หลังจากเมื่อวานขนมปังก็เป็นไข้ขึ้นสูง น้องสาวเธออักเสบบวมแดงต้องกินยาและทายา นอนซมอยู่แต่ในบ้าน จะบอกคนที่บ้านก็ไม่ได้ว่าไม่สบายเพราะอะไร ก็เธอดันไปมีเซ็กส์อย่างรุนแรงมาน่ะสิสภาพ.. โชคดีที่พ่อกับแม่ไม่อยู่ไปเที่ยวต่างประเทศ อีกสองเดือนกว่าถึงจะกลับมา ส่วนพี่ชาย..ไม่อยากพูดถึงเลย กลับบ้านนับครั้งได้ เฉพาะเวลาที่เงินหมดนั่นแหละจะโผล่หน้ามาให้เห็น บ้านนี้เลยเหลือเพียงแต่เธอคนเดียว โชคดีที่เรื่องร้านทองมีพนักงานคอยดูแล เธอกับพี่ชายเลยไม่ต้องทำอะไรเลย โชคดีของเธอแล้วที่โตมาในบ้านที่ไม่มีใครบังคับ พ่อกับแม่ก็เข้าใจ ถึงพี่ชายจะดื้อแต่ก็ยังไม่เคยทำความเดือดร้อนอะไรที่ร้ายแรง “อื้ออ ปวดหัว” ส่วนคนที่ทำให้เธอเป็นอย่างนี้ สบายตัว สบายใจ มีความสุขที่เห็นเธอป่วย แต่ก็ยังดีที่อีวานไม่ได้ปล่อยเธอทิ้ง แต่ยังพากลับมาส่งถึงบ้าน ‘เดี๋ยวฉันจะมาหา ไว้เจอกัน’ ‘เวลาที่ฉันโทรมา ต้องรับสายทุกครั้ง’ “ใครจะไปรับฝันไปเถอะ แล้วก็นะ..จะไม่ยอมเจอ ฉันจะไม่ยอมเจอหน้าคุณอีกแล้ว!!!” “ไอ้บ้า หมอนั่นมันซาดิสม์ชัด ๆ ยิ้มตอนที่เรากำลังร้องไห้ได้ยังไง” ขนมปังคิดไปถึงเมื่อวาน ตอนที่เธออยู่ข้างบน หันหน้าให้เขาแล้วร
บ้านขนมปัง บ้านหลังใหญ่สองชั้น ทาสีน้ำตาลและขาวออกไปทางแนวเอิร์ธโทน รั้วเหล็กสีดำและปลูกต้นไม้ดอกไม้ประดับให้ความสดชื่น ข้าง ๆ ก็มีบ้านอยู่ใกล้กัน เป็นหมู่บ้านชื่อว่า แสนรัก อีวานมาโผล่อยู่หน้าบ้านขนมปังในเวลาไม่ถึงชั่วโมง อามอร์ยืนกดกริ่งอยู่พักใหญ่ก็ยังไม่มีใครออกมาเปิดประตู บ้านเงียบกริบ “หรือเธอจะไม่อยู่บ้านครับ” “ผมว่าเรากลับกันก่อนดีไหมครับ คนแถวนี้จะคิดว่าเรามาทวงหนี้หรือเปล่า” “ไม่ เธออยู่” อีวานพูดเสียงหนักแน่น “แต่เรายืนกดกริ่งมาเกือบยี่สิบนาทีแล้วนะครับ” ฮาร์ทเอ่ยพูดต่อ “กูถึงบอกว่าพวกมึงไม่ต้องมา แล้วแต่งชุดอะไร ใส่สูทสีดำมาทำไม” “บอกให้ใส่ชุดปกติ” “ก็ปกติพวกเราใส่แบบนี้กันนะครับ” อีวานถลึงตามองฮาร์ท ลูกน้องที่ชอบต่อปากต่อคำกับเขา “ขอโทษครับนายท่าน” ฮาร์ทรีบกล่าวขอโทษ ต่อจะให้ชอบเถียงยังไง แต่เขาก็ไม่คิดจะทำตัวไม่เคารพเจ้านาย “อยู่ข้างนอกเรียกเจ้านายก็พอ” “ครับนายท่าน.. รับทราบครับเจ้านาย” “ไม่ทราบว่าพวกคุณเป็นใครครับ” “มาหาขนมปังเหรอครับ?” ระหว่างที่เจ้าและลูกน้องกำลังยืนพูดคุยกันอยู่นั้น ก็มีเสียงชายหนุ่มเอ่ยทักจากข้างหลังพวกเขา อีวานหันไปมองตั้งแต่หัวจ
