หมับ“กรี๊ดด” อีวานเพียงจับลงที่ไหล่ของขนมปัง เธอก็กรีดร้องลั่นรถ จนเขาเองยังผละออกเล็กน้อย“เป็นอะไร คิดว่าฉันจะพาฆ่า?”“ก็จะไปรู้เหรอ พาออกมานอกเมืองตั้งไกล และยังมาที่เปลี่ยว ๆ อีกต่างหาก” ขนมปังถึงกับต้องเรียกขวัญให้กลับเพราะกลัวจนขวัญหายไปหมดแล้วเนี่ย“ฉันไม่ฆ่าของเล่นตัวเองหรอก” อีวานมองต่ำลงมาเห็นกระโปรงนักศึกษาร่างบางสั้นแค่คืบ มันร่นขึ้นมาจนเห็นกางเกงซับใน‘ใครเขาอยากเป็นของเล่นนายกัน พูดเองเออเองอีกแล้ว ถ้าไม่ติดว่ากลัวตาย แม่จะด่าให้!’ ขนมปังก่นด่าในใจ เม้มปากแน่น“น่าฉีกทิ้ง” เขาขบกรามแน่น หงุดหงิดที่ของเล่นตัวเองคงมีสายตาหลายคู่ได้มอง“ฮะ? แล้วคุณพาฉันมาที่นี่ทำไมคะ” “ใช้ปากเธอ” เขาชี้ลงไปที่เป้ากางเกงตัวเอง“คะ..”“เหมือนครั้งแรกที่เธอทำให้ฉัน”“ทำให้ก็ได้แต่ทำแล้วต้องเลิกยุ่งกับฉัน แล้วพาฉันไปส่งบ้านด้วยนะคะ”ขนมปังปลดเข็มขัดหนังราคาน่าจะหลายหมื่นออก จากนั้นรูดซิปกางเกงเขาออก เธอใช้มือดึงแก่นกายที่ตอนแรกมันก็ดูสงบนิ่ง แต่เมื่อเธอสัมผัสมันก็เริ่มขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ“อืม”“อืม ม๊วฟ บ๊วบ”“เลียตรงหัว”เธอทำตามอย่างว่าง่าย ลิ้นนุ่มละมุนกระดกขึ้นลง เลียปลายหยักท่อนเอ็น มือ
หลังจากเมื่อวานขนมปังก็เป็นไข้ขึ้นสูง น้องสาวเธออักเสบบวมแดงต้องกินยาและทายา นอนซมอยู่แต่ในบ้าน จะบอกคนที่บ้านก็ไม่ได้ว่าไม่สบายเพราะอะไร ก็เธอดันไปมีเซ็กส์อย่างรุนแรงมาน่ะสิสภาพ.. โชคดีที่พ่อกับแม่ไม่อยู่ไปเที่ยวต่างประเทศ อีกสองเดือนกว่าถึงจะกลับมา ส่วนพี่ชาย..ไม่อยากพูดถึงเลย กลับบ้านนับครั้งได้ เฉพาะเวลาที่เงินหมดนั่นแหละจะโผล่หน้ามาให้เห็น บ้านนี้เลยเหลือเพียงแต่เธอคนเดียว โชคดีที่เรื่องร้านทองมีพนักงานคอยดูแล เธอกับพี่ชายเลยไม่ต้องทำอะไรเลย โชคดีของเธอแล้วที่โตมาในบ้านที่ไม่มีใครบังคับ พ่อกับแม่ก็เข้าใจ ถึงพี่ชายจะดื้อแต่ก็ยังไม่เคยทำความเดือดร้อนอะไรที่ร้ายแรง “อื้ออ ปวดหัว” ส่วนคนที่ทำให้เธอเป็นอย่างนี้ สบายตัว สบายใจ มีความสุขที่เห็นเธอป่วย แต่ก็ยังดีที่อีวานไม่ได้ปล่อยเธอทิ้ง แต่ยังพากลับมาส่งถึงบ้าน ‘เดี๋ยวฉันจะมาหา ไว้เจอกัน’ ‘เวลาที่ฉันโทรมา ต้องรับสายทุกครั้ง’ “ใครจะไปรับฝันไปเถอะ แล้วก็นะ..จะไม่ยอมเจอ ฉันจะไม่ยอมเจอหน้าคุณอีกแล้ว!!!” “ไอ้บ้า หมอนั่นมันซาดิสม์ชัด ๆ ยิ้มตอนที่เรากำลังร้องไห้ได้ยังไง” ขนมปังคิดไปถึงเมื่อวาน ตอนที่เธออยู่ข้างบน หันหน้าให้เขาแล้วร
