“ไอ้เฟียหายหัวไปไหนวะ” ชายหนุ่มร่างสูงทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ตัวประจำ ก่อนจะเอ่ยถามออกมาเมื่อเห็นว่าเพื่อนที่นั่งหน้าสลอนอยู่มีไม่ครบคนอย่างที่เคย
“โดนเรียกตัว” หนุ่มผมสีควันบุหรี่เป็นคนตอบคำถามนั้น แต่ดวงตาคมยังไม่ยอมละจากมือถือเครื่องโปรด “อีกแล้วเหรอ มันยอมไปหรือไงรอบนี้” “ไม่ยอมก็ต้องยอมแหละวะ คู่อริมันยอมไปง่าย ๆ ถ้าไอ้เฟียไม่ยอมไปก็หมาดิ” “ไอ้พวกแพ้ผู้หญิงไม่เป็น” “น้อยหน่อยไอ้คริส ใครจะยอมผู้หญิงเก่งเหมือนมึง โดยเฉพาะเวลาผู้หญิงขึ้น...” “นี่สถานศึกษา ไม่ควรพูดเรื่องอย่างว่านะครับคุณเควิล” “ผมหมายถึงอารมณ์ขึ้น แบบโกรธน่ะครับคุณเนตั้น มันเรื่องอย่างว่าตรงไหน หรือสมองคุณมึงมีแต่เรื่องพวกนี้” “ไอ้...” “ตีกันเป็นเด็ก ๆ อีกแล้วนะพวกมึง” เสียงที่สี่ดังขึ้น ทำให้สองหนุ่มที่กำลังจะเถียงกันต่อต้องเงียบเสียงลงและหันไปสนใจเจ้าของเสียงแทน “มาแล้วเหรอเฟีย” “ไม่มามั้งยืนหัวโด่อยู่เนี้ย” “หัวอะไรโด่วะ” คริสเอ่ยถามติดตลก ทำให้คนถูกถามอดไม่ได้ที่จะผลักไหล่แข็งนั่นแรง ๆ “กวนตีน” คำด่าไม่จริงจังนั้นทำให้ทั้งกลุ่มปล่อยเสียงหัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดี สาว ๆ ที่เดินผ่านไปมาอดหยุดมองไม่ได้กับเสน่ห์อันเหลือล้นนั้น แม้ทุกคนจะรู้ดีว่ากลุ่มนี้อันตรายมากพอ ๆ กับหน้าตาที่พระเอกบางคนยังอาย แต่อะไรก็ตามที่ท้าทายมักจะน่าลิ้มลองเสมอ “แล้วเขาเรียกมึงไปทำไมวะเฟีย” “กิจกรรมเก็บตัวดาวเดือนแหละ” “อะไรวะ นี่มึงปีสี่แล้วนะเว้ย ทำไมถึงยังต้องให้มึงลงไปเกี่ยวข้องกับเรื่องประกวดเดือนดาวอีก” เนตั้นถามออกมาพร้อมขมวดคิ้วอย่างไม่สบอารมณ์ มีประกวดเดือนดาวทีไรทางกองประกวดจะมาตามให้มาเฟียไปช่วยโปรโมทงานให้ตลอด ตั้งแต่ปีสอง ปีสาม ยันปีสี่ ทั้ง ๆ ที่ปีนี้มันควรจะเป็นปีที่ได้เรียนน้อย กิจกรรมไม่มี เพื่อเตรียมตัวที่จะจบการศึกษา ถึงแม้ว่าส่วนมากจะต้องการแค่ให้มาเฟียไปเดินโชว์หน้าหล่อ ๆ พูดสองสามประโยคให้หนุ่มสาวหน้าตาดีสนใจกิจกรรมนี้มากขึ้น แต่มันไม่ใช่ธุระกงการอะไรของเดือนเมื่อสามปีที่แล้วแบบมาเฟียหรือเปล่า “เขาให้ทำอะไรอีก” “รอบนี้ให้ไปต่างจังหวัด” “อะไรนะ!” คำตอบของเพื่อนทำให้ทั้งสามหนุ่มร้องออกมาพร้อมกัน