Camping 🏕 บ้านไม้กลางป่าตั้งอยู่ในที่ดินตระกูลมาร์ติเนซ เป็นบ้านพักตากอากาศสองชั้นขนาดใหญ่ ถูกสร้างขึ้นตามคำสั่งอีวาน เพื่อใช้สำหรับพักผ่อนจากกิจกรรมล่าสัตว์กับกลุ่มเพื่อนสนิท บ้านหลังนี้จึงมีถึงหกห้องนอน การดีไซน์ห้องนอนแต่ละห้องก็เป็นตามความต้องการของหกหนุ่ม และยังมีห้องนั่งเล่น รวมถึงมีห้องใต้ดิน การล่าสัตว์จบลงแล้วสามสาวมีผู้ติดตามคอยดูแลอยู่ห่าง ๆ ไม่ได้เข้าไปวุ่นวายในเส้นทาง ถึงสองสาวอย่างขนมปัง ดิสนีย์ ไม่ได้ไล่ล่าสัตว์ตัวไหนเลยก็ตาม ส่วนเนเรียก็ยิงนกไปได้สองตัว นอกนั้นพวกเธอก็เดินเล่นแล้วออกมารอหนุ่ม ๆ ที่บ้านพักตากอากาศกับบอดี้การ์ดหนุ่มหลายคน“ทานมาการองกันไหมครับ เดี๋ยวผมไปเอาออกมาให้ครับ” อาร์มอกับบอดี้การ์ดของหนุ่ม ๆ แก๊งบรูทิชคอยดูแลผู้หญิงทั้งสามคนอย่างใกล้ชิด ถึงจะอยู่ในเขตตระกูลมาร์ติเนซที่ไม่มีใครเข้ามาได้แต่กับพวกสัตว์ไม่ใช่แบบนั้น“หรือนายหญิงอยากทานขนมปังทาแยมสตรอว์เบอร์รี่ไหมครับ”“เอาทั้งคู่มาไว้ก็ได้อาร์มอ” ขนมปังเอ่ยบอก เธอกำลังอร่อยกับน้ำส้มคั้นถ้ามีขนมด้วยยิ่งดี“เสียงนกร้องนี่ไพเราะจัง”“พวกพี่ ๆ เขาคงจริงจังกันมากเลยนะคะ”ดิสนีย์ชวนคุย ขยับขาไปตามจังหว
เมื่อเห็นว่าอีวานกำลังจ้องเขม็งไปทางอาร์มอ ขนมปังจึงรีบอธิบาย ไม่อยากให้ลูกน้องเขาโดนดุ“ขอโทษนะที่ออกมาช้า”“ไม่เป็นไรค่ะ คุณคงจะสนุกเลยอยู่นานเป็นคนสุดท้ายเลย”ทั้งคำพูดและรอยยิ้ม เธอช่างไร้เดียงสา โลกของเขากับเธอต่างกันขนาดนี้ แล้วจะให้เขาดึงเธอมาอยู่ในโลกดำมืดนี้ได้ยังไง…ตัดมาที่เจริคเขาเดินอุ้มกระต่ายขนปุยสีน้ำตาลไปให้ดิสนีย์“พี่เอากระต่ายมาฝาก”“น่ารักมากเลยค่ะพี่เจค หนูชอบมาก”เธออุ้มกระต่ายมาแนบอก ก่อนจะทำสิ่งที่เจริคก็ไม่ขาดคิด คือการเข้ามากอดเขาโดยที่เธอไม่สนสายตาใครเลย เพราะการกอดมันเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับเธอที่เติบโตมาในต่างประเทศ“ขอบคุณนะคะ เป็นของฝากที่ดีที่สุดเลย”“ครับ ดีใจที่เราชอบ”“วันนี้เรามาทำสเต๊กกันกินดีกว่าไหมวะ”ลูเซียโน่ที่อยากกินสเต๊กจึงเอ่ยขึ้น“เอาดิ กูอยากกินพอดี” เรนเดลตอบ“แล้วคนอื่นอยากกินอะไรอีก เดี๋ยวสั่งให้ลูกน้องกูไปซื้อมาเพิ่ม”เคอร์วินเสนอแล้วก็ยังอาหารอื่น ๆ อีกมากมาย เข่น สปาเกตตี พิซซ่า ปิ้งมาชเมลโล่ ปิ้งมัน และที่ขาดไม่ได้เลยคือเครื่องดื่ม วอดก้า ไวน์ขาว ไวน์แดง น้ำผลไม้สำหรับพวกเธอที่บางครั้งอาจจะไม่อยากดื่ม“ไอ้ลูซกับไอ้อีวานไปเตรียมเนื้อ