บ้านขนมปัง บ้านหลังใหญ่สองชั้น ทาสีน้ำตาลและขาวออกไปทางแนวเอิร์ธโทน รั้วเหล็กสีดำและปลูกต้นไม้ดอกไม้ประดับให้ความสดชื่น ข้าง ๆ ก็มีบ้านอยู่ใกล้กัน เป็นหมู่บ้านชื่อว่า แสนรัก อีวานมาโผล่อยู่หน้าบ้านขนมปังในเวลาไม่ถึงชั่วโมง อามอร์ยืนกดกริ่งอยู่พักใหญ่ก็ยังไม่มีใครออกมาเปิดประตู บ้านเงียบกริบ “หรือเธอจะไม่อยู่บ้านครับ” “ผมว่าเรากลับกันก่อนดีไหมครับ คนแถวนี้จะคิดว่าเรามาทวงหนี้หรือเปล่า” “ไม่ เธออยู่” อีวานพูดเสียงหนักแน่น “แต่เรายืนกดกริ่งมาเกือบยี่สิบนาทีแล้วนะครับ” ฮาร์ทเอ่ยพูดต่อ “กูถึงบอกว่าพวกมึงไม่ต้องมา แล้วแต่งชุดอะไร ใส่สูทสีดำมาทำไม” “บอกให้ใส่ชุดปกติ” “ก็ปกติพวกเราใส่แบบนี้กันนะครับ” อีวานถลึงตามองฮาร์ท ลูกน้องที่ชอบต่อปากต่อคำกับเขา “ขอโทษครับนายท่าน” ฮาร์ทรีบกล่าวขอโทษ ต่อจะให้ชอบเถียงยังไง แต่เขาก็ไม่คิดจะทำตัวไม่เคารพเจ้านาย “อยู่ข้างนอกเรียกเจ้านายก็พอ” “ครับนายท่าน.. รับทราบครับเจ้านาย” “ไม่ทราบว่าพวกคุณเป็นใครครับ” “มาหาขนมปังเหรอครับ?” ระหว่างที่เจ้าและลูกน้องกำลังยืนพูดคุยกันอยู่นั้น ก็มีเสียงชายหนุ่มเอ่ยทักจากข้างหลังพวกเขา อีวานหันไปมองตั้งแต่หัวจ
หมับ! อีวานจับคว้าแขนไต้ฝุ่นขณะที่เขากำลังเดินเข้าไปในบ้านขนมปัง“อะไรครับ..?”“ผมจะเข้าไปด้วย” พร้อมกับเอ่ยเสียงแข็ง“รอให้ยัยขนมตื่นแล้วอนุญาตก่อนแล้วคุณค่อยเข้าไปดีกว่านะครับ” ไต้ฝุ่นเอ่ยเสียงเรียบ พยายามแกะมือมาเฟียหนุ่มออกอย่างหนัก แต่มืออีวานที่จับแน่นราวกับว่าจะบีบให้แขนเขาหัก“คุณไม่น่าไว้ใจ” “ฮะ?!! ผมเป็นเพื่อนเธอ อีกอย่าเธอก็โทรบอกให้ผมเอาข้าวมาให้ คุณนั่นแหละที่ไม่น่าไว้ใจ!”สองหนุ่มยืนเถียงกันอยู่หน้าบ้าน ไม่มีใครยอมใคร อีวานก็ไม่มีท่าทีจะฟัง และยังจะแทรกตัวเดินเข้าไปในบ้านอีกต่างหาก“คุณปล่อยผมเถอะครับ เดี๋ยวผมจะเข้าไปบอกยัยขนมให้ว่ามีคนมารอเจอ โอเคไหม” ไต้ฝุ่นพยายามพูดหว่านล้อมให้เขาใจเย็น“ไม่!” เสียงเข้มตอบหนักแน่น“ตามหลักแล้วนะ ผมจะรู้ได้ไงว่าคุณรู้จักขนมปังจริง ขนมปังไม่เห็นเคยพาคุณมารู้จักผมเลย” ไต้ฝุ่นเริ่มทนไม่ไหว ชายหนุ่มตรงหน้าวางท่าขรึม และน่ากลัวคนนี้ ดูแล้วไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน 100% จะว่าเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันก็ไม่น่าใช่ ถึงใบหน้าเขาจะดูเป็นหนุ่มวัยรุ่น แต่การพูด การวางตัว ท่าทางภูมิฐานมากกว่าเด็กมหาวิทยาลัย ไหนจะมีคนติดตามเหมือนคนใหญ่คนโต ยังไงอายุก็มา
