—————
ปัง~
ประตูห้องทำงานถูกเปิดอย่างไร้มารยาทจนเกิดเสียงดังสนั่น ทำให้หญิงสาวซึ่งกำลังเก็บเอกสารสำคัญด้วยความเร่งรีบต้องหยุดการกระทำแล้วช้อนสายตาขึ้นมอง
“ลืมพกมารยาทมาจากบ้านเหรอ”
“ทำไมไม่รับสายผม” คนถูกแดกดันไม่ได้สะทกสะท้านกับคำพูดนั้นเลยสักนิด ซ้ำยังเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
“ฉันว่าเมื่อวานฉันพูดชัดเจนแล้วนะเดวิด”
“ที่รัก...มันก็แค่เรื่องเล็กน้อย”
“…” เฮสเทียเงียบ เลือกใช้สายตาเย็นเยือกมองมือหนาที่จับเอวของเธอก่อนจะเลื่อนขึ้นไปมองเจ้าของมือนั้น
“คุณหึงผมแบบนี้ ผมโคตรดีใจเลยรู้มั้ย”
“เอาอวัยวะส่วนไหนคิดถึงเข้าใจว่าฉันหึง?”
“ถ้าคุณไม่หึงก็คงไม่บอกเลิกผมหรอกใช่มั้ย”
เบื้องหน้า ‘เดวิด’ คือคนรักของเธอที่คบหากันมาเกือบสามปี แต่เบื้องหลังเขาก็เป็นแค่หมากตัวหนึ่งที่เฮสเทียเก็บไว้เพื่อหาผลประโยชน์ ตัวเขาก็ได้ผลประโยชน์จากการคบหากับเจ้าแม่อย่างเธอเช่นกัน แต่เฮสเทียไม่เคยรู้สึกพิเศษกับเขา และไม่เคยคิดจะเปิดใจให้กับผู้ชายคนนี้ แม้ว่าเขาจะพยายามทำทุกอย่างเพื่อครอบครองเธอก็ตามที
หญิงสาวปัดมือหนาออกจากบั้นท้ายตัวเอง แล้วจึงพูด “อย่ามาแตะต้องตัวฉัน”
“ไม่เอาน่าที่รัก” เดวิดพยายามรวบข้อมือเล็ก แล้วขยับตัวเข้าไปใกล้จนบั้นท้ายของเฮสเทียแนบชิดกับขอบโต๊ะทำงาน
“ฉันบอกคุณแล้วไม่ใช่เหรอ ถ้าเมื่อไหร่ที่ความเจ้าชู้ของคุณทำให้ฉันเสียชื่อเสียง วันนั้นคุณต้องออกไปจากชีวิตของฉัน”
เพราะไม่ได้คิดจะจริงจังกับเดวิด จึงเปิดโอกาสให้เขาหาเศษหาเลยกับผู้หญิงคนอื่นได้ แต่มันต้องอยู่ในความควบคุม ไม่เปิดเผยให้ใครรู้ ทว่าเขากลับทำผิดข้อตกลง
เมื่อวานเธอถูกเล่นข่าวว่าถูกแฟนหนุ่มสวมเขา กระแสข่าวจากสังคมกล่าวถึงเธอมากเกินเหตุ เปิดโอกาสให้เฮสเทียมีเหตุผลสลัดผู้ชายคนนี้ออกจากความสัมพันธ์
“ผมยังปล่อยผ่านเรื่องของคุณเลยนะที่รัก คุณก็แค่ทำเหมือนมองไม่เห็นไปสิ”
“คุณทำให้คนอื่นมองว่าฉันหน้ามืดตามัวปล่อยให้คุณสวมเขา แล้วฉันต้องปล่อยผ่านอีกสักกี่ครั้งล่ะเดวิด”
“ที่ทำผมทำไปก็เพราะอยากให้คุณหึงหวงผมบ้าง”
