ก๊อก ๆก๊อก ๆ“ขนม ขนมปังก๊อก ๆ“เราควรเปิดเข้าไปไหมครับ” ไต้ฝุ่นหันมาถามอีวาน เคาะเรียกอยู่นานขนมปังก็ไม่มาเปิดประตูห้องเลย“ตอนที่ยัยนั่นโทรมาเสียงก็ฟัง..(แกร๊ก) ดูไม่ค่อยดี” ไต้ฝุ่นยังพูดไม่จบประโยค อีวานก็หมุนลูกบิดประตู ผลักออกอย่างแรง“เธอ เธอ!”พรึบอีวานเดินไปเรียกข้างเตียง ร่างบางนอนหลับคลุมผ้าห่มทั้งตัว อีวานจึงดึงผ้าห่มออก อีวานตกใจเล็กน้อยเพราะเหงื่อผุดเต็มใบหน้าเล็ก มือหนาที่กำลังจะแตะสัมผัสต้องชะงักค้างเพราะเธอลืมตาตื่นขึ้นมาก่อน“อื้อ คุณ! เข้ามาได้ไง!!” ตอนแรกขนมปังก็คิดว่าตัวเก็บมาฝันที่เห็นอีวานอยู่ในห้อง แต่พอลืมตาเต็มตื่นเท่านั้นแหละ ถึงได้รู้ว่าไม่ฝัน“เราพาเข้ามาเองแหละ เขาบอกว่ารู้จักแกอะ..” ไต้ฝุ่นยิ้มเจื่อน“ไอ้ไต้ฝุ่น! ออกไปรอข้างนอกกันให้หมด!!” ขนมปังพูดเสียงดัง และจริงจัง พวกเขายอมออกไป“เฮ้อ ปวดหัวจริง ๆ เลย” เธอลุกขึ้นไปล้างหน้าล้างตา มัดผมขึ้นก่อนจะเดินลงไปพบทั้งสองคนข้างล่างไต้ฝุ่นเดินมาเกาะแขนกระซิบถามเพื่อนสาวคนสวย“แกรู้จักเขาไหม เขาว่ารู้จักแก ให้ฉันเรียกตำรวจไหม”“รู้จัก แต่แกให้เขาเข้ามาง่าย ๆ ได้ไง” ขนมปังหยิบแขนเพื่อนชายเบา ๆ“ฉันห้ามแล้ว เขาไ
หมับ! อีวานโอบร่างบางเข้าสู่อ้อมกอดทันทีที่เธอหงายหลังสลบต่อหน้าต่อตา เป็นครั้งแรกในชีวิตที่มีคนมาเป็นลมต่อหน้ามาเฟีย ถึงอย่างนั้นเขาก็มีสติ ไม่ได้ตื่นตกใจมากจนทำอะไรไม่ถูก “เธอ!” “บ้าเอ๊ย!” “ทำไมตัวร้อนขนาดนี้ล่ะ!” อีวานช้อนตัวร่างบางขึ้นอุ้มอย่างรวดเร็ว เลื่อนประตูบ้านเปิดออกกว้าง ขายาวออกวิ่งไปหน้ารั้วที่มีลูกน้องทั้งสองคนยืนรออยู่ ตะโกนเสียงดังจนลูกน้องยังตกใจ “ไปโรงพยาบาล!” อามอร์วิ่งอ้อมไปขึ้นรถฝั่งคนขับ ฮาร์ทเปิดประตูรถด้านหลังให้อีวาน อีวานวางเธอกับเบาะแล้วอ้อมไปขึ้นอีกฝั่ง เอาหัวเธอหนุนที่ตักตัวเอง ส่วนฮาร์ทเลูกน้องอีกคนก็ปิดประตู แล้วหันมาเปิดประตูขึ้นไปนั่งหน้าข้างคนขับ “ไปโรงพยาบาลตระกูลนายท่านคาร์ลเตอร์ใช่ไหมครับ”อามอร์ถามเสียงกระวนกระวาย “อืม ไปเลย” “เร็ว!” “ครับ ๆ” ไต้ฝุ่นที่มองอยู่ในบ้านเห็นเพื่อนถูกอุ้มขึ้นรถโดยที่หมดสติก็รู้เลยว่าเพื่อนสาวคงป่วยมาก ตอนจับตัวก็รู้สึกว่าตัวร้อนเหมือนไฟ แต่ขนมปังไม่ชอบไปหาหมอ นี่ก็คงปล่อยให้ตัวเองป่วยจนไม่ไหว ดีที่มีคุณคนนั้นอยู่ด้วย เขาคงจะพาเพื่อนสาวคนสวยไปโรงพยาบาล ได้ยินเสียงตะโกนดังลั่นเลย “เขาเป็นอะไรกับยัยขนมกันแน่นะ