แคมป์ปิ้ง 🏕 เมื่ออาหาร เครื่องดื่ม และของทานเล่นถูกจัดเตรียมพร้อมเรียบร้อยสำหรับรับประทาน ทุกคนก็เริ่มเข้ามานั่งล้อมวงรอบกองไฟเป็นรูปวงกลม ลำดับการนั่ง ให้คาร์ลเตอร์เป็นจุดแรก ต่อมาถัดมาทางซ้ายมือคือเคอร์วิน เรนเดล ลูเซียโน่ ขนมปัง อีวาน เนเรีย ดิสนีย์ เจริค ที่นั่งติดอยู่ทางขวามือคาร์ลเตอร์ “ลองกินอันนี้ดู” อีวานหั่นสเต๊กเนื้อวัวให้ขนมปังลองชิม เขามองแก้มเนียนเคี้ยวตุ่ย ๆ “อื้ม! อร่อยค่ะ” “อร่อยก็กินเยอะ ๆ น้ำหนักเธอลงไปเยอะเลยนะจากที่อุ้มเมื่อวาน” “คะ!!!” “แฮ่ม! เพื่อนยังนั่นกันอยู่ตรงนี้เนอะ” ลูเซียโน่ยิ้มมุมปากมองอีวานมันทำเหมือนตรงนี้มีแค่มันกับน้องไปได้ไอ้นี่ “อ้าว มีมึงอยู่ตรงนี้ด้วยเหรอ กูมองไม่เห็น คิดว่าเป็นอากาศ” “ขนมปังดูเอานะครับคนแบบนี้” ลูเซียโน่หันหน้าฟ้องขนมปัง ทำหน้าล้อเลียนอีวานเมื่อโดนดุ “อีวานทำไมพูดกับเพื่อนแบบนั้นคะไม่น่ารักเลย” ขนมปังหันมองตาขวาง “พี่ลูเซียโน่จะเสียใจนะคะ” พอเธอพูดประโยคนั้นจบอีวานก็เอื้อมมือไปประคองใบหน้าเธอให้หันมามองเขาแล้วเอ่ยพูดน้ำเสียงจริงจัง “อย่าไปสนใจความรู้สึกมันหรือใคร สนใจแค่ฉันก็พอนี่ไม่ใช่คำขอแต่
อีวานที่นั่งสนใจแค่ขนมปังก็ยังต้องแวะพูดถึงความสัมพันธ์ของลูเซียโน่กับสาวในความลับ “ไอ้สัตว์อย่ามาพากันรุมกูได้ไหม กูเอาเรื่องตัวเองอยู่เว้ยไม่ต้องให้ใครช่วย พวกมึงนั่นแหละเอาเรื่องความสัมพันธ์ของตัวเองให้รอดก่อน” “ที่พูดรอมาก็มีเหตุผล แต่กูจะรอดูเลยว่าคนที่บอกว่าเอาอยู่สภาพจะเป็นยังไง” เจริคเอ่ยขึ้นเบา ๆ ถ้าเพื่อนจัดการปัญหาตัวเองได้มันก็ดี แต่เห็นมาเยอะแล้วที่พูดว่าเอาอยู่สุดท้ายก็เจ็บเจียนตายทุกคน… ยังไม่เจอกับตัวก็เลยยังกล้าพูด เราสามารถอวดเก่งกับความสัมพันธ์คนอื่นได้แต่ไม่ใช่กับความสัมพัทธ์ของตัวเอง “พี่เจคคะ” “ว่าไงครับ” “อยากลองดื่มไวน์จังเลยค่ะ” เธอชี้ไปที่แก้วไวน์ในมือเจริค “พี่ว่าไม่ดีนะครับ เรายังเด็กอยู่” เจริควางมือลงบนหัวดิสนีย์ลูบสองที เธอทำหน้ามุ่ยใส่เขาทันทีไม่พอใจ “หนูอยากลองดื่มอ่ะ นะ ๆๆๆ ได้ไหมคะ” “ไม่ได้ครับ” เจริคทำเสียงเข้ม “เชอะ! ไม่ขอจากพี่ก็ได้” เธอหันไปทางพี่ชายคนรอง คนที่ตามใจเธอที่สุด “โดนงอนแล้วดิ ชอบตามใจดีนักโดนงอนซะบ้างมึง” คาร์ลเตอร์หันไปพูดกับเจริค “พี่ชายคะ น้องอยากดื่มค่ะ ขอดื่มไวน์ได้ไหม” “แก้วเดียวพอนะ” “เย้ ได้ค่ะ