“สำหรับฉันเรื่องนี้มันน่ารำคาญเกินไป หวังว่าจะเข้าใจและยอมรับสิ่งที่ตัวเองทำ” เฮสเทียผลักเดวิดออกห่างเล็กน้อย เอี้ยวตัวไปหยิบซองเอกสารกับโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะทำงาน แล้วเดินออกมาจากตรงนั้นทันที
เธอเสียเวลาไปกับเรื่องไร้สาระนานมากพอจะทำให้ต้องรีบเร่งมากกว่าเดิม เพราะอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมาเธอต้องขึ้นเครื่องบินจากฮ่องกงกลับไปทำงานที่ประเทศไทย
@ประเทศไทย
หลังจากเท้าเหยียบแผ่นดินบ้านเกิด หญิงสาวก็ตรงเข้าไปยังกาสิโนของตัวเองเพื่อสะสางงานแทนผู้เป็นพ่อและแม่ที่เอาแต่เที่ยวเล่นกันเหมือนเด็กวัยรุ่น แต่เพราะพวกท่านทำงานอย่างหนักตลอดหลายปีจึงไม่คิดคัดค้าน แถมยังรับปากว่าจะดูแลธุรกิจให้เป็นอย่างดี
ทุกครั้งที่เธอกลับมาเป็นประเทศไทยจะนัดกลุ่มเพื่อนสนิทไปดื่มเหล้าสังสรรค์กันเป็นปกติ ซึ่งวันนี้ก็เป็นเช่นนั้นเหมือนกัน
เฮสเทียมาถึง ‘VM CLUB’ ของเพื่อนสนิทที่เติบโตด้วยกันมาตั้งแต่เด็กเกือบสามทุ่ม สถานบันเทิงแห่งนี้ตั้งอยู่ในสนามแข่งรถยนต์ไร้กฎกติกา ทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ณ ที่แห่งนี้จะเป็นความลับทั้งหมด
โครงคิ้วเรียวสวยเลิกขึ้นด้วยความประหลาดใจตั้งแต่วินาทีแรกที่ย่างเท้าเข้ามาในไนต์คลับ เพราะปกติเวลานี้จะเปิดเพลงแนว EDM บิลด์อารมณ์นักท่องราตรี ทว่าวันนี้กลับเป็นดนตรีสดที่มีนักร้องนำเป็นผู้ชาย
ดวงตากลมโตทอดสายตามองไปยังเวที หลังจากเสียงทุ้มอันแสนไพเราะสะกดให้หญิงสาวหยุดฟังอยู่ไกลๆ และนอกจากเสียงของเขา...ใบหน้าอันหล่อเหลาก็สะกดสายตาของเธอไว้ได้ด้วยเช่นกัน
“อีเทีย!”
เฮือก!
เสียงตะโกนข้างใบหูทำเอาเจ้าของชื่อสะดุ้งตกใจ หลุดออกจากการถูกต้องมนต์สะกดนั้นอย่างไม่ได้ตั้งใจ
เฮสเทียหันไปชักสีหน้าใส่ผู้ขัดอารมณ์ “ตะโกนหาพ่อแกเหรออีเฟรย์”
“ป่านนี้พ่อนอนแล้ว อย่าทำให้พ่อฉันสะดุ้งดิ”
“เอาซะแก้วหูแทบแตก”
“แล้วแกมายืนเหม่ออะไรอยู่ตรงนี้เอ่ย? ฉันเรียกสองรอบแล้วเหอะ”
“มองหาโต๊ะอยู่”
“จ้า ตอแหลจ้า” เฟรย่าเบ้ปากให้กับคำพูดโกหกของเพื่อน เห็นอยู่ชัดๆ ว่าเฮสเทียกำลังมองนักร้องหนุ่มผู้มีใบหน้าหล่อเหลาเหมือนหลุดออกมาจากนิตยสาร
