คืนแรกของการมีสมาชิกใหม่พลอยทำให้โตนอนไม่หลับตามไปด้วย จนย่าใหญ่ต้องมานอนเป็นเพื่อน เพื่อสอนเรื่องการดูแลเจ้าตัวเล็ก นั่นเพราะตอนนี้แสงจันทร์ต้องพักผ่อนให้มากๆ สองสามวันก็จะได้อยู่ไฟส่วนอีกคู่ที่นอนไม่หลับคือเพลงขวัญและอชิ ที่ต่างนอนกลิ้งไปกลิ้งมากันอยู่บนที่นอนของตัวเอง เพราะภาพเหตุการณ์วันนี้ต่างติดตาพวกเขาอยู่“นอนไม่หลับหรือคุณ”“อื้อ...นึกถึงเรื่องวันนี้แล้วก็กลัวไม่หาย กลัวจนไม่อยากมีลูก”“ไม่ได้” จู่ๆ อชิก็เอ่ยขึ้น แต่เพราะมัวคิดเรื่องอื่นอยู่ เพลงขวัญจึงได้ยินไม่ค่อยชัด“อะไรนะ ตะกี้คุณพูดว่าอะไร”“เปล่า ผมไม่ได้พูดอะไร” คนเผลอพูดรีบแก้ต่างทันที ซึ่งก็ไม่รู้ตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงรีบแย้งเสียขนาดนั้น“ถ้าผู้ชายท้องได้ก็คงดี”“ผู้ชายเราถ้าหากท้องแทนได้ก็คงทำไปแล้ว”“เฮ้อ! ยาก”“ไหนๆ ก็นอนไม่หลับแบบ
ดึกสงัดของค่ำคืนเดือนแรม ร่างบอบบางกำลังนอนกระสับกระส่ายไปมาอยู่บนเตียง สีหน้าของเธอแม้จะหลับอยู่แต่ก็บ่งบอกได้ถึงความหวาดกลัวคิ้วสวยได้รูปขมวดเข้าหากันจนแทบจะผูกเป็นโบ เหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดขึ้นตามไรผมจนเปียกชื้นไปทั้งหน้า แม้ตอนนี้อุณหภูมิในห้องนอนจะถูกตั้งไว้ที่ยี่สิบห้าองศาก็ตามที เสียงหายใจหอบเหนื่อยดังขึ้นให้ได้ยินเป็นระยะๆ มือเรียวขย้ำขยี้ผ้าปูที่นอนจนยับยู่ยี่ พร้อมกับขาที่ยกสูงแล้วปัดป่ายไปมาราวกับว่าในความฝันเวลานี้เธอนั้นกำลังต่อสู้อยู่กับใคร แล้วจู่ๆ ร่างบอบบางก็มีเหตุให้ลุกพรวดพราดขึ้นจากเตียงนุ่ม เปลี่ยนจากท่านอนมาเป็นท่ายืนพร้อมตั้งการ์ดเตรียมพร้อม “ตายเสียเถอะไอ้งูบ้า” แม้จะงัวเงียแถมเวลานี้ดวงตาก็ยังไม่ลืมเสียด้วยซ้ำ อาการของเธอนั้นช่างคล้ายกับคนละเมอ แต่เสียงที่เปล่งออกมานั้นกลับฟังชัด ก่อนจะกระทืบหมอนข้างอันโปรดสุดแรงเสียหลายครั้ง เพราะคิดว่าหมอนนั่นคืองูยักษ์สีแดงที่เลื้อยไล่ตามหลังเธอมาไม่ห่าง กระทั่งพอใจก็ล้มตัวลงนอนราวกับว่าก่อนหน้านี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้นใบหน้าสวยหวานพริ้มเพราะกำลังฝันดี ฝันว่าเธอกำลังนั่งเล่นอยู่ริมน้ำตกที่ไหนสักแห่ง แต่นั่นก็เพียงไม่นาน เพราะจู่ๆ
