หมับ“กรี๊ดด” อีวานเพียงจับลงที่ไหล่ของขนมปัง เธอก็กรีดร้องลั่นรถ จนเขาเองยังผละออกเล็กน้อย“เป็นอะไร คิดว่าฉันจะพาฆ่า?”“ก็จะไปรู้เหรอ พาออกมานอกเมืองตั้งไกล และยังมาที่เปลี่ยว ๆ อีกต่างหาก” ขนมปังถึงกับต้องเรียกขวัญให้กลับเพราะกลัวจนขวัญหายไปหมดแล้วเนี่ย“ฉันไม่ฆ่าของเล่นตัวเองหรอก” อีวานมองต่ำลงมาเห็นกระโปรงนักศึกษาร่างบางสั้นแค่คืบ มันร่นขึ้นมาจนเห็นกางเกงซับใน‘ใครเขาอยากเป็นของเล่นนายกัน พูดเองเออเองอีกแล้ว ถ้าไม่ติดว่ากลัวตาย แม่จะด่าให้!’ ขนมปังก่นด่าในใจ เม้มปากแน่น“น่าฉีกทิ้ง” เขาขบกรามแน่น หงุดหงิดที่ของเล่นตัวเองคงมีสายตาหลายคู่ได้มอง“ฮะ? แล้วคุณพาฉันมาที่นี่ทำไมคะ” “ใช้ปากเธอ” เขาชี้ลงไปที่เป้ากางเกงตัวเอง“คะ..”“เหมือนครั้งแรกที่เธอทำให้ฉัน”“ทำให้ก็ได้แต่ทำแล้วต้องเลิกยุ่งกับฉัน แล้วพาฉันไปส่งบ้านด้วยนะคะ”ขนมปังปลดเข็มขัดหนังราคาน่าจะหลายหมื่นออก จากนั้นรูดซิปกางเกงเขาออก เธอใช้มือดึงแก่นกายที่ตอนแรกมันก็ดูสงบนิ่ง แต่เมื่อเธอสัมผัสมันก็เริ่มขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ“อืม”“อืม ม๊วฟ บ๊วบ”“เลียตรงหัว”เธอทำตามอย่างว่าง่าย ลิ้นนุ่มละมุนกระดกขึ้นลง เลียปลายหยักท่อนเอ็น มือ
หลังจากเมื่อวานขนมปังก็เป็นไข้ขึ้นสูง น้องสาวเธออักเสบบวมแดงต้องกินยาและทายา นอนซมอยู่แต่ในบ้าน จะบอกคนที่บ้านก็ไม่ได้ว่าไม่สบายเพราะอะไร ก็เธอดันไปมีเซ็กส์อย่างรุนแรงมาน่ะสิสภาพ.. โชคดีที่พ่อกับแม่ไม่อยู่ไปเที่ยวต่างประเทศ อีกสองเดือนกว่าถึงจะกลับมา ส่วนพี่ชาย..ไม่อยากพูดถึงเลย กลับบ้านนับครั้งได้ เฉพาะเวลาที่เงินหมดนั่นแหละจะโผล่หน้ามาให้เห็น บ้านนี้เลยเหลือเพียงแต่เธอคนเดียว โชคดีที่เรื่องร้านทองมีพนักงานคอยดูแล เธอกับพี่ชายเลยไม่ต้องทำอะไรเลย โชคดีของเธอแล้วที่โตมาในบ้านที่ไม่มีใครบังคับ พ่อกับแม่ก็เข้าใจ ถึงพี่ชายจะดื้อแต่ก็ยังไม่เคยทำความเดือดร้อนอะไรที่ร้ายแรง “อื้ออ ปวดหัว” ส่วนคนที่ทำให้เธอเป็นอย่างนี้ สบายตัว สบายใจ มีความสุขที่เห็นเธอป่วย แต่ก็ยังดีที่อีวานไม่ได้ปล่อยเธอทิ้ง แต่ยังพากลับมาส่งถึงบ้าน ‘เดี๋ยวฉันจะมาหา ไว้เจอกัน’ ‘เวลาที่ฉันโทรมา ต้องรับสายทุกครั้ง’ “ใครจะไปรับฝันไปเถอะ แล้วก็นะ..จะไม่ยอมเจอ ฉันจะไม่ยอมเจอหน้าคุณอีกแล้ว!!!” “ไอ้บ้า หมอนั่นมันซาดิสม์ชัด ๆ ยิ้มตอนที่เรากำลังร้องไห้ได้ยังไง” ขนมปังคิดไปถึงเมื่อวาน ตอนที่เธออยู่ข้างบน หันหน้าให้เขาแล้วร