“ไปที่โต๊ะเหอะ ไอ้มาร์คมันโทรตามยิกๆ แล้ว”เฮสเทียชูโทรศัพท์ที่กำลังสั่นครืด เพราะสายเรียกของมาร์คัสให้เฟรย่าดูเป็นการจบบทสนทนานี้ ก่อนสองสาวเดินผ่านนักท่องราตรีขึ้นมายังชั้นสองของไนต์คลับด้วยกันกลุ่มเพื่อนสนิทของเธอประกอบไปด้วย มาร์คัส คาลิกซ์ วิเวียน เฟรย่า และไวซ์ แต่บางคนมีเหตุจำเป็นก็เลยมาไม่ได้ ตอนนี้จึงขาดไปบ้างบางคน“มาช้าฉิบหาย ฉันจะกลับแล้วเนี่ย”“ก็แค่นิดหน่อยเองป้ะ บ่นไรนักไอ้มาร์ค”“ฉันคิดถึงลูกกับเมีย”“ดื่มก่อนสักสองแก้วแล้วค่อยกลับ” เฮสเทียหย่อนสะโพกนั่งลงบนโซฟาเดี่ยว ขณะที่เฟรย่าซึ่งเดินมาด้วยกันปลีกตัวไปนั่งข้างคาลิกซ์เพราะสงสัยมาตั้งแต่แรกว่าทำไมวันนี้บรรยากาศในไนต์คลับถึงเปลี่ยนไปจึงเอ่ยถามต่อ “ทำไมวันนี้มีดนตรีสด?”“ดนตรีสดมีทุกวันอังคารกับพฤหัสฯ”“อ้อ แล้วนั่นนักร้องใหม่เหรอ”“ใหม่ที่นี่ แต่เก่าที่อื่น เพิ่งดึงตัวมา” เขาอยากเปลี่ยนระบบภายในไนต์คลับของตัวเองใหม่ จึงซื้อตัวนักร้องผู้ชายคนนั้นมาจากอีกร้านหนึ่ง แถมยังเป็นนักร้องที่ดังในหมู่นักท่องราตรีสาวๆ มากอีกด้วย “เธอไม่สังเกตเหรอว่าคืนนี้ลูกค้าผู้หญิงเยอะมาก”เฮสเทียเหลือบมองลงไปยังเวทีด้านล่าง “ก็ไม่แปลกใจ หล
ต่อให้จะรวย จะสวย หรือจะแสนดีแค่ไหนก็ถูกชายหนุ่มปฏิเสธโดยไม่มีข้อยกเว้น และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีคนบอกว่าอยากทำความรู้จักกับเขา“ไม่ให้จริงเหรอพี่ธาม คุณเขาสวยมากเลยนะ”ธามไทเมินเฉยต่อเสียงของน้อยหน่า จับหูฟังอินเอียร์ใส่เข้าไปในหู แล้วหันไปให้สัญญาณเริ่มเพลงใหม่กับนักดนตรีอีกสองคนด้านหลัง ทำให้น้อยหน่าต้องล่าถอยกลับไปบอกข่าวกับเฮสเทียอย่างผิดหวัง“เพลงนี้จะเป็นเพลงสุดท้ายของผมในค่ำคืนนี้ มอบให้กับคนที่รอคนในหัวใจของตัวเองอยู่นะครับ”เสียงกรี๊ดกร๊าดดังขึ้นหลังจากชายหนุ่มพูดจบประโยค เขาหยิบเก้าอี้มานั่งกลางเวที ยกขาไขว่ห้างแล้ววางกีตาร์ตัวเก่งบนหน้าตักนิ้วเรียวสวยเกากีตาร์เป็นทำนองประสานกับเสียงคีย์บอร์ดของนักดนตรีอีกท่านหนึ่ง มองลงไปยังลูกค้าที่เริ่มโยกหัวไปตามทำนองเพลงริมฝีปากหนาขยับขับร้องเพลงอย่างไพเราะ เสียงของเขาสะกดให้ลูกค้าหญิงชายด้านล่างหยุดฟังแทบทุกโต๊ะ เช่นเดียวกับหญิงสาวคนหนึ่งที่นั่งฟังอยู่ไกลๆ แม้ว่าตัวเธอนั้นจะถูกปฏิเสธมาหมาดๆ ก็ตาม“ในวันนี้เหลือแค่เพียงตัวฉัน เมื่อถึงคราวต้องห่างกันไม่พอเจอ กลิ่นดอกไม้พลันล่องลอยจางหาย วอนสายลมช่วยพัดหวนกลับคืนมา…” …“…รักฝังตรึงใจใ