ช่วงหัวค่ำ ขนมปังรู้สึกตัว พอลืมตามาพบว่าตัวเองอยู่โรงพยาบาล เธอจำอะไรก่อนหน้านี้ไม่ค่อยได้ แต่คุ้น ๆ ว่าภาพสุดท้ายคือเธออยู่กับอีวาน เขามาหาเธอที่บ้าน แล้วหลังจากนั้นภาพก็ตัด“นี่เราเป็นลมเหรอ?”ก๊อก ๆ“ขออนุญาตนะคะ”มีพยาบาลเข้ามาตรวจเช็กปริมาณน้ำเกลือพอดี ขนมปังเลยถามถึงเรื่องก่อนหน้านี้ และชื่อโรงพยาบาลที่เธอกำลังรักษาตัวอยู่“เอ่อ ฉันอยู่ที่โรงพยาบาลอะไรเหรอคะ”“ที่นี่โรงพยาบาลดีอาร์ค่ะ คนไข้อยากได้อะไรไหมคะ” พยาบาลสาวเอ่ยถาม เพราะเธอได้รับหน้าที่ให้ดูแลขนมปังเป็นพิเศษ“ไม่ค่ะ แต่ว่าอยากรู้ว่าคนที่พาฉันมาที่โรงพยาบาล ใช่คนที่ชื่อ อีวาน ไหมคะ”“ใช่ค่ะ คุณอีวานเป็นคนพาคนไข้มาโรงพยาบาล แต่คุณเขากลับไปตั้งแต่ช่วงบ่ายแล้วค่ะ”“อ๋อ ขอบคุณค่ะ แต่ขอโทษนะคะคุณพยาบาล ฉันขอยืมโทรศัพท์คุณหน่อยได้ไหมคะ”“ได้ค่ะ”พยาบาลสาวยื่นโทรศัพท์มือถือตัวเองไปให้ขนมปัง เธอรับมาแล้วกดเบอร์ไต้ฝุ่นบอกให้มาหาเธอที่ที่โรงพยาบาลไต้ฝุ่นก็ขับรถจากบ้านมาหาเพื่อนสาวคนสวยทันที แล้วสองคนก็ได้พูดคุยเล่าเรื่องราวที่ผ่านมาตั้งแต่แรก“ซวยแล้วแหละ”“อะไร ซวยอะไร”“แกดันไปยุ่งกับคนที่ไม่ควรยุ่งน่ะสิ”“แกหมายความว่าอะไรวะ”
ขนมปังกลับมาพักผ่อน อยู่บ้านหลังจากออกจากโรงพยาบาล ก็มีงานติดต่อเข้ามาจากต่างจังหวัด ไม่ให้เธอต้องจมปลักอยู่กับความรู้สึกบางอย่างที่หาคำตอบไม่ได้ และก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไม ถึงต้องไปคิดถึงเรื่องของคนที่เธอไม่อยากจะยุ่งด้วยที่สุดในชีวิต“เข้ามาวุ่นวายในชีวิตคนอื่นง่าย ๆ แล้วก็หายออกไปง่าย ๆ”“เป็นงานอดิเรกที่ชอบทำมากสินะ!”“ไอ้คนใจร้าย ทำฉันป่วยหนักขนาดนั้นก็ไม่รับผิดชอบอะไรเลย!”ถึงจะพูดว่าเขาไม่รับผิดชอบ แต่ก็ออกค่ารักษาพยาบาลให้เองทั้งหมด รวม ๆ แล้วเกือบหนึ่งแสนที่เธอพักรักษาตัวตัวที่โรงพยาบาลดีอาร์รวมสี่วัน“ดี ฉันจะได้ไม่ต้องเสียเวลาคิดหาทางหนีคุณ!” ตอนแรกก็คิดว่าจะต้องหาที่หนีระหว่างที่ต้องอยู่บ้านคนเดียว แต่หายไปสามวันไม่ติดต่อมาเลย ก็คงจะไม่มาวุ่นวายอะไรกับเธออีกแล้ว“ไม่อยากคิดถึงเรื่องไอ้บ้านั่นแล้ว!”“หงุดหงิดจริง!”ขนมปังบ่นอุบอิบพร้อมกับเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเดินทางเตรียมตัวไปต่างจังหวัดในวันพรุ่งนี้ เธอต้องไปทำงานที่นั่นประมาณสองอาทิตย์ แต่เพราะสถานที่ ที่ใช้ถ่ายทำเป็นรีสอร์ต รีสอร์ตสวยมากด้วยมีสัตว์น่ารัก ๆ เยอะด้วยอาจจะเพราะที่นั่นนอกจากจะเป็นรีสอร์ตก็ยังเป็น
