Mafia Part
. ‘ตามใจนายสิ’ นั่นคือประโยคสั้น ๆ ที่ผมได้รับหลังจากนั้นเกือบห้าชั่วโมง และเพราะประโยคนั้นตอนนี้ผมถึงได้มาอยู่ที่ผับของพี่ชายเนตั้น ข้างกายที่ไม่ได้มีใครจับจองมาหลายเดือนมีใครบางคนนั่งอยู่ หล่อนพยายามเอาอกเอาใจผมสารพัด ซึ่งผมก็หันไปคุยด้วยบางครั้งที่โดนตื้อมาก ๆ แต่เพราะกลิ่นน้ำหอมของเธอฉุนจนขึ้นสมองเหมือนแช่ด้วยน้ำหอมมาหลายปี ทำให้ผมไม่ค่อยถูกใจในตัวเธอมากนัก แม้รูปร่างหน้าตาจะตรงตามที่ชอบแค่ไหนก็ตาม “มาเฟียศีลแตกแล้วหรอวะ” ผมหันไปมองคนที่เพิ่งมาถึงด้วยสายตาเย็นชา ทำเป็นไม่รู้สึกอะไรเมื่อโดนแซว แหงล่ะ ผมไม่ได้ควงสาวมาหลายเดือนจนเพื่อน ๆ พากันเข้าใจว่าผมกำลังหันหน้าเข้าสู่ทางธรรม พวกมันเลยรวมหัวกันวางแผนชวนผมออกมาเที่ยวไม่เว้นอาทิตย์ โดยเฉพาะไอ้คริสที่พยายามหาสาวมาบริการผมตลอด ๆ ทั้ง ๆ ที่ผมบอกว่าไม่ต้องการ นี่ถ้าผมจะหันหน้าเข้าสู่ทางธรรมจริง ๆ ไม่ต้องเดาเลยว่าใครจะบาปหนาที่สุด พอมาวันนี้พวกมันเห็นผมนั่งอยู่ข้างผู้หญิงก็พากันล้อเลียน เล่นเอาสาวเจ้าเขินม้วนเพราะคิดว่าตัวเองมีเสน่ห์จนทำให้ผมหันกลับมาสนใจผู้หญิงได้ ซึ่งผมก็ไม่ใช่คนที่จะมานั่งปฏิเสธอะไรแบบนี้อยู่แล้วจึงปล่อยเลยตามเลย อยากคิดอะไรก็ช่าง เพราะความจริงมีเพียงแค่ผมเท่านั้นที่รู้ “แล้วนี่เนตั้นไปไหนวะ” “เห็นบอกจะเข้าไปคุยงานกับพี่ชายมัน ไปนานแล้วนะ ยังไม่ออกมาเลย” เควิลตอบพลางส่งสายตาไปที่ห้องทำงานชั้นบน เป็นการบอกว่าคนที่คริสถามหาอยู่บนนั้น ห้องทำงานของพี่ชายเนตั้นเป็นส่วนที่สามารถมองเห็นบรรยากาศทั้งร้านได้ แต่คนภายนอกมองขึ้นไปก็จะเห็นแค่กระจกดำ ๆ เท่านั้น “เออ เมื่อกี้กูเข้าผับมาพร้อมคู่อริมึงว่ะเฟีย” “ใคร” “คนไม่สนโลกแบบมึงมีอริกี่คนเชียว” คริสพูดพร้อมมองหน้าผมไปด้วยราวกับอยากจับผิด แต่คนแบบผมไม่มีทางหลุดอะไรออกไปง่าย ๆ สุดท้ายมันก็เลิกสนใจผมและหันไปมองหาเหยื่อสำหรับคืนนี้แทน ผมนั่งดื่มเงียบ ๆ น้อยครั้งที่จะหันไปคุยกับเพื่อนบ้าง คุยกับสาวที่อยู่ข้างกายบ้าง แต่เมื่อไหร่ที่คนอื่นเผลอผมมักจะมองไปรอบ ๆ ผับตลอด ไม่รู้ว่าทำไมถึงต้องทำแบบนั้น แต่ผมไม่สามารถบังคับร่างกายตัวเองได้ แต่มองเท่าไหร่ก็ไม่เจอคนที่ผมอยากเห็นแม้แต่ปลายผม ‘ไปอยู่ตรงไหน อย่าให้ฉันหาเธอเจอนะนับดาว’ ผมคาดโทษอีกฝ่ายไว้ในใจ ถ้าได้เจอเมื่อไหร่คงมีเรื่องต้องคุยกันยาว “เนตั้นมาละ” เสียงของเควิลทำให้ผมหันกลับมาสนใจเพื่อนอีกคนที่หายไปข้างบนเกือบชั่วโมง หน้าตาที่บอกบุญไม่รับนั้นทำให้ผมขมวดคิ้วด้วยความสงสัย แต่ก็ไม่ได้เอ่ยถามออกไปเพราะรู้ว่ายังไงเนตั้นก็ต้องเล่าอยู่ดี “หน้ามุ่ยเชียวมึง” คริสเอ่ยทักคนแรก เนตั้นทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้แรง ๆ ก่อนจะยกแก้วเหล้าที่สาว ๆ ชงให้เข้าปาก ไม่กี่อึดใจน้ำสีอำพันเต็มแก้วก็หายไปอย่างรวดเร็ว “แม่ง!” “เป็นไรวะ” “พี่กูจะแต่งเมีย” “อ้าว ก็เรื่องดีนี่หว่า ทำหน้ามุ่ยทำไม” “แต่งไม่ว่า แต่ดันต้องตามเมียไปอยู่ต่างจังหวัด และจะยกที่นี่ให้กูดูแทน” ว่าจบก็ยกเหล้าแก้วใหม่กรอกปากอีกครั้ง “กูไม่ได้อยากดูแลที่นี่ กูแค่ชอบมาเที่ยวมากินฟรี แต่ถ้าให้มานั่งบริหารแม่งไม่ใช่ทางกูป่าววะ พวกมึงก็รู้ดีว่ากูอารมณ์ร้อนแค่ไหน ขืนให้มาทำงานในที่แบบนี้ที่มีแต่คนเมาไม่พูดไม่รู้เรื่อง กูคงได้เอาขวดฟาดหัวแขกแตกรายวัน” เพื่อน ๆ ทุกคนได้แต่เออออและรับฟัง เพราะถึงแม้จะสนิทกันแค่ไหนแต่เรื่องของครอบครัวอีกฝ่ายยังไงก็ไม่ควรก้าวก่าย ผมนั่งมองคนที่นั่งกระดกเหล้าเข้าปากอยู่สักพัก เมื่อเห็นว่ามันเริ่มอารมณ์ดี และหันไปสนใจสาวข้างกายแล้วจึงเบนสายตาไปทั่วร้านอีกครั้งเพื่อหาคน ๆ เดิม และครั้งนี้ผมหาเธอเจอ ภาพคนคุ้นเคยที่ยักย้ายสะโพกไปมาเบา ๆ เรียกสายตาจากคนทั้งร้านได้เป็นอย่างดี หญิงสาวหน้าตาสวยเฉี่ยวราวกับดารา ทรวดทรงองค์เอวสวยงามราวกับพระเจ้าตั้งใจปั้น ถูกรัดจนเห็นส่วนเว้าส่วนโค้งด้วยชุดสีน้ำเงินน่าค้นหา แถมสีน้ำเงินนั่นยังขับผิวขาวราวกับน้ำนมให้ผ่องขึ้นจนสะดุดตา มือขวาเธอถือแก้วค็อกเทลรสชาติเบา ๆ สำหรับผู้หญิง ส่วนมือซ้ายเธอยกขึ้นเสยผมที่ดัดลอนจนสยายเต็มแผ่นหลัง มันฮอตจนผู้ชายหลายคนพาซี๊ดปากอยากได้ผู้หญิงคนนี้กลับไปนอนกกจนตัวสั่น หึ! ผมหันกลับมาสนใจเหล้าบนโต๊ะอย่างไม่สบอารมณ์ นี่หรอที่บอกว่าไม่ว่างของเธอ นับดาว “เฮ้ย นั่นนับดาวป่าววะ” เนตั้นเป็นอีกคนที่สังเกตเห็นผู้หญิงคนนั้น เสียงของมันทำให้ทั้งเพื่อนผมและสาว ๆ ในโต๊ะหันไปมอง “โอ้โห สุดยอด! ไม่เคยรู้เลยว่ายัยนั่นจะฮอตขนาดนี้” คริสผิวปากอย่างถูกใจ ทำให้ผมอดคิ้วกระตุกไม่ได้ “นับดาว เฮ้ ทางนี้” ผมรีบเงยหน้าทันทีเมื่อได้ยินเสียงไอ้คริสเรียกนับดาว เธอมองหาต้นเสียงสักพักก่อนจะส่งยิ้มบาง ๆ ให้ ไม่ได้มีท่าทีว่าจะเดินเข้ามาหาเสือผู้หญิงอย่างเพื่อนผมตามคำชวน แต่พอดวงตาของเธอสบเข้ากับดวงตาของผม ขาเรียวก็ยอมก้าวเดินช้า ๆ จนมาหยุดตรงหน้าโต๊ะของพวกเรา “มาเที่ยวหรอคริส” นับดาวทักทายไอ้ชั่วคริส(สรรพนามเริ่มเปลี่ยน)อย่างคุ้นเคย ทั้งสองไม่ได้สนิทกันหรอก แต่เพราะได้เจอกันบ้าง พูดคุยกันบ้างเวลาที่ผมไปทำกิจกรรมเดือนดาวและพวกเพื่อนชั่วตามไปส่องสาวสวย ๆ จึงทำให้คุ้นเคยกันพอสมควร ในพวกเราสี่คน นอกจากผม นับดาวน่าจะคุ้นเคยกับเนตั้นพอสมควร เพราะทั้งคู่เรียนคณะเดียวกัน แค่คนละเอก แต่ก็คงมีเดินสวนกันบ้างให้พอคุ้นหน้าคุ้นตา “เรามาทุกอาทิตย์อยู่แล้ว เพิ่งเคยเจอดาวนี่แหละ” “เรามาที่นี่ครั้งแรก เพื่อนอวยว่าดีเลยอยากมาลอง” “แล้วดีจริงไหมล่ะ” เนตันถามด้วยดวงตาระยิบระยับ ความหงุดหงิดที่มีหายไปทันทีเมื่อมีสาวสวยเดินเข้ามาหาถึงที่ เล่นเอาผู้ชายที่จ้องแมวสาวคนนี้เสียดายไปตาม ๆ กัน เพราะทุกคนรู้ดีว่าถ้าผู้ชายโต๊ะนี้สนใจผู้หญิงคนไหน...ไม่รอดซักราย “เราชอบนะ” “ผับเราเอง” “ไม่ค่อยเลยนะเนตั้น” เควิลเอ่ยแซวเพื่อนที่เมื่อกี้ยังบอกว่าไม่อยากดูแลที่นี่ แต่พอมีลูกค้าสวย ๆ ชมก็เปลี่ยนสีเร็วยิ่งกว่ากิ้งก่า “เจ๋งอะ อายุแค่นี้เอง มีกิจการใหญ่โตแล้ว” “จริง ๆ พี่เราดูแลหลัก ๆ แหละ แล้วนี่มากับใคร มานั่งกับพวกเราไหม รับรองว่าปลอดภัย” “มากับสายรหัสเราที่จบไปแล้วน่ะ” ปัง! ผมวางแก้วเหล้าลงแรง ๆ เมื่อได้ยินคำตอบนั้น นับดาวมากับสายรหัสที่จบไปแล้วก็เท่ากับว่าเธอมากับไอ้เมฆ พี่รหัสที่จ้องจะเอาน้องรหัสตัวเองทำเมีย! “เป็นอะไรของมึงวะ นับดาวตกใจหมด” “หึ” ผมหัวเราะในลำคอกับท่าทีเอาอกเอาใจนับดาวของไอ้คริส ก่อนจะหันไปสนใจสาวที่อยู่ข้างกาย กลั้นใจดึงเธอมาซุกไซร้ที่คอโดยไม่อายคนที่มองอยู่ “เฟียเขาคงไม่พอใจที่เรามาอยู่ตรงนี้ งั้นเราขอตัวก่อนนะ” “อย่าถือสามันเลย มันก็หมาบ้าแบบนี้แหละ” “เราชินแล้วล่ะ ไปนะ” ผมผละตัวออกจากดงน้ำหอมทันทีที่นับดาวเดินจากไป กลิ่นน้ำหอมที่ติดอยู่ปลายจมูกทำให้อยากจะอาเจียนให้ได้ ผมมองหน้าไอ้คริสอย่างคาดโทษที่เมื่อกี้หลอกด่าผมกับนับดาว ก่อนจะหยิบมือถือเครื่องหรูออกจากกระเป๋าและพิมพ์ข้อความส่งให้ใครบางคน