นี่มันจะมากไปแล้วนะ “มึงไม่ต้องไปเลย ตามใจจนเคยตัว เริ่มไม่มีความเกรงใจกันแล้วนะ” เควิลรู้สึกเป็นเดือดเป็นร้อนแทน เพื่อนเขาไม่ใช่ไก่กา ลองถ้ามันปฏิเสธจริงจังยังไงก็ไม่มีใครกล้ามายุ่งวุ่นวายอีก “กูรับปากไปแล้ว” “อะไรของมึง มึงอยากไปหรือไง” “กูไม่ได้อยากไปหรอก งานเด็กน้อยแบบนั้น” “แล้วมึงรับปากเขาทำไม” คริสเอ่ยถามขึ้นบ้าง แม้จะพอเดาคำตอบได้อยู่แล้วแต่ก็อยากได้ยินจากปากเพื่อนเพื่อความมั่นใจ “เหตุผลเดิม ๆ” “กูว่าแล้ว” สามเสียงพูดขึ้นพร้อมกันอีกครั้ง เมื่อคำตอบที่ได้รับไม่ผิดจากที่คิดไว้แม้แต่นิดเดียว เหตุผลเดิม ๆ ที่มาเฟียพูดถึงคือเรื่องของดาวคู่ขวัญ(คู่กัด)อย่างนับดาว สาวสวยพราวเสน่ห์หุ่นนางแบบจากคณะบริหาร ตั้งแต่เล็กจนโตเพื่อนทั้งสามคนรู้ดีว่ามาเฟียเป็นผู้ชายเย็นชาจนเหมือนไร้ความรู้สึก ครั้งแรกที่พวกเขาเห็นว่าเพื่อนมีความรู้สึกเหมือนคนอื่นบ้างก็ตอนที่ทะเลาะกับนับดาวสมัยประกวดดาวเดือนด้วยกันนั่นแหละ และหลังจากนั้นไม่ว่าเรื่องอะไรที่มีผู้หญิงชื่อนับดาวเข้ามาเกี่ยวข้อง ผู้ชายที่ไม่เคยสนใจใครอย่างมาเฟียต้องเป็นเดือดเป็นร้อนได้ทุกครั้งไป คนเกือบทั้งมหาวิทยาลัยรู้ดีว่าเบื้องหลังของดาวเดือนคู่ขวัญที่เพจดาวเดือนพยายามชง พยายามจิ้นนั้นเป็นคู่อริกัน มาเฟียกับนับดาวไม่ค่อยลงรอยกันมาตั้งแต่สมัยประกวดดาวเดือนเมื่อตอนปีหนึ่ง และรอยร้าวนั้นเจ้าตัวก็ไม่คิดจะปิดบัง ทั้งคู่มักจะแข่งขันและข่มกันเสมอเมื่อมีโอกาส ไม่มีใครรู้สาเหตุแน่ชัดถึงความขัดแย้งของทั้งคู่ เพราะถ้ามีใครถามว่าทำไมดาวเดือนปีนี้ไม่ถูกกัน คำตอบก็จะมีแค่ ‘ไม่ชอบหน้า’ เท่านั้น ซึ่งหลาย ๆ คนต่างลงชื่อสนับสนุนว่าช่างเป็นเหตุผลที่ไร้สาระสิ้นดี . . Mafia Part . ผมนั่งมองเพื่อนทั้งสามคนที่เลิกสนใจเรื่องของผมและหันไปพูดเรื่องของตัวเองกันอย่างออกรสแทน มันเป็นภาพแสนเคยชินที่เห็นทุกวันก่อนจะแยกย้ายกันไปเรียน เราทั้งสี่คนเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ยังไม่หย่านมแม่ เรียนด้วยกันมาตลอด แม้ช่วงมหาวิทยาลัยจะเลือกเรียนคนละคณะแต่ก็นัดเจอกันทุกวัน พูดถึงเรื่องเก็บตัวดาวเดือนแล้วผมก็ปวดหัว