“ตื่นแล้วเหรอไหม” น้ำเสียงอบอุ่นของผู้เป็นแม่เอ่ยถามขึ้น เมื่อเห็นลูกสาวเพียงคนเดียวเดินเข้ามาในห้องทานอาหารของบ้าน“ค่ะ”“ทำไมหน้าตาดูไม่สดชื่นแบบนั้นล่ะลูก นอนไม่หลับเหรอ”“ฝันร้ายนิดหน่อยนะคะแม่ไหมเลยหลับไม่ค่อยสนิท” เพลงขวัญเอ่ยบอกถึงสาเหตุที่เช้านี้ทำให้เธอตาโรยขอบตาคล้ำเป็นหมีแพนด้า ขนาดใช้คอนซีลเลอร์ปกปิดไว้ก็แทบจะเอาไม่อยู่ “งั้นก็กลับขึ้นไปนอนก่อนดีมั้ยลูก”“ไม่ได้ค่ะ เช้านี้ไหมมีประชุมงานกับลูกค้า” เพลงขวัญบอกปัด นั่นเพราะเธอก็อยากนอนต่อใจจะขาด แต่ทำไม่ได้“พูดถึงเรื่องงาน เมื่อไหร่จะพร้อมเข้ามาช่วยงานพ่อที่บริษัท” เสียงของผู้เป็นพ่อเอ่ยขึ้น นั่นเพราะไม่ค่อยชอบใจงานของลูกสาวที่ทำอยู่ตอนนี้สักเท่าไหร่ บอกว่าไปช่วยงานเพื่อน บริษัทของเพื่อนแท้ๆ แทนที่จะให้ตำแหน่งใหญ่โตแต่กลับไปเป็นแค่เซลล์ วิ่งเหนือล่องใต้อยู่แบบนี้แทบจะตลอดเวลา บางครั้งก็เห็นบินไปทำงานต่างประเทศ หาประสบการณ์มันก็ดี แต่งานที่ทำมันอาจไม่เหมาะกับเพลงขวัญก็เป็นได้ “ขอเวลาไหมทำงานเก็บเกี่ยวประสบการณ์ที่บริษัทเพื่อนอีกสักปีสองปีก่อนนะคะพ่อ รับรองว่าไหมเข้าไปช่วยงานพ่อที่บริษัทแน่นอนค่ะ”“นานไป เพราะตอนนี้พ่อ…” ยัง
“ฉันไม่เข้าใจ ทำไมพ่อกับแม่ถึงทำกับฉันแบบนี้” พึมพำไปเพลงขวัญก็ร้องไห้ไปด้วย เธอร้องไห้หนักมากจนตาบวมทั้งสองข้างแถมวันนี้ก็ยังขอลางานกะทันหันแล้วขับรถมุ่งหน้ามาหานรากรที่คอนโดมิเนียมเพื่อปรับทุกข์“ใจเย็นๆ ก่อนนะแกนะ เอ้านี่...ทิชชู” เอ่ยจบนรากรก็ยื่นทิชชูให้ เธอเองก็ช็อกไม่น้อยที่จู่ๆ เพื่อนมาหาพร้อมกับบอกว่าถูกผู้ใหญ่จับคลุมถุงชน ต้องแต่งงานในอีกไม่ช้านี้แล้ว จากที่ง่วงๆ เธอถึงกับตื่นทันที“ขอบใจ” ทันทีที่รับมา เพลงขวัญก็ใช้งานทันที ปู๊ดดดดเสียงสั่งน้ำมูกยาวเป็นจังหวะ ก่อนที่เพลงขวัญจะรีบเช็ดแล้วโยนกระดาษลงในถังขยะขนาดย่อม ที่เวลานี้เต็มไปด้วยทิชชูที่เปียกทั้งน้ำตา น้ำมูก“แกนี่ก็ฝันแม่น ทำไมไม่ฝันถึงหวยบ้าง จะได้ขอ” นรากรตั้งใจเปลี่ยนอารมณ์เพื่อนสนิท ด้วยการเอ่ยเรื่องนี้ในแนวติดตลก“พูดถึงฝัน เมื่อคืนเราก็ฝันเห็นงูยักษ์สีแดงตัวนั้นอีกแล้ว ขนาดฆ่าจนตายไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ สุดท้ายมันก็ฉกเราจนได้”“ถึงบอกตั้งแต่แรกแล้วไงว่าแกจะได้เจอเนื้อคู่” คนข้างๆ ยักคิ้วให้ แม้วิธีการเจอมันจะมัดมือชกจากผู้ใหญ่ไปบ้าง แต่กลับมีอะไรบางอย่างบอกนรากรว่าเนื้อคู่ของเพลงขวัญคือคนดีคนหนึ่ง ไม่อย่างนั้นพ
