4.คนปากร้าย
•4•
คำถามเมื่อสักครู่ทำให้อีกฝ่ายนิ่งเงียบเชียบ แต่ยังเลือกตอบกลับแสดงท่าทางเฉยเมย เสมือนหุ่นยนต์ไร้ซึ่งอารมณ์เสียอย่างนั้น อีตานี่เขาก็ขี้เก๊กชะมัด! คิดว่าตัวเองหล่อราวกับเทพบุตรผู้ใจดีมาก จนฉันต้องหลงเสน่ห์หรือยังไงกันเนี่ย
ถึงแม้จะเป็นความจริงเรื่องใบหน้าหล่อคมเข้ม สามารถกระชากหัวใจสาวสวยมาขยี้เล่นได้ แต่ขอให้คิดว่าเว้นฉันเอาไว้สักคนเถอะค่ะ ใช้หนี้หมดเมื่อไหร่พร้อมบอกลาไร้ตั๋วกลับมาอีก ฉันสะดุ้งเฮือกหลุดจากสติอันเพ้อเจ้อ เพื่อตั้งใจฟังเขาพูดเกี่ยวกับใจความสำคัญ
"เธอต้องทำงานใช้หนี้จนกว่าจะหมด ไม่ต้องกลัวไปหรอกนะผมไม่ใช้งานคุณฟรีแน่ เงินเดือนเลขาเดือนละสามล้าน ทนทำไปสักหน่อยก็คืนยอดได้ครบแล้ว ผมให้มากกว่าลูกน้องคนอื่นอีกนะเนี่ย" ไคโรกล่าวด้วยน้ำเสียงดุดันพร้อมปรายหางตามอง หยิบกางเกงใส่จนเรียบร้อยเดินไปหยิบทิชชู ทำความสะอาดมือตนเองนั่งดูหน้าจอต่อราวกับไม่สนใจเธอสักนิด
"จะบ้าเหรอสามสิบหกล้านต่อปี ต้องทำงานตั้งยี่สิบกว่าปีนะ คุณตั้งใจให้ฉันขึ้นคานเลยเหรอ? ไม่สู้ให้ฉันกลับไปช่วยพ่อvายอวัยวะ ยังได้มากกว่ารายปีคุณอีกนะ อย่างน้อยมีอิสระได้เริ่มต้นชีวิตใหม่!" ทรายกล่าวด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราดโวยวายพร้อมทุบโต๊ะ หลังจากหยิบโทรศัพท์กดเปิดเครื่องคิดเลขคำนวณยอดสุทธิ
"เห็นผมใจดีกับคุณมากไปใช่ไหม? เก็บกระเป๋าแล้วเดินตามมา ไม่งั้นจะเอาไปฆ่าหมกป่าทิ้งเลย ปัญหาเยอะจริงรู้ฐานะตัวเองหรือเปล่า?" ไคโรกล่าวด้วยน้ำเสียงดุดันคิดข่มขู่ จนอีกคนหุบแขนเข้ามาแนบชิดลำตัว เกิดความหวาดกลัวเขาขึ้นมาอีกครั้ง รักษาชีวิตเป็นเรื่องสมควรทำแล้วค่ะตอนนี้!
ฉันหยิบกระเป๋าสะพายไหล่ เตรียมยืนรอเขาตามคำสั่ง เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นกะทันหันเขาขานตอบ ลูกบิดถูกหมุนด้วยฝ่ามือผู้มาใหม่ ใบหน้าหล่อเหลาแต่คงแอบกะล่อนไม่เบา ยิ้มแย้มตาแทบปิดมาให้ ก่อนจะทำหน้าตึงเครียดกับเจ้านาย
"เข้ามาเลยกูเสร็จแล้ว!" ไคโรกล่าวด้วยน้ำเสียงดุดัน โวยวายลั่นเพราะหงุดหงิดคนภายในห้องอยู่ชอบขัดใจเขาตลอดเวลา
"งานที่สั่งอยู่ในซองนี้หมดแล้วครับบอส!" น้ำเสียงเคร่งขรึมกล่าวออกมา เขารับมาเปิดอ่านโดยละเอียดสักครู่หนึ่ง ก่อนกระตุกยิ้มมุมปาก ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องน่ายินดีอะไรกันแน่