ไม่รู้ทำไมตอนนั้นถึงได้เอ่ยปากออกไปว่าจะยอมไปเก็บตัวกับน้อง ๆ ด้วยแบบนั้น หาเหาใส่หัวชัด ๆ ผมรู้ดีว่าที่ทางกองประกวดอยากเอาผมไปโปรโมทเพราะจะได้มีน้อง ๆ สนใจกิจกรรมนี้มากขึ้น พูดตรง ๆ ว่ากิจกรรมดาวเดือนสมัยนี้ค่อนข้างได้รับความนิยมน้อย หนุ่มสาวหน้าตาดีต่างไม่อยากลงประกวดเพราะหวงแหนความเป็นส่วนตัว บ้างก็แฟนหวง หลากหลายเหตุผลปนกันไป ทางกองประกวดจึงใช้ผมและนับดาว ดาวเดือนที่ได้รับความนิยมที่สุดเป็นตัวกระตุ้นให้กิจกรรมนี้ยังไม่ถูกทางมหาวิทยาลัยเท แต่ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องชวนผมและนับดาวไปต่างจังหวัดกับน้อง ๆ ด้วย ในเมื่อการเก็บตัวรอบนี้คือรอบสุดท้ายแล้ว ไม่จำเป็นต้องโปรโมทอะไรอีกแล้ว ครืด เสียงสั่นของอุปกรณ์สื่อสารในมือทำให้ผมละสายตาจากสามเพื่อนซี้ลงไปมอง ชื่อของคนที่ส่งข้อความมาทำให้ผมรีบปลดล็อกหน้าจอด้วยความรวดเร็ว ‘วันนี้ไม่ว่าง’ อ่านจบผมก็รีบพิมพ์ตอบจนนิ้วแทบพันกัน ’เมื่อวานก็ไม่ว่าง’ ’ก็คนมันไม่ว่าง อย่าเซ้าซี้’ ข้อความที่เหมือนรำคาญกันทำให้หัวผมเดือดปุ ๆ กล้าดียังไงถึงใช้คำว่าอย่าเซ้าซี้กับผมวะ ผู้คนส่วนมากจำภาพของมาเฟีย เดือนมหาวิทยาลัยตัวแทนจากคณะวิศวะว่าเป็นคนเย็นชา พูดน้อย ไม่สนใจใคร ซึ่งที่ทุกคนรู้มันไม่ได้ผิดไปมากนักหรอก ผมเป็นคนแบบนั้นแหละ นอกจากครอบครัวและเพื่อน ๆ ผมไม่เคยให้ความสนใจใคร ก็แค่เพื่อนร่วมโลก ไม่ได้มีความหมายอะไรกับผมอยู่แล้ว แต่ทุกอย่างมักมีข้อเย็นเว้นเสมอ...นั่นคือความจริงของโลกใบนี้ เพราะมีผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่ใช่คนในครอบครัว ไม่ใช่แม้แต่เพื่อน หนำซ้ำยังเป็นคู่อริกัน แต่กลับทำให้น้ำแข็งแบบผมร้อนเป็นไฟได้จากคำแค่ไม่กี่คำ 'งั้นถ้าฉันเอาคนอื่นมานอนด้วย เธอคงไม่ว่าอะไรใช่ปะ’ กดส่งไปแล้วผมก็จ้องมือถือแทบจะมุดเข้าไป แต่จนแล้วจนรอดข้อความก็ยังไม่ขึ้นว่าถูกอ่าน รออยู่หลายนาทีทุกอย่างก็ยังคงเงียบ และนั่นยิ่งทำให้ผมหัวร้อนขึ้นไปอีก ได้ ในเมื่อไม่สนใจกัน ฉันก็จะไม่สนใจเธออีกต่อไปแล้ว! Mafia Part. ‘ตามใจนายสิ’ นั่นคือประโยคสั้น ๆ ที่ผมได้รับหลังจากนั้นเกือบห้าชั่วโมง และเพราะประโยคนั้นตอนนี้ผมถึงได้มาอยู่ที่ผับของพี่ชายเนตั้น