“ถ้าทุกอย่างฟ้ากำหนดไว้แล้ว มันก็เปลี่ยนยาก” นรากรถอนหายใจออกมาเบาๆ นั่นเพราะฟ้าที่ว่าคือบุพการีไม่ใช่คนอื่นเลยนี่นา “เรานี่แหละจะเป็นคนเปลี่ยนฟ้าเอง คอยดู”“ยังไง ไหนเล่าแผนมาซิ” เพราะอยากรู้ว่าเพลงขวัญคิดจะทำอะไร นรากรจึงเอ่ยถามขึ้น เพลงขวัญก้มมองรองเท้าที่สวมอยู่ตอนนี้แล้วเอ่ยยิ้มๆ ออกมา“ไว้จะเล่าวันนั้น...โอเค้”“โอเค” นรากรยิ้มให้ และเข้าใจคำว่าวันนั้นได้ไม่ยาก เพราะมันคือวันแต่งงานของเพลงขวัญกับ...ผู้ชายคนนั้นนั่นเอง “เฮ้อ! ชีวิตเรามันจะมีอะไรดีๆ กับเขาบ้างมั้ยนะ”“มีสิ ต้องมี”“เฮ้อ!” เพลงขวัญถอนหายใจออกมาหนักๆ เหลือเวลาอีกแค่เดือนเดียวก็ต้องแต่งงานแล้ว แค่คิดใจมันก็ห่อเหี่ยว จนทุกอย่างรอบตัวเวลานี้พลอยหม่นตามไปด้วย จะว่าไปทันทีที่รู้ว่าต้องแต่งงานเธอก็แทบไม่ฝันถึงงูยักษ์สีแดงนั่นอีกเลย คิดแล้วก็น่าโมโห “แกเป็นถึง เป็นถึงอะไรดี เป็นคนดีศรีสังคม บาปไม่เคยทำ วัดก็เข้าทำบุญบ่อยๆ ก็ได้อ่ะต้องเข้มแข็งและทำเพื่อชาติ”“แต่งงานเนี่ยนะทำเพื่อชาติ แกก็บ้า” จากที่เศร้าตอนนี้เพลงขวัญกลับมายิ้มขำได้เพราะคำพูดของนรากร “ก็เพื่อผลิตทายาทของชาติไง”“ฟังแล้วยิ่งอารมณ์เสียเลย” เพลงขวัญพูดไปง
“อะไรกัน เอ็งกำลังจะแต่งงานมีเมียเป็นตัวเป็นตนนะโว้ย ทำไมถึงอยากหนี” ก่อสกุลถามทั้งๆ ที่ก็พอจะรู้คำตอบว่าคืออะไร “ถ้าแต่งกับคนที่ข้ารักข้าจะไม่ว่า นี่เธอเป็นใครข้าก็ยังไม่เคยเห็นหน้า”“เออ...ลืมไปว่าครั้งที่แล้วที่บอกนัดกันไปกินข้าวเธอไม่มา เพราะไม่สบาย”“อุตส่าห์ถ่อสังขารจากเขาใหญ่ไปถึงกรุงเทพหวังได้เจอหน้า แต่ที่ไหนได้ หึหึ…” คำพูดประชดประชันของอชิทำให้คนฟังส่ายหน้าให้ นั่นเพราะรู้ว่าเพื่อนเองก็ไม่ได้เต็มใจจะไป“เอาน่ะ อย่างน้อยๆ ทั้งคุณลุง ทั้งบ้านฝ่ายหญิงก็ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันไม่ใช่เหรอว่าเธอหน้าตาสวย ไม่ได้พิการหรืออะไรนี่”“พ่อแม่ที่ไหนจะบอกว่าลูกตัวเองไม่สวย คือถ้าไม่พิการก็คงเหลวแหลกจนถูกจับใส่ตะกร้าล้างน้ำให้มาแต่งงานกับข้าแบบนี้ไง” อชิ มองในแง่ลบ นั่นเพราะมันหมดยุคจับคลุมถุงชนแล้วในตอนนี้ ไม่คิดเลยจริงๆ ว่าจะเจอเข้ากับตัวเอง มิหนำซ้ำฝ่ายหญิงเองก็เหมือนจะเต็มอกเต็มใจแต่งงานอีกด้วย ถ้าไม่เป็นอย่างที่เขาพูดก็แปลกเกินคนไปแล้ว “เอ็งก็มองโลกในแง่ร้ายเกินไป ว่าที่เจ้าสาวของเอ็งเธออาจเป็นลูกที่ดี หัวอ่อน เชื่อฟังคำสั่งสอนของพ่อแม่ ให้ทำอะไรก็ทำก็ได้”“ไม่มีเสียหรอก เพราะเท่าที
