ทำไมยังมาไม่ถึงอีก) ปลายสายถามขึ้นด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด“คือว่าผม…” คีรินพูดอ้ำอึ้ง คิดไม่ออกว่าจะหาคำพูดไหนมาอธิบายให้เพลงขวัญฟังดี(เพลงรอนานแล้วนะคะ) เพลงขวัญเริ่มเสียงดังขึ้นด้วยความไม่พอใจเมื่อชายหนุ่มปล่อยให้เธอนั่งรอนานๆ“พอดีผมเห็นว่าเพลงมีคนอยู่ด้วยก็เลยคิดว่าน่าจะไม่มีปัญหาอะไรแล้ว อีกอย่างพรุ่งนี้ผมต้องไปทำงานแต่เช้าด้วย” คีรินบอกอย่างใจเย็น(แต่เพลงอยากให้คีย์อยู่ด้วยหนิคะ) ปลายสายรีบปรับน้ำเสียงให้อ่อนลงทันที“วันนี้ดึกมากแล้วไว้วันหลังค่อยนัดเจอกันอีกทีนะครับ” คีรินอธิบายไปตามเหตุผล“โอ๊ย!”แต่ยังไม่ทันที่คีรินจะได้ฟังคำตอบจากคนในสาย อยู่ๆ ก็มีร่างสวยเสียหลักพุ่งเข้าหาเขาอย่างรวดเร็วหมับ!ร่างสูงหันมาประคองร่างของหญิงสาวเอาไว้ตามสัญชาตญาณทันที แขนแกร่งโอบกอดเธอไว้โดยที่ไม่ได้สนใจคนในสายที่กำลังพูดบางอย่างออกมาไ
เช้าวันต่อมา“พี่ฝากร้านด้วยนะ”นาเดียหันไปบอกนโมที่ยืนทำงานอยู่หน้าเคาน์เตอร์ ถึงนโมจะยังเด็กแต่เธอก็ขยันและทำงานเก่งมาก“เที่ยวให้สนุกนะคะพี่เดีย เดี๋ยวหนูดูแลร้านให้ไม่ต้องห่วงนะคะ” นโมตอบพร้อมรอยยิ้มและเธอก็มั่นใจว่าเธอสามารถดูแลร้านได้“ขอบใจนะ เดี๋ยวพี่จะซื้อของมาฝาก”“ไปกันครับ”คุณหมอที่เดินลงมาพร้อมกระเป๋าเดินทางสองใบ ก็ชวนนาเดียไปที่รถทันที เธอยิ่งเป็นห่วงร้านถ้าขืนปล่อยให้ยืนนานกว่านี้ อีกหน่อยก็คงเปลี่ยนใจไม่อยากไปกันพอดี“พี่ไปก่อนนะ ถ้ามีเรื่องอะไรโทรหาพี่ได้ตลอดเลยนะ”นาเดียยืนคิดสักพักก่อนจะหันไปบอกนโม ในใจก็เป็นห่วงร้าน แต่ถ้าเธอไม่ไปวันนี้ ก็ไม่รู้ว่าพี่หมอจะมีเวลาว่างพาเธอไปเที่ยวอีกเมื่อไหร่“ค่ะ” นโมมองตามหลังเจ้าของร้านพร้อมรอยยิ้มนาเดียเดินตามคุณหมอไปขึ้นรถที่จอดอยู่หน้าร้าน ถึงจะมีวันหยุดแค่สองวัน แต่เขาก็อยากจะพาเธอไปเที่ยว จะได้พักผ่อนและมีเวลาอยู่ด้วยกัน..ใช้เวลาในการเดินทางเกือบสามชั่วโมงกว่าจะมาถึงและหาที่พักกันได้ เนื่องจากเป็นการมาเที่ยวแบบไม่ได้วางแผนมาก่อน ทำให้คีรินลืมเรื่องที่พักไปอย่างสนิทใจพอมาถึงก็ต้องขับรถหาที่พักกันก่อน และวันนี้ก็เป็นวันหยุ