ข้างกายที่ไม่ได้มีใครจับจองมาหลายเดือนมีใครบางคนนั่งอยู่ หล่อนพยายามเอาอกเอาใจผมสารพัด ซึ่งผมก็หันไปคุยด้วยบางครั้งที่โดนตื้อมาก ๆ แต่เพราะกลิ่นน้ำหอมของเธอฉุนจนขึ้นสมองเหมือนแช่ด้วยน้ำหอมมาหลายปี ทำให้ผมไม่ค่อยถูกใจในตัวเธอมากนัก แม้รูปร่างหน้าตาจะตรงตามที่ชอบแค่ไหนก็ตาม “มาเฟียศีลแตกแล้วหรอวะ” ผมหันไปมองคนที่เพิ่งมาถึงด้วยสายตาเย็นชา ทำเป็นไม่รู้สึกอะไรเมื่อโดนแซว แหงล่ะ ผมไม่ได้ควงสาวมาหลายเดือนจนเพื่อน ๆ พากันเข้าใจว่าผมกำลังหันหน้าเข้าสู่ทางธรรม พวกมันเลยรวมหัวกันวางแผนชวนผมออกมาเที่ยวไม่เว้นอาทิตย์ โดยเฉพาะไอ้คริสที่พยายามหาสาวมาบริการผมตลอด ๆ ทั้ง ๆ ที่ผมบอกว่าไม่ต้องการ นี่ถ้าผมจะหันหน้าเข้าสู่ทางธรรมจริง ๆ ไม่ต้องเดาเลยว่าใครจะบาปหนาที่สุด พอมาวันนี้พวกมันเห็นผมนั่งอยู่ข้างผู้หญิงก็พากันล้อเลียน เล่นเอาสาวเจ้าเขินม้วนเพราะคิดว่าตัวเองมีเสน่ห์จนทำให้ผมหันกลับมาสนใจผู้หญิงได้ ซึ่งผมก็ไม่ใช่คนที่จะมานั่งปฏิเสธอะไรแบบนี้อยู่แล้วจ
Mafia Part . ผมยืนกอดอกรออีกฝ่ายอย่างใจเย็น ห้องน้ำที่นี่แบ่งแยกชายหญิงชัดเจนไม่ได้ห่างกันมากนักแต่ปลอดภัยกว่าที่อื่นหลายเท่า ช่วงเวลานี้มีคนเดินมาเข้าห้องน้ำประปราย แต่ถึงอย่างนั้นมีผู้หญิงหลายคนพยายามเข้ามาชวนคุยด้วย ผมไม่ได้ปฏิเสธแต่ก็ไม่ได้ตอบรับ เมื่อพวกเธอรู้สึกว่าสิ่งที่ทำมันไร้ประโยชน์ก็ยอมเดินจากไปเอง นี่คือวิธีรับมือผู้หญิงในแบบของผม ผู้ชายเย็นชาที่หลายคนคิดว่าน่าค้นหา แต่แท้จริงแล้วก็คือผู้ชายไร้ความรู้สึกและน่ารำคาญคนหนึ่งเท่านั้น ผู้หญิงที่ต้องการจะเข้ามาในโลกของผมส่วนมากมักจะทนไม่ไหวและเป็นฝ่ายถอยออกไปเอง เพราะฉะนั้นผมจึงเป็นคนเดียวในกลุ่มที่ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องผู้หญิงเท่าไหร่นัก ตึก ตึก ตึก รองเท้าส้นสูงสีน้ำเงินเข้มมาหยุดอยู่ตรงหน้าผม กลิ่นหอมจาง ๆ ที่แสนคุ้นเคยทำให้ผมรู้ทันทีว่าคนที่ยืนอยู่คือใครโดยไม่ต้องเงยหน้าขึ้นมอง “นายกำลังใช้วิธีสกปรกบังคับฉัน” “ฉันเปล่า” “แต่นายกำลังทำ!” ผมเงยหน้าขึ้นมองคนที่เริ่มอารมณ์เสีย นับดาวมีนิสัยคล้ายผมหลายอย่าง โดยเฉพาะเรื่องเก็บอารมณ์ทุกอย่างไว้ภายใต้ใบหน้านิ่งเรียบหรือบางครั้งก็เชิดรั้นถือดีนั้น ไม่บ่อยนักหรอกที่เธอจะแสดงค