หมับ! อีวานจับคว้าแขนไต้ฝุ่นขณะที่เขากำลังเดินเข้าไปในบ้านขนมปัง“อะไรครับ..?”“ผมจะเข้าไปด้วย” พร้อมกับเอ่ยเสียงแข็ง“รอให้ยัยขนมตื่นแล้วอนุญาตก่อนแล้วคุณค่อยเข้าไปดีกว่านะครับ” ไต้ฝุ่นเอ่ยเสียงเรียบ พยายามแกะมือมาเฟียหนุ่มออกอย่างหนัก แต่มืออีวานที่จับแน่นราวกับว่าจะบีบให้แขนเขาหัก“คุณไม่น่าไว้ใจ” “ฮะ?!! ผมเป็นเพื่อนเธอ อีกอย่าเธอก็โทรบอกให้ผมเอาข้าวมาให้ คุณนั่นแหละที่ไม่น่าไว้ใจ!”สองหนุ่มยืนเถียงกันอยู่หน้าบ้าน ไม่มีใครยอมใคร อีวานก็ไม่มีท่าทีจะฟัง และยังจะแทรกตัวเดินเข้าไปในบ้านอีกต่างหาก“คุณปล่อยผมเถอะครับ เดี๋ยวผมจะเข้าไปบอกยัยขนมให้ว่ามีคนมารอเจอ โอเคไหม” ไต้ฝุ่นพยายามพูดหว่านล้อมให้เขาใจเย็น“ไม่!” เสียงเข้มตอบหนักแน่น“ตามหลักแล้วนะ ผมจะรู้ได้ไงว่าคุณรู้จักขนมปังจริง ขนมปังไม่เห็นเคยพาคุณมารู้จักผมเลย” ไต้ฝุ่นเริ่มทนไม่ไหว ชายหนุ่มตรงหน้าวางท่าขรึม และน่ากลัวคนนี้ ดูแล้วไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน 100% จะว่าเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันก็ไม่น่าใช่ ถึงใบหน้าเขาจะดูเป็นหนุ่มวัยรุ่น แต่การพูด การวางตัว ท่าทางภูมิฐานมากกว่าเด็กมหาวิทยาลัย ไหนจะมีคนติดตามเหมือนคนใหญ่คนโต ยังไงอายุก็มา
ก๊อก ๆก๊อก ๆ“ขนม ขนมปังก๊อก ๆ“เราควรเปิดเข้าไปไหมครับ” ไต้ฝุ่นหันมาถามอีวาน เคาะเรียกอยู่นานขนมปังก็ไม่มาเปิดประตูห้องเลย“ตอนที่ยัยนั่นโทรมาเสียงก็ฟัง..(แกร๊ก) ดูไม่ค่อยดี” ไต้ฝุ่นยังพูดไม่จบประโยค อีวานก็หมุนลูกบิดประตู ผลักออกอย่างแรง“เธอ เธอ!”พรึบอีวานเดินไปเรียกข้างเตียง ร่างบางนอนหลับคลุมผ้าห่มทั้งตัว อีวานจึงดึงผ้าห่มออก อีวานตกใจเล็กน้อยเพราะเหงื่อผุดเต็มใบหน้าเล็ก มือหนาที่กำลังจะแตะสัมผัสต้องชะงักค้างเพราะเธอลืมตาตื่นขึ้นมาก่อน“อื้อ คุณ! เข้ามาได้ไง!!” ตอนแรกขนมปังก็คิดว่าตัวเก็บมาฝันที่เห็นอีวานอยู่ในห้อง แต่พอลืมตาเต็มตื่นเท่านั้นแหละ ถึงได้รู้ว่าไม่ฝัน“เราพาเข้ามาเองแหละ เขาบอกว่ารู้จักแกอะ..” ไต้ฝุ่นยิ้มเจื่อน“ไอ้ไต้ฝุ่น! ออกไปรอข้างนอกกันให้หมด!!” ขนมปังพูดเสียงดัง และจริงจัง พวกเขายอมออกไป“เฮ้อ ปวดหัวจริง ๆ เลย” เธอลุกขึ้นไปล้างหน้าล้างตา มัดผมขึ้นก่อนจะเดินลงไปพบทั้งสองคนข้างล่างไต้ฝุ่นเดินมาเกาะแขนกระซิบถามเพื่อนสาวคนสวย“แกรู้จักเขาไหม เขาว่ารู้จักแก ให้ฉันเรียกตำรวจไหม”“รู้จัก แต่แกให้เขาเข้ามาง่าย ๆ ได้ไง” ขนมปังหยิบแขนเพื่อนชายเบา ๆ“ฉันห้ามแล้ว เขาไ