"มาเฝ้าจอเลยกูเหนื่อยแล้ว! ลืมแนะนำเธอเป็นเลขาคนใหม่ ต้องอยู่ใช้หนี้อีกนานรู้จักกันไว้สิ หากมีงานอะไรก็มาส่งมอบให้เธอเข้าใจไหม?" ไคโรกล่าวด้วยน้ำเสียงดุดันเอื้อมมือตีไหล่ลูกน้องคนสนิท
"ผมโซ่นะครับเป็นมือขวาบอสเอง! ฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ ดีจริงคุณชื่ออะไรเหรอครับคนสวย?" กล่าวเสียงอ่อนเสียงหวานเมื่อเจอคนสวยเข้า ไอ้นี่เห็นผู้หญิงไม่ได้กระดี๊กระด๊าตลอด มันอายุเท่ากับผมจึงเหมือนเพื่อนสนิทกันมากกว่า แต่การทำงานมันถือว่าเคร่งครัดพอสมควรเลย ผมจึงแอบใจดีกับมันในบรรดาลูกน้องคนสนิทบ่อย มันคงจะลืมตัวไปแล้วมั้งครับเนี่ย หึ~
"ชื่อทราย! เลขาคนใหม่กูครับเบาหน่อยเถอะมึง!" ไคโรกล่าวด้วยน้ำเสียงดุดันโวยวายลั่น พร้อมเดินไปจูงมืออีกคนลากออกจากห้องทันที เมื่อรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมากะทันหัน ที่ลูกน้องเตรียมตัวพร้อมคอยแทะเล็ม จะรองาบเธอกินตลอดเวลา ซึ่งคนโดนโวยวายก็แอบอมยิ้มหวาน เพราะได้แกล้งเจ้านายสำเร็จสักครั้งในช่วงชีวิตนี้
รถยนต์สุดหรูขับออกมาได้ไม่นาน ก็หยุดจอดอยู่หน้าคฤหาสน์มันช่างมโหฬาร มีหลังใหญ่สุดอย่างอลังการอยู่ตรงกลาง อีกสองหลังด้านซ้ายและขวาเป็นฝั่งตรงข้ามกัน มันช่างเหมาะสำหรับเจ้าของกาสิโน เขาขับเลี้ยวพวงมาลัยจอดโซนบ้านฝั่งซ้าย ลงจากรถยนต์มายืนนิ่งงันรอเพียงไม่นาน พอเขากดกุญแจล็อกเดินนำเข้าบ้าน โดยมีฉันตามอยู่ด้านหลังไม่ห่าง พาขึ้นบันไดมายังบริเวณชั้นสอง
"อยู่ห้องนี้ไปละกัน! มีอะไรจะเรียกอย่าพรวดพราดเดินซน ที่นี่คนเฝ้าด้านนอกเยอะหากคิดว่าเป็นโจร คงได้จบชีวิตอันน้อยนิดของเธอลงแน่! อย่าได้เฝ้าถึงอิสรภาพเลยนะ ผมจะฝังกระดูกคุณเป็นอย่างดีไม่ต้องกังวล หากคิดดื้อรั้นไม่สนใจที่ผมพูด เลือกเอาเองนะครับ! อย่างน้อยได้ประหยัดค่าอาหารค่าไฟลงบ้าง หึ~" ไคโรกล่าวด้วยน้ำเสียงดุดันเชิงข่มขู่ จนเธอได้แต่พยักหน้ารับเข้าใจอย่างเชื่อฟัง หล่อรวยแต่ขี้เหนียวให้ตายเถอะ! พอแยกย้ายเข้าห้องหลับพักผ่อนได้ไม่นาน ก็ต้องสะดุ้งตื่นประตูห้องถูกเคาะโครมคราม คิดจะก่อกวนกันหรือยังไงเนี่ย เขามันน่าโมโหจริงเลย!