บ้านขนมปัง บ้านหลังใหญ่สองชั้น ทาสีน้ำตาลและขาวออกไปทางแนวเอิร์ธโทน รั้วเหล็กสีดำและปลูกต้นไม้ดอกไม้ประดับให้ความสดชื่น ข้าง ๆ ก็มีบ้านอยู่ใกล้กัน เป็นหมู่บ้านชื่อว่า แสนรัก อีวานมาโผล่อยู่หน้าบ้านขนมปังในเวลาไม่ถึงชั่วโมง อามอร์ยืนกดกริ่งอยู่พักใหญ่ก็ยังไม่มีใครออกมาเปิดประตู บ้านเงียบกริบ “หรือเธอจะไม่อยู่บ้านครับ” “ผมว่าเรากลับกันก่อนดีไหมครับ คนแถวนี้จะคิดว่าเรามาทวงหนี้หรือเปล่า” “ไม่ เธออยู่” อีวานพูดเสียงหนักแน่น “แต่เรายืนกดกริ่งมาเกือบยี่สิบนาทีแล้วนะครับ” ฮาร์ทเอ่ยพูดต่อ “กูถึงบอกว่าพวกมึงไม่ต้องมา แล้วแต่งชุดอะไร ใส่สูทสีดำมาทำไม” “บอกให้ใส่ชุดปกติ” “ก็ปกติพวกเราใส่แบบนี้กันนะครับ” อีวานถลึงตามองฮาร์ท ลูกน้องที่ชอบต่อปากต่อคำกับเขา “ขอโทษครับนายท่าน” ฮาร์ทรีบกล่าวขอโทษ ต่อจะให้ชอบเถียงยังไง แต่เขาก็ไม่คิดจะทำตัวไม่เคารพเจ้านาย “อยู่ข้างนอกเรียกเจ้านายก็พอ” “ครับนายท่าน.. รับทราบครับเจ้านาย” “ไม่ทราบว่าพวกคุณเป็นใครครับ” “มาหาขนมปังเหรอครับ?” ระหว่างที่เจ้าและลูกน้องกำลังยืนพูดคุยกันอยู่นั้น ก็มีเสียงชายหนุ่มเอ่ยทักจากข้างหลังพวกเขา อีวานหันไปมองตั้งแต่หัวจ
หมับ! อีวานจับคว้าแขนไต้ฝุ่นขณะที่เขากำลังเดินเข้าไปในบ้านขนมปัง“อะไรครับ..?”“ผมจะเข้าไปด้วย” พร้อมกับเอ่ยเสียงแข็ง“รอให้ยัยขนมตื่นแล้วอนุญาตก่อนแล้วคุณค่อยเข้าไปดีกว่านะครับ” ไต้ฝุ่นเอ่ยเสียงเรียบ พยายามแกะมือมาเฟียหนุ่มออกอย่างหนัก แต่มืออีวานที่จับแน่นราวกับว่าจะบีบให้แขนเขาหัก“คุณไม่น่าไว้ใจ” “ฮะ?!! ผมเป็นเพื่อนเธอ อีกอย่าเธอก็โทรบอกให้ผมเอาข้าวมาให้ คุณนั่นแหละที่ไม่น่าไว้ใจ!”สองหนุ่มยืนเถียงกันอยู่หน้าบ้าน ไม่มีใครยอมใคร อีวานก็ไม่มีท่าทีจะฟัง และยังจะแทรกตัวเดินเข้าไปในบ้านอีกต่างหาก“คุณปล่อยผมเถอะครับ เดี๋ยวผมจะเข้าไปบอกยัยขนมให้ว่ามีคนมารอเจอ โอเคไหม” ไต้ฝุ่นพยายามพูดหว่านล้อมให้เขาใจเย็น“ไม่!” เสียงเข้มตอบหนักแน่น“ตามหลักแล้วนะ ผมจะรู้ได้ไงว่าคุณรู้จักขนมปังจริง ขนมปังไม่เห็นเคยพาคุณมารู้จักผมเลย” ไต้ฝุ่นเริ่มทนไม่ไหว ชายหนุ่มตรงหน้าวางท่าขรึม และน่ากลัวคนนี้ ดูแล้วไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน 100% จะว่าเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันก็ไม่น่าใช่ ถึงใบหน้าเขาจะดูเป็นหนุ่มวัยรุ่น แต่การพูด การวางตัว ท่าทางภูมิฐานมากกว่าเด็กมหาวิทยาลัย ไหนจะมีคนติดตามเหมือนคนใหญ่คนโต ยังไงอายุก็มา