หมับ! อีวานโอบร่างบางเข้าสู่อ้อมกอดทันทีที่เธอหงายหลังสลบต่อหน้าต่อตา เป็นครั้งแรกในชีวิตที่มีคนมาเป็นลมต่อหน้ามาเฟีย ถึงอย่างนั้นเขาก็มีสติ ไม่ได้ตื่นตกใจมากจนทำอะไรไม่ถูก “เธอ!” “บ้าเอ๊ย!” “ทำไมตัวร้อนขนาดนี้ล่ะ!” อีวานช้อนตัวร่างบางขึ้นอุ้มอย่างรวดเร็ว เลื่อนประตูบ้านเปิดออกกว้าง ขายาวออกวิ่งไปหน้ารั้วที่มีลูกน้องทั้งสองคนยืนรออยู่ ตะโกนเสียงดังจนลูกน้องยังตกใจ “ไปโรงพยาบาล!” อามอร์วิ่งอ้อมไปขึ้นรถฝั่งคนขับ ฮาร์ทเปิดประตูรถด้านหลังให้อีวาน อีวานวางเธอกับเบาะแล้วอ้อมไปขึ้นอีกฝั่ง เอาหัวเธอหนุนที่ตักตัวเอง ส่วนฮาร์ทเลูกน้องอีกคนก็ปิดประตู แล้วหันมาเปิดประตูขึ้นไปนั่งหน้าข้างคนขับ “ไปโรงพยาบาลตระกูลนายท่านคาร์ลเตอร์ใช่ไหมครับ”อามอร์ถามเสียงกระวนกระวาย “อืม ไปเลย” “เร็ว!” “ครับ ๆ” ไต้ฝุ่นที่มองอยู่ในบ้านเห็นเพื่อนถูกอุ้มขึ้นรถโดยที่หมดสติก็รู้เลยว่าเพื่อนสาวคงป่วยมาก ตอนจับตัวก็รู้สึกว่าตัวร้อนเหมือนไฟ แต่ขนมปังไม่ชอบไปหาหมอ นี่ก็คงปล่อยให้ตัวเองป่วยจนไม่ไหว ดีที่มีคุณคนนั้นอยู่ด้วย เขาคงจะพาเพื่อนสาวคนสวยไปโรงพยาบาล ได้ยินเสียงตะโกนดังลั่นเลย “เขาเป็นอะไรกับยัยขนมกันแน่นะ
ช่วงหัวค่ำ ขนมปังรู้สึกตัว พอลืมตามาพบว่าตัวเองอยู่โรงพยาบาล เธอจำอะไรก่อนหน้านี้ไม่ค่อยได้ แต่คุ้น ๆ ว่าภาพสุดท้ายคือเธออยู่กับอีวาน เขามาหาเธอที่บ้าน แล้วหลังจากนั้นภาพก็ตัด“นี่เราเป็นลมเหรอ?”ก๊อก ๆ“ขออนุญาตนะคะ”มีพยาบาลเข้ามาตรวจเช็กปริมาณน้ำเกลือพอดี ขนมปังเลยถามถึงเรื่องก่อนหน้านี้ และชื่อโรงพยาบาลที่เธอกำลังรักษาตัวอยู่“เอ่อ ฉันอยู่ที่โรงพยาบาลอะไรเหรอคะ”“ที่นี่โรงพยาบาลดีอาร์ค่ะ คนไข้อยากได้อะไรไหมคะ” พยาบาลสาวเอ่ยถาม เพราะเธอได้รับหน้าที่ให้ดูแลขนมปังเป็นพิเศษ“ไม่ค่ะ แต่ว่าอยากรู้ว่าคนที่พาฉันมาที่โรงพยาบาล ใช่คนที่ชื่อ อีวาน ไหมคะ”“ใช่ค่ะ คุณอีวานเป็นคนพาคนไข้มาโรงพยาบาล แต่คุณเขากลับไปตั้งแต่ช่วงบ่ายแล้วค่ะ”“อ๋อ ขอบคุณค่ะ แต่ขอโทษนะคะคุณพยาบาล ฉันขอยืมโทรศัพท์คุณหน่อยได้ไหมคะ”“ได้ค่ะ”พยาบาลสาวยื่นโทรศัพท์มือถือตัวเองไปให้ขนมปัง เธอรับมาแล้วกดเบอร์ไต้ฝุ่นบอกให้มาหาเธอที่ที่โรงพยาบาลไต้ฝุ่นก็ขับรถจากบ้านมาหาเพื่อนสาวคนสวยทันที แล้วสองคนก็ได้พูดคุยเล่าเรื่องราวที่ผ่านมาตั้งแต่แรก“ซวยแล้วแหละ”“อะไร ซวยอะไร”“แกดันไปยุ่งกับคนที่ไม่ควรยุ่งน่ะสิ”“แกหมายความว่าอะไรวะ”
ขนมปังกลับมาพักผ่อน อยู่บ้านหลังจากออกจากโรงพยาบาล ก็มีงานติดต่อเข้ามาจากต่างจังหวัด ไม่ให้เธอต้องจมปลักอยู่กับความรู้สึกบางอย่างที่หาคำตอบไม่ได้ และก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไม ถึงต้องไปคิดถึงเรื่องของคนที่เธอไม่อยากจะยุ่งด้วยที่สุดในชีวิต“เข้ามาวุ่นวายในชีวิตคนอื่นง่าย ๆ แล้วก็หายออกไปง่าย ๆ”“เป็นงานอดิเรกที่ชอบทำมากสินะ!”