วันนี้นาเดียปิดร้านเร็วกว่าทุกวันเนื่องจากเป็นคำสั่งของคุณหมอ เพราะว่าเขาจะพาเธอไปทานอาหารข้างนอกและกว่าจะอาบน้ำแต่งตัวก็ต้องใช้เวลาอยู่พอสมควร“วันนี้หนูสวยมากเลยนะ” คีรินเอ่ยชมหลังจากที่นั่งรอนาเดียแต่งตัวอยู่นานเกือบหนึ่งชั่วโมง“แล้วทุกวันหนูไม่สวยเหรอคะ” ใบหน้าสวยขมวดคิ้วถามกลับทันที“สวยทุกวันครับ แต่วันนี้สวยเป็นพิเศษ” คีรินเอ่ยชมพร้อมรอยยิ้ม ยังไงเธอก็สวยที่สุดสำหรับเขาอยู่แล้ว“ขอบคุณค่ะ” คำตอบของคุณหมอเรียกรอยยิ้มจากเธอได้เป็นอย่างดี“ไปกันครับ” มือหนากุมมือเล็กเอาไว้ด้วยความรัก ก่อนจะพาเธอเดินไปขึ้นรถ เพื่อที่จะไปร้านอาหารที่จองเอาไว้..@ร้านอาหารสุดหรู“ทำไมมาร้านแพงจังเลยคะ” นาเดียถามขึ้นมาทันทีเมื่อคุณหมอจอดรถที่หน้าตึกสูง พอได้ทำงานหาเงินเองนาเดียก็ไม่ค่อยชอบทานร้านอาหารหรูๆ สู้เก็บเงินเอาไว้ทำอย่างอื่นดีกว่า“ไม่แพงหรอกครับ” คีรินตอบก่อนจะโอบกอดเอวเล็กเดินเข้าไปด้านใน“เขามีงานอะไรหรือเปล่าคะ ทำไมจัดดอกไม้สวยจังเลย”กุหลาบสีแดงถูกจัดตกแต่งตั้งแต่ทางเดินเข้ามาจนถึงด้านบนสุดของตึกที่เป็นโซนอาหาร ทำเอานาเดียมองดูกุหลาบสีสวยตลอดทาง เพราะเป็นดอกไม้ที่เธอชอบ“พี่ก็ไม่รู้เหม
หนึ่งอาทิตย์ต่อมา“หนูไม่ไปกับพี่จริงๆ เหรอครับ”นานๆ จะเป็นวันหยุดของคุณหมอ แทนที่จะได้ออกไปเที่ยว ไปใช้ชีวิตด้วยกัน แต่นาเดียกลับไม่ยอมและยืนยันที่จะอยู่ร้าน ทั้งๆ ที่พนักงานก็มีตั้งหลายคน แบบนี้จะไม่ให้เขาน้อยใจได้ยังไง“ไปวันหลังไม่ได้เหรอคะ ช่วงนี้ลูกค้ากำลังเยอะเลย” นาเดียกลัวพนักงานที่ร้านจะดูแลลูกค้าไม่ทั่วถึง เพราะช่วงนี้ลูกค้าเยอะมาก เธอจึงต้องมาคอยช่วยดูแลลูกค้า“ถ้าหนูไม่ไป งั้นตอนเย็นเราไปทานข้าวข้างนอกกันนะครับ” ถึงคีรินจะชวนเธอเอาไว้นานแล้ว แต่พอถึงวันเธอกลับไม่ยอมไปด้วย เขาจึงต้องหาข้อแลกเปลี่ยน“ทำไมต้องไปทานข้างนอกด้วยคะ หรือว่าพี่หมอเบื่ออาหารที่หนูทำแล้ว” ใบหน้าสวยจ้องมองคุณหมออย่างเอาเรื่อง เพราะตั้งแต่เธอไปเรียนทำอาหารมาก็แทบจะไม่ได้ออกไปทานข้าวข้างนอกเลย“ไม่ใช่ครับ พี่แค่อยากจะพาหนูออกไปเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง” คีรินรีบอธิบายทันที“ก็ได้ค่ะ” พอได้ยินคำตอบของคุณหมอก็ค่อยสบายใจขึ้นมาบ้าง นาเดียจึงตอบตกลงที่จะไปด้วย“พี่ไปก่อนนะครับ ไม่เปลี่ยนใจแน่นะ” คีรินถามออกมาอีกครั้งเผื่อว่าเธอจะเปลี่ยนใจ“ขับรถดีๆ นะคะ” นาเดียตอบพร้อมรอยยิ้ม ก่อนจะโบกมือลาคุณหมอที่กำลังเดินออกไ