เรือนร่างของเด็กสาววัยสิบแปดมันทำให้หัวใจเต้นโครมครามรวมไปถึงเลือดในตัวที่สูบฉีดจนรู้สึกร้อนไปหมด หน้าอกหน้าใจที่เต่งตึง ชูชัน สัดส่วนสาวรุ่นช่างน่าหลงใหล ไหนจะผิวขาวนวลเนียนนี่อีก แต่พอหวนคิดว่าเธอเพิ่งอายุแค่นี้และเป็นน้องสาวของเขาแม้จะคนละพ่อแม่ก็เถอะ อชิก็ได้แต่ส่ายหน้าให้“ใส่เสื้อผ้าแล้วกลับห้องของเธอไปซะป่าน”“ไม่ค่ะ ป่านไม่กลับ” เอ่ยจบสายป่านก็พุ่งเข้าไปกอดอชิไว้แน่น จงใจใช้หน้าอกสาวรุ่นของเธอเสียดสีกับแผงอกแกร่งของชายหนุ่ม อยากรู้เหมือนกันว่าถ้าเธอรุกขนาดนี้แล้วเขาจะยังทนได้อีกไหม อาจเพราะก่อนหน้านี้เธอเข้าหาเขาแบบเสื้อผ้าบนตัวครบทุกชิ้น เหตุการณ์ที่หวังมันก็เลยไม่เกิดก็เป็นได้“ปล่อย” ขณะเอ่ยบอกก็พยายามผลักร่างเปลือยเปล่าของสายป่านให้ออกห่างไปด้วย นั่นเพราะเขาไม่ใช่พระอิฐพระปูนที่จะไม่รู้สึกอะไร “ป่านรักคุณอชินะคะ รักมาก” สายป่านบอกรักชายหนุ่มออกไป นั่นเพราะเธอหลงรักอชิมากจริงๆ รักตั้งแต่แรกพบก็ว่าได้ ถึงแม้เวลานี้จะอายแสนอายจนตัวนั้นเห่อแดงไปหมดแต่มาถึงขั้นนี้แล้วสายป่านก็ต้องไปต่อ “เพ้อเจ้อ ปล่อยฉันได้แล้วสายป่าน”“ป่านยอมเป็นของคุณอชิ นะคะแค่คืนนี้คืนเดียว หลังจากนี้ป่า
“นังลูกโง่ เรื่องง่ายๆ แค่นี้ก็ทำไม่ได้” สายปอใช้นิ้วชี้ดีดหน้าผากลูกสาวที่เวลานี้นั่งอยู่ปลายเตียงนอนเสียเต็มแรง นั่นทำให้สายป่านยิ่งกดดันและเสียใจที่ไม่สามารถทำตามที่แม่บอกได้เมื่อคืนเธอหวังเต็มเปี่ยมว่าตื่นมาเช้านี้จะได้ข่าวดีว่าลูกสาวคนเดียวทำงานได้สำเร็จ แต่มันกลับไม่ได้เป็นอย่างที่คิด “ก็คุณอชิเขาไม่ได้รักหนู”“แกมันโง่เองต่างหาก ไปยืนแก้ผ้าต่อหน้าผู้ชายแบบนั้นแล้วแท้ๆ แต่กลับทำให้เขามีอะไรด้วยไม่ได้ เสียแรงที่ฉันบอก” นั่นเพราะสายปอเคยทำแบบนี้มาก่อน และมันก็สำเร็จเสียทุกครั้งไป“แม่”“แล้วแบบนี้จะทำยังไง อีกไม่กี่วันคุณอชิก็จะแต่งงานแล้ว”“ก็ไม่ทำไง” สายป่านตอบอ้อมๆ แอ้มๆ บางครั้งเธอก็ใสซื่อแต่ที่เป็นอยู่ตอนนี้เพียงเพราะผู้เป็นแม่สอนสั่งก็เท่านั้น“ตอบโง่ๆ”“แม่นั่นแหละอยากทำอะไร ทุกวันนี้เงินที่คุณลุงให้ใช้ก็มากพอแล้ว แม่ยังอยากจะได้…” คุณลุงที่สายป่านเอ่ยคือสามีใหม่ของแม่ คือพ่อของอชินั่นเอง ชีวิตตอนนี้ของเธอ แม่แล้วก็พี่ชายนั้นสุขสบายกว่าแต่ก่อนมากมายนัก แม่ไม่ต้องตื่นแต่เช้าออกไปขายของ พี่ชายก็มีเงินมีรถให้ใช้ไม่ขาดมือ ส่วนเธอก็ได้เข้าเรียนมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดัง ที่ค่าเทอ