ก๊อก ๆก๊อก ๆ“ขนม ขนมปังก๊อก ๆ“เราควรเปิดเข้าไปไหมครับ” ไต้ฝุ่นหันมาถามอีวาน เคาะเรียกอยู่นานขนมปังก็ไม่มาเปิดประตูห้องเลย“ตอนที่ยัยนั่นโทรมาเสียงก็ฟัง..(แกร๊ก) ดูไม่ค่อยดี” ไต้ฝุ่นยังพูดไม่จบประโยค อีวานก็หมุนลูกบิดประตู ผลักออกอย่างแรง“เธอ เธอ!”พรึบอีวานเดินไปเรียกข้างเตียง ร่างบางนอนหลับคลุมผ้าห่มทั้งตัว อีวานจึงดึงผ้าห่มออก อีวานตกใจเล็กน้อยเพราะเหงื่อผุดเต็มใบหน้าเล็ก มือหนาที่กำลังจะแตะสัมผัสต้องชะงักค้างเพราะเธอลืมตาตื่นขึ้นมาก่อน“อื้อ คุณ! เข้ามาได้ไง!!” ตอนแรกขนมปังก็คิดว่าตัวเก็บมาฝันที่เห็นอีวานอยู่ในห้อง แต่พอลืมตาเต็มตื่นเท่านั้นแหละ ถึงได้รู้ว่าไม่ฝัน“เราพาเข้ามาเองแหละ เขาบอกว่ารู้จักแกอะ..” ไต้ฝุ่นยิ้มเจื่อน“ไอ้ไต้ฝุ่น! ออกไปรอข้างนอกกันให้หมด!!” ขนมปังพูดเสียงดัง และจริงจัง พวกเขายอมออกไป“เฮ้อ ปวดหัวจริง ๆ เลย” เธอลุกขึ้นไปล้างหน้าล้างตา มัดผมขึ้นก่อนจะเดินลงไปพบทั้งสองคนข้างล่างไต้ฝุ่นเดินมาเกาะแขนกระซิบถามเพื่อนสาวคนสวย“แกรู้จักเขาไหม เขาว่ารู้จักแก ให้ฉันเรียกตำรวจไหม”“รู้จัก แต่แกให้เขาเข้ามาง่าย ๆ ได้ไง” ขนมปังหยิบแขนเพื่อนชายเบา ๆ“ฉันห้ามแล้ว เขาไ
หมับ! อีวานโอบร่างบางเข้าสู่อ้อมกอดทันทีที่เธอหงายหลังสลบต่อหน้าต่อตา เป็นครั้งแรกในชีวิตที่มีคนมาเป็นลมต่อหน้ามาเฟีย ถึงอย่างนั้นเขาก็มีสติ ไม่ได้ตื่นตกใจมากจนทำอะไรไม่ถูก “เธอ!” “บ้าเอ๊ย!” “ทำไมตัวร้อนขนาดนี้ล่ะ!” อีวานช้อนตัวร่างบางขึ้นอุ้มอย่างรวดเร็ว เลื่อนประตูบ้านเปิดออกกว้าง ขายาวออกวิ่งไปหน้ารั้วที่มีลูกน้องทั้งสองคนยืนรออยู่ ตะโกนเสียงดังจนลูกน้องยังตกใจ “ไปโรงพยาบาล!” อามอร์วิ่งอ้อมไปขึ้นรถฝั่งคนขับ ฮาร์ทเปิดประตูรถด้านหลังให้อีวาน อีวานวางเธอกับเบาะแล้วอ้อมไปขึ้นอีกฝั่ง เอาหัวเธอหนุนที่ตักตัวเอง ส่วนฮาร์ทเลูกน้องอีกคนก็ปิดประตู แล้วหันมาเปิดประตูขึ้นไปนั่งหน้าข้างคนขับ “ไปโรงพยาบาลตระกูลนายท่านคาร์ลเตอร์ใช่ไหมครับ”อามอร์ถามเสียงกระวนกระวาย “อืม ไปเลย” “เร็ว!” “ครับ ๆ” ไต้ฝุ่นที่มองอยู่ในบ้านเห็นเพื่อนถูกอุ้มขึ้นรถโดยที่หมดสติก็รู้เลยว่าเพื่อนสาวคงป่วยมาก ตอนจับตัวก็รู้สึกว่าตัวร้อนเหมือนไฟ แต่ขนมปังไม่ชอบไปหาหมอ นี่ก็คงปล่อยให้ตัวเองป่วยจนไม่ไหว ดีที่มีคุณคนนั้นอยู่ด้วย เขาคงจะพาเพื่อนสาวคนสวยไปโรงพยาบาล ได้ยินเสียงตะโกนดังลั่นเลย “เขาเป็นอะไรกับยัยขนมกันแน่นะ
ช่วงหัวค่ำ ขนมปังรู้สึกตัว พอลืมตามาพบว่าตัวเองอยู่โรงพยาบาล เธอจำอะไรก่อนหน้านี้ไม่ค่อยได้ แต่คุ้น ๆ ว่าภาพสุดท้ายคือเธออยู่กับอีวาน เขามาหาเธอที่บ้าน แล้วหลังจากนั้นภาพก็ตัด“นี่เราเป็นลมเหรอ?”