หมับ! “ไอ้ขายาวฝากหยิบมาให้ฉันด้วยนะ ฉันก็อยากดื่มไวน์เหมือนกันอะ” เนเรียยื่นมือออกไปจับแขนอีวานก่อนที่เขาจะได้ลุกออกไป เธอแค่จะวานให้เขาหยิบแก้วไวน์มาให้เธอด้วยเหมือนกัน แต่การกระทำนี้ดูจะสร้างความไม่พอใจให้ขนมปังอย่างแรง “โอเค ยัยขาสั้น” “โอ๊ย ไอ้บ้านี่อย่ามาผลักหัวฉันนะ!” อีวานผลักหัวเพื่อนสาวคนสนิทเบา ๆ ขนมปังมองทุกอิริยาบถของทั้งคู่ข่มอารมณ์ความหึงที่ผุดขึ้นมาจนหน้าเธอแดงก่ำ! ‘ใจเย็นไว้ขนมปัง’ ‘ท่อนเอาไว้ว่าเขาเป็นเพื่อนกัน’ “ถ้าไม่ให้ผลักจะให้ดึงเหรอยัยขาสั้น” “ก็ลูบหัวฉันเหมือนที่ลูบหัวสาว ๆ สิจ๊ะ!” ขนมปังเบือนหน้าหันหนีไปอีกทางไม่อยากมองความสนิทสนมระหว่างอีวานกับเพื่อนสาวแสนสวยของเขาที่หยอกล้อกันตาอหน้าเธอ จนเกิดความรู้สึกหึง.. ‘บอกฉันว่าอย่าสนใจใครแต่ตัวเองกับหยอกล้อกับเพื่อนตัวเองไม่แคร์กันเลย!’ “ไหนลองลูบหน่อยสิคะคุณอีวาน” “พูดไร้สาระเนเรีย” อีวานกวาดสายตาไปมองทางขนมปังทันทีว่าเธอมีท่าทีอย่างไรกับคำพูดเนเรีย ขนมปังถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เขาก็รู้ได้เลยว่าเธอกำลังไม่พอใจ “ไร้สาระอะไร ความจริงทั้งนั้น” “คนต่อไปจะเป็นสาวชนชาติไหนล่ะคะคุณเพื่อน”
“ฉันไม่น่าหลับเลยเสียดายจัง” “น่าจะได้พูดคุยสนิทกับเพื่อน ๆ คุณให้มากกว่านี้ ไม่อยากโดนมองว่าทำลายบรรยากาศเลยค่ะ” “ไม่เป็นไร ไม่มีใครคิดแบบนั้นหรอกนะ และก็ยังเหลือเวลาให้ได้สนุกอีกหลายวัน” “จริงนะคะ..” “อืม อย่าคิดมาก” อีวานพูดปลอบใจเธอ เขากลัวเธอจะงอแงที่ตัวเองหลับไปทั้งที่ยังอยากสนุกต่อ “เธอรออาบน้ำต่อฉันละกัน” อีวานกำลังถอดเสื้อผ้าเตรียมไปอาบน้ำอีกรอบ พอเขาอาบเสร็จก็มารอเธอบนเตียง ส่วนเธอพออาบน้ำเสร็จเดินออกมาพร้อมผ้าขนหนูที่พันไว้รอบตัวแต่ไม่สามารถบดบังเนินหน้าอกใหญ่โตนั้นได้ “หนาวจังเลยค่ะ ขนาดเปิดน้ำอุ่นแล้วก็ไม่ช่วยเลย” “รู้ไหมมันมีวิธีทำให้หายหนาวอยู่นะ” อีวานปิดหนังสือที่อ่านรอเธอลง กวาดสายตามองเธอโดยเฉพาะหน้าอกที่เป็นจุดเด่นให้เขาวางสายตา “วิธีไหนคะ” อีวานลุกขึ้นเดินตรงไปหาเธอ ดึงร่างบางเข้ามาแนบชิดทำให้บริเวณเต้านมสวยแนบชิดติดกับหน้าอกแกร่งที่เปลือยเปล่าของมาเฟียหนุ่ม เขากระตุกผ้าขนหนูเธอออกจนมันหลุดไปอยู่ปลายเท้าร่างบาง “ทำอะไรคะ!” เธอมีอาการตกใจกับสิ่งที่อีวานทำนั่นคือการที่เขาใช้สองมือบีบก้นเธออย่างแรง “วิธีที่จะช่วยให้เธอหายหนาว” ‘ทำไมเธอ
อีวานยังคงไม่หยุดกลั่นแกล้งร่างบางที่นอนอยู่ใต้ร่างหนาของตน มาเฟียหนุ่มขยับแก่นกายตอกเข้าไปจนสุดโคนจนชนกับผนังมดลูกแล้วชักออกจนถึงปลายแล้วกระแทกลงไปอีกครั้ง“อื้อออ๊างง อ๊ะ อีวาน ก็บอกว่าหายหนาวแล้วไงคะ”“แต่ฉันยังหนาวอยู่เลย”“โกหก คนโกหก”“หื้ม โกหกอะไร”“ลองจับดูไหมว่าตัวฉันเย็น”“อีวาน!!”เขาดึงมือเธอขึ้นมาจับแก่นกายที่ดึงออกมาวางบนท้องเธอ มันทั้งอุ่นและแข็งสู้มือขนมปัง.. “เป็นไงเย็นไหม”“คนนิสัยไม่ดีหยุดทำเลยนะ ฉันจะนอนแล้ว” เธอดึงมือกลับแล้วใช้สองมือดันไปยังหน้าอกแกร่งที่โน้มเข้ามาอย่างใกล้ชิดแต่พอให้เธอจับแก่นกายเสร็จ เขาก็ยัดมันกลับเข้าไปในตัวเธออีกครั้งพรวดปัก!