“ไม่คิดก่อนเลยเหรอ”“ผมไม่อยากปฏิเสธพี่รอบที่สอง”“จริงๆ ก็ไม่เคยมีใครกล้าปฏิเสธพี่นะ”เรื่องนั้นธามไทเชื่อสนิทใจ ครั้งแรกที่เจอเธอว่าสวยมากแล้ว แต่ตอนนี้กลับทวีคูณความงดงามมากขึ้นไปอีกไม่รู้กี่เท่า เพราะแบบนี้เขาถึงไม่กล้าสบตากับเธอตรงๆ“โอ๊ย! ปล่อยฉันนะ”เสียงโวยวายของหญิงสาวคนหนึ่งทำให้เฮสเทียหันไปมองอย่างสงสัย มองตามหล่อนขณะถูกผู้ชายซึ่งมีอาการมึนเมากระชากลากบริเวณหน้าไนต์คลับ หากเป็นคนอื่นเฮสเทียคงชั่งใจในการช่วยเหลือ แต่ผู้หญิงคนนั้นดันเป็นพนักงานในไนต์คลับของเพื่อนสนิท เห็นหน้าค่าตากันอยู่บ่อยๆไว้เท่าความคิดเธอทิ้งบุหรี่ลงบนพื้น แล้วสับรองเท้าส้นสูงเดินเข้าไปหาสองคนนั้นทันทีหมับ!“ใครวะ!”“ถ้าเมาก็กลับไปนอน อย่ามาระรานคนอื่น” เธอเอ่ยผ่านน้ำเสียงเรียบนิ่ง กดข่มอีกฝ่ายโดยการจิกเล็บลงบนข้อมือของเขาอย่างแรง“คะ…คุณเฮสเทียช่วยหนูด้วย ฮึก! เขาพยายามลวนลามหนูตั้งแต่ในคลับแล้ว” เด็กสาวร้องขอความช่วยเหลือจากเพื่อนเจ้านายทั้งน้ำตา ร่างกายสั่นเทาจากความกลัวที่อยู่ในอก“ไม่รู้จักกันใช่มั้ย”“มะ…ไม่ค่ะ”เฮสเทียพยักหน้าเป็นเชิงเข้าใจ แล้วจะหันไปพูดกับคนเมาอีกครั้ง “ปล่อยเด็กคนนี้ซะ”“มายุ่
ฝนห่าใหญ่โหมกระหน่ำกระทบร่างของเด็กชายวัยสิบสี่ปีจนเปียกปอน ขณะถูกกลุ่มวัยรุ่นขี้ยารุมทำร้ายเพื่อไถเงิน แม้ว่าจะพยายามปัดป้อง แต่ด้วยความที่เขาตัวเล็กและเด็กกว่าก็ไม่สามารถต่อต้านการกระทำแย่ๆ คนพวกนั้นได้ไม่แน่ใจว่าเพราะชุดที่เขาสวมใส่เป็นของมีราคาหรือเปล่า มันถึงได้พยายามกระชากมันออกไปแรงๆ แต่เด็กชายก็ปัดออก“กูบอกให้เอาเงินมา ไม่ได้ยินรึไงวะ!” “...” เขาเงยหน้าสบตากับวัยรุ่นตรงหน้าอย่างไม่เกรงกลัว ซ้ำการเงียบยิ่งทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจมากกว่าเดิม“เฮ้ย! มึงหูหนวกรึไง”“…”“มันไม่ได้หูหนวกหรอก กูว่ามันเข้าใจแต่มันกวนตีน” ชายคนที่สองบอกเพื่อนตัวเอง ก่อนจะเอื้อมมือไปจับคอของเด็กชาย “ถ้ามึงไม่อยากตายก็รีบเอาเงินมาจะดีกว่า หน้าตาดูเหมือนลูกคนรวยขนาดนี้ เสือกบอกว่าไม่มีเงินได้ไงวะ”“กูไม่ให้”ผลัวะ!