ก๊อก ๆ“ขออนุญาตนะคะ”มีพยาบาลเข้ามาตรวจเช็กปริมาณน้ำเกลือพอดี ขนมปังเลยถามถึงเรื่องก่อนหน้านี้ และชื่อโรงพยาบาลที่เธอกำลังรักษาตัวอยู่“เอ่อ ฉันอยู่ที่โรงพยาบาลอะไรเหรอคะ”“ที่นี่โรงพยาบาลดีอาร์ค่ะ คนไข้อยากได้อะไรไหมคะ” พยาบาลสาวเอ่ยถาม เพราะเธอได้รับหน้าที่ให้ดูแลขนมปังเป็นพิเศษ“ไม่ค่ะ แต่ว่าอยากรู้ว่าคนที่พาฉันมาที่โรงพยาบาล ใช่คนที่ชื่อ อีวาน ไหมคะ”“ใช่ค่ะ คุณอีวานเป็นคนพาคนไข้มาโรงพยาบาล แต่คุณเขากลับไปตั้งแต่ช่วงบ่ายแล้วค่ะ”“อ๋อ ขอบคุณค่ะ แต่ขอโทษนะคะคุณพยาบาล ฉันขอยืมโทรศัพท์คุณหน่อยได้ไหมคะ”“ได้ค่ะ”พยาบาลสาวยื่นโทรศัพท์มือถือตัวเองไปให้ขนมปัง เธอรับมาแล้วกดเบอร์ไต้ฝุ่นบอกให้มาหาเธอที่ที่โรงพยาบาลไต้ฝุ่นก็ขับรถจากบ้านมาหาเพื่อนสาวคนสวยทันที แล้วสองคนก็ได้พูดคุยเล่าเรื่องราวที่ผ่านมาตั้งแต่แรก“ซวยแล้วแหละ”“อะไร ซวยอะไร”“แกดันไปยุ่งกับคนที่ไม่ควรยุ่งน่ะสิ”“แกหมายความว่าอะไรวะ”
ขนมปังกลับมาพักผ่อน อยู่บ้านหลังจากออกจากโรงพยาบาล ก็มีงานติดต่อเข้ามาจากต่างจังหวัด ไม่ให้เธอต้องจมปลักอยู่กับความรู้สึกบางอย่างที่หาคำตอบไม่ได้ และก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไม ถึงต้องไปคิดถึงเรื่องของคนที่เธอไม่อยากจะยุ่งด้วยที่สุดในชีวิต“เข้ามาวุ่นวายในชีวิตคนอื่นง่าย ๆ แล้วก็หายออกไปง่าย ๆ”“เป็นงานอดิเรกที่ชอบทำมากสินะ!”“ไอ้คนใจร้าย ทำฉันป่วยหนักขนาดนั้นก็ไม่รับผิดชอบอะไรเลย!”ถึงจะพูดว่าเขาไม่รับผิดชอบ แต่ก็ออกค่ารักษาพยาบาลให้เองทั้งหมด รวม ๆ แล้วเกือบหนึ่งแสนที่เธอพักรักษาตัวตัวที่โรงพยาบาลดีอาร์รวมสี่วัน“ดี ฉันจะได้ไม่ต้องเสียเวลาคิดหาทางหนีคุณ!” ตอนแรกก็คิดว่าจะต้องหาที่หนีระหว่างที่ต้องอยู่บ้านคนเดียว แต่หายไปสามวันไม่ติดต่อมาเลย ก็คงจะไม่มาวุ่นวายอะไรกับเธออีกแล้ว“ไม่อยากคิดถึงเรื่องไอ้บ้านั่นแล้ว!”“หงุดหงิดจริง!”ขนมปังบ่นอุบอิบพร้อมกับเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเดินทางเตรียมตัวไปต่างจังหวัดในวันพรุ่งนี้ เธอต้องไปทำงานที่นั่นประมาณสองอาทิตย์ แต่เพราะสถานที่ ที่ใช้ถ่ายทำเป็นรีสอร์ต รีสอร์ตสวยมากด้วยมีสัตว์น่ารัก ๆ เยอะด้วยอาจจะเพราะที่นั่นนอกจากจะเป็นรีสอร์ตก็ยังเป็น
“ฉันไม่น่าหลับเลยเสียดายจัง”“น่าจะได้พูดคุยสนิทกับเพื่อน ๆ คุณให้มากกว่านี้ ไม่อยากโดนมองว่าทำลายบรรยากาศเลยค่ะ”“ไม่เป็นไร ไม่มีใครคิดแบบนั้นหรอกนะ และก็ยังเหลือเวลาให้ได้สนุกอีกหลายวัน”“จริงนะคะ..”