วันต่อมา ขนมปังรีบขับรถออกจากบ้านตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้น เพราะกลัวว่าจะต้องเจออีวานมารอดักเจออยู่หน้าบ้านกรุงเทพไปปากช่องใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงกว่า ถึงนั่นก็คงสายพอดี“อย่าหวังจะได้เจอฉันง่าย ๆ เลยไอ้ยูนิคอร์นประสาท!”ไร่มาร์วิน & รีสอร์ต 🌳อีกคนลุกลี้ลุกลนหนีไม่อยากเจอหน้า ผิดกับอีกคนที่นั่งยิ้มหลังจากได้โทรศัพท์ไปแกล้ง ทั้งที่ตัวเองไม่ได้อยู่กรุงเทพด้วยซ้ำ และก็รู้ว่าเธอไม่มีทางออกมาเจอ ช่วงสามวันที่หายไปคือเขาเคลียร์งานกับเคลียร์สมองตัวเอง หนึ่งในนั้นก็เรื่องเธอ แต่วันนี้นึกสนุกจึงอยากจะโทรไปหา เธอบอกว่าเขาจะไม่มีทางได้เจอเธอ คิดผิดแล้ว พรุ่งนี้เราจะได้เจอกันที่อีวานรู้ว่ายังก็ตัองได้เจอกันนั่นก็เป็นเพราะ งานที่เธอได้รับปากตบคำจะมาถ่ายทำ เป็นเขาเองที่จ้าง ทำให้ตอนนี้ อีวานก็แค่เพียงนั่งรออย่างสบายใจ “หึ หายดีแล้วสินะ” อีวานวางโทรศัพท์ลง อดจะขำไม่ได้ ได้ยินเธอเถียงทุกตำแบบนี้รู้สึกโล่งใจยังไง บอกไม่ถูกเหมือนกัน“มึงเห็นใช่ไหม ว่าเจ้านายเราอมยิ้มอยู่” ฮาร์ทสะกิดอามอร์“เห็น กูไม่ได้ตาบอด”“อาการแบบนี้เขาเรียกมีใจหรือเปล่าวะมึงว่า”“ก็ไม่แน่ ถ้าโทรไปเพราะอยากรู้ว่าเขาหายดีแล
บ้านไม้หลังใหญ่เป็นแบบประยุกต์ให้เข้ากับยุคสมัยใหม่ รูปทรงบ้านเป็นแบบโมเดิร์น ประตูหน้าต่างส่วนใหญ่เป็นกระจก และเป็นกระจกแบบพิเศษที่สามารถกันกระสุนได้ ด้านหน้ามีน้ำพุขนาดใหญ่ ด้านบนปั้นรูปยูนิคอร์นสีขาวให้น้ำพุออกมาจากเขา ด้านข้างของบ้านมีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ความลึกประมาณ150-160 เซนติเมตร สวนดอกไม้ที่อยู่รอบบ้านก็เน้นเป็นสีเขียวเป็นส่วนใหญ่ ดอกไม้ที่มีสีก็มีปะปนกันไปทั้งกล้วยไม้ป่า ดอกกุหลาบ ดอกคุณนายตื่นสาย ดอกลีลาวดี ฯลฯ บ้านหลังนี้ตั้งอยู่ในพื้นที่ส่วนตัว ห่างจากรีสอร์ตและห่างจากพื้นที่สำหรับนักท่องเที่ยวออกมาไกล คนนอกไม่มีทางที่จะเข้ามาได้ถ้าไม่ได้รับอนุญาตเสียก่อน ไร่นี้เป็นมรดกที่ได้สืบทอดต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น ผู้นำตระกูลคนแรกมาอยู่ไทยและท่านได้กว้านซื้อที่ดินทำธุรกิจฟาร์มโคนมเป็นอย่างแรกและขยายธุรกิจออกมาใหม่เรื่อยๆ รวมถึงการทำไร่ข้าวโพด ไร่องุ่น และชื่อไร่จึงไม่เคยเปลี่ยน เพราะท่านตั้งไว้ว่า มาร์วิน ซึ่งมีความหมายว่า ชนะ ตระกูลของเราจะไม่มีวันแพ้ ถึงแม้สิ่งเดียวที่ไม่เคยชนะได้เลย คือเรื่องความรัก… เพราะว่าไม่ว่าจะท่านหญิงคนไหน ต่างก็ทำลายหัวใจผู้นำตระกูลทุกครั้ง แต่