“ไอ้คนใจร้าย ทำฉันป่วยหนักขนาดนั้นก็ไม่รับผิดชอบอะไรเลย!”ถึงจะพูดว่าเขาไม่รับผิดชอบ แต่ก็ออกค่ารักษาพยาบาลให้เองทั้งหมด รวม ๆ แล้วเกือบหนึ่งแสนที่เธอพักรักษาตัวตัวที่โรงพยาบาลดีอาร์รวมสี่วัน“ดี ฉันจะได้ไม่ต้องเสียเวลาคิดหาทางหนีคุณ!” ตอนแรกก็คิดว่าจะต้องหาที่หนีระหว่างที่ต้องอยู่บ้านคนเดียว แต่หายไปสามวันไม่ติดต่อมาเลย ก็คงจะไม่มาวุ่นวายอะไรกับเธออีกแล้ว“ไม่อยากคิดถึงเรื่องไอ้บ้านั่นแล้ว!”“หงุดหงิดจริง!”ขนมปังบ่นอุบอิบพร้อมกับเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเดินทางเตรียมตัวไปต่างจังหวัดในวันพรุ่งนี้ เธอต้องไปทำงานที่นั่นประมาณสองอาทิตย์ แต่เพราะสถานที่ ที่ใช้ถ่ายทำเป็นรีสอร์ต รีสอร์ตสวยมากด้วยมีสัตว์น่ารัก ๆ เยอะด้วยอาจจะเพราะที่นั่นนอกจากจะเป็นรีสอร์ตก็ยังเป็น
วันต่อมา ขนมปังรีบขับรถออกจากบ้านตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้น เพราะกลัวว่าจะต้องเจออีวานมารอดักเจออยู่หน้าบ้านกรุงเทพไปปากช่องใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงกว่า ถึงนั่นก็คงสายพอดี“อย่าหวังจะได้เจอฉันง่าย ๆ เลยไอ้ยูนิคอร์นประสาท!”ไร่มาร์วิน & รีสอร์ต 🌳อีกคนลุกลี้ลุกลนหนีไม่อยากเจอหน้า ผิดกับอีกคนที่นั่งยิ้มหลังจากได้โทรศัพท์ไปแกล้ง ทั้งที่ตัวเองไม่ได้อยู่กรุงเทพด้วยซ้ำ และก็รู้ว่าเธอไม่มีทางออกมาเจอ ช่วงสามวันที่หายไปคือเขาเคลียร์งานกับเคลียร์สมองตัวเอง หนึ่งในนั้นก็เรื่องเธอ แต่วันนี้นึกสนุกจึงอยากจะโทรไปหา เธอบอกว่าเขาจะไม่มีทางได้เจอเธอ คิดผิดแล้ว พรุ่งนี้เราจะได้เจอกันที่อีวานรู้ว่ายังก็ตัองได้เจอกันนั่นก็เป็นเพราะ งานที่เธอได้รับปากตบคำจะมาถ่ายทำ เป็นเขาเองที่จ้าง ทำให้ตอนนี้ อีวานก็แค่เพียงนั่งรออย่างสบายใจ “หึ หายดีแล้วสินะ” อีวานวางโทรศัพท์ลง อดจะขำไม่ได้ ได้ยินเธอเถียงทุกตำแบบนี้รู้สึกโล่งใจยังไง บอกไม่ถูกเหมือนกัน“มึงเห็นใช่ไหม ว่าเจ้านายเราอมยิ้มอยู่” ฮาร์ทสะกิดอามอร์“เห็น กูไม่ได้ตาบอด”“อาการแบบนี้เขาเรียกมีใจหรือเปล่าวะมึงว่า”“ก็ไม่แน่ ถ้าโทรไปเพราะอยากรู้ว่าเขาหายดีแล
Part - Rendel (เรนเดล)เรนเดลเดินก้าวช้า ๆ และผิวปากไปด้วย และเสียงผิวปากของเขายิ่งสร้างความหวาดหวั่นให้กับนักโทษที่พยายามหลบซ่อน“เสียงความกลัวมันดังออกมาจนได้ยินแล้วนะ”เรนเดลหยุดยืนอยู่ตรงโขดหินก้อนใหญ่เขาสัมผัสได้ว่ามีคนหลบอยู่ด้านหลังโดยที่ตัวเขาไม่ต้องดูจีพีเอสเลยด้วยซ้ำ“ยังจะแอบอยู่เหรอ?” น้ำเสียงเยือกเย็นเอ่ยถามเอนตัวพิงโขดหิน หยิบบุหรี่ไฟฟ้าขึ้นมาสูบอย่างใจเย็น“ผมยอมแล้วครับไว้ชีวิตผมได้ครับ”“ผมขอโอกาสในการแก้ตัว”พรึบ! ฉึก!