Mafia Part.ผมละมืออกจากอกอวบอย่างเสียดาย แต่ความปวดหนึบที่กลางกายทำให้จำต้องห่างจากร่างบางเพื่อขับรถไปยังที่ที่เหมาะสมกว่านี้ ผมอุ้มนับดาวกลับไปที่เบาะของเธอ ก่อนจะคาดเข็มขัดนิรภัยให้คนที่ยังหายใจไม่เป็นปกติ แถมด้วยจุ๊บเบา ๆ ที่ริมฝีปากเจ่อนั้นหนึ่งทีจุ๊บ!“ส่งข้อความไปบอกพี่ ๆ เธอด้วย เดี๋ยวเขาจะตามหา”“อื้อ”พอนับดาวตอบเสียงแผ่วเบาในลำคอผมก็ออกรถทันที จุดมุ่งหมายคือคอนโดส่วนตัวที่พักหลังมานี้มีใครบางคนมาร่วมแชร์ที่นอนด้วยบ่อยครั้ง และนับดาวคือคนนั้น..คอนโด xxxปัง“อื้อ”เพียงประตูที่ปิดกั้นความเป็นส่วนตัวปิดลง ผมก็รีบครอบครองริมฝีปากอิ่มนั้นทันที กระเป๋าราคาแพงของนับดาวถูกเหวี่ยงตกกระจายอยู่บนพื้นไร้คนสนใจ ผมจูบเธออย่างเร้าร้อน ส่วนเธอก็จูบกลับมาอย่างร้อนแรงไม่ต่างกัน ท่าทีที่ดูชำนาญทั้ง ๆ ที่นอกจากผมเธอก็ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับใครอีกทำให้คนที่เทรนมากับมืออดภูมิอกภูมิใจไม่ได้เสื้อผ้าน้อยชิ้นของนับดาวลงไปกองอยู่ที่พื้นอย่างรวดเร็ว ผมมองร่างกายสวยงามที่มีแค่แพนตี้สีดำลายลูกไม้ปิดส่วนสำคัญไว้ด้วยความหลงใหล นับดาวเป็นผู้หญิงหน้าตาสะสวยที่มีร่างกายสุดแสนจะเพอร์เฟกต์แบบที่ผู้หญิงหลายค
Mafia Part.“ตรงนี้เลยเหรอ” นับดาวถามด้วยความไม่มั่นใจ ก็ไม่แปลกหรอกเพราะตอนนี้เรายังอยู่ที่ประตู เสื้อผ้าของผมยังอยู่ครบ มีแค่บางส่วนที่ถูกปล่อยออกมาอวดความยิ่งใหญ่เท่านั้น“ตรงนี้แหละ เฟียอยากลองท่ายืน” ผมตอบพร้อมเข้าประชิดตัวอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว เมื่อนับดาวเอ่ยปากจะประท้วงอีกครั้งผมจึงรีบปิดปากของเธอไว้ด้วยจูบที่ลึกล้ำ แขนหนึ่งข้างยกขาเรียวขึ้นเพื่อเปิดทางให้ตัวเอง รอจนนับดาวเริ่มเคลิ้มกับจูบจึงจับส่วนแข็งขืนเข้าไปทักทายความนุ่มนิ่มของเธอ“อืม”ผมจับเจ้าลูกชายถูไถลงบนยอดเกสรที่สั่นระริกจนเจ้าของยืนไม่ติด อดส่งเสียงครางเบา ๆ ในลำคอไม่ได้เมื่อรู้สึกเสียววูบที่ส่วนปลาย ความเปียกชื้นของเธอชโลมลงบนความแกร่งจนมันวาว เมื่อเริ่มรู้สึกว่าเส้นทางที่ต้องการจะเข้าไปสำรวจชุ่มฉ่ำเพียงพอแล้วจึงค่อย