“คิดจะทำอะไร” “ก็คิดว่าจะเล่นสนุกกับเธอยังไงดี?” ของเล่นชิ้นนี้สนุกกว่าของเล่นทุกชิ้นที่เขาเคยเล่น อาจจะเพราะของเล่นชิ้นนี้มันมีชีวิต และเถียงเก่ง นิสัยไม่ยอมคนของเธอ มันทำให้เขาอยากเก็บเธอไว้เล่นนาน ๆ อีวานกำลังจะโน้มลงไปหอมแก้มขนมปังแต่ก็ต้องชะงักกับประโยคที่เธอกำลังเอ่ยพูดออกมาเรื่อย ๆ “ไอ้โรคจิต ป่วยปะเอาจริง? ไปหาหมอไหม” “แม่คุณเขาเลี้ยงคุณมายังไงเหรอคะ ฉันอยากรู้จริง ๆ ทำไมถึงได้โตมามีจิตใจโหดร้ายขนาดนี้” “หยุด” “ทำไม ฉันพูดแทงใจเหรอ แม่คุณจะเสียใจแค่ไหนที่รู้ว่าลูกชายของเธอชอบมาทำร้ายรังแกผู้หญิง ที่เป็นเพศเดียวกับแม่ตัวเอง!” “ขนมปังฉันบอกให้หยุด” อีวานจ้องตาขนมปัง เธอจ้องกลับอย่างไม่กลัว “ไม่ คุณรักแม่คุณไหมฉันถามจริง ถ้าแม่คุณโดนแบบฉันบ้างล่ะ?! คิดว่าแม่คุณจะชอบไหม” คำพูดขนมปังก็เหมือนมีดที่ทิ่มแทงลงไปยังจิตใจที่ถูกเก็บซ่อนเรื่องราวในอดีตให้มันเกินแผลขึ้นมาใหม่อีกครั้ง “ขนมปัง!” อีวานโกรธจนหน้าสั่น เส้นเลือดปูดขึ้นมาตรงขมับ มือก็กำแน่นขึ้นจนเหมือนกระดูกข้อมือของขนมปังสามารถหักได้เลย “ฉันไม่หยุด! ทีคุณเคยหยุดบ้างไหม ฉันสงสารแม่คุณนะ เธอคงจะเสียใจที่มีล
‘ฉันไม่มีแม่’ คำพูดนั้นของอีวาน มันยังคงวนเวียนอยู่ในความคิดและสมองของเธอ แม้เขาจะเดินออกไปแล้วก็ตาม แถมเธอได้ยินเขาปิดประตูเสียงดังมาก “คงโมโหมาก ไม่โมโหก็แปลก…” “ฉันด่าแรงไปหรือเปล่านะ.. ไม่น่าไปว่าถึงแม่เลย แล้วทำไมถึงบอกว่าตัวเองไม่มีแม่ด้วย ตาบ้านี่!” พอเขาเดินออกไปเธอก็นั่งขึ้นอย่างรู้สึกผิด เพราะในตอนที่เธอจ้องตาอีวาน ขนมปังเห็นแววตาอีวานเศร้าอย่างที่ไม่เคยเห็น ทุกครั้งที่ที่เธอจ้องมองดวงตาสวยคู่นั้นมันมักจะว่างเปล่าและแข็งกร้าว นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ขนาดที่เธอใช้สายตามองยังรับรู้ว่าเขาเศร้ามาก “ไปขอโทษดีไหม” “แต่เขาไม่เคยจะขอโทษเราเลยสักครั้ง ทำฉันป่วยก็ไม่ขอโทษ ฉันช่วยก็ไม่เคยขอบคุณ” เธอกำลังตีกับความคิด เพราะเพิ่งจะด่าไล่จนเขายอมถอยออกไป ‘ฉันไม่มีแม่’ “ใครเกิดมาจะไม่มีแม่ อีวาน คุณเป็นคนยังไงกันแน่..” “โอ๊ย แล้วทำไมต้องมาทำสายตาให้มันดูเศร้าขนาดนั้นด้วยล่ะ ฉันเลยต้องมานั่งรู้สึกผิดเลย!” “ไปขอโทษก็ได้ เพราะฉันรู้ตัวเองหรอกนะว่าพูดแรงไป” ขนมปังลุกจากเตียงนอนเดินไปหน้าประตู มองซ้ายมองขวา เห็นว่าประตูห้องข้าง ๆ มันปิดไม่สนิท คงเพราะเขาใส่อารมณ์ปิดประตูแรงไปจนมันเด้
“ฉันไม่น่าหลับเลยเสียดายจัง”“น่าจะได้พูดคุยสนิทกับเพื่อน ๆ คุณให้มากกว่านี้ ไม่อยากโดนมองว่าทำลายบรรยากาศเลยค่ะ”“ไม่เป็นไร ไม่มีใครคิดแบบนั้นหรอกนะ และก็ยังเหลือเวลาให้ได้สนุกอีกหลายวัน”“จริงนะคะ..”