“รีบๆ ด้วยนะ แม่อยากอุ้มหลานแล้ว”ประโยคที่คุณแม่พูดทิ้งท้ายเอาไว้ทำเอานาเดียเขินจนแทบจะทำตัวไม่ถูกแล้ว“มันจะไม่เร็วไปหน่อยเหรอครับ ยังไม่ได้แต่งงานเลย” คีรินรีบหาข้ออ้าง“ท้องก่อนแต่งก็ไม่เห็นเป็นไรหรอก ยังไงปลายทางก็ต้องแต่งก็ต้องท้องอยู่ดี”“คุณแม่ครับ”“ก็แม่อยากได้หนูเดียเป็นลูกสะใภ้หนิ ถ้าขืนลูกชักช้านะ แม่จะไปสู่ขอหนูเดียที่บ้านก่อนเลย”“เดี๋ยวผมจัดการเองครับ”ทุกคนนั่งทานข้าวกันไปคุยกันไปอย่างสนุกสนาน ความสุขเล็กๆ น้อยๆ ที่เกิดจากคนในครอบครัว นั่งพูดคุยกันจนดึกก่อนที่คุณพ่อกับคุณแม่จะกลับ ปล่อยให้ลูกๆ ได้พักผ่อนกัน“แม่กลับก่อนนะ วันไหนว่างๆ ก็พาหนูเดียไปหาแม่ที่บ้านบ้างนะ”“ได้ครับ สวัสดีครับ”“สวัสดีค่ะ”คีรินเดินไปส่งคุณพ่อกับคุณแม่ที่รถก่อนจะเดินกลับเข้ามาหานาเดียอย่างอารมณ์ดี“มาครับเดี๋ยวพี่ช่วยเก็บ”“ไม่เป็นไรค่ะ หนูทำเองดีกว่า”“ช่วยกันทำ… จะได้เสร็จเร็วๆ ครับ” คีรินเว้นวรรคคำพูดและเน้นย้ำทุกคำ จนความหมายแทบจะเปลี่ยนไปในทางสองแง่สองง่าม“จะรีบไปไหนคะ”“ก็คุณแม่อยากอุ้มหลาน พี่ก็ต้องรีบหน่อยสิครับ”“ไม่ต้องเอาเรื่องนี้มาอ้างเลยค่ะ”“พี่ไม่ได้อ้างนะ แต่พี่ทำจริง!!”“พี่
หนึ่งเดือนต่อมาวันนี้เป็นวันหยุดของคีรินซึ่งคืนนี้ครอบครัวของเขาจะมาทานอาหารที่ร้านและมาแสดงความยินดีกับนาเดียที่เปิดร้านใหม่ถึงแม้จะเปิดร้านมานานแล้ว แต่ทางครอบครัวของคุณหมอพึ่งจะกลับจากดูงานที่ต่างประเทศ พอมาถึงก็รีบโทรหาลูกชายทันทีพอนาเดียรู้เรื่องก็ถามข้อมูลกับคุณหมอทั้งคืน คุณพ่อชอบทานอะไร คุณแม่ชอบทานอะไร เรียกได้ว่าตื่นเต้นและนั่งคิดเมนูทั้งคืน“พี่หมอเสร็จหรือยังคะ”นาเดียขึ้นมาตามคุณหมอที่บอกจะลงไปข้างล่างตั้งนานแล้ว แต่ก็ยังไม่เห็นลงไปสักที“ใกล้เสร็จแล้วครับ” คีรินที่กำลังอาบน้ำอยู่ก็ตอบเสียงดัง เพราะกลัวว่าเธอจะไม่ได้ยิน“งั้นหนูลงไปรอข้างล่างนะคะ”“ได้ครับ”ร่างเล็กเดินลงไปด้านล่างเพื่อดูความเรียบร้อยของร้านต่อในระหว่างที่รอคุณหมออาบน้ำแต่งตัวให้เสร็จ“เสร็จแล้วครับ”ใช้เวลาไม่นานคุณหมอก็เดินลงมาด้วยความพร้อมที่จะออกไปข้างนอกแล้ว ความจริงอยากได้อะไรให้พนักงานออกไปซื้อให้ก็ได้ แต่นาเดียดื้ออยากจะออกไปเลือกของเอง สุดท้ายเขาก็ต้องใจอ่อนยอมไปกับเธอ“พี่ฝากร้านด้วยนะ” นาเดียหันไปบอกพนักงานรุ่นน้องที่ยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์“ค่ะ” นโมรับคำอย่างว่าง่าย ถึงแม้เจ้านายจะไม่บอก เรื่