ๆ ดันตัวตนไปอย่างช้า ๆ“อ๊ะ เฟีย ช้า ๆ ก่อนนะ มันตึง” นับดาวหลับตาปี๋และเอ่ยบอกผมเสียงสั่น ผมเองก็รู้สึกเจ็บตึงที่ส่วนปลายอยู่ไม่น้อย แม้นับดาวจะเปียกลื่นและพรั่งพร้อมมากแค่ไหน แต่เส้นทางที่ไม่ได้ใช้งานมานานร่วมอาทิตย์ก็คับแคบเกินไปที่จะเข้าสำรวจได้อย่างเอาแต่ใจอยู่ดี“ดาวใจเย็น ๆ นะ เฟียจะไม่ดันแรง แต
Mafia Part.“ตรงนี้เลยเหรอ” นับดาวถามด้วยความไม่มั่นใจ ก็ไม่แปลกหรอกเพราะตอนนี้เรายังอยู่ที่ประตู เสื้อผ้าของผมยังอยู่ครบ มีแค่บางส่วนที่ถูกปล่อยออกมาอวดความยิ่งใหญ่เท่านั้น“ตรงนี้แหละ เฟียอยากลองท่ายืน” ผมตอบพร้อมเข้าประชิดตัวอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว เมื่อนับดาวเอ่ยปากจะประท้วงอีกครั้งผมจึงรีบปิดปากของเธอไว้ด้วยจูบที่ลึกล้ำ แขนหนึ่งข้างยกขาเรียวขึ้นเพื่อเปิดทางให้ตัวเอง รอจนนับดาวเริ่มเคลิ้มกับจูบจึงจับส่วนแข็งขืนเข้าไปทักทายความนุ่มนิ่มของเธอ“อืม”ผมจับเจ้าลูกชายถูไถลงบนยอดเกสรที่สั่นระริกจนเจ้าของยืนไม่ติด อดส่งเสียงครางเบา ๆ ในลำคอไม่ได้เมื่อรู้สึกเสียววูบที่ส่วนปลาย ความเปียกชื้นของเธอชโลมลงบนความแกร่งจนมันวาว เมื่อเริ่มรู้สึกว่าเส้นทางที่ต้องการจะเข้าไปสำรวจชุ่มฉ่ำเพียงพอแล้วจึงค่อย ๆ ดันตัวตนไปอย่างช้า ๆ“อ๊ะ เฟีย ช้า ๆ ก่อนนะ มันตึง” นับดาวหลับตาปี๋และเอ่ยบอกผมเสียงสั่น ผมเองก็รู้สึกเจ็บตึงที่ส่วนปลายอยู่ไม่น้อย แม้นับดาวจะเปียกลื่นและพรั่งพร้อมมากแค่ไหน แต่เส้นทางที่ไม่ได้ใช้งานมานานร่วมอาทิตย์ก็คับแคบเกินไปที่จะเข้าสำรวจได้อย่างเอาแต่ใจอยู่ดี“ดาวใจเย็น ๆ นะ เฟียจะไม่ดันแรง แต
Mafia Part.ผมละมืออกจากอกอวบอย่างเสียดาย แต่ความปวดหนึบที่กลางกายทำให้จำต้องห่างจากร่างบางเพื่อขับรถไปยังที่ที่เหมาะสมกว่านี้ ผมอุ้มนับดาวกลับไปที่เบาะของเธอ ก่อนจะคาดเข็มขัดนิรภัยให้คนที่ยังหายใจไม่เป็นปกติ แถมด้วยจุ๊บเบา ๆ ที่ริมฝีปากเจ่อนั้นหนึ่งทีจุ๊บ!“ส่งข้อความไปบอกพี่ ๆ เธอด้วย เดี๋ยวเขาจะตามหา”“อื้อ”พอนับดาวตอบเสียงแผ่วเบาในลำคอผมก็ออกรถทันที จุดมุ่งหมายคือคอนโดส่วนตัวที่พักหลังมานี้มีใครบางคนมาร่วมแชร์ที่นอนด้วยบ่อยครั้ง และนับดาวคือคนนั้น..