“อืม อย่าคิดมาก”อีวานพูดปลอบใจเธอ เขากลัวเธอจะงอแงที่ตัวเองหลับไปทั้งที่ยังอยากสนุกต่อ“เธอรออาบน้ำต่อฉันละกัน”อีวานกำลังถอดเสื้อผ้าเตรียมไปอาบน้ำอีกรอบ พอเขาอาบเสร็จก็มารอเธอบนเตียง ส่วนเธอพออาบน้ำเสร็จเดินออกมาพร้อมผ้าขนหนูที่พันไว้รอบตัวแต่ไม่สามารถบดบังเนินหน้าอกใหญ่โตนั้นได้“หนาวจังเลยค่ะ ขนาดเปิดน้ำอุ่นแล้วก็ไม่ช่วยเลย”“รู้ไหมมันมีวิธีทำให้หายหนาวอยู่นะ” อีวานปิดหนังสือที่อ่านรอเธอลง กวาดสายตามองเธอโดยเฉพาะหน้าอกที่เป็นจุดเด่นให้เขาวางสายตา“วิธีไหนคะ”อีวานลุกขึ้นเดินตรงไปหาเธอ ดึงร่างบางเข้ามาแนบชิดทำให้บริเวณเต้านมสวยแนบชิดติดกับหน้าอกแกร่งที่เปลือยเปล่าของมาเฟียหนุ่ม เขากระตุกผ้าขนหนูเธอออกจนมันหลุดไปอยู่ปลายเท้าร่างบาง“ทำอะไรคะ!”เธอมีอาการตกใจกับสิ่งที่อีวานทำนั่นคือการที่เขาใช้สองมือบีบก้นเธออย่างแรง“วิธีที่จะช่วยให้เธอหายหนาว”‘ทำไมเธอถึงได้น่า..กดลงเตียงแบบนี้วะ’“
หมับ!“ไอ้ขายาวฝากหยิบมาให้ฉันด้วยนะ ฉันก็อยากดื่มไวน์เหมือนกันอะ” เนเรียยื่นมือออกไปจับแขนอีวานก่อนที่เขาจะได้ลุกออกไป เธอแค่จะวานให้เขาหยิบแก้วไวน์มาให้เธอด้วยเหมือนกัน แต่การกระทำนี้ดูจะสร้างความไม่พอใจให้ขนมปังอย่างแรง“โอเค ยัยขาสั้น” “โอ๊ย ไอ้บ้านี่อย่ามาผลักหัวฉันนะ!”อีวานผลักหัวเพื่อนสาวคนสนิทเบา ๆ ขนมปังมองทุกอิริยาบถของทั้งคู่ข่มอารมณ์ความหึงที่ผุดขึ้นมาจนหน้าเธอแดงก่ำ!‘ใจเย็นไว้ขนมปัง’‘ท่อนเอาไว้ว่าเขาเป็นเพื่อนกัน’“ถ้าไม่ให้ผลักจะให้ดึงเหรอยัยขาสั้น”“ก็ลูบหัวฉันเหมือนที่ลูบหัวสาว ๆ สิจ๊ะ!”ขนมปังเบือนหน้าหันหนีไปอีกทางไม่อยากมองความสนิทสนมระหว่างอีวานกับเพื่อนสาวแสนสวยของเขาที่หยอกล้อกันตาอหน้าเธอ จนเกิดความรู้สึกหึง..‘บอกฉันว่าอย่าสนใจใครแต่ตัวเองกับหยอกล้อกับเพื่อนตัวเองไม่แคร์กันเลย!’“ไหนลองลูบหน่อยสิคะคุณอีวาน”“พูดไร้สาระเนเรีย”อีวานกวาดสายตาไปมองทางขนมปังทันทีว่าเธอมีท่าทีอย่างไรกับคำพูดเนเรีย ขนมปังถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เขาก็รู้ได้เลยว่าเธอกำลังไม่พอใจ“ไร้สาระอะไร ความจริงทั้งนั้น”“คนต่อไปจะเป็นสาวชนชาติไหนล่ะคะคุณเพื่อน”“เธอนี่มันผู้หญิงนิสัยเสีย”“แม
อีวานที่นั่งสนใจแค่ขนมปังก็ยังต้องแวะพูดถึงความสัมพันธ์ของลูเซียโน่กับสาวในความลับ “ไอ้สัตว์อย่ามาพากันรุมกูได้ไหม กูเอาเรื่องตัวเองอยู่เว้ยไม่ต้องให้ใครช่วย พวกมึงนั่นแหละเอาเรื่องความสัมพันธ์ของตัวเองให้รอดก่อน” “ที่พูดรอมาก็มีเหตุผล แต่กูจะรอดูเลยว่าคนที่บอกว่าเอาอยู่สภาพจะเป็นยังไง” เจริคเอ่ยขึ้นเบา ๆ ถ้าเพื่อนจัดการปัญหาตัวเองได้มันก็ดี แต่เห็นมาเยอะแล้วที่พูดว่าเอาอยู่สุดท้ายก็เจ็บเจียนตายทุกคน… ยังไม่เจอกับตัวก็เลยยังกล้าพูด เราสามารถอวดเก่งกับความสัมพันธ์คนอื่นได้แต่ไม่ใช่กับความสัมพัทธ์ของตัวเอง “พี่เจคคะ” “ว่าไงครับ” “อยากลองดื่มไวน์จังเลยค่ะ” เธอชี้ไปที่แก้วไวน์ในมือเจริค “พี่ว่าไม่ดีนะครับ เรายังเด็กอยู่” เจริควางมือลงบนหัวดิสนีย์ลูบสองที เธอทำหน้ามุ่ยใส่เขาทันทีไม่พอใจ “หนูอยากลองดื่มอ่ะ นะ ๆๆๆ ได้ไหมคะ” “ไม่ได้ครับ” เจริคทำเสียงเข้ม “เชอะ! ไม่ขอจากพี่ก็ได้” เธอหันไปทางพี่ชายคนรอง คนที่ตามใจเธอที่สุด “โดนงอนแล้วดิ ชอบตามใจดีนักโดนงอนซะบ้างมึง” คาร์ลเตอร์หันไปพูดกับเจริค “พี่ชายคะ น้องอยากดื่มค่ะ ขอดื่มไวน์ได้ไหม” “แก้วเดียวพอนะ” “เย้ ได้ค่ะ
แคมป์ปิ้ง 🏕 เมื่ออาหาร เครื่องดื่ม และของทานเล่นถูกจัดเตรียมพร้อมเรียบร้อยสำหรับรับประทาน ทุกคนก็เริ่มเข้ามานั่งล้อมวงรอบกองไฟเป็นรูปวงกลม ลำดับการนั่ง ให้คาร์ลเตอร์เป็นจุดแรก ต่อมาถัดมาทางซ้ายมือคือเคอร์วิน เรนเดล ลูเซียโน่ ขนมปัง อีวาน เนเรีย ดิสนีย์ เจริค ที่นั่งติดอยู่ทางขวามือคาร์ลเตอร์ “ลองกินอันนี้ดู” อีวานหั่นสเต๊กเนื้อวัวให้ขนมปังลองชิม เขามองแก้มเนียนเคี้ยวตุ่ย ๆ “อื้ม! อร่อยค่ะ” “อร่อยก็กินเยอะ ๆ น้ำหนักเธอลงไปเยอะเลยนะจากที่อุ้มเมื่อวาน” “คะ!!!” “แฮ่ม! เพื่อนยังนั่นกันอยู่ตรงนี้เนอะ” ลูเซียโน่ยิ้มมุมปากมองอีวานมันทำเหมือนตรงนี้มีแค่มันกับน้องไปได้ไอ้นี่ “อ้าว มีมึงอยู่ตรงนี้ด้วยเหรอ กูมองไม่เห็น คิดว่าเป็นอากาศ” “ขนมปังดูเอานะครับคนแบบนี้” ลูเซียโน่หันหน้าฟ้องขนมปัง ทำหน้าล้อเลียนอีวานเมื่อโดนดุ “อีวานทำไมพูดกับเพื่อนแบบนั้นคะไม่น่ารักเลย” ขนมปังหันมองตาขวาง “พี่ลูเซียโน่จะเสียใจนะคะ” พอเธอพูดประโยคนั้นจบอีวานก็เอื้อมมือไปประคองใบหน้าเธอให้หันมามองเขาแล้วเอ่ยพูดน้ำเสียงจริงจัง “อย่าไปสนใจความรู้สึกมันหรือใคร สนใจแค่ฉันก็พอนี่ไม่ใช่คำขอแต่
เมื่อเห็นว่าอีวานกำลังจ้องเขม็งไปทางอาร์มอ ขนมปังจึงรีบอธิบาย ไม่อยากให้ลูกน้องเขาโดนดุ“ขอโทษนะที่ออกมาช้า”“ไม่เป็นไรค่ะ คุณคงจะสนุกเลยอยู่นานเป็นคนสุดท้ายเลย”ทั้งคำพูดและรอยยิ้ม เธอช่างไร้เดียงสา โลกของเขากับเธอต่างกันขนาดนี้ แล้วจะให้เขาดึงเธอมาอยู่ในโลกดำมืดนี้ได้ยังไง…ตัดมาที่เจริคเขาเดินอุ้มกระต่ายขนปุยสีน้ำตาลไปให้ดิสนีย์“พี่เอากระต่ายมาฝาก”“น่ารักมากเลยค่ะพี่เจค หนูชอบมาก”เธออุ้มกระต่ายมาแนบอก ก่อนจะทำสิ่งที่เจริคก็ไม่ขาดคิด คือการเข้ามากอดเขาโดยที่เธอไม่สนสายตาใครเลย เพราะการกอดมันเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับเธอที่เติบโตมาในต่างประเทศ“ขอบคุณนะคะ เป็นของฝากที่ดีที่สุดเลย”“ครับ ดีใจที่เราชอบ”“วันนี้เรามาทำสเต๊กกันกินดีกว่าไหมวะ”ลูเซียโน่ที่อยากกินสเต๊กจึงเอ่ยขึ้น“เอาดิ กูอยากกินพอดี” เรนเดลตอบ“แล้วคนอื่นอยากกินอะไรอีก เดี๋ยวสั่งให้ลูกน้องกูไปซื้อมาเพิ่ม”เคอร์วินเสนอแล้วก็ยังอาหารอื่น ๆ อีกมากมาย เข่น สปาเกตตี พิซซ่า ปิ้งมาชเมลโล่ ปิ้งมัน และที่ขาดไม่ได้เลยคือเครื่องดื่ม วอดก้า ไวน์ขาว ไวน์แดง น้ำผลไม้สำหรับพวกเธอที่บางครั้งอาจจะไม่อยากดื่ม“ไอ้ลูซกับไอ้อีวานไปเตรียมเนื้อ