“อื้ออ!! อีวานหยุด”“ไม่อยากให้ทำต่อจริงเหรอ?”อีวานใช้แขนหนึ่งข้างยันกับเตียง ส่วนอีกมือเลื่อนมันลงไปใช้นิ้วเขี่ยติ่งเนื้อที่ทำให้เธอไม่อาจทนต้านทานไว้ เธอเหมือนจะเหลวละลายไปกับที่นอน มันมีความสุขมากทุกครั้งที่เขาสัมผัสติ่งสีชมพูของเธอ“อื้อ ไม่อยาก”“คิดดูอีกที”อีวานขยับแก่นกายเข้าออกช้า ๆ แต่เข้าสุดออกสุดทุกครั้ง แล้วยังมีการกระแทกท่อนเอ็นลงไปจนเนื้อกระทบกันจนเกิดเสียง“อีวาน อีวาน”เสียงหวานร้องครางกระเส่า แอ่
ร่างบางเกร็งตัวกระตุกปลดปล่อยน้ำในตัวเธอพุ่งกระจายสวนออกมาจากรูและแก่นกายที่ยังแทงสวนคาในรูสวาท จนน้ำนี่ไหลเต็มที่นอน เช่นเดียวกับน้ำเชื้อสีขาวอย่างดีที่ได้ปล่อยออกมาเต็มถุงยางอนามัยอีวานก้มไปดูดจุกนมสีชมพูหวาน อีกเต้าก็ไม่ปล่อยให้ว่างเขี่ยเล่นจนมันขึ้นเป็นไตแข็ง“รู้สึกไงบ้าง”“ความรู้สึกโล่งไปหมดเลยค่ะ..”อีวานชักแก่นกายออกจากดอกกุหลาบ ขนมปังนอนหายใจหอบเหนื่อยต่างจากเขาที่ยังคงกระปรี้กระเปร่าเริงร่า เขาดึงถุงยางเอาเก่าออกแล้วจัดการใส่ถุงยางอันใหม่เข้าไปในแก่นกายที่ยังแข็งชูชันพร้อมออกรบ“เดี๋ยวค่ะ”“?”เขาเดินกลับมาหาเธอแต่ยังไม่ทันที่จะได้ใส่แก่นกายใหญ่เข้าไปก็ต้องนั่งนิ่งบนเตียงเมื่อร่างบางลุกขึ้นนั่งลูบไล้หน้าอกแกร่งลากมือผ่านซิกแพคต่ำลงไปเรื่อย ๆ“สัมผัสฉันให้มากกว่านี้อีกได้ไหมคะ”“อยากให้ฉันสัมผัสเธอแบบไหนล่ะ หื้ม?”“ถอดมันออกได้ไหมคะ”“วันนี้วันปลอดภัย”เธอเลื่อนมือลงไปสัมผัสท่อนเอ็นที่ห่อหุ้มด้วยถุงยางอนามัยอย่างดี เธอลูบไล้มันขึ้นลง“อืมม.. มันเสี่ยงไป”พรึบ!ขนมปังผลักอีวานให้นอนราบลงไปกับที่นอน ส่วนตัวเองก็ขึ้นมานั่งทาบทับที่ตัวเขา“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันอยากได้ไออุ่นมากกว่านี
“เฮ้อ เหนื่อยอะ”ขนมปังฟุบหน้าลงทิ้งตัวนอนบนหน้าอกแกร่ง เสียงหายเธอหอบเหนื่อยอย่างคนที่ผ่านการวิ่งมาสิบห้านาทีแต่เปลี่ยนเป็นการทำให้เขากับเธอได้ปลดปล่อยความสุขทางกาย“แค่นี้เหนื่อยแล้ว?”“ค่ะ เหนื่อยแล้ว ฉันขอยอมแพ้ค่ะ”ระหว่างที่พูดก็ยังคงหายใจด้วยความเหนื่อยล้า ทำไมตอนเขาทำเธอไม่เห็นว่าอีวานจะบ่นออกมาเลยว่าเหนื่อยมากเลย เริ่มสงสัยแล้วว่ามาเฟียหนุ่มเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน เธอทำแค่เกร็งขาขยับขึ้นลงนี้ยังรู้สึกเหนื่อยจนหายใจแทบไม่ทัน“ยอมแพ้อย่างนี้ก็ต้องทำตามที่ฉันสั่งน่ะสิ”“ค่ะ สั่งมาเลย”แก่นกายใหญ่ไซซ์ 60 ยังคงเสียบคากระตุกหงึก ๆอยู่ด้านในสวดดอกไม้แสนสวยของขนมปัง อีวานลูบก้นงอนเนียนนุ่มบีบขย้ำเบา ๆ“แล้วคุณจะให้ฉันทำอะไรล่ะคะ”“ช่วยตัวเองให้ฉันดู ตอนนี้!”“คะ!!!”“ฉันได้ยินอะไรผิดไปหรือเปล่า”ขนมปังเงยหน้าขึ้นมามอง นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนเบิกกว้าง อยากให้สิ่งที่เธอได้ยินนั้นเป็นการเข้าใจผิด เพราะเขาเพิ่งพูดว่าให้เธอ ‘ช่วยตัวเองให้เขาดู’ ใช่ไหม“เธอได้ยินไม่ผิดหรอกเด็กดื้อ”“อีวาน..ฉัน”“เธอแพ้เองนะ จะไม่ก็ได้แต่เราก็ไม่มีเรื่องต้องคุยกันอีกก็เท่านั้น”“…” ขนมปังเม้มปากเข้ากันแน่นพร้อมหลบ
แกร๊ก ปึง! เสียงประตูบ้านเปิดออกแล้วปิดกระแทกอย่างแรงบ่งบอกว่าอารมณ์คนที่ปิดประตูนั้นกำลังอารมณ์เดือดแบบสุด ๆ ขนมปังที่นั่งเงียบ ๆ รออีวานอยู่ที่โซฟายังสะดุ้งจนหัวใจเต้นแรง แต่ก็พยายามเก็บอาการรีบเปลี่ยนสีหน้าที่ตกใจแสดงออกว่าบึ้งตึง ‘ฉันจะไม่ยอมพูดกับเขาก่อน’ ‘ไอ้คนเย็นชา’ ‘…!’ ผิดคาดจากที่ขนมปังคิดเอาไว้ว่าอีวานจะโวยวายเดินมาหาเรื่องหรือพูดเคลียร์เรื่องเลย์ตัน แต่สิ่งที่อีวานทำคือการเดินผ่านเธอไปโดยไม่มองหน้า เขาทำเหมือนเธอเป็นอากาศ… ขนมปังอึ้งไปเลยเพราะอีวานไม่เคยเมินเธอแบบนี้มาก่อน ขนมปังจึงรีบลุกเดินไปจับแขนอีวาน เขาเอียงหน้าหันกลับมามองสายตายังคงเฉยชาใส่เธอเหมือนเดิม ขนมปังขยับปากเล็กเอ่ยถาม “อีวาน” “มีอะไร” “คุณไม่ได้จะคุยกับฉันเหรอคะ” “ฉันบอกเหรอว่าจะคุย?” “ก็คุณบอกให้ฉันกลับมาที่บ้าน..” “ฉันคิดว่าคุณจะเคลียร์เรื่องที่เกิดขึ้น แล้วทำไมถึงได้เมินใส่กันล่ะคะ” เธอเม้มริมฝีปากลงแล้วคลายออกด้วยความสับสน ดวงตากลมโตสบตากับนัยน์ตาสีฟ้าน้ำทะเลแววตาของเขาฉายให้เห็นความเย็นชา “เธอพูดเองไม่ใช่เหรอว่าไม่มีเรื่องจะพูดกับฉันแล้ว งั้นก็ไม่จำเป็นต้องนั่งอธิบายอะ
“พาเธอออกไป!”“คะ..ครับ”บอดี้การ์ดเข้ามาจับแขนเล็กพยายามจะดึงให้คนที่เคารพดั่งนายหญิงพาเธอออกไปจากบ้านพักตากอากาศตามคำสั่งของนายท่าน ขนมปังขืนตัวไม่ไปตามแรงที่ดึงตัวเธอ ขนมปังหันกลับมาพูดทักท้วงอีกรอบ“อีวาน คุณจะเอาแบบนี้ใช่ไหมคะ?”“จะไม่ยอมฟังกันเลยใช่ไหมคะ?”“คิดว่าพูดในสถานการณ์ตอนนี้มันฟังขึ้นไหมล่ะ”“ฉันบอกให้ไปรอที่บ้าน”“ฉันไม่อยากพูดซ้ำประโยคเดิมหลายรอบขนมปัง”น้ำเสียงไร้ความอ่อนโยน นัยน์ตาสีฟ้าน้ำทะเลไม่สั่นคลอเลยแม้แต่เศษเสี้ยว“โอเค ได้ค่ะ”“ฉันทำได้แค่ต้องฟังแล้วก็ทำตามคำสั่งคุณเท่านั้นใช่ไหม”“ใช่ เธอควรฟังคำสั่งของฉัน”“งั้นขอบอกอะไรไว้อย่างหนึ่งค่ะ”“ถ้าคุณเลือกจะไม่ฟังกันแล้ว หลังจากนี้ฉันก็จะไม่พูดอะไรอีกแล้วค่ะ”ขนมปังมองไปที่อีวานด้วยแววตาน้อยใจ ส่วนอีวานกลับมองเธอด้วยสายตาเรียบเฉยแววตาที่ว่างเปล่าไม่บ่งบอกอารมณ์ความรู้สึกใด ๆ ออกมาเลย สายตาคู่นั้นเย็นชาราวกับน้ำแข็ง กำแพงที่เกือบถูกหลอมละลายกับถูกปกคลุมด้วยกำแพงเหล็กอันใหม่…ที่ดูแล้วจะทำลายยากกว่าเดิมอีก“ไม่ต้องจับ ฉันเดินเองได้ค่ะ”ขนมปังสะบัดตัวออกจากลูกน้องของอีวานแล้วหันหลังเดินออกไปรอเขาอยู่ที่บ้านพักตากอาก