คำว่า Read ที่แสดงให้เห็นว่าปลายทางได้อ่านแล้วทำให้ผมกระตุกยิ้ม ‘มาหาฉันที่หน้าห้องน้ำ ไม่อย่างนั้นทุกคนได้รู้แน่ว่าเราเป็นอะไรกัน’Mafia Part . ผมยืนกอดอกรออีกฝ่ายอย่างใจเย็น ห้องน้ำที่นี่แบ่งแยกชายหญิงชัดเจนไม่ได้ห่างกันมากนักแต่ปลอดภัยกว่าที่อื่นหลายเท่า ช่วงเวลานี้มีคนเดินมาเข้าห้องน้ำประปราย แต่ถึงอย่างนั้นมีผู้หญิงหลายคนพยายามเข้ามาชวนคุยด้วย ผมไม่ได้ปฏิเสธแต่ก็ไม่ได้ตอบรับ เมื่อพวกเธอรู้สึกว่าสิ่งที่ทำมันไร้ประโยชน์ก็ยอมเดินจากไปเอง นี่คือวิธีรับมือผู้หญิงในแบบของผม ผู้ชายเย็นชาที่หลายคนคิดว่าน่าค้นหา แต่แท้จริงแล้วก็คือผู้ชายไร้ความรู้สึกและน่ารำคาญคนหนึ่งเท่านั้น ผู้หญิงที่ต้องการจะเข้ามาในโลกของผมส่วนมากมักจะทนไม่ไหวและเป็นฝ่ายถอยออกไปเอง เพราะฉะนั้นผมจึงเป็นคนเดียวในกลุ่มที่ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องผู้หญิงเท่าไหร่นัก ตึก ตึก ตึก รองเท้าส้นสูงสีน้ำเงินเข้มมาหยุดอยู่ตรงหน้าผม กลิ่นหอมจาง ๆ ที่แสนคุ้นเคยทำให้ผมรู้ทันทีว่าคนที่ยืนอยู่คือใครโดยไม่ต้องเงยหน้าขึ้นมอง “นายกำลังใช้วิธีสกปรกบังคับฉัน” “ฉันเปล่า” “แต่นายกำลังทำ!” ผมเงยหน้าขึ้นมองคนที่เริ่มอารมณ์เสีย นับดาวมีนิสัยคล้ายผมหลายอย่าง โดยเฉพาะเรื่องเก็บอารมณ์ทุกอย่างไว้ภายใต้ใบหน้านิ่งเรียบหรือบางครั้งก็เชิดรั้นถือดีนั้น ไม่บ่อยนักหรอกที่เธอจะแสดงค
Mafia Part.ผมละมืออกจากอกอวบอย่างเสียดาย แต่ความปวดหนึบที่กลางกายทำให้จำต้องห่างจากร่างบางเพื่อขับรถไปยังที่ที่เหมาะสมกว่านี้ ผมอุ้มนับดาวกลับไปที่เบาะของเธอ ก่อนจะคาดเข็มขัดนิรภัยให้คนที่ยังหายใจไม่เป็นปกติ แถมด้วยจุ๊บเบา ๆ ที่ริมฝีปากเจ่อนั้นหนึ่งทีจุ๊บ!“ส่งข้อความไปบอกพี่ ๆ เธอด้วย เดี๋ยวเขาจะตามหา”“อื้อ”พอนับดาวตอบเสียงแผ่วเบาในลำคอผมก็ออกรถทันที จุดมุ่งหมายคือคอนโดส่วนตัวที่พักหลังมานี้มีใครบางคนมาร่วมแชร์ที่นอนด้วยบ่อยครั้ง และนับดาวคือคนนั้น..