ใบหน้าหล่อเหลาของเด็กชายถูกกำปั้นหนักเหวี่ยงเข้าใส่อย่างแรงจนสะบัด แต่กลับไม่ส่งเสียงร้องเจ็บปวดออกมาเลยสักนิด นั่นยิ่งทำให้กลุ่มวัยรุ่นไม่สบอารมณ์ถึงขั้นผลักเด็กชายล้มลงไปบนพื้น แล้วรุมประเคนฝ่าเท้าให้กับเขาไม่รู้ว่าโชคชะตาต้องการเล่นตลกกับเขาหรือว่าอย่างไร ทั้งๆ ที่หนีออกมาจากความอุบาทว์ แต่กล
“ไม่คิดก่อนเลยเหรอ”“ผมไม่อยากปฏิเสธพี่รอบที่สอง”“จริงๆ ก็ไม่เคยมีใครกล้าปฏิเสธพี่นะ”เรื่องนั้นธามไทเชื่อสนิทใจ ครั้งแรกที่เจอเธอว่าสวยมากแล้ว แต่ตอนนี้กลับทวีคูณความงดงามมากขึ้นไปอีกไม่รู้กี่เท่า เพราะแบบนี้เขาถึงไม่กล้าสบตากับเธอตรงๆ“โอ๊ย! ปล่อยฉันนะ”เสียงโวยวายของหญิงสาวคนหนึ่งทำให้เฮสเทียหันไปมองอย่างสงสัย มองตามหล่อนขณะถูกผู้ชายซึ่งมีอาการมึนเมากระชากลากบริเวณหน้าไนต์คลับ หากเป็นคนอื่นเฮสเทียคงชั่งใจในการช่วยเหลือ แต่ผู้หญิงคนนั้นดันเป็นพนักงานในไนต์คลับของเพื่อนสนิท เห็นหน้าค่าตากันอยู่บ่อยๆไว้เท่าความคิดเธอทิ้งบุหรี่ลงบนพื้น แล้วสับรองเท้าส้นสูงเดินเข้าไปหาสองคนนั้นทันทีหมับ!“ใครวะ!”“ถ้าเมาก็กลับไปนอน อย่ามาระรานคนอื่น” เธอเอ่ยผ่านน้ำเสียงเรียบนิ่ง กดข่มอีกฝ่ายโดยการจิกเล็บลงบนข้อมือของเขาอย่างแรง“คะ…คุณเฮสเทียช่วยหนูด้วย ฮึก! เขาพยายามลวนลามหนูตั้งแต่ในคลับแล้ว” เด็กสาวร้องขอความช่วยเหลือจากเพื่อนเจ้านายทั้งน้ำตา ร่างกายสั่นเทาจากความกลัวที่อยู่ในอก“ไม่รู้จักกันใช่มั้ย”“มะ…ไม่ค่ะ”เฮสเทียพยักหน้าเป็นเชิงเข้าใจ แล้วจะหันไปพูดกับคนเมาอีกครั้ง “ปล่อยเด็กคนนี้ซะ”“มายุ่
ต่อให้จะรวย จะสวย หรือจะแสนดีแค่ไหนก็ถูกชายหนุ่มปฏิเสธโดยไม่มีข้อยกเว้น และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีคนบอกว่าอยากทำความรู้จักกับเขา“ไม่ให้จริงเหรอพี่ธาม คุณเขาสวยมากเลยนะ”ธามไทเมินเฉยต่อเสียงของน้อยหน่า จับหูฟังอินเอียร์ใส่เข้าไปในหู แล้วหันไปให้สัญญาณเริ่มเพลงใหม่กับนักดนตรีอีกสองคนด้านหลัง ทำให้น้อยหน่าต้องล่าถอยกลับไปบอกข่าวกับเฮสเทียอย่างผิดหวัง“เพลงนี้จะเป็นเพลงสุดท้ายของผมในค่ำคืนนี้ มอบให้กับคนที่รอคนในหัวใจของตัวเองอยู่นะครับ”เสียงกรี๊ดกร๊าดดังขึ้นหลังจากชายหนุ่มพูดจบประโยค เขาหยิบเก้าอี้มานั่งกลางเวที ยกขาไขว่ห้างแล้ววางกีตาร์ตัวเก่งบนหน้าตักนิ้วเรียวสวยเกากีตาร์เป็นทำนองประสานกับเสียงคีย์บอร์ดของนักดนตรีอีกท่านหนึ่ง มองลงไปยังลูกค้าที่เริ่มโยกหัวไปตามทำนองเพลงริมฝีปากหนาขยับขับร้องเพลงอย่างไพเราะ เสียงของเขาสะกดให้ลูกค้าหญิงชายด้านล่างหยุดฟังแทบทุกโต๊ะ เช่นเดียวกับหญิงสาวคนหนึ่งที่นั่งฟังอยู่ไกลๆ แม้ว่าตัวเธอนั้นจะถูกปฏิเสธมาหมาดๆ ก็ตาม“ในวันนี้เหลือแค่เพียงตัวฉัน เมื่อถึงคราวต้องห่างกันไม่พอเจอ กลิ่นดอกไม้พลันล่องลอยจางหาย วอนสายลมช่วยพัดหวนกลับคืนมา…” …“…รักฝังตรึงใจใ
“ไปที่โต๊ะเหอะ ไอ้มาร์คมันโทรตามยิกๆ แล้ว”เฮสเทียชูโทรศัพท์ที่กำลังสั่นครืด เพราะสายเรียกของมาร์คัสให้เฟรย่าดูเป็นการจบบทสนทนานี้ ก่อนสองสาวเดินผ่านนักท่องราตรีขึ้นมายังชั้นสองของไนต์คลับด้วยกันกลุ่มเพื่อนสนิทของเธอประกอบไปด้วย มาร์คัส คาลิกซ์ วิเวียน เฟรย่า และไวซ์ แต่บางคนมีเหตุจำเป็นก็เลยมาไม่ได้ ตอนนี้จึงขาดไปบ้างบางคน“มาช้าฉิบหาย ฉันจะกลับแล้วเนี่ย”“ก็แค่นิดหน่อยเองป้ะ บ่นไรนักไอ้มาร์ค”“ฉันคิดถึงลูกกับเมีย”“ดื่มก่อนสักสองแก้วแล้วค่อยกลับ” เฮสเทียหย่อนสะโพกนั่งลงบนโซฟาเดี่ยว ขณะที่เฟรย่าซึ่งเดินมาด้วยกันปลีกตัวไปนั่งข้างคาลิกซ์เพราะสงสัยมาตั้งแต่แรกว่าทำไมวันนี้บรรยากาศในไนต์คลับถึงเปลี่ยนไปจึงเอ่ยถามต่อ “ทำไมวันนี้มีดนตรีสด?”“ดนตรีสดมีทุกวันอังคารกับพฤหัสฯ”“อ้อ แล้วนั่นนักร้องใหม่เหรอ”“ใหม่ที่นี่ แต่เก่าที่อื่น เพิ่งดึงตัวมา” เขาอยากเปลี่ยนระบบภายในไนต์คลับของตัวเองใหม่ จึงซื้อตัวนักร้องผู้ชายคนนั้นมาจากอีกร้านหนึ่ง แถมยังเป็นนักร้องที่ดังในหมู่นักท่องราตรีสาวๆ มากอีกด้วย “เธอไม่สังเกตเหรอว่าคืนนี้ลูกค้าผู้หญิงเยอะมาก”เฮสเทียเหลือบมองลงไปยังเวทีด้านล่าง “ก็ไม่แปลกใจ หล