Camping 🏕 บ้านไม้กลางป่าตั้งอยู่ในที่ดินตระกูลมาร์ติเนซ เป็นบ้านพักตากอากาศสองชั้นขนาดใหญ่ ถูกสร้างขึ้นตามคำสั่งอีวาน เพื่อใช้สำหรับพักผ่อนจากกิจกรรมล่าสัตว์กับกลุ่มเพื่อนสนิท บ้านหลังนี้จึงมีถึงหกห้องนอน การดีไซน์ห้องนอนแต่ละห้องก็เป็นตามความต้องการของหกหนุ่ม และยังมีห้องนั่งเล่น รวมถึงมีห้องใต้ดิน การล่าสัตว์จบลงแล้วสามสาวมีผู้ติดตามคอยดูแลอยู่ห่าง ๆ ไม่ได้เข้าไปวุ่นวายในเส้นทาง ถึงสองสาวอย่างขนมปัง ดิสนีย์ ไม่ได้ไล่ล่าสัตว์ตัวไหนเลยก็ตาม ส่วนเนเรียก็ยิงนกไปได้สองตัว นอกนั้นพวกเธอก็เดินเล่นแล้วออกมารอหนุ่ม ๆ ที่บ้านพักตากอากาศกับบอดี้การ์ดหนุ่มหลายคน“ทานมาการองกันไหมครับ เดี๋ยวผมไปเอาออกมาให้ครับ” อาร์มอกับบอดี้การ์ดของหนุ่ม ๆ แก๊งบรูทิชคอยดูแลผู้หญิงทั้งสามคนอย่างใกล้ชิด ถึงจะอยู่ในเขตตระกูลมาร์ติเนซที่ไม่มีใครเข้ามาได้แต่กับพวกสัตว์ไม่ใช่แบบนั้น“หรือนายหญิงอยากทานขนมปังทาแยมสตรอว์เบอร์รี่ไหมครับ”“เอาทั้งคู่มาไว้ก็ได้อาร์มอ” ขนมปังเอ่ยบอก เธอกำลังอร่อยกับน้ำส้มคั้นถ้ามีขนมด้วยยิ่งดี“เสียงนกร้องนี่ไพเราะจัง”“พวกพี่ ๆ เขาคงจริงจังกันมากเลยนะคะ”ดิสนีย์ชวนคุย ขยับขาไปตามจังหว
Part - Rendel (เรนเดล)เรนเดลเดินก้าวช้า ๆ และผิวปากไปด้วย และเสียงผิวปากของเขายิ่งสร้างความหวาดหวั่นให้กับนักโทษที่พยายามหลบซ่อน“เสียงความกลัวมันดังออกมาจนได้ยินแล้วนะ”เรนเดลหยุดยืนอยู่ตรงโขดหินก้อนใหญ่เขาสัมผัสได้ว่ามีคนหลบอยู่ด้านหลังโดยที่ตัวเขาไม่ต้องดูจีพีเอสเลยด้วยซ้ำ“ยังจะแอบอยู่เหรอ?” น้ำเสียงเยือกเย็นเอ่ยถามเอนตัวพิงโขดหิน หยิบบุหรี่ไฟฟ้าขึ้นมาสูบอย่างใจเย็น“ผมยอมแล้วครับไว้ชีวิตผมได้ครับ”“ผมขอโอกาสในการแก้ตัว”พรึบ! ฉึก!“อึก! อึกอ่อก”เรนเดลชักดาบตระกูลออกมาจากฝักดาบที่เก็บไว้ข้างเอวปาดคอชายคนนั้นทันทีที่มันมานั่งคุกเข่าอ้อนวอนขอโอกาส มันยังไม่ได้ในทันทีหรอก“พวกมึงนี่เหมือนกันหมด พูดแบบนี้ทุกปี”“เบื่อจะฟัง”ปัง!เรนเดลเตะให้มันนอนลงแล้วยิงไปที่ท้องของมัน เพราะผู้ชายคนนั้นคิดที่จะยื่นมือมาแตะต้องตัวเขา เลือดพวกมันไม่สมควรโดนตัวเขา“รอบนี้กูจะไม่ออกไปเป็นคนสุดท้าย”Part - Jerik (เจริค)เพียงแค่เจริคก้าวเท้าเข้ามาในเส้นทางล่าสัตว์ บรรยากาศรอบตัวเขาก็ดูเงียบสงบจนน่ากลัว ใบหน้าไร้ความรู้สึกและเบื่อหน่าย“เลิกซ่อนแล้วออกมา”“อย่าทำให้เสียเวลา”“สามวิเท่านั้น”“1”“2”“ออ