คอนโด xxxปัง“อื้อ”เพียงประตูที่ปิดกั้นความเป็นส่วนตัวปิดลง ผมก็รีบครอบครองริมฝีปากอิ่มนั้นทันที กระเป๋าราคาแพงของนับดาวถูกเหวี่ยงตกกระจายอยู่บนพื้นไร้คนสนใจ ผมจูบเธออย่างเร้าร้อน ส่วนเธอก็จูบกลับมาอย่างร้อนแรงไม่ต่างกัน ท่าทีที่ดูชำนาญทั้ง ๆ ที่นอกจากผมเธอก็ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับใครอีกทำให้คนที่เทรนมากับมืออดภูมิอกภูมิใจไม่ได้เสื้อผ้าน้อยชิ้นของนับดาวลงไปกองอยู่ที่พื้นอย่างรวดเร็ว ผมมองร่างกายสวยงามที่มีแค่แพนตี้สีดำลายลูกไม้ปิดส่วนสำคัญไว้ด้วยความหลงใหล นับดาวเป็นผู้หญิงหน้าตาสะสวยที่มีร่างกายสุดแสนจะเพอร์เฟกต์แบบที่ผู้หญิงหลายค
Mafia Part.“ตรงนี้เลยเหรอ” นับดาวถามด้วยความไม่มั่นใจ ก็ไม่แปลกหรอกเพราะตอนนี้เรายังอยู่ที่ประตู เสื้อผ้าของผมยังอยู่ครบ มีแค่บางส่วนที่ถูกปล่อยออกมาอวดความยิ่งใหญ่เท่านั้น“ตรงนี้แหละ เฟียอยากลองท่ายืน” ผมตอบพร้อมเข้าประชิดตัวอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว เมื่อนับดาวเอ่ยปากจะประท้วงอีกครั้งผมจึงรีบปิดปากของเธอไว้ด้วยจูบที่ลึกล้ำ แขนหนึ่งข้างยกขาเรียวขึ้นเพื่อเปิดทางให้ตัวเอง รอจนนับดาวเริ่มเคลิ้มกับจูบจึงจับส่วนแข็งขืนเข้าไปทักทายความนุ่มนิ่มของเธอ“อืม”ผมจับเจ้าลูกชายถูไถลงบนยอดเกสรที่สั่นระริกจนเจ้าของยืนไม่ติด อดส่งเสียงครางเบา ๆ ในลำคอไม่ได้เมื่อรู้สึกเสียววูบที่ส่วนปลาย ความเปียกชื้นของเธอชโลมลงบนความแกร่งจนมันวาว เมื่อเริ่มรู้สึกว่าเส้นทางที่ต้องการจะเข้าไปสำรวจชุ่มฉ่ำเพียงพอแล้วจึงค่อย ๆ ดันตัวตนไปอย่างช้า ๆ“อ๊ะ เฟีย ช้า ๆ ก่อนนะ มันตึง” นับดาวหลับตาปี๋และเอ่ยบอกผมเสียงสั่น ผมเองก็รู้สึกเจ็บตึงที่ส่วนปลายอยู่ไม่น้อย แม้นับดาวจะเปียกลื่นและพรั่งพร้อมมากแค่ไหน แต่เส้นทางที่ไม่ได้ใช้งานมานานร่วมอาทิตย์ก็คับแคบเกินไปที่จะเข้าสำรวจได้อย่างเอาแต่ใจอยู่ดี“ดาวใจเย็น ๆ นะ เฟียจะไม่ดันแรง แต
“ไอ้เฟียหายหัวไปไหนวะ” ชายหนุ่มร่างสูงทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ตัวประจำ ก่อนจะเอ่ยถามออกมาเมื่อเห็นว่าเพื่อนที่นั่งหน้าสลอนอยู่มีไม่ครบคนอย่างที่เคย “โดนเรียกตัว” หนุ่มผมสีควันบุหรี่เป็นคนตอบคำถามนั้น แต่ดวงตาคมยังไม่ยอมละจากมือถือเครื่องโปรด “อีกแล้วเหรอ มันยอมไปหรือไงรอบนี้” “ไม่ยอมก็ต้องยอมแหละวะ คู่อริมันยอมไปง่าย ๆ ถ้าไอ้เฟียไม่ยอมไปก็หมาดิ” “ไอ้พวกแพ้ผู้หญิงไม่เป็น” “น้อยหน่อยไอ้คริส ใครจะยอมผู้หญิงเก่งเหมือนมึง โดยเฉพาะเวลาผู้หญิงขึ้น...” “นี่สถานศึกษา ไม่ควรพูดเรื่องอย่างว่านะครับคุณเควิล” “ผมหมายถึงอารมณ์ขึ้น