คืนแรกของการมีสมาชิกใหม่พลอยทำให้โตนอนไม่หลับตามไปด้วย จนย่าใหญ่ต้องมานอนเป็นเพื่อน เพื่อสอนเรื่องการดูแลเจ้าตัวเล็ก นั่นเพราะตอนนี้แสงจันทร์ต้องพักผ่อนให้มากๆ สองสามวันก็จะได้อยู่ไฟส่วนอีกคู่ที่นอนไม่หลับคือเพลงขวัญและอชิ ที่ต่างนอนกลิ้งไปกลิ้งมากันอยู่บนที่นอนของตัวเอง เพราะภาพเหตุการณ์วันนี้ต่างติดตาพวกเขาอยู่“นอนไม่หลับหรือคุณ”“อื้อ...นึกถึงเรื่องวันนี้แล้วก็กลัวไม่หาย กลัวจนไม่อยากมีลูก”“ไม่ได้” จู่ๆ อชิก็เอ่ยขึ้น แต่เพราะมัวคิดเรื่องอื่นอยู่ เพลงขวัญจึงได้ยินไม่ค่อยชัด“อะไรนะ ตะกี้คุณพูดว่าอะไร”“เปล่า ผมไม่ได้พูดอะไร” คนเผลอพูดรีบแก้ต่างทันที ซึ่งก็ไม่รู้ตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงรีบแย้งเสียขนาดนั้น“ถ้าผู้ชายท้องได้ก็คงดี”“ผู้ชายเราถ้าหากท้องแทนได้ก็คงทำไปแล้ว”“เฮ้อ! ยาก”“ไหนๆ ก็นอนไม่หลับแบบ
“น้ำเดิน” เพลงขวัญโพล่งออกมา แม้จะไม่เคยมีประสบการณ์คลอดลูก แต่เรื่องนี้ก็เคยเรียน เคยได้ยินมาบ้าง ถ้าน้ำเดินแล้วยังไม่คลอด คราวนี้ยิ่งอันตราย“น้ำเดินคืออะไร” โตตะโกนถามขึ้น“แสงจันทร์มันใกล้จะคลอดเต็มแก่แล้วน่ะสิโต รีบๆ เข้าไปดูเมียเอ็งก่อน” หญิงคนหนึ่งที่อายุอานามน่าจะพอๆ กับโตหรือมากกว่าเอ่ยบอก นั่นเพราะเธอก็เพิ่งคลอดลูกมาเมื่อไม่กี่เดือนก่อนนี้เอง จึงพอจะเข้าใจว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นมาบ้าง“โอ๊ย...พี่โต ฉันเจ็บจนทนไม่ไหวแล้ว” ได้ยินแบบนั้นโตก็รีบจ้ำกลับเข้าไปในบ้านทันที ตามด้วยเพลงขวัญและอชิ ส่วนกระแตเวลานี้ยืนช็อกไปแล้ว“เจ็บมากมั้ยแสงจันทร์”“เจ็บมากพี่ ฉันเจ็บ” แสงจันทร์กัดฟันพูดออกไป เส้นเลือดบนหน้าปูดโปนจนน่ากลัว“พี่แสงจันทร์อดทนอีกหน่อยนะจ้ะ ย่าใหญ่กำลังมา” เพลงขวัญเอ่ยบอก เห็นแสงจันทร์เจ็บท้องคลอดมากขนาดนี้แล้วก็ยิ่งสงสาร“พี่ทนไม่ไหวแล้วไหม พี่จะ&helli