"มีอะไรของนาย?" ทรายกล่าวด้วยซุ่มเสียงไพเราะเสนาะหู ขมวดคิ้วเรียงสวยชนกัน แหงนหน้าขึ้นมองคนเจ้าปัญหาทันที กล้ามาขัดจังหวะการหลับใหลของฉัน
"ผมนอนไม่หลับไปนั่งดื่มเป็นเพื่อนหน่อย!" ไคโรกล่าวด้วยน้ำเสียงดุดัน พร้อมแสดงหน้านิ่วคิ้วดกหนาขมวดชนกัน
"มันก็ได้อยู่แต่โอทีล้านห้าต่อชั่วโมงนะ!" ทรายกล่าวด้วยซุ่มเสียงไพเราะเสนาะหูคิดต่อรอง ซึ่งอีกคนไม่ตอบอะไรกลับ แต่เลือกเอื้อมมือลากแขนเรียวเล็ก ให้มานั่งบนโซฟาหนังราคาแพง ภายในห้องนั่งเล่นก่อนจะเปิดปากพูดออกมา
"หน้าเลือดไม่เบาเลยนะ!" ไคโรกล่าวค่อนแคะพอได้ยินเข้าควันแทบออกหู
"ค่าจ้างรายเดือนมันน้อยเกินช่วยไม่ได้ค่ะ! ใครอยากจะทำงานจนแก่ชรากัน ไม่อยากจะขึ้นคาน เพราะต้องใช้หนี้คุณทั้งชีวิตหรอกค่ะ" ทรายกล่าวด้วยซุ่มเสียงไพเราะเสนาะหู ยกแก้วเหล้าดื่มเพราะหงุดหงิดเขา กวนคนอื่นไม่ให้นอนยังจะพูดจาน่ารำคาญอีก จะอดทนอยู่กับคนปากร้ายอย่างเขา ได้นานแค่ไหนกันเชียวนะ
"อยู่กับผมลำบากใจกว่าไอ้เวรนั่นเหรอ อีกอย่างถ้าคุณขึ้นคานก็ดีจะตายไป หากถึงเวลานั้นแล้วจริงๆ จะได้รู้จักหัดเอาใจเจ้าหนี้อย่างผมบ้าง หึ~" ไคโรกล่าวด้วยน้ำเสียงดุดันแสดงหน้าตาเย็นชา ซึ่งฉันอ่านใจเขาไม่ออกเลยด้วยซ้ำ เขากำลังคิดสิ่งใดอยู่กันแน่ ถึงได้มาพูดจาไร้สาระตั้งมากมาย
"เลิกพูดถึงไอ้คนพรรค์นั้นสักทีเถอะ หากยังพูดจิกกัดกันอีก จะกลับไปนอนแล้วนะคะ แม้จะเป็นลูกหนี้แต่คุณก็ไม่สมควร ทำให้ฉันอึดอัดใจหรือเปล่าคะ เพราะฉันก็ไม่ได้คิดหนีเลย ยินดีรับผิดชอบให้ทั้งหมด" ทรายเผลอกระแทกเสียงใส่อย่างลืมตัว เมื่อต้องพูดถึงตัวก่อปัญหาของเรื่องนี้
"ถามนิดหน่อยโมโหขนาดนี้เชียว ลืมว่าตัวเองเป็นเด็กขัดดอกอยู่หรือเปล่าเนี่ย เธอนี่มันไม่กลัวตายเลยนะ ด่าฉอดๆ ราวกับเป็นแม่ค้าปากตลาด" เขาเลิกคิ้วถามอย่างกวนอารมณ์เชิงข่มขู่ ฉันได้แต่สะดุ้งโหยงขนลุกซู่ทันที
"ขอโทษค่ะแค่นึกถึงแล้วโมโห!" ทรายกล่าวด้วยซุ่มเสียงไพเราะเสนาะหู กระดกเหล้าดื่มต่อเขาแอบกระตุกยิ้มร้ายกาจ เมื่อการยั่วยุหลอกลวงเธอออกมานั่งพูดคุยได้สำเร็จตามเป้าหมายตนเอง
นั่งดื่มไปสักพักใหญ่ สาวสวยใบหน้าเริ่มแดงก่ำ สายตาหยาดเยิ้มพร้อมรอยยิ้มแสนหวาน ชวนชนแก้วราวกับนั่งระบายความอึดอัดใจ เขาก็แอบมอง ข่มอารมณ์ตัวเองไม่ให้รู้สึกอะไร แม้ว่าเสน่ห์เธอในยามนี้จะดึงดูดเขามากก็ตาม สั่งให้ออกมาดื่มเหล้าเป็นเพื่อน แค่ไม่อยากให้เธอรู้สึกอึดอัดราวกับถูกบังคับ จนสามารถสร้างเรื่องวุ่นวายภายในอนาคต ประมาณว่าผมอยากอยู่กันแบบสงบสุข
"คุณรู้ไหมคะ? หน้าตาของคุณหล่อมากเลยนะคะ เสียดายตรงแค่ปากหมาเกินไปหน่อย! ถ้าพูดจาดีมากกว่านี้ ฉันอาจจะตกหลุมรักคุณสักวันหนึ่งก็ได้นะ แต่ก็พูดตลกให้ฟังอย่าไปคิดมากนะฮ่าๆ หากคุณขาดสติทำอะไรฉันขึ้นมา แบบไอ้สารเลวนั่นฉันคงร้องไห้แน่เลยค่ะ" ทรายใช้เสียงอู้อี้กล่าวเพ้อเจ้อ ซึ่งคนได้ฟังก็แอบอมยิ้มตาม เขาหันใบหน้าตั้งใจสบตาเธออย่างจงใจ ขยับตัวให้แผ่นหลังแนบชิดพิงผนังโซฟาหรู ยกมือข้างหนึ่งค้ำคางเอาไว้ เมื่อรู้สึกว่าเมื่อยเกินก่อนจะพูดให้เธอฟัง
"อย่ากลัวเลยนะ ผมไม่ทำร้ายผู้หญิงหรอกครับ! เต็มที่ผมก็แค่ล่วงเกินเล็กน้อยเท่านั้นแหละ หึ~" ไคโรกล่าวด้วยน้ำเสียงดุดันให้คนไม่ได้สติฟัง
แต่เหมือนการสื่อสารจะไม่เข้าหูเลย เมื่อคนด้านข้างสัปหงกโยกเยกทรงตัวไม่อยู่ ก่อนจะล้มลงเอาใบหน้าสวยแอบอิงแผงหน้าอกแกร่ง เนื่องจากเป็นช่วง อากาศหนาวเย็นจัดพอสมควร เธอสอดแขนเรียวโอบกอดคนตัวโตเอาไว้แน่น!