เฮือก! พรึบ!“เชี่ย! กูฝันเหรอวะ..?!”อีวานสะดุ้งตัวตื่นขึ้นมาจากความฝัน แล้วดันเป็นฝันร้ายด้วยที่เกี่ยวกับขนมปัง… ครั้งแรกในหลายสิบปีเลยก็ว่าได้ที่เขาหลับแล้วฝัน หรือเพราะเขาป่วยเหรอถึงได้ฝันอะไรที่ไม่มีทางเกิดขึ้นจริง?!“น้ำตา?” อีวานลูบข้างแก้มตัวเองพบว่ามีน้ำตาเปียกอยู่ ทำให้เขาสับสนมากกว่าเดิม ไม่อยากเชื่อว่าเขาจะร้องไห้เพราะแค่ฝัน.. ความฝันแบบไหนกันนะที่ทำให้มาเฟียสะดุ้งตื่นได้มันคงเป็นความฝันที่กระทบจิตใจเขา ถึงทำให้คนที่แข็งแกร่งดังหินผาตกอยู่ในอาการตื่นตระหนก…“เชี่ยกูเป็นอะไรวะ”พลางนึกถึงสิ่งที่ทำให้เขาร้องไห้ได้ซึ่งในความฝันนั้นเป็นภาพที่มีคนพยายามทำร้ายขนมปังอย่างรุนแรง เหตุผลที่เขาตกใจจนตื่นเพราะเธอเสียชีวิตในอ้อมกอดของเขาโดยที่อีวานไม่สามารถช่วยหรือทำอะไรได้เลย…“มันไม่ใช่เรื่องจริง มึงก็แค่ฝัน”ใครมันจะกล้ามาทำร้ายผู้หญิงของอีวาน!! ใครอนุญาตให้แตะต้องเธอ คนเดียวที่สามารถทำอะไรเธอได้มีแค่เขาคนเดียวเท่านั้น!!!“ขนมปัง..”อีวานหันซ้ายหันขวามองหาผู้หญิงของตัวเองที่ยามนี้ไร้วี่แววของขนมปัง ผิดปกติมากที่เธอไม่นอนอยู่ข้างกายเขาหรืออยู่ในห้องนอน บรรยากาศในตอนนี้เงียบสงบเหมือน
เลย์ตันไม่สนใจเขาหันไปต่อยกำแพงต่อเต็มแรงกลายเป็นว่าเขาไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดใด ๆ เลยถึงแม้เลือดจะออกมาเยอะมาก พอได้เห็นเธออารมณ์น้อยเนื้อต่ำใจทวีคูณตอกย้ำว่าเขาคือคนขี้แพ้ ผู้หญิงที่เขาอยากได้อีวานก็เป็นคนที่ได้ “คุณเลย์ตันพอได้แล้วจะทำร้ายตัวเองไปทำไมคะ!!”เธอลุกขึ้นมาอีกครั้งสวมกอดจากด้านหลังพยายามดึงให้เขาถอยห่างด้วยแรงทั้งหมดที่มี เลย์ตันพยายามจะสะบัดเธอออก คราวนี้ขนมปังกอดติดแน่เหมือนกาว“ไม่! ปล่อยผม!”“ฉันขอร้องไปแล้วไม่ใช่เหรอว่าอย่ามีเรื่องชกต่อยอีกนี่อะไรยังไม่ทันผ่านวันเลยคุณก็เป็นแบบนี้อีกแล้ว”“คุณห้ามผมทะเลาะกับมัน ผมก็ไม่ทำ”“ตอนนี้ผมต่อยกำแพงไม่ได้ต่อยมันผมผิดอะไร”‘…จริงด้วยเขาไม่ได้มีเรื่องกับอีวาน…’“แล้วกำแพงห้องผิดอะไรคะคุณถึงไปชกเขาอยู่ได้”“ผมทำอะไรไม่ได้เลยใช่ไหมต่อยกำแพงก็ผิด งั้นให้ผมต่อยจนมือแตกตายไปเลยคุณไม่ต้องมาสนใจ”“เอาเวลานี้ไปสนใจไอ้อีวานเถอะครับ!”ขนมปังปล่อยมือออกจากตัวเลย์ตันวิธีนี้ใช้ไม่ได้ผลงั้นคงต้องลองวิธีนี้ดู‘ไหนว่าจะช่วยแค่ครั้งเดียวไงขนมปัง..’“หึ กลับไปเถอะแค่นี้ผมก็สมเพชตัวเองมากพอแล้ว”เขาแค่นหัวเราะให้กับชีวิตตัวเองเลย์ตันที่กำลังจะ