“หายใจลึกๆ นะพี่แสงจันทร์ แล้วผ่อนลมหายใจออกช้าๆ” เพลงขวัญพยายามทำให้แสงจันทร์นั้นผ่อนคลาย แม้จะไม่เคยทำคลอด ไม่รู้วิธี แต่เวลานี้ก็งัดเอาความทรงจำตอนดูฉากคลอดลูกในละครหรือซีรีส์มาใช้ก่อน“ไม่ได้ พี่เจ็บท้องเกินไป ทำไม่ได้” คนเจ็บท้องคลอดแย้งขึ้นมาทันที“ค่อยๆ ทำพี่ ค่อยๆ ทำ” และเพลงขวัญก็เริ่มทำเป็นตัวอย่างให้แสงจันทร์ได้ดู เพราะถ้าเธอไม่ผ่อนคลายหรือเจ็บจนกลัวไปหมด การคลอดลูกก็อาจจะยิ่งยากในขณะที่เพลงขวัญกำลังอยู่ดูแลแสงจันทร์อยู่นั้น กระแตก็วิ่งลัดเลาะไปตามทางเท้าอย่างเร็ว แต่ที่ระวังหน่อยคือทางเดินในป่าเขาวงกตที่มีกับดักอยู่หลายจุดและทันทีที่เดินทะลุผ่านมาได้ก็ตะโกนหาโตไปทั่วไร่ฝิ่น“พี่โต! พี่โต!”“อะไรของเอ็งกระแต ตะโกนโหวกเหวกโวยวาย เดี๋ยวช้างป่าตกใจกันพอดี” โตเอ็ดน้องสาวขึ้น พร้อมกับเดินเข้ามาหา โดยมีอชิกับเจษฎาพรที่มาพร้อมกับโตเดินเข้ามารอฟังด้วย“กลับบ้านด่วนพี่” กระแตพูดไปก็หอบไป
“พวกเอ็งเริ่มลงมือได้แล้ว” ประโยคคำสั่งดังขึ้นจากชายผู้เป็นเจ้าของบ่อนลอยฟ้า“ครับพี่” บรรดาลูกน้องขานรับคำสั่งผู้เป็นนายอย่างพร้อมเพรียง นั่นทำให้เวลาความสุขรวมไปถึงความสนุก ที่เรียกว่าของจริงกำลังเริ่มต้นขึ้น โดยเป้าหมายก็ไม่ใช่ใครอื่น ทัตเทพและสายป่านนั่นเองเพราะยังไม่รู้ว่าถูกหมายหัว สองพี่น้องจึงยังคงใช้ชีวิตด้วยเงินที่หามาได้จากในบ่อนอย่างสนุกมือ ระยะหลังๆ มานี้สายป่านเดินเข้าร้านเพชรเป็นว่าเล่น ของใช้บนตัวก็แบรนด์เนมตั้งแต่ศีรษะจดปลายเท้าวันนี้สายป่านตั้งใจจะซื้อของขวัญชิ้นโตให้ตัวเอง นั่นคือรถใหม่ป้ายแดงที่เธอหาเงินมาด้วยน้ำพักน้ำแรง แม้จะเป็นเงินที่ได้จากในบ่อนก็ตามที“ไปเอาเงินจากไหนมาซื้อ” นี่คือประโยคแรกที่สายปอเอ่ยถาม เมื่อเห็นลูกชายกับลูกสาวขับรถใหม่เข้ามาจอดในบ้าน“ธุรกิจที่หนูทำกับพี่เทพน่ะแม่”“ธุรกิจอะไร““ธุรกิจวัดดวงไงล่ะแม่” ทัตเทพเฉลยให้ ซึ่งสายปอก็ไม่ได้แปลกใจสักเท่าไ
“ได้ครับท่านรอง” นายตำรวจหนุ่มเอ่ยรับ สำหรับก่อสกุลแล้วงานทุกงานมีความสำคัญเท่ากันหมด เขาไม่อยากเอนเอียงไปทำงานที่มีเรื่องส่วนตัวเข้ามาเกี่ยวข้องจนกระทบกับงานตัวอื่น แม้สมองมันจะชอบว่อกแว่กไปหางานส่วนตัวอยู่บ่อยครั้งก็ตามกว่าที่เขาจะกลับออกมาจากห้องประชุมก็เกือบเที่ยงคืน แม้จะเหนื่อย จะง่วงและหิวมาก แต่กลับไม่แวะพัก เพราะเป้าหมายต่อไปของเขาคือบ้านของนรากรนั่นเอง นายตำรวจหนุ่มจอดรถไว้ริมกำแพงรั้วบ้านเธอ นั่นเพราะตั้งใจแค่จะแวะมาหา ขอแค่ได้มองหลังคาก็หายคิดถึงได้บ้าง เพราะขืนไปกดออดตอนนี้ก็เกรงคนในบ้านจะตกใจเอาแต่จู่ๆ ประตูรถเขาก็ถูกเคาะ และทันทีที่ก่อสกุลลดกระจกลง เขาก็เจอกับคนที่อยากเจอ เจ้าบ้านที่ยังคงอยู่ในชุดทำงานเพราะเพิ่งกลับเช่นกันยืนกอดอกเอ่ยถามขึ้น“มาจอดรถอะไรอยู่ตรงนี้คะ”“ผะ...ผมแค่ผ่านมาครับ” ไม่คิดว่าจะเจอกับนรากรเข้า ก่อสกุลจึงตอบตะกุกตะกักนั่นเพราะสมองไม่ได้เตรียมคำตอบสำหรับเหตุการณ์นี้ไว้“อ้อ...แค่ผ่านมา”&ldquo