เขาทำได้เพียงสงบสติอารมณ์ไม่ให้คิดฟุ้งซ่านอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขนแกร่ง ก้าวเดินเอื้อมมือเปิดประตูห้อง วางเธอนอนบนเตียงและห่มผ้าให้เป็นอย่างดี ก่อนจะออกจากห้องเธอไป ส่วนอีกคนแอบอมยิ้มหวาน ก่อเกิดความรู้สึกดีๆ เมื่อไม่ถูกเขาเอาเปรียบเลยสักนิดเดียว ใครจะคิดว่าเขาจะเป็นสุภาพบุรุษขนาดนี้ได้กัน
5.แม่ศรีเรือนตัวจริง•5•ลุกขึ้นวิ่งเตรียมอาบน้ำแต่งตัว ด้วยความเร็วสูงราวกับเข้าค่ายทางโรงเรียน เพราะเสียงของใครอีกคน เคาะประตูก่อกวนอย่างไม่เลิกรา ทั้งที่เมื่อคืนก็มาปลุกคนอื่น เพื่อแหกตานั่งดื่มเหล้าเป็นเพื่อนเขา ตั้งนานหลายชั่วโมงเลย ยังมีหน้าพูดจาข่มขู่ฉันอีกด้วย หากคิดถ่วงเวลาจะหักเงินเดือน ซึ่งที่เขาให้นั้นมันก็น้อยอยู่แล้ว ยังคิดแกล้งกันดูตาบ้านี่เถอะแม้อยากโวยวายแต่ก็ต้องสงบเสงี่ยมเจียมตัว หากเผลอทำเขาสติหลุด จนเผลออยากฆ่าฉันขึ้นมาจะทำอย่างไรได้ล่ะ พ่อก็ยังไม่รู้ว่าฉันตกระกำลำบาก อยู่แห่งหนไหน ชีวิตนี้ใครจะมาช่วยฉันกัน ประเด็นที่สำคัญอยู่ต่างประเทศอีกด้วย ไร้คนให้พึ่งพาอาศัย ไม่รู้จะได้เจอคุณคนนั้นที่ประเทศนี้ไหม? เฮ้อ~"เมื่อคืนนอนไม่อิ่มเหรอ หลับอย่างกับคนซ้อมตาย ลืมไปแล้วมั้งว่าต้องทำงานใช้หนี้ ไม่ได้มาพักกินเที่ยวอยู่ฟรีหรอกนะครับคุณ ไปชงกาแฟมาให้หน่อยครับ ทำอาหารด้วยนะวันนี้อยู่บ้าน เสร็จแล้วไปล้างรถยนต์ที่จอดอยู่หน้าบ้าน ช่วงมืดมีคุยธุรกิจข้างนอกด้วย ทุกอย่างต้องเสร็จก่อนสองทุ่ม!" ไคโรกล่าวด้วยน้ำเสียงดุดันโวยวายลั่น หลังจากยืนกอดอกพิงกำแพง ซึ่งเขายืนรอเธออยู่เป็นนานสอ
1.คนเจ้าเล่ห์•1•กาสิโนCRเบอร์โทรศัพท์จากต่างประเทศโทรเข้ามา คิ้วดกหนาขมวดชนกันเป็นปมก่อนจะกดรับสาย แม้จะอารมณ์เสียแค่ไหนก็ต้องสนใจ เพราะให้ลูกน้องคอยแอบสอดส่องน้องชายอยู่'โทรมาบ่อยจริงมีเรื่องอะไรนักหนาวะที่นั่นน่ะ' น้ำเสียงดุดันกล่าวโวยวาย'เกิดเรื่องไม่ดีขึ้นครับนายหญิงรองเธอหายตัวไป ตอนนี้ท่านโคล่าตามหาให้ควั่กเลยครับ ไม่รู้เป็นฝีมือจากแก๊งไหนกันแน่ครับบอส' น้ำเสียงเคร่งขรึมกล่าวรายงาน'แอบคอยสังเกตการณ์อยู่ห่างๆ หากเกิดเรื่องอะไรไม่ดีรายงานมาเลย ถ้าหนักหนามากมึงก็เข้าไปช่วยไอ้โคล่าด้วย แต่ถ้าปัญหาจัดการได้ก็ไม่ต้องสอดมือยุ่ง ปล่อยให้มันเดินด้วยขาของมันเอง