แบบโกรธน่ะครับคุณเนตั้น มันเรื่องอย่างว่าตรงไหน หรือสมองคุณมึงมีแต่เรื่องพวกนี้” “ไอ้...” “ตีกันเป็นเด็ก ๆ อีกแล้วนะพวกมึง” เสียงที่สี่ดังขึ้น ทำให้สองหนุ่มที่กำลังจะเถียงกันต่อต้องเงียบเสียงลงและหันไปสนใจเจ้าของเสียงแทน “มาแล้วเหรอเฟีย” “ไม่มามั้งยืนหัวโด่อยู่เนี้ย” “หัวอะไรโด่วะ” คริสเอ่ยถามติดตลก ทำให้คนถูกถามอดไม่ได้ที่จะผลักไหล่แข็งนั่นแรง ๆ “กวนตีน” คำด่าไม่จริงจังนั้นทำให้ทั้งกลุ่มปล่อยเสียงหัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดี สาว ๆ ที่เดินผ่านไปมาอดหยุดมองไม่ได้ก
Mafia Part.“ตรงนี้เลยเหรอ” นับดาวถามด้วยความไม่มั่นใจ ก็ไม่แปลกหรอกเพราะตอนนี้เรายังอยู่ที่ประตู เสื้อผ้าของผมยังอยู่ครบ มีแค่บางส่วนที่ถูกปล่อยออกมาอวดความยิ่งใหญ่เท่านั้น“ตรงนี้แหละ เฟียอยากลองท่ายืน” ผมตอบพร้อมเข้าประชิดตัวอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว เมื่อนับดาวเอ่ยปากจะประท้วงอีกครั้งผมจึงรีบปิดปากของเธอไว้ด้วยจูบที่ลึกล้ำ แขนหนึ่งข้างยกขาเรียวขึ้นเพื่อเปิดทางให้ตัวเอง รอจนนับดาวเริ่มเคลิ้มกับจูบจึงจับส่วนแข็งขืนเข้าไปทักทายความนุ่มนิ่มของเธอ“อืม”ผมจับเจ้าลูกชายถูไถลงบนยอดเกสรที่สั่นระริกจนเจ้าของยืนไม่ติด อดส่งเสียงครางเบา ๆ ในลำคอไม่ได้เมื่อรู้สึกเสียววูบที่ส่วนปลาย ความเปียกชื้นของเธอชโลมลงบนความแกร่งจนมันวาว เมื่อเริ่มรู้สึกว่าเส้นทางที่ต้องการจะเข้าไปสำรวจชุ่มฉ่ำเพียงพอแล้วจึงค่อย ๆ ดันตัวตนไปอย่างช้า ๆ“อ๊ะ เฟีย ช้า ๆ ก่อนนะ มันตึง” นับดาวหลับตาปี๋และเอ่ยบอกผมเสียงสั่น ผมเองก็รู้สึกเจ็บตึงที่ส่วนปลายอยู่ไม่น้อย แม้นับดาวจะเปียกลื่นและพรั่งพร้อมมากแค่ไหน แต่เส้นทางที่ไม่ได้ใช้งานมานานร่วมอาทิตย์ก็คับแคบเกินไปที่จะเข้าสำรวจได้อย่างเอาแต่ใจอยู่ดี“ดาวใจเย็น ๆ นะ เฟียจะไม่ดันแรง แต
Mafia Part.ผมละมืออกจากอกอวบอย่างเสียดาย แต่ความปวดหนึบที่กลางกายทำให้จำต้องห่างจากร่างบางเพื่อขับรถไปยังที่ที่เหมาะสมกว่านี้ ผมอุ้มนับดาวกลับไปที่เบาะของเธอ ก่อนจะคาดเข็มขัดนิรภัยให้คนที่ยังหายใจไม่เป็นปกติ แถมด้วยจุ๊บเบา ๆ ที่ริมฝีปากเจ่อนั้นหนึ่งทีจุ๊บ!