—————ปัง~ประตูห้องทำงานถูกเปิดอย่างไร้มารยาทจนเกิดเสียงดังสนั่น ทำให้หญิงสาวซึ่งกำลังเก็บเอกสารสำคัญด้วยความเร่งรีบต้องหยุดการกระทำแล้วช้อนสายตาขึ้นมอง“ลืมพกมารยาทมาจากบ้านเหรอ”“ทำไมไม่รับสายผม” คนถูกแดกดันไม่ได้สะทกสะท้านกับคำพูดนั้นเลยสักนิด ซ้ำยังเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ“ฉันว่าเมื่อวานฉันพูดชัดเจนแล้วนะเดวิด”“ที่รัก...มันก็แค่เรื่องเล็กน้อย”“…” เฮสเทียเงียบ เลือกใช้สายตาเย็นเยือกมองมือหนาที่จับเอวของเธอก่อนจะเลื่อนขึ้นไปมองเจ้าของมือนั้น“คุณหึงผมแบบนี้ ผมโคตรดีใจเลยรู้มั้ย”“เอาอวัยวะส่วนไหนคิดถึงเข้าใจว่าฉันหึง?”“ถ้าคุณไม่หึงก็คงไม่บอกเลิกผมหรอกใช่มั้ย”เบื้องหน้า ‘เดวิด’ คือคนรักของเธอที่คบหากันมาเกือบสามปี แต่เบื้องหลังเขาก็เป็นแค่หมากตัวหนึ่งที่เฮสเทียเก็บไว้เพื่อหาผลประโยชน์ ตัวเขาก็ได้ผลประโยชน์จากการคบหากับเจ้าแม่อย่างเธอเช่นกัน แต่เฮสเทียไม่เคยรู้สึกพิเศษกับเขา และไม่เคยคิดจะเปิดใจให้กับผู้ชายคนนี้ แม้ว่าเขาจะพยายามทำทุกอย่างเพื่อครอบครองเธอก็ตามทีหญิงสาวปัดมือหนาออกจากบั้นท้ายตัวเอง แล้วจึงพูด “อย่ามาแตะต้องตัวฉัน”“ไม่เอาน่าที่รัก” เดวิดพยายามรวบข้อมือเล็ก แล้
ฝนห่าใหญ่โหมกระหน่ำกระทบร่างของเด็กชายวัยสิบสี่ปีจนเปียกปอน ขณะถูกกลุ่มวัยรุ่นขี้ยารุมทำร้ายเพื่อไถเงิน แม้ว่าจะพยายามปัดป้อง แต่ด้วยความที่เขาตัวเล็กและเด็กกว่าก็ไม่สามารถต่อต้านการกระทำแย่ๆ คนพวกนั้นได้ไม่แน่ใจว่าเพราะชุดที่เขาสวมใส่เป็นของมีราคาหรือเปล่า มันถึงได้พยายามกระชากมันออกไปแรงๆ แต่เด็กชายก็ปัดออก“กูบอกให้เอาเงินมา ไม่ได้ยินรึไงวะ!” “...” เขาเงยหน้าสบตากับวัยรุ่นตรงหน้าอย่างไม่เกรงกลัว ซ้ำการเงียบยิ่งทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจมากกว่าเดิม“เฮ้ย! มึงหูหนวกรึไง”“…”“มันไม่ได้หูหนวกหรอก กูว่ามันเข้าใจแต่มันกวนตีน” ชายคนที่สองบอกเพื่อนตัวเอง ก่อนจะเอื้อมมือไปจับคอของเด็กชาย “ถ้ามึงไม่อยากตายก็รีบเอาเงินมาจะดีกว่า หน้าตาดูเหมือนลูกคนรวยขนาดนี้ เสือกบอกว่าไม่มีเงินได้ไงวะ”“กูไม่ให้”ผลัวะ!ใบหน้าหล่อเหลาของเด็กชายถูกกำปั้นหนักเหวี่ยงเข้าใส่อย่างแรงจนสะบัด แต่กลับไม่ส่งเสียงร้องเจ็บปวดออกมาเลยสักนิด นั่นยิ่งทำให้กลุ่มวัยรุ่นไม่สบอารมณ์ถึงขั้นผลักเด็กชายล้มลงไปบนพื้น แล้วรุมประเคนฝ่าเท้าให้กับเขาไม่รู้ว่าโชคชะตาต้องการเล่นตลกกับเขาหรือว่าอย่างไร ทั้งๆ ที่หนีออกมาจากความอุบาทว์ แต่กล