“ให้ไปช่วยหยุดใครนะคะ?”ขนมปังเอียงคอลงเล็กน้อยแล้วถามซ้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจว่าที่ฟังไปเมื่อครู่เธอไม่ได้ฟังผิดไปใช่ไหม“นายท่านเลย์ตันครับ คุณขนมปังช่วยหยุดไม่ให้เจ้านายผมทำร้ายตัวเองด้วยนะครับ” บอดี้การ์ดอีกคนที่มาด้วยเอ่ยบอกน้ำเสียงจริงจังใบหน้ากังวลสายตาก็สั่นไหวดูยังไงก็ไม่ใช่คำพูดของคนโกหก“มีเรื่องอะไรกันคะ แล้วทำไมถึงต้องเป็นฉันที่จะไปหยุดเขาล่ะคะ?”หมับ! “เอ๊ะ!”“ไม่มีเวลาแล้วครับ!”บ็อบบี้ถือวิสาสะยื่นมือออกไปคว้าข้อมือเล็กแล้วดึงลากให้เดินไปกับเขาจะต้องบอกว่ากิ่งวิ่งกิ่งเดินเร็วเสียมากกว่าพรึบ! ฟิ้วว!!“เฮ้ย! ทำไรวะ!”ฮาร์ทตะโกนออกมาสุดเสียงด้วยความตกใจเร็วกว่าสมองคือมือได้ยื่นออกไปหวังจะคว้าข้อมือหรือแขนนายหญิงแต่ช้ากว่าบ็อบบี้เขาจึงจับได้เพียงลมในอากาศ“คุณบ็อบบี้ใจเย็นก่อนค่ะฉันตามไม่ทันแล้ว”“ขอโทษนะครับที่ต้องทำแบบนี้มีแค่วิธีนี้เราถึงจะไปได้ทันนะครับ”บ็อบบี้เอ่ยขอโทษแต่ยังคงพาขนมปังออกตัววิ่งแบบที่เธอจะสับขาตามไม่ทันอยู่แล้ว กระทั่งวิ่งมาถึงประตูทางเข้าบ้านพักตากอากาศ บ็อบบี้ปล่อยมือขนมปังทรุดตัวลงไปนั่งคุกเข่าก้มหน้า“ทำอะไรคะ! ลุกขึ้นเดี๋ยวนี้เลยค่ะ”“ขอโทษนะค
ขนมปังหยิบกล่องปฐมพยาบาลเบื้องต้นขึ้นมาวางไว้ที่ตักตัวเองมือก็หยิบหาอุปกรณ์สำหรับเช็ดล้างทำความสะอาด เธอใช้สำลีชุบแอลกอฮอล์สำหรับล้างแผลเตรียมจะเช็ดลงบนใบหน้าให้อีวาน“คงจะเจ็บมากเลยใช่ไหมคะ”ขนมปังมองสำรวจบาดแผลมากมายบนใบหน้าที่เคยสะอาดสะอ้านแต่ตอนนี้กับสะบักสะบอม คิ้วแตก ปากแตก คางแตก และตามแก้มก็มีรอยฟกช้ำแดงบางอันก็เริ่มกลายเป็นสีม่วง ๆ ‘ต่อยกันเอาเป็นเอาตายเลยไหมเนี่ย’“มันคงไม่เจ็บเท่ากับที่เธอบอกว่าผิดหวังในตัวฉัน”“…”เธอนิ่งอึ้งไปพักหนึ่งหลังจากได้ยินคำพูดอีวาน ในเวลาปกติเขาไม่น่าจะเอ่ยอะไรแบบนี้ออกมาให้เธอได้ยิน เดาได้เลยว่าเขาเมาพันเปอร์เซ็นต์ ไวน์สองขวดว่างเปล่าถูกวางอยู่ข้างกายกลับกลิ่นหอมของไวน์ที่ออกมาเวลาที่เขาพูด“คุณอีวานรู้สึกเจ็บเป็นด้วยเหรอคะ”“คิดว่าเป็นคนที่ไม่มีความรู้สึกอะไรแล้วซะอีก”ขนมปังเอ่ยถามเชิงประชดพร้อมกับมือที่คอยเช็ดทำความสะอาดคราบเลือดบนใบหน้าเขาเมื่อทำความสะอาดคราบเลือดออกจนหมด ก็เริ่มหยิบหลอดยาบีบลงที่นิ้วแล้วทาให้เขาต่อ“ถ้าเป็นคนอื่นพูดก็คงไม่รู้สึกอะไร...”“แล้วฉันก็เป็นคนนะจะไม่มีความรู้สึกเลยได้ไง..”“อืม..แล้วฉันสำคัญกับคุณมากถึงขนาดที่มาแ