“รู้แล้วๆ คุณนี่ขี้บ่นจริง” เพลงขวัญย่นจมูกให้คนตรงหน้า แต่ก็ยอมรับว่ารู้สึกดีที่รู้ว่าอชิห่วงเธอ ก่อนที่จะตกใจตัวเองที่ไปรู้สึกหรือคิดอะไรแบบนั้น ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้เธอกับเขาเหมือนคนแปลกหน้าที่มีเป้าหมายเพื่อหนีจากห้องหอด้วยกันทั้งคู่ แต่ทำไมตอนนี้ความรู้สึกในตอนแรกนั้นกลับเปลี่ยนไป และเปลี่ยนไปตั้งแต่เมื่อไหร่เพลงขวัญก็แทบไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ“นี่มันยังน้อยไป ตะกี้ถ้ากลับมาแล้วผมยังไม่เห็นคุณ ตั้งใจจะไปเหลาไม้เรียวมารอ” อชิเอ่ยขำๆ เพราะเขาไม่ได้ตั้งใจจะไปเหลาไม้เรียวอะไรทั้งนั้น แต่พูดไปเพื่อให้เห็นภาพเท่านั้นเอง วันนี้ทำไมความรู้สึกเป็นห่วงเพลงขวัญถึงได้มากมายนัก ชายหนุ่มเองก็ยังหาคำตอบไม่ได้“บ้า...ใครจะยอมให้คุณตีเหมือนเด็กๆ”“ถ้าไม่อยากถูกผมตี ก็ต้องทำตามที่สัญญา”“รู้แล้วค่ะ รู้แล้ว” เพลงขวัญเอ่ยรับปากอีกครั้ง ไม่ใช่เพราะกลัวจะถูกอชิตี แต่เพราะไม่อยากฟังชายหนุ่มบ่นมากกว่า และอีกอย่างคือทำไมเธอต้องแคร์ความรู้สึกเขาด้วย ทั้งๆ ที่มันไม่น่าจะจำเป็นนี่นา&
“ทำตัวให้แข็งแรงรอวันที่ลูกเราจะกลับมาดีกว่า”“เมื่อไหร่ล่ะคะที่ลูกเราจะกลับมา”“ผมก็ยังให้คำตอบคุณไม่ได้ แต่มั่นใจเถอะว่าเราต้องได้ข่าวดีเร็วๆ นี้แน่ ถ้าลูกกลับมาแล้วเห็นคุณซูบผอมไปแบบนี้ ไหมคงโกรธผมแย่ที่ดูแลคุณไม่ดี ฝืนดื่มเสียหน่อยนะ” เอ่ยจบอาคมก็ยื่นถ้วยซุปไก่ให้จิตราอีกครั้ง มือเล็กของจิตราแต่ทว่ายังอุ่นและนุ่มทุกครั้งที่สัมผัสรับถ้วยซุปไก่ไปถือไว้ ก่อนจะตัดใจยกขึ้นดื่มจนหมดถ้วย นั่นทำให้อาคมยิ้มออก“ไปเดินเล่นในสวนมั้ย กุหลาบที่คุณปลูกไว้ ตอนนี้แข่งกันออกดอกสวยแล้วนะ”“ก็ดีเหมือนกันค่ะ” จิตราเอ่ยรับ เพราะไม่อยากนั่งๆ นอนๆ อมทุกข์อีกต่อไปแล้วเหมือนกัน ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังทำตัวเป็นภาระให้สามีต้องมาดูแลอีก แทนที่จะเอาเวลาไปตามหาเพลงขวัญ คิดแล้วจิตราก็รู้สึกผิดที่แทนที่จะช่วยกลับสร้างปัญหา เธอจึงคิดใหม่ ทำใหม่ ต้องเข้มแข็งเพื่อรอวันที่ลูกกลับมาเพลงขวัญกับอชิยังคงอยู่ในหมู่บ้าน เพราะอยู่ในป่าในเขาจึงไม่มีใครได้ข่าวหรือพบเห็นคนทั้งคู่ แม้ทางตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบจะออกสืบข่าวกันทุกทางแล้วก็ต