“อืม อย่าคิดมาก”อีวานพูดปลอบใจเธอ เขากลัวเธอจะงอแงที่ตัวเองหลับไปทั้งที่ยังอยากสนุกต่อ“เธอรออาบน้ำต่อฉันละกัน”อีวานกำลังถอดเสื้อผ้าเตรียมไปอาบน้ำอีกรอบ พอเขาอาบเสร็จก็มารอเธอบนเตียง ส่วนเธอพออาบน้ำเสร็จเดินออกมาพร้อมผ้าขนหนูที่พันไว้รอบตัวแต่ไม่สามารถบดบังเนินหน้าอกใหญ่โตนั้นได้“หนาวจังเลยค่ะ ขนาดเปิดน้ำอุ่นแล้วก็ไม่ช่วยเลย”“รู้ไหมมันมีวิธีทำให้หายหนาวอยู่นะ” อีวานปิดหนังสือที่อ่านรอเธอลง กวาดสายตามองเธอโดยเฉพาะหน้าอกที่เป็นจุดเด่นให้เขาวางสายตา“วิธีไหนคะ”อีวานลุกขึ้นเดินตรงไปหาเธอ ดึงร่างบางเข้ามาแนบชิดทำให้บริเวณเต้านมสวยแนบชิดติดกับหน้าอกแกร่งที่เปลือยเปล่าของมาเฟียหนุ่ม เขากระตุกผ้าขนหนูเธอออกจนมันหลุดไปอยู่ปลายเท้าร่างบาง“ทำอะไรคะ!”เธอมีอาการตกใจกับสิ่งที่อีวานทำนั่นคือการที่เขาใช้สองมือบีบก้นเธออย่างแรง“วิธีที่จะช่วยให้เธอหายหนาว”‘ทำไมเธอถึงได้น่า..กดลงเตียงแบบนี้วะ’“
หมับ!“ไอ้ขายาวฝากหยิบมาให้ฉันด้วยนะ ฉันก็อยากดื่มไวน์เหมือนกันอะ” เนเรียยื่นมือออกไปจับแขนอีวานก่อนที่เขาจะได้ลุกออกไป เธอแค่จะวานให้เขาหยิบแก้วไวน์มาให้เธอด้วยเหมือนกัน แต่การกระทำนี้ดูจะสร้างความไม่พอใจให้ขนมปังอย่างแรง“โอเค ยัยขาสั้น” “โอ๊ย ไอ้บ้านี่อย่ามาผลักหัวฉันนะ!”อีวานผลักหัวเพื่อนสาวคนสนิทเบา ๆ ขนมปังมองทุกอิริยาบถของทั้งคู่ข่มอารมณ์ความหึงที่ผุดขึ้นมาจนหน้าเธอแดงก่ำ!‘ใจเย็นไว้ขนมปัง’‘ท่อนเอาไว้ว่าเขาเป็นเพื่อนกัน’“ถ้าไม่ให้ผลักจะให้ดึงเหรอยัยขาสั้น”“ก็ลูบหัวฉันเหมือนที่ลูบหัวสาว ๆ สิจ๊ะ!”ขนมปังเบือนหน้าหันหนีไปอีกทางไม่อยากมองความสนิทสนมระหว่างอีวานกับเพื่อนสาวแสนสวยของเขาที่หยอกล้อกันตาอหน้าเธอ จนเกิดความรู้สึกหึง..‘บอกฉันว่าอย่าสนใจใครแต่ตัวเองกับหยอกล้อกับเพื่อนตัวเองไม่แคร์กันเลย!’“ไหนลองลูบหน่อยสิคะคุณอีวาน”“พูดไร้สาระเนเรีย”อีวานกวาดสายตาไปมองทางขนมปังทันทีว่าเธอมีท่าทีอย่างไรกับคำพูดเนเรีย ขนมปังถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เขาก็รู้ได้เลยว่าเธอกำลังไม่พอใจ“ไร้สาระอะไร ความจริงทั้งนั้น”“คนต่อไปจะเป็นสาวชนชาติไหนล่ะคะคุณเพื่อน”“เธอนี่มันผู้หญิงนิสัยเสีย”“แม
อีวานที่นั่งสนใจแค่ขนมปังก็ยังต้องแวะพูดถึงความสัมพันธ์ของลูเซียโน่กับสาวในความลับ “ไอ้สัตว์อย่ามาพากันรุมกูได้ไหม กูเอาเรื่องตัวเองอยู่เว้ยไม่ต้องให้ใครช่วย พวกมึงนั่นแหละเอาเรื่องความสัมพันธ์ของตัวเองให้รอดก่อน” “ที่พูดรอมาก็มีเหตุผล แต่กูจะรอดูเลยว่าคนที่บอกว่าเอาอยู่สภาพจะเป็นยังไง” เจริคเอ่ยขึ้นเบา ๆ ถ้าเพื่อนจัดการปัญหาตัวเองได้มันก็ดี แต่เห็นมาเยอะแล้วที่พูดว่าเอาอยู่สุดท้ายก็เจ็บเจียนตายทุกคน… ยังไม่เจอกับตัวก็เลยยังกล้าพูด เราสามารถอวดเก่งกับความสัมพันธ์คนอื่นได้แต่ไม่ใช่กับความสัมพัทธ์ของตัวเอง “พี่เจคคะ” “ว่าไงครับ” “อยากลองดื่มไวน์จังเลยค่ะ” เธอชี้ไปที่แก้วไวน์ในมือเจริค “พี่ว่าไม่ดีนะครับ เรายังเด็กอยู่” เจริควางมือลงบนหัวดิสนีย์ลูบสองที เธอทำหน้ามุ่ยใส่เขาทันทีไม่พอใจ “หนูอยากลองดื่มอ่ะ นะ ๆๆๆ ได้ไหมคะ” “ไม่ได้ครับ” เจริคทำเสียงเข้ม “เชอะ! ไม่ขอจากพี่ก็ได้” เธอหันไปทางพี่ชายคนรอง คนที่ตามใจเธอที่สุด “โดนงอนแล้วดิ ชอบตามใจดีนักโดนงอนซะบ้างมึง” คาร์ลเตอร์หันไปพูดกับเจริค “พี่ชายคะ น้องอยากดื่มค่ะ ขอดื่มไวน์ได้ไหม” “แก้วเดียวพอนะ” “เย้ ได้ค่ะ
แคมป์ปิ้ง 🏕 เมื่ออาหาร เครื่องดื่ม และของทานเล่นถูกจัดเตรียมพร้อมเรียบร้อยสำหรับรับประทาน ทุกคนก็เริ่มเข้ามานั่งล้อมวงรอบกองไฟเป็นรูปวงกลม ลำดับการนั่ง ให้คาร์ลเตอร์เป็นจุดแรก ต่อมาถัดมาทางซ้ายมือคือเคอร์วิน เรนเดล ลูเซียโน่ ขนมปัง อีวาน เนเรีย ดิสนีย์ เจริค ที่นั่งติดอยู่ทางขวามือคาร์ลเตอร์ “ลองกินอันนี้ดู” อีวานหั่นสเต๊กเนื้อวัวให้ขนมปังลองชิม เขามองแก้มเนียนเคี้ยวตุ่ย ๆ “อื้ม! อร่อยค่ะ” “อร่อยก็กินเยอะ ๆ น้ำหนักเธอลงไปเยอะเลยนะจากที่อุ้มเมื่อวาน” “คะ!!!” “แฮ่ม! เพื่อนยังนั่นกันอยู่ตรงนี้เนอะ” ลูเซียโน่ยิ้มมุมปากมองอีวานมันทำเหมือนตรงนี้มีแค่มันกับน้องไปได้ไอ้นี่ “อ้าว มีมึงอยู่ตรงนี้ด้วยเหรอ กูมองไม่เห็น คิดว่าเป็นอากาศ” “ขนมปังดูเอานะครับคนแบบนี้” ลูเซียโน่หันหน้าฟ้องขนมปัง ทำหน้าล้อเลียนอีวานเมื่อโดนดุ “อีวานทำไมพูดกับเพื่อนแบบนั้นคะไม่น่ารักเลย” ขนมปังหันมองตาขวาง “พี่ลูเซียโน่จะเสียใจนะคะ” พอเธอพูดประโยคนั้นจบอีวานก็เอื้อมมือไปประคองใบหน้าเธอให้หันมามองเขาแล้วเอ่ยพูดน้ำเสียงจริงจัง “อย่าไปสนใจความรู้สึกมันหรือใคร สนใจแค่ฉันก็พอนี่ไม่ใช่คำขอแต่
เมื่อเห็นว่าอีวานกำลังจ้องเขม็งไปทางอาร์มอ ขนมปังจึงรีบอธิบาย ไม่อยากให้ลูกน้องเขาโดนดุ“ขอโทษนะที่ออกมาช้า”“ไม่เป็นไรค่ะ คุณคงจะสนุกเลยอยู่นานเป็นคนสุดท้ายเลย”ทั้งคำพูดและรอยยิ้ม เธอช่างไร้เดียงสา โลกของเขากับเธอต่างกันขนาดนี้ แล้วจะให้เขาดึงเธอมาอยู่ในโลกดำมืดนี้ได้ยังไง…ตัดมาที่เจริคเขาเดินอุ้มกระต่ายขนปุยสีน้ำตาลไปให้ดิสนีย์“พี่เอากระต่ายมาฝาก”“น่ารักมากเลยค่ะพี่เจค หนูชอบมาก”เธออุ้มกระต่ายมาแนบอก ก่อนจะทำสิ่งที่เจริคก็ไม่ขาดคิด คือการเข้ามากอดเขาโดยที่เธอไม่สนสายตาใครเลย เพราะการกอดมันเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับเธอที่เติบโตมาในต่างประเทศ“ขอบคุณนะคะ เป็นของฝากที่ดีที่สุดเลย”“ครับ ดีใจที่เราชอบ”“วันนี้เรามาทำสเต๊กกันกินดีกว่าไหมวะ”ลูเซียโน่ที่อยากกินสเต๊กจึงเอ่ยขึ้น“เอาดิ กูอยากกินพอดี” เรนเดลตอบ“แล้วคนอื่นอยากกินอะไรอีก เดี๋ยวสั่งให้ลูกน้องกูไปซื้อมาเพิ่ม”เคอร์วินเสนอแล้วก็ยังอาหารอื่น ๆ อีกมากมาย เข่น สปาเกตตี พิซซ่า ปิ้งมาชเมลโล่ ปิ้งมัน และที่ขาดไม่ได้เลยคือเครื่องดื่ม วอดก้า ไวน์ขาว ไวน์แดง น้ำผลไม้สำหรับพวกเธอที่บางครั้งอาจจะไม่อยากดื่ม“ไอ้ลูซกับไอ้อีวานไปเตรียมเนื้อ