หมับ! หมับ!ร่างบางก้าวเท้าเดินเข้าไปหาสองหนุ่มยื่นมือทั้งสองข้างออกไปจับเสื้อเชิ้ตประมาณกระดุมเม็ดที่สามเพื่อให้พวกเขาหันกลับมามองยังเธอ ขนมปังออกแรงดึงกระชากให้เข้ามาใกล้แล้วเอ่ยคำสั่งสอนคล้ายคำขู่…“อย่าสร้างความวุ่นวายได้ไหมคะ?!”เสียงหวานเอ่ยอย่างเหนื่อยหน่ายกับพฤติกรรมของพวกเขา“ถ้าฉันรู้ว่าพวกคุณทะเลาะกันในระหว่างที่ฉันทำงาน แล้วให้คนพูดอะไรที่มันไม่เป็นความจริงอีก ฉันจะไม่อดทนกับคุณทั้งสองคนแล้วนะคะ”“…”“…”“จะอายุสามสิบกันอยู่แล้วไม่ใช่เหรอจะให้เด็กอายุยี่สิบสองมาคอยบอกคอยเตือนเหรอคะ?”แต่ละประโยคทำเอามาเฟียหนุ่มทั้งสองยืนหน้าเจื่อนอย่างกับว่าตัวจะหดเล็กลงเรื่อย ๆ ทุกครั้งที่เธอเอ่ยปากพูดตักเตือน“เป็นถึงประธานทั้งคู่ควรมีวุฒิภาวะมากกว่านี้หรือเปล่าคะ? แต่นี่อะไรเจอหน้ากันทีไรก็มาทะเลาะต่อยตีกันและยังทำต่อหน้าลูกน้องอีก”“…”“…”สองหนุ่มพี่น้องได้แต่ยืนนิ่งเงียบกริบไม่มีใครปริปากพูดสิ่งใด แค่ความคิดว่าจะเอ่ยต่อว่าเธอออกมายังไม่กล้า ‘ทำไมฉันถึงไม่กล้าพูดอะไรเลยวะ!’ เลย์ตันตั้งคำถามภายในใจ‘อีวาน มึงเป็นอะไรวะยอมเธอขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่..’ อีวานเองก็ตีกับความคิดความรู้สึกตั
หมับ! หมับ!ร่างบางก้าวเท้าเดินเข้าไปหาสองหนุ่มยื่นมือทั้งสองข้างออกไปจับเสื้อเชิ้ตประมาณกระดุมเม็ดที่สามเพื่อให้พวกเขาหันกลับมามองยังเธอ ขนมปังออกแรงดึงกระชากให้เข้ามาใกล้แล้วเอ่ยคำสั่งสอนคล้ายคำขู่…“อย่าสร้างความวุ่นวายได้ไหมคะ?!”เสียงหวานเอ่ยอย่างเหนื่อยหน่ายกับพฤติกรรมของพวกเขา“ถ้าฉันรู้ว่าพวกคุณทะเลาะกันในระหว่างที่ฉันทำงาน แล้วให้คนพูดอะไรที่มันไม่เป็นความจริงอีก ฉันจะไม่อดทนกับคุณทั้งสองคนแล้วนะคะ”“…”“…”“จะอายุสามสิบกันอยู่แล้วไม่ใช่เหรอจะให้เด็กอายุยี่สิบสองมาคอยบอกคอยเตือนเหรอคะ?”แต่ละประโยคทำเอามาเฟียหนุ่มทั้งสองยืนหน้าเจื่อนอย่างกับว่าตัวจะหดเล็กลงเรื่อย ๆ ทุกครั้งที่เธอเอ่ยปากพูดตักเตือน“เป็นถึงประธานทั้งคู่ควรมีวุฒิภาวะมากกว่านี้หรือเปล่าคะ? แต่นี่อะไรเจอหน้ากันทีไรก็มาทะเลาะต่อยตีกันและยังทำต่อหน้าลูกน้องอีก”“…”“…”สองหนุ่มพี่น้องได้แต่ยืนนิ่งเงียบกริบไม่มีใครปริปากพูดสิ่งใด แค่ความคิดว่าจะเอ่ยต่อว่าเธอออกมายังไม่กล้า ‘ทำไมฉันถึงไม่กล้าพูดอะไรเลยวะ!’ เลย์ตันตั้งคำถามภายในใจ‘อีวาน มึงเป็นอะไรวะยอมเธอขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่..’ อีวานเองก็ตีกับความคิดความรู้สึกตั