เริ่มการล่าสัตว์!เมื่อการล่าสัตว์เริ่มต้นขึ้น ความหื่นกระหายในการฆ่ามันก็ทำให้เลือดในกายพวกเขาพุ่งสูบฉีด ทั้งหกหนุ่มแทบอดใจไม่ไหวที่จะได้ทรมานเหล่านักโทษพวกนั้น“มาเริ่มกันเลยไหม พร้อมนะ” แกร๊ก! เสียงขยับกระบอกปืนลูกซองปิดลงหลังใส่ลูกกระสุนเสร็จ อีวานยกปืนขึ้นวางบนบ่าตัวเอง“ของแบบนี้กูพร้อมตั้งแต่เกิดแล้วว่ะ”ลูเซียโน่เอ่ยเสียงเข้มขยับปืนกำเอาไว้แน่นแล้วออกเดินไปก่อนใครเพื่อน“หึ” อีวานแค่นหัวเราะเบา ๆ“ไว้เจอกันที่แคมป์ ใครช้าสุดต้องจ่ายให้เพื่อนละหนึ่งล้านอย่าลืม”“กูยอมเป็นคนสุดท้าย” คาร์ลเตอร์เอ่ยเขาไม่ชอบแข่งขันกับใครอยู่แล้ว“ก็เห็นพูดแบบนี้มาสี่ปีแล้ว แต่มึงก็ออกมาคนแรกตลอดเลยนะเพื่อน” เรนเดลยกคิ้วเลิกสูงขึ้นมอง คาร์ลเตอร์ยิ้มจาง ๆ พลางยกไหล่ขึ้นทำไม่รู้ไม่ชี้แล้วเดินไปเส้นทางตัวเอง“รอบนี้ก็คงเป็นไอ้อีวานนั่นแหละที่ออกมาคนสุดท้าย”เคอร์วินที่เช็กกระบอกปืนอยู่ขึ้นแล้วมองไปยังอีวานที่กำลังเดินมุ่งหน้าไปยังเส้นทางของตัวเอง“ไม่ก็อาจจะเป็นไอ้เจค” เรนเดลหันไปมองเจริค“ไม่หรอก รอบนี้กูตั้งใจจะออกมาคนแรก”เจริคเอ่ยเสียงเรียบด้วยใบหน้าอันสงบนิ่ง ถือปืนลูกซองคู่ใจที่สลักชื่อกับนามสก
ตัดมาที่เจริคยังคงยืนมองเดสทินีหรือชื่อที่คนสนิทมักจะเรียกเธอว่าดิสนีย์ ร่างบางยืนจับ ๆ อาวุธสามอย่างนั้น แต่ตัดสินใจไม่ได้สักทีว่าควรจะใช้อันไหน“เลือกได้ไหมยัยตัวแสบ”“ยังค่ะ พี่เจคช่วยดิสนีย์เลือกไหมคะ”“ได้ครับ”“หน้าไม้เหมาะกับมือใหม่แบบเรามากกว่านะ”เขายื่นหน้าไม้ไปให้เธอ ดิสนีย์หยิบหน้าไม้พลิกไปพลิกมา“แล้วมันต้องทำยังไงคะ” เธอเงยหน้ามามองเจริคยิ้มจาง ๆ เธอไม่เคยหยิบจับอะไรพวกนี้เลยน่ะสิ“มา เดี๋ยวพี่สอนใช้”เจริคสอนจนเธอใช้คล่องมือ แต่ไม่คิดว่าประโยคที่เธอพูดต่อมาคือการขอให้เขาช่วยสอนวิธีใช้ปืนลูกซอง“แต่ฉันอยากลองใช้ปืนด้วยค่ะ พี่เจคช่วยสอนได้ไหมคะ”“ปืน? แน่ใจนะครับ”“ค่ะ”เจริคเดินไปหยิบปืนลูกซองมาให้ดิสนีย์ถือ แต่แค่ส่งไปให้พอเธอรับเท่านั้นแหละ เธอเกือบปล่อยปืนตกแล้ว ไม่คิดว่าปืนลูกซองจะหนักขนาดนี้ โชคดีที่เจริคยื่นมือมาช่วยถือไว้ทัน“เปลี่ยนใจแล้วค่ะ หนูเอาหน้าไม้อย่างเดียวพอ”“ครับ” เจริคมองเธอด้วยสายตาเอ็นดูเด็กคนนี้ ‘น่ารักชะมัด’หลังจากซักซ้อมวิธีการใช้อาวุธล่าสัตว์กันจนชำนาญคล่องมือแล้ว เรนเดลก็ได้อธิบายเส้นทางการล่าสัตว์ให้กับพวกเธอต่อ และจุดท้ายที่พวกเขาจะไปเจอกันค