ก๊อก ๆก๊อก ๆ“ขนม ขนมปังก๊อก ๆ“เราควรเปิดเข้าไปไหมครับ” ไต้ฝุ่นหันมาถามอีวาน เคาะเรียกอยู่นานขนมปังก็ไม่มาเปิดประตูห้องเลย“ตอนที่ยัยนั่นโทรมาเสียงก็ฟัง..(แกร๊ก) ดูไม่ค่อยดี” ไต้ฝุ่นยังพูดไม่จบประโยค อีวานก็หมุนลูกบิดประตู ผลักออกอย่างแรง“เธอ เธอ!”พรึบอีวานเดินไปเรียกข้างเตียง ร่างบางนอนหลับคลุมผ้าห่มทั้งตัว อีวานจึงดึงผ้าห่มออก อีวานตกใจเล็กน้อยเพราะเหงื่อผุดเต็มใบหน้าเล็ก มือหนาที่กำลังจะแตะสัมผัสต้องชะงักค้างเพราะเธอลืมตาตื่นขึ้นมาก่อน“อื้อ คุณ! เข้ามาได้ไง!!” ตอนแรกขนมปังก็คิดว่าตัวเก็บมาฝันที่เห็นอีวานอยู่ในห้อง แต่พอลืมตาเต็มตื่นเท่านั้นแหละ ถึงได้รู้ว่าไม่ฝัน“เราพาเข้ามาเองแหละ เขาบอกว่ารู้จักแกอะ..” ไต้ฝุ่นยิ้มเจื่อน“ไอ้ไต้ฝุ่น! ออกไปรอข้างนอกกันให้หมด!!” ขนมปังพูดเสียงดัง และจริงจัง พวกเขายอมออกไป“เฮ้อ ปวดหัวจริง ๆ เลย” เธอลุกขึ้นไปล้างหน้าล้างตา มัดผมขึ้นก่อนจะเดินลงไปพบทั้งสองคนข้างล่างไต้ฝุ่นเดินมาเกาะแขนกระซิบถามเพื่อนสาวคนสวย“แกรู้จักเขาไหม เขาว่ารู้จักแก ให้ฉันเรียกตำรวจไหม”“รู้จัก แต่แกให้เขาเข้ามาง่าย ๆ ได้ไง” ขนมปังหยิบแขนเพื่อนชายเบา ๆ“ฉันห้ามแล้ว เขาไ
หมับ! อีวานโอบร่างบางเข้าสู่อ้อมกอดทันทีที่เธอหงายหลังสลบต่อหน้าต่อตา เป็นครั้งแรกในชีวิตที่มีคนมาเป็นลมต่อหน้ามาเฟีย ถึงอย่างนั้นเขาก็มีสติ ไม่ได้ตื่นตกใจมากจนทำอะไรไม่ถูก “เธอ!” “บ้าเอ๊ย!” “ทำไมตัวร้อนขนาดนี้ล่ะ!” อีวานช้อนตัวร่างบางขึ้นอุ้มอย่างรวดเร็ว เลื่อนประตูบ้านเปิดออกกว้าง ขายาวออกวิ่งไปหน้ารั้วที่มีลูกน้องทั้งสองคนยืนรออยู่ ตะโกนเสียงดังจนลูกน้องยังตกใจ “ไปโรงพยาบาล!” อามอร์วิ่งอ้อมไปขึ้นรถฝั่งคนขับ ฮาร์ทเปิดประตูรถด้านหลังให้อีวาน อีวานวางเธอกับเบาะแล้วอ้อมไปขึ้นอีกฝั่ง เอาหัวเธอหนุนที่ตักตัวเอง ส่วนฮาร์ทเลูกน้องอีกคนก็ปิดประตู แล้วหันมาเปิดประตูขึ้นไปนั่งหน้าข้างคนขับ “ไปโรงพยาบาลตระกูลนายท่านคาร์ลเตอร์ใช่ไหมครับ”อามอร์ถามเสียงกระวนกระวาย “อืม ไปเลย” “เร็ว!” “ครับ ๆ” ไต้ฝุ่นที่มองอยู่ในบ้านเห็นเพื่อนถูกอุ้มขึ้นรถโดยที่หมดสติก็รู้เลยว่าเพื่อนสาวคงป่วยมาก ตอนจับตัวก็รู้สึกว่าตัวร้อนเหมือนไฟ แต่ขนมปังไม่ชอบไปหาหมอ นี่ก็คงปล่อยให้ตัวเองป่วยจนไม่ไหว ดีที่มีคุณคนนั้นอยู่ด้วย เขาคงจะพาเพื่อนสาวคนสวยไปโรงพยาบาล ได้ยินเสียงตะโกนดังลั่นเลย “เขาเป็นอะไรกับยัยขนมกันแน่นะ
ช่วงหัวค่ำ ขนมปังรู้สึกตัว พอลืมตามาพบว่าตัวเองอยู่โรงพยาบาล เธอจำอะไรก่อนหน้านี้ไม่ค่อยได้ แต่คุ้น ๆ ว่าภาพสุดท้ายคือเธออยู่กับอีวาน เขามาหาเธอที่บ้าน แล้วหลังจากนั้นภาพก็ตัด“นี่เราเป็นลมเหรอ?”