คอนโด xxxปัง“อื้อ”เพียงประตูที่ปิดกั้นความเป็นส่วนตัวปิดลง ผมก็รีบครอบครองริมฝีปากอิ่มนั้นทันที กระเป๋าราคาแพงของนับดาวถูกเหวี่ยงตกกระจายอยู่บนพื้นไร้คนสนใจ ผมจูบเธออย่างเร้าร้อน ส่วนเธอก็จูบกลับมาอย่างร้อนแรงไม่ต่างกัน ท่าทีที่ดูชำนาญทั้ง ๆ ที่นอกจากผมเธอก็ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับใครอีกทำให้คนที่เทรนมากับมืออดภูมิอกภูมิใจไม่ได้เสื้อผ้าน้อยชิ้นของนับดาวลงไปกองอยู่ที่พื้นอย่างรวดเร็ว ผมมองร่างกายสวยงามที่มีแค่แพนตี้สีดำลายลูกไม้ปิดส่วนสำคัญไว้ด้วยความหลงใหล นับดาวเป็นผู้หญิงหน้าตาสะสวยที่มีร่างกายสุดแสนจะเพอร์เฟกต์แบบที่ผู้หญิงหลายค
Mafia Part . ผมยืนกอดอกรออีกฝ่ายอย่างใจเย็น ห้องน้ำที่นี่แบ่งแยกชายหญิงชัดเจนไม่ได้ห่างกันมากนักแต่ปลอดภัยกว่าที่อื่นหลายเท่า ช่วงเวลานี้มีคนเดินมาเข้าห้องน้ำประปราย แต่ถึงอย่างนั้นมีผู้หญิงหลายคนพยายามเข้ามาชวนคุยด้วย ผมไม่ได้ปฏิเสธแต่ก็ไม่ได้ตอบรับ เมื่อพวกเธอรู้สึกว่าสิ่งที่ทำมันไร้ประโยชน์ก็ยอมเดินจากไปเอง นี่คือวิธีรับมือผู้หญิงในแบบของผม ผู้ชายเย็นชาที่หลายคนคิดว่าน่าค้นหา แต่แท้จริงแล้วก็คือผู้ชายไร้ความรู้สึกและน่ารำคาญคนหนึ่งเท่านั้น ผู้หญิงที่ต้องการจะเข้ามาในโลกของผมส่วนมากมักจะทนไม่ไหวและเป็นฝ่ายถอยออกไปเอง เพราะฉะนั้นผมจึงเป็นคนเดียวในกลุ่มที่ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องผู้หญิงเท่าไหร่นัก ตึก ตึก ตึก รองเท้าส้นสูงสีน้ำเงินเข้มมาหยุดอยู่ตรงหน้าผม กลิ่นหอมจาง ๆ ที่แสนคุ้นเคยทำให้ผมรู้ทันทีว่าคนที่ยืนอยู่คือใครโดยไม่ต้องเงยหน้าขึ้นมอง “นายกำลังใช้วิธีสกปรกบังคับฉัน” “ฉันเปล่า” “แต่นายกำลังทำ!” ผมเงยหน้าขึ้นมองคนที่เริ่มอารมณ์เสีย นับดาวมีนิสัยคล้ายผมหลายอย่าง โดยเฉพาะเรื่องเก็บอารมณ์ทุกอย่างไว้ภายใต้ใบหน้านิ่งเรียบหรือบางครั้งก็เชิดรั้นถือดีนั้น ไม่บ่อยนักหรอกที่เธอจะแสดงค