Camping 🏕 บ้านไม้กลางป่าตั้งอยู่ในที่ดินตระกูลมาร์ติเนซ เป็นบ้านพักตากอากาศสองชั้นขนาดใหญ่ ถูกสร้างขึ้นตามคำสั่งอีวาน เพื่อใช้สำหรับพักผ่อนจากกิจกรรมล่าสัตว์กับกลุ่มเพื่อนสนิท บ้านหลังนี้จึงมีถึงหกห้องนอน การดีไซน์ห้องนอนแต่ละห้องก็เป็นตามความต้องการของหกหนุ่ม และยังมีห้องนั่งเล่น รวมถึงมีห้องใต้ดิน การล่าสัตว์จบลงแล้วสามสาวมีผู้ติดตามคอยดูแลอยู่ห่าง ๆ ไม่ได้เข้าไปวุ่นวายในเส้นทาง ถึงสองสาวอย่างขนมปัง ดิสนีย์ ไม่ได้ไล่ล่าสัตว์ตัวไหนเลยก็ตาม ส่วนเนเรียก็ยิงนกไปได้สองตัว นอกนั้นพวกเธอก็เดินเล่นแล้วออกมารอหนุ่ม ๆ ที่บ้านพักตากอากาศกับบอดี้การ์ดหนุ่มหลายคน“ทานมาการองกันไหมครับ เดี๋ยวผมไปเอาออกมาให้ครับ” อาร์มอกับบอดี้การ์ดของหนุ่ม ๆ แก๊งบรูทิชคอยดูแลผู้หญิงทั้งสามคนอย่างใกล้ชิด ถึงจะอยู่ในเขตตระกูลมาร์ติเนซที่ไม่มีใครเข้ามาได้แต่กับพวกสัตว์ไม่ใช่แบบนั้น“หรือนายหญิงอยากทานขนมปังทาแยมสตรอว์เบอร์รี่ไหมครับ”“เอาทั้งคู่มาไว้ก็ได้อาร์มอ” ขนมปังเอ่ยบอก เธอกำลังอร่อยกับน้ำส้มคั้นถ้ามีขนมด้วยยิ่งดี“เสียงนกร้องนี่ไพเราะจัง”“พวกพี่ ๆ เขาคงจริงจังกันมากเลยนะคะ”ดิสนีย์ชวนคุย ขยับขาไปตามจังหว
Part - Rendel (เรนเดล)เรนเดลเดินก้าวช้า ๆ และผิวปากไปด้วย และเสียงผิวปากของเขายิ่งสร้างความหวาดหวั่นให้กับนักโทษที่พยายามหลบซ่อน“เสียงความกลัวมันดังออกมาจนได้ยินแล้วนะ”เรนเดลหยุดยืนอยู่ตรงโขดหินก้อนใหญ่เขาสัมผัสได้ว่ามีคนหลบอยู่ด้านหลังโดยที่ตัวเขาไม่ต้องดูจีพีเอสเลยด้วยซ้ำ“ยังจะแอบอยู่เหรอ?” น้ำเสียงเยือกเย็นเอ่ยถามเอนตัวพิงโขดหิน หยิบบุหรี่ไฟฟ้าขึ้นมาสูบอย่างใจเย็น“ผมยอมแล้วครับไว้ชีวิตผมได้ครับ”“ผมขอโอกาสในการแก้ตัว”พรึบ! ฉึก!“อึก! อึกอ่อก”เรนเดลชักดาบตระกูลออกมาจากฝักดาบที่เก็บไว้ข้างเอวปาดคอชายคนนั้นทันทีที่มันมานั่งคุกเข่าอ้อนวอนขอโอกาส มันยังไม่ได้ในทันทีหรอก“พวกมึงนี่เหมือนกันหมด พูดแบบนี้ทุกปี”“เบื่อจะฟัง”ปัง!เรนเดลเตะให้มันนอนลงแล้วยิงไปที่ท้องของมัน เพราะผู้ชายคนนั้นคิดที่จะยื่นมือมาแตะต้องตัวเขา เลือดพวกมันไม่สมควรโดนตัวเขา“รอบนี้กูจะไม่ออกไปเป็นคนสุดท้าย”Part - Jerik (เจริค)เพียงแค่เจริคก้าวเท้าเข้ามาในเส้นทางล่าสัตว์ บรรยากาศรอบตัวเขาก็ดูเงียบสงบจนน่ากลัว ใบหน้าไร้ความรู้สึกและเบื่อหน่าย“เลิกซ่อนแล้วออกมา”“อย่าทำให้เสียเวลา”“สามวิเท่านั้น”“1”“2”“ออ