ก๊อก ๆ“ขออนุญาตนะคะ”มีพยาบาลเข้ามาตรวจเช็กปริมาณน้ำเกลือพอดี ขนมปังเลยถามถึงเรื่องก่อนหน้านี้ และชื่อโรงพยาบาลที่เธอกำลังรักษาตัวอยู่“เอ่อ ฉันอยู่ที่โรงพยาบาลอะไรเหรอคะ”“ที่นี่โรงพยาบาลดีอาร์ค่ะ คนไข้อยากได้อะไรไหมคะ” พยาบาลสาวเอ่ยถาม เพราะเธอได้รับหน้าที่ให้ดูแลขนมปังเป็นพิเศษ“ไม่ค่ะ แต่ว่าอยากรู้ว่าคนที่พาฉันมาที่โรงพยาบาล ใช่คนที่ชื่อ อีวาน ไหมคะ”“ใช่ค่ะ คุณอีวานเป็นคนพาคนไข้มาโรงพยาบาล แต่คุณเขากลับไปตั้งแต่ช่วงบ่ายแล้วค่ะ”“อ๋อ ขอบคุณค่ะ แต่ขอโทษนะคะคุณพยาบาล ฉันขอยืมโทรศัพท์คุณหน่อยได้ไหมคะ”“ได้ค่ะ”พยาบาลสาวยื่นโทรศัพท์มือถือตัวเองไปให้ขนมปัง เธอรับมาแล้วกดเบอร์ไต้ฝุ่นบอกให้มาหาเธอที่ที่โรงพยาบาลไต้ฝุ่นก็ขับรถจากบ้านมาหาเพื่อนสาวคนสวยทันที แล้วสองคนก็ได้พูดคุยเล่าเรื่องราวที่ผ่านมาตั้งแต่แรก“ซวยแล้วแหละ”“อะไร ซวยอะไร”“แกดันไปยุ่งกับคนที่ไม่ควรยุ่งน่ะสิ”“แกหมายความว่าอะไรวะ”
ขนมปังกลับมาพักผ่อน อยู่บ้านหลังจากออกจากโรงพยาบาล ก็มีงานติดต่อเข้ามาจากต่างจังหวัด ไม่ให้เธอต้องจมปลักอยู่กับความรู้สึกบางอย่างที่หาคำตอบไม่ได้ และก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไม ถึงต้องไปคิดถึงเรื่องของคนที่เธอไม่อยากจะยุ่งด้วยที่สุดในชีวิต“เข้ามาวุ่นวายในชีวิตคนอื่นง่าย ๆ แล้วก็หายออกไปง่าย ๆ”“เป็นงานอดิเรกที่ชอบทำมากสินะ!”“ไอ้คนใจร้าย ทำฉันป่วยหนักขนาดนั้นก็ไม่รับผิดชอบอะไรเลย!”ถึงจะพูดว่าเขาไม่รับผิดชอบ แต่ก็ออกค่ารักษาพยาบาลให้เองทั้งหมด รวม ๆ แล้วเกือบหนึ่งแสนที่เธอพักรักษาตัวตัวที่โรงพยาบาลดีอาร์รวมสี่วัน“ดี ฉันจะได้ไม่ต้องเสียเวลาคิดหาทางหนีคุณ!” ตอนแรกก็คิดว่าจะต้องหาที่หนีระหว่างที่ต้องอยู่บ้านคนเดียว แต่หายไปสามวันไม่ติดต่อมาเลย ก็คงจะไม่มาวุ่นวายอะไรกับเธออีกแล้ว“ไม่อยากคิดถึงเรื่องไอ้บ้านั่นแล้ว!”“หงุดหงิดจริง!”ขนมปังบ่นอุบอิบพร้อมกับเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเดินทางเตรียมตัวไปต่างจังหวัดในวันพรุ่งนี้ เธอต้องไปทำงานที่นั่นประมาณสองอาทิตย์ แต่เพราะสถานที่ ที่ใช้ถ่ายทำเป็นรีสอร์ต รีสอร์ตสวยมากด้วยมีสัตว์น่ารัก ๆ เยอะด้วยอาจจะเพราะที่นั่นนอกจากจะเป็นรีสอร์ตก็ยังเป็น
“เฮ้อ เหนื่อยอะ”ขนมปังฟุบหน้าลงทิ้งตัวนอนบนหน้าอกแกร่ง เสียงหายเธอหอบเหนื่อยอย่างคนที่ผ่านการวิ่งมาสิบห้านาทีแต่เปลี่ยนเป็นการทำให้เขากับเธอได้ปลดปล่อยความสุขทางกาย“แค่นี้เหนื่อยแล้ว?”“ค่ะ เหนื่อยแล้ว ฉันขอยอมแพ้ค่ะ”ระหว่างที่พูดก็ยังคงหายใจด้วยความเหนื่อยล้า ทำไมตอนเขาทำเธอไม่เห็นว่าอีวานจะบ่นออกมาเลยว่าเหนื่อยมากเลย เริ่มสงสัยแล้วว่ามาเฟียหนุ่มเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน เธอทำแค่เกร็งขาขยับขึ้นลงนี้ยังรู้สึกเหนื่อยจนหายใจแทบไม่ทัน“ยอมแพ้อย่างนี้ก็ต้องทำตามที่ฉันสั่งน่ะสิ”“ค่ะ สั่งมาเลย”แก่นกายใหญ่ไซซ์ 60 ยังคงเสียบคากระตุกหงึก ๆอยู่ด้านในสวดดอกไม้แสนสวยของขนมปัง อีวานลูบก้นงอนเนียนนุ่มบีบขย้ำเบา ๆ“แล้วคุณจะให้ฉันทำอะไรล่ะคะ”“ช่วยตัวเองให้ฉันดู ตอนนี้!”