“อึก! อึกอ่อก”เรนเดลชักดาบตระกูลออกมาจากฝักดาบที่เก็บไว้ข้างเอวปาดคอชายคนนั้นทันทีที่มันมานั่งคุกเข่าอ้อนวอนขอโอกาส มันยังไม่ได้ในทันทีหรอก“พวกมึงนี่เหมือนกันหมด พูดแบบนี้ทุกปี”“เบื่อจะฟัง”ปัง!เรนเดลเตะให้มันนอนลงแล้วยิงไปที่ท้องของมัน เพราะผู้ชายคนนั้นคิดที่จะยื่นมือมาแตะต้องตัวเขา เลือดพวกมันไม่สมควรโดนตัวเขา“รอบนี้กูจะไม่ออกไปเป็นคนสุดท้าย”Part - Jerik (เจริค)เพียงแค่เจริคก้าวเท้าเข้ามาในเส้นทางล่าสัตว์ บรรยากาศรอบตัวเขาก็ดูเงียบสงบจนน่ากลัว ใบหน้าไร้ความรู้สึกและเบื่อหน่าย“เลิกซ่อนแล้วออกมา”“อย่าทำให้เสียเวลา”“สามวิเท่านั้น”“1”“2”“ออ
เริ่มการล่าสัตว์!เมื่อการล่าสัตว์เริ่มต้นขึ้น ความหื่นกระหายในการฆ่ามันก็ทำให้เลือดในกายพวกเขาพุ่งสูบฉีด ทั้งหกหนุ่มแทบอดใจไม่ไหวที่จะได้ทรมานเหล่านักโทษพวกนั้น“มาเริ่มกันเลยไหม พร้อมนะ” แกร๊ก! เสียงขยับกระบอกปืนลูกซองปิดลงหลังใส่ลูกกระสุนเสร็จ อีวานยกปืนขึ้นวางบนบ่าตัวเอง“ของแบบนี้กูพร้อมตั้งแต่เกิดแล้วว่ะ”ลูเซียโน่เอ่ยเสียงเข้มขยับปืนกำเอาไว้แน่นแล้วออกเดินไปก่อนใครเพื่อน“หึ” อีวานแค่นหัวเราะเบา ๆ“ไว้เจอกันที่แคมป์ ใครช้าสุดต้องจ่ายให้เพื่อนละหนึ่งล้านอย่าลืม”“กูยอมเป็นคนสุดท้าย” คาร์ลเตอร์เอ่ยเขาไม่ชอบแข่งขันกับใครอยู่แล้ว“ก็เห็นพูดแบบนี้มาสี่ปีแล้ว แต่มึงก็ออกมาคนแรกตลอดเลยนะเพื่อน” เรนเดลยกคิ้วเลิกสูงขึ้นมอง คาร์ลเตอร์ยิ้มจาง ๆ พลางยกไหล่ขึ้นทำไม่รู้ไม่ชี้แล้วเดินไปเส้นทางตัวเอง“รอบนี้ก็คงเป็นไอ้อีวานนั่นแหละที่ออกมาคนสุดท้าย”เคอร์วินที่เช็กกระบอกปืนอยู่ขึ้นแล้วมองไปยังอีวานที่กำลังเดินมุ่งหน้าไปยังเส้นทางของตัวเอง“ไม่ก็อาจจะเป็นไอ้เจค” เรนเดลหันไปมองเจริค“ไม่หรอก รอบนี้กูตั้งใจจะออกมาคนแรก”เจริคเอ่ยเสียงเรียบด้วยใบหน้าอันสงบนิ่ง ถือปืนลูกซองคู่ใจที่สลักชื่อกับนามสก
ตัดมาที่เจริคยังคงยืนมองเดสทินีหรือชื่อที่คนสนิทมักจะเรียกเธอว่าดิสนีย์ ร่างบางยืนจับ ๆ อาวุธสามอย่างนั้น แต่ตัดสินใจไม่ได้สักทีว่าควรจะใช้อันไหน“เลือกได้ไหมยัยตัวแสบ”“ยังค่ะ พี่เจคช่วยดิสนีย์เลือกไหมคะ”“ได้ครับ”“หน้าไม้เหมาะกับมือใหม่แบบเรามากกว่านะ”เขายื่นหน้าไม้ไปให้เธอ ดิสนีย์หยิบหน้าไม้พลิกไปพลิกมา“แล้วมันต้องทำยังไงคะ” เธอเงยหน้ามามองเจริคยิ้มจาง ๆ เธอไม่เคยหยิบจับอะไรพวกนี้เลยน่ะสิ“มา เดี๋ยวพี่สอนใช้”เจริคสอนจนเธอใช้คล่องมือ แต่ไม่คิดว่าประโยคที่เธอพูดต่อมาคือการขอให้เขาช่วยสอนวิธีใช้ปืนลูกซอง“แต่ฉันอยากลองใช้ปืนด้วยค่ะ พี่เจคช่วยสอนได้ไหมคะ”“ปืน? แน่ใจนะครับ”“ค่ะ”เจริคเดินไปหยิบปืนลูกซองมาให้ดิสนีย์ถือ แต่แค่ส่งไปให้พอเธอรับเท่านั้นแหละ เธอเกือบปล่อยปืนตกแล้ว ไม่คิดว่าปืนลูกซองจะหนักขนาดนี้ โชคดีที่เจริคยื่นมือมาช่วยถือไว้ทัน“เปลี่ยนใจแล้วค่ะ หนูเอาหน้าไม้อย่างเดียวพอ”“ครับ” เจริคมองเธอด้วยสายตาเอ็นดูเด็กคนนี้ ‘น่ารักชะมัด’หลังจากซักซ้อมวิธีการใช้อาวุธล่าสัตว์กันจนชำนาญคล่องมือแล้ว เรนเดลก็ได้อธิบายเส้นทางการล่าสัตว์ให้กับพวกเธอต่อ และจุดท้ายที่พวกเขาจะไปเจอกันค
สนามฝึกอาวุธ ⚔️ทั้งเก้าคนนั่งรถมาสนามฝึกอาวุธของคฤหาสน์อีวานเพราะจะให้ทั้งสามสาวได้ทำการเลือกอาวุธสำหรับการล่าสัตว์ และได้ฝึกวิธีใช้อย่างคล่องมือ อาวุธสำหรับการล่าสัตว์มีให้เลือกคือ หน้าไม้ ปืนลูกซอง และปืนยาง“ลองเลือกกันดูได้เลยนะว่าชอบอันไหน ปืนลูกซอง หน้าไม้ หรือปืนยาง”เรนเดลผายมือเชิญให้พวกผู้หญิงเดินเข้าไปเลือกที่ชั้นวางอาวุธ“ฉันเอาปืนลูกซอง” “ถนัดมือสุดละ”เนเรียเดินตรงไปหยิบปืนลูกซอง เธอยกมันเล็งเป้าหมายอย่างชำนาญมือในการล่าสัตว์อยู่แล้วด้วย ไม่ต้องให้ใครมาสอนตระกูลเธอก็มีกิจกรรมล่าสัตว์อะไรแบบนี้อยู่บ้าง“เอ๊ะ! อันนี้เหรอคะ”“เธอใช้หน้าไม้ก็พอ ไม่ต้องจริงจังมากหรอก”อีวานเดินไปหยิบหน้าไม้ส่งให้ขนมปังพร้อมพาเดินไปฝึกวิธีการยิงหน้าไม้“เสียบไม้ลงไปตรงนี้ ดึงมันมาด้านหลังแล้วกดปล่อย”ปัก! หน้าไม้ที่ถูกปล่อยออกไปปักลงกลางเป้า“อีวานเก่งจังเลยค่ะ!” เธอกระโดดตบมือ เขาเก่งทุกเรื่องเลยอะ“ลองดูไหม”“เอาค่ะ”อีวานเดินไปซ้อนอยู่ด้านหลังขนมปัง มือหนาวางทาบทับกับมือเล็กและคอยบอกวิธีการใช้หน้าไม้รวมถึงการเล็งไปยังเป้าด้านหน้าปัก!“กรี๊ด ฉันเก่งไหมคะ”“เก่งมาก” จุ๊บ อีวานจุมพิตลงบนหน้
ทุกคนเปลี่ยนไปขึ้นรถกอล์ฟที่มีบอดี้การ์ดอีวานรอขับให้เพื่อพาไปยังสนามฝึกอาวุธ สามสาวค่อนข้างตื่นเต้น ผิดกลับอีวาน เจริค ที่กังวลและเป็นห่วงคนของตัวเอง ที่ไม่ต้องห่วงเนเรียเพราะเธอก็รู้ความลับในการล่าสัตว์ของทั้งหกหนุ่มอยู่แล้ว ถึงเธอจะสนิทกับอีวานมากกว่าใครแต่ก็รู้จักอีกห้าคนที่เหลือ ตระกูลมหาอำนาจที่ใครต่อใครต่างเกรงกลัวเส้นทางชีวิตพวกเราต่างก็ถูกกดดันอย่างหนัก และแบกรับอะไรมากมายมาตั้งเด็ก..5 ปีก่อน..คืองานล่าสัตว์นี้มีมาประมาณเจ็ดปีได้แล้ว เป็นความคิดของเรนเดลกับลูเซียโน่ที่เอ่ยชวนเพื่อนหากิจกรรมสนุก ๆ ทำร่วมกัน ก็หาอะไรฆ่าเวลาเล่น.. โดยเลือกสถานที่เป็นพื้นที่ของตระกูลอีวานที่คฤหาสน์อยู่ติดภูเขา และด้านหลังคฤหาสน์ซึ่งก็ไกลพอสมควรเป็นโซนล่าสัตว์ที่ปู่อีวานมีเป็นทุนเดิม แน่นอนว่าทุกอย่างกลายเป็นของอีวานสองปีแรกก็ดูเป็นการล่าสัตว์ปกติ เพราะพวกเขาก็แค่ยิงนก ยิงกระต่าย ยิงกวาง และสัตว์ตัวใหญ่ขึ้นมาหน่อยก็เป็นเพียงหมูป่า แต่เมื่อพวกเขาอายุครบ 22 ปี การล่าสัตว์ก็มีรูปแบบเปลี่ยนไป มันรุนแรงและโหดร้ายสำหรับคนธรรมดา “เป็นไงความคิดของกูสองคน” เรนเดลเอ่ยถามเพื่อนที่เหลือ“กูเอาด้วย”“ไ