เริ่มการล่าสัตว์!เมื่อการล่าสัตว์เริ่มต้นขึ้น ความหื่นกระหายในการฆ่ามันก็ทำให้เลือดในกายพวกเขาพุ่งสูบฉีด ทั้งหกหนุ่มแทบอดใจไม่ไหวที่จะได้ทรมานเหล่านักโทษพวกนั้น“มาเริ่มกันเลยไหม พร้อมนะ” แกร๊ก! เสียงขยับกระบอกปืนลูกซองปิดลงหลังใส่ลูกกระสุนเสร็จ อีวานยกปืนขึ้นวางบนบ่าตัวเอง“ของแบบนี้กูพร้อมตั้งแต่เกิดแล้วว่ะ”ลูเซียโน่เอ่ยเสียงเข้มขยับปืนกำเอาไว้แน่นแล้วออกเดินไปก่อนใครเพื่อน“หึ” อีวานแค่นหัวเราะเบา ๆ“ไว้เจอกันที่แคมป์ ใครช้าสุดต้องจ่ายให้เพื่อนละหนึ่งล้านอย่าลืม”“กูยอมเป็นคนสุดท้าย” คาร์ลเตอร์เอ่ยเขาไม่ชอบแข่งขันกับใครอยู่แล้ว“ก็เห็นพูดแบบนี้มาสี่ปีแล้ว แต่มึงก็ออกมาคนแรกตลอดเลยนะเพื่อน” เรนเดลยกคิ้วเลิกสูงขึ้นมอง คาร์ลเตอร์ยิ้มจาง ๆ พลางยกไหล่ขึ้นทำไม่รู้ไม่ชี้แล้วเดินไปเส้นทางตัวเอง“รอบนี้ก็คงเป็นไอ้อีวานนั่นแหละที่ออกมาคนสุดท้าย”เคอร์วินที่เช็กกระบอกปืนอยู่ขึ้นแล้วมองไปยังอีวานที่กำลังเดินมุ่งหน้าไปยังเส้นทางของตัวเอง“ไม่ก็อาจจะเป็นไอ้เจค” เรนเดลหันไปมองเจริค“ไม่หรอก รอบนี้กูตั้งใจจะออกมาคนแรก”เจริคเอ่ยเสียงเรียบด้วยใบหน้าอันสงบนิ่ง ถือปืนลูกซองคู่ใจที่สลักชื่อกับนามสก
ตัดมาที่เจริคยังคงยืนมองเดสทินีหรือชื่อที่คนสนิทมักจะเรียกเธอว่าดิสนีย์ ร่างบางยืนจับ ๆ อาวุธสามอย่างนั้น แต่ตัดสินใจไม่ได้สักทีว่าควรจะใช้อันไหน“เลือกได้ไหมยัยตัวแสบ”“ยังค่ะ พี่เจคช่วยดิสนีย์เลือกไหมคะ”“ได้ครับ”“หน้าไม้เหมาะกับมือใหม่แบบเรามากกว่านะ”เขายื่นหน้าไม้ไปให้เธอ ดิสนีย์หยิบหน้าไม้พลิกไปพลิกมา“แล้วมันต้องทำยังไงคะ” เธอเงยหน้ามามองเจริคยิ้มจาง ๆ เธอไม่เคยหยิบจับอะไรพวกนี้เลยน่ะสิ“มา เดี๋ยวพี่สอนใช้”เจริคสอนจนเธอใช้คล่องมือ แต่ไม่คิดว่าประโยคที่เธอพูดต่อมาคือการขอให้เขาช่วยสอนวิธีใช้ปืนลูกซอง“แต่ฉันอยากลองใช้ปืนด้วยค่ะ พี่เจคช่วยสอนได้ไหมคะ”“ปืน? แน่ใจนะครับ”“ค่ะ”เจริคเดินไปหยิบปืนลูกซองมาให้ดิสนีย์ถือ แต่แค่ส่งไปให้พอเธอรับเท่านั้นแหละ เธอเกือบปล่อยปืนตกแล้ว ไม่คิดว่าปืนลูกซองจะหนักขนาดนี้ โชคดีที่เจริคยื่นมือมาช่วยถือไว้ทัน“เปลี่ยนใจแล้วค่ะ หนูเอาหน้าไม้อย่างเดียวพอ”“ครับ” เจริคมองเธอด้วยสายตาเอ็นดูเด็กคนนี้ ‘น่ารักชะมัด’หลังจากซักซ้อมวิธีการใช้อาวุธล่าสัตว์กันจนชำนาญคล่องมือแล้ว เรนเดลก็ได้อธิบายเส้นทางการล่าสัตว์ให้กับพวกเธอต่อ และจุดท้ายที่พวกเขาจะไปเจอกันค