“คะ!!!”“ฉันได้ยินอะไรผิดไปหรือเปล่า”ขนมปังเงยหน้าขึ้นมามอง นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนเบิกกว้าง อยากให้สิ่งที่เธอได้ยินนั้นเป็นการเข้าใจผิด เพราะเขาเพิ่งพูดว่าให้เธอ ‘ช่วยตัวเองให้เขาดู’ ใช่ไหม“เธอได้ยินไม่ผิดหรอกเด็กดื้อ”“อีวาน..ฉัน”“เธอแพ้เองนะ จะไม่ก็ได้แต่เราก็ไม่มีเรื่องต้องคุยกันอีกก็เท่านั้น”“…” ขนมปังเม้มปากเข้ากันแน่นพร้อมหลบ
แกร๊ก ปึง! เสียงประตูบ้านเปิดออกแล้วปิดกระแทกอย่างแรงบ่งบอกว่าอารมณ์คนที่ปิดประตูนั้นกำลังอารมณ์เดือดแบบสุด ๆ ขนมปังที่นั่งเงียบ ๆ รออีวานอยู่ที่โซฟายังสะดุ้งจนหัวใจเต้นแรง แต่ก็พยายามเก็บอาการรีบเปลี่ยนสีหน้าที่ตกใจแสดงออกว่าบึ้งตึง ‘ฉันจะไม่ยอมพูดกับเขาก่อน’ ‘ไอ้คนเย็นชา’ ‘…!’ ผิดคาดจากที่ขนมปังคิดเอาไว้ว่าอีวานจะโวยวายเดินมาหาเรื่องหรือพูดเคลียร์เรื่องเลย์ตัน แต่สิ่งที่อีวานทำคือการเดินผ่านเธอไปโดยไม่มองหน้า เขาทำเหมือนเธอเป็นอากาศ… ขนมปังอึ้งไปเลยเพราะอีวานไม่เคยเมินเธอแบบนี้มาก่อน ขนมปังจึงรีบลุกเดินไปจับแขนอีวาน เขาเอียงหน้าหันกลับมามองสายตายังคงเฉยชาใส่เธอเหมือนเดิม ขนมปังขยับปากเล็กเอ่ยถาม “อีวาน” “มีอะไร” “คุณไม่ได้จะคุยกับฉันเหรอคะ” “ฉันบอกเหรอว่าจะคุย?” “ก็คุณบอกให้ฉันกลับมาที่บ้าน..” “ฉันคิดว่าคุณจะเคลียร์เรื่องที่เกิดขึ้น แล้วทำไมถึงได้เมินใส่กันล่ะคะ” เธอเม้มริมฝีปากลงแล้วคลายออกด้วยความสับสน ดวงตากลมโตสบตากับนัยน์ตาสีฟ้าน้ำทะเลแววตาของเขาฉายให้เห็นความเย็นชา “เธอพูดเองไม่ใช่เหรอว่าไม่มีเรื่องจะพูดกับฉันแล้ว งั้นก็ไม่จำเป็นต้องนั่งอธิบายอะ
“พาเธอออกไป!”“คะ..ครับ”บอดี้การ์ดเข้ามาจับแขนเล็กพยายามจะดึงให้คนที่เคารพดั่งนายหญิงพาเธอออกไปจากบ้านพักตากอากาศตามคำสั่งของนายท่าน ขนมปังขืนตัวไม่ไปตามแรงที่ดึงตัวเธอ ขนมปังหันกลับมาพูดทักท้วงอีกรอบ“อีวาน คุณจะเอาแบบนี้ใช่ไหมคะ?”“จะไม่ยอมฟังกันเลยใช่ไหมคะ?”“คิดว่าพูดในสถานการณ์ตอนนี้มันฟังขึ้นไหมล่ะ”“ฉันบอกให้ไปรอที่บ้าน”“ฉันไม่อยากพูดซ้ำประโยคเดิมหลายรอบขนมปัง”น้ำเสียงไร้ความอ่อนโยน นัยน์ตาสีฟ้าน้ำทะเลไม่สั่นคลอเลยแม้แต่เศษเสี้ยว“โอเค ได้ค่ะ”“ฉันทำได้แค่ต้องฟังแล้วก็ทำตามคำสั่งคุณเท่านั้นใช่ไหม”“ใช่ เธอควรฟังคำสั่งของฉัน”“งั้นขอบอกอะไรไว้อย่างหนึ่งค่ะ”“ถ้าคุณเลือกจะไม่ฟังกันแล้ว