Mafia Part. ‘ตามใจนายสิ’ นั่นคือประโยคสั้น ๆ ที่ผมได้รับหลังจากนั้นเกือบห้าชั่วโมง และเพราะประโยคนั้นตอนนี้ผมถึงได้มาอยู่ที่ผับของพี่ชายเนตั้น ข้างกายที่ไม่ได้มีใครจับจองมาหลายเดือนมีใครบางคนนั่งอยู่ หล่อนพยายามเอาอกเอาใจผมสารพัด ซึ่งผมก็หันไปคุยด้วยบางครั้งที่โดนตื้อมาก ๆ แต่เพราะกลิ่นน้ำหอมของเธอฉุนจนขึ้นสมองเหมือนแช่ด้วยน้ำหอมมาหลายปี ทำให้ผมไม่ค่อยถูกใจในตัวเธอมากนัก แม้รูปร่างหน้าตาจะตรงตามที่ชอบแค่ไหนก็ตาม “มาเฟียศีลแตกแล้วหรอวะ” ผมหันไปมองคนที่เพิ่งมาถึงด้วยสายตาเย็นชา ทำเป็นไม่รู้สึกอะไรเมื่อโดนแซว แหงล่ะ ผมไม่ได้ควงสาวมาหลายเดือนจนเพื่อน ๆ พากันเข้าใจว่าผมกำลังหันหน้าเข้าสู่ทางธรรม พวกมันเลยรวมหัวกันวางแผนชวนผมออกมาเที่ยวไม่เว้นอาทิตย์ โดยเฉพาะไอ้คริสที่พยายามหาสาวมาบริการผมตลอด ๆ ทั้ง ๆ ที่ผมบอกว่าไม่ต้องการ นี่ถ้าผมจะหันหน้าเข้าสู่ทางธรรมจริง ๆ ไม่ต้องเดาเลยว่าใครจะบาปหนาที่สุด พอมาวันนี้พวกมันเห็นผมนั่งอยู่ข้างผู้หญิงก็พากันล้อเลียน เล่นเอาสาวเจ้าเขินม้วนเพราะคิดว่าตัวเองมีเสน่ห์จนทำให้ผมหันกลับมาสนใจผู้หญิงได้ ซึ่งผมก็ไม่ใช่คนที่จะมานั่งปฏิเสธอะไรแบบนี้อยู่แล้วจ
“ไอ้เฟียหายหัวไปไหนวะ” ชายหนุ่มร่างสูงทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ตัวประจำ ก่อนจะเอ่ยถามออกมาเมื่อเห็นว่าเพื่อนที่นั่งหน้าสลอนอยู่มีไม่ครบคนอย่างที่เคย “โดนเรียกตัว” หนุ่มผมสีควันบุหรี่เป็นคนตอบคำถามนั้น แต่ดวงตาคมยังไม่ยอมละจากมือถือเครื่องโปรด “อีกแล้วเหรอ มันยอมไปหรือไงรอบนี้” “ไม่ยอมก็ต้องยอมแหละวะ คู่อริมันยอมไปง่าย ๆ ถ้าไอ้เฟียไม่ยอมไปก็หมาดิ” “ไอ้พวกแพ้ผู้หญิงไม่เป็น” “น้อยหน่อยไอ้คริส ใครจะยอมผู้หญิงเก่งเหมือนมึง โดยเฉพาะเวลาผู้หญิงขึ้น...” “นี่สถานศึกษา ไม่ควรพูดเรื่องอย่างว่านะครับคุณเควิล” “ผมหมายถึงอารมณ์ขึ้น แบบโกรธน่ะครับคุณเนตั้น มันเรื่องอย่างว่าตรงไหน หรือสมองคุณมึงมีแต่เรื่องพวกนี้” “ไอ้...” “ตีกันเป็นเด็ก ๆ อีกแล้วนะพวกมึง” เสียงที่สี่ดังขึ้น ทำให้สองหนุ่มที่กำลังจะเถียงกันต่อต้องเงียบเสียงลงและหันไปสนใจเจ้าของเสียงแทน “มาแล้วเหรอเฟีย” “ไม่มามั้งยืนหัวโด่อยู่เนี้ย” “หัวอะไรโด่วะ” คริสเอ่ยถามติดตลก ทำให้คนถูกถามอดไม่ได้ที่จะผลักไหล่แข็งนั่นแรง ๆ “กวนตีน” คำด่าไม่จริงจังนั้นทำให้ทั้งกลุ่มปล่อยเสียงหัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดี สาว ๆ ที่เดินผ่านไปมาอดหยุดมองไม่ได้ก