หากไม่มีใครอยู่มันจะได้ดูแลตัวเองได้ ส่วนแก๊งจระเข้ก็เป็นบททดสอบที่ดี กระตุ้นให้มันรู้จักปรับตัวคงไม่ดุเดือดเท่าไหร่ เออภายในแก๊งสิงโตช่วงนี้ มันแอบทำอะไรลับหลังกันอยู่หรือเปล่า แลดูมันเงียบสงบเสียเหลือเกิน' น้ำเสียงดุดันกล่าวถาม'เงียบผิดปกติจริงครับ คนแฝงตัวจากทางเราก็ไม่โผล่มาเลย หรืออาจจะโดนสั่งเก็บไปแล้ว' น้ำเสียงเคร่งขรึมกล่าวรายงาน'ไปสืบมาแค่นี้แหละ' น้ำเสียงดุดันกล่าวพร้อมกดตัดสายสายตาคมกริบดุจนกเหยี่ยวนั่งเท้าคางอย
2.หาทางหนีเขา•2•เมื่อสถานการณ์กำลังจะเริ่มตึงเครียด คนไร้มารยาทจึงเอ่ยปากอย่างคนหงุดหงิด เมื่อเห็นพฤติกรรมดื้อดึงของผู้หญิงด้านข้าง"นั่งลงสิวะอีโง่! อยากตายโหงนักเหรอ?" มันตะคอกใส่เสียงดังลั่นเพื่อจะหยุดยั้งเธอ อีกคนจึงต้องกลับมานั่งลงทำหน้าตาบูดบึ้ง ราวกับถูกบังคับให้มาด้วยตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ถึงขั้นอารมณ์เสียอย่างรุนแรง กอดอกอย่างไม่พอใจ ความอดทนต่ำจริงผู้หญิงคนนี้ แถมยังแอบดื้อเงียบเอาเรื่องใช่เล่นเลย หึ~แต่คนที่ยังสนุกสนานมองเหยื่อตาไม่กะพริบ เขากลับแอบกระตุกยิ้มร้ายกาจชอบใจ ซึ่งไม่มีใครทันสังเกตเห็น ไพ่ถูกสับก่อนจะแจกให้ผู้เล่น อีกฝ่ายเมื่อเห็นแต้มบนมือ ถึงกับมีเหงื่อผุดเต็มใบหน้า ขอเรียกไพ่ใบใหม่เพิ่ม คล้ายจะใจชื้นขึ้นมาหน่อยสายตาคมกริบดุจนกเหยี่ยว นิ่งสงบสยบความเคลื่อนไหว ไร้ซึ่งอาการดีใจเสียด้วยซ้ำ เขาไม่จำเป็นหงายไพ่ก็เห็นแต้มบนฝ่ามือแล้ว เพราะแหวนสีเงินที่นิ้วเรียว มันสะท้อนราวกับเป็นกระจกใสจนเด่นชัดหึ! เหนือกว่ากูมีแค่ผีเท่านั้นแหละ คิดอยู่ภายในสมอง แต่ดวงตายังจ้องเหยื่อไม่กะพริบ แม้ไพ่นี้จะต้องใช้ดวงเป็นพิเศษ แต่ก็ใช่ว่าจะโกงกันไม่ได้ เพราะมันอยู่ที่คนสับไพ่ต่างหาก เม
3.หนีไม่รอด•3•สายตาคมกริบจ้องเขม็ง คิ้วดกหนาผูกขมวดคล้ายปมเงื่อนชนเข้าหากัน ราวกับว่าโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เขาฉกฉวยขวดสเปรย์พริกไทยจากมือฉัน ขว้างทิ้งลงบนพื้นกระเบื้องอย่างหงุดหงิด ก่อนจะเอื้อมแขนยาวมาใกล้ ใช้ฝ่ามือบีบช่วงหัวไหล่เอาไว้แน่นถนัด กระชากอย่างรุนแรงพร้อมเขย่าเรือนร่างจนสั่นคลอนฉันรีบเม้มริมฝีปากตนอย่างอดกลั้น แอบรู้สึกเจ็บแปล๊บขึ้นมากะทันหัน หัวใจกระตุกวูบวาบจนตัวเบาโหวงเหวง ความกลัวที่มีต่อเขายิ่งเพิ่มทวีคูณ แต่เมื่อคิดย้อนดูแล้ว หากเป็นคนที่ทำให้อิฐหวาดกลัวได้ เขาย่อมต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน ฉุกคิดเพียงไม่นานสมองอันน้อยนิดคล้ายจะพร่าเลือนเต็มทน แต่กลับต้องตื่นจากภวังค์ เมื่อได้ยินเขาโวยวายใส่เสียงก้องกังวาน"แสบจริงนะเรื่องบนเตียงจะแสบแบบนี้ไหม?" น้ำเสียงดุดันกล่าว ยกคนสวยพาดบนไหล่กว้าง แบกเธอเดินขึ้นไปห้องทำงานตนเอง ด้วยความว่องไวกลัวจะสร้างความไม่สงบเพิ่ม อีกคนพยายามดิ้นรน แต่ก็เหมือนทำอะไรไม่ได้มาก ราวกับแรงทุบเป็นเพียงแค่แรงสะกิดเท่านั้น สำหรับคนร่างกายแข็งแกร่ง ดุจกำแพงหินผานี้"ปล่อยนะไอ้บ้า! โอ๊ย~" น้ำเสียงเกรี้ยวกราดโวยวาย แต่ต้องร้องเจ็บปวดแทน เธอถูกโยนลงใส่บนโซฟ
5.แม่ศรีเรือนตัวจริง•5•ลุกขึ้นวิ่งเตรียมอาบน้ำแต่งตัว ด้วยความเร็วสูงราวกับเข้าค่ายทางโรงเรียน เพราะเสียงของใครอีกคน เคาะประตูก่อกวนอย่างไม่เลิกรา ทั้งที่เมื่อคืนก็มาปลุกคนอื่น เพื่อแหกตานั่งดื่มเหล้าเป็นเพื่อนเขา ตั้งนานหลายชั่วโมงเลย ยังมีหน้าพูดจาข่มขู่ฉันอีกด้วย หากคิดถ่วงเวลาจะหักเงินเดือน ซึ่งที่เขาให้นั้นมันก็น้อยอยู่แล้ว ยังคิดแกล้งกันดูตาบ้านี่เถอะแม้อยากโวยวายแต่ก็ต้องสงบเสงี่ยมเจียมตัว หากเผลอทำเขาสติหลุด จนเผลออยากฆ่าฉันขึ้นมาจะทำอย่างไรได้ล่ะ พ่อก็ยังไม่รู้ว่าฉันตกระกำลำบาก อยู่แห่งหนไหน ชีวิตนี้ใครจะมาช่วยฉันกัน ประเด็นที่สำคัญอยู่ต่างประเทศอีกด้วย ไร้คนให้พึ่งพาอาศัย ไม่รู้จะได้เจอคุณคนนั้นที่ประเทศนี้ไหม? เฮ้อ~"เมื่อคืนนอนไม่อิ่มเหรอ หลับอย่างกับคนซ้อมตาย ลืมไปแล้วมั้งว่าต้องทำงานใช้หนี้ ไม่ได้มาพักกินเที่ยวอยู่ฟรีหรอกนะครับคุณ ไปชงกาแฟมาให้หน่อยครับ ทำอาหารด้วยนะวันนี้อยู่บ้าน เสร็จแล้วไปล้างรถยนต์ที่จอดอยู่หน้าบ้าน ช่วงมืดมีคุยธุรกิจข้างนอกด้วย ทุกอย่างต้องเสร็จก่อนสองทุ่ม!" ไคโรกล่าวด้วยน้ำเสียงดุดันโวยวายลั่น หลังจากยืนกอดอกพิงกำแพง ซึ่งเขายืนรอเธออยู่เป็นนานสอ
4.คนปากร้าย•4•คำถามเมื่อสักครู่ทำให้อีกฝ่ายนิ่งเงียบเชียบ แต่ยังเลือกตอบกลับแสดงท่าทางเฉยเมย เสมือนหุ่นยนต์ไร้ซึ่งอารมณ์เสียอย่างนั้น อีตานี่เขาก็ขี้เก๊กชะมัด! คิดว่าตัวเองหล่อราวกับเทพบุตรผู้ใจดีมาก จนฉันต้องหลงเสน่ห์หรือยังไงกันเนี่ยถึงแม้จะเป็นความจริงเรื่องใบหน้าหล่อคมเข้ม