หลังจากนี้ฉันก็จะไม่พูดอะไรอีกแล้วค่ะ”ขนมปังมองไปที่อีวานด้วยแววตาน้อยใจ ส่วนอีวานกลับมองเธอด้วยสายตาเรียบเฉยแววตาที่ว่างเปล่าไม่บ่งบอกอารมณ์ความรู้สึกใด ๆ ออกมาเลย สายตาคู่นั้นเย็นชาราวกับน้ำแข็ง กำแพงที่เกือบถูกหลอมละลายกับถูกปกคลุมด้วยกำแพงเหล็กอันใหม่…ที่ดูแล้วจะทำลายยากกว่าเดิมอีก“ไม่ต้องจับ ฉันเดินเองได้ค่ะ”ขนมปังสะบัดตัวออกจากลูกน้องของอีวานแล้วหันหลังเดินออกไปรอเขาอยู่ที่บ้านพักตากอาก
เฮือก! พรึบ!“เชี่ย! กูฝันเหรอวะ..?!”อีวานสะดุ้งตัวตื่นขึ้นมาจากความฝัน แล้วดันเป็นฝันร้ายด้วยที่เกี่ยวกับขนมปัง… ครั้งแรกในหลายสิบปีเลยก็ว่าได้ที่เขาหลับแล้วฝัน หรือเพราะเขาป่วยเหรอถึงได้ฝันอะไรที่ไม่มีทางเกิดขึ้นจริง?!“น้ำตา?” อีวานลูบข้างแก้มตัวเองพบว่ามีน้ำตาเปียกอยู่ ทำให้เขาสับสนมากกว่าเดิม ไม่อยากเชื่อว่าเขาจะร้องไห้เพราะแค่ฝัน.. ความฝันแบบไหนกันนะที่ทำให้มาเฟียสะดุ้งตื่นได้มันคงเป็นความฝันที่กระทบจิตใจเขา ถึงทำให้คนที่แข็งแกร่งดังหินผาตกอยู่ในอาการตื่นตระหนก…“เชี่ยกูเป็นอะไรวะ”พลางนึกถึงสิ่งที่ทำให้เขาร้องไห้ได้ซึ่งในความฝันนั้นเป็นภาพที่มีคนพยายามทำร้ายขนมปังอย่างรุนแรง เหตุผลที่เขาตกใจจนตื่นเพราะเธอเสียชีวิตในอ้อมกอดของเขาโดยที่อีวานไม่สามารถช่วยหรือทำอะไรได้เลย…“มันไม่ใช่เรื่องจริง มึงก็แค่ฝัน”ใครมันจะกล้ามาทำร้ายผู้หญิงของอีวาน!! ใครอนุญาตให้แตะต้องเธอ คนเดียวที่สามารถทำอะไรเธอได้มีแค่เขาคนเดียวเท่านั้น!!!“ขนมปัง..”อีวานหันซ้ายหันขวามองหาผู้หญิงของตัวเองที่ยามนี้ไร้วี่แววของขนมปัง ผิดปกติมากที่เธอไม่นอนอยู่ข้างกายเขาหรืออยู่ในห้องนอน บรรยากาศในตอนนี้เงียบสงบเหมือน
เลย์ตันไม่สนใจเขาหันไปต่อยกำแพงต่อเต็มแรงกลายเป็นว่าเขาไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดใด ๆ เลยถึงแม้เลือดจะออกมาเยอะมาก พอได้เห็นเธออารมณ์น้อยเนื้อต่ำใจทวีคูณตอกย้ำว่าเขาคือคนขี้แพ้ ผู้หญิงที่เขาอยากได้อีวานก็เป็นคนที่ได้ “คุณเลย์ตันพอได้แล้วจะทำร้ายตัวเองไปทำไมคะ!!”เธอลุกขึ้นมาอีกครั้งสวมกอดจากด้านหลังพยายามดึงให้เขาถอยห่างด้วยแรงทั้งหมดที่มี เลย์ตันพยายามจะสะบัดเธอออก คราวนี้ขนมปังกอดติดแน่เหมือนกาว“ไม่! ปล่อยผม!”“ฉันขอร้องไปแล้วไม่ใช่เหรอว่าอย่ามีเรื่องชกต่อยอีกนี่อะไรยังไม่ทันผ่านวันเลยคุณก็เป็นแบบนี้อีกแล้ว”“คุณห้ามผมทะเลาะกับมัน ผมก็ไม่ทำ”“ตอนนี้ผมต่อยกำแพงไม่ได้ต่อยมันผมผิดอะไร”‘…จริงด้วยเขาไม่ได้มีเรื่องกับอีวาน…’“แล้วกำแพงห้องผิดอะไรคะคุณถึงไปชกเขาอยู่ได้”“ผมทำอะไรไม่ได้เลยใช่ไหมต่อยกำแพงก็ผิด งั้นให้ผมต่อยจนมือแตกตายไปเลยคุณไม่ต้องมาสนใจ”“เอาเวลานี้ไปสนใจไอ้อีวานเถอะครับ!”ขนมปังปล่อยมือออกจากตัวเลย์ตันวิธีนี้ใช้ไม่ได้ผลงั้นคงต้องลองวิธีนี้ดู‘ไหนว่าจะช่วยแค่ครั้งเดียวไงขนมปัง..’“หึ กลับไปเถอะแค่นี้ผมก็สมเพชตัวเองมากพอแล้ว”เขาแค่นหัวเราะให้กับชีวิตตัวเองเลย์ตันที่กำลังจะ