“ไปๆ เข้าบ้านทั้งคู่นั่นแหละ” เอ่ยจบอรทัยก็ดันหลังลูกสาวคนเดียวให้เข้าบ้านไปก่อน ตามด้วยผายมือเชื้อเชิญให้ก่อสกุลเข้าบ้านอีกคนสองแม่ลูกขึ้นไปจัดห้องหับต้อนรับแขก ส่วนเดชนั่งคุยกับก่อสกุลอยู่ที่ห้องรับแขก ซึ่งก็คุยกันถูกคอจนนรากรหมั่นไส้“ก้อยกับแม่จัดห้องเสร็จแล้วจ้ะพ่อ”“ดีๆ งั้นเราก็แยกย้ายกันไปพักผ่อน พรุ่งนี้วันใหม่ค่อยว่ากัน”“ครับ” เสียงทุ้มของนายตำรวจหนุ่มเอ่ยรับ ก่อนจะเดินตามนรากรไปยังห้องรับรองแขก ของใช้ส่วนตัววางอยู่บนเตียงพร้อมกับเสื้อผ้าอีกชุด“ชุดของพ่อฉัน ยังไม่ได้ใส่ แม่ก็เลยเอามาให้คุณเปลี่ยนนอน”“ขอบคุณครับ” เสียงทุ้มเอ่ยรับ จู่ๆ นายตำรวจหนุ่มก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นมาในหัวใจแปลกๆ“ระวังผีอำนะคุณ พอดีที่บ้านฉันผีค่อนข้างดุนะ”“ไม่เป็นไร ผมบวชมาแล้วพอจะสวดมนต์ได้หลายบทอยู่”“งั้นก็ขอให้รอดปลอดภัยนะคะ” เอ่ยจบนรากรก็กลับออกไปทันที เมื่อประตูปิดลงก่อสกุลก็คว้าข้าวของและเสื้อผ้าตรงเข้าห้องน้ำ นั่นเพราะเขาเองก็อยาก
“อืม...พี่จะพูดกับพี่โตให้แล้วกัน”เจษฎาพรจำใจต้องรับปาก แม้ในอกนั้นจะเจ็บปวดอย่างสาหัสก็ตามที สำหรับกระแตแล้วไม่ว่ายังไงเขาก็คงชนะใจเธอไม่ได้สินะ และในเมื่อเธอไม่ได้รักเขา เขาเองก็ไม่อยากฝืนใจบังคับให้เธอต้องมาแต่งงานด้วยเช่นกัน“ขอบใจนะพี่ชัย” กระแตเอ่ยออกมา แม้จะหวิวๆ แปลกๆ อยู่ในอกบ้าง แต่ก็คิดเข้าข้างตัวเองว่าเธอคงแค่หิวข้าวเท่านั้นเองหลังจากตามหาตัวกระแตไปจนทั่ว จ้อยก็ตะโกนลั่นป่าเมื่อเห็นเจษฎาพรกับกระแตมาแต่ไกล โตรีบเข้ามาดูน้องสาวก่อนจะถามไถ่ว่าหายไปไหนมา โดยไม่ดุไม่ด่าอย่างที่กระแตกลัวมาตลอดทางเลยแม้แต่น้อย จากนั้นโตก็เดินนำทั้งหมดกลับเข้าหมู่บ้านเมื่อมาถึงย่าใหญ่ก็รุดมาดูข้อเท้าของกระแตทันที ก่อนจะให้คนไปเอายาสมุนไพรมาพอกให้ ส่วนแสงจันทร์ก็หาข้าวหาน้ำมาให้ทั้งสองคน อชิและเพลงขวัญก็พลอยโล่งอกที่เห็นทั้งคู่ปลอดภัยกลับมาในคืนนั้นเจษฎาพรก็หาเวลาไปคุยกับโตตามที่กระแตขอ ส่วนโตเองก็ยอมจำนน เพราะลึกๆ แล้วก็ไม่อยากบังคับน้องสาวเหมือนกัน คิดแล้วโตก็ได้แต่ถอนหายใจ ส่