สามารถกระชากหัวใจสาวสวยมาขยี้เล่นได้ แต่ขอให้คิดว่าเว้นฉันเอาไว้สักคนเถอะค่ะ ใช้หนี้หมดเมื่อไหร่พร้อมบอกลาไร้ตั๋วกลับมาอีก ฉันสะดุ้งเฮือกหลุดจากสติอันเพ้อเจ้อ เพื่อตั้งใจฟังเขาพูดเกี่ยวกับใจความสำคัญ"เธอต้องทำงานใช้หนี้จนกว่าจะหมด ไม่ต้องกลัวไปหรอกนะผมไม่ใช้งานคุณฟรีแน่ เงินเดือนเลขาเดือนละสามล้าน ทนทำไปสักหน่อยก็คืนยอดได้ครบแล้ว ผมให้มากกว่าลูกน้องคนอื่นอีกนะเนี่ย" ไคโรกล่าวด้วยน้ำเสียงดุดันพร้อมปรายหางตามอง หยิบกางเกงใส่จนเรียบร้อยเดินไปหยิบทิชชู ทำความสะอาดมือตนเองนั่งดูหน้าจอต่อราวกับไม่สนใจเธอสักนิด"จะบ้าเหรอสามสิบหกล้านต่อปี ต้องทำงานตั้งยี่สิบกว่าปีนะ คุณตั้งใจให้ฉันขึ้นคานเลยเหรอ? ไม่สู้ให้ฉันกลับไปช่วยพ่อvายอวัยวะ ยังได้มากกว่ารายปีคุณอีกนะ อย่างน้อยมีอิสระได้เริ่มต้นชีวิตใหม่!" ทรายกล่าวด้วยน้ำเสี
3.หนีไม่รอด•3•สายตาคมกริบจ้องเขม็ง คิ้วดกหนาผูกขมวดคล้ายปมเงื่อนชนเข้าหากัน ราวกับว่าโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เขาฉกฉวยขวดสเปรย์พริกไทยจากมือฉัน ขว้างทิ้งลงบนพื้นกระเบื้องอย่างหงุดหงิด ก่อนจะเอื้อมแขนยาวมาใกล้ ใช้ฝ่ามือบีบช่วงหัวไหล่เอาไว้แน่นถนัด กระชากอย่างรุนแรงพร้อมเขย่าเรือนร่างจนสั่นคลอนฉันรีบเม้มริมฝีปากตนอย่างอดกลั้น แอบรู้สึกเจ็บแปล๊บขึ้นมากะทันหัน หัวใจกระตุกวูบวาบจนตัวเบาโหวงเหวง ความกลัวที่มีต่อเขายิ่งเพิ่มทวีคูณ แต่เมื่อคิดย้อนดูแล้ว หากเป็นคนที่ทำให้อิฐหวาดกลัวได้ เขาย่อมต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน ฉุกคิดเพียงไม่นานสมองอันน้อยนิดคล้ายจะพร่าเลือนเต็มทน แต่กลับต้องตื่นจากภวังค์ เมื่อได้ยินเขาโวยวายใส่เสียงก้องกังวาน"แสบจริงนะเรื่องบนเตียงจะแสบแบบนี้ไหม?" น้ำเสียงดุดันกล่าว ยกคนสวยพาดบนไหล่กว้าง แบกเธอเดินขึ้นไปห้องทำงานตนเอง ด้วยความว่องไวกลัวจะสร้างความไม่สงบเพิ่ม อีกคนพยายามดิ้นรน แต่ก็เหมือนทำอะไรไม่ได้มาก ราวกับแรงทุบเป็นเพียงแค่แรงสะกิดเท่านั้น สำหรับคนร่างกายแข็งแกร่ง ดุจกำแพงหินผานี้"ปล่อยนะไอ้บ้า! โอ๊ย~" น้ำเสียงเกรี้ยวกราดโวยวาย แต่ต้องร้องเจ็บปวดแทน เธอถูกโยนลงใส่บนโซฟ