ก่อนจะปล่อยให้เรื่องมันบานปลายไปมากกว่านี้คาร์ลเตอร์ที่เงียบมาตลอดจึงเอ่ยปากพูดขึ้นมาบ้าง“ไอ้เรนมึงมีแผนอะไรก็พูดออกมาเลย อย่าดึงเชิงนาน”“กูรำคาญ” “วันนี้มึงแม่งน่าหงุดหงิดจริง ๆ”ลูเซียโน่ซ้ำเติมต่อ เพราะความรู้สึกผิดกำลังทำงานแล่นพล่านอยู่ในจิตใจ ยังไงผู้หญิงตรงหน้าเขาก็คือคนรักเพื่อน ความปากไว (ปากหมา) มันยั้งไม่ทัน “ไปยืนไกล ๆ กู” ลูเซียโน่ผลักเรนเดล“อ้าวทิ้งกันได้ลงนะเพื่อนรัก”“ใครเพื่อนรักมึง!”ลูเซียโน่เดินหนีไปยืนข้างเจริค เขาไม่น่าขาดสติเกินไปเลย เพราะคิดถึงแค่เรื่องสนุกที่จะได้ทำมากเกินไป“ยังเงียบอีก ปากมึงอยากอมลูกปืนแทนเหรอวะเพื่อน”คาร์ลเตอร์หันไปด่ากราดใส่เรนเดล เขาจับจุดได้ว่านี่คงเป็นหนึ่งในความสนุกของเรนเดล หรืออาจจะต้องการลองใจอีวานเรื่องขนมปัง ???“นาน ๆ ทีได้เห็นพวกมึงด่ากัน”“มันก็สนุกดีไม่ใช่เหรอ”“แล้วก็ได้เห็นด้วยว่า อีวานคนเย็นชาไร้หัวใจเป็นบ้าเพราะน้องขนาดไหน”“ไอ้เรนเดล..” อีวานกัดฟันพูด ไม่ได้โกรธหรืออะไร แค่ไม่ชอบใจที่เรนเดลเลือกใช้วิธีแบบนี้ ถ้าเขาเผลอทำอะไรรุนแรงขึ้นมาจะยังทำไง!!!อีวานหันมามองร่างบางที่กอดแขนเขาเอาไว้แน่น ลูบหัวเธอเชิงบอกว่าสถานก
“น้องอยากจะไป จะห้ามน้องทำไม ขนมปังไม่ต้องไปไหนครับ พี่อนุญาตให้เข้าร่วมงานล่าสัตว์ในครั้งนี้”“ไอ้เรนเดล!”อีวานกำลังรู้สึกโมโหการกระทำของเพื่อน มันจะมากเกินไปแล้วนะ“สรุปมันเป็นงานล่าสัตว์แบบไหนกันแน่คะ แล้วคุณจะไปโกรธพี่เขาทำไม ถ้าแค่ไม่อยากให้ฉันไปด้วย งั้นฉันไม่ไปก็ได้ค่ะ”“แต่อย่ามาทะเลาะกันเพราะฉันเลยนะคะ ฉันรู้สึกไม่ดี” น้ำเสียงความน้อยใจมาเต็ม มีเหรอที่อีวานจะกล้าปล่อยผ่าน พอเธอจะเดินหนีก็คว้าแขนเธอเอาไว้“ไม่ใช่อย่างนั้นขนมปัง” อีวานหันมาพูดเสียงเบาลง แต่จะให้เขาบอกว่างานล่าสัตว์ที่กลุ่มเขาชอบทำคือการลงโทษพวกที่หักหลัง แล้วไหนจะมีตอนที่พวกเขาจะต่อสู้กันเองอีก มันดูเป็นกิจกรรมปกติสำหรับกลุ่มเขา แต่เธอผู้หญิงตัวเล็ก ๆ จะมาเข้าร่วมไม่ได้“งานล่าสัตว์กลุ่มเรามันค่อนข้างยากและอันตรายไม่ได้เหมือนงานล่าสัตว์ทั่วไปน่ะครับ”“อีวานมันเป็นห่วงขนมปังถึงไม่อนุญาตให้ไป” คาร์ลเตอร์อธิบายให้เธอฟัง“งั้นเปลี่ยนสักปีไหมล่ะ ลองล่าสัตว์แค่สัตว์สักปี..” เคอร์วินเสนอให้เปลี่ยนรูป“ไม่ได้! จะมาเปลี่ยนไม่ได้” ลูเซียโน่ปฏิเสธเสียงแข็ง เพราะงานล่าสัตว์นี้เป็นสิ่งที่ลูเซียโน่ชอบที่สุด การได้ปลดปล่อ