เช้าวันต่อมา@MYDEARคาเฟ่เจ้าของร้านคาเฟ่คนสวยมายืนรอต้อนรับลูกค้าที่โทรมาบอกว่าใกล้จะถึงร้านแล้ว“ร้านสวยดีนะ” ออสตินทักขึ้นก่อนใครเมื่อมองดูบรรยากาศภายในร้าน“รินยินดีด้วยนะ” ไอรินร่วมแสดงความยินดีเมื่อได้เห็นความสำเร็จของเพื่อนรักอย่างนาเดีย“ร้านน่ารักมาก ชื่อร้านก็ด้วย”คริสตัลเอ่ยชมขึ้นมาอีกคน ไม่คิดเลยว่าผู้หญิงแรงๆ อย่างนาเดียจะจัดร้านได้น่ารักขนาดนี้“ขอบใจนะ แล้วนี่ฮันน่าไม่มาเหรอ” นาเดียขอบคุณคำชมจากเพื่อนๆ ก่อนจะถามหาเพื่อนรักอีกคนที่ยังไม่เห็นมา“ไม่รู้สิ ยังไม่เห็นเลย” คริสตัลตอบขึ้นเมื่อทุกคนเอาแต่ยืนเงียบ“เดี๋ยวมันคงตามมาแหละ”เมื่อเห็นเจ้าของร้านเงียบไปกวินจึงพูดขึ้นมาเพื่อทำลายความเงียบ“ไปนั่งตรงนู้นกันก่อนดีกว่า” นาเดียชี้ไปยังโต๊ะที่อยู่ด้านในสุด จะได้นั่งคุยกันสะดวก“เปิดร้านวันแรกลูกค้าก็เยอะเลยนะ” ไอรินนั่งลงก่อนจะทักขึ้น เปิดร้านวันแรกก็มีลูกค้ามานั่งเยอะขนาดนี้ ผิดกับตอนเปิดร้านอาหารของเธอมาก“สาธุขอให้เป็นแบบนี้ไปตลอดนะ อยากดื่มอะไรสั่งได้เลยนะ” นาเดียไม่พูดเปล่ารีบยกมือขึ้นมาประกบกันราวกับไหว้พระ ก่อนจะยื่นเมนูของร้านให้เพื่อนๆ“มีเหล้ามั้ย” กวินถามขึ้นมา
สามเดือนต่อมา“หนูอยากจะแก้ตรงไหนอีกมั้ยครับ” คีรินถามขึ้นในระหว่างที่เดินตรวจงานรอบๆ ก่อนจะเปิดร้านอย่างเป็นทางการในวันพรุ่งนี้“ไม่ค่ะ” ใบหน้าสวยส่ายหน้า แต่สายตายังคงมองสำรวจความสวยงามของร้านอยู่ตลอดเวลา“ชอบมั้ยครับ” คีรินตั้งใจทำทุกอย่างให้ออกมาดีที่สุด เพื่อความสุขของผู้หญิงที่เขารัก ไม่ว่าจะใช้เงินเยอะแค่ไหน เขาก็พร้อมที่จะทำให้เธอมีความสุข“ชอบมากเลยค่ะ หนูไม่คิดเลยว่าทำเสร็จแล้วจะสวยขนาดนี้” สายตาเปร่งประกายเต็มไปด้วยความสุข ในที่สุดเธอก็จะมีร้านเป็นของตัวเอง“ตื่นเต้นมั้ยครับ พรุ่งนี้เปิดร้านวันแรกแล้วนะ” คีรินเอ่ยถามด้วยความใส่ใจ“ตื่นเต้นค่ะ แต่หนูกลัวจะไม่มีลูกค้ามากกว่า” นาเดียรู้สึกใจเต้นแรงทุกครั้งเมื่อนึกถึงตอนเปิดร้าน“มีสิครับ ยังไงก็ต้องมี” คีรินตอบด้วยความมั่นใจ“พี่หมอรู้ได้ยังไงคะ” ร่างเล็กถามกลับด้วยความสงสัย“ก็พี่ไปประกาศทั่วโรงพยาบาลเลยว่าแฟนพี่จะเปิดร้านพรุ่งนี้ ยังไงก็ต้องมีลูกค้าแน่นอนครับ”“ขอบคุณนะคะ เดี๋ยวหนูจะทำเพจร้านเอาไว้โพสต์รับออเดอร์ออนไลน์ส่งในบริเวณใกล้เคียงด้วยค่ะ”“แฟนใครทำไมเก่งจังเลยเนี่ย”“แฟนพี่หมอไงคะ”“ว่าแต่… พี่ทำให้ขนาดนี้แล้วจะได้อ