“ให้ไปช่วยหยุดใครนะคะ?”ขนมปังเอียงคอลงเล็กน้อยแล้วถามซ้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจว่าที่ฟังไปเมื่อครู่เธอไม่ได้ฟังผิดไปใช่ไหม“นายท่านเลย์ตันครับ คุณขนมปังช่วยหยุดไม่ให้เจ้านายผมทำร้ายตัวเองด้วยนะครับ” บอดี้การ์ดอีกคนที่มาด้วยเอ่ยบอกน้ำเสียงจริงจังใบหน้ากังวลสายตาก็สั่นไหวดูยังไงก็ไม่ใช่คำพูดของคนโกหก“มีเรื่องอะไรกันคะ แล้วทำไมถึงต้องเป็นฉันที่จะไปหยุดเขาล่ะคะ?”หมับ! “เอ๊ะ!”“ไม่มีเวลาแล้วครับ!”บ็อบบี้ถือวิสาสะยื่นมือออกไปคว้าข้อมือเล็กแล้วดึงลากให้เดินไปกับเขาจะต้องบอกว่ากิ่งวิ่งกิ่งเดินเร็วเสียมากกว่าพรึบ! ฟิ้วว!!“เฮ้ย! ทำไรวะ!”ฮาร์ทตะโกนออกมาสุดเสียงด้วยความตกใจเร็วกว่าสมองคือมือได้ยื่นออกไปหวังจะคว้าข้อมือหรือแขนนายหญิงแต่ช้ากว่าบ็อบบี้เขาจึงจับได้เพียงลมในอากาศ“คุณบ็อบบี้ใจเย็นก่อนค่ะฉันตามไม่ทันแล้ว”“ขอโทษนะครับที่ต้องทำแบบนี้มีแค่วิธีนี้เราถึงจะไปได้ทันนะครับ”บ็อบบี้เอ่ยขอโทษแต่ยังคงพาขนมปังออกตัววิ่งแบบที่เธอจะสับขาตามไม่ทันอยู่แล้ว กระทั่งวิ่งมาถึงประตูทางเข้าบ้านพักตากอากาศ บ็อบบี้ปล่อยมือขนมปังทรุดตัวลงไปนั่งคุกเข่าก้มหน้า“ทำอะไรคะ! ลุกขึ้นเดี๋ยวนี้เลยค่ะ”“ขอโทษนะค
ขนมปังหยิบกล่องปฐมพยาบาลเบื้องต้นขึ้นมาวางไว้ที่ตักตัวเองมือก็หยิบหาอุปกรณ์สำหรับเช็ดล้างทำความสะอาด เธอใช้สำลีชุบแอลกอฮอล์สำหรับล้างแผลเตรียมจะเช็ดลงบนใบหน้าให้อีวาน“คงจะเจ็บมากเลยใช่ไหมคะ”ขนมปังมองสำรวจบาดแผลมากมายบนใบหน้าที่เคยสะอาดสะอ้านแต่ตอนนี้กับสะบักสะบอม คิ้วแตก ปากแตก คางแตก และตามแก้มก็มีรอยฟกช้ำแดงบางอันก็เริ่มกลายเป็นสีม่วง ๆ ‘ต่อยกันเอาเป็นเอาตายเลยไหมเนี่ย’“มันคงไม่เจ็บเท่ากับที่เธอบอกว่าผิดหวังในตัวฉัน”“…”เธอนิ่งอึ้งไปพักหนึ่งหลังจากได้ยินคำพูดอีวาน ในเวลาปกติเขาไม่น่าจะเอ่ยอะไรแบบนี้ออกมาให้เธอได้ยิน เดาได้เลยว่าเขาเมาพันเปอร์เซ็นต์ ไวน์สองขวดว่างเปล่าถูกวางอยู่ข้างกายกลับกลิ่นหอมของไวน์ที่ออกมาเวลาที่เขาพูด“คุณอีวานรู้สึกเจ็บเป็นด้วยเหรอคะ”“คิดว่าเป็นคนที่ไม่มีความรู้สึกอะไรแล้วซะอีก”ขนมปังเอ่ยถามเชิงประชดพร้อมกับมือที่คอยเช็ดทำความสะอาดคราบเลือดบนใบหน้าเขาเมื่อทำความสะอาดคราบเลือดออกจนหมด ก็เริ่มหยิบหลอดยาบีบลงที่นิ้วแล้วทาให้เขาต่อ“ถ้าเป็นคนอื่นพูดก็คงไม่รู้สึกอะไร...”“แล้วฉันก็เป็นคนนะจะไม่มีความรู้สึกเลยได้ไง..”“อืม..แล้วฉันสำคัญกับคุณมากถึงขนาดที่มาแ
หมับ! หมับ!ร่างบางก้าวเท้าเดินเข้าไปหาสองหนุ่มยื่นมือทั้งสองข้างออกไปจับเสื้อเชิ้ตประมาณกระดุมเม็ดที่สามเพื่อให้พวกเขาหันกลับมามองยังเธอ ขนมปังออกแรงดึงกระชากให้เข้ามาใกล้แล้วเอ่ยคำสั่งสอนคล้ายคำขู่…“อย่าสร้างความวุ่นวายได้ไหมคะ?!”เสียงหวานเอ่ยอย่างเหนื่อยหน่ายกับพฤติกรรมของพวกเขา“ถ้าฉันรู้ว่าพวกคุณทะเลาะกันในระหว่างที่ฉันทำงาน แล้วให้คนพูดอะไรที่มันไม่เป็นความจริงอีก ฉันจะไม่อดทนกับคุณทั้งสองคนแล้วนะคะ”“…”“…”“จะอายุสามสิบกันอยู่แล้วไม่ใช่เหรอจะให้เด็กอายุยี่สิบสองมาคอยบอกคอยเตือนเหรอคะ?”แต่ละประโยคทำเอามาเฟียหนุ่มทั้งสองยืนหน้าเจื่อนอย่างกับว่าตัวจะหดเล็กลงเรื่อย ๆ ทุกครั้งที่เธอเอ่ยปากพูดตักเตือน“เป็นถึงประธานทั้งคู่ควรมีวุฒิภาวะมากกว่านี้หรือเปล่าคะ? แต่นี่อะไรเจอหน้ากันทีไรก็มาทะเลาะต่อยตีกันและยังทำต่อหน้าลูกน้องอีก”“…”“…”สองหนุ่มพี่น้องได้แต่ยืนนิ่งเงียบกริบไม่มีใครปริปากพูดสิ่งใด แค่ความคิดว่าจะเอ่ยต่อว่าเธอออกมายังไม่กล้า ‘ทำไมฉันถึงไม่กล้าพูดอะไรเลยวะ!’ เลย์ตันตั้งคำถามภายในใจ‘อีวาน มึงเป็นอะไรวะยอมเธอขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่..’ อีวานเองก็ตีกับความคิดความรู้สึกตั
หมับ! หมับ!ร่างบางก้าวเท้าเดินเข้าไปหาสองหนุ่มยื่นมือทั้งสองข้างออกไปจับเสื้อเชิ้ตประมาณกระดุมเม็ดที่สามเพื่อให้พวกเขาหันกลับมามองยังเธอ ขนมปังออกแรงดึงกระชากให้เข้ามาใกล้แล้วเอ่ยคำสั่งสอนคล้ายคำขู่…“อย่าสร้างความวุ่นวายได้ไหมคะ?!”เสียงหวานเอ่ยอย่างเหนื่อยหน่ายกับพฤติกรรมของพวกเขา“ถ้าฉันรู้ว่าพวกคุณทะเลาะกันในระหว่างที่ฉันทำงาน แล้วให้คนพูดอะไรที่มันไม่เป็นความจริงอีก ฉันจะไม่อดทนกับคุณทั้งสองคนแล้วนะคะ”“…”“…”“จะอายุสามสิบกันอยู่แล้วไม่ใช่เหรอจะให้เด็กอายุยี่สิบสองมาคอยบอกคอยเตือนเหรอคะ?”แต่ละประโยคทำเอามาเฟียหนุ่มทั้งสองยืนหน้าเจื่อนอย่างกับว่าตัวจะหดเล็กลงเรื่อย ๆ ทุกครั้งที่เธอเอ่ยปากพูดตักเตือน“เป็นถึงประธานทั้งคู่ควรมีวุฒิภาวะมากกว่านี้หรือเปล่าคะ? แต่นี่อะไรเจอหน้ากันทีไรก็มาทะเลาะต่อยตีกันและยังทำต่อหน้าลูกน้องอีก”“…”“…”สองหนุ่มพี่น้องได้แต่ยืนนิ่งเงียบกริบไม่มีใครปริปากพูดสิ่งใด แค่ความคิดว่าจะเอ่ยต่อว่าเธอออกมายังไม่กล้า ‘ทำไมฉันถึงไม่กล้าพูดอะไรเลยวะ!’ เลย์ตันตั้งคำถามภายในใจ‘อีวาน มึงเป็นอะไรวะยอมเธอขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่..’ อีวานเองก็ตีกับความคิดความรู้สึกตั