“พวกมึงมาทำอะไรในบ้านกูเนี่ย???”“งานล่าสัตว์ เริ่มมันสัปดาห์นี้เลย”“ว่าไงนะ!”คฤหาสน์ตระกูลมาร์ติเนซ 🦄หัวโจกในการนัดรวมตัวเพื่อน ๆ ในแก๊งบรูทิช คือเรนเดล หลังจากเมื่อวานที่เขาได้เห็นเพื่อนเจอเรื่องอะไรมาบ้าง ทั้งความเศร้าเสียใจในอดีต ความรู้สึกโดดเดี่ยวในการถูกแม่ทอดทิ้ง และการไร้ที่พึ่งพาจากครอบครัว เวลาแบบนี้พวกเขาซึ่งเป็นเพื่อนก็ควรจะมาอยู่เคียงข้าง และเขาอยากทำให้เพื่อนยอมรับความรู้สึกตัวเองก่อนจะสายไป สิ่งที่ทำให้อีวานมีความสุขและได้รวมตัวกันอย่างแนบเนียน การใช้ข้ออ้างเป็นงานล่าสัตว์กลุ่มประจำปีดูสมเหตุผลที่สุดถึงแม้ว่าตัวเขาเองจะต้องผิดนัดทะเลาะคนที่รอคอยให้เขากลับไปหา แต่ยังไงเธอคนนั้นก็ไม่เคยหายไปไหนอยู่แล้ว..จะปล่อยให้รอไปอีกสักหน่อยคงไม่เป็นอะไร...“หมายถึงงานล่าสัตว์ของกลุ่มเราในสองเดือนหน้า?”“เออ สองเดือนหน้าพวกกูไม่ว่าง เลื่อนมาเป็นสัปดาห์นี้แทนนะ”เรนเดลเอ่ยพูดขึ้นมาก่อน ต่อไปก็ให้เพื่อนหาคำพูดดี ๆ ที่ทำให้อีวานเชื่อ พร้อมหันไปสะกิดไหล่เพื่อนซี้อย่างลูเซียโน่ และคาดหวังว่า‘เรื่องแค่นี้มึงคงทำได้นะเพื่อน’“ไม่ว่าง? เหรอ..” อีวานใช้ลิ้นดันกระพุ้งแก้ม“เออใช่ กูต้อ
Italy 🇮🇹 อีวานกับขนมปังเดินทางด้วยไพรเวทเจ็ทส่วนตัวของสายการบินไทยเพื่อนสนิท (เจริค) เมื่อมาถึงอิตาลีเขาพาเธอพักที่โรงแรมก่อนเพราะต้องแวะไปจัดการปัญหาที่สำนักงานกฎหมาย“เธอรออยู่โรงแรมก่อนนะ”“ขอไปด้วยไม่ได้เหรอคะ ที่ ๆ คุณจะไปมันเป็นความลับมากเลยเหรอคะ” ช่วงนี้เธออาจจะขอเขามากไป แต่เพราะเธอไม่อยากห่างจากอีวานเลยจริง ๆ“…”“ไม่ใช่ความลับ มันก็แค่เรื่องที่เข้ามาตอกย้ำตัวฉันในอดีตซ้ำไปซ้ำมา”“ถามได้ไหมคะ คนนั้นเป็นแม่คุณหรือเปล่า”“อืม เธอคนนั้นเป็นแม่ฉัน” แววตาของเขามันสั่นไหว ความเศร้าทั้งหมดถูกส่งออกมาทางสายตา เขาคงเจ็บปวดมากเรื่องแม่ขนมปังเดินเข้าไปกอดอีวาน เธอตบหลังเขาเบา ๆ “ไม่ว่าการตัดสินใจของคุณจะเป็นแบบไหน แต่จงเลือกทางที่ตัวเองจะไม่เจ็บปวดหัวใจนะคะ”“สิ่งสำคัญคือความรู้สึกของคุณ”“อืม วันนี้ฉันจะไปจัดการจบเรื่องที่มันผูกมัดฉันติดอยู่ในอดีต” อีวานกอดตอบเธอเขาเคยคิดว่าคงไม่มีผู้หญิงคนไหนเข้ามาทำให้เขารู้สึกดีได้ เคยคิดว่าตัวเองจะเกลียดผู้หญิงทุกคน และเคยคิดว่าตัวเองจะไม่มีวันรักใครได้…‘ฉันเริ่มอยากลองใช้คำว่า..รักกับเธอแล้วสิ’แต่เขาจะมีโอกาสได้บอกเธอไหม เพราะกำลังมีพายุล