หนึ่งปีต่อมาวันเวลาผ่านไปเร็วมากแต่ทุกอย่างก็ยังไม่ลงตัว ถึงแม้นาเดียจะเรียนจบมาหลายเดือนแล้วก็ตาม แต่ร้านคาเฟ่ที่เธอตั้งใจจะทำก็ยังไม่ได้รับการอนุมัติจากคุณหมอแต่ก็ยังพอมีเรื่องโชคดีอยู่บ้าง ถึงคีรินจะยังไม่ได้เอ่ยปากอนุญาตเรื่องเปิดร้าน แต่เขากลับให้เธอไปเรียนทำเบเกอรี่ โดยที่เขาเป็นคนเลือกสถานที่เรียนและเลือกคนสอนให้นาเดียเองทุกอย่างและทุกอย่างทุกขั้นตอนต้องอยู่ในความดูแลของคุณหมอ เพราะเขาต้องรับรู้ทุกอย่างที่เกี่ยวกับเธอ“ทำไมวันนี้ถึงไม่ให้หนูไปเรียนล่ะคะ” นาเดียถามขึ้นด้วยความสงสัยในระหว่างที่นั่งรถออกมากับคุณหมอ เพราะปกติวันนี้เธอต้องไปเรียนทำเบเกอรี่“พี่อยากจะพาหนูไปดูอะไรบางอย่าง” สายตาคมมองถนนด้วยความตั้งใจ“อะไรเหรอคะ?” ใบหน้าสวยขมวดคิ้วถามด้วยความอยากรู้“ถ้าบอกก่อนหนูก็รู้สิครับ”“แต่นี่มันทางไปโรงพยาบาลไม่ใช่เหรอคะ” นาเดียไม่รู้เลยว่าคุณหมอจะพาไปไหน แต่ทางที่เขาพามากลับเป็นทางเดียวกับทางที่ไปโรงพยาบาลคีรินถึงกับนิ่งไปเมื่อเขาตั้งใจจะเซอร์ไพรส์บางอย่าง ก่อนที่มือหนาจะยื่นผ้าปิดตาสีชมพูให้นาเดีย ทำเอาเธอมองด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย ก่อนจะเอ่ยถามออกมา“อะไรคะ”“ท
@คอนโด“วันนี้เป็นวันพิเศษอะไรหรือเปล่าครับ” คีรินถามขึ้นในระหว่างที่เดินเข้ามาในห้อง พร้อมกับถุงวัตถุดิบอุปกรณ์การทำอาหารที่นาเดียซื้อมา“เปล่าค่ะ” นาเดียปฏิเสธก่อนจะเดินตรงเข้าไปยังห้องครัว“แล้วทำไมหนูซื้อของมาเยอะจังเลยล่ะ” คุณหมอยังคงถามต่อด้วยความสงสัย“ก็หนูอยากทำอาหารให้พี่หมอทานบ้างหนิคะ”“อะไรนะครับ พี่ฟังผิดไปหรือเปล่า” คิ้วหนาขมวดเข้าหากันเป็นปมแล้วรอฟังคำตอบชัดๆ อีกครั้ง“ฟังไม่ผิดหรอกค่ะ” นาเดียยังคงยืนยันคำเดิม“แล้วหนูทำอาหารเป็นเหรอครับ”แม้แต่ทำไข่เจียวตอนไปค่ายด้วยกันเธอยังทำไปกรี๊ดไปอยู่เลย แต่วันนี้กลับมาบอกว่าจะทำอาหารให้เขาทาน“ทำไมจะทำไม่เป็นคะก็หนูไปเรียนมาแล้ว” นาเดียยักคิ้วด้วยความมั่นใจ สามเดือนที่เรียนมาจะไม่เสียเปล่า“อย่าบอกนะว่าที่หนูออกไปข้างนอกบ่อยๆ เพราะไปเรียนทำอาหาร”คีรินพยายามคิดตามที่เธอบอก ก่อนจะตัดสินใจถามเธอออกมาตรงๆ“ค่ะ” ใบหน้าสวยพยักหน้าเพื่อยืนยันคำตอบ“แล้วทำไมไม่บอกพี่ล่ะครับ ปล่อยให้พี่เข้าใจผิดคิดว่าหนูไม่สนใจทำไม” คีรินบอกเสียงเบาด้วยความรู้สึกผิด“ถ้าบอกก่อนก็ไม่เซอร์ไพรส์สิคะ”“แฟนใครทำไมน่ารักขนาดนี้เนี่ย”จมูกโด่งกดลงที่ศีรษะของค