“ส่งข้อความไปบอกพี่ ๆ เธอด้วย เดี๋ยวเขาจะตามหา”“อื้อ”พอนับดาวตอบเสียงแผ่วเบาในลำคอผมก็ออกรถทันที จุดมุ่งหมายคือคอนโดส่วนตัวที่พักหลังมานี้มีใครบางคนมาร่วมแชร์ที่นอนด้วยบ่อยครั้ง และนับดาวคือคนนั้น..คอนโด xxxปัง“อื้อ”เพียงประตูที่ปิดกั้นความเป็นส่วนตัวปิดลง ผมก็รีบครอบครองริมฝีปากอิ่มนั้นทันที กระเป๋าราคาแพงของนับดาวถูกเหวี่ยงตกกระจายอยู่บนพื้นไร้คนสนใจ ผมจูบเธออย่างเร้าร้อน ส่วนเธอก็จูบกลับมาอย่างร้อนแรงไม่ต่างกัน ท่าทีที่ดูชำนาญทั้ง ๆ ที่นอกจากผมเธอก็ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับใครอีกทำให้คนที่เทรนมากับมืออดภูมิอกภูมิใจไม่ได้เสื้อผ้าน้อยชิ้นของนับดาวลงไปกองอยู่ที่พื้นอย่างรวดเร็ว ผมมองร่างกายสวยงามที่มีแค่แพนตี้สีดำลายลูกไม้ปิดส่วนสำคัญไว้ด้วยความหลงใหล นับดาวเป็นผู้หญิงหน้าตาสะสวยที่มีร่างกายสุดแสนจะเพอร์เฟกต์แบบที่ผู้หญิงหลายค
Mafia Part . ผมยืนกอดอกรออีกฝ่ายอย่างใจเย็น ห้องน้ำที่นี่แบ่งแยกชายหญิงชัดเจนไม่ได้ห่างกันมากนักแต่ปลอดภัยกว่าที่อื่นหลายเท่า ช่วงเวลานี้มีคนเดินมาเข้าห้องน้ำประปราย แต่ถึงอย่างนั้นมีผู้หญิงหลายคนพยายามเข้ามาชวนคุยด้วย ผมไม่ได้ปฏิเสธแต่ก็ไม่ได้ตอบรับ เมื่อพวกเธอรู้สึกว่าสิ่งที่ทำมันไร้ประโยชน์ก็ยอมเดินจากไปเอง นี่คือวิธีรับมือผู้หญิงในแบบของผม ผู้ชายเย็นชาที่หลายคนคิดว่าน่าค้นหา แต่แท้จริงแล้วก็คือผู้ชายไร้ความรู้สึกและน่ารำคาญคนหนึ่งเท่านั้น ผู้หญิงที่ต้องการจะเข้ามาในโลกของผมส่วนมากมักจะทนไม่ไหวและเป็นฝ่ายถอยออกไปเอง เพราะฉะนั้นผมจึงเป็นคนเดียวในกลุ่มที่ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องผู้หญิงเท่าไหร่นัก ตึก ตึก ตึก รองเท้าส้นสูงสีน้ำเงินเข้มมาหยุดอยู่ตรงหน้าผม กลิ่นหอมจาง ๆ ที่แสนคุ้นเคยทำให้ผมรู้ทันทีว่าคนที่ยืนอยู่คือใครโดยไม่ต้องเงยหน้าขึ้นมอง “นายกำลังใช้วิธีสกปรกบังคับฉัน” “ฉันเปล่า” “แต่นายกำลังทำ!” ผมเงยหน้าขึ้นมองคนที่เริ่มอารมณ์เสีย นับดาวมีนิสัยคล้ายผมหลายอย่าง โดยเฉพาะเรื่องเก็บอารมณ์ทุกอย่างไว้ภายใต้ใบหน้านิ่งเรียบหรือบางครั้งก็เชิดรั้นถือดีนั้น ไม่บ่อยนักหรอกที่เธอจะแสดงค