2.หาทางหนีเขา•2•เมื่อสถานการณ์กำลังจะเริ่มตึงเครียด คนไร้มารยาทจึงเอ่ยปากอย่างคนหงุดหงิด เมื่อเห็นพฤติกรรมดื้อดึงของผู้หญิงด้านข้าง"นั่งลงสิวะอีโง่! อยากตายโหงนักเหรอ?" มันตะคอกใส่เสียงดังลั่นเพื่อจะหยุดยั้งเธอ อีกคนจึงต้องกลับมานั่งลงทำหน้าตาบูดบึ้ง ราวกับถูกบังคับให้มาด้วยตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ถึงขั้นอารมณ์เสียอย่างรุนแรง กอดอกอย่างไม่พอใจ ความอดทนต่ำจริงผู้หญิงคนนี้ แถมยังแอบดื้อเงียบเอาเรื่องใช่เล่นเลย หึ~แต่คนที่ยังสนุกสนานมองเหยื่อตาไม่กะพริบ เขากลับแอบกระตุกยิ้มร้ายกาจชอบใจ ซึ่งไม่มีใครทันสังเกตเห็น ไพ่ถูกสับก่อนจะแจกให้ผู้เล่น อีกฝ่ายเมื่อเห็นแต้มบนมือ ถึงกับมีเหงื่อผุดเต็มใบหน้า ขอเรียกไพ่ใบใหม่เพิ่ม คล้ายจะใจชื้นขึ้นมาหน่อยสายตาคมกริบดุจนกเหยี่ยว นิ่งสงบสยบความเคลื่อนไหว ไร้ซึ่งอาการดีใจเสียด้วยซ้ำ เขาไม่จำเป็นหงายไพ่ก็เห็นแต้มบนฝ่ามือแล้ว เพราะแหวนสีเงินที่นิ้วเรียว มันสะท้อนราวกับเป็นกระจกใสจนเด่นชัดหึ! เหนือกว่ากูมีแค่ผีเท่านั้นแหละ คิดอยู่ภายในสมอง แต่ดวงตายังจ้องเหยื่อไม่กะพริบ แม้ไพ่นี้จะต้องใช้ดวงเป็นพิเศษ แต่ก็ใช่ว่าจะโกงกันไม่ได้ เพราะมันอยู่ที่คนสับไพ่ต่างหาก เม
1.คนเจ้าเล่ห์•1•กาสิโนCRเบอร์โทรศัพท์จากต่างประเทศโทรเข้ามา คิ้วดกหนาขมวดชนกันเป็นปมก่อนจะกดรับสาย แม้จะอารมณ์เสียแค่ไหนก็ต้องสนใจ เพราะให้ลูกน้องคอยแอบสอดส่องน้องชายอยู่'โทรมาบ่อยจริงมีเรื่องอะไรนักหนาวะที่นั่นน่ะ' น้ำเสียงดุดันกล่าวโวยวาย'เกิดเรื่องไม่ดีขึ้นครับนายหญิงรองเธอหายตัวไป ตอนนี้ท่านโคล่าตามหาให้ควั่กเลยครับ ไม่รู้เป็นฝีมือจากแก๊งไหนกันแน่ครับบอส' น้ำเสียงเคร่งขรึมกล่าวรายงาน'แอบคอยสังเกตการณ์อยู่ห่างๆ หากเกิดเรื่องอะไรไม่ดีรายงานมาเลย ถ้าหนักหนามากมึงก็เข้าไปช่วยไอ้โคล่าด้วย แต่ถ้าปัญหาจัดการได้ก็ไม่ต้องสอดมือยุ่ง ปล่อยให้มันเดินด้วยขาของมันเอง หากไม่มีใครอยู่มันจะได้ดูแลตัวเองได้ ส่วนแก๊งจระเข้ก็เป็นบททดสอบที่ดี กระตุ้นให้มันรู้จักปรับตัวคงไม่ดุเดือดเท่าไหร่ เออภายในแก๊งสิงโตช่วงนี้ มันแอบทำอะไรลับหลังกันอยู่หรือเปล่า แลดูมันเงียบสงบเสียเหลือเกิน' น้ำเสียงดุดันกล่าวถาม'เงียบผิดปกติจริงครับ คนแฝงตัวจากทางเราก็ไม่โผล่มาเลย หรืออาจจะโดนสั่งเก็บไปแล้ว' น้ำเสียงเคร่งขรึมกล่าวรายงาน'ไปสืบมาแค่นี้แหละ' น้ำเสียงดุดันกล่าวพร้อมกดตัดสายสายตาคมกริบดุจนกเหยี่ยวนั่งเท้าคางอย