Mafia Part. ‘ตามใจนายสิ’ นั่นคือประโยคสั้น ๆ ที่ผมได้รับหลังจากนั้นเกือบห้าชั่วโมง และเพราะประโยคนั้นตอนนี้ผมถึงได้มาอยู่ที่ผับของพี่ชายเนตั้น ข้างกายที่ไม่ได้มีใครจับจองมาหลายเดือนมีใครบางคนนั่งอยู่ หล่อนพยายามเอาอกเอาใจผมสารพัด ซึ่งผมก็หันไปคุยด้วยบางครั้งที่โดนตื้อมาก ๆ แต่เพราะกลิ่นน้ำหอมของเธอฉุนจนขึ้นสมองเหมือนแช่ด้วยน้ำหอมมาหลายปี ทำให้ผมไม่ค่อยถูกใจในตัวเธอมากนัก แม้รูปร่างหน้าตาจะตรงตามที่ชอบแค่ไหนก็ตาม “มาเฟียศีลแตกแล้วหรอวะ” ผมหันไปมองคนที่เพิ่งมาถึงด้วยสายตาเย็นชา ทำเป็นไม่รู้สึกอะไรเมื่อโดนแซว แหงล่ะ ผมไม่ได้ควงสาวมาหลายเดือนจนเพื่อน ๆ พากันเข้าใจว่าผมกำลังหันหน้าเข้าสู่ทางธรรม พวกมันเลยรวมหัวกันวางแผนชวนผมออกมาเที่ยวไม่เว้นอาทิตย์ โดยเฉพาะไอ้คริสที่พยายามหาสาวมาบริการผมตลอด ๆ ทั้ง ๆ ที่ผมบอกว่าไม่ต้องการ นี่ถ้าผมจะหันหน้าเข้าสู่ทางธรรมจริง ๆ ไม่ต้องเดาเลยว่าใครจะบาปหนาที่สุด พอมาวันนี้พวกมันเห็นผมนั่งอยู่ข้างผู้หญิงก็พากันล้อเลียน เล่นเอาสาวเจ้าเขินม้วนเพราะคิดว่าตัวเองมีเสน่ห์จนทำให้ผมหันกลับมาสนใจผู้หญิงได้ ซึ่งผมก็ไม่ใช่คนที่จะมานั่งปฏิเสธอะไรแบบนี้อยู่แล้วจ
“ไอ้เฟียหายหัวไปไหนวะ” ชายหนุ่มร่างสูงทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ตัวประจำ ก่อนจะเอ่ยถามออกมาเมื่อเห็นว่าเพื่อนที่นั่งหน้าสลอนอยู่มีไม่ครบคนอย่างที่เคย “โดนเรียกตัว” หนุ่มผมสีควันบุหรี่เป็นคนตอบคำถามนั้น แต่ดวงตาคมยังไม่ยอมละจากมือถือเครื่องโปรด “อีกแล้วเหรอ มันยอมไปหรือไงรอบนี้” “ไม่ยอมก็ต้องยอมแหละวะ คู่อริมันยอมไปง่าย ๆ ถ้าไอ้เฟียไม่ยอมไปก็หมาดิ” “ไอ้พวกแพ้ผู้หญิงไม่เป็น” “น้อยหน่อยไอ้คริส ใครจะยอมผู้หญิงเก่งเหมือนมึง โดยเฉพาะเวลาผู้หญิงขึ้น...” “นี่สถานศึกษา ไม่ควรพูดเรื่องอย่างว่านะครับคุณเควิล” “ผมหมายถึงอารมณ์ขึ้น แบบโกรธน่ะครับคุณเนตั้น มันเรื่องอย่างว่าตรงไหน หรือสมองคุณมึงมีแต่เรื่องพวกนี้” “ไอ้...” “ตีกันเป็นเด็ก ๆ อีกแล้วนะพวกมึง” เสียงที่สี่ดังขึ้น ทำให้สองหนุ่มที่กำลังจะเถียงกันต่อต้องเงียบเสียงลงและหันไปสนใจเจ้าของเสียงแทน “มาแล้วเหรอเฟีย” “ไม่มามั้งยืนหัวโด่อยู่เนี้ย” “หัวอะไรโด่วะ” คริสเอ่ยถามติดตลก ทำให้คนถูกถามอดไม่ได้ที่จะผลักไหล่แข็งนั่นแรง ๆ “กวนตีน” คำด่าไม่จริงจังนั้นทำให้ทั้งกลุ่มปล่อยเสียงหัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดี สาว ๆ